Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 363 กําจัดซ่งเฉว
ตอนที่ 363 กําจัดซ่งเฉว
ซ่งเฉวสามารรู้สึกได้เพียงพลังศักดิ์สิทธิ์พลุ่งพล่านกําลังกดลงมาบนตัวเขา,ราวกับภูเขาขนาดย่อมทิ้งน้ำฟนักลงมาจิตวิญญาณยุทธของเขาสั่นเทิ้ม,และพลังปราณของเขากลายเป็นปั่นป่วนขาของเขาไม่ยอมฟังคําสั่งของเขา
ก่อนที่ซ่งเฉวจะได้ตอบสนอง,มังกรฟ้าได้ซัดเข้ามา เสื้อผ้าท่อนบนของเขาฉีกขาด,และเกิดรูเลือดออกบนหน้าอกของเขา;เขาลอยกลับหลังไปกว่าหนึ่งร้อยเมตร
มังกรฟ้าว่ายวนและย้อนกลับมาที่แขนของเซียวเฉิน ตอนนี้มันเจือจาง;เหลือเพียงภาพร่างบางเบาที่หลงเหลืออยู่
บนฐานดาดฟ้า,ผู้อาวุโสเหยียนที่นิ่งเงียบพลันสีหน้าเปลี่ยนในตอนที่เขามองเห็นมังกรสีฟ้าที่แท้จริงเขาตื่นตกใจจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า…จะเป็นจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าไปได้อย่างไร?
เซี่ยวเฉินเดินสองสามก้าวเข้าไปหาซ่งเฉวที่บาดเจ็บหนัก ดวงตาของเขาสีแดงก่ําและสีหน้าของเขามืดมัวขณะที่ยกตัวของซ่งเฉวขึ้น
“ซึ่งเฉว,ข้าไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกับเจ้า เจ้าคือกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุด,แต่เจ้ากลับพยายามสังหารข้าหลายต่อหลายครั้ง ข้าอดทนจนมาถึงทุกวันนี้ และเจ้าก็ยังไม่ยินยอมที่จะลามือไปจากข้า” เซี่ยวเฉินตะโกนขึ้นขณะที่คว้าไปที่คอเสื้อของซึ่งเฉว
“อย่าฆ่าข้า ข้าเป็นเจ้ายอดเขา หากเจ้าสังหารข้า,เจ้าก็ต้องตายเช่นกัน” ซึ่งเฉวกล่าวด้วยสีหน้าหวาดกลัวหวาดกลัวจากก้นบึงของจิตใจและละทิ้งซึ่งเกียรติไปจนสิ้น
“เซียวเฉิน,หยุด!” ผู้อาวุโสหนึ่งเจียงชื่อพยายามจะหยุดเขา ไม่ว่าเป็นอย่างไร,ซ่งเฉวก็มีฐานะท่านเจ้ายอดเขาแห่งศาลากระบี่สวรรค์ พวกเขาไม่อาจปล่อยให้เขาต้องตกตายด้วยน้ำมือของ
คนนอก
เซียวเฉินเมินเฉยเจียงชื่อและชกออกด้วยมือขวาของเขา,บดสมองของซ่บเฉว
เส้นเลือดหัวใจของหลิวหรูเยว่แตกสลายไปต่อหน้าของเซียวเฉิน ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนร้องขอความเมตตา,เขาก็จะสังหารคนผู้นี่เสีย
“ฟ ฟิว!”
“ไอ้เฒ่า,ลองเข้ามาใกล้กว่านี้แล้วจะได้เห็นดีกัน” เสียงอ่อนละมุนดังเตือน
ในจังหวะที่ไมือของผู้อาวุโสเหยียนกําลังจะมาถึงตัวเซี่ยวเฉอน,มีอุกกาบาตสีแดงเพลิงพุ่งลงมาจากท้องฟ้า
เมื่อมองดูอย่างละเอียด,มันเป็นหอกสีทอง ที่เลื่อยรอบตัวหอกคือมังกรทองที่สร้างขึ้นมาจากเปลวเพลิงสีทองบริสุทธิ์
เมื่อสัมผัสได้ถึงอันตราย,ผู้อาวุโสเหยียนหยุดชะงัก เมื่อเขามองดูอย่างชัดๆ,สีหน้าของเขาเปลี่ยน “อาวุธกึ่งเทพ,หอกมหาจักรพรรดิ,และเพลิงมังกร?หรือจักรพรรดิฉินจะมาที่นี่?”
ถอย!ผู้อาวุโสเหยียนถอยหนีอย่างไม่มีลังเล เขาเคลื่อนไหวอยู่สงรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม,หอกเล่มนั้นก็ติดตามเขาะข้ามาอย่างกระชั้นชิด
ทุกที่ที่หอกเล่มนั้นวาดผ่าน,เกิดหลุมดําปรากฏขึ้น,ฉีกแยกมิติ เพลิงมังกรที่หมุนรอบหอกเผาไหม้อย่างดุร้าย,ทําให้หลุมดําเปิดกว้างขึ้น
ชีวิตข้าจบแล้ว:ทําไมข้าสลัดหอกเล่มนี้ไม่พ้น? ผู้อาวุโสเหยียนคิดอย่างสิ้นหวัง
“เครั้ง!”
ขณะที่ผู้อาวุโสเหยียนหมดหวัง,เกิดละลอกคลื่นปรากฏขึ้นบนมิติ ผู้อาวุโสหลัว,ผู้นํากลุ่มเจ็ดคนจากบ่อน้ำแห่งการเกิดใหม่,ปรากฏตัวขึ้น
ผู้อาวุโสหลัวผลักผู้อาวุโสเหยียนออกไปด้านข้างและใช้เพียงนิ้วเดียวหยุดหอกมหาจักรพรรดิที่ทะลวงผ่านมิติเอาไว้อย่างง่ายดายคลื่นกระแทกอันไร้รูปเปล่งออกมาจากใต้เท้าของเขา
ผู้อาวุโสหลังทําให้พลังอันไร้ขอบเขตของหอกเล่มนี้ลบหายไป,แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการควบคุม
หยิงเยวดิ่งลงมาจากท้องฟ้าและใช้มือของนางคว้าเอาหอกมหาจักรพรรดิกลับมา
“ผู้อาวุโสหลัว,คนคนนั้นเป็นผู้สืบทอดจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า” ผู้อาวุโสเหยียน,ผู้ที่ถูกช่วยเอาไว้ได้อย่างเฉียดฉิว,กล่าวขึ้นพร้อมกับมองตรงไปที่เซียวเฉิน
ผู้อาวุโสหลัวโบกมือและกล่าว “ข้ารู้แล้ว เจ้าไม่ต้องพูดอะไร เพียงปล่อยเรื่องนี้ไป”
“บูม! บูม! บูม!”
เหล่าผู้อาวุโสระดับสูงของศาลากระบีสวรรค์,ที่ได้ซ่อนตัวอยู่ทั้งหมดแสดงตนออกมาดวงตาของเซียวเฉินเปล่งประกายในตอนที่เขาเห็นเฉินม่านจวิน
เซี่ยวเฉินอุ้มหลิวหรูเยว่ตรงเข้าไปในทันและกล่าวขึ้นอย่างกังวล “อาจารย์ป้า,ได้โปรดช่วยหรูเยว่นางกําลังจะตาย”
เฉินม่านจวิ้นถอนหายใจเบาๆและกล่าว “ข้าเป็นหนี้เจ้าอยู่ครั้งหนึ่ง นอกจากนั้น,หลิวหรูเยว่ก็เป็นคนของพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นทางอารมณ์หรือหน้าที่,ข้าก็จะช่วยนาง”
เมื่อเซียวเฉินได้ยินดังนั้น,เขาผ่อนคลายลง เขากล่าว “อาจารย์ป้า,ท่านช่วยนางได้หรือไม่?”
เฉินม่านจวินหยิบเม็ดยาออกมาและป้อนเข้าไปในปากของหลิวหรูเยว่ เม็ดยาละลายและในไม่ใช้พลังชีวิตที่จางหายไปก็ค่อยๆฟื้นคืนกลับมา
“ทันเวลา นี่เป็นยาศักดิ์สิทธิ์ระดับ 9 แห่งยอดเขาสตรีหยก มันจะช่วยชีวิตของนางได้อย่างอน” เฉินม่านจวินกล่าวอย่างสงบขณะที่นางส่งปราณอันอ่อนโยนเข้าไปเพื่อเร่งผลของยา
เมื่อเหล่าคนที่อยู่ด้านหลังหรูเยว่ได้ยินดังนั้น,พวกเขาทั้งหมดถอนหายใจอย่างโล่งอกดีแล้วตราบใดที่นางยังมีชีวิต
“เซี่ยวเฉิน ล,เจ้าสังหารท่าเจ้ายอดเขาซึ่งเฉวของศาลากระบี่สวรรค์ของข้า ตามกฎของนิกาย,เจ้าควรจะโดนประหารแต่อย่างไรก็ตาม,ซ่งเฉวเป็นคนลงมือก่อน,พยายามจะสังหารสหายร่วมนิกายเขาได้กระทําผิดเช่นเดียวกัน เจ้าได้กระทําความชอบใหญ่หลวงและหากนําเข้าไปร่วมพิจารณาแล้ว,เจ้าถูกตัดสินไม่ให้เข้ามาเหยียบศาลากระปสวรรค์อีกเป็นครั้งที่สองเจ้ายอมรับ หรือไม่?”
เฉินม่านจนกล่าวเบาๆหลังจากอาการของหลิวหรูเยสทรงตัว แม้ว่านางจะไม่ได้เป็นท่านเจ้าศาลาหรือผู้อาวุโสสูง,แต่เพราะอะไร,คําพูดของนางมีน้ำหนักยิ่งกว่าเจียงชื่อ
“เจ้าซื่อบื้อ,ทําไมเจ้ายังไม่ยอมรับ? นางทําเพื่อพยายามปกป้องเจ้า เจ้าไม่เห็นดวงตาคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์?”
ขณะที่เซียวเฉินกําลังจะเปิดปากโต้แย้ง,เสียงของหลิวหรูเยว่ปรากฎขึ้นในใจของเขา เขาทําได้เพียงพยักหน้าและกล่าว“ข้าสัญญาท่าอาจารย์ป้า ข้าจะไม่ก้าวเข้ามาในศาลากระปสวรรค์”
เฉินม่านจวนพยักหน้าเบาๆและมองไปทางผู้อาวุโสหลัว “ผู้อาวุโสหลัว,ท่านคิดเช่นไร?”
ผู้อาวุโสหลักของตําหนักเพิ่งชิงดุด่าผู้อาวุโสเหยียนโดยการส่งเสียงไปหาเขาโดยตรงจากนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นเบาๆและกล่าว“ผู้อาวุโสเฉินสภาพเกินไปแล้วนี้เป็นเรื่องภายในของศาบากระ
สวรรค์ ไม่มีความเกี่ยวข้องกําหนักเพิ่งชิง ข้าหวังว่าท่านเจ้าศาลาน้อยที่น่านับถือจะไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตามที่ตกลงเอาไว้ก่อนหน้านี้”
ในเมื่อหลิวหรูเยว่ปลอดภัยแล้ว,เซี่ยวเฉินก็ผ่อนคลาย ห้ามก้าวเข้ามาในศาลากระบี่สวรรค์ไม่เหมือนกับห้ามกลับมาที่ศาลากระปสวรรค์
ในตอนที่เซียวเฉินแข็งแกร่งเพียงพอ,เขาจะพาหลิวหรูเยว่ออกไปจากสถานที่แห่งนี้เขาจะไม่ลืมสัญญาที่ให้เอาไว้กับนาง
เซียวเฉินกล่าวลากับทุกคนและขอบคุณองค์หญิงหญิงเยว่ก่อนที่เขาจะค่อยๆเดินออกไปพร้อมกับเสี่ยวไป
เซี่ยวเฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาจะได้กลับมาหลังจากจากไปในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม,เขาจะกลับมาอย่างแน่นอน เขาจะต้องทําให้สําเร็จทุกอย่างที่เขาได้สัญญาเอาไว้
หลังจากเซียวเฉินจากไป,ผู้อาวุโสหลัวเดินตรงไปหาหยิงเยว่,ใบหน้ายิ้ม เขากล่าว “สาวน้อยเจ้าดูคล้ายกับปู่ของเจ้ามาก แถมยังดุร้ายไม่แพ้กัน น่าเสียดาย,เจ้าอ่อนแอเกินไป”
หยิงเยว่กุมหอกมหาจักรพรรดิเอาไว้แน่นและกล่าวอย่างเฉยเมย “น่าจะประลองกันให้รู้ไปเลยว่าคําของเจ้าเป็นจริงหรือเท็จ?”
ผู้อาวุโสหลัวยิ้มเบาๆและเมินเฉยคํายั่วยุของหญิงเยว่ เขากล่าว “กลับไปเถอะ,และบอกของเจ้าด้วยว่าเขาก็ยังพ่ายแพ้อยู่ในครั้งนี้”
ขณะที่หยิงเยวมองดูคนของตําหนักเฟิงซึ่งจากไป,นางกล่าวเบาๆกับตัวเอง “ตราบใดที่เซียวเฉินยังมีชีวิต,พวกเขาไม่แพ้
หลังจากนั้น,เหล่าคนระดับสูงก็จากไป จากนั้นฝูงชนในลานฝึกฝนก็ค่อยๆกลับออกไปอย่างช้าๆ
กาาคัดเลือกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถูกทําลายลงไม่มีชิ้นดี แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บ่มเพาะพลังที่มาก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจแต่อย่างใดพวกเขาได้เป็นพยานในการกําเนิดของตํานานนี่ก็นับได้ว่าเป็นโชคดี
ไม่นานหลังจากนี้ย,ตระกูลชั้นสูงบนฐานดาดฟ้าทั้งหมดก็กลับออกไป ลานฝึกฝนที่วุ่นวายกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
แม้แต่โอกาสที่รุ่งเรืองที่สุดก็มาถึงจุดสิ้นสุด,เจียงชื่อถอนหายใจกับตัวเองและนํากลุ่มผู้อาวุโสศาลากระบี่สวรรค์จากไป
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจุดสิ้นสุดในวันนี้จะเป็นตัวจุดชนวนช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของทวีปเทียนหวี่,ม่านเวที่แท้จริงเพิ่งจะเปิดฉากขึ้น
แคว้นซีเหอ,ในโรงเตี้ยมข้างถนนเปลี่ยวแห่งหนึ่ง
ถนนเส้นนี้นําไปสู่แม่น้ำมังกรทมิฬจากศาลากระบี่สวรรค์นี่เป็นถนนเพียงเส้นเดียวนอกจากทุ่งหญ้ามารอสูร
มีผู้บ่มเพาะพลังมากมายอยู่ที่นี่:นี่เป็นโรงเตี้ยมเดียวในระยะห้าร้อยกิโลเมตรบนดินแดนรกร้างแห่งนี้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่ผู้บ่มเพาะพลังมากมายเข้ามาเพื่อพักผ่อน
โรงเตี้ยมนี้ไม่ใหญ่โตนัก: มันไม่มีชั้นแยกมีเพียงอาคารหลังเดียวพร้อมห้องครัวและห้องพักมีหลายโต๊ะที่ตั้งอยู่ด้านนอก,มีป้ายปักอยู่ข้างถนน
อย่างไรก็ตาม,กิจการรุ่งเรืองเป็นอย่างมากจากหลายสิบโต๊ะมีเพียงโต๊ะเดียวที่นั่งว่างผู้บ่มเพาะพลังจองโต๊ะที่เหลือทั้งหมด
ที่ถังเหล้าด้านนอกโรงเตี้ยม,มีเด็กสาวสวยชุดขาว,อายุประมาณสิบสี่หรือสิบห้าปี,กําลังถือขวดน้ำเต้านางร้องเรียกเจ้าของโรงเตี้ยมอย่างมีความสุข “เติมเหล้าใส่ขวดน้ำเต้าของข้า”
เจ้าของเป็นชายอายุมากกว่าห้าสิบปี ในตอนที่เขามองเห็นรอยยิ้มอันเย้ายวนใจบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ของเด็กสาว,เขาต้องเสน่ห์ไปในทันที
เขาเพียงฟื้นคืนสติหลังจากผ่านไปนาน จากนั้น,เขาหยิบกรวยออกมาและใส่ลงในปากขวดน้ำเต้าเขาใช้กระบวยค่อยๆตักเหล้าใส่ลงไป
เมื่อเด็กสาวได้กลิ่นเหล้าหอมหวน, นางยิ้มจนแก้มปริ นางกล่าว “ขอบคุณ;เติมลงไปอีก”
เจ้าของหัวเราะและกล่าว “ไม่มีปัญหา ข้าจะเติมให้เต็ม ข้าเปิดกิจการอย่างซื่อตรง ข้าไม่โกงเจ้า”
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากตกเหล้าเติมลงไปเป็นเวลานาน,คุณเจ้าของก็เริ่มบ่นกับตัวเอง “ทําไมรู้สึกเหมือนข้าเติมเหล้าใส่น้ำเต้าเล็กๆนี้ไม่เต็มสักที?” เขามองลงไปและเห็นว่ากันน้ำเต้าไม่มีรอยรั่วแม้แต่น้อย
ที่โต๊ะด้านข้าง,ผู้เยาว์ในชุดขาวกําลังทานอาหารอย่างเงียบๆ มีแถบผ้าสีน้ำเงินมัดรอบหน้าผากของเขาและผิวของเขาสีขาวนวลเป็นอย่างยิ่ง;ใบหน้าของเขาหล่อเหลา ในตอนที่เขาเห็นเช่ นนั้น,เขาเกือบจะสําลักอาหารลงไปในจาน
ผู้เยาว์ผู้นี้รีบวิ่งตรงเข้ามาและคว้าเอาขวดน้ำเต้าไป จากนั้นเขาก็หยิบแผ่นทองออกมาและยื่นให้“เถ้าแก่,ไม่จําเป็นต้องเติมแล้วนี่จ่ายเป็นทอง”
“ขอบคุณ,ชายน้อย!”
เมื่อเถ้าแก่เห็นแผ่นทอง,ดวงตาของเขาเปิดกว้าง แต่อย่างไรก็ตาม,เขาก็ยังพึมพํากับตัวเอง“น่าแปลกมันเป็นแค่ขวดน้ำเต้าเล็กๆ;ทําไมข้าถึงเติมมันไม่เต็มสักที?”
ชายหนุ่มชัดขาวนิ่มอย่างขมขึ้นกับตัวเอง หากท่าเติมมันได้เต็ม,นั้นสิน่าแปลก นี่เป็นสมบัติเวทมิติที่ข้าหลอมขึ้นมาแม้แต่เจ้าจะเติมมันด้วยน้ำทั้งสระร้อยเมตร,มันก็มีที่ว่างเพียงพอ
ไม่จําเป็นต้องบอก,สองคนนี้ก็คือเซี่ยวเฉินและเสี่ยวไป,ผู้ที่เพิ่งออกมาจากศาบากระปสวรรค์
หลังจากที่ออกมาจากศาลากระบี่สวรรค์,เซียวเฉินนั่งเรือสงครามสีเงินออกมาจากชายแดนของศาบากระบี่สวรรค์อย่าวรวดเร็วหลังจากที่เขาใช้เวลาครึ่งเดือนในการรักษาอาการบาดเจ็บของเขาในเมืองเล็กๆเขาก็เดินทางต่อ
ในตอนนี้ ,ภายในอาณาจักรต้าฉัน,นอกจากคนสองสามคน,ไม่มีใครในหมู่รุ่นเยาว์ที่เทียบเคียงกับเซียวเฉินได้แล้วคนที่เหลือไม่คู่ควรที่จะให้เขาออกแรงเร็มกําลัง
ในทวีปเทียนหวี่,อาณาจักรต้จินแข็งแกร่วลงที่สุด;เส้นโลหิตวิญญาณของพวกเขาไม่เปลี่ยนแปลงอีกสอาณาจักรที่เหลือ:อาณาจักรต้าถัง,อาณาจักรต้าชู,อาณาจักรต้าเซีย,และอาณาจักรต้าฉินแน่นอน,อาณาจักรต้าฉันอ่อนแอที่สุดพลังงานจิตวิญญาณในอาณาจักรต้าฉันเบาบางที่สุดพวกเขามีนิกายใหญ่เพียงสามแห่งเท่านั้น
สําหรับอาณาจักรอื่น,พวกเขามีอย่างน้อยสี่หรือห้านิกายที่ไม่ด้อยไปกว่าศาลากระบี่สวรรค์ไม่จําเป็นต้องกล่าว,ว่าอาณาจักรต้าจินมีเยอะยิ่งกว่านี้
เซี่ยวเฉินไม่เคยจํากัดเป้าหมายของเขาไว้ที่อาณาจักรตาฉัน จากตั้งแต่เริ่ม,เขาตั้งเป้าเอาไว้ที่ทั่วทั้งทวีปดังนั้นเขาจําเป็นต้องเดินทางออกจากอาณาจักรต้าฉัน
ทวีปเทียนหวี่กว้างใหญ่และไร้ขอบเขตนอกจากหาอาณาจักรใหญ่,ยังมีแดนรกร้างลึกลับ,คนเถื่อนที่ครอบครองภูเขานับแสนในตอนเหนือ,และอาณาจักรเล็กๆที่ถูกปกครองโดยชนเผ่าโบราณแปลกประหลาด
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 363 กําจัดซ่งเฉว
ตอนที่ 363 กําจัดซ่งเฉว
ซ่งเฉวสามารรู้สึกได้เพียงพลังศักดิ์สิทธิ์พลุ่งพล่านกําลังกดลงมาบนตัวเขา,ราวกับภูเขาขนาดย่อมทิ้งน้ำฟนักลงมาจิตวิญญาณยุทธของเขาสั่นเทิ้ม,และพลังปราณของเขากลายเป็นปั่นป่วนขาของเขาไม่ยอมฟังคําสั่งของเขา
ก่อนที่ซ่งเฉวจะได้ตอบสนอง,มังกรฟ้าได้ซัดเข้ามา เสื้อผ้าท่อนบนของเขาฉีกขาด,และเกิดรูเลือดออกบนหน้าอกของเขา;เขาลอยกลับหลังไปกว่าหนึ่งร้อยเมตร
มังกรฟ้าว่ายวนและย้อนกลับมาที่แขนของเซียวเฉิน ตอนนี้มันเจือจาง;เหลือเพียงภาพร่างบางเบาที่หลงเหลืออยู่
บนฐานดาดฟ้า,ผู้อาวุโสเหยียนที่นิ่งเงียบพลันสีหน้าเปลี่ยนในตอนที่เขามองเห็นมังกรสีฟ้าที่แท้จริงเขาตื่นตกใจจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า…จะเป็นจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าไปได้อย่างไร?
เซี่ยวเฉินเดินสองสามก้าวเข้าไปหาซ่งเฉวที่บาดเจ็บหนัก ดวงตาของเขาสีแดงก่ําและสีหน้าของเขามืดมัวขณะที่ยกตัวของซ่งเฉวขึ้น
“ซึ่งเฉว,ข้าไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกับเจ้า เจ้าคือกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุด,แต่เจ้ากลับพยายามสังหารข้าหลายต่อหลายครั้ง ข้าอดทนจนมาถึงทุกวันนี้ และเจ้าก็ยังไม่ยินยอมที่จะลามือไปจากข้า” เซี่ยวเฉินตะโกนขึ้นขณะที่คว้าไปที่คอเสื้อของซึ่งเฉว
“อย่าฆ่าข้า ข้าเป็นเจ้ายอดเขา หากเจ้าสังหารข้า,เจ้าก็ต้องตายเช่นกัน” ซึ่งเฉวกล่าวด้วยสีหน้าหวาดกลัวหวาดกลัวจากก้นบึงของจิตใจและละทิ้งซึ่งเกียรติไปจนสิ้น
“เซียวเฉิน,หยุด!” ผู้อาวุโสหนึ่งเจียงชื่อพยายามจะหยุดเขา ไม่ว่าเป็นอย่างไร,ซ่งเฉวก็มีฐานะท่านเจ้ายอดเขาแห่งศาลากระบี่สวรรค์ พวกเขาไม่อาจปล่อยให้เขาต้องตกตายด้วยน้ำมือของ
คนนอก
เซียวเฉินเมินเฉยเจียงชื่อและชกออกด้วยมือขวาของเขา,บดสมองของซ่บเฉว
เส้นเลือดหัวใจของหลิวหรูเยว่แตกสลายไปต่อหน้าของเซียวเฉิน ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนร้องขอความเมตตา,เขาก็จะสังหารคนผู้นี่เสีย
“ฟ ฟิว!”
“ไอ้เฒ่า,ลองเข้ามาใกล้กว่านี้แล้วจะได้เห็นดีกัน” เสียงอ่อนละมุนดังเตือน
ในจังหวะที่ไมือของผู้อาวุโสเหยียนกําลังจะมาถึงตัวเซี่ยวเฉอน,มีอุกกาบาตสีแดงเพลิงพุ่งลงมาจากท้องฟ้า
เมื่อมองดูอย่างละเอียด,มันเป็นหอกสีทอง ที่เลื่อยรอบตัวหอกคือมังกรทองที่สร้างขึ้นมาจากเปลวเพลิงสีทองบริสุทธิ์
เมื่อสัมผัสได้ถึงอันตราย,ผู้อาวุโสเหยียนหยุดชะงัก เมื่อเขามองดูอย่างชัดๆ,สีหน้าของเขาเปลี่ยน “อาวุธกึ่งเทพ,หอกมหาจักรพรรดิ,และเพลิงมังกร?หรือจักรพรรดิฉินจะมาที่นี่?”
ถอย!ผู้อาวุโสเหยียนถอยหนีอย่างไม่มีลังเล เขาเคลื่อนไหวอยู่สงรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม,หอกเล่มนั้นก็ติดตามเขาะข้ามาอย่างกระชั้นชิด
ทุกที่ที่หอกเล่มนั้นวาดผ่าน,เกิดหลุมดําปรากฏขึ้น,ฉีกแยกมิติ เพลิงมังกรที่หมุนรอบหอกเผาไหม้อย่างดุร้าย,ทําให้หลุมดําเปิดกว้างขึ้น
ชีวิตข้าจบแล้ว:ทําไมข้าสลัดหอกเล่มนี้ไม่พ้น? ผู้อาวุโสเหยียนคิดอย่างสิ้นหวัง
“เครั้ง!”
ขณะที่ผู้อาวุโสเหยียนหมดหวัง,เกิดละลอกคลื่นปรากฏขึ้นบนมิติ ผู้อาวุโสหลัว,ผู้นํากลุ่มเจ็ดคนจากบ่อน้ำแห่งการเกิดใหม่,ปรากฏตัวขึ้น
ผู้อาวุโสหลัวผลักผู้อาวุโสเหยียนออกไปด้านข้างและใช้เพียงนิ้วเดียวหยุดหอกมหาจักรพรรดิที่ทะลวงผ่านมิติเอาไว้อย่างง่ายดายคลื่นกระแทกอันไร้รูปเปล่งออกมาจากใต้เท้าของเขา
ผู้อาวุโสหลังทําให้พลังอันไร้ขอบเขตของหอกเล่มนี้ลบหายไป,แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการควบคุม
หยิงเยวดิ่งลงมาจากท้องฟ้าและใช้มือของนางคว้าเอาหอกมหาจักรพรรดิกลับมา
“ผู้อาวุโสหลัว,คนคนนั้นเป็นผู้สืบทอดจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า” ผู้อาวุโสเหยียน,ผู้ที่ถูกช่วยเอาไว้ได้อย่างเฉียดฉิว,กล่าวขึ้นพร้อมกับมองตรงไปที่เซียวเฉิน
ผู้อาวุโสหลัวโบกมือและกล่าว “ข้ารู้แล้ว เจ้าไม่ต้องพูดอะไร เพียงปล่อยเรื่องนี้ไป”
“บูม! บูม! บูม!”
เหล่าผู้อาวุโสระดับสูงของศาลากระบีสวรรค์,ที่ได้ซ่อนตัวอยู่ทั้งหมดแสดงตนออกมาดวงตาของเซียวเฉินเปล่งประกายในตอนที่เขาเห็นเฉินม่านจวิน
เซี่ยวเฉินอุ้มหลิวหรูเยว่ตรงเข้าไปในทันและกล่าวขึ้นอย่างกังวล “อาจารย์ป้า,ได้โปรดช่วยหรูเยว่นางกําลังจะตาย”
เฉินม่านจวิ้นถอนหายใจเบาๆและกล่าว “ข้าเป็นหนี้เจ้าอยู่ครั้งหนึ่ง นอกจากนั้น,หลิวหรูเยว่ก็เป็นคนของพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นทางอารมณ์หรือหน้าที่,ข้าก็จะช่วยนาง”
เมื่อเซียวเฉินได้ยินดังนั้น,เขาผ่อนคลายลง เขากล่าว “อาจารย์ป้า,ท่านช่วยนางได้หรือไม่?”
เฉินม่านจวินหยิบเม็ดยาออกมาและป้อนเข้าไปในปากของหลิวหรูเยว่ เม็ดยาละลายและในไม่ใช้พลังชีวิตที่จางหายไปก็ค่อยๆฟื้นคืนกลับมา
“ทันเวลา นี่เป็นยาศักดิ์สิทธิ์ระดับ 9 แห่งยอดเขาสตรีหยก มันจะช่วยชีวิตของนางได้อย่างอน” เฉินม่านจวินกล่าวอย่างสงบขณะที่นางส่งปราณอันอ่อนโยนเข้าไปเพื่อเร่งผลของยา
เมื่อเหล่าคนที่อยู่ด้านหลังหรูเยว่ได้ยินดังนั้น,พวกเขาทั้งหมดถอนหายใจอย่างโล่งอกดีแล้วตราบใดที่นางยังมีชีวิต
“เซี่ยวเฉิน ล,เจ้าสังหารท่าเจ้ายอดเขาซึ่งเฉวของศาลากระบี่สวรรค์ของข้า ตามกฎของนิกาย,เจ้าควรจะโดนประหารแต่อย่างไรก็ตาม,ซ่งเฉวเป็นคนลงมือก่อน,พยายามจะสังหารสหายร่วมนิกายเขาได้กระทําผิดเช่นเดียวกัน เจ้าได้กระทําความชอบใหญ่หลวงและหากนําเข้าไปร่วมพิจารณาแล้ว,เจ้าถูกตัดสินไม่ให้เข้ามาเหยียบศาลากระปสวรรค์อีกเป็นครั้งที่สองเจ้ายอมรับ หรือไม่?”
เฉินม่านจนกล่าวเบาๆหลังจากอาการของหลิวหรูเยสทรงตัว แม้ว่านางจะไม่ได้เป็นท่านเจ้าศาลาหรือผู้อาวุโสสูง,แต่เพราะอะไร,คําพูดของนางมีน้ำหนักยิ่งกว่าเจียงชื่อ
“เจ้าซื่อบื้อ,ทําไมเจ้ายังไม่ยอมรับ? นางทําเพื่อพยายามปกป้องเจ้า เจ้าไม่เห็นดวงตาคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์?”
ขณะที่เซียวเฉินกําลังจะเปิดปากโต้แย้ง,เสียงของหลิวหรูเยว่ปรากฎขึ้นในใจของเขา เขาทําได้เพียงพยักหน้าและกล่าว“ข้าสัญญาท่าอาจารย์ป้า ข้าจะไม่ก้าวเข้ามาในศาลากระปสวรรค์”
เฉินม่านจวนพยักหน้าเบาๆและมองไปทางผู้อาวุโสหลัว “ผู้อาวุโสหลัว,ท่านคิดเช่นไร?”
ผู้อาวุโสหลักของตําหนักเพิ่งชิงดุด่าผู้อาวุโสเหยียนโดยการส่งเสียงไปหาเขาโดยตรงจากนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นเบาๆและกล่าว“ผู้อาวุโสเฉินสภาพเกินไปแล้วนี้เป็นเรื่องภายในของศาบากระ
สวรรค์ ไม่มีความเกี่ยวข้องกําหนักเพิ่งชิง ข้าหวังว่าท่านเจ้าศาลาน้อยที่น่านับถือจะไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตามที่ตกลงเอาไว้ก่อนหน้านี้”
ในเมื่อหลิวหรูเยว่ปลอดภัยแล้ว,เซี่ยวเฉินก็ผ่อนคลาย ห้ามก้าวเข้ามาในศาลากระบี่สวรรค์ไม่เหมือนกับห้ามกลับมาที่ศาลากระปสวรรค์
ในตอนที่เซียวเฉินแข็งแกร่งเพียงพอ,เขาจะพาหลิวหรูเยว่ออกไปจากสถานที่แห่งนี้เขาจะไม่ลืมสัญญาที่ให้เอาไว้กับนาง
เซียวเฉินกล่าวลากับทุกคนและขอบคุณองค์หญิงหญิงเยว่ก่อนที่เขาจะค่อยๆเดินออกไปพร้อมกับเสี่ยวไป
เซี่ยวเฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาจะได้กลับมาหลังจากจากไปในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม,เขาจะกลับมาอย่างแน่นอน เขาจะต้องทําให้สําเร็จทุกอย่างที่เขาได้สัญญาเอาไว้
หลังจากเซียวเฉินจากไป,ผู้อาวุโสหลัวเดินตรงไปหาหยิงเยว่,ใบหน้ายิ้ม เขากล่าว “สาวน้อยเจ้าดูคล้ายกับปู่ของเจ้ามาก แถมยังดุร้ายไม่แพ้กัน น่าเสียดาย,เจ้าอ่อนแอเกินไป”
หยิงเยว่กุมหอกมหาจักรพรรดิเอาไว้แน่นและกล่าวอย่างเฉยเมย “น่าจะประลองกันให้รู้ไปเลยว่าคําของเจ้าเป็นจริงหรือเท็จ?”
ผู้อาวุโสหลัวยิ้มเบาๆและเมินเฉยคํายั่วยุของหญิงเยว่ เขากล่าว “กลับไปเถอะ,และบอกของเจ้าด้วยว่าเขาก็ยังพ่ายแพ้อยู่ในครั้งนี้”
ขณะที่หยิงเยวมองดูคนของตําหนักเฟิงซึ่งจากไป,นางกล่าวเบาๆกับตัวเอง “ตราบใดที่เซียวเฉินยังมีชีวิต,พวกเขาไม่แพ้
หลังจากนั้น,เหล่าคนระดับสูงก็จากไป จากนั้นฝูงชนในลานฝึกฝนก็ค่อยๆกลับออกไปอย่างช้าๆ
กาาคัดเลือกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถูกทําลายลงไม่มีชิ้นดี แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บ่มเพาะพลังที่มาก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจแต่อย่างใดพวกเขาได้เป็นพยานในการกําเนิดของตํานานนี่ก็นับได้ว่าเป็นโชคดี
ไม่นานหลังจากนี้ย,ตระกูลชั้นสูงบนฐานดาดฟ้าทั้งหมดก็กลับออกไป ลานฝึกฝนที่วุ่นวายกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
แม้แต่โอกาสที่รุ่งเรืองที่สุดก็มาถึงจุดสิ้นสุด,เจียงชื่อถอนหายใจกับตัวเองและนํากลุ่มผู้อาวุโสศาลากระบี่สวรรค์จากไป
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจุดสิ้นสุดในวันนี้จะเป็นตัวจุดชนวนช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของทวีปเทียนหวี่,ม่านเวที่แท้จริงเพิ่งจะเปิดฉากขึ้น
แคว้นซีเหอ,ในโรงเตี้ยมข้างถนนเปลี่ยวแห่งหนึ่ง
ถนนเส้นนี้นําไปสู่แม่น้ำมังกรทมิฬจากศาลากระบี่สวรรค์นี่เป็นถนนเพียงเส้นเดียวนอกจากทุ่งหญ้ามารอสูร
มีผู้บ่มเพาะพลังมากมายอยู่ที่นี่:นี่เป็นโรงเตี้ยมเดียวในระยะห้าร้อยกิโลเมตรบนดินแดนรกร้างแห่งนี้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่ผู้บ่มเพาะพลังมากมายเข้ามาเพื่อพักผ่อน
โรงเตี้ยมนี้ไม่ใหญ่โตนัก: มันไม่มีชั้นแยกมีเพียงอาคารหลังเดียวพร้อมห้องครัวและห้องพักมีหลายโต๊ะที่ตั้งอยู่ด้านนอก,มีป้ายปักอยู่ข้างถนน
อย่างไรก็ตาม,กิจการรุ่งเรืองเป็นอย่างมากจากหลายสิบโต๊ะมีเพียงโต๊ะเดียวที่นั่งว่างผู้บ่มเพาะพลังจองโต๊ะที่เหลือทั้งหมด
ที่ถังเหล้าด้านนอกโรงเตี้ยม,มีเด็กสาวสวยชุดขาว,อายุประมาณสิบสี่หรือสิบห้าปี,กําลังถือขวดน้ำเต้านางร้องเรียกเจ้าของโรงเตี้ยมอย่างมีความสุข “เติมเหล้าใส่ขวดน้ำเต้าของข้า”
เจ้าของเป็นชายอายุมากกว่าห้าสิบปี ในตอนที่เขามองเห็นรอยยิ้มอันเย้ายวนใจบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ของเด็กสาว,เขาต้องเสน่ห์ไปในทันที
เขาเพียงฟื้นคืนสติหลังจากผ่านไปนาน จากนั้น,เขาหยิบกรวยออกมาและใส่ลงในปากขวดน้ำเต้าเขาใช้กระบวยค่อยๆตักเหล้าใส่ลงไป
เมื่อเด็กสาวได้กลิ่นเหล้าหอมหวน, นางยิ้มจนแก้มปริ นางกล่าว “ขอบคุณ;เติมลงไปอีก”
เจ้าของหัวเราะและกล่าว “ไม่มีปัญหา ข้าจะเติมให้เต็ม ข้าเปิดกิจการอย่างซื่อตรง ข้าไม่โกงเจ้า”
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากตกเหล้าเติมลงไปเป็นเวลานาน,คุณเจ้าของก็เริ่มบ่นกับตัวเอง “ทําไมรู้สึกเหมือนข้าเติมเหล้าใส่น้ำเต้าเล็กๆนี้ไม่เต็มสักที?” เขามองลงไปและเห็นว่ากันน้ำเต้าไม่มีรอยรั่วแม้แต่น้อย
ที่โต๊ะด้านข้าง,ผู้เยาว์ในชุดขาวกําลังทานอาหารอย่างเงียบๆ มีแถบผ้าสีน้ำเงินมัดรอบหน้าผากของเขาและผิวของเขาสีขาวนวลเป็นอย่างยิ่ง;ใบหน้าของเขาหล่อเหลา ในตอนที่เขาเห็นเช่ นนั้น,เขาเกือบจะสําลักอาหารลงไปในจาน
ผู้เยาว์ผู้นี้รีบวิ่งตรงเข้ามาและคว้าเอาขวดน้ำเต้าไป จากนั้นเขาก็หยิบแผ่นทองออกมาและยื่นให้“เถ้าแก่,ไม่จําเป็นต้องเติมแล้วนี่จ่ายเป็นทอง”
“ขอบคุณ,ชายน้อย!”
เมื่อเถ้าแก่เห็นแผ่นทอง,ดวงตาของเขาเปิดกว้าง แต่อย่างไรก็ตาม,เขาก็ยังพึมพํากับตัวเอง“น่าแปลกมันเป็นแค่ขวดน้ำเต้าเล็กๆ;ทําไมข้าถึงเติมมันไม่เต็มสักที?”
ชายหนุ่มชัดขาวนิ่มอย่างขมขึ้นกับตัวเอง หากท่าเติมมันได้เต็ม,นั้นสิน่าแปลก นี่เป็นสมบัติเวทมิติที่ข้าหลอมขึ้นมาแม้แต่เจ้าจะเติมมันด้วยน้ำทั้งสระร้อยเมตร,มันก็มีที่ว่างเพียงพอ
ไม่จําเป็นต้องบอก,สองคนนี้ก็คือเซี่ยวเฉินและเสี่ยวไป,ผู้ที่เพิ่งออกมาจากศาบากระปสวรรค์
หลังจากที่ออกมาจากศาลากระบี่สวรรค์,เซียวเฉินนั่งเรือสงครามสีเงินออกมาจากชายแดนของศาบากระบี่สวรรค์อย่าวรวดเร็วหลังจากที่เขาใช้เวลาครึ่งเดือนในการรักษาอาการบาดเจ็บของเขาในเมืองเล็กๆเขาก็เดินทางต่อ
ในตอนนี้ ,ภายในอาณาจักรต้าฉัน,นอกจากคนสองสามคน,ไม่มีใครในหมู่รุ่นเยาว์ที่เทียบเคียงกับเซียวเฉินได้แล้วคนที่เหลือไม่คู่ควรที่จะให้เขาออกแรงเร็มกําลัง
ในทวีปเทียนหวี่,อาณาจักรต้จินแข็งแกร่วลงที่สุด;เส้นโลหิตวิญญาณของพวกเขาไม่เปลี่ยนแปลงอีกสอาณาจักรที่เหลือ:อาณาจักรต้าถัง,อาณาจักรต้าชู,อาณาจักรต้าเซีย,และอาณาจักรต้าฉินแน่นอน,อาณาจักรต้าฉันอ่อนแอที่สุดพลังงานจิตวิญญาณในอาณาจักรต้าฉันเบาบางที่สุดพวกเขามีนิกายใหญ่เพียงสามแห่งเท่านั้น
สําหรับอาณาจักรอื่น,พวกเขามีอย่างน้อยสี่หรือห้านิกายที่ไม่ด้อยไปกว่าศาลากระบี่สวรรค์ไม่จําเป็นต้องกล่าว,ว่าอาณาจักรต้าจินมีเยอะยิ่งกว่านี้
เซี่ยวเฉินไม่เคยจํากัดเป้าหมายของเขาไว้ที่อาณาจักรตาฉัน จากตั้งแต่เริ่ม,เขาตั้งเป้าเอาไว้ที่ทั่วทั้งทวีปดังนั้นเขาจําเป็นต้องเดินทางออกจากอาณาจักรต้าฉัน
ทวีปเทียนหวี่กว้างใหญ่และไร้ขอบเขตนอกจากหาอาณาจักรใหญ่,ยังมีแดนรกร้างลึกลับ,คนเถื่อนที่ครอบครองภูเขานับแสนในตอนเหนือ,และอาณาจักรเล็กๆที่ถูกปกครองโดยชนเผ่าโบราณแปลกประหลาด
Comments