Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 356 จิตวิญญาณไร้ขอบเขต
ตอนที่ 356 จิตวิญญาณไร้ขอบเขต
เปลวเพลิงสีแดงไร้รูปปกคลุมทั่วทั้งร่างของหลัวหลี่ อุณหภูมิภายในสนามประลองเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไอเย็นที่เคลือบพื้นผิวของสนามประลองค่อยๆระเหยออกไปเพราะความร้อน
เซี่ยวเฉินรู้สึกราวกับรองเท้ากาววายุของเขาเป็นเตาอบ:มันร้อนรนจนเท้าของเขาทนไม่ไหว
ในทันทีก่อนที่เซียวเฉินจะใช้พลังปราณป้องกันเท้าของเขา,สายลมเย็นพัดเป่าภายในรองเท้าก้าววายุ ความร้อนลดลงทัน
เซียวเฮินไม่คาดคิดว่ารอบเท้าก้าววายุจะมีความสามารถเช่นนี้ มันช่วยเซียวเฉินเอาไว้ เมื่อเขาสังเกตเห็นดังนั้น เขาหยุดหมุนเวียนพลังปราณลงไปที่เท้าของเขา
“ดาบฉีวิหคสีชาดของกระบวณท่านี้บรรจุสภาวะสูงสุดของข้า ลองดูว่าเจ้าจะทําลายมันลงได้อย่างไร” หลัวหลี่ท้าทายอย่างเย็นชาขณะที่กระแสพลังของเขาเร่งถึงขีดสุด
ทั่วทั้งร่างของหลัวหลี่เป็นดาบที่เฉียบคม,ร้อนแรง จากนั้นเขาก็ชี้สองนิ้วไปที่เซี่ยวเฉิน
ดาบฉีสีแดงมืดปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วและปลดปล่อยเสียงโซนิคบมออกมาพร้อมกับตรงไปที่ เซี่ยวเฉิน มันเร็วใกล้เคียงกับความเร็วเสียง
ดาบฉีสีแดงมืดที่บรรจสภาวะที่เฉียบคมอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนที่มันจะได้เข้ามาใกล์,เซี่ยวเฉินก็สามารถสัมผัสได้ถึงความคมของมัน
เซี่ยวเฉินก้าวถอยหลังและหลบหลีกมันด้วยความเร็วสูง เซียวเฉินตัดสินใจหลบดาบเล่มนี้ไปก่อน
“ซี่ ซี่!”
รลึก,ขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือปรากฏขึ้นในจุดที่เซี่ยวเฉินเคยยืนอยู่ในทันที มันเจาะทะลวงเหล็ก น้ําค้างเหมันต์ได้มีไอร้อนระอุพวยพุ่งออกมาจากรู
“ชิ! ชิ! ชิ!”
เส้นดาบฉีสีแดงมีดร่วงลงมาจากท้องฟ้าราวกับห่าฝน เซียวเฉินล่าถอยต่อไปเรื่อยๆ
“เจ้าคิดว่าจะหนีพ้น? ฮ่าฮ่า! กระบวณท่านี้ของข้ามีดาวฉีทั้งหมดหนึ่งพันเล่ม เจ้าคิดว่าจะหนีพ้น? ยืนนิ่งๆยอมรับความตายไปซะ”
เมื่อหลัวหลี่เห็นเซี่ยวเฉินที่หลบเลี่ยงไปมาไม่จบสิ้น,เขาหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้ายขณะที่ วิหคสีชาดที่ด้านหลังของเขายังคงกระพือปีกของมันต่อไป
เซี่ยวเฉินมองไปที่วิหคสีชาดที่กําบังพือปีก;เขาครุ่นคิดลึก เขาพึมพํากับตัวเอง “เป็นเช่นนี้นี่เอง”
ทันใดนั้น,เท่าของเซียวเฉินก็หลุดลง;เขาถอยมาถึงที่ขอบสนามประลองแล้ว ทุกคนที่อยู่บนอัฒจันทร์รู้สึกราวกับหัวใจเต้นทะลุมาถึงคอของพวกเขา; พื้นที่ตกสู่ความเงียบ
เป็นไปได้ว่าเย่เฉินจะไม่ผ่านการทดสอบ? ทุกคนสงสัยใจคอไม่ดี
สภาวะแห่งสายฟ้ารวมตัวหมุนวนบนท้องฟ้า เสียงสายฟ้าคํารามสะท้อนไปมาไม่หยุด
“สับประกายแสง!” เซียวเฉินรองตะโกนและกวาดกระบี่ของเขาอย่างดุดัน กระบี่ฉีสีม่วงลอยออกมาในรูปโค้งยาว เป้าหมายของเส้นแสงนี้คือภาพร่างวิหคสีชาดที่ด้านหลังของหลัวหลี่
“ซี!”
มีเสียงกรีดร้องเจ็บปวดราวกับสายฟ้าซัดลงบนร่างของวิหคสีชาด
“ปัง!”
เมื่อวิหคสีชาดถูกจู่โจม,มันเหมือนกับการโจมตีได้ตกลงบนร่างของหลัวหลี่ด้วยเช่นกัน เขาร่วงหล่นลงสู่พื้นอย่างรุนแรงสีหน้าซีดเซียว
ดาบที่เติมเต็มบนท้องฟ้าลบหายไป เซี่ยวเฉินยิ้มขึ้นบางๆ,เสื้อคลุมสีขาวของเขาโบกสะบัดไปตามสายลมอ่อนโยน พร้อมกับเขาก้าวขึ้นหน้า
“ช่างน่ารังเกียจ!” หลัวหลี่ร้องขึ้นเมื่อเขาเห็นเซี่ยวเฉิน เขาทุบฝ่ามือขวาของเขาลงพื้นอย่างรุนแรง
“ฟุ ฟิว!”
ทันใดนั้น,วิหคเพลิงสีแดงนับไม่ถ้วนบินออกมา พวกมันร้องเจี๊ยวจ๊าวไม่หยุด วิหคเพลิงสีแดงลอยเต็มไปในอากาศ
วิหคเพลิงแต่ละตัวสามารถระเบิดเนินเขาลูกเล็กได้อย่างง่ายดาย ด้วยจํานวนถึงเพียงนี้ พวกเขาสามารถทําลายภูเขาได้ทั้งลูก
“หวี่ขุยแปลงรูปฉี!”
เซี่ยวเฉินกวัดแกว่งกระบี่ของเขาและด้าวขึ้นหน้าอย่างต่อเนื่อง,ทีละก้าว
ต้นหว่ขยศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าและเปลี่ยนกลายเป็นเส้นกระบี่ฉีสีม่วงหนาแน่น กระบี่ฉีสีม่วงลอยไปมาอย่างยุ่งเหยิงในอากาศ,สลายวิหคเพลิงแตกเป็นประกายไฟ
ประกายแสงเติมเต็มไปบนท้องฟ้า เสียงระเบิดหนาแน่นดังสะท้อนในหูของเซียวเฉิน
สีหน้าของเซี่ยวเงินคงนิ่งฝีเท้าของเขาไม่ช้าไม่เร็ว ชุดสีขาวปลิวไหลขณะที่เขาเดินหน้าไปหาหลัวหลี่
“ฮ่าฮ่า! เจ้ากล้าเข้ามาใกล้ข้า เจ้าคิดว่ากระบวณท่าได้จบลงแล้ว? ปักษาบูชาฟินิกซ์,ผสาน!”
ประกายแสงนับไม่ถ้วนในอากาศเข้ามารวมตัวกันที่จุดเดียวในทันที กระแสพลังอันน่ากลัวแทรกซึมเข้ามาในสนามประลอง วิหคสีชาดแดงเพลิงก่อตัวขึ้นในอากาศอย่างรวดเร็ว
“ทะลงงฉีหรูขุย,ทําลาย!”
เซี่ยวเฉินยังคงหน้านิ่งเช่นเดิม,และเขาไม่ได้ชลอฝีเท้าลงแม้แต่น้อย เขาประสานมือด้วยมือซ้าย,และพลังงานสีม่วงที่หลงเหลืออยู่ในอากาศก็เข้ามารวมตัวกันในทันที
กระบี่ฉีสีม่วงหนานแน่นบินออกไปอย่างรวดเร็วก่อนที่วิหคสีชาดจะก่อตัวขึ้นเสียอีก มันใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการทําลายร่างที่หลัวหลี่สร้างขึ้นมา
ไม่ดีแล้ว,ผู้อายโสเหยียนครุ่นคิด,ขณะที่มองดูเซียวเฉินเดินขึ้นหน้าไปอย่างเชื่องช้าและนิ่งสงบ
สีหน้าของผู้อาวุโสเหยียนเปลี่ยนเล็กน้อย เขาสื่อสารกับคนที่อยู่ด้านหลังของเขาอย่างลับๆ,หลัวหวง,หลัวหลี่อาจจะพ่ายแพ้ในไม่ช้า เตรียมพร้อมลงมือ
“สามกระบวณท่าผ่านไปแล้ว และข้าทําลายลงได้ทั้งหมด ดื้อดึงต่อไปมีแต่จะอับอาย ข้าหวังว่าเจ้าจะทนรับข้าได้สามกระบวณท่า” เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างเยอกเย็นกับหลัวหลี,ผู้ที่ไม่อยากจะเชื่อ
หลัวหลี่ได้กล่าวเช่นเดียวกันกับคนที่เขาส่งลอยออกไปนอกสนามประลองเมื่อครู่ เมื่อเขาได้ ยินเซียวเฉินน่ามาย้อนใส่เขา เขารู้สึกอับอาย
“เจ้าคิดว่าเจ้าชนะแล้ว? ข้ายังไม่ได้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ของข้า ไอ้คนต่ําต้อยเช่นเจ้ารู้ถึงความน่า กลัวของพลังศักดิ์สิทธิ์?” หลัวหลี่กล่าวอย่างโหดเหี้ยม
เดิมที่,หลัวหลี่คิดว่าเขาสามารถล้มคู่ต่อสู้ลงได้โดยไม่ต้องใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ ด้วยวิธีนี้ เขาสามารถทําให้คู่ต่อสู้อับอายได้ยิ่งกว่า ดูเหมือนว่าคนที่ต้องขายหน้า,จะเป็นตัวเขาเองแล้ว
วิหคสีชาดที่จุดตันเที่ยนของหลัวหลี่ร้องคําราม ทันใดนั้น,พลังยิงพลังศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังไปที่เซี่ยวเฉิน
“มังกรฟ้าเมฆาทะยานเก่าร่างมังกรสัญจร!”
เซียวเฉินดีดตัวออกจากพื้นและแบ่งออกเป็นเก้าร่างในทันที สายลมเย็นเก้าสายพัดผ่านในสนรมประลอง เซียวเฉินปิดซ่อนเจตนาฆ่าฟันของเขาเอาไว้อย่างสมบูรณ์ ไม่รู้สึกถึงเจตนาฆ่าฟันแม้แต่นิดเดียว
เป็นไปได้อย่างไร? พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ผลมาตลอดไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย การเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ไม่อาจคาดเดาได้ ดูเหมือนพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ส่งผลต่อเขาแม้แต่น้อย
สีหน้าของหลัวหลี่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกลัว เขารีบล่าถอย,แต่ร่างทั้งเก้าได้เข้ามาปิดล้อมตัวเขาแล้ว
สายลมได้ปิดซ่อนเจตนาฆ่าฟันไม่มีทางให้เขาหลบหนี
ร่างทั้งเก้าผสานกันในอากาศ,และเจตนาฆ่าฟันที่ถูกลบหายไประเบิดออกมาในทันที มันโหมกระหน่ําครอบคลุมไปทั่วทั้งสนามประลองไม่มีที่ให้หลบซ่อน
นี่เป็นครั้งแรกที่หลัวหลี่รู้สึกถึงความตายที่จ่อเข้ามาใกล้คอของเขาขนาดนี้ ปราศจากพลังศักดิ์สิทธิ์,เขาไม่ใกล้เคียงกับค่าว่าอัจฉริยะ ความแข็งแกร่งของพวกเขาใกล้เคียงหรืออาจจะต่ํากว่าต้วนมู่ฉิงกับคนอื่นๆไปอีก
ตอนนี้พลังศักดิ์สิทธิ์ของหลัวหลไม่มีผล,ความคิดของเขาว้าวุ่น นอกจากนั้น
ยังมีเจตนาฆ่าฟันที่โถมเข้าใส่เขา
กระบี่สีขาวหิมะเรืองแสงรุ่งโรจน์ขึ้นในทันที จากนั้น,มันแทงลงไปที่หน้าอกของหลัวหลี,ห่างจากหัวใจของเขาไปสิบเซนติเมตร
นี่เป็นความเมตตาของเซี่ยวเฉิน มิฉะนั้น,กระบี่นี้แทงทะลุหัวใจของเขาไปแล้ว
วิหคสีชาดที่ปักด้วยลวดลายสีทองบนชุดสีแดงของหลัวหลี่เรืองแสงสีทองขึ้น ทําให้กระบี่ของเซียวเฉินไม่อาจเจาะทะลุหน้าอกของเขาได้
นี้จะต้องเป็นสมบัติลับอย่างแน่นอน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ช่างใจกว้าง แม้แต่ศิษย์ชั้นนอกก็มีสมบัติลับป้องกันในครอบครอง,เซี่ยวเฉินครุ่นคิด
เม็ดสีกลับมาบนใบหน้าอันซีดเซียวของหลัวหลี่ เขาหัวเราะอย่างเย็นชา “ข้าเกือบลืมไป ข้ามีสมบัติลับเจ้าไม่อาจทําอันตรายข้าได้ เสื้อคลุมยาวนี้ทําขึ้นมาโดยการเลียนแบบสมบัติลับโบราณ,เสื้อหยกด้ายทอง”
“ไม่มีประโยชน์ที่จะอธิบายให้เจ้าฟัง;เจ้ามันคนต่ําแดนนอก เจ้าไม่รู้แม้แต่ว่าสมบัติลับชิ้นนี้มัน คืออะไร ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
หยิ่งยโส:คนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หยิ่งยโสอย่างไม่น่าเชื่อ,เซียวเฉินหมดคําพูด ด้วยการนึกคิด,เขารีบปลดปล่อยสายสภาวะแห่งการฆ่าล้างออกมาจากบัลลังก์สีแดง
รอยยิ้มของหลัวหลีแข็งที่อ ร่องรอยสีแดงปรากฏขึ้นบนกระบี่แสงสีม่วงแพราวพราว
ปลายกระบีแมงทะลุเสือของเขาอย่างง่ายดาย,สายเลือดไหลออกมาจากบาดแผลของเขา
36
หลัวหลี่จับคมกระบี่เอาไว้ด้วยมือของเขาและตื่นกลัว “ข้าบาดเจ็บได้อย่างไร? ไอ้คนต่าแดน นอกนี่สามารถทําให้ข้าบาดเจ็บ”
“กระบวณท่าแรก!”
เซี่ยวเฉินดึงกระบีของเขากลับมาในทันที หยดเลือดบนคมกระบีของเขาหยดลงบนสนามประลอง
“ปัง!”
เซี่ยวเฉินยกเท้าขวาของเขาขึ้นและกระทืบลงไปอย่างรุนแรง หลังจากที่สลักร่างพยัคฆ์มังกรขึ้นมาถึงระดับสมบูรณ์ นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยวเฉินดึงพละกําลังกายของเขาออกมาใช้อย่างเต็มที่
รอยแตกนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนเหล็กน้ําค้างเหมันต์ที่เคลือบสนามประลองเอาไว้ รอยแตกขยายออกไปอย่างรวดเร็ว,และเศษเหล็กน้ําค้างเหมันต์นับไม่ถ้วนกระเด็นขึ้นไปในอากาศ
หลังมหาศาลดึดหลัวหลีขึ้นไปในอากาศ สีหน้าของเขายิ่งซีดเซียว,และเขากระอักเลอดออกมาคําใหญ่
เท้ากระทืบนี้มีพลังกว่า 50,000 กิโลกรัม หากเซียวเฉินกระทับลงไปบนหน้าอกของหลัวหลีโดยตรง,เขาสามารถบดขยอวัยวะภายในของหลัวหลี่,ทําให้เขาสาหัสหรือตกตายได้ในทันที
“กระบวณท่าที่สาม:ข้าจะส่งฝ่ามือคืนให้กับเจ้า ศาลากระบี่สวรรค์ไม่ใช่ขยะ เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะกล่าวเช่นนั้น สําหรับตัวเจ้าที่ไม่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ต่างหากที่เป็นขยะ”
ที่ด้านบนฐานดาดฟ้า,หลัวหวงสีหน้าเปลี่ยน เขาดีดตัวออกจากพื้นเปลี่ยนเป็นเส้นล่าแสงสีแดง,เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาร้องตะโกนขึ้น “หยุด!”
เซี่ยวเฉินเมินเฉยและซัดฝ่ามือลงไปบนหน้าอกของหลัวหลี่ มันส่งตัวหลัวหลอยกลับหลังไปราวกับลูกปืนใหญ่
หลัวหวงรับตัวหลัวหลี่เอาไว้กลางอากาศ อย่างไรก็ตาม,เขาไม่คาดคิดว่าพลังที่ซัดเข้าจะดุร้ายถึงเพียงนี้ มันราวกับเขารับภูเขาเอาไว้ทั้งลูก
เสียงตบดังสะท้อนที่หน้าอกของหลัวหวง เขาพุ่งขึ้นไปในอากาศและหมุนตัวเพื่อสลายแรง
“เยี่ยม!”
ในตอนนี้ เหล่าผู้บ่มเพาะพลังบนอัฒจันทร์ไม่อาจกดความตื่นเต้นเอาไว้ในใจได้อีกต่อไป พวกเขาตะโกนออกมาสุดเสียง
มีผู้บ่มเพาะพลังหลายคนที่ถูกหลัวหลี่ส่งออกนอกสนามประลองในฝ่ามือเดียว พวกเขาเสียหน้าเป็นอย่างมาก
มีหลายคนที่คับข้องใจพวกเขาอยากจะซัดฝ่ามือคืนหลัวหลี แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่แข็งแกร่งเพียงพอ
ฝ่ามือและคําพูดของเซี่ยวเฉินเมื่อคร่,เป็นสิ่งที่พวกเขาอยากจะพูด,เซียวเฉินช่วยให้พวกเขาคลายความหงุดหงิดลงได้บ้าง หลังจากที่ได้ระบาย,พวกเขารู้สึกผ่อนคลายลงอย่างไม่น่าเชื่อ
บนฐานดาดฟ้า,หลิวหรูเย่มองดูเซี่ยวเฉินที่อยู่ในชุดสีขาว มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ นาง
ที่โต๊ะน้ําชาที่อยู่ไม่ไกลออกไปนัก, หยุนเข่อซิน,ผู้ที่อยู่ในชุดคลุมสีขาว,มีสีหน้าท่าทางเดียวกับหลิวหรูเยว่ขณะที่นางมองดูเซียวเฉิน
หยุนเข่อซินเผยรอยยิ้มบนใบหน้าอันละเอียดอ่อนของนาง นางกล่าวเบาๆ “นี่คือมือกระบี่ที่แท้จริง ช่างหัวดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หากเจ้าทําให้ข้าอับอาย,ข้าจะเอาคืนเป็นสิบเท่าหรือแม้กระทั่งหนึ่งร้อยเท่า”
เหนือขึ้นไปหนึ่งหมื่นเมตร,ท่ามกลางหมู่เมฆ มีเรือสงครามสีทองกําาลังลอยอยู่อย่างเงียบเชียบ ธงสีทองบนหัวเรือโบกสะบัด นี่เป็นเรือธงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกองทัพจักรวรรดิมังกร
องค์หญิงหยิงเยว่ยืนนิ่งอยู่บนดาดฟ้าเรือ นางสวมชุดเกราะศึกสีทองและกําลังเล่นอยู่กับรูปสลักไม้อันหนึ่ง
เป็นรูปสลักหญิงสาวในชุดสีแดง นางเป็นหญิงสาวที่เป็นตัวแทนของความงดงามสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาที่สุกสกาวของนางดวงตาคู่นี้ทําให้รูปสลักราวกับมีชีวิตแสดง แต่ให้ว่าประติมากรรมชิ้นนี้งดงามถึงเพียงใด
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 356 จิตวิญญาณไร้ขอบเขต
ตอนที่ 356 จิตวิญญาณไร้ขอบเขต
เปลวเพลิงสีแดงไร้รูปปกคลุมทั่วทั้งร่างของหลัวหลี่ อุณหภูมิภายในสนามประลองเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไอเย็นที่เคลือบพื้นผิวของสนามประลองค่อยๆระเหยออกไปเพราะความร้อน
เซี่ยวเฉินรู้สึกราวกับรองเท้ากาววายุของเขาเป็นเตาอบ:มันร้อนรนจนเท้าของเขาทนไม่ไหว
ในทันทีก่อนที่เซียวเฉินจะใช้พลังปราณป้องกันเท้าของเขา,สายลมเย็นพัดเป่าภายในรองเท้าก้าววายุ ความร้อนลดลงทัน
เซียวเฮินไม่คาดคิดว่ารอบเท้าก้าววายุจะมีความสามารถเช่นนี้ มันช่วยเซียวเฉินเอาไว้ เมื่อเขาสังเกตเห็นดังนั้น เขาหยุดหมุนเวียนพลังปราณลงไปที่เท้าของเขา
“ดาบฉีวิหคสีชาดของกระบวณท่านี้บรรจุสภาวะสูงสุดของข้า ลองดูว่าเจ้าจะทําลายมันลงได้อย่างไร” หลัวหลี่ท้าทายอย่างเย็นชาขณะที่กระแสพลังของเขาเร่งถึงขีดสุด
ทั่วทั้งร่างของหลัวหลี่เป็นดาบที่เฉียบคม,ร้อนแรง จากนั้นเขาก็ชี้สองนิ้วไปที่เซี่ยวเฉิน
ดาบฉีสีแดงมืดปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วและปลดปล่อยเสียงโซนิคบมออกมาพร้อมกับตรงไปที่ เซี่ยวเฉิน มันเร็วใกล้เคียงกับความเร็วเสียง
ดาบฉีสีแดงมืดที่บรรจสภาวะที่เฉียบคมอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนที่มันจะได้เข้ามาใกล์,เซี่ยวเฉินก็สามารถสัมผัสได้ถึงความคมของมัน
เซี่ยวเฉินก้าวถอยหลังและหลบหลีกมันด้วยความเร็วสูง เซียวเฉินตัดสินใจหลบดาบเล่มนี้ไปก่อน
“ซี่ ซี่!”
รลึก,ขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือปรากฏขึ้นในจุดที่เซี่ยวเฉินเคยยืนอยู่ในทันที มันเจาะทะลวงเหล็ก น้ําค้างเหมันต์ได้มีไอร้อนระอุพวยพุ่งออกมาจากรู
“ชิ! ชิ! ชิ!”
เส้นดาบฉีสีแดงมีดร่วงลงมาจากท้องฟ้าราวกับห่าฝน เซียวเฉินล่าถอยต่อไปเรื่อยๆ
“เจ้าคิดว่าจะหนีพ้น? ฮ่าฮ่า! กระบวณท่านี้ของข้ามีดาวฉีทั้งหมดหนึ่งพันเล่ม เจ้าคิดว่าจะหนีพ้น? ยืนนิ่งๆยอมรับความตายไปซะ”
เมื่อหลัวหลี่เห็นเซี่ยวเฉินที่หลบเลี่ยงไปมาไม่จบสิ้น,เขาหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้ายขณะที่ วิหคสีชาดที่ด้านหลังของเขายังคงกระพือปีกของมันต่อไป
เซี่ยวเฉินมองไปที่วิหคสีชาดที่กําบังพือปีก;เขาครุ่นคิดลึก เขาพึมพํากับตัวเอง “เป็นเช่นนี้นี่เอง”
ทันใดนั้น,เท่าของเซียวเฉินก็หลุดลง;เขาถอยมาถึงที่ขอบสนามประลองแล้ว ทุกคนที่อยู่บนอัฒจันทร์รู้สึกราวกับหัวใจเต้นทะลุมาถึงคอของพวกเขา; พื้นที่ตกสู่ความเงียบ
เป็นไปได้ว่าเย่เฉินจะไม่ผ่านการทดสอบ? ทุกคนสงสัยใจคอไม่ดี
สภาวะแห่งสายฟ้ารวมตัวหมุนวนบนท้องฟ้า เสียงสายฟ้าคํารามสะท้อนไปมาไม่หยุด
“สับประกายแสง!” เซียวเฉินรองตะโกนและกวาดกระบี่ของเขาอย่างดุดัน กระบี่ฉีสีม่วงลอยออกมาในรูปโค้งยาว เป้าหมายของเส้นแสงนี้คือภาพร่างวิหคสีชาดที่ด้านหลังของหลัวหลี่
“ซี!”
มีเสียงกรีดร้องเจ็บปวดราวกับสายฟ้าซัดลงบนร่างของวิหคสีชาด
“ปัง!”
เมื่อวิหคสีชาดถูกจู่โจม,มันเหมือนกับการโจมตีได้ตกลงบนร่างของหลัวหลี่ด้วยเช่นกัน เขาร่วงหล่นลงสู่พื้นอย่างรุนแรงสีหน้าซีดเซียว
ดาบที่เติมเต็มบนท้องฟ้าลบหายไป เซี่ยวเฉินยิ้มขึ้นบางๆ,เสื้อคลุมสีขาวของเขาโบกสะบัดไปตามสายลมอ่อนโยน พร้อมกับเขาก้าวขึ้นหน้า
“ช่างน่ารังเกียจ!” หลัวหลี่ร้องขึ้นเมื่อเขาเห็นเซี่ยวเฉิน เขาทุบฝ่ามือขวาของเขาลงพื้นอย่างรุนแรง
“ฟุ ฟิว!”
ทันใดนั้น,วิหคเพลิงสีแดงนับไม่ถ้วนบินออกมา พวกมันร้องเจี๊ยวจ๊าวไม่หยุด วิหคเพลิงสีแดงลอยเต็มไปในอากาศ
วิหคเพลิงแต่ละตัวสามารถระเบิดเนินเขาลูกเล็กได้อย่างง่ายดาย ด้วยจํานวนถึงเพียงนี้ พวกเขาสามารถทําลายภูเขาได้ทั้งลูก
“หวี่ขุยแปลงรูปฉี!”
เซี่ยวเฉินกวัดแกว่งกระบี่ของเขาและด้าวขึ้นหน้าอย่างต่อเนื่อง,ทีละก้าว
ต้นหว่ขยศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าและเปลี่ยนกลายเป็นเส้นกระบี่ฉีสีม่วงหนาแน่น กระบี่ฉีสีม่วงลอยไปมาอย่างยุ่งเหยิงในอากาศ,สลายวิหคเพลิงแตกเป็นประกายไฟ
ประกายแสงเติมเต็มไปบนท้องฟ้า เสียงระเบิดหนาแน่นดังสะท้อนในหูของเซียวเฉิน
สีหน้าของเซี่ยวเงินคงนิ่งฝีเท้าของเขาไม่ช้าไม่เร็ว ชุดสีขาวปลิวไหลขณะที่เขาเดินหน้าไปหาหลัวหลี่
“ฮ่าฮ่า! เจ้ากล้าเข้ามาใกล้ข้า เจ้าคิดว่ากระบวณท่าได้จบลงแล้ว? ปักษาบูชาฟินิกซ์,ผสาน!”
ประกายแสงนับไม่ถ้วนในอากาศเข้ามารวมตัวกันที่จุดเดียวในทันที กระแสพลังอันน่ากลัวแทรกซึมเข้ามาในสนามประลอง วิหคสีชาดแดงเพลิงก่อตัวขึ้นในอากาศอย่างรวดเร็ว
“ทะลงงฉีหรูขุย,ทําลาย!”
เซี่ยวเฉินยังคงหน้านิ่งเช่นเดิม,และเขาไม่ได้ชลอฝีเท้าลงแม้แต่น้อย เขาประสานมือด้วยมือซ้าย,และพลังงานสีม่วงที่หลงเหลืออยู่ในอากาศก็เข้ามารวมตัวกันในทันที
กระบี่ฉีสีม่วงหนานแน่นบินออกไปอย่างรวดเร็วก่อนที่วิหคสีชาดจะก่อตัวขึ้นเสียอีก มันใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการทําลายร่างที่หลัวหลี่สร้างขึ้นมา
ไม่ดีแล้ว,ผู้อายโสเหยียนครุ่นคิด,ขณะที่มองดูเซียวเฉินเดินขึ้นหน้าไปอย่างเชื่องช้าและนิ่งสงบ
สีหน้าของผู้อาวุโสเหยียนเปลี่ยนเล็กน้อย เขาสื่อสารกับคนที่อยู่ด้านหลังของเขาอย่างลับๆ,หลัวหวง,หลัวหลี่อาจจะพ่ายแพ้ในไม่ช้า เตรียมพร้อมลงมือ
“สามกระบวณท่าผ่านไปแล้ว และข้าทําลายลงได้ทั้งหมด ดื้อดึงต่อไปมีแต่จะอับอาย ข้าหวังว่าเจ้าจะทนรับข้าได้สามกระบวณท่า” เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างเยอกเย็นกับหลัวหลี,ผู้ที่ไม่อยากจะเชื่อ
หลัวหลี่ได้กล่าวเช่นเดียวกันกับคนที่เขาส่งลอยออกไปนอกสนามประลองเมื่อครู่ เมื่อเขาได้ ยินเซียวเฉินน่ามาย้อนใส่เขา เขารู้สึกอับอาย
“เจ้าคิดว่าเจ้าชนะแล้ว? ข้ายังไม่ได้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ของข้า ไอ้คนต่ําต้อยเช่นเจ้ารู้ถึงความน่า กลัวของพลังศักดิ์สิทธิ์?” หลัวหลี่กล่าวอย่างโหดเหี้ยม
เดิมที่,หลัวหลี่คิดว่าเขาสามารถล้มคู่ต่อสู้ลงได้โดยไม่ต้องใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ ด้วยวิธีนี้ เขาสามารถทําให้คู่ต่อสู้อับอายได้ยิ่งกว่า ดูเหมือนว่าคนที่ต้องขายหน้า,จะเป็นตัวเขาเองแล้ว
วิหคสีชาดที่จุดตันเที่ยนของหลัวหลี่ร้องคําราม ทันใดนั้น,พลังยิงพลังศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังไปที่เซี่ยวเฉิน
“มังกรฟ้าเมฆาทะยานเก่าร่างมังกรสัญจร!”
เซียวเฉินดีดตัวออกจากพื้นและแบ่งออกเป็นเก้าร่างในทันที สายลมเย็นเก้าสายพัดผ่านในสนรมประลอง เซียวเฉินปิดซ่อนเจตนาฆ่าฟันของเขาเอาไว้อย่างสมบูรณ์ ไม่รู้สึกถึงเจตนาฆ่าฟันแม้แต่นิดเดียว
เป็นไปได้อย่างไร? พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ผลมาตลอดไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย การเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ไม่อาจคาดเดาได้ ดูเหมือนพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ส่งผลต่อเขาแม้แต่น้อย
สีหน้าของหลัวหลี่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกลัว เขารีบล่าถอย,แต่ร่างทั้งเก้าได้เข้ามาปิดล้อมตัวเขาแล้ว
สายลมได้ปิดซ่อนเจตนาฆ่าฟันไม่มีทางให้เขาหลบหนี
ร่างทั้งเก้าผสานกันในอากาศ,และเจตนาฆ่าฟันที่ถูกลบหายไประเบิดออกมาในทันที มันโหมกระหน่ําครอบคลุมไปทั่วทั้งสนามประลองไม่มีที่ให้หลบซ่อน
นี่เป็นครั้งแรกที่หลัวหลี่รู้สึกถึงความตายที่จ่อเข้ามาใกล้คอของเขาขนาดนี้ ปราศจากพลังศักดิ์สิทธิ์,เขาไม่ใกล้เคียงกับค่าว่าอัจฉริยะ ความแข็งแกร่งของพวกเขาใกล้เคียงหรืออาจจะต่ํากว่าต้วนมู่ฉิงกับคนอื่นๆไปอีก
ตอนนี้พลังศักดิ์สิทธิ์ของหลัวหลไม่มีผล,ความคิดของเขาว้าวุ่น นอกจากนั้น
ยังมีเจตนาฆ่าฟันที่โถมเข้าใส่เขา
กระบี่สีขาวหิมะเรืองแสงรุ่งโรจน์ขึ้นในทันที จากนั้น,มันแทงลงไปที่หน้าอกของหลัวหลี,ห่างจากหัวใจของเขาไปสิบเซนติเมตร
นี่เป็นความเมตตาของเซี่ยวเฉิน มิฉะนั้น,กระบี่นี้แทงทะลุหัวใจของเขาไปแล้ว
วิหคสีชาดที่ปักด้วยลวดลายสีทองบนชุดสีแดงของหลัวหลี่เรืองแสงสีทองขึ้น ทําให้กระบี่ของเซียวเฉินไม่อาจเจาะทะลุหน้าอกของเขาได้
นี้จะต้องเป็นสมบัติลับอย่างแน่นอน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ช่างใจกว้าง แม้แต่ศิษย์ชั้นนอกก็มีสมบัติลับป้องกันในครอบครอง,เซี่ยวเฉินครุ่นคิด
เม็ดสีกลับมาบนใบหน้าอันซีดเซียวของหลัวหลี่ เขาหัวเราะอย่างเย็นชา “ข้าเกือบลืมไป ข้ามีสมบัติลับเจ้าไม่อาจทําอันตรายข้าได้ เสื้อคลุมยาวนี้ทําขึ้นมาโดยการเลียนแบบสมบัติลับโบราณ,เสื้อหยกด้ายทอง”
“ไม่มีประโยชน์ที่จะอธิบายให้เจ้าฟัง;เจ้ามันคนต่ําแดนนอก เจ้าไม่รู้แม้แต่ว่าสมบัติลับชิ้นนี้มัน คืออะไร ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
หยิ่งยโส:คนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หยิ่งยโสอย่างไม่น่าเชื่อ,เซียวเฉินหมดคําพูด ด้วยการนึกคิด,เขารีบปลดปล่อยสายสภาวะแห่งการฆ่าล้างออกมาจากบัลลังก์สีแดง
รอยยิ้มของหลัวหลีแข็งที่อ ร่องรอยสีแดงปรากฏขึ้นบนกระบี่แสงสีม่วงแพราวพราว
ปลายกระบีแมงทะลุเสือของเขาอย่างง่ายดาย,สายเลือดไหลออกมาจากบาดแผลของเขา
36
หลัวหลี่จับคมกระบี่เอาไว้ด้วยมือของเขาและตื่นกลัว “ข้าบาดเจ็บได้อย่างไร? ไอ้คนต่าแดน นอกนี่สามารถทําให้ข้าบาดเจ็บ”
“กระบวณท่าแรก!”
เซี่ยวเฉินดึงกระบีของเขากลับมาในทันที หยดเลือดบนคมกระบีของเขาหยดลงบนสนามประลอง
“ปัง!”
เซี่ยวเฉินยกเท้าขวาของเขาขึ้นและกระทืบลงไปอย่างรุนแรง หลังจากที่สลักร่างพยัคฆ์มังกรขึ้นมาถึงระดับสมบูรณ์ นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยวเฉินดึงพละกําลังกายของเขาออกมาใช้อย่างเต็มที่
รอยแตกนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนเหล็กน้ําค้างเหมันต์ที่เคลือบสนามประลองเอาไว้ รอยแตกขยายออกไปอย่างรวดเร็ว,และเศษเหล็กน้ําค้างเหมันต์นับไม่ถ้วนกระเด็นขึ้นไปในอากาศ
หลังมหาศาลดึดหลัวหลีขึ้นไปในอากาศ สีหน้าของเขายิ่งซีดเซียว,และเขากระอักเลอดออกมาคําใหญ่
เท้ากระทืบนี้มีพลังกว่า 50,000 กิโลกรัม หากเซียวเฉินกระทับลงไปบนหน้าอกของหลัวหลีโดยตรง,เขาสามารถบดขยอวัยวะภายในของหลัวหลี่,ทําให้เขาสาหัสหรือตกตายได้ในทันที
“กระบวณท่าที่สาม:ข้าจะส่งฝ่ามือคืนให้กับเจ้า ศาลากระบี่สวรรค์ไม่ใช่ขยะ เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะกล่าวเช่นนั้น สําหรับตัวเจ้าที่ไม่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ต่างหากที่เป็นขยะ”
ที่ด้านบนฐานดาดฟ้า,หลัวหวงสีหน้าเปลี่ยน เขาดีดตัวออกจากพื้นเปลี่ยนเป็นเส้นล่าแสงสีแดง,เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาร้องตะโกนขึ้น “หยุด!”
เซี่ยวเฉินเมินเฉยและซัดฝ่ามือลงไปบนหน้าอกของหลัวหลี่ มันส่งตัวหลัวหลอยกลับหลังไปราวกับลูกปืนใหญ่
หลัวหวงรับตัวหลัวหลี่เอาไว้กลางอากาศ อย่างไรก็ตาม,เขาไม่คาดคิดว่าพลังที่ซัดเข้าจะดุร้ายถึงเพียงนี้ มันราวกับเขารับภูเขาเอาไว้ทั้งลูก
เสียงตบดังสะท้อนที่หน้าอกของหลัวหวง เขาพุ่งขึ้นไปในอากาศและหมุนตัวเพื่อสลายแรง
“เยี่ยม!”
ในตอนนี้ เหล่าผู้บ่มเพาะพลังบนอัฒจันทร์ไม่อาจกดความตื่นเต้นเอาไว้ในใจได้อีกต่อไป พวกเขาตะโกนออกมาสุดเสียง
มีผู้บ่มเพาะพลังหลายคนที่ถูกหลัวหลี่ส่งออกนอกสนามประลองในฝ่ามือเดียว พวกเขาเสียหน้าเป็นอย่างมาก
มีหลายคนที่คับข้องใจพวกเขาอยากจะซัดฝ่ามือคืนหลัวหลี แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่แข็งแกร่งเพียงพอ
ฝ่ามือและคําพูดของเซี่ยวเฉินเมื่อคร่,เป็นสิ่งที่พวกเขาอยากจะพูด,เซียวเฉินช่วยให้พวกเขาคลายความหงุดหงิดลงได้บ้าง หลังจากที่ได้ระบาย,พวกเขารู้สึกผ่อนคลายลงอย่างไม่น่าเชื่อ
บนฐานดาดฟ้า,หลิวหรูเย่มองดูเซี่ยวเฉินที่อยู่ในชุดสีขาว มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ นาง
ที่โต๊ะน้ําชาที่อยู่ไม่ไกลออกไปนัก, หยุนเข่อซิน,ผู้ที่อยู่ในชุดคลุมสีขาว,มีสีหน้าท่าทางเดียวกับหลิวหรูเยว่ขณะที่นางมองดูเซียวเฉิน
หยุนเข่อซินเผยรอยยิ้มบนใบหน้าอันละเอียดอ่อนของนาง นางกล่าวเบาๆ “นี่คือมือกระบี่ที่แท้จริง ช่างหัวดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หากเจ้าทําให้ข้าอับอาย,ข้าจะเอาคืนเป็นสิบเท่าหรือแม้กระทั่งหนึ่งร้อยเท่า”
เหนือขึ้นไปหนึ่งหมื่นเมตร,ท่ามกลางหมู่เมฆ มีเรือสงครามสีทองกําาลังลอยอยู่อย่างเงียบเชียบ ธงสีทองบนหัวเรือโบกสะบัด นี่เป็นเรือธงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกองทัพจักรวรรดิมังกร
องค์หญิงหยิงเยว่ยืนนิ่งอยู่บนดาดฟ้าเรือ นางสวมชุดเกราะศึกสีทองและกําลังเล่นอยู่กับรูปสลักไม้อันหนึ่ง
เป็นรูปสลักหญิงสาวในชุดสีแดง นางเป็นหญิงสาวที่เป็นตัวแทนของความงดงามสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาที่สุกสกาวของนางดวงตาคู่นี้ทําให้รูปสลักราวกับมีชีวิตแสดง แต่ให้ว่าประติมากรรมชิ้นนี้งดงามถึงเพียงใด
Comments