Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 336 เสี่ยวไป์ผู้ทรงเสน่ห์
ตอนที่ 336 เสี่ยวไป์ผู้ทรงเสน่ห์
จุหยานกล่าวเสียงเบา “พี่ใหญ่หมายถึง…?”
ซีเมื่นหยิ่งพยักหน้าและกล่าว “ตรวจสอบตัวตนของคนผู้นี้ ข้าต้องการเขา”
ขณะที่เซียวเฉินอุ่มเสี่ยวไปักลับมา,เขาทนทุกข์ทรมานจากสัมผัสของเสียวไปทั้งทางร่างกายและจิตใจ ในที่สุด,เขาก็กลับมาถึงลานบ้านของเขาถึงตรงนี้เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
อย่างไรก็ตาม ปัญหาอื่นๆก็ผุดขึ้นมาอีก แม้ว่าจะมีห้องมากมายในลานนี้ แต่ก็นานมาแล้ว,ที่เซี่ยวเฉินเป็นเพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ ดังนั้น จึงมีเพียงห้องเดียวที่สามารถใช้งานได้ในตอนนี้ห้องอื่นๆว่างเปล่าไม่มีแม้กระทั่งเตียง
หากเป็นในอดีต,มันจะไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย เซียวเฉินสามารถนอนหลับบนเตียงและเสี่ยวไปก็กลับเข้าไปในหยกวิญญาณสีเลือดหรือไม่,เสี่ยวไปก็มานอนข้างๆตัวเขา
อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้มันต่างออกไป ตอนนี้เสียวไปได้ทําการเปลี่ยนร่าง,มันออกจะไร้จิตใจที่จะยังนางเอาไว้ในหยกวิญญาณสีเลือด
อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินเกรงว่าเขาจะไม่สามารถสงบใจและบ่มเพาะพลังได้หากว่ามีเด็กสาวแสนสวยวิ่งหยอกล้อกับเขาอย่างไร้เดียงสา
ดูเหมือนว่าเซียวเฉินจะทําได้เพียงนอนข้างนอกในคืนนี้ เขาอุ้มเสียวไปเข้าไปในห้องและวางนางลงบนเตียง จากนั้น,เขากล่าว “เจ้าควรหลับนอนเสียก่อนข้าจะออกไปบ่มเพาะพลัง”
เสี่ยวไปฝังตัวเองลงไปในผ้าห่มและยึดร่างกายของนาง จากนั้น,นางก็มองมาที่เซียวเฉินด้วยดวงตาใสๆและกล่าวออกมาด้วยเสียงที่ไพเราะ “พี่ชายเซียวเฉิน,มานอนกับข้า”
เมื่อเซี่ยวเฉันมองไปที่เสี่ยวไปผู้ที่จริงจังและไร้เดียงสา,เขาเผยสีหน้าเจอปัญหา
หลังจากผ่านไปนาน,ในที่สุดเซียวเฉินก็กรองคําเหล่านี้ออกมา “เสี่ยวไป,เจ้าได้ทําการเปลี่ยนร่างและตอนนี้กลายเป็นมนุษย์ มันมีเรื่องที่เจ้าไม่อาจทําได้อย่างเช่นในอดีตหากผู้หญิงและผู้ชายไม่ได้เป็นคนรักกัน,พวกเขาไม่สามารถนอนด้วยกันได้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”
ใบหน้าที่น่ารักของเสียวไป๋แสดงถึงการครุ่นคิด สมองของนางทํางานอย่างเต็มที่เพื่อย่อยสิ่งที่เซียวเฉินกล่าวออกมา มันยากที่จะบอกได้ว่านางเข้าใจหรือไม่
เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นสีหน้าของเสี่ยวไป, ความรู้สึกอ่อนโยนลุกขึ้นในใจของเขา นางดูราวกับเด็กน้อย,หยิ่งและต้องการให้คนเอาอกเอาใจนาง เขารู้ว่าเขาไม่สามารถเร่งรัด,เขาต้องค่อยๆสอนนาง
“ฟังข้า นอนไปก่อน,ข้าจะบ่มเพาะพลังอยู่ภายในลาน อย่าไปคิดอะไร” เซียวเฉินกล่าวอย่างอ่อนโยน
เสียวไปพยักหน้าเบาๆและกล่าว “ข้าจะเชื่อฟังพี่ชาย ข้าจะนอนก่อน อย่างไรก็ตามในตอนที่พี่ชายเซี่ยวเฉินเหนื่อยแล้ว,ท่านเข้ามานอนหลับได้”
เซี่ยวเฉินยิ้มอย่างอ่อนโยนและไม่ได้กล่าวอะไรอีก จากนั้นเขาก็ค่อยๆปิดประตูหลังจากออกไปจากห้อง
เซี่ยวเฉินหันหลังและมองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เขาครุ่นคิดถึงในตอนแรกที่เขาได้ตัวเสี่ยวไปมาและจิ้งจอกวิญญาณหกหางตัวนั้นที่ปกป้องเสี่ยวไปด้วยชีวิตของนางหัวใจของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ซับซ้อน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเสียใจกับสิ่งที่เขาได้ทําไป
“ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไร, ในเมื่อข้าเอาสิ่งที่เจ้ารักที่สุดมา,ข้าจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่านางจะไม่ต้องทุกข์ทรมาน” เซี่ยวเฉินให้ค่ามั่นพร้อมกับจ้องมองไปที่ผืนดาวด้วยดวงตาที่นั่งสงบ
มันดึกมากแล้ว เซี่ยวเฉินนั่งบนก้อนหินภายในลาน สายลมยามค่ําคืนพัดผ่านและหัวใจที่ว้าวุ่นของเซี่ยวเฉินก็ค่อยๆสงบลง
ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ค่อยๆหมุนเวียน พลังงานจิตวิญญาณไหลเข้ามาราวกับสายน้ำพลังงานจิตวิญญาณที่ด้านล่างของเทือกเขาเทียบไม่ได้กับข้างบนนี้
มันจะต้องเป็นการยากสําหรับเขาที่จะหาพื้นที่บ่มเพาะพลังที่ดีเยี่ยมเช่นนี้อีกครั้งหลังจากที่เขาออกจากศาลากระบี่สวรรค์ เซี่ยวเฉินตั้งใจจะเร่งทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ของเขาขึ้นไปถึงชั้น ที่หกก่อนที่เขาจะออกจากศาบากระบี่สวรรค์
ขณะที่เซียวเฉินบ่มเพาะพลัง,เวลาก็ได้ไหลผ่านไป ผืนดาวบนท้องฟ้าค่อยๆจางหายและเรื่องแสงก็ค่อยๆปรากฏขึ้นที่เส้นขอบฟ้า รุ่งอรุณก่าลังเข้ามา
เมื่อแสงแรงของวันประเข้าที่ใบหน้าของเซี่ยวเฉิน,เขาลืมตาขึ้น มีประกายแสงแพรวพราวในดวงตาของเขา
สิ่งแรกที่อยู่ในสายตาของเซี่ยวเฉินก็คือดสี่ยวไป ไม่รู้ว่านางตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่มือข้างหนึ่งของนางวางอยู่บนโต๊ะหินขณะที่นางจ้องมองมาทางเขา
เซี่ยวเฉินโบกมือและดูดซับกระแสไฟฟ้าสีม่วงที่หลงเหลืออยู่โดยรอบให้กลับเข้าไปในร่างกายของเขา จากนี้ย,เขาก็ลุกขึ้นและเดินตรงไปที่เสี่ยวไป เขายิ้มบางเบาและกล่าว“เจ้าตื่นขี้ นมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ทําไมเจ้าไม่นอนต่ออีกสักหน่อย?”
เสี่ยวไปค่อยๆลุกขึ้นและกล่าว “ข้าตื่นนานแล้ว วันนี้เป็นวันแรกที่ข้ากลายเป็นมนุษย์,ข้าไม่อาจอุดอู่อยู่แต่ในห้อง”
ในจังหวะที่เสี่ยวไปยืนขึ้น,เซี่ยวเฉินพบว่านางยังอยู่ในชุดคลุมยาวที่เขามอบให้กับนางเมื่อคืนนอกจากนั้น,มันยังปิดตัวนางแทบไม่มิด
ในตอนที่เสี่ยวไปยืนขึ้น,มันเผยให้เห็นเนื้อหนังบนหน้าอกของนาง เซี่ยวเฉินหน้าแดงเล็กน้อย ช่วงกลางคืน มันมองเห็นไม่ชัดเจนนัก แต่อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้มันดช่าแล้วและเห็นชัดว่าไม่เหมาะสม
จากนั้น,เซี่ยวเฉินก็นึกขึ้นได้ว่ามีชุดเสื้อผ้าในแหวนหัวงจักรวาลที่เขาซื้อมาให้คนรับใช้ของ เขา,เป่าเอ่อ
ขนาดตัวของเป่าเอ๋อพอๆกเบเสี่ยวไป ชุดเสื้อผ้านี่น่าจะเข้าได้พอดีกับตัวของนางเซียวเฉินใช้สัมผัสวิญญาณค้นหาภายในแหวนห้วงจักรวาลของเขาและในที่สุดเขาก็เจอพวกมัน,เขารีบหยิบเอาพวกมันออกมา
“เจ้าควรไปเปลี่ยนเป็นชุดพวกนี้ก่อน ในอนาคต,ในตอนที่เจ้าออกไปข้างนอก,เจ้าต้องแต่งตัวให้เหมาะสม”เซียวเฉินยื่นเสื้อผ้าให้กับเสี่ยวไป๋จากนั้นเขาก็มองไปที่เท้าเปล่าๆของนางเขาเสริมขึ้น “จําเอาไว้,เจ้าต้องใส่รองเท้า”
เสี่ยวไปรับเสื้อผ้ามาอย่างยินดี อย่างไรก็ตาม,หลังจากที่นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง,ใบหน้าเยาว์วัยของนางก็เผยสีหน้าเดือดร้อน นางกล่าว “ข้าไม่รู้วิธีใส่ พี่ชายเซียวเฉิน,ช่วยเสียวไปใส่เสื้อด้วย”เสี่ยวไปขอร้องอย่างคาดหวัง
เซี่ยวเฉินสูดหายใจลึก มีบางสิ่งที่เขาจําต้องทําใจแข็ง เสี่ยวไปตอนนี้เป็นเด็กสาวทั่วไปนางจะต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง
“เจ้าต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง เจ้าไม่อาจพึ่งพาคนอื่น มิฉะนั้น,เจ้าจะไม่อนุญาตให้ออกไปด้านนอก” เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างจริงจัง
เสี่ยวไปมองไปที่สีหน้าจริงจังของเซี่ยวเฉินและพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม นางกล่าว “เสียวไป๋ฉ ลาด พี่ชายเซี่ยวเฉิน, มั่นใจได้,ข้าจะเรียนรู้เอง”
เซี่ยวเฉินพยักหน้าและยิ้ม “เช่นนั้น ก็เร็วเข้า หลังจากที่เจ้าใส่เสื้อผ้าแล้ว,ข้าจะพาเจ้าออกไปข้างนอก”
เซี่ยวเฉินมองดูเสียวไปหอบเสื้อผ้าเข้าไปในห้องของเขา,สีหน้าร้ายแรงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา อธิบายถึงตัวตนของเสี่ยวไปกับคนอื่นๆนี่สิปัญหา
อย่างไรก็ตาม,ผู้คนบนยอดเขาจึงหยุนจะต้องเชื่อเซี่ยวเฉิน เขาจะเพียงบอกกล่าวไปตามตรงถึงอย่างไร,เขาก็ไม่อาจเก็บเสียวไปเอาไว้ในห้องของเขาตลอดไป ไม่ช้าก็เร็ว,นางก็ต้องไปเจอกับคนอื่นๆ
เซียวเฉินหยิบอาหารเข้าออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล จากนั้น,เขานั่งลงบนโต๊ะหินและจัดการอย่างไม่เร่งรีบ
ผ่านไประยะเวลาหนึ่ง,ประตูห้องเปิดออก เซี่ยวเฉินวางถ้วยชาในมือและหันหัวไปมองดู
เซี่ยวเฉินเห็นเสี่ยวไปสามชุดกระโปรงยาวสีเขียว เมื่อรวมเข้ากับใบหน้าน่ารักและบริสุทธิ์ของนาง,มันราวกับว่าเขามีน้องสาว
ดวงตารูปอัลมอนด์ที่งดงามเพิ่มความเย้ายวนกระแสพลังอันบริสุทธิ์ของนางกระแสพลังที่ตรงกันข้ามผสานเข้ากันอย่างเป็นธรรมชาติ,เป็นผลให้นางดูมีเสน่ห์
เสียวไปหมุนตัวให้เซี่ยวเฉินดู นางกล่าวอย่างมีความสุข “ข้าสวยไหม?”
เซียวเฉินกลายเป็นใจลอยไปเล็กน้อยอย่างไรก็ตาม,เขาก็คืนสติอย่างรวดเร็วและพยักหน้า “สวยมากินอะไรกันก่อน”
เสี่ยวไป์เดินตรงมาที่โต๊ะอย่างรู้สึกพึงพอใจ จากนั้นนางก็จัดการอาหารเช้าไปเล็กน้อยจากนั้น.ดวงตาของนางก็มองไปรอบๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่นางจะกล่าว “พี่ชายเซี่ยวเฉิน,ข้าอยากดื่มเหล้า”
เซี่ยวเฉินอดหัวเราะไม่ได้และหยิบเอาขวดเหล้าออกมา จากนั้นเขาก็รินเหล้าให้นางหนึ่งจอกและกล่าว “เจ้าได้รับอนุญาตให้ดื่มได้จอกเดียว มันไม่ใช่เรื่องดีที่เด็กสาวที่ติดเหล้า”
เสี่ยวไปรับจอกเหล้ามาอยู่ในมืออย่างยินดี จากนั้น,นางก็ยกขึ้นมาอยู่ใต้จมูกและสูดดมกลิ่นหลังจากนั้ย,นางก็ยกดื่มจิบเล็กๆ มันดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอในที่สุด,นางก็ยกดื่มเหล้าที่เหลือในคําเดียว
หลังจากที่เสี่ยวไปดื่มหมด,นางก็จ้องไปที่เซี่ยวเฉินอย่างน่าสงสาร ก่อนที่นางจะเปลี่ยนร่าง,นางมักจะใช้ท่านี้กับเซี่ยวเฉินในตอนนี้นางก็ใช้มันออกมาตามจิตใต้สํานึก
ข้าให้นางดื่มอีกไม่ได้แล้ว,เซี่ยวเฉินหุบยิ้มและกล่าว “ไม่,เจ้าดื่มได้ลแค่จอกเดียวกินอะไรบ้าง”
มองเห็นเซี่ยวเฉินไม่ตกลง,เสี้ยวไปทําได้เพียงลงมือกินอาหารเช้าของนาง นางมีความน่าสงสารอยู่บนใบหน้า,ทําให้ยากที่จะปฏิเสธนาง
ท้ายที่สุด,เซี่ยวเฉินตั้งมั่นและไม่ตกลง เขาต้องค่อยๆวางกฎลงไป มิฉะนั้น มันจะเป็นการยากที่จะสั่งสอนนาง
หลังจากที่พวกเขาจัดการอาหารเช้าเสร็จ,เซี่ยวเฉินพาเสียวไปไปที่ลานฝึกฝนของยอดเขาฉิงหยนเซี่ยวเฉินคาดหวังอย่างเต็มที่กับค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณที่เสริมพลังขึ้นมาแล้ว
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา,เซี่ยวเฉินไม่เคยลืมจุดประสงค์ของเขาในการมาที่ศาลากระปสวรรค์ทั้งหมดก็เพื่อที่เขาจะสามารถเรียนการฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน,และปลูกอ่าวเจียวนมาให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทําได้
ขณะที่พวกเขาเดินขึ้นไปบนยอดเขาฉิงหยุนเสี่ยวไปร่างเร็งและมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมากนางกระโดดโลดเต้นอยู่ข้างหน้าของเซี่ยวเฉิน,เคลื่อนไหวไปราวกับสายลมไม่มีทางที่จะหยุดนาง,นางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นดังนี้,เขาครุ่นคิดกับตัวเอง,การได้มองโลกเดียวกันในอีกมุมหนึ่งเป็นใครก็ตองตื่นเต้น โดยเฉพาะนี่เป็นเสี่ยวไป,ผู้ที่ยังเป็นเด็ก
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขามาถึงที่ลานฝึกฝน,เสี่ยวไปักลายเป็นนิ่งเงียบ มันราวกับว่านางเกรงกลัวที่จะพบประผู้คน
เซี่ยวเฉินปลอบนาง “มันจะดีเอง ผู้คนบนยอดเขาจึงหยุนทั้งหมดล้วนเป็นเพื่อน เพื่อนไม่สนใจเรื่องแบบนี้หรอก”
เสี่ยวไปพยักหน้าว่านางเข้าใจแล้ว อย่างไรก็ตาม,นางยังคงซ่อนตัวอยู่ที่ด้านหลังของเซียว เฉิน นางไม่ร่างเร็งแบบที่เป็นอยู่เมื่อครู่
เซี่ยวเฉินส่ายหัวเล็กน้อยและนําเข้าไปในลานฝึกฝน มีเสียงโหร้องดังออกมาจากภายในลานประหลาดใจยิ่งมันยากที่จะพบช่าวหยางและเสี่ยวเพิ่งเข้ามาฝึกฝนอยู่ข้างในนี้พวกเขากําลังแลกเปลี่ยนกระบวณท่ากัน
หลิวสุยเฟิง,ผู้ที่ตอนนี้กําลังแลกเปลี่ยนกระบวณท่ากับหลิวหรูเยว่,มองมาเห็นผู้ช่วยชีวิตของเขาก็เผยรอยยิ้มออกมาในทันที เขารีบวิ่งตรงไปที่เซี่ยวเฉิน
เมื่อหลิวสุยเฟิงมองเห็นเสี่ยวไป, ผู้ทําหลบอยู่ด้านหลังของเซี่ยวเฉิน มันราวกับว่าเขาได้เห็นดอกไม้จากฟากฟ้า เขานิ่งตะลึงไปในทันที,รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแช่แข็งเขาจ้องมองอย่างว่า วุ่นไปที่เสี่ยวไป
เซียวเฉินกระแอมสองสามครั้งก่อนที่หลิวสุยเฟิงจะตอบสนอง เขากล่าวอย่างเขินอาย “โทษที,โทษที, เย่เฉิน, สาวสวยผู้นี้เป็นใคร? ทําไมข้าถึงพบว่าช่างคุ้นเคยกับนางนัก?เจ้าแนะนําให้พวกเรารู้จักได้หรือไม่?”
เมื่อหลิวหรูเยวและคนอื่นๆเห็นถึงสถานการณ์,พวกเขาต่างตรงเข้ามาอย่างใคร่รู้ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง
เซี่ยวเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเล่าไปตามความจริง ไม่มีความจําเป็นที่จะต้องปกปิดอะไรกับพวกเขา“นางคือเสี่ยวไป์ นางทําการเปลี่ยนร่างเมื่อคืนนี้”
หลิวสุยเฟิงสีหน้ากระตุกเล็กน้อย เขายิ้มอย่างอายๆ “เย่เฉิน,เจ้าต้องล้อข้าเล่น
เซียวเฉินคงสีหน้านิ่งสงบ “ดูหน้าข้าเหมือนกําลังล้อเล่น?”
เมื่อเซี่ยวเฉินมองเห็นสายตาเคลือบแคลงของหลิวหรูเยา,เขาพยักหน้าและกล่าว “นางค่อนข้างมีความพิเศษ ข้าจะเล่าให้ทุกคนฟังในอนาคตแต่อย่างไรก็ตาม,ข้าหวังว่าทุกคนจะเก็บเรื่องนี้ เอาไว้เป็นความลับสําหรับตอนนี้”
หลิวหรูเยว่เป็นเป็นคนแรกที่ฟื้นคืนสติ นางกล่าวอย่างจริงจัง “เย่เฉิน,เจ้ามั่นใจได้ สถานที่แห่งนี้ปลอดภัยสําหรับเสี่ยวไป๋อย่างแน่นอน”
เซี่ยวเฉินผลักเสี่ยวไปขึ้นมาตรงหน้าและกล่าว “เสี่ยวไป์,ทักทายทุกคนสิ”
เสี่ยวไปไม่ได้กลัวเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว นางยิ้มกว้างพร้อมกับกล่าว “พี่ชายสุยเฟิง,พี่ชายช่าวหยาง, พี่สาวเสี่ยวเมิ่ง,และพี่สาวหรูเยว,อรุณสวัสดิ์”
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 336 เสี่ยวไป์ผู้ทรงเสน่ห์
ตอนที่ 336 เสี่ยวไป์ผู้ทรงเสน่ห์
จุหยานกล่าวเสียงเบา “พี่ใหญ่หมายถึง…?”
ซีเมื่นหยิ่งพยักหน้าและกล่าว “ตรวจสอบตัวตนของคนผู้นี้ ข้าต้องการเขา”
ขณะที่เซียวเฉินอุ่มเสี่ยวไปักลับมา,เขาทนทุกข์ทรมานจากสัมผัสของเสียวไปทั้งทางร่างกายและจิตใจ ในที่สุด,เขาก็กลับมาถึงลานบ้านของเขาถึงตรงนี้เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
อย่างไรก็ตาม ปัญหาอื่นๆก็ผุดขึ้นมาอีก แม้ว่าจะมีห้องมากมายในลานนี้ แต่ก็นานมาแล้ว,ที่เซี่ยวเฉินเป็นเพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ ดังนั้น จึงมีเพียงห้องเดียวที่สามารถใช้งานได้ในตอนนี้ห้องอื่นๆว่างเปล่าไม่มีแม้กระทั่งเตียง
หากเป็นในอดีต,มันจะไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย เซียวเฉินสามารถนอนหลับบนเตียงและเสี่ยวไปก็กลับเข้าไปในหยกวิญญาณสีเลือดหรือไม่,เสี่ยวไปก็มานอนข้างๆตัวเขา
อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้มันต่างออกไป ตอนนี้เสียวไปได้ทําการเปลี่ยนร่าง,มันออกจะไร้จิตใจที่จะยังนางเอาไว้ในหยกวิญญาณสีเลือด
อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินเกรงว่าเขาจะไม่สามารถสงบใจและบ่มเพาะพลังได้หากว่ามีเด็กสาวแสนสวยวิ่งหยอกล้อกับเขาอย่างไร้เดียงสา
ดูเหมือนว่าเซียวเฉินจะทําได้เพียงนอนข้างนอกในคืนนี้ เขาอุ้มเสียวไปเข้าไปในห้องและวางนางลงบนเตียง จากนั้น,เขากล่าว “เจ้าควรหลับนอนเสียก่อนข้าจะออกไปบ่มเพาะพลัง”
เสี่ยวไปฝังตัวเองลงไปในผ้าห่มและยึดร่างกายของนาง จากนั้น,นางก็มองมาที่เซียวเฉินด้วยดวงตาใสๆและกล่าวออกมาด้วยเสียงที่ไพเราะ “พี่ชายเซียวเฉิน,มานอนกับข้า”
เมื่อเซี่ยวเฉันมองไปที่เสี่ยวไปผู้ที่จริงจังและไร้เดียงสา,เขาเผยสีหน้าเจอปัญหา
หลังจากผ่านไปนาน,ในที่สุดเซียวเฉินก็กรองคําเหล่านี้ออกมา “เสี่ยวไป,เจ้าได้ทําการเปลี่ยนร่างและตอนนี้กลายเป็นมนุษย์ มันมีเรื่องที่เจ้าไม่อาจทําได้อย่างเช่นในอดีตหากผู้หญิงและผู้ชายไม่ได้เป็นคนรักกัน,พวกเขาไม่สามารถนอนด้วยกันได้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”
ใบหน้าที่น่ารักของเสียวไป๋แสดงถึงการครุ่นคิด สมองของนางทํางานอย่างเต็มที่เพื่อย่อยสิ่งที่เซียวเฉินกล่าวออกมา มันยากที่จะบอกได้ว่านางเข้าใจหรือไม่
เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นสีหน้าของเสี่ยวไป, ความรู้สึกอ่อนโยนลุกขึ้นในใจของเขา นางดูราวกับเด็กน้อย,หยิ่งและต้องการให้คนเอาอกเอาใจนาง เขารู้ว่าเขาไม่สามารถเร่งรัด,เขาต้องค่อยๆสอนนาง
“ฟังข้า นอนไปก่อน,ข้าจะบ่มเพาะพลังอยู่ภายในลาน อย่าไปคิดอะไร” เซียวเฉินกล่าวอย่างอ่อนโยน
เสียวไปพยักหน้าเบาๆและกล่าว “ข้าจะเชื่อฟังพี่ชาย ข้าจะนอนก่อน อย่างไรก็ตามในตอนที่พี่ชายเซี่ยวเฉินเหนื่อยแล้ว,ท่านเข้ามานอนหลับได้”
เซี่ยวเฉินยิ้มอย่างอ่อนโยนและไม่ได้กล่าวอะไรอีก จากนั้นเขาก็ค่อยๆปิดประตูหลังจากออกไปจากห้อง
เซี่ยวเฉินหันหลังและมองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เขาครุ่นคิดถึงในตอนแรกที่เขาได้ตัวเสี่ยวไปมาและจิ้งจอกวิญญาณหกหางตัวนั้นที่ปกป้องเสี่ยวไปด้วยชีวิตของนางหัวใจของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ซับซ้อน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเสียใจกับสิ่งที่เขาได้ทําไป
“ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไร, ในเมื่อข้าเอาสิ่งที่เจ้ารักที่สุดมา,ข้าจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่านางจะไม่ต้องทุกข์ทรมาน” เซี่ยวเฉินให้ค่ามั่นพร้อมกับจ้องมองไปที่ผืนดาวด้วยดวงตาที่นั่งสงบ
มันดึกมากแล้ว เซี่ยวเฉินนั่งบนก้อนหินภายในลาน สายลมยามค่ําคืนพัดผ่านและหัวใจที่ว้าวุ่นของเซี่ยวเฉินก็ค่อยๆสงบลง
ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ค่อยๆหมุนเวียน พลังงานจิตวิญญาณไหลเข้ามาราวกับสายน้ำพลังงานจิตวิญญาณที่ด้านล่างของเทือกเขาเทียบไม่ได้กับข้างบนนี้
มันจะต้องเป็นการยากสําหรับเขาที่จะหาพื้นที่บ่มเพาะพลังที่ดีเยี่ยมเช่นนี้อีกครั้งหลังจากที่เขาออกจากศาลากระบี่สวรรค์ เซี่ยวเฉินตั้งใจจะเร่งทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ของเขาขึ้นไปถึงชั้น ที่หกก่อนที่เขาจะออกจากศาบากระบี่สวรรค์
ขณะที่เซียวเฉินบ่มเพาะพลัง,เวลาก็ได้ไหลผ่านไป ผืนดาวบนท้องฟ้าค่อยๆจางหายและเรื่องแสงก็ค่อยๆปรากฏขึ้นที่เส้นขอบฟ้า รุ่งอรุณก่าลังเข้ามา
เมื่อแสงแรงของวันประเข้าที่ใบหน้าของเซี่ยวเฉิน,เขาลืมตาขึ้น มีประกายแสงแพรวพราวในดวงตาของเขา
สิ่งแรกที่อยู่ในสายตาของเซี่ยวเฉินก็คือดสี่ยวไป ไม่รู้ว่านางตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่มือข้างหนึ่งของนางวางอยู่บนโต๊ะหินขณะที่นางจ้องมองมาทางเขา
เซี่ยวเฉินโบกมือและดูดซับกระแสไฟฟ้าสีม่วงที่หลงเหลืออยู่โดยรอบให้กลับเข้าไปในร่างกายของเขา จากนี้ย,เขาก็ลุกขึ้นและเดินตรงไปที่เสี่ยวไป เขายิ้มบางเบาและกล่าว“เจ้าตื่นขี้ นมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ทําไมเจ้าไม่นอนต่ออีกสักหน่อย?”
เสี่ยวไปค่อยๆลุกขึ้นและกล่าว “ข้าตื่นนานแล้ว วันนี้เป็นวันแรกที่ข้ากลายเป็นมนุษย์,ข้าไม่อาจอุดอู่อยู่แต่ในห้อง”
ในจังหวะที่เสี่ยวไปยืนขึ้น,เซี่ยวเฉินพบว่านางยังอยู่ในชุดคลุมยาวที่เขามอบให้กับนางเมื่อคืนนอกจากนั้น,มันยังปิดตัวนางแทบไม่มิด
ในตอนที่เสี่ยวไปยืนขึ้น,มันเผยให้เห็นเนื้อหนังบนหน้าอกของนาง เซี่ยวเฉินหน้าแดงเล็กน้อย ช่วงกลางคืน มันมองเห็นไม่ชัดเจนนัก แต่อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้มันดช่าแล้วและเห็นชัดว่าไม่เหมาะสม
จากนั้น,เซี่ยวเฉินก็นึกขึ้นได้ว่ามีชุดเสื้อผ้าในแหวนหัวงจักรวาลที่เขาซื้อมาให้คนรับใช้ของ เขา,เป่าเอ่อ
ขนาดตัวของเป่าเอ๋อพอๆกเบเสี่ยวไป ชุดเสื้อผ้านี่น่าจะเข้าได้พอดีกับตัวของนางเซียวเฉินใช้สัมผัสวิญญาณค้นหาภายในแหวนห้วงจักรวาลของเขาและในที่สุดเขาก็เจอพวกมัน,เขารีบหยิบเอาพวกมันออกมา
“เจ้าควรไปเปลี่ยนเป็นชุดพวกนี้ก่อน ในอนาคต,ในตอนที่เจ้าออกไปข้างนอก,เจ้าต้องแต่งตัวให้เหมาะสม”เซียวเฉินยื่นเสื้อผ้าให้กับเสี่ยวไป๋จากนั้นเขาก็มองไปที่เท้าเปล่าๆของนางเขาเสริมขึ้น “จําเอาไว้,เจ้าต้องใส่รองเท้า”
เสี่ยวไปรับเสื้อผ้ามาอย่างยินดี อย่างไรก็ตาม,หลังจากที่นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง,ใบหน้าเยาว์วัยของนางก็เผยสีหน้าเดือดร้อน นางกล่าว “ข้าไม่รู้วิธีใส่ พี่ชายเซียวเฉิน,ช่วยเสียวไปใส่เสื้อด้วย”เสี่ยวไปขอร้องอย่างคาดหวัง
เซี่ยวเฉินสูดหายใจลึก มีบางสิ่งที่เขาจําต้องทําใจแข็ง เสี่ยวไปตอนนี้เป็นเด็กสาวทั่วไปนางจะต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง
“เจ้าต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง เจ้าไม่อาจพึ่งพาคนอื่น มิฉะนั้น,เจ้าจะไม่อนุญาตให้ออกไปด้านนอก” เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างจริงจัง
เสี่ยวไปมองไปที่สีหน้าจริงจังของเซี่ยวเฉินและพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม นางกล่าว “เสียวไป๋ฉ ลาด พี่ชายเซี่ยวเฉิน, มั่นใจได้,ข้าจะเรียนรู้เอง”
เซี่ยวเฉินพยักหน้าและยิ้ม “เช่นนั้น ก็เร็วเข้า หลังจากที่เจ้าใส่เสื้อผ้าแล้ว,ข้าจะพาเจ้าออกไปข้างนอก”
เซี่ยวเฉินมองดูเสียวไปหอบเสื้อผ้าเข้าไปในห้องของเขา,สีหน้าร้ายแรงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา อธิบายถึงตัวตนของเสี่ยวไปกับคนอื่นๆนี่สิปัญหา
อย่างไรก็ตาม,ผู้คนบนยอดเขาจึงหยุนจะต้องเชื่อเซี่ยวเฉิน เขาจะเพียงบอกกล่าวไปตามตรงถึงอย่างไร,เขาก็ไม่อาจเก็บเสียวไปเอาไว้ในห้องของเขาตลอดไป ไม่ช้าก็เร็ว,นางก็ต้องไปเจอกับคนอื่นๆ
เซียวเฉินหยิบอาหารเข้าออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล จากนั้น,เขานั่งลงบนโต๊ะหินและจัดการอย่างไม่เร่งรีบ
ผ่านไประยะเวลาหนึ่ง,ประตูห้องเปิดออก เซี่ยวเฉินวางถ้วยชาในมือและหันหัวไปมองดู
เซี่ยวเฉินเห็นเสี่ยวไปสามชุดกระโปรงยาวสีเขียว เมื่อรวมเข้ากับใบหน้าน่ารักและบริสุทธิ์ของนาง,มันราวกับว่าเขามีน้องสาว
ดวงตารูปอัลมอนด์ที่งดงามเพิ่มความเย้ายวนกระแสพลังอันบริสุทธิ์ของนางกระแสพลังที่ตรงกันข้ามผสานเข้ากันอย่างเป็นธรรมชาติ,เป็นผลให้นางดูมีเสน่ห์
เสียวไปหมุนตัวให้เซี่ยวเฉินดู นางกล่าวอย่างมีความสุข “ข้าสวยไหม?”
เซียวเฉินกลายเป็นใจลอยไปเล็กน้อยอย่างไรก็ตาม,เขาก็คืนสติอย่างรวดเร็วและพยักหน้า “สวยมากินอะไรกันก่อน”
เสี่ยวไป์เดินตรงมาที่โต๊ะอย่างรู้สึกพึงพอใจ จากนั้นนางก็จัดการอาหารเช้าไปเล็กน้อยจากนั้น.ดวงตาของนางก็มองไปรอบๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่นางจะกล่าว “พี่ชายเซี่ยวเฉิน,ข้าอยากดื่มเหล้า”
เซี่ยวเฉินอดหัวเราะไม่ได้และหยิบเอาขวดเหล้าออกมา จากนั้นเขาก็รินเหล้าให้นางหนึ่งจอกและกล่าว “เจ้าได้รับอนุญาตให้ดื่มได้จอกเดียว มันไม่ใช่เรื่องดีที่เด็กสาวที่ติดเหล้า”
เสี่ยวไปรับจอกเหล้ามาอยู่ในมืออย่างยินดี จากนั้น,นางก็ยกขึ้นมาอยู่ใต้จมูกและสูดดมกลิ่นหลังจากนั้ย,นางก็ยกดื่มจิบเล็กๆ มันดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอในที่สุด,นางก็ยกดื่มเหล้าที่เหลือในคําเดียว
หลังจากที่เสี่ยวไปดื่มหมด,นางก็จ้องไปที่เซี่ยวเฉินอย่างน่าสงสาร ก่อนที่นางจะเปลี่ยนร่าง,นางมักจะใช้ท่านี้กับเซี่ยวเฉินในตอนนี้นางก็ใช้มันออกมาตามจิตใต้สํานึก
ข้าให้นางดื่มอีกไม่ได้แล้ว,เซี่ยวเฉินหุบยิ้มและกล่าว “ไม่,เจ้าดื่มได้ลแค่จอกเดียวกินอะไรบ้าง”
มองเห็นเซี่ยวเฉินไม่ตกลง,เสี้ยวไปทําได้เพียงลงมือกินอาหารเช้าของนาง นางมีความน่าสงสารอยู่บนใบหน้า,ทําให้ยากที่จะปฏิเสธนาง
ท้ายที่สุด,เซี่ยวเฉินตั้งมั่นและไม่ตกลง เขาต้องค่อยๆวางกฎลงไป มิฉะนั้น มันจะเป็นการยากที่จะสั่งสอนนาง
หลังจากที่พวกเขาจัดการอาหารเช้าเสร็จ,เซี่ยวเฉินพาเสียวไปไปที่ลานฝึกฝนของยอดเขาฉิงหยนเซี่ยวเฉินคาดหวังอย่างเต็มที่กับค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณที่เสริมพลังขึ้นมาแล้ว
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา,เซี่ยวเฉินไม่เคยลืมจุดประสงค์ของเขาในการมาที่ศาลากระปสวรรค์ทั้งหมดก็เพื่อที่เขาจะสามารถเรียนการฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน,และปลูกอ่าวเจียวนมาให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทําได้
ขณะที่พวกเขาเดินขึ้นไปบนยอดเขาฉิงหยุนเสี่ยวไปร่างเร็งและมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมากนางกระโดดโลดเต้นอยู่ข้างหน้าของเซี่ยวเฉิน,เคลื่อนไหวไปราวกับสายลมไม่มีทางที่จะหยุดนาง,นางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นดังนี้,เขาครุ่นคิดกับตัวเอง,การได้มองโลกเดียวกันในอีกมุมหนึ่งเป็นใครก็ตองตื่นเต้น โดยเฉพาะนี่เป็นเสี่ยวไป,ผู้ที่ยังเป็นเด็ก
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขามาถึงที่ลานฝึกฝน,เสี่ยวไปักลายเป็นนิ่งเงียบ มันราวกับว่านางเกรงกลัวที่จะพบประผู้คน
เซี่ยวเฉินปลอบนาง “มันจะดีเอง ผู้คนบนยอดเขาจึงหยุนทั้งหมดล้วนเป็นเพื่อน เพื่อนไม่สนใจเรื่องแบบนี้หรอก”
เสี่ยวไปพยักหน้าว่านางเข้าใจแล้ว อย่างไรก็ตาม,นางยังคงซ่อนตัวอยู่ที่ด้านหลังของเซียว เฉิน นางไม่ร่างเร็งแบบที่เป็นอยู่เมื่อครู่
เซี่ยวเฉินส่ายหัวเล็กน้อยและนําเข้าไปในลานฝึกฝน มีเสียงโหร้องดังออกมาจากภายในลานประหลาดใจยิ่งมันยากที่จะพบช่าวหยางและเสี่ยวเพิ่งเข้ามาฝึกฝนอยู่ข้างในนี้พวกเขากําลังแลกเปลี่ยนกระบวณท่ากัน
หลิวสุยเฟิง,ผู้ที่ตอนนี้กําลังแลกเปลี่ยนกระบวณท่ากับหลิวหรูเยว่,มองมาเห็นผู้ช่วยชีวิตของเขาก็เผยรอยยิ้มออกมาในทันที เขารีบวิ่งตรงไปที่เซี่ยวเฉิน
เมื่อหลิวสุยเฟิงมองเห็นเสี่ยวไป, ผู้ทําหลบอยู่ด้านหลังของเซี่ยวเฉิน มันราวกับว่าเขาได้เห็นดอกไม้จากฟากฟ้า เขานิ่งตะลึงไปในทันที,รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแช่แข็งเขาจ้องมองอย่างว่า วุ่นไปที่เสี่ยวไป
เซียวเฉินกระแอมสองสามครั้งก่อนที่หลิวสุยเฟิงจะตอบสนอง เขากล่าวอย่างเขินอาย “โทษที,โทษที, เย่เฉิน, สาวสวยผู้นี้เป็นใคร? ทําไมข้าถึงพบว่าช่างคุ้นเคยกับนางนัก?เจ้าแนะนําให้พวกเรารู้จักได้หรือไม่?”
เมื่อหลิวหรูเยวและคนอื่นๆเห็นถึงสถานการณ์,พวกเขาต่างตรงเข้ามาอย่างใคร่รู้ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง
เซี่ยวเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเล่าไปตามความจริง ไม่มีความจําเป็นที่จะต้องปกปิดอะไรกับพวกเขา“นางคือเสี่ยวไป์ นางทําการเปลี่ยนร่างเมื่อคืนนี้”
หลิวสุยเฟิงสีหน้ากระตุกเล็กน้อย เขายิ้มอย่างอายๆ “เย่เฉิน,เจ้าต้องล้อข้าเล่น
เซียวเฉินคงสีหน้านิ่งสงบ “ดูหน้าข้าเหมือนกําลังล้อเล่น?”
เมื่อเซี่ยวเฉินมองเห็นสายตาเคลือบแคลงของหลิวหรูเยา,เขาพยักหน้าและกล่าว “นางค่อนข้างมีความพิเศษ ข้าจะเล่าให้ทุกคนฟังในอนาคตแต่อย่างไรก็ตาม,ข้าหวังว่าทุกคนจะเก็บเรื่องนี้ เอาไว้เป็นความลับสําหรับตอนนี้”
หลิวหรูเยว่เป็นเป็นคนแรกที่ฟื้นคืนสติ นางกล่าวอย่างจริงจัง “เย่เฉิน,เจ้ามั่นใจได้ สถานที่แห่งนี้ปลอดภัยสําหรับเสี่ยวไป๋อย่างแน่นอน”
เซี่ยวเฉินผลักเสี่ยวไปขึ้นมาตรงหน้าและกล่าว “เสี่ยวไป์,ทักทายทุกคนสิ”
เสี่ยวไปไม่ได้กลัวเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว นางยิ้มกว้างพร้อมกับกล่าว “พี่ชายสุยเฟิง,พี่ชายช่าวหยาง, พี่สาวเสี่ยวเมิ่ง,และพี่สาวหรูเยว,อรุณสวัสดิ์”
Comments