Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 341 การมาของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ 341 การมาของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ข่าวลือนี้จะเป็นคลื่นใหญ่ที่โถมเข้าใส่ชื่อเสียงของศาลากระบี่สวรรค์ พวกเขาจะไม่มีทางที่จะเลื่อนสงครามจัดอันดับออกไปเว้นเสียแต่ว่าจะไม่มีทางเลือกอื่น
หลิวสุยเฟิงกล่ายต่อ “เรื่องนี้มันแปลกประหลาดยิ่ง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเหตุผลออกมาอธิบาย นอกจากนั้น,แม้แต่การแข่งขันของศิษย์สายนอกก็ถูกเลื่อนออกไป”
เซี่ยวเฉินไตร่ตรองและกล่าว “ไม่จําเป็นต้องไปสนใจ มันก็แค่เลื่อนออกไป,ไม่ใช่ยกเลิก ใช่แล้ว,พี่สายหรูเยว่เป็นอย่างไรบ้างตอนนี้ ข้าไม่ได้เจอนางมาพักหนึ่งแล้ว”
หลิวสุยเฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนในที่สุดก็กล่าวออกมา “ความจริง,นางทําลายปราณของนาง ในครั้งล่าสุดที่นางเปิดใช้งานต่ายกลกระบี่สมบูรณ์โบราณ นางจะไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้เป็นเวลาครึ่งปี เร็วๆมาน,นางได้บํารุงตัวเองด้วยสมุนไพรวิญญาณ มิฉะนั้น,ความเสียหายจะยิ่งมากกว่านี้”
ความตกตะลึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซียวเฉิน เขารู้สึกตัวอยู่แล้วว่ามีอะไรผิดปกติ เป็นเรื่องร้ายแรงถึงเพียงนี้ เซี่ยวเฉินแน่นอนว่าเขารู้ถึงความร้ายแรงที่ต้องเสียเวลาไปถึงครึ่งปี เขาไม่คาดคิดว่าหลิวหรูเยวจะเสียสละตัวเองเช่นนี้เพื่อเขา
“ทําไมเจ้าไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้?” เซี่ยวเฉินน้ําเสียงบนกล่าวโทษ หากเขารู้ว่ามันจะมีผลร้ายแรงเช่นนี้,เซี่ยวเฉินจะไม่มีทางยอมตกลง
หลิวสุยเฟิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าก็อยากจะบอกเจ้า,แต่พี่สาวของข้าไม่ยินยอมให้ข้าบอก หากข้าบอกเจ้าไป,มีเจ้าจะตอบรับนาง?”
เซี่ยวเฉินส่ายหัว เขาลุกขึ้นและอยากจะออกไปตามหาหลิวหรูเยวแต่หลิวสุยเพิ่งรีบห้ามเขาเอาไว้ เขากล่าว “อย่า,พี่สาวของข้านิสัยหัวแข็งเป็นอย่างมาก ในเมื่อนางไม่อยากให้เจ้าร์,เจ้าควรจะทําเป็นเหมือนเจ้าไม่รู้
เซี่ยวเฉินทําได้เพียงนั่งลง พวกเขาทั้งสองพูดคุยกันอีกครู่หนึ่งก่อนที่หลิวสุยเพิ่งจะขอตัวออกไป
เซียวเฉินไม่ได้สนใจที่สงครามจัดอันดับถูกเลื่อนออกไป ตราบใดที่มันไม่ถูกยกเลิก,ก็ไม่เป็นไร เขาก็ไม่ได้เร่งรีบที่จะออกไปจากยอดเขาฉิงหยุนอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่หลิวหรูเยว่เสียการบ่มเพาะพลังไปครึ่งปีทําให้เซี่ยวเฉินนั่งไม่อยู่สุข หากเขาไม่สามารถมองเห็นถึงความตั้งใจของนางในครั้งนี้ เขาก็หัวขี้เลื่อยแล้ว
มนุษย์มีเจ็ดอารมณ์และความปรารถนาหกประการ ไม่มีใครที่สามารถละจากพวกมันได้อย่างแท้จริง ขณะที่พวกเขาอยู่ในโลกมนุษย์ อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินจะแสร้งทํามันง่ายๆได้อย่างไร?
ตอนนี้ตกดึกแล้ว เซียวเฉินหยุดการบ่มเพาะพลังและกระโดดออกจากลานของเขา เป็นอีก ครั้ง,เขามาที่ต้นไม้ใหญ่ด้านนอกลานของหลิวหรูเยา
แสงจันทร์งดงามฉายลงบนพื้น หลิวหรูเยว่อยู่ในลาน,ทําอย่างเดียวกับที่นางทําเหมือนในอดีต,ฝึกฝนทักษะกระบี่
กระบี่แสงลอยไปทั่วทุกที่, พลังงานอันแข็งแกร่งเติมเต็มบริเวณโดยรอบ หลังจากที่หลิวหรูเยว่เลื่อนสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,กระบี่ฉีของนางยอดเยี่ยมกว่าในอดีตอย่างชัดเจน
เมื่อกระบี่ฉีเคลื่อนไหวไปในอากาศ,มันราวกับอากาศถูกตัดแยก, เกิดเป็นระลอกคลื่นเล็กๆ
“ฟุ ฟิว!”
ปราศจากสัญญาณเตือน,กระบี่รุ่งโรจน์เส้นหนึ่งบินไปยังต้นไม่ใหญ่ที่เซียวเฉินยืนอยู่ มัน เคลื่อนผ่านห้าร้อยเมตรในพริบตา
“ปะ ปะ!” ต้นไม้ใหญ่ลําต้นถูกตัดขาดภายในทันที,เผยตัวของเซี่ยวเฉินที่อยู่ด้านหลัง
หลิวหรูเยว่ารบพุ่งเข้ามา เมื่อนางเห็นว่านั้นคือเซียวเฉิน,นางถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้น,นางก็เก็บกระบี่ลงผัก นางถามขึ้น “เย่เฉิน,ทําไมเจ้าซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้นี้?”
เซี่ยวเฉินรู้สึกอับอายอย่างไม่น่าเชื่อ รอยสีแดงปรากฏขึ้นบนใบหน้าละเอียดอ่อนของเขาในทันที ตัวเขาที่นิ่งสงบเป็นปกติหายไปแล้ว
เซี่ยวเฉินถูกจับได้ขณะที่มาแอบดู ไม่มีอะไรน่าอับอายไปยิ่งกว่านี้อีกแล้ว
เซียวเฉินยืนขึ้นบนต้นไม้หักและเสียงตะกุกตะกักอยู่นานก่อนที่จะกล่าวขึ้น “ใช่แล้ว ทําไมข้าถึงมาซ่อนอยู่หลังต้นไม่? น่าแปลก”
หลิวหรูเยวมองไปยังเซี่ยวเฉอนที่ขวยเขินแล้วก็รู้สึกขบขัน นางยิ้มและกล่าว “ที่จริงแล้ว,ต้นไม้ต้นนี้มีพลังงานจิตวิญญาณสวรรค์ เมื่อขึ้นไปยืนข้างบน,มันจะทําให้จิตใจสงบ มันเป็นสถานที่ที่ดีในการทําความเข้าใจและทะลวงคอขวด เย่เฉิน,เจ้ากําลังทําความเข้าใจทักษะต่อสู้อยู่,ใช่หรือไม่?”
เซี่ยวเฉินค่อยๆสงบและยิ้มขึ้น “ใช่ ใช่แล้ว หรูเยว่,ข้าไม่คาดคิดว่าเจ้าจะรู้ที่ลับแห่งนี้ด้วย ต้นไม้นี่มันมีประโยชน์มาก ข้าเกือบจะทะลวงคอขวดของข้าได้แล้ว”
หลิวหรูเยว่เผยรอยยิ้มซุกซนบนใบหน้าอันทรงเสน่ห์ของนาง จากนั้น,นางก็กล่าวด้วยท่าทางจริงจัง “เมื่อเป็นเช่นนั้น,ข้าต้องขอโทษเจ้า ข้าไม่ควรขัดจังหวะเจ้าเมื่อครู่นี้ ข้าถึงกับทําลายต้นไม้ วิญญาณของเจ้า ข้าต้องขออภัยจริงๆ”
น้ําเสียงของหลิวหณเยวสงบอาการตื่นตกใจของเซี่ยวเฉินลง เขายิ้มบางๆและกล่าว “ไม่มีปัญหา หลังจากที่ต้นนี่ล้มลง,พลังงานจิตวิญญาณจะรั่วออกมา มันยิ่งดีกับการทะลวงคอขวด เพียงแต่หลังจากนี้มันก็จะไม่มีประโยชน์อีก”
หลิวหรูเยวพยักหน้าและกล่าว “เช่นนั้นเจ้าควรจะอยู่ที่นี่และจดจ่อไปกับการทําความเข้าใจ ข้าจะออกมาตรวจดูเจ้าในตอนเช้า”
เซี่ยวเฉินรู้สึกอับอายในใจ ต้นไม้ต้นนี้มีพลังงานจิตวิญญาณจริงๆเสียเมื่อไหร่ หากเขาต้องยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคืน, มันยากที่จะทน”
“ฟุฟว!”
เซียวเฉินกระโดดลงมาจากต้นไม้ที่หักและลงจอดอย่างนิ่มนวลตรงหน้าของหลิวหรูเยว่ หลิวหรูเยวพยักหน้าพร้อมยิ้มขึ้น “ผู้กล้าน้อยเย่,ทําไมท่านไม่อยู่ทําความเข้าใจของเจ้าต่อ?”
เซียวเฉินยิ้มอย่างขวยเขิน “หรูเยว,โปรดอย่าล้อข้า”
หลิวหรเยวระเบิดเสียงหัวเราะออกมาและกล่าว “เอาล่ะ,ข้าไม่หยอกเจ้าเล่นแล้ว เข้ามาก่อน มีเรื่องอะไร?”
หลังจากที่มาถึงลานของหลิวหรูเยาและลงนั่งที่,เซี่ยวเฉินบอกนางเกี่ยวกับที่หลิวสุยเฟิงเล่าให้เขาฟังเรื่องสงครามจัดอันดับถูกเลื่อนออกไป
หลิวหรูเยว่กล่าวเสียงนุ่ม “ข้ารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ มันไม่ได้มีเหตุผลอะไรพิเศษ กําลังคนจํานวนมากต้องจัดการกับอีกงานที่เหมือนสงครามจัดอันดับศิษย์ชั้นใน เกือบทั้งหมดนิกายจะต้องเข้าร่วม ศาลากระบี่สวรรค์ไม่มีทางที่จะจัดการสองงานใหญ่ภายในเวลาสั้นๆ”
เซี่ยวเฉินรู้สึกสงสัยและถามขึ้น “เจ้ากําลังจกบอกว่า ยังมีงานอื่น,ที่ยิ่งใหญ่กว่าสงครามจัดอันดับศิษย์ชั้นใน? มันคืออะไร?”
หลิวหรเยวพยักหน้า “เรื่องนี้ควรจะเป็นความลับในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม,ไม่มีปัญหาที่จะบอกเจ้า เหลิ่งหลิวซูออกจากการเก็บตัวฝึกฝนของนางแล้ว นางในตอนนี้อยู่ระดับยอดสุดขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น”
เซี่ยวเฉินนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบสนอง เหลิงหลิวซูอายุเพียงสิบเจ็ดปี กระนั้น,ขอบเขตพลังของนางในตอนนี้อยู่ที่ระดับยอดสุดขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น นอกจากค่าว่าปีศาจ,ไม่มีค่าอื่นเพียงพอที่จะเล่าถึงพรสวรรค์ของนาง
ขอบเขตพลังที่หลายคนไม่อาจก้าวไปถึงตลอดชีวิตแต่เหลิ่งหลิวซูสําเร็จได้ตั้งแต่อายุสิบเจ็ด นอกจากนั้น ยังไม่ใช่เพิ่งก้าวสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้น,แต่เป็นยอดสุดขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น
ยิ่งเข้าสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธได้เร็วเท่าไหร,ความสําเร็จในอนาคตยิ่งก้าวหน้ามากขึ้นเท่านั้น เรื่องนี้พิสูจน์แล้ว
ในอดีต,จักรพรรดิอัสนี้กลายเป็นระดับขอบเขตกษัตริย์ที่อายุสิบเจ็ด,ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธที่อายุยี่สิบ,ระดับขอบเขตปราชญ์ยุทธที่อายุสามสิบ หลังจากดิ้นรนระหว่างความเป็นและความตาย,ในที่สุเขาก็กลายเป็นระดับขอบเขตจักรพรรดิยุทธที่อายุสี่สิบ,ปกครองทุกสิ่งภายใต้สวรรค์
มีผู้เชี่ยวชาญมากมายในประวัติศาสตร์,แต่ละคนแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม,พวกเขามัดรวมเดียวกัน:พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นระดับขอเขตกษัตริย์ยุทธก่อนอายุยี่สิบ
หากผู้บ่มเพาะพลังไม่สามารถทะลวงถึงระดับขอบเขตกษัตริย์ก่อนอายุ 25,ความสําเร็จในอนาคตของพวกเขาจะถูกจํากัดเอาไว้ที่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ
ในตอนนั้น,มู่หลงชงได้บอกเซี่ยวเฉินเกี่ยวกับเหลิ่งหลิวซ,บอกว่านางจะทําให้โลกตกตะลึงหลังจากที่นางกลับออกมาจากการเก็บตัวฝึกฝน ดูเหมือนว่าเขาจะพูดถูก
สายเลือดที่สืบทอดมาจากจักรพรรดิกระบี่น่าตกตะลึงอย่างแท้จริง
หลิวหรูเยว่กลาาวต่อ “ผู้อายุโสหนึ่งได้ว่งคนไปแจ้งกับสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว เขาอยกาที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อให้สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ส่งคนมา เพื่อปิดรอยแยกมิติที่ศาลากระบี่สวรรค์ลงอย่างสมบูรณ์”
คนของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะมาที่นี่?
เซี่ยวเฉินในที่สุดก็เข้าใจว่าทําไมพวกเขาถึงได้เลื่อนสงครามจัดอันดับออกไป หากคนจากสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาที่นี่จริง,สงครามจัดอันดับก็จะจิดชืดไป
สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์แยกตัวออกจากโลกใบนี้ ตํานานของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์สามารถได้ยินจากทั่วทุกมุมของทวีปเทียนหวี ในสายตาของผู้คน,พวกเขาไม่อาจจับต้องได้
สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ปรากฎมาตั้งแต่ยุคโบราณ พวกเขาอยู่รอดมาหลายหมื่นปี,สืบทอดมรดกของพวกเขาผ่านยุคผ่านสมัย ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่อาจหยั่งถึง,พวกเขาเป็นความหวังสุดท้ายของทวีปเทียนหวี่
มีเหตุการณ์มากมายในประวัติศาสตร์ที่สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์นําคนของพวกเขาต่อต้านเผ่าปีศาจ,ช่วยเหลือมวลมนุษย์
การมาของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะต้องเป็นที่ตกตะลึงไปทั่วอาณาจักรตาฉัน เมื่อเกิดขึ้น,ตระกูลชั้นสูงและนิกายใหญ่ในอาณาจักรต่าฉันทั้งหมดจะต้องเข้ามาเพื่อแสดงความเคารพ
หากอัจฉริยะของขุมอานาจใหญ่เป็นที่โปรดปรานของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์,พวกเขาจะได้รับโชคมหาศาล มีสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ค่อยดูและ,สถานะของพวกเขาจะพุ่งทะยาน
ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรทั้งสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ราชวังเฟิงชิง,ประตูเทพยุทธ,และนครจักรพรรดิขาว-ทําให้เซียวเฉินรู้สึกสะอิดสะเอียนตามสัญชาตญาณ นอกจากนั้น,เขาคือผู้ที่จะขึ้นเป็นใหญ่ ดังนั้นเขาไม่รู้สึกเกรงกลัวพวกเขาแม้แต่น้อย ดังนั้น เขาจึงไม่ได้สนใจอะไรพวกเขานัก
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะได้เห็นความแข็งแกร่งของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทําให้เซี่ยวเฉินสนใจเล็กน้อย เขาอยากจะเห็นว่าความแข็งแกร่งของผู้บ่มเพาะพลังที่มีจิตวิญญาณยุทธสืบทอดเป็นเช่นไร
หลังจากที่เซี่ยวเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง,เขากล่าว “สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะมาที่นี่? หากพวก เขามา,จะเป็นฝ่ายไหน?ราชวังเฟิงชิง,ประตูเทพยุทธ,หรือนครจักรพรรดิขาว?”
หลิวหรูเยาตอบกลับ “รวามเป็นไปได้ที่หนึ่งในพวกเขาจะมามีสูง สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์มักจะมองหาอัจฉริยะในทวีปแห่งนี้เป็นประจํา พรสวรรค์ของเหลิ่งหลิวซูมากพอที่จะดึงดูดพวกเขา แต่จะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์หหน,ข้าไม่แน่ใจ”
หลังจากหัวข้อนี้จบลง,พวกเขาทั้งสองก็พูดคุยกันอีกเป็นเวลานาน มีสองสามครั้งที่เซี่ยวเฉินอยากจะเอ่ยถึงที่นางสูญเสียการบ่มเพาะพลังไปครึ่งพลปี อย่างไรก็ตาม เขาก็อดทนเอาไว้
ในเมื่อหลิวหรูเยว่ไม่อยากที่จะกล่าวถึง,เซี่ยวเฉินก็เพียงฝังมันเอาไว้ในใจ มันเพียงพอแล้วที่เขารู้ถึงเรื่องนี้
ท้องฟ้าเริ่มมืดมิดยิ่งขึ้น,เซียวเฉินลุกขึ้นและขอตัว “ข้าขอกลับก่อน ไม่ว่าจะอย่างไร,ข้าจะคว้าอันดับหนึ่งในสงครามจัดอันดับมาสู่ยอดเขา
หยุน”
หลิวหรูเยวยิ้มอ่อนโยนและกล่าว “เช่นนั้น,ข้าขอขอบคุณเจ้าล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม ในครั้งหน้าที่เจ้ามาหาข้า,เพียงเข้ามาตรงๆ แม้ว่าจะมีต้นไม้มากมายที่นี่,แต่ไม่ใช่ทุกต้นจะมีพลังงานจิตวิญญาณ”
เซียวเฉินยิ้มบางๆ “ไม่จําเป็น,ข้าทะลวงคอขวดของข้าได้แล้ว สําหรับข้า,ต้นไม้นั้นไม่สําคัญอีกต่อไป”
หลังจากที่เซียวเฉินกล่าวจบ,พวกเขามองกันไปมาและยิ้มขึ้น พวกเขาเข้าใจตรงกันโดยไม่ต้องกล่าวอะไร
สําหรับเซียวเฉิน,ต้นไม้นั้นไม่จําเป็นอีกต่อไป กระบี่จู่โจมของหลิวหรูเยว่ไม่เพียงแต่ซีกเข้าที่ต้นไม้ด้านนอกลานของนาง,มันยังทุบกําแพงในใจของเขา
ในเมื่อข้าชอบนาง,ข้าจะแสดงออกไปอย่างกล้าหาญโดยไม่กดข่มอารมณ์ของข้าเอาไว้ หากมัวแต่คิดถึงผลที่จะตามมา เขาก็จะเป็นกังวลเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
ไม่จําเป็นต้องกังวลว่าเขาจะได้พบหลิวหรูเยว่หรือไม่,เขาจะออกไปจากยอดเขาฉิงหยุนหรือไม่ คนที่ข้าชอบอยู่ตรงนี้ เขาจะจดจําเอาไว้ในใจ ไม่ว่าพวกเขาจะห่างไกลกันเท่าไหร่,พวกเขาเพียงต้องรู้อยู่ในใจของพวกเขส
หลังจากทร่เซียวเผอินออกมาจากลานของหลิวหรูเยว่,เขารู้สึกราวกับได้ยกภูเขาออกจากอก
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กล่าวออกมา,แต่มันมีความรู้สึกแปลกประหลาด,เป็นความเข้าใจกันที่เงียบเชียบ;พวกเขาทั้งคู่ต่างรู้ถึงใจของอีกฝ่าย
ขณะที่เซี่ยวเฉินค่อยๆเดินไปตามเส้นทางภูเขาในป่า,เขามองขึ้นไปยังดวงจันทร์ รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ในวันต่อมา นอกจากฝึกหนักและบ่มเพาะพลัง,เซียวเฉินมักจะหาเวลาไปที่ลานของหลิวหรูเยวในตอนกลางคืน
พวกเขาพูดคุยกันถึงทุกสิ่งอย่างภายใต้สวรรค์,ไม่มีสิ่งที่พวกเขาไม่หยิบขึ้นมาพูด พวกเขาสนุกไปกับการพูดคุยกับอีกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันบ่อยที่สุดก็คือความเข้าใจเส้นทางยุทธของพวกเขา หลิวหรูเยวมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเส้นทางยุทธ นางมีประสบการณ์ในการทะลวงขอบเขตกษัตรีย์ยุทธสองครั้ง นางบอกเซียวเฉินทุกอย่างที่เขาต้องรู้เพื่อที่จะไม่เกิดผิดพลาด
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 341 การมาของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ 341 การมาของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ข่าวลือนี้จะเป็นคลื่นใหญ่ที่โถมเข้าใส่ชื่อเสียงของศาลากระบี่สวรรค์ พวกเขาจะไม่มีทางที่จะเลื่อนสงครามจัดอันดับออกไปเว้นเสียแต่ว่าจะไม่มีทางเลือกอื่น
หลิวสุยเฟิงกล่ายต่อ “เรื่องนี้มันแปลกประหลาดยิ่ง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเหตุผลออกมาอธิบาย นอกจากนั้น,แม้แต่การแข่งขันของศิษย์สายนอกก็ถูกเลื่อนออกไป”
เซี่ยวเฉินไตร่ตรองและกล่าว “ไม่จําเป็นต้องไปสนใจ มันก็แค่เลื่อนออกไป,ไม่ใช่ยกเลิก ใช่แล้ว,พี่สายหรูเยว่เป็นอย่างไรบ้างตอนนี้ ข้าไม่ได้เจอนางมาพักหนึ่งแล้ว”
หลิวสุยเฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนในที่สุดก็กล่าวออกมา “ความจริง,นางทําลายปราณของนาง ในครั้งล่าสุดที่นางเปิดใช้งานต่ายกลกระบี่สมบูรณ์โบราณ นางจะไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้เป็นเวลาครึ่งปี เร็วๆมาน,นางได้บํารุงตัวเองด้วยสมุนไพรวิญญาณ มิฉะนั้น,ความเสียหายจะยิ่งมากกว่านี้”
ความตกตะลึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซียวเฉิน เขารู้สึกตัวอยู่แล้วว่ามีอะไรผิดปกติ เป็นเรื่องร้ายแรงถึงเพียงนี้ เซี่ยวเฉินแน่นอนว่าเขารู้ถึงความร้ายแรงที่ต้องเสียเวลาไปถึงครึ่งปี เขาไม่คาดคิดว่าหลิวหรูเยวจะเสียสละตัวเองเช่นนี้เพื่อเขา
“ทําไมเจ้าไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้?” เซี่ยวเฉินน้ําเสียงบนกล่าวโทษ หากเขารู้ว่ามันจะมีผลร้ายแรงเช่นนี้,เซี่ยวเฉินจะไม่มีทางยอมตกลง
หลิวสุยเฟิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าก็อยากจะบอกเจ้า,แต่พี่สาวของข้าไม่ยินยอมให้ข้าบอก หากข้าบอกเจ้าไป,มีเจ้าจะตอบรับนาง?”
เซี่ยวเฉินส่ายหัว เขาลุกขึ้นและอยากจะออกไปตามหาหลิวหรูเยวแต่หลิวสุยเพิ่งรีบห้ามเขาเอาไว้ เขากล่าว “อย่า,พี่สาวของข้านิสัยหัวแข็งเป็นอย่างมาก ในเมื่อนางไม่อยากให้เจ้าร์,เจ้าควรจะทําเป็นเหมือนเจ้าไม่รู้
เซี่ยวเฉินทําได้เพียงนั่งลง พวกเขาทั้งสองพูดคุยกันอีกครู่หนึ่งก่อนที่หลิวสุยเพิ่งจะขอตัวออกไป
เซียวเฉินไม่ได้สนใจที่สงครามจัดอันดับถูกเลื่อนออกไป ตราบใดที่มันไม่ถูกยกเลิก,ก็ไม่เป็นไร เขาก็ไม่ได้เร่งรีบที่จะออกไปจากยอดเขาฉิงหยุนอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่หลิวหรูเยว่เสียการบ่มเพาะพลังไปครึ่งปีทําให้เซี่ยวเฉินนั่งไม่อยู่สุข หากเขาไม่สามารถมองเห็นถึงความตั้งใจของนางในครั้งนี้ เขาก็หัวขี้เลื่อยแล้ว
มนุษย์มีเจ็ดอารมณ์และความปรารถนาหกประการ ไม่มีใครที่สามารถละจากพวกมันได้อย่างแท้จริง ขณะที่พวกเขาอยู่ในโลกมนุษย์ อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินจะแสร้งทํามันง่ายๆได้อย่างไร?
ตอนนี้ตกดึกแล้ว เซียวเฉินหยุดการบ่มเพาะพลังและกระโดดออกจากลานของเขา เป็นอีก ครั้ง,เขามาที่ต้นไม้ใหญ่ด้านนอกลานของหลิวหรูเยา
แสงจันทร์งดงามฉายลงบนพื้น หลิวหรูเยว่อยู่ในลาน,ทําอย่างเดียวกับที่นางทําเหมือนในอดีต,ฝึกฝนทักษะกระบี่
กระบี่แสงลอยไปทั่วทุกที่, พลังงานอันแข็งแกร่งเติมเต็มบริเวณโดยรอบ หลังจากที่หลิวหรูเยว่เลื่อนสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,กระบี่ฉีของนางยอดเยี่ยมกว่าในอดีตอย่างชัดเจน
เมื่อกระบี่ฉีเคลื่อนไหวไปในอากาศ,มันราวกับอากาศถูกตัดแยก, เกิดเป็นระลอกคลื่นเล็กๆ
“ฟุ ฟิว!”
ปราศจากสัญญาณเตือน,กระบี่รุ่งโรจน์เส้นหนึ่งบินไปยังต้นไม่ใหญ่ที่เซียวเฉินยืนอยู่ มัน เคลื่อนผ่านห้าร้อยเมตรในพริบตา
“ปะ ปะ!” ต้นไม้ใหญ่ลําต้นถูกตัดขาดภายในทันที,เผยตัวของเซี่ยวเฉินที่อยู่ด้านหลัง
หลิวหรูเยว่ารบพุ่งเข้ามา เมื่อนางเห็นว่านั้นคือเซียวเฉิน,นางถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้น,นางก็เก็บกระบี่ลงผัก นางถามขึ้น “เย่เฉิน,ทําไมเจ้าซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้นี้?”
เซี่ยวเฉินรู้สึกอับอายอย่างไม่น่าเชื่อ รอยสีแดงปรากฏขึ้นบนใบหน้าละเอียดอ่อนของเขาในทันที ตัวเขาที่นิ่งสงบเป็นปกติหายไปแล้ว
เซี่ยวเฉินถูกจับได้ขณะที่มาแอบดู ไม่มีอะไรน่าอับอายไปยิ่งกว่านี้อีกแล้ว
เซียวเฉินยืนขึ้นบนต้นไม้หักและเสียงตะกุกตะกักอยู่นานก่อนที่จะกล่าวขึ้น “ใช่แล้ว ทําไมข้าถึงมาซ่อนอยู่หลังต้นไม่? น่าแปลก”
หลิวหรูเยวมองไปยังเซี่ยวเฉอนที่ขวยเขินแล้วก็รู้สึกขบขัน นางยิ้มและกล่าว “ที่จริงแล้ว,ต้นไม้ต้นนี้มีพลังงานจิตวิญญาณสวรรค์ เมื่อขึ้นไปยืนข้างบน,มันจะทําให้จิตใจสงบ มันเป็นสถานที่ที่ดีในการทําความเข้าใจและทะลวงคอขวด เย่เฉิน,เจ้ากําลังทําความเข้าใจทักษะต่อสู้อยู่,ใช่หรือไม่?”
เซี่ยวเฉินค่อยๆสงบและยิ้มขึ้น “ใช่ ใช่แล้ว หรูเยว่,ข้าไม่คาดคิดว่าเจ้าจะรู้ที่ลับแห่งนี้ด้วย ต้นไม้นี่มันมีประโยชน์มาก ข้าเกือบจะทะลวงคอขวดของข้าได้แล้ว”
หลิวหรูเยว่เผยรอยยิ้มซุกซนบนใบหน้าอันทรงเสน่ห์ของนาง จากนั้น,นางก็กล่าวด้วยท่าทางจริงจัง “เมื่อเป็นเช่นนั้น,ข้าต้องขอโทษเจ้า ข้าไม่ควรขัดจังหวะเจ้าเมื่อครู่นี้ ข้าถึงกับทําลายต้นไม้ วิญญาณของเจ้า ข้าต้องขออภัยจริงๆ”
น้ําเสียงของหลิวหณเยวสงบอาการตื่นตกใจของเซี่ยวเฉินลง เขายิ้มบางๆและกล่าว “ไม่มีปัญหา หลังจากที่ต้นนี่ล้มลง,พลังงานจิตวิญญาณจะรั่วออกมา มันยิ่งดีกับการทะลวงคอขวด เพียงแต่หลังจากนี้มันก็จะไม่มีประโยชน์อีก”
หลิวหรูเยวพยักหน้าและกล่าว “เช่นนั้นเจ้าควรจะอยู่ที่นี่และจดจ่อไปกับการทําความเข้าใจ ข้าจะออกมาตรวจดูเจ้าในตอนเช้า”
เซี่ยวเฉินรู้สึกอับอายในใจ ต้นไม้ต้นนี้มีพลังงานจิตวิญญาณจริงๆเสียเมื่อไหร่ หากเขาต้องยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคืน, มันยากที่จะทน”
“ฟุฟว!”
เซียวเฉินกระโดดลงมาจากต้นไม้ที่หักและลงจอดอย่างนิ่มนวลตรงหน้าของหลิวหรูเยว่ หลิวหรูเยวพยักหน้าพร้อมยิ้มขึ้น “ผู้กล้าน้อยเย่,ทําไมท่านไม่อยู่ทําความเข้าใจของเจ้าต่อ?”
เซียวเฉินยิ้มอย่างขวยเขิน “หรูเยว,โปรดอย่าล้อข้า”
หลิวหรเยวระเบิดเสียงหัวเราะออกมาและกล่าว “เอาล่ะ,ข้าไม่หยอกเจ้าเล่นแล้ว เข้ามาก่อน มีเรื่องอะไร?”
หลังจากที่มาถึงลานของหลิวหรูเยาและลงนั่งที่,เซี่ยวเฉินบอกนางเกี่ยวกับที่หลิวสุยเฟิงเล่าให้เขาฟังเรื่องสงครามจัดอันดับถูกเลื่อนออกไป
หลิวหรูเยว่กล่าวเสียงนุ่ม “ข้ารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ มันไม่ได้มีเหตุผลอะไรพิเศษ กําลังคนจํานวนมากต้องจัดการกับอีกงานที่เหมือนสงครามจัดอันดับศิษย์ชั้นใน เกือบทั้งหมดนิกายจะต้องเข้าร่วม ศาลากระบี่สวรรค์ไม่มีทางที่จะจัดการสองงานใหญ่ภายในเวลาสั้นๆ”
เซี่ยวเฉินรู้สึกสงสัยและถามขึ้น “เจ้ากําลังจกบอกว่า ยังมีงานอื่น,ที่ยิ่งใหญ่กว่าสงครามจัดอันดับศิษย์ชั้นใน? มันคืออะไร?”
หลิวหรเยวพยักหน้า “เรื่องนี้ควรจะเป็นความลับในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม,ไม่มีปัญหาที่จะบอกเจ้า เหลิ่งหลิวซูออกจากการเก็บตัวฝึกฝนของนางแล้ว นางในตอนนี้อยู่ระดับยอดสุดขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น”
เซี่ยวเฉินนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบสนอง เหลิงหลิวซูอายุเพียงสิบเจ็ดปี กระนั้น,ขอบเขตพลังของนางในตอนนี้อยู่ที่ระดับยอดสุดขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น นอกจากค่าว่าปีศาจ,ไม่มีค่าอื่นเพียงพอที่จะเล่าถึงพรสวรรค์ของนาง
ขอบเขตพลังที่หลายคนไม่อาจก้าวไปถึงตลอดชีวิตแต่เหลิ่งหลิวซูสําเร็จได้ตั้งแต่อายุสิบเจ็ด นอกจากนั้น ยังไม่ใช่เพิ่งก้าวสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้น,แต่เป็นยอดสุดขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น
ยิ่งเข้าสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธได้เร็วเท่าไหร,ความสําเร็จในอนาคตยิ่งก้าวหน้ามากขึ้นเท่านั้น เรื่องนี้พิสูจน์แล้ว
ในอดีต,จักรพรรดิอัสนี้กลายเป็นระดับขอบเขตกษัตริย์ที่อายุสิบเจ็ด,ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธที่อายุยี่สิบ,ระดับขอบเขตปราชญ์ยุทธที่อายุสามสิบ หลังจากดิ้นรนระหว่างความเป็นและความตาย,ในที่สุเขาก็กลายเป็นระดับขอบเขตจักรพรรดิยุทธที่อายุสี่สิบ,ปกครองทุกสิ่งภายใต้สวรรค์
มีผู้เชี่ยวชาญมากมายในประวัติศาสตร์,แต่ละคนแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม,พวกเขามัดรวมเดียวกัน:พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นระดับขอเขตกษัตริย์ยุทธก่อนอายุยี่สิบ
หากผู้บ่มเพาะพลังไม่สามารถทะลวงถึงระดับขอบเขตกษัตริย์ก่อนอายุ 25,ความสําเร็จในอนาคตของพวกเขาจะถูกจํากัดเอาไว้ที่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ
ในตอนนั้น,มู่หลงชงได้บอกเซี่ยวเฉินเกี่ยวกับเหลิ่งหลิวซ,บอกว่านางจะทําให้โลกตกตะลึงหลังจากที่นางกลับออกมาจากการเก็บตัวฝึกฝน ดูเหมือนว่าเขาจะพูดถูก
สายเลือดที่สืบทอดมาจากจักรพรรดิกระบี่น่าตกตะลึงอย่างแท้จริง
หลิวหรูเยว่กลาาวต่อ “ผู้อายุโสหนึ่งได้ว่งคนไปแจ้งกับสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว เขาอยกาที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อให้สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ส่งคนมา เพื่อปิดรอยแยกมิติที่ศาลากระบี่สวรรค์ลงอย่างสมบูรณ์”
คนของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะมาที่นี่?
เซี่ยวเฉินในที่สุดก็เข้าใจว่าทําไมพวกเขาถึงได้เลื่อนสงครามจัดอันดับออกไป หากคนจากสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาที่นี่จริง,สงครามจัดอันดับก็จะจิดชืดไป
สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์แยกตัวออกจากโลกใบนี้ ตํานานของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์สามารถได้ยินจากทั่วทุกมุมของทวีปเทียนหวี ในสายตาของผู้คน,พวกเขาไม่อาจจับต้องได้
สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ปรากฎมาตั้งแต่ยุคโบราณ พวกเขาอยู่รอดมาหลายหมื่นปี,สืบทอดมรดกของพวกเขาผ่านยุคผ่านสมัย ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่อาจหยั่งถึง,พวกเขาเป็นความหวังสุดท้ายของทวีปเทียนหวี่
มีเหตุการณ์มากมายในประวัติศาสตร์ที่สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์นําคนของพวกเขาต่อต้านเผ่าปีศาจ,ช่วยเหลือมวลมนุษย์
การมาของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะต้องเป็นที่ตกตะลึงไปทั่วอาณาจักรตาฉัน เมื่อเกิดขึ้น,ตระกูลชั้นสูงและนิกายใหญ่ในอาณาจักรต่าฉันทั้งหมดจะต้องเข้ามาเพื่อแสดงความเคารพ
หากอัจฉริยะของขุมอานาจใหญ่เป็นที่โปรดปรานของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์,พวกเขาจะได้รับโชคมหาศาล มีสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ค่อยดูและ,สถานะของพวกเขาจะพุ่งทะยาน
ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรทั้งสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ราชวังเฟิงชิง,ประตูเทพยุทธ,และนครจักรพรรดิขาว-ทําให้เซียวเฉินรู้สึกสะอิดสะเอียนตามสัญชาตญาณ นอกจากนั้น,เขาคือผู้ที่จะขึ้นเป็นใหญ่ ดังนั้นเขาไม่รู้สึกเกรงกลัวพวกเขาแม้แต่น้อย ดังนั้น เขาจึงไม่ได้สนใจอะไรพวกเขานัก
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะได้เห็นความแข็งแกร่งของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทําให้เซี่ยวเฉินสนใจเล็กน้อย เขาอยากจะเห็นว่าความแข็งแกร่งของผู้บ่มเพาะพลังที่มีจิตวิญญาณยุทธสืบทอดเป็นเช่นไร
หลังจากที่เซี่ยวเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง,เขากล่าว “สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะมาที่นี่? หากพวก เขามา,จะเป็นฝ่ายไหน?ราชวังเฟิงชิง,ประตูเทพยุทธ,หรือนครจักรพรรดิขาว?”
หลิวหรูเยาตอบกลับ “รวามเป็นไปได้ที่หนึ่งในพวกเขาจะมามีสูง สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์มักจะมองหาอัจฉริยะในทวีปแห่งนี้เป็นประจํา พรสวรรค์ของเหลิ่งหลิวซูมากพอที่จะดึงดูดพวกเขา แต่จะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์หหน,ข้าไม่แน่ใจ”
หลังจากหัวข้อนี้จบลง,พวกเขาทั้งสองก็พูดคุยกันอีกเป็นเวลานาน มีสองสามครั้งที่เซี่ยวเฉินอยากจะเอ่ยถึงที่นางสูญเสียการบ่มเพาะพลังไปครึ่งพลปี อย่างไรก็ตาม เขาก็อดทนเอาไว้
ในเมื่อหลิวหรูเยว่ไม่อยากที่จะกล่าวถึง,เซี่ยวเฉินก็เพียงฝังมันเอาไว้ในใจ มันเพียงพอแล้วที่เขารู้ถึงเรื่องนี้
ท้องฟ้าเริ่มมืดมิดยิ่งขึ้น,เซียวเฉินลุกขึ้นและขอตัว “ข้าขอกลับก่อน ไม่ว่าจะอย่างไร,ข้าจะคว้าอันดับหนึ่งในสงครามจัดอันดับมาสู่ยอดเขา
หยุน”
หลิวหรูเยวยิ้มอ่อนโยนและกล่าว “เช่นนั้น,ข้าขอขอบคุณเจ้าล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม ในครั้งหน้าที่เจ้ามาหาข้า,เพียงเข้ามาตรงๆ แม้ว่าจะมีต้นไม้มากมายที่นี่,แต่ไม่ใช่ทุกต้นจะมีพลังงานจิตวิญญาณ”
เซียวเฉินยิ้มบางๆ “ไม่จําเป็น,ข้าทะลวงคอขวดของข้าได้แล้ว สําหรับข้า,ต้นไม้นั้นไม่สําคัญอีกต่อไป”
หลังจากที่เซียวเฉินกล่าวจบ,พวกเขามองกันไปมาและยิ้มขึ้น พวกเขาเข้าใจตรงกันโดยไม่ต้องกล่าวอะไร
สําหรับเซียวเฉิน,ต้นไม้นั้นไม่จําเป็นอีกต่อไป กระบี่จู่โจมของหลิวหรูเยว่ไม่เพียงแต่ซีกเข้าที่ต้นไม้ด้านนอกลานของนาง,มันยังทุบกําแพงในใจของเขา
ในเมื่อข้าชอบนาง,ข้าจะแสดงออกไปอย่างกล้าหาญโดยไม่กดข่มอารมณ์ของข้าเอาไว้ หากมัวแต่คิดถึงผลที่จะตามมา เขาก็จะเป็นกังวลเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
ไม่จําเป็นต้องกังวลว่าเขาจะได้พบหลิวหรูเยว่หรือไม่,เขาจะออกไปจากยอดเขาฉิงหยุนหรือไม่ คนที่ข้าชอบอยู่ตรงนี้ เขาจะจดจําเอาไว้ในใจ ไม่ว่าพวกเขาจะห่างไกลกันเท่าไหร่,พวกเขาเพียงต้องรู้อยู่ในใจของพวกเขส
หลังจากทร่เซียวเผอินออกมาจากลานของหลิวหรูเยว่,เขารู้สึกราวกับได้ยกภูเขาออกจากอก
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กล่าวออกมา,แต่มันมีความรู้สึกแปลกประหลาด,เป็นความเข้าใจกันที่เงียบเชียบ;พวกเขาทั้งคู่ต่างรู้ถึงใจของอีกฝ่าย
ขณะที่เซี่ยวเฉินค่อยๆเดินไปตามเส้นทางภูเขาในป่า,เขามองขึ้นไปยังดวงจันทร์ รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ในวันต่อมา นอกจากฝึกหนักและบ่มเพาะพลัง,เซียวเฉินมักจะหาเวลาไปที่ลานของหลิวหรูเยวในตอนกลางคืน
พวกเขาพูดคุยกันถึงทุกสิ่งอย่างภายใต้สวรรค์,ไม่มีสิ่งที่พวกเขาไม่หยิบขึ้นมาพูด พวกเขาสนุกไปกับการพูดคุยกับอีกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันบ่อยที่สุดก็คือความเข้าใจเส้นทางยุทธของพวกเขา หลิวหรูเยวมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเส้นทางยุทธ นางมีประสบการณ์ในการทะลวงขอบเขตกษัตรีย์ยุทธสองครั้ง นางบอกเซียวเฉินทุกอย่างที่เขาต้องรู้เพื่อที่จะไม่เกิดผิดพลาด
Comments