Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 375 การตื่นของสมบัติลับ
ตอนที่ 375 การตื่นของสมบัติลับ
พื้นผิวของทะเลเป็นสีแดงก่ํา หากมองดูอย่างละเอียด,พวกเขาจะเห็นสิ่งมีชีวิตในทะเลจํานวนมากถูกบดเป็นก้อนเลือดโดยวังวนน้ํา;พวกมันไร้ซึ่งหนทางต่อต้าน
ไม่น่าแปลกใจที่เรือขนาดใหญ่ปฏิเสธที่จะเข้ามาที่นี่ แม้แต่เรือสงครามที่แข็งแกร่งยังหวาดกลัวไม่กล้าเข้ามาใกล้วังวนและสายน้ําที่เชี่ยวหลากดร้ายแห่งนี้
เซี่ยวเฉินมองขึ้นไปหมู่เมฆบดบังยอดของกําแพงคลื่นน้ํา มันดูเหมือนกับมีคลื่นน้ําที่อยู่เหนือ
“บูม! บูม บูม!”
เสียงคลื่นดังขึ้นไม่หยุดหย่อน มันดังสะท้อนไปในแก้วหูราวกับเสียงสายฟ้ากําลงแตกตัวบนพื้นผิวทะเล
เซี่ยวเฉินบินไปรอบๆคลื่นยักษ์และพบว่าคลื่นเหล่านี้ก่อตัวเป็นกําแพงสี่ด้านรอบเกาะเชียนเหลิน เมื่อพวกมันประกบเข้าด้วยกัน,มันราวกับเป็นกรงที่ยังเกาะเชียนเหลิ่นเอาไว้
มันมีเพียงกําแพงน้ําสี่ด้าน ไม่ใช่หมายความว่า,ตราบใดที่ข้าสามารถผ่านม่านคลื่นอันไร้ขอบเขตนี้ไปได้,ข้าจะสามารถผ่านเข้าไปได้? เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง
แม้เซียวเฉินจะรู้ว่ามันจะต้องไม่ง่ายดายเช่นนั้น,เขาก็ยังอยากที่จะลองดู เขาใช้คาถาแรงโน้มถ่วงและบินขึ้นไป
“ฟู! ฟู!”
สายลมรุนแรงพัดผ่านหูของเขา:เซียวเฉินผลาญพลังปราณของเขาไปไม่น้อยแล้ว เขาได้บินขึ้นไปสูงใกล้จะหนึ่งหมื่นเมตรแล้ว
อย่างไรก็ตาม คลื่นที่รุนแรงยังเหมือนกับทอดยาวไปอีกหนึ่งหมื่นเมตรไม่ลดลงแม้แต่น้อย พวกมันส่งเสียงรุนแรงสั่นสะเทือนหูเช่นเดิม
เซี่ยวเฉินบินขึ้นไปอีกห้าพันเมตร อากาศในตอนนี้เบามากเป็นอย่างมาก สายลมรุนแรงที่พัดเป่าข้างหูของเขาทวีความรุนแรงขึ้น
เซี่ยวเฉินไม่กล้าที่จะไปสงกว่านี้ ยิ่งเขาบินขึ้นไปสูง,อากาศยิ่งเบาบาง; การเผาผลาญพลังของเขายิ่งเพิ่มขึ้น
หากเซียวเฉินยังบินขึ้นต่อไป,ในไม่ช้าเขาจะต้องเข้าไปในช่องว่างและไปถึงโลกลึกลับเหนือสวรรค์ สถานที่แห่งนั้นยังไม่ใช่ที่ที่เซี่ยวเฉินจะย่างก้าวเข้าไปในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม,คลื่นยักษ์ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแม้แต่น้อย มันพุ่งสูงขึ้นต่อไปราวกับพวกมันทะลวงผ่านช่องว่างและขยายไปยังโลกลึกลับเหนือสวรรค์
“ฮ่าฮ่ พ่อหนุ่ม,หยุดบินขึ้นไปได้แล้ว คลื่นยักษ์เหล่านี้แปลเปลี่ยนกฎแห่งสวรรค์และปฐพี ไม่ว่าเจ้าจะบินสูงขึ้นไปเท่าไหร,แท้จริงแล้วเจ้ายังติดอยู่ภายในเขตแดนย่อย”
ขณะที่เซียวเฉินกําลังรู้สึกงนงง, มีเสียงเข้ามาที่หูของเขา ในอตนที่เขาหันกลับไป,เขาเห็นว่าเป็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีด่าพร้อมกับกระบี่เล่มใหญ่ เขาดูหยาบกร้าน;กระแสพลังของเขาธรรมดา,แต่ความแข็งแกร่งของเขาไม่อาจหยั่งถึง
“คลื่นยักษ์นี่อ่อนกําลังลงมามากแล้ว กลับมาในอีกครึ่งเดือน ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า,เจ้าน่าจะสามารถทะลวงผ่านคลื่นยักษ์เข้าไปได้”
ชายวัยกลางคนไม่รอให้เซี่ยวเฉินตอบสนอง เขาเพียงมุ่งหน้าตรงไปที่ผิวพื้นทะเลราวกับลูกศรทะลวงผ่านอากาศ:เขาหายลับไปจากสายตาของเซียวเฉินอย่างรวดเร็ว
เซี่ยวเฉินหัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง “ดูเหมือนข้าจะทําเรื่องน่าโง่ลงไป เช่นนั้นได้เวลากลับแล้ว ข้าจะกลับไปหลังจากบินวนสํารวจอีกรอบหนึ่ง ข้าไม่เชื่อว่าคนผู้นั้นจะโกหก;ข้าจะกลับมาในอีกครึ่งเดือน”
เซียวเฉินหยิบเอาหินวิญญาณระดับต่าออกมาและดูดซับพลังงานจิตวิญญาณเพื่อฟื้นฟูพลังปราณของเขาขณะที่มุ่งหน้ากลับลงไป
ทันทีที่เซียวเฉินมาถึงพื้นผิวทะเล,เขาก็ดูดซับหินวิญญาณที่อยู่ในมือของเขาจนหมด;พลังปราณของเขาฟื้นคืนกลับมาไม่มากก็น้อย
“ปัง!”
ในจังหวะต่อมา,แสงหลากสีทะลวงผ่านคลื่นยักษ์ บินออกมาจากด้านในของเกาะเชียนเหลิน และมุ่งหน้าออกไปไกล
“นั้นมันสมบัติลับ!” ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนด้านล่างตกตะลึงก่อนที่พวกเขาจะไล่ตามมันไปเป็นฝูง
“ทําไมสมบัติลับถึงได้บินออกมา? คลื่นยักษ์อ่อนกําลังลงก่อนที่จะถึงกําหนด?”
มือกระบวัยกลางคนผู้นั้นที่ได้จากไปแล้วบินกลับมาอีกครั้ง เขาเคลื่อนไหวราวกับลูกศรที่ถูกยิงผ่านอากาศ ทุกที่ที่เขาผ่าน มันราวกับเกิดเป็นรูขึ้นในอากาศ
ชายวัยกลางคนมองดูสมบัติลับที่ถูกยิงขึ้นไปในอากาศ จากนั้นเขาก็พึมพํากับตัวเองครู่หนึ่งก่อนที่จะไล่ตามมันด้วยความรวดเร็ว
ขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลายคนหยุดลงเมื่อพวกเขาเห็นชายวัยกลางคนผู้นี้ พวกเขากล่าวขึ้นอย่างตกตะลึง “นั่นมือกระบี่โลหิต,ซุนกวงฉวน ไม่อยากจะเชื่อ,เขามาที่นี่เช่นกัน”
มีคนอุทานขึ้น “ซุนกวงฉวน?! หนึ่งในสิบมือกระบี่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งดินแดนรกร้างโบราณ,ซุนกวงฉวน?!”
“นอกจากเขา,จะเป็นใครได้อีก? นั้นเป็นกระบี่เชี่ยวมังกรข่าวลือกล่าวไว้ว่าทั่วทั้งตัวของเขา มีแต่สมบัติลับ:ความแข็งแกร่งของเขาไม่อาจหยั่งถึง หากไม่มีระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธปรากฏตัวขึ้น,ไม่มีใครเทียบเขาได้ พวกเราลืมสมบัติลับชิ้นนั้นไปเสีย”
“เขาแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว,กระนั้นเขายังมาแย่งชิงเผชิญโชคกับพวกเราที่เกาะเชียนเหลิ่น ดูเหมือนพวกเราจะได้มือเปล่ากลับไปแล้วในครั้งนี้”
“ไม่เป็นไร:ในเมื่อมีสมบัติลับชิ้นแรกบินออกมา มันจะต้องมีชิ้นที่สองอีก พวกเราจะได้เห็นเหมือนตอนนั้น”
“พอเจ้ากล่าวถึงแล้ว มันก็น่าแปลก ยังเหลืออีกครึ่งเดือนก่อนที่คลื่นยักษ์จะอ่อนแรงลงอย่างสมบูรณ์ ครั้งนี้มันเริ่มก่อนเวลา”
สมบัติลับที่ทะลวงผ่านคลื่นยักษ์ออกมาดึงดูดความสนใจของผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่ใกล้ๆทุกคนผู้บ่มเพาะพลังบางคนที่จากออไปแล้วถึงยังบินกลับมา
เซียวเฉินอยู่ที่ด้านข้างและฟังอยู่เป็นเวลานานก่อนที่เขาจะเข้าใจสถานการณ์
มันกลายเป็นว่าในทุกครั้งที่คลื่นยักษ์อ่อนแรงลง,จะมีสมบัติลับบางชิ้นบินออกมาจากเกาะเชียนเหลิน ในตอนที่สมบัติลับหยุดปรากฏ นั่นจะเป็นช่วงเวลาที่คลื่นยักษ์จะอ่อนแรงลงอย่างสมบูรณ์
“ปัง!”
ขณะที่เซี่ยวเฉินไตรตรอง,เกิดเสียงดังขึ้นที่ทางใต้ของเกาะเชียนเหลิ่น มันคือสมบัติลับที่กําลังบินออกมา
ในตอนที่ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนได้ยิน,พวกเขาไล่ตามไป มีผู้บ่มเพาะพลังไม่ต่ํากว่าหนึ่งร้อยคน,และพวกเขาทั้งหมดอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ
มีผู้บ่มเพาะพลังมากเกินไปที่กําลังแย่งชิงสมบัติลับ แม้เซี่ยวเฉินจะฉวยเอามาได้,มันก็ยากที่เขาจะหลบหนีออกไป ดังนั้น,เซี่ยวเฉินจึงหมดความสนใจ
ข้าควรทดสอบความแข็งแกร่งของคลื่นยักษ์ เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง ในตอนที่คลื่นยักษ์อ่อนแรงลง,ข้าจะได้เตรียมตัว
นี้เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันและทําให้ข้าเสียโอกาสที่จะเข้าไปด้านในเกาะ
หนาแน่นพุ่งขึ้นไปไม่หยุดหย่อน ดูเหมือนเป็นไม่ได้ที่จะหยุดมัน
นอกจากนั้น,ดูเหมือนมันจะไม่มีทางอ่อนแรงลง เสียงของมันราวกับกองทัพขนาดมหึมากําลังเคลื่อนพล,สั่นสะเทือนในหูของเซียวเฉินไม่หยุด
ยังมีเจตจํานงอันแข็งแกร่งยิ่งอยู่ภายใรคลื่นยักษ์ ยิ่งเซี่ยวเฉินเข้าไปใกล์,เขายิ่งสัมผัสถึงเจตจํานงที่แข็งแกร่งได้ชัดเจน
“นี่เป็นเจตจํานงแห่งน้ําอันไร้ขอบเขต!” เซียวเฉินกล่าวขึ้นเบาๆขณะที่เขามองดูและรู้สึกได้ถึงเจตจํานง
พวกมันเชี่ยวหลากไหลทะลัก,ตลื่นยักษ์ที่ไร้ขอบเขตมีเจตจํานงแห่งน้ําที่ไม่ธรรมดา
เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง,มันเป็นไปได้ว่าปราชญ์ยุทธที่เคยปกครองทุ่งหญ้ามารอสูรจะไม่ใช่ปราชญ์ยุทธทั่วไป
ปราชญ์ยุทธผู้นี้สามารถแปรเปลี่ยนกฎแห่งสวรรค์และปฐพี่มาได้เป็นเวลานาน, พลังของมันไม่จางหายไปหลังจากผ่าานมานับพันปี เป็นไปได้ว่าเขาเหลือเพียงครึ่งก้าวที่จะกลายเป็นระดับขอบเขตจักรพรรดิยุทธ
ในตอนที่เซียวเฉินอยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตรจากคลื่นยักษ์,เขาหยุดลง เขากํามือแน่นและหมุนเวียนสลักร่างพยัคฆ์มังกร ทันใดนั้น พลังอันยิ่งใหญ่ไหลไปที่กําปั้นของเขา
วังวนฉีในจุดตันเที่ยนของเซียวเฉินก็เริ่มหมุนวนอย่างรวดเร็ซ ของเพลวสรม่วงไหลไปตามเส้นปราณของเขา ปราณและความแข็งแกร่งกายภาพของเขาผสานกันในทันที
“ฮ่ะ!”
เซียวเฉินปลดปล่อยเสียงร้องคํารามศึกและกระแทกใส่อากาศ เขาเปลี่ยนกลายเป็นเส้นแสงสีม่วงและเคลื่อนไปหนึ่งร้อยเมตรในชั่วพริบตา
มีภาพร่างของพยัคฆ์และมังกรในหมัดวายุของเขา มังกรข่มพยัคฆ์คําราม,ทําให้แหรงเหนี่ยวนําของเซี่ยวเฉินเร่งถึงขีดสุด นี่เป็นกระบวณท่าสุดท้ายของหมัดพยัคฆ์มังกร มังกรข่มพยัคฆ์ค่าราม
ด้วยการผสานความแข็งแกร่งกายภาพเข้ากับปราณ,บอกกับการใช้หมัดพยัคฆ์มังกร,กําปั้นของเซี่ยวเฉิน มีพลังถึงหนึ่งแสนกิโลกรัม มันเพียงพอที่จะระเบิดภูเขาหายไปครึ่งลูก
“ปัง!”
หมัดวายุราวกับเสียงสายฟ้าคําราม,ทําให้อากาศสันสะเทือน มิติราวกับเป็นกระดาษที่กําลังถูกฉีกทีละชั้นๆ
กําปั้นของเซี่ยวเฉินแบกพลังหนึ่งแสนกิโลกรัมซัดเข้าที่คลื่นยักษ์อย่างรุนแรง คลื่นหนาแน่นราวกับเป็นโลหะเหลว
เกิดเสียงทุ้มลึก,และรูขนาดใหญ่เปิดออกบนคลื่น อย่างไรก็ตาม,ก่อนที่เซียวเฉินจะลอดเข้าไป,รูผสานกลับอย่างรวดเร็ว,กลายเป็นพื้นแข็งอีกครั้ง
คลื่นส่งแรงสะท้อนหนาแน่น,และอวัยวะภายในของเซี่ยวเฉินสั่นสะเทือน เขาลอยกลับไปราวกับกระสุนปืนใหญ่
เซียวเฉินเตรียมตัวพร้อมมานานแล้ว:ร่างของเขาหมุนในอากาศ หลังจากผ่านไปนาน เขาค่อยๆสลายแรงหายไป
สีหน้าของเซียวเฉินซีดเซียวอย่างไม่น่าเชื่อ เขาหยุดหมุนตัวและมองไปที่คลื่นยักษ์ เขาพึมพํา “ไม่เร็วพอ ขาดแรงระเบิด เจตจํานงแห่งน้ําให้เวลาข้าอย่างมากที่สุดหนึ่งวินาที หลังจากที่มันอ่อนแรงลง,ข้าอาจจะได้สองวินาที,แต่ข้าควรจะทําได้อย่างดีที่สุด,สามวินาที”
“ปัง!”
ขณะที่เซียวเฉินกําลังพึมพํากับตัวเอง,พลันมีรูปรากฏขึ้นบนคลื่นยักษ์ตรงหน้าของเขา สมบัติลับกระพริบไหวด้วยแสงหลากสีพุ่งออกมาจากรู
สีหน้าของเซี่ยวเฉินกลายเป็นร้ายแรง และเขารีบไล่ตามมันไป ในจังหวะนี้,เขาเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ตรงหน้าคลื่นยักษ์ฝั่งนี้, และสมบัติลับก็อยู่ใกล้กับเขา ในเมื่อมีโอกาส,ข้าควรจะคว้าเอาไว้และทําเป็นไม่รู้ไม่เห็นหลังจากนั้น
“มังกรฟ้าเมฆาทะยาน,มังกรฟ้าฟาดหาง!”
เซี่ยวเฉินใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวระดับสวรรค์ เขาเคลื่อนไปราวกับมังกรฟ้าเชี่ยวหลากกําลังกวาดหางไปบนท้องฟ้า เขาสามารถคว้าเอาสมบัติลับที่กระพริบแสงหลาดสีเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว
“นี่เป็นเกราะใน จากกระแสพลังของเกราะในชิ้นนี้,มันน่าจะเป็นยอดสุดของสมบัติลับระดับต่า” เซียวเฉินกล่าวเบาๆกับตัวเอง
ตามหนังสือแนะนําสมบัติลับที่เซี่ยวเฉินพบในนิกายหลเพลิง,สมบัติลับถูกแบ่งเป็นระดับ จากต่ําไปสูงสุดคือ,ระดับต่ํา,ระดับกลาง,ระดับสูงและระดับอมตะ
สมบัติลับอย่างเสื้อคลุมวายุใส,รองเท้ากาววายุ,และจี้หยกที่หน้าอกของเขาทั้งหมดเป็นสมบัติลับระดับต่ํา นอกจากนั้น มันยังมีเกลื้อนไปหมด;พวกมันไม่มีค่ามากเกินไปนัก
มันยากอย่างยิ่งที่จะได้เห็นสมบัติลับที่มีค่าอย่างแท้จริงในการประมูลทั่วไป
“ไอ้หนู, ทิ้งสมบัติลับเอาไว้ซะ มันไม่ได้เป็นของเจ้า, ขอบเขตนักบุณขั้นสู.”
“ซิ่ว! ซิ่ว!”
มีบางคนสังเกตเห็นการปรากฎของสมบัติลับชิ้นนี้ พวกเขารีบมุ่งหน้ามาที่เซียวเฉิน จากกระแสพลังของพวกเขา,พวกเขาอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง
มีผู้บ่มเพาะพลังที่ไล่ตามสมบัติลับชิ้นที่หนึ่งและสองเห็นว่าเซี่ยวเฉินเป็นเพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูง พวกเขารู้สึกว่ามันง่ายที่จะจัดการและตรงมาหาเขา
ในเมื่อเซี่ยวเฉินได้สมบัติลับมาอยู่ในมือแล้ว,ไม่มีเหตุผลที่เขาจะปล่อยมันไป เซี่ยวเฉินเมินเฉยและเปลี่ยนกลายเป็นเส้นลําแสงสีม่วง,มุงหน้าจากไปอย่างรวดเร็ว
“มีขอบเขตันกบุญขั้นสูงได้สมบัติลับไปและกําลังหนี:ไล่ตามเขาไป!”
พวกเขาไม่เชื่อว่าระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงรวดเร็วไปกว่าพวกเขา พวกเขาหัวเราะอย่างเย็นชา
อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักหลังจากเริ่มไล่ล่า, มีเพียงครึ่งหนึ่งจากหนึ่งร้อยคนที่เหลืออยู่ ร่างที่พวกเขากําลังไล่ล่าพุ่งม้วนขึ้นลงราวกับมังกรฟ้า
ความเร็วของเซียวเฉินน่าตกตะลึง นอกจากนั้นเขายังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพัก มันยากที่จะจินตนาการว่ามีระดับขอบเขตนักบุญขั้นส.ที่รวดเร็วได้เช่นนี้
“อัสนีหลบเลี่ยง!”
“บูม! บูม! บูม!”
เส้นสายฟ้าวบผ่านพื้นผิวทะเล ตําแหน่งของเซียวเฉินแปรเปลี่ยนไปตามเส้นสายฟ้าแต่ละเส้นในเวลาไม่นาน ก็เหลือคนเพียงครึ่งนึงจากห้าสิบคน
เมื่อสัมผัสวิญญาณของเซี่ยวเฉินรู้สึกไได้ว่าเหลือเพียงยี่สิบกว่าคนที่ตามหลังเขามา,เขายิ้ม และเปิดใช้รองเท้าก้าววายุ ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์,รวดเร็วกว่าความเร็วเสียงกว่าสองเท่า เหลือเพียงเล็กน้อยเขาจะรวดเร็วถึงระดับ 3 มัค
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 375 การตื่นของสมบัติลับ
ตอนที่ 375 การตื่นของสมบัติลับ
พื้นผิวของทะเลเป็นสีแดงก่ํา หากมองดูอย่างละเอียด,พวกเขาจะเห็นสิ่งมีชีวิตในทะเลจํานวนมากถูกบดเป็นก้อนเลือดโดยวังวนน้ํา;พวกมันไร้ซึ่งหนทางต่อต้าน
ไม่น่าแปลกใจที่เรือขนาดใหญ่ปฏิเสธที่จะเข้ามาที่นี่ แม้แต่เรือสงครามที่แข็งแกร่งยังหวาดกลัวไม่กล้าเข้ามาใกล้วังวนและสายน้ําที่เชี่ยวหลากดร้ายแห่งนี้
เซี่ยวเฉินมองขึ้นไปหมู่เมฆบดบังยอดของกําแพงคลื่นน้ํา มันดูเหมือนกับมีคลื่นน้ําที่อยู่เหนือ
“บูม! บูม บูม!”
เสียงคลื่นดังขึ้นไม่หยุดหย่อน มันดังสะท้อนไปในแก้วหูราวกับเสียงสายฟ้ากําลงแตกตัวบนพื้นผิวทะเล
เซี่ยวเฉินบินไปรอบๆคลื่นยักษ์และพบว่าคลื่นเหล่านี้ก่อตัวเป็นกําแพงสี่ด้านรอบเกาะเชียนเหลิน เมื่อพวกมันประกบเข้าด้วยกัน,มันราวกับเป็นกรงที่ยังเกาะเชียนเหลิ่นเอาไว้
มันมีเพียงกําแพงน้ําสี่ด้าน ไม่ใช่หมายความว่า,ตราบใดที่ข้าสามารถผ่านม่านคลื่นอันไร้ขอบเขตนี้ไปได้,ข้าจะสามารถผ่านเข้าไปได้? เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง
แม้เซียวเฉินจะรู้ว่ามันจะต้องไม่ง่ายดายเช่นนั้น,เขาก็ยังอยากที่จะลองดู เขาใช้คาถาแรงโน้มถ่วงและบินขึ้นไป
“ฟู! ฟู!”
สายลมรุนแรงพัดผ่านหูของเขา:เซียวเฉินผลาญพลังปราณของเขาไปไม่น้อยแล้ว เขาได้บินขึ้นไปสูงใกล้จะหนึ่งหมื่นเมตรแล้ว
อย่างไรก็ตาม คลื่นที่รุนแรงยังเหมือนกับทอดยาวไปอีกหนึ่งหมื่นเมตรไม่ลดลงแม้แต่น้อย พวกมันส่งเสียงรุนแรงสั่นสะเทือนหูเช่นเดิม
เซี่ยวเฉินบินขึ้นไปอีกห้าพันเมตร อากาศในตอนนี้เบามากเป็นอย่างมาก สายลมรุนแรงที่พัดเป่าข้างหูของเขาทวีความรุนแรงขึ้น
เซี่ยวเฉินไม่กล้าที่จะไปสงกว่านี้ ยิ่งเขาบินขึ้นไปสูง,อากาศยิ่งเบาบาง; การเผาผลาญพลังของเขายิ่งเพิ่มขึ้น
หากเซียวเฉินยังบินขึ้นต่อไป,ในไม่ช้าเขาจะต้องเข้าไปในช่องว่างและไปถึงโลกลึกลับเหนือสวรรค์ สถานที่แห่งนั้นยังไม่ใช่ที่ที่เซี่ยวเฉินจะย่างก้าวเข้าไปในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม,คลื่นยักษ์ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแม้แต่น้อย มันพุ่งสูงขึ้นต่อไปราวกับพวกมันทะลวงผ่านช่องว่างและขยายไปยังโลกลึกลับเหนือสวรรค์
“ฮ่าฮ่ พ่อหนุ่ม,หยุดบินขึ้นไปได้แล้ว คลื่นยักษ์เหล่านี้แปลเปลี่ยนกฎแห่งสวรรค์และปฐพี ไม่ว่าเจ้าจะบินสูงขึ้นไปเท่าไหร,แท้จริงแล้วเจ้ายังติดอยู่ภายในเขตแดนย่อย”
ขณะที่เซียวเฉินกําลังรู้สึกงนงง, มีเสียงเข้ามาที่หูของเขา ในอตนที่เขาหันกลับไป,เขาเห็นว่าเป็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีด่าพร้อมกับกระบี่เล่มใหญ่ เขาดูหยาบกร้าน;กระแสพลังของเขาธรรมดา,แต่ความแข็งแกร่งของเขาไม่อาจหยั่งถึง
“คลื่นยักษ์นี่อ่อนกําลังลงมามากแล้ว กลับมาในอีกครึ่งเดือน ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า,เจ้าน่าจะสามารถทะลวงผ่านคลื่นยักษ์เข้าไปได้”
ชายวัยกลางคนไม่รอให้เซี่ยวเฉินตอบสนอง เขาเพียงมุ่งหน้าตรงไปที่ผิวพื้นทะเลราวกับลูกศรทะลวงผ่านอากาศ:เขาหายลับไปจากสายตาของเซียวเฉินอย่างรวดเร็ว
เซี่ยวเฉินหัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง “ดูเหมือนข้าจะทําเรื่องน่าโง่ลงไป เช่นนั้นได้เวลากลับแล้ว ข้าจะกลับไปหลังจากบินวนสํารวจอีกรอบหนึ่ง ข้าไม่เชื่อว่าคนผู้นั้นจะโกหก;ข้าจะกลับมาในอีกครึ่งเดือน”
เซียวเฉินหยิบเอาหินวิญญาณระดับต่าออกมาและดูดซับพลังงานจิตวิญญาณเพื่อฟื้นฟูพลังปราณของเขาขณะที่มุ่งหน้ากลับลงไป
ทันทีที่เซียวเฉินมาถึงพื้นผิวทะเล,เขาก็ดูดซับหินวิญญาณที่อยู่ในมือของเขาจนหมด;พลังปราณของเขาฟื้นคืนกลับมาไม่มากก็น้อย
“ปัง!”
ในจังหวะต่อมา,แสงหลากสีทะลวงผ่านคลื่นยักษ์ บินออกมาจากด้านในของเกาะเชียนเหลิน และมุ่งหน้าออกไปไกล
“นั้นมันสมบัติลับ!” ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนด้านล่างตกตะลึงก่อนที่พวกเขาจะไล่ตามมันไปเป็นฝูง
“ทําไมสมบัติลับถึงได้บินออกมา? คลื่นยักษ์อ่อนกําลังลงก่อนที่จะถึงกําหนด?”
มือกระบวัยกลางคนผู้นั้นที่ได้จากไปแล้วบินกลับมาอีกครั้ง เขาเคลื่อนไหวราวกับลูกศรที่ถูกยิงผ่านอากาศ ทุกที่ที่เขาผ่าน มันราวกับเกิดเป็นรูขึ้นในอากาศ
ชายวัยกลางคนมองดูสมบัติลับที่ถูกยิงขึ้นไปในอากาศ จากนั้นเขาก็พึมพํากับตัวเองครู่หนึ่งก่อนที่จะไล่ตามมันด้วยความรวดเร็ว
ขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลายคนหยุดลงเมื่อพวกเขาเห็นชายวัยกลางคนผู้นี้ พวกเขากล่าวขึ้นอย่างตกตะลึง “นั่นมือกระบี่โลหิต,ซุนกวงฉวน ไม่อยากจะเชื่อ,เขามาที่นี่เช่นกัน”
มีคนอุทานขึ้น “ซุนกวงฉวน?! หนึ่งในสิบมือกระบี่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งดินแดนรกร้างโบราณ,ซุนกวงฉวน?!”
“นอกจากเขา,จะเป็นใครได้อีก? นั้นเป็นกระบี่เชี่ยวมังกรข่าวลือกล่าวไว้ว่าทั่วทั้งตัวของเขา มีแต่สมบัติลับ:ความแข็งแกร่งของเขาไม่อาจหยั่งถึง หากไม่มีระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธปรากฏตัวขึ้น,ไม่มีใครเทียบเขาได้ พวกเราลืมสมบัติลับชิ้นนั้นไปเสีย”
“เขาแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว,กระนั้นเขายังมาแย่งชิงเผชิญโชคกับพวกเราที่เกาะเชียนเหลิ่น ดูเหมือนพวกเราจะได้มือเปล่ากลับไปแล้วในครั้งนี้”
“ไม่เป็นไร:ในเมื่อมีสมบัติลับชิ้นแรกบินออกมา มันจะต้องมีชิ้นที่สองอีก พวกเราจะได้เห็นเหมือนตอนนั้น”
“พอเจ้ากล่าวถึงแล้ว มันก็น่าแปลก ยังเหลืออีกครึ่งเดือนก่อนที่คลื่นยักษ์จะอ่อนแรงลงอย่างสมบูรณ์ ครั้งนี้มันเริ่มก่อนเวลา”
สมบัติลับที่ทะลวงผ่านคลื่นยักษ์ออกมาดึงดูดความสนใจของผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่ใกล้ๆทุกคนผู้บ่มเพาะพลังบางคนที่จากออไปแล้วถึงยังบินกลับมา
เซียวเฉินอยู่ที่ด้านข้างและฟังอยู่เป็นเวลานานก่อนที่เขาจะเข้าใจสถานการณ์
มันกลายเป็นว่าในทุกครั้งที่คลื่นยักษ์อ่อนแรงลง,จะมีสมบัติลับบางชิ้นบินออกมาจากเกาะเชียนเหลิน ในตอนที่สมบัติลับหยุดปรากฏ นั่นจะเป็นช่วงเวลาที่คลื่นยักษ์จะอ่อนแรงลงอย่างสมบูรณ์
“ปัง!”
ขณะที่เซี่ยวเฉินไตรตรอง,เกิดเสียงดังขึ้นที่ทางใต้ของเกาะเชียนเหลิ่น มันคือสมบัติลับที่กําลังบินออกมา
ในตอนที่ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนได้ยิน,พวกเขาไล่ตามไป มีผู้บ่มเพาะพลังไม่ต่ํากว่าหนึ่งร้อยคน,และพวกเขาทั้งหมดอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ
มีผู้บ่มเพาะพลังมากเกินไปที่กําลังแย่งชิงสมบัติลับ แม้เซี่ยวเฉินจะฉวยเอามาได้,มันก็ยากที่เขาจะหลบหนีออกไป ดังนั้น,เซี่ยวเฉินจึงหมดความสนใจ
ข้าควรทดสอบความแข็งแกร่งของคลื่นยักษ์ เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง ในตอนที่คลื่นยักษ์อ่อนแรงลง,ข้าจะได้เตรียมตัว
นี้เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันและทําให้ข้าเสียโอกาสที่จะเข้าไปด้านในเกาะ
หนาแน่นพุ่งขึ้นไปไม่หยุดหย่อน ดูเหมือนเป็นไม่ได้ที่จะหยุดมัน
นอกจากนั้น,ดูเหมือนมันจะไม่มีทางอ่อนแรงลง เสียงของมันราวกับกองทัพขนาดมหึมากําลังเคลื่อนพล,สั่นสะเทือนในหูของเซียวเฉินไม่หยุด
ยังมีเจตจํานงอันแข็งแกร่งยิ่งอยู่ภายใรคลื่นยักษ์ ยิ่งเซี่ยวเฉินเข้าไปใกล์,เขายิ่งสัมผัสถึงเจตจํานงที่แข็งแกร่งได้ชัดเจน
“นี่เป็นเจตจํานงแห่งน้ําอันไร้ขอบเขต!” เซียวเฉินกล่าวขึ้นเบาๆขณะที่เขามองดูและรู้สึกได้ถึงเจตจํานง
พวกมันเชี่ยวหลากไหลทะลัก,ตลื่นยักษ์ที่ไร้ขอบเขตมีเจตจํานงแห่งน้ําที่ไม่ธรรมดา
เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง,มันเป็นไปได้ว่าปราชญ์ยุทธที่เคยปกครองทุ่งหญ้ามารอสูรจะไม่ใช่ปราชญ์ยุทธทั่วไป
ปราชญ์ยุทธผู้นี้สามารถแปรเปลี่ยนกฎแห่งสวรรค์และปฐพี่มาได้เป็นเวลานาน, พลังของมันไม่จางหายไปหลังจากผ่าานมานับพันปี เป็นไปได้ว่าเขาเหลือเพียงครึ่งก้าวที่จะกลายเป็นระดับขอบเขตจักรพรรดิยุทธ
ในตอนที่เซียวเฉินอยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตรจากคลื่นยักษ์,เขาหยุดลง เขากํามือแน่นและหมุนเวียนสลักร่างพยัคฆ์มังกร ทันใดนั้น พลังอันยิ่งใหญ่ไหลไปที่กําปั้นของเขา
วังวนฉีในจุดตันเที่ยนของเซียวเฉินก็เริ่มหมุนวนอย่างรวดเร็ซ ของเพลวสรม่วงไหลไปตามเส้นปราณของเขา ปราณและความแข็งแกร่งกายภาพของเขาผสานกันในทันที
“ฮ่ะ!”
เซียวเฉินปลดปล่อยเสียงร้องคํารามศึกและกระแทกใส่อากาศ เขาเปลี่ยนกลายเป็นเส้นแสงสีม่วงและเคลื่อนไปหนึ่งร้อยเมตรในชั่วพริบตา
มีภาพร่างของพยัคฆ์และมังกรในหมัดวายุของเขา มังกรข่มพยัคฆ์คําราม,ทําให้แหรงเหนี่ยวนําของเซี่ยวเฉินเร่งถึงขีดสุด นี่เป็นกระบวณท่าสุดท้ายของหมัดพยัคฆ์มังกร มังกรข่มพยัคฆ์ค่าราม
ด้วยการผสานความแข็งแกร่งกายภาพเข้ากับปราณ,บอกกับการใช้หมัดพยัคฆ์มังกร,กําปั้นของเซี่ยวเฉิน มีพลังถึงหนึ่งแสนกิโลกรัม มันเพียงพอที่จะระเบิดภูเขาหายไปครึ่งลูก
“ปัง!”
หมัดวายุราวกับเสียงสายฟ้าคําราม,ทําให้อากาศสันสะเทือน มิติราวกับเป็นกระดาษที่กําลังถูกฉีกทีละชั้นๆ
กําปั้นของเซี่ยวเฉินแบกพลังหนึ่งแสนกิโลกรัมซัดเข้าที่คลื่นยักษ์อย่างรุนแรง คลื่นหนาแน่นราวกับเป็นโลหะเหลว
เกิดเสียงทุ้มลึก,และรูขนาดใหญ่เปิดออกบนคลื่น อย่างไรก็ตาม,ก่อนที่เซียวเฉินจะลอดเข้าไป,รูผสานกลับอย่างรวดเร็ว,กลายเป็นพื้นแข็งอีกครั้ง
คลื่นส่งแรงสะท้อนหนาแน่น,และอวัยวะภายในของเซี่ยวเฉินสั่นสะเทือน เขาลอยกลับไปราวกับกระสุนปืนใหญ่
เซียวเฉินเตรียมตัวพร้อมมานานแล้ว:ร่างของเขาหมุนในอากาศ หลังจากผ่านไปนาน เขาค่อยๆสลายแรงหายไป
สีหน้าของเซียวเฉินซีดเซียวอย่างไม่น่าเชื่อ เขาหยุดหมุนตัวและมองไปที่คลื่นยักษ์ เขาพึมพํา “ไม่เร็วพอ ขาดแรงระเบิด เจตจํานงแห่งน้ําให้เวลาข้าอย่างมากที่สุดหนึ่งวินาที หลังจากที่มันอ่อนแรงลง,ข้าอาจจะได้สองวินาที,แต่ข้าควรจะทําได้อย่างดีที่สุด,สามวินาที”
“ปัง!”
ขณะที่เซียวเฉินกําลังพึมพํากับตัวเอง,พลันมีรูปรากฏขึ้นบนคลื่นยักษ์ตรงหน้าของเขา สมบัติลับกระพริบไหวด้วยแสงหลากสีพุ่งออกมาจากรู
สีหน้าของเซี่ยวเฉินกลายเป็นร้ายแรง และเขารีบไล่ตามมันไป ในจังหวะนี้,เขาเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ตรงหน้าคลื่นยักษ์ฝั่งนี้, และสมบัติลับก็อยู่ใกล้กับเขา ในเมื่อมีโอกาส,ข้าควรจะคว้าเอาไว้และทําเป็นไม่รู้ไม่เห็นหลังจากนั้น
“มังกรฟ้าเมฆาทะยาน,มังกรฟ้าฟาดหาง!”
เซี่ยวเฉินใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวระดับสวรรค์ เขาเคลื่อนไปราวกับมังกรฟ้าเชี่ยวหลากกําลังกวาดหางไปบนท้องฟ้า เขาสามารถคว้าเอาสมบัติลับที่กระพริบแสงหลาดสีเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว
“นี่เป็นเกราะใน จากกระแสพลังของเกราะในชิ้นนี้,มันน่าจะเป็นยอดสุดของสมบัติลับระดับต่า” เซียวเฉินกล่าวเบาๆกับตัวเอง
ตามหนังสือแนะนําสมบัติลับที่เซี่ยวเฉินพบในนิกายหลเพลิง,สมบัติลับถูกแบ่งเป็นระดับ จากต่ําไปสูงสุดคือ,ระดับต่ํา,ระดับกลาง,ระดับสูงและระดับอมตะ
สมบัติลับอย่างเสื้อคลุมวายุใส,รองเท้ากาววายุ,และจี้หยกที่หน้าอกของเขาทั้งหมดเป็นสมบัติลับระดับต่ํา นอกจากนั้น มันยังมีเกลื้อนไปหมด;พวกมันไม่มีค่ามากเกินไปนัก
มันยากอย่างยิ่งที่จะได้เห็นสมบัติลับที่มีค่าอย่างแท้จริงในการประมูลทั่วไป
“ไอ้หนู, ทิ้งสมบัติลับเอาไว้ซะ มันไม่ได้เป็นของเจ้า, ขอบเขตนักบุณขั้นสู.”
“ซิ่ว! ซิ่ว!”
มีบางคนสังเกตเห็นการปรากฎของสมบัติลับชิ้นนี้ พวกเขารีบมุ่งหน้ามาที่เซียวเฉิน จากกระแสพลังของพวกเขา,พวกเขาอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง
มีผู้บ่มเพาะพลังที่ไล่ตามสมบัติลับชิ้นที่หนึ่งและสองเห็นว่าเซี่ยวเฉินเป็นเพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูง พวกเขารู้สึกว่ามันง่ายที่จะจัดการและตรงมาหาเขา
ในเมื่อเซี่ยวเฉินได้สมบัติลับมาอยู่ในมือแล้ว,ไม่มีเหตุผลที่เขาจะปล่อยมันไป เซี่ยวเฉินเมินเฉยและเปลี่ยนกลายเป็นเส้นลําแสงสีม่วง,มุงหน้าจากไปอย่างรวดเร็ว
“มีขอบเขตันกบุญขั้นสูงได้สมบัติลับไปและกําลังหนี:ไล่ตามเขาไป!”
พวกเขาไม่เชื่อว่าระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงรวดเร็วไปกว่าพวกเขา พวกเขาหัวเราะอย่างเย็นชา
อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักหลังจากเริ่มไล่ล่า, มีเพียงครึ่งหนึ่งจากหนึ่งร้อยคนที่เหลืออยู่ ร่างที่พวกเขากําลังไล่ล่าพุ่งม้วนขึ้นลงราวกับมังกรฟ้า
ความเร็วของเซียวเฉินน่าตกตะลึง นอกจากนั้นเขายังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพัก มันยากที่จะจินตนาการว่ามีระดับขอบเขตนักบุญขั้นส.ที่รวดเร็วได้เช่นนี้
“อัสนีหลบเลี่ยง!”
“บูม! บูม! บูม!”
เส้นสายฟ้าวบผ่านพื้นผิวทะเล ตําแหน่งของเซียวเฉินแปรเปลี่ยนไปตามเส้นสายฟ้าแต่ละเส้นในเวลาไม่นาน ก็เหลือคนเพียงครึ่งนึงจากห้าสิบคน
เมื่อสัมผัสวิญญาณของเซี่ยวเฉินรู้สึกไได้ว่าเหลือเพียงยี่สิบกว่าคนที่ตามหลังเขามา,เขายิ้ม และเปิดใช้รองเท้าก้าววายุ ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์,รวดเร็วกว่าความเร็วเสียงกว่าสองเท่า เหลือเพียงเล็กน้อยเขาจะรวดเร็วถึงระดับ 3 มัค
Comments