Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 373 การยั่วยุ นิสัยที่ตรงไปตรงมา

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 373 การยั่วยุ นิสัยที่ตรงไปตรงมา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 373 การยั่วยุ นิสัยที่ตรงไปตรงมา

เยว่เฉินซีค่อยๆร่อนลงมาจากอากาศนางถอนกระแสพลังอันแข็งแกร่งของนางกลับไปในทันทีมีรอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันงดงามของนาง “ขอบคุณที่เบามือ!”

“ผู้ที่อยู่ในหนึ่งร้อยอันดับต้นเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างไม่ต้องสงสัย การเคลื่อนไปถึงห้าสิบอันดับต้นเป็นอุปสรรคใหญ่หลวง เมื่อเทียบความแข็งแกร่งระหว่างจินอูและเยว่เฉินซี, มันแตกต่างกันชัดเจน”

“ผู้ที่อยู่ห้าสิบอันดับต้นแข็งแกร่งอย่างมากแล้ว ผู้ที่อยู่สิบอันดับต้นจะแข็งแกร่งเพียงใดกัน? มีอัจฉริยะมากมายในทวีปแห่งนี้”

“ใช่แล้ว,ความแข็งแกร่งของหลิวเมิงอยู่สิบอันดับต้นในหมู่พวกเรา อย่างไรก็ตาม,เขาไม่แม้แต่จะทําให้เยว่เฉินเยวใช้พลังออกมาถึงครึ่งนางสามารถกดดันเขาจนหมดหนทางตอบโต้”

การแลกเปลี่ยนกระบวณท่าสั้นๆระหว่างทั้งสองทําให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ในหมู่ผู้คน พวกเขาตะลึงในความแข็งแกร่วของเยว่เฉินซี

ในตอนนี้ไม่มีใครอิจฉาหลิวเมิงที่ไออกไปประมือกับเยว่เฉินซีเป็นคนแรก มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีที่จะออกไปโดนหญิงสาวตบตีจนหมดท่า

“มือกระบี่ชุดขาว,เซี่ยวเฉิน,ออกมาแลกเปลี่ยนกระบวณท่ากันหน่อยเป็นเช่นไร?” เยว่เฉินซียิ้มขึ้นพร้อมกับออกปากท้าทายเซี่ยวเฉินฝูงชนต่าวตกตะลึง

ในจังหวะที่สิ้นเสียงของเยว่เฉินซี,ทุกคนล้วนรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ นางเป็นคนเริ่มท้าเซียวเฉินก่อน

ฝูงชนคิดว่าเยว่เฉินซีจะหวังสูงกับเซียวเฉินเกินไปแล้ว แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะแข็งแกร่ง แต่ในความคิดของพวกเขา,เซี่ยวเฉินไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดอย่างดีที่สุด,เขาก็ติดสิบอันดับต้นของคนที่อยู่ที่นี่เท่านั้น

พวกเขาทั้งสองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ด้านหนึ่งเป็นศิษย์ของเจ้านิกายจากหนึ่งในสิบนิกายใหญ่แห่งอาณาจักรต้าจิน อีกด้านหนึ่งเป็นผู้บ่มเพาะพลังไร้สังกัดจากอาณาจักรต้าฉัน

ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน,เซี่ยวเฉินก็ไม่ควรจะเป็นคนที่ถูกท้า ดังนั้น,ทุกคนรู้สึกแปลกใจ พวกเขายังรู้สึกอิจฉาเช่นกัน

โดยเฉพาะกับจินอู สีหน้ายินดีเมื่อครู่ของเขาจางหายไปแล้ว

ให้ตาย! หากนางจะท้าทายใครสักคนหนึ่ง, มันควรจะเป็นข้า เซี่ยวเฉินมีดีอะไรที่จะได้รับค่าท้าจากนาง? จินอจี้หัวเสีย

ตามจริง เซี่ยวเฉินก็ประหลาดใจอยู่เงียบๆเช่นกัน จากความแข็งแกร่งของเยว่เฉินซีที่นางได้แสดงออกมาเมื่อครู่,นางใช้เพียงปราณอันบริสุทธิ์, หนานแน่น,และดุร้ายในการล้มหลิวเมิงโดยไม่ได้ใช้สภาวะของนาง

เซี่ยวเฉินมั่นใจว่าเขาไม่ใช่คู่มือของนางโดยเฉพาะในตอนที่พวกเขาต้องจํากัดพลังเอาไว้นี้ ทําให้ย่าแย่ลงไปอีก

หากเป็นการต่อสู้ถึงตาย,เซียวเฉินอาจจะยังสามารถคว้าโอกาสสร้างสถานะการณ์ที่จะไม่มีฝ่ายใดได้ชัย

เซี่ยวเฉินส่ายหัวเบาๆและกล่าว “ข้าไม่ใช่คู่มือที่จะประมือแลกเปลี่ยนมุมมองกับเจ้าได้ นอกจากนั้น มันยังไม่เกิดประโยชน์

ต่อหน้าหมัดอาทิตย์รุ่งอรุณของฝ่ายตรงข้าม หากเซียวเฉินไม่ใส่เต็มกําลัง,การป้องกันก็เป็นไปไม่ได้เขาจะจบลงไม่ต่างไปจากหลิวเมิง.

ประมือแลกเปลี่ยนมุมมองที่ถูกกดอยู่ฝ่ายเดียวมันไร้ความหมาย มันไม่ทําให้ฝ่ายใดด้าวหน้าในเส้นทางยุทธ ดังนั้น,เซียวเฉินไม่สนใจที่จะตอบตกลง

เมื่อจินอได้ยินดังนั้น,เขารีบกล่าวขึ้น “ในเมื่อพี่น้องเซี่ยวยอมรับความด้อยกว่าของเขา ก็ปล่อยเขาไป,แม่นางเยว”

เยว่เฉินซีเมินเฉยกับจินอจี้ นางจ้องมองเซี่ยวเฉิน,กําลังครุ่นคิด

เซี่ยวเฉินเพียงกล่าวว่าเขาสามาระล้มนางได้ในการประมือแลกเปลี่ยนมุมมอง เขาไม่ได้กล่าวว่าเขาอ่อนด้อยไปกว่านางหรืออีกนับหนึ่ง,เขากล่าวว่าพื้นที่ตรงนี้มันแคบไปสําหรับพวกเขาไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถต่อสู้ได้โดยไม่ออมมือ

จินอจิ้มองเยว่เฉินซีที่จ้องมองเซี่ยวเฉินต่อไปไม่วางตาและเมินเฉยตัวเขา เขารู้สึกอับอายเล็กน้อย;เขารู้สึกว่าเขาเสียหน้า

ความเกลียดชังต่อเซี่ยวเฉินของจินอูจทวีรุนแรงขึ้น เจ้าหมอนี้ทําให้ข้าดูแย่ซ้ําแล้วซ้ำอีก ในอนาคต,จะต้องหาโอกาสคิดบัญชีกับเขา

“ปัง!”

ขณะที่จินอจี้กําลังครุ่นคิด,รูขนาดใหญ่พลันปรากฏขึ้นเหนือหัวของพวกเขา เยว่เฉินซีบินออกไป

ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน,เยว่เฉินซีระเบิดรูขนาดใหญ่ขึ้นบนหลังคา

“มือกระบี่ชุดขาด,เซี่ยวเฉิน,ข้าเข้าใจว่าเจ้าหมายถึงอะไร เจ้ากล้าออกมาหรือยังตอนนี้?” เสียงไพเราะของเยวเฉินซีดังลงมาจากหลังคา

เซี่ยวเฉินยิ้มกับตัวเอง ไม่เพียงแต่หญิงสาวผู้นี้จะมีขอบเขตพลังสูง,แต่นางยังฉลาดหลักแหลมและมีนิสัยตรงไปตรงมา

เป็นเพราะเยว่เฉินซีอยากที่จะปะมือกับเซียวเฉิน,นางไม่ลังเลที่จะระเบิดหลังคาของร้ายอาหารออกไป นางไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร

เซี่ยวเฉินประทับใจในนิสัยใจคอเช่นนี้ ในเมื่อเยว่เฉินซื้อยากจะส,ข้าก็จะตามใจนาง!

“ปัง!”

แสงสีม่วงพุ่งขึ้นไป,และเกิดรูขนาดใหญ่อีกรูปรากฏขึ้นเหนือหัวของทุกคน ดวงตะวันสาดแสงลงมา;เซี่ยวเฉินกระโดดขึ้นไปแล้วเช่นกัน

“ข้าเข้าใจแล้ว พวกเขาต้องการการต่อสู้ที่ดุเดือด ที่แห่งนี้คับแคบเกินไป”

“ในเมื่อเยว่เฉินซีท้าทายเซี่ยวเฉินเช่นนี้ ความแข็งแกร่งของเซี่ยวเฉินจะต้องมากกว่าที่พวกเราคิดเอาไว้”

“ฮ่า ฮ่า,มีเรื่องสนุกให้ได้ชมแล้ว มาออกไปกัน!”

กลุ่มผู้บ่มเพาะพลังกระโดดออกไปทางหน้าต่างอย่างตื่นต้น พวกเขากระโดดขึ้นไปบนหลังคาของอาคารอื่นที่อยู่บนถนน,มองหาที่ยืนชมดีๆ

“นายน้อยจิน, พวกเราก็จะออกไปด้วยเช่นกัน ท่านจะมาด้วยหรือไม่?” ซเสียวเสี่ยวถามขึ้นขณะที่นางมองไปยังจินอจี้

จินอจี้ตอนนี้หดหูเป็นอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าที่จะแสดงออกมาต่อหน้าซูเสียวเสียว ถึงอย่างไร,นางเป็นคนที่แม้แต่อาจารย์ของเขาก็ไม่กล้าเสียมารถยาท

“แม่นางเสี่ยวเสี่ยว,ท่านออกไปก่อน ข้าจะตามไปทีหลัง” จินอูยิ้มอย่างละอาย

ในไม่ช้า,เหลือเพียงจินอูจที่อยู่บนชั้นสี่เขานั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะ

ความตั้งใจของจีนอในการประชุมครั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มอิทธิพลของเขาในอาณาจักรต่างๆ โดยเฉพาะเมื่อเขาเชิญชวนเยว่เฉินซึมาได้ ชื่อเสียงของเขาจะเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้สถานการณ์มันเกินกว่าการควบคุมที่เขาตั้งใจเอาไว้

การเตรียมการอย่างพิถีพิถันของจินอจี้ตกไปเป็นของคนอื่น,ทําให้เซียวเฉินกลายเป็ที่จับตา มองกลับกลายเป็นเขาที่ถูกลืม

“ปัง!”

จินอูจทําลายเก้าอี้ด้านข้างตัวเขาด้วยฝ่ามือ แววตางูพิษปรากฎขึ้นในดวงตาของเขา เขากล่า วกับตัวเอง “ข้าควรจะออกไปดู ข้าหวังว่าเยว่เฉินซีจะไม่มียั้งมือ,ทําให้เซี่ยวเฉินกลายเป็นตัวตลก นั้นจะช่วยบรรเทาความโกรธของข้า

ร้านอาหารที่จัดการประชุมขึ้นเป็นร้านอาหารที่คึกคักที่สุดบนเกาะสายลมขจี พื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ที่วุ่นวายที่สุดในเมือง

เป็นเพราะสมบัติของราชาทุ่งหญ้า,มีผู้บ่มเพาะพลังจํานวนมากมาเยือนที่เกาะสายลมขจีในตอนที่เซี่ยวเฉินและเยว่เฉินซีปรากฏตัวขึ้นบนหลังคา,พวกเขาดึงดูดความสนใจของผู้บ่มเพาะพลังจํานวนมากที่อยู่ด้านล่างในทันที

หลังจากนั้น,ผู้มีพรสวรรค์โดดเด่นจากหลากหลายอาณษจักรปรากฏตัวขึ้น มันยิ่งดูงด็ดผู้คน ขึ้นไปอีกก่อนที่พวกเขาจะเริ่มการต่อสู้,ฝูงชนก็หนาแน่นเต็มถนนแล้ว

นอกจากนั้น ยังมีคนที่กระโดดออกมาจากอาคารที่มีความสูงระดับเดียวกันอย่างต่อเนื่อง,อยากที่จะเห็นว่ากําลังเกิดอะไรขึ้น

“สองคนนั้นเป็นใคร? ทําไมพวกเขาถึงได้เป็นจุดสนใจถึงเพียงนี้? ข้าเหมือนจะเห็นหลิวเมิงแห่งอาณาจักรต้าชูอยู่ท่ามกลางฝูงชน

“ดาบคลั่งจากอาณาจักรต้าเซีย,เหอฮวนก็อยู่ที่นี่ ยังมีดาบไร้เงา, หลิวเสี่ยวเหอ,และจินอุจจากประตูดาบสวรรค์”

ทุกคนพื้นบนถนนถูกกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะสัมผัสได้ว่าสองคนนั้นไม่ใช่ธรรมดา,แต่พวกเขาอดไม่สนใจผู้มีพรสวรรค์โดดเดนมากมายเช่นนี้ได้

จนกระทั่งมีคนเห็นใบหน้าอันงดงามของเยว่เฉินซ์ได้ชัดเจน เขากล่าวขึ้นอย่างตกตะลึง “เยว่ เฉินซี! เยว่เฉินซ์แห่งนิกายนภาสูง นางเป็นหนึ่งในผู้มีพรรสวรรค์ที่โด่งดังที่สุดในอาณาจักรต้าจินนางกลายเป็นระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธตั้งแต่อายุสิบหกไม่คาดคิดว่านางจะมาที่เกาะสายลมขจี แห่งนี้”

“ไม่สงสัยว่าทําไมนางถึงได้ดึงความสนใจของผู้มีพรสวรรค์โดดเด่นได้มากมายเช่นนี้ นางคือ เยว่เฉินซีนั้นเองอย่างไรก็ตาม,บรุษผู้นั้นคือใคร? สําหรับเขาที่ประมือกับเยว่เฉินซีเขาน่าจะแข็งแกร่ง

“การแต่งตัวทําให้ข้านึกถึงมือกระบี่ชุดขาวแห่งอาณาจักรต้าฉัน,เซี่ยวเฉิน สําหรับเขาที่เยว่ เฉินซีให้ความสนใจ,เขาน่าจะเป็นตัวจริง”

“อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นมือกระบี่ชุดขาว,ความแข็งแกร่งของเขาก็ห่างไกลจากเยว่เฉินซี”

ฝูงชนเบื้องล่างในที่สุดก็นึกตัวตนของเซี่ยวเฉินและเยว่เฉินซีออก ความสนใจในการประลองครั้งนี้พุ่งสูงขึ้นมีฝูงชนหนาแน่นบนหลังคาอาคารที่อยู่โดยรอบ

เยว่เฉินซึมองไปยังเซี่ยวเฉิน นางเผยรอยยิ้มบางๆและกล่าวอย่างอ่อนโอยน “มือกระบี่ชุดขาวเซี่ยวเฉิน,เจ้าพึงพอใจหรือยัง?”

เซี่ยวเฉินเผยรอยยิ้มบนใบหน้านิ่งสงบของเขา เขากล่าว “เพียงเรียกข้าว่าเซี่ยวเฉิน ไม่จําเป็นต้องเติม “มือกระบี่ชุดขาว” ไปเสียทุกครั้ง”

เยวเฉินซีพยักหน้าเบาๆและพิมพ์ชื่อเซี่ยวเฉินกับตัวเองสองสามครั้ง ผ่านไปครู่หนึ่ง,นางกล่าว “เอาล่ะ,ต่อไปนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่าเซี่ยวเฉิน อย่างไรก็ตาม,ข้ายังคงรู้สึกว่าการเติมคําว่ามือกระบี่ชุดขาว” มันฟังดูสง่างามกว่า”

“ฮ่าฮ่า! ข้าจะเริ่มแล้ว แย่ทําให้ข้าผิดหวัง,มือกระบี่ชุดขาว!”

เยว่เฉินซียิ้มเบาๆและดีดตัวออกจากหลังคาเรือนร่างอันงดงามของนางปรากฎขึ้นในอากาศ,และนางกําหมัดอย่างสง่างาม

“บูม!”

แสงเจิดจ้าระเบิดขึ้นบนท้องฟ้า หมัดวายุที่ดุร้ายและรุนแรงมุ่งหน้าตรงมาที่เซี่ยวเฉินพร้อมกับแสง

เมฆาอัสนีอันไร้ขอบเขตเริ่มหมุนวนบนท้องฟ้าเหนือหัวของเซี่ยวเฉินอย่างรวดเร็ว เซียวเฉิน สําแดงสภาวะแห่งสายฟ้าของเขาที่หลอมรวมเข้ากับเส้นสายพลังศักดิ์สิทธิ์จนถึงขีดสุด

“ทําลาย!”

ตามมาจากนั้น,เส้นสายฟ้าดิ่งลงมา เซียวเฉินชักกระบี่เงาจันทร์ออกมาในทันทีและสับหมัดวายุที่บินมาทางเขาขาดครึ่ง

หมัดวายุที่ถูกตัดครึ่งเฉียดผ่านหัวไหล่ทั้งสองข้างของเซี่ยวเฉิน จากนั้น,พวกมันระเบิดเกิดเป็นรูขนาดใหญ่บนหลังคา มีเสียงแตกหักดังขึ้นไม่หยุด

“บูม! บูม! บูม!”

แสงรุ่งโรจน์ห่อหุ้มร่างของเยว่เฉินซีราวกับเป็นแสงที่ปัดเป่าความมืดสุดท้ายยามค่ำคืน เส้นแสงระเบิดออก,และหมัดวายุหนาแน่นเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว

มันดูราวกับเยว่เฉินซียิงกระสุนปืนใหญ่ไปที่เซี่ยวเฉิน,แต่ละนัดยิ่งแข็งแกร่งและรวดเร็วขึ้น

สีหน้าเซียวเฉินกลายเป็นร้ายแรง เขายินมั่นอยู่บนหลังคาไม่เคลื่อนไหว เขาไม่อาจล่าถอยได้ในตอนนี้ มิฉะนั้น,การโจมตีจะยิ่งถาโถมเข้ามาใส่ตัวเขา

เซี่ยวเฉินสงบราวกับน้ำนิ่ง,ใช้ออกวาดกระบี่ของเขาอย่างต่อเนื่อง แต่ละครั้งที่เขากวาดกระบี่มีเส้นสายฟ้าวูบไหว,สับหมัดวายุที่ดุร้ายขาดครึ่ง

หมัดวายุอันล้าคลั่งลอยไปทั่วทุที่ในอากาศ บางครั้ง, แสงภายในหมัดวายุระเบิดออก,เกิดเป็นรูมากมายบนหลังคา

สายลมรุนแรงทําให้แผ่นกระเบื้องแตกสลาย

เยว่เฉินซีเรืองแสงสีทองสว่างเจิดจ้าในอากาศ นางดูราวกับดวงตะวันขนาดย่อม ในตอนที่ทุกคนจ้องมอง,พวกเขารู้สึกแสบในดวงตา

“หมัดอาทิตย์รุ่งอรุณของนิกายนภาสูงทรงพลังอย่างแท้จริง มันสามารถสําแดงพลังเช่นนี้ออกมาได้เพียงแค่ใช้พลังปราณ ข้าสงสัยว่าหากนางหลอมรวมเข้ากับสภาวะ,มันจะแข็งแกร่งถึงเพียง ใด?”

“อย่างไรก็ตาม,มือกระยชุดขาวก็ค่อนข้างแข็งแกร่งเช่นกัน เห็นชัดว่าเขาสําเร็จสภาวะแห่งสายฟ้าถึงเพียงระดับสมบูรณ์ขั้นต้น แต่กระนั้นสภาวะของเขาก็ยังทรงพลังดุร้ายยิ่งกว่าสภาวะระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยีมของคนทั่วไป”

“แต่ละกระบี่ของเขาเร่งความเร็วถึง 3 มัคในทันที ด้วยการช่วยเหลือจากสภาวะของเขา เขาสามารถป้องกันหมัดอาทิตย์รุ่งอรุณได้อย่างต่อเนื่อง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 373 การยั่วยุ นิสัยที่ตรงไปตรงมา

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 373 การยั่วยุ นิสัยที่ตรงไปตรงมา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 373 การยั่วยุ นิสัยที่ตรงไปตรงมา

เยว่เฉินซีค่อยๆร่อนลงมาจากอากาศนางถอนกระแสพลังอันแข็งแกร่งของนางกลับไปในทันทีมีรอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันงดงามของนาง “ขอบคุณที่เบามือ!”

“ผู้ที่อยู่ในหนึ่งร้อยอันดับต้นเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างไม่ต้องสงสัย การเคลื่อนไปถึงห้าสิบอันดับต้นเป็นอุปสรรคใหญ่หลวง เมื่อเทียบความแข็งแกร่งระหว่างจินอูและเยว่เฉินซี, มันแตกต่างกันชัดเจน”

“ผู้ที่อยู่ห้าสิบอันดับต้นแข็งแกร่งอย่างมากแล้ว ผู้ที่อยู่สิบอันดับต้นจะแข็งแกร่งเพียงใดกัน? มีอัจฉริยะมากมายในทวีปแห่งนี้”

“ใช่แล้ว,ความแข็งแกร่งของหลิวเมิงอยู่สิบอันดับต้นในหมู่พวกเรา อย่างไรก็ตาม,เขาไม่แม้แต่จะทําให้เยว่เฉินเยวใช้พลังออกมาถึงครึ่งนางสามารถกดดันเขาจนหมดหนทางตอบโต้”

การแลกเปลี่ยนกระบวณท่าสั้นๆระหว่างทั้งสองทําให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ในหมู่ผู้คน พวกเขาตะลึงในความแข็งแกร่วของเยว่เฉินซี

ในตอนนี้ไม่มีใครอิจฉาหลิวเมิงที่ไออกไปประมือกับเยว่เฉินซีเป็นคนแรก มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีที่จะออกไปโดนหญิงสาวตบตีจนหมดท่า

“มือกระบี่ชุดขาว,เซี่ยวเฉิน,ออกมาแลกเปลี่ยนกระบวณท่ากันหน่อยเป็นเช่นไร?” เยว่เฉินซียิ้มขึ้นพร้อมกับออกปากท้าทายเซี่ยวเฉินฝูงชนต่าวตกตะลึง

ในจังหวะที่สิ้นเสียงของเยว่เฉินซี,ทุกคนล้วนรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ นางเป็นคนเริ่มท้าเซียวเฉินก่อน

ฝูงชนคิดว่าเยว่เฉินซีจะหวังสูงกับเซียวเฉินเกินไปแล้ว แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะแข็งแกร่ง แต่ในความคิดของพวกเขา,เซี่ยวเฉินไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดอย่างดีที่สุด,เขาก็ติดสิบอันดับต้นของคนที่อยู่ที่นี่เท่านั้น

พวกเขาทั้งสองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ด้านหนึ่งเป็นศิษย์ของเจ้านิกายจากหนึ่งในสิบนิกายใหญ่แห่งอาณาจักรต้าจิน อีกด้านหนึ่งเป็นผู้บ่มเพาะพลังไร้สังกัดจากอาณาจักรต้าฉัน

ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน,เซี่ยวเฉินก็ไม่ควรจะเป็นคนที่ถูกท้า ดังนั้น,ทุกคนรู้สึกแปลกใจ พวกเขายังรู้สึกอิจฉาเช่นกัน

โดยเฉพาะกับจินอู สีหน้ายินดีเมื่อครู่ของเขาจางหายไปแล้ว

ให้ตาย! หากนางจะท้าทายใครสักคนหนึ่ง, มันควรจะเป็นข้า เซี่ยวเฉินมีดีอะไรที่จะได้รับค่าท้าจากนาง? จินอจี้หัวเสีย

ตามจริง เซี่ยวเฉินก็ประหลาดใจอยู่เงียบๆเช่นกัน จากความแข็งแกร่งของเยว่เฉินซีที่นางได้แสดงออกมาเมื่อครู่,นางใช้เพียงปราณอันบริสุทธิ์, หนานแน่น,และดุร้ายในการล้มหลิวเมิงโดยไม่ได้ใช้สภาวะของนาง

เซี่ยวเฉินมั่นใจว่าเขาไม่ใช่คู่มือของนางโดยเฉพาะในตอนที่พวกเขาต้องจํากัดพลังเอาไว้นี้ ทําให้ย่าแย่ลงไปอีก

หากเป็นการต่อสู้ถึงตาย,เซียวเฉินอาจจะยังสามารถคว้าโอกาสสร้างสถานะการณ์ที่จะไม่มีฝ่ายใดได้ชัย

เซี่ยวเฉินส่ายหัวเบาๆและกล่าว “ข้าไม่ใช่คู่มือที่จะประมือแลกเปลี่ยนมุมมองกับเจ้าได้ นอกจากนั้น มันยังไม่เกิดประโยชน์

ต่อหน้าหมัดอาทิตย์รุ่งอรุณของฝ่ายตรงข้าม หากเซียวเฉินไม่ใส่เต็มกําลัง,การป้องกันก็เป็นไปไม่ได้เขาจะจบลงไม่ต่างไปจากหลิวเมิง.

ประมือแลกเปลี่ยนมุมมองที่ถูกกดอยู่ฝ่ายเดียวมันไร้ความหมาย มันไม่ทําให้ฝ่ายใดด้าวหน้าในเส้นทางยุทธ ดังนั้น,เซียวเฉินไม่สนใจที่จะตอบตกลง

เมื่อจินอได้ยินดังนั้น,เขารีบกล่าวขึ้น “ในเมื่อพี่น้องเซี่ยวยอมรับความด้อยกว่าของเขา ก็ปล่อยเขาไป,แม่นางเยว”

เยว่เฉินซีเมินเฉยกับจินอจี้ นางจ้องมองเซี่ยวเฉิน,กําลังครุ่นคิด

เซี่ยวเฉินเพียงกล่าวว่าเขาสามาระล้มนางได้ในการประมือแลกเปลี่ยนมุมมอง เขาไม่ได้กล่าวว่าเขาอ่อนด้อยไปกว่านางหรืออีกนับหนึ่ง,เขากล่าวว่าพื้นที่ตรงนี้มันแคบไปสําหรับพวกเขาไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถต่อสู้ได้โดยไม่ออมมือ

จินอจิ้มองเยว่เฉินซีที่จ้องมองเซี่ยวเฉินต่อไปไม่วางตาและเมินเฉยตัวเขา เขารู้สึกอับอายเล็กน้อย;เขารู้สึกว่าเขาเสียหน้า

ความเกลียดชังต่อเซี่ยวเฉินของจินอูจทวีรุนแรงขึ้น เจ้าหมอนี้ทําให้ข้าดูแย่ซ้ําแล้วซ้ำอีก ในอนาคต,จะต้องหาโอกาสคิดบัญชีกับเขา

“ปัง!”

ขณะที่จินอจี้กําลังครุ่นคิด,รูขนาดใหญ่พลันปรากฏขึ้นเหนือหัวของพวกเขา เยว่เฉินซีบินออกไป

ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน,เยว่เฉินซีระเบิดรูขนาดใหญ่ขึ้นบนหลังคา

“มือกระบี่ชุดขาด,เซี่ยวเฉิน,ข้าเข้าใจว่าเจ้าหมายถึงอะไร เจ้ากล้าออกมาหรือยังตอนนี้?” เสียงไพเราะของเยวเฉินซีดังลงมาจากหลังคา

เซี่ยวเฉินยิ้มกับตัวเอง ไม่เพียงแต่หญิงสาวผู้นี้จะมีขอบเขตพลังสูง,แต่นางยังฉลาดหลักแหลมและมีนิสัยตรงไปตรงมา

เป็นเพราะเยว่เฉินซีอยากที่จะปะมือกับเซียวเฉิน,นางไม่ลังเลที่จะระเบิดหลังคาของร้ายอาหารออกไป นางไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร

เซี่ยวเฉินประทับใจในนิสัยใจคอเช่นนี้ ในเมื่อเยว่เฉินซื้อยากจะส,ข้าก็จะตามใจนาง!

“ปัง!”

แสงสีม่วงพุ่งขึ้นไป,และเกิดรูขนาดใหญ่อีกรูปรากฏขึ้นเหนือหัวของทุกคน ดวงตะวันสาดแสงลงมา;เซี่ยวเฉินกระโดดขึ้นไปแล้วเช่นกัน

“ข้าเข้าใจแล้ว พวกเขาต้องการการต่อสู้ที่ดุเดือด ที่แห่งนี้คับแคบเกินไป”

“ในเมื่อเยว่เฉินซีท้าทายเซี่ยวเฉินเช่นนี้ ความแข็งแกร่งของเซี่ยวเฉินจะต้องมากกว่าที่พวกเราคิดเอาไว้”

“ฮ่า ฮ่า,มีเรื่องสนุกให้ได้ชมแล้ว มาออกไปกัน!”

กลุ่มผู้บ่มเพาะพลังกระโดดออกไปทางหน้าต่างอย่างตื่นต้น พวกเขากระโดดขึ้นไปบนหลังคาของอาคารอื่นที่อยู่บนถนน,มองหาที่ยืนชมดีๆ

“นายน้อยจิน, พวกเราก็จะออกไปด้วยเช่นกัน ท่านจะมาด้วยหรือไม่?” ซเสียวเสี่ยวถามขึ้นขณะที่นางมองไปยังจินอจี้

จินอจี้ตอนนี้หดหูเป็นอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าที่จะแสดงออกมาต่อหน้าซูเสียวเสียว ถึงอย่างไร,นางเป็นคนที่แม้แต่อาจารย์ของเขาก็ไม่กล้าเสียมารถยาท

“แม่นางเสี่ยวเสี่ยว,ท่านออกไปก่อน ข้าจะตามไปทีหลัง” จินอูยิ้มอย่างละอาย

ในไม่ช้า,เหลือเพียงจินอูจที่อยู่บนชั้นสี่เขานั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะ

ความตั้งใจของจีนอในการประชุมครั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มอิทธิพลของเขาในอาณาจักรต่างๆ โดยเฉพาะเมื่อเขาเชิญชวนเยว่เฉินซึมาได้ ชื่อเสียงของเขาจะเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้สถานการณ์มันเกินกว่าการควบคุมที่เขาตั้งใจเอาไว้

การเตรียมการอย่างพิถีพิถันของจินอจี้ตกไปเป็นของคนอื่น,ทําให้เซียวเฉินกลายเป็ที่จับตา มองกลับกลายเป็นเขาที่ถูกลืม

“ปัง!”

จินอูจทําลายเก้าอี้ด้านข้างตัวเขาด้วยฝ่ามือ แววตางูพิษปรากฎขึ้นในดวงตาของเขา เขากล่า วกับตัวเอง “ข้าควรจะออกไปดู ข้าหวังว่าเยว่เฉินซีจะไม่มียั้งมือ,ทําให้เซี่ยวเฉินกลายเป็นตัวตลก นั้นจะช่วยบรรเทาความโกรธของข้า

ร้านอาหารที่จัดการประชุมขึ้นเป็นร้านอาหารที่คึกคักที่สุดบนเกาะสายลมขจี พื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ที่วุ่นวายที่สุดในเมือง

เป็นเพราะสมบัติของราชาทุ่งหญ้า,มีผู้บ่มเพาะพลังจํานวนมากมาเยือนที่เกาะสายลมขจีในตอนที่เซี่ยวเฉินและเยว่เฉินซีปรากฏตัวขึ้นบนหลังคา,พวกเขาดึงดูดความสนใจของผู้บ่มเพาะพลังจํานวนมากที่อยู่ด้านล่างในทันที

หลังจากนั้น,ผู้มีพรสวรรค์โดดเด่นจากหลากหลายอาณษจักรปรากฏตัวขึ้น มันยิ่งดูงด็ดผู้คน ขึ้นไปอีกก่อนที่พวกเขาจะเริ่มการต่อสู้,ฝูงชนก็หนาแน่นเต็มถนนแล้ว

นอกจากนั้น ยังมีคนที่กระโดดออกมาจากอาคารที่มีความสูงระดับเดียวกันอย่างต่อเนื่อง,อยากที่จะเห็นว่ากําลังเกิดอะไรขึ้น

“สองคนนั้นเป็นใคร? ทําไมพวกเขาถึงได้เป็นจุดสนใจถึงเพียงนี้? ข้าเหมือนจะเห็นหลิวเมิงแห่งอาณาจักรต้าชูอยู่ท่ามกลางฝูงชน

“ดาบคลั่งจากอาณาจักรต้าเซีย,เหอฮวนก็อยู่ที่นี่ ยังมีดาบไร้เงา, หลิวเสี่ยวเหอ,และจินอุจจากประตูดาบสวรรค์”

ทุกคนพื้นบนถนนถูกกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะสัมผัสได้ว่าสองคนนั้นไม่ใช่ธรรมดา,แต่พวกเขาอดไม่สนใจผู้มีพรสวรรค์โดดเดนมากมายเช่นนี้ได้

จนกระทั่งมีคนเห็นใบหน้าอันงดงามของเยว่เฉินซ์ได้ชัดเจน เขากล่าวขึ้นอย่างตกตะลึง “เยว่ เฉินซี! เยว่เฉินซ์แห่งนิกายนภาสูง นางเป็นหนึ่งในผู้มีพรรสวรรค์ที่โด่งดังที่สุดในอาณาจักรต้าจินนางกลายเป็นระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธตั้งแต่อายุสิบหกไม่คาดคิดว่านางจะมาที่เกาะสายลมขจี แห่งนี้”

“ไม่สงสัยว่าทําไมนางถึงได้ดึงความสนใจของผู้มีพรสวรรค์โดดเด่นได้มากมายเช่นนี้ นางคือ เยว่เฉินซีนั้นเองอย่างไรก็ตาม,บรุษผู้นั้นคือใคร? สําหรับเขาที่ประมือกับเยว่เฉินซีเขาน่าจะแข็งแกร่ง

“การแต่งตัวทําให้ข้านึกถึงมือกระบี่ชุดขาวแห่งอาณาจักรต้าฉัน,เซี่ยวเฉิน สําหรับเขาที่เยว่ เฉินซีให้ความสนใจ,เขาน่าจะเป็นตัวจริง”

“อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นมือกระบี่ชุดขาว,ความแข็งแกร่งของเขาก็ห่างไกลจากเยว่เฉินซี”

ฝูงชนเบื้องล่างในที่สุดก็นึกตัวตนของเซี่ยวเฉินและเยว่เฉินซีออก ความสนใจในการประลองครั้งนี้พุ่งสูงขึ้นมีฝูงชนหนาแน่นบนหลังคาอาคารที่อยู่โดยรอบ

เยว่เฉินซึมองไปยังเซี่ยวเฉิน นางเผยรอยยิ้มบางๆและกล่าวอย่างอ่อนโอยน “มือกระบี่ชุดขาวเซี่ยวเฉิน,เจ้าพึงพอใจหรือยัง?”

เซี่ยวเฉินเผยรอยยิ้มบนใบหน้านิ่งสงบของเขา เขากล่าว “เพียงเรียกข้าว่าเซี่ยวเฉิน ไม่จําเป็นต้องเติม “มือกระบี่ชุดขาว” ไปเสียทุกครั้ง”

เยวเฉินซีพยักหน้าเบาๆและพิมพ์ชื่อเซี่ยวเฉินกับตัวเองสองสามครั้ง ผ่านไปครู่หนึ่ง,นางกล่าว “เอาล่ะ,ต่อไปนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่าเซี่ยวเฉิน อย่างไรก็ตาม,ข้ายังคงรู้สึกว่าการเติมคําว่ามือกระบี่ชุดขาว” มันฟังดูสง่างามกว่า”

“ฮ่าฮ่า! ข้าจะเริ่มแล้ว แย่ทําให้ข้าผิดหวัง,มือกระบี่ชุดขาว!”

เยว่เฉินซียิ้มเบาๆและดีดตัวออกจากหลังคาเรือนร่างอันงดงามของนางปรากฎขึ้นในอากาศ,และนางกําหมัดอย่างสง่างาม

“บูม!”

แสงเจิดจ้าระเบิดขึ้นบนท้องฟ้า หมัดวายุที่ดุร้ายและรุนแรงมุ่งหน้าตรงมาที่เซี่ยวเฉินพร้อมกับแสง

เมฆาอัสนีอันไร้ขอบเขตเริ่มหมุนวนบนท้องฟ้าเหนือหัวของเซี่ยวเฉินอย่างรวดเร็ว เซียวเฉิน สําแดงสภาวะแห่งสายฟ้าของเขาที่หลอมรวมเข้ากับเส้นสายพลังศักดิ์สิทธิ์จนถึงขีดสุด

“ทําลาย!”

ตามมาจากนั้น,เส้นสายฟ้าดิ่งลงมา เซียวเฉินชักกระบี่เงาจันทร์ออกมาในทันทีและสับหมัดวายุที่บินมาทางเขาขาดครึ่ง

หมัดวายุที่ถูกตัดครึ่งเฉียดผ่านหัวไหล่ทั้งสองข้างของเซี่ยวเฉิน จากนั้น,พวกมันระเบิดเกิดเป็นรูขนาดใหญ่บนหลังคา มีเสียงแตกหักดังขึ้นไม่หยุด

“บูม! บูม! บูม!”

แสงรุ่งโรจน์ห่อหุ้มร่างของเยว่เฉินซีราวกับเป็นแสงที่ปัดเป่าความมืดสุดท้ายยามค่ำคืน เส้นแสงระเบิดออก,และหมัดวายุหนาแน่นเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว

มันดูราวกับเยว่เฉินซียิงกระสุนปืนใหญ่ไปที่เซี่ยวเฉิน,แต่ละนัดยิ่งแข็งแกร่งและรวดเร็วขึ้น

สีหน้าเซียวเฉินกลายเป็นร้ายแรง เขายินมั่นอยู่บนหลังคาไม่เคลื่อนไหว เขาไม่อาจล่าถอยได้ในตอนนี้ มิฉะนั้น,การโจมตีจะยิ่งถาโถมเข้ามาใส่ตัวเขา

เซี่ยวเฉินสงบราวกับน้ำนิ่ง,ใช้ออกวาดกระบี่ของเขาอย่างต่อเนื่อง แต่ละครั้งที่เขากวาดกระบี่มีเส้นสายฟ้าวูบไหว,สับหมัดวายุที่ดุร้ายขาดครึ่ง

หมัดวายุอันล้าคลั่งลอยไปทั่วทุที่ในอากาศ บางครั้ง, แสงภายในหมัดวายุระเบิดออก,เกิดเป็นรูมากมายบนหลังคา

สายลมรุนแรงทําให้แผ่นกระเบื้องแตกสลาย

เยว่เฉินซีเรืองแสงสีทองสว่างเจิดจ้าในอากาศ นางดูราวกับดวงตะวันขนาดย่อม ในตอนที่ทุกคนจ้องมอง,พวกเขารู้สึกแสบในดวงตา

“หมัดอาทิตย์รุ่งอรุณของนิกายนภาสูงทรงพลังอย่างแท้จริง มันสามารถสําแดงพลังเช่นนี้ออกมาได้เพียงแค่ใช้พลังปราณ ข้าสงสัยว่าหากนางหลอมรวมเข้ากับสภาวะ,มันจะแข็งแกร่งถึงเพียง ใด?”

“อย่างไรก็ตาม,มือกระยชุดขาวก็ค่อนข้างแข็งแกร่งเช่นกัน เห็นชัดว่าเขาสําเร็จสภาวะแห่งสายฟ้าถึงเพียงระดับสมบูรณ์ขั้นต้น แต่กระนั้นสภาวะของเขาก็ยังทรงพลังดุร้ายยิ่งกว่าสภาวะระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยีมของคนทั่วไป”

“แต่ละกระบี่ของเขาเร่งความเร็วถึง 3 มัคในทันที ด้วยการช่วยเหลือจากสภาวะของเขา เขาสามารถป้องกันหมัดอาทิตย์รุ่งอรุณได้อย่างต่อเนื่อง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+