Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 385 สมบัติมากมาย
ตอนที่ 385 สมบัติมากมาย
โอกาสที่เซี่ยวเฉินรออยู่ในที่สุดก็ปรากฏขึ้น เกิดแสงสายฟ้าวูบไหว,และเซี่ยวเฉินก็หายตัวไปจากด้านข้างของเยว่เฉินซี
ชายหน้าแผลเป็นลงมือโดยตรงอย่างไม่ลังเล,ฉกฉวยเอาร่างศพครึ่งก้าวจักรพรรดิยุทธ
ในขณะที่ชายหน้าบากกําลังจะฉวยเอาของที่ถูกฝัง,เส้นสายฟ้าและกระบี่แสงสีแดงเฉียบคมปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของเขา
ทักษะกระบอันไร้ขอบเขตระเบิดมาพร้อมกับแสงกระแสไฟฟ้า
ชายหน้าบากหลบเลี่ยงการโจมตีและล่าถอยไปอย่างเด็ดขาด เขาแบกศพครึ่งก้าวจักรพรรดิยุทธพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
เซี่ยวเฉินยิ้มเบาๆ กระบี่แสงเฉียบคมจากเมื่อครู่นี้จางหายสู่ความว่างเปล่าเขาเดิมพันเอาไว้ว่าชายคนนั้นคงไม่กล้าที่จะชนกับเขาโดยตรงเห็นชัดว่าเขาเกรงกลัวว่าเซี่ยวเฉินจะทําให้เขาต้องต่อสู้ติดพันและไม่อาจหลบหนีออกไปได้
โดยปราศจากความลังเล,เซี่ยวเฉินเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับสายฟ้า,กวาดเอาของที่ถูกฝังเอาไว้ภายในโลงหยกทองคําขาวโยนเข้าไปในแหวนห้วงจักรวาลของเขา
เซียวเฉินไม่แม้แต่จะสนใจว่าเขากวาดเอาอะไรมาบ้าง เขาเร่งรีบและผละออกจากสวนสมุนไพรเล็กอย่างเงียบๆไม่เห็นแม้แต่ฝุ่น
“ปัง!”
ขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดทั้งหกคนใช้พลังเต็มที่ของพวกเขาและทุบไปยังฝาโลงที่กําลังปั่นเอาฝุ่นขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม,พลังเหวียงที่อยู่ภายในฝาโลงมันมากเกินไป ในตอนที่มันแตกออก,เกิดเป็นคลื่นกระแทกรุนแรง
ทั้งหกคนถูกซัดถอยกลับไปด้วยแรงจากคลื่นกระแทกในตอนที่คลื่นกระแทกจางหายไผ,พวกเขารีบตรงเข้าไปที่โลงศพ
“ให้ตาย! หายไปหมดแล้ว!”
“ไม่ต้องพูดถึงสมบัติปราชญ์, แม้แต่ของที่ถูกฝังก็ไม่เหลือ!”
ทั้งหกคนมองไปยังโลงศพที่ว่างเปล่าและรู้สึกเจ็บปวดใจ:สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยน
“เขายังหนีไปได้ไม่ไกล เขาอยู่บนท้องฟ้า”
มือกระบี่โลหิตมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาปากระบี่เขี้ยวมังกรของเขาไปในทิศทางที่ชายหน้าบากหนีไป
กระบีเขียวมังกรสีดําเปลี่ยนกลายเป็นแสงและลบหายไปอย่างสมบูรณ์ ในจังหวะต่อมามังกรคลั่งปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของชายหน้าบากและชนเข้ากับตัวเขา
ชายหน้าบากร่วงลงสู่พื้นและทั้งหกคนก็เข้าปิดล้อมในทันที
ทั้งหกคนไม่ได้กล่าวอะไรและไม่แม้แต่จะให้ชายหน้าบากได้มีโอกาสพูดพวกเขาเพียงโหมส่งคมอาวุธเข้าโจมตี
ขณะนั้นเอง,เซี่ยวเฉินก็กลับมาปรากฏตัวที่ด้านข้างของเยว่เฉินซีอีกครั้งเขามีสีหน้านิ่งสงบ,มีรอยยิ้มบางๆขณะที่มองดูทั้งเจ็ดคนกําลังต่อสู้กัน
เยว่เฉินซี,ผู้ที่เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น มีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ เจ้าหมอนี่ทําได้อย่างไร?
เขาสามารถฉกฉวยเอาของมาได้อย่างง่ายดายโดยไม่เป็นที่สังเกตแม้แต่น้อย
ทักษะยุทธของชายหน้าบากชุดด่าช่างแปลกประหลาดยิ่ง ในตอนที่เขาจู่โจม,มีฉีสีด่าภายในฝ่ามือวายุของเขามันมาพร้อมกับก๊าซสีดําที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง
เซียวเฉินรู้สึกว่ากระแสพลังของคนผู้นั้นช่างคุ้นเคย แต่อย่างไรก็ตาม,เขานึกขึ้นไม่ออกว่าเขาได้เห็นมาจากที่ไหน
ในแง่ของความแข็งแกร่ง,นอกจากมือกระบี่โลหิตซุนกวงฉวน,คนที่เหลือไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
อย่างไรก็ตาม,ขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดทั้งหกคนได้เปรียบในเรื่องจํานวนนอกจากนั้น,พวกเขาแต่ละคนไม่ได้อ่อนไปกว่าชายหน้าบากมากนักชายชุดดํายังต้องแบกร่างศพของครี่งก้าวจักรพรรดิยุทธเขาค่อยๆเสียเปรียบมากขึ้น
ในตอนที่ผู้บ่มเพาะพลังไปถึงระดับขอบเขตปราชญ์ยุทธ,พวกเขาสามารถคว้าจับร่องรอยของเตสวรรค์ราชาทุ่งหญ้ามารอสูรอีกเพียงหนึ่งก้าวก็จะกลายเป็นจักรพรรดิยุทธเขาได้ครอบครองเตสวรรค์สําานวนมากเอาไว้อย่างแน่นอน
พลังของเตสวรรค์ไม่กระจัดกระจายไปหลังจากผ่านมาหนึ่งพันปีร่างศพนี้ไม่สามารถเอาเข้าไปในแหวนมิติ
หากร่างศพถูกฝืนใส่เข้าไป,เต๋สวรรค์จะทําลายพลังงานมิติที่อ่อนแอดังนั้น,ชายชุดดําผู้นี้สา มารถทําได้เพียงแบกศพเอาไว้, เป็นผลให้เขาทําได้เพียงตั้งรับอย่างขมขึ้น
ด้วยความแข็งแกร่งของผู้บ่มเพาะพลังชุดดําคนนั้น,เซี่ยวเฉินประเมินว่าหากเขายอมปล่อยศพของราชาทุ่งหญ้าไป,เขาจะสามารถหนีไปได้
สถานการณ์การแปลเปลี่ยนอย่างฉับพลันภายในสวนสมุนไพรเล็กทําให้ผู้บ่มเพาะพลังที่ถูกไล่ออกไปตกตะลึง พวกเขาเพิ่งจะคืนสติกลับมาช้าๆ
แววแสงในดวงตาของพวกเขาสว่างขึ้น พวกเขาทั้งหมดป้วนเปียนอยู่ด้านนอกของสวนสมุนไพรเล็ก,ยังไม่ยินยอมที่จะจากไป
พวกเขาหวังที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บ เช่นนั้น,พวกเขาจะสามารถฉวยโอกาสได้
เซี่ยวเฉินยิ้มเบาๆและไม่สนใจที่จะยืนชม ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร มันก็ไม่เกี่ยวกับเขาแล้ว
ไม่มีความตําเป็นที่เซียวเฉินจะอยู่ต่อ เขาอาจจะเจอเข้ากับปัญหา เขาหันหลังและกลับไปที่สวนสมุนไพรใหญ่เพื่อเริ่มเก็บเกี่ยวสมุนไพรอีกครั้ง
เมื่อเยว่เฉินซีเห็นดังนั้น,นางรีบตามเซี่ยวเฉินไป
“นี่มันหญ้าหมัดหมา มันสามารถแก้พิษได้หลากหลายประเภทและส่งผลอย่างยิ่งกับพิษงเก็บ
“หญ้าไป๋หย…นี่เป็นส่วนผสมหลักในการสกัดเม็ดยาประเภทบํารุง,เม็ดยาน้ำค้างสายลมมันยังมีอายุกว่าสองร้อยปี เก็บ!”
“โสมหิมะอายุห้าร้อยปีแม้ว่ามันจะมีอายุเพียงห้าร้อยปีแต่ก็นับว่าค่อนข้างดีมันพลาดโสมอายุหนึ่งพันปีไปก่อนหน้านี้แต่โสมนี้ก็เท่ากับการบ่มเพาะพลังเจ็ดหรือแปดปีเก็บ!”
เซี่ยวเฉินกวาดสิ่งที่เขาจําเป็นต้องใช้ไปหมดแล้ว ตอนนี้เขาไม่แม่แต่จะขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไปเขาเพียงเดินผ่านสวนสมุนไพรและเก็บสมุนไพรที่เขาเห็น
ถึงกระนั้น,ผ่านไปครู่เดียว ก็มีสมุนไพรมากมายหลายสิบในแหวนห้วงจักรวาลของเซี่ยวเฉินนับเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่
สําหรับคนที่ป่วนเปี้ยนอยู่รอบนอกของสวนเล็ก,กําลังหวังให้ทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บหนัก,พวกเขาไม่ได้อะไรเลยพวกเขาทําได้เพียงมองดูเซียวเฉินไล่เก็บสมุนไพร
ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังหวังที่จะจับปลาตัวใหญ่ หลังจากที่แต่ละฝ่ายบาดเจ็บ,พวกเขาสามารถเข้าไปฉกฉวยส่วนแบ่งของที่อยู่ในโลงศพปราชญ์พวกเขาไม่รู้ว่าเซียวเฉินได้กวาดเอาไปหมดแล้ว
เยว่เฉินซี,ผู้ที่รู้ทุกอย่างรู้สึกเพียงว่าคนพวกนี้ช่างโง่งมขณะที่นางมองดูพวกเขารอคอยอย่างมีความหวังที่รอบนอกของสวนเล็ก
เยว่เฉินซี,ผู้ที่ยังคงเดินตามเซียวเฉิน,เห็นว่าเขาดูใจเย็นเป็นอย่างมาก ในที่สุดนางก็อดถามขึ้นไม่ได้“มือกระบี่ชุดขาวเซียวเฉิน,ข้าไม่เข้าใจจริงทําไมเจ้ายังดูใจเย็นจนถึงตอนนี้?”
“หากขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดหกคนนั้นรู้ว่าเจ้าเป็นคนเอาของในโลงศพไป,เจ้าจะไม่มีแม้แต่โอกาสจะวิ่งหนีแต่เจ้ากลับยังมีอารมณ์เดินเก็บสมุนไพรต่อ”
เซี่ยวเฉินยืนขึ้นและวางสมุนไพรวิญญาณที่เขาเพิ่งจะเก็บได้เข้าไปในแหวนหัวงมิติอย่างระวังเขายิ้มอ่อนโยนและกล่าวขึ้น “ข้าไม่เหมือนเจ้า,ข้าไม่ได้มีนิกายใหญ่อย่างนิกายนภาสูงค่อน สนับสนุนเจ้าไม่ได้ขาดแคลนสมบัติธรรมชาติอย่างเม็ดยาวิเศษ”
ในเมื่อนี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง,เป็นธรรมดาที่ข้าจะเก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้นอีกใครจะรู้,บางที่สวนแห่งนี้อาจจะว่างเปล่าไปในไม่ช้าดังนั้น,ข้าจะต้องเก็บเกี่ยวให้ได้มากที่สุด”
ในตอนที่เยว่เฉินซีได้ยินดังนั้น,นางค่อนข้างอึ้งนิกายนภาสูงมีทุ่งสมุนไพรเป็นของตัวเอง,และมันใหญ่ยิ่งกว่าสวนสมุนไพรแห่งนี้เสียอีก
นอกจากนั้น นิกายนภาสูงมีผู้ดูแลสวนสมุนไพรโดยเฉพาะ เป็นเช่นนี้มานานนับหมื่นปีพวกเขามีแม้แต่โถงโอสถพร้อมกับอุปกรณ์จ่าเป็นทั้งหมดรวมถึงนักปรุงยาชั้นยอดในทวีปแห่งนี้
ดังนั้น,เยว่เฉินซีไม่เคยที่จะขาดแคลนสมบัติธรรมชาติหรือเม็ดยาวิเศษ
อย่างไรก็ตาม,ในตอนที่เยสเฉินซ์ได้ยินเซี่ยวเฉินกล่าวว่าสวนสมุนไพรแห่งนี้อาจจะหายไป,นางพบว่ามันน่าตลกขบขันนางกล่าวขึ้นเสียงนุ่ม “ฮ่าฮ่าเจ้าก็ว่าไปสวนสมุนไพรใหญ่โตแห่งนี้จะหายไปทันทีทันใดได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้”
“ชี! ชี!”
สิ้นเสียงของเยว่เฉินซี,สมุนไพรทั้งหมดภายในสวนใหญ่เริ่มเหี่ยวแห้งลงอย่างเห็นได้ชัด
หญ้าแสงสีเขียวเหี่ยวแห้งลงในมือของเซี่ยวเฉินก่อนที่เขาจะเก็บมันเข้าแหวนห้วงจักรวาลมันถูกดูดพลังงานยาออกไปอย่างสมบูรณ์และไม่หลงเลหอพลังชีวิต
สวนสมุนไพรอันยิ่งใหญ่ที่เต็มไปด้วยสมุนไพรและพืชพันธุ์เหี่ยวแห้งลงอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตาคนทั้งสอง
มันราวกับการเร่งกาลเวลา จากฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูร้อน,เป็นฤดูใบไม้ร่วง,และเข้าสู่หน้าหนาวทุกอย่างภายในสวนสมุนไพรแห่งนี้ร่วงโรย
สีหน้าของเยว่เฉินซีพลันเปลี่ยน,ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อนางกล่าว “เจ้า…เจ้ารู้?”
ความรู้สึกเช่นเดียวกันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซี่ยวเฉิน เขาส่ายหัวและยิ้มแย่างขมขึ้น “ข้าไม่รู้ก่อนหน้านี้ข้าเพียงพูดไปเรื่อยเปื่อย ไปดูที่สวนสมุนไพรเล็กกันเถอะพลังงานยาทั้งหมดไหลไปที่แห่งนั้น”
ทั้งสองหมุนเวียนทักษะเคลื่อนไหวของพวกเขาและมาถึงที่ชายขอบของสวนเล็กหลังจากผ่านไปชั่วครู่ พวกเขามองเห็นเพียงผู้บ่มเพาะพลังที่รอคอยอยู่ก่อนหน้านนี้เข้าไปร่วมการต่อสู้
น่าแปลก…คนเหล่านี้เจ้าเล่ห์เป็นอย่างยิ่ง พวกเขาจะเข้าไปร่วมวงต่อสู้ก่อนที่มันจะจบทําไม?
เซี่ยวเฉินมองเข้าไปในสวนเล็กและสีหน้าของเขาพลันเปลี่ยน ดอกไม้สีน้ำน้ำตาลดําภายในสวนก็เหี่ยวแห้งลงเช่นกัน,พลังชีวิตของพวกมันทั้งหมดถูกสูบออกไป
ก่อนหน้านี้จะมีก๊าซสีดําออกมาในตอนที่ชายหน้าบากคนนั้นโจมตีในตอนนี้ก๊าซสีดําปกคล มทั่วร่างของเขา
ก๊าซสีดําส่งเสียงออกมาในอากาศ,ราวกับอากาศกําลังถูกกัดกร่อน มันดูแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีใครกล้าดข้าไปใกล้กับเขา เหล่าผู้บ่มเพาะพลังต่อสู้ราวกับกําลังหวาดกลัวอยู่
ความคิดหนึ่งปะทะเข้ามาในหัวของเซี่ยวเฉิน ในที่สุดเซียวเฉินก็เข้าใจว่าทําไมกระแสพลังของเขาช่างดูคุ้นเคยอย่างมากคนผู้นี้มีจิตวิญญาณยุทธสัตว์อสูรปีศาจ
ก๊าซสีดํานั้นคือฉีปรศาจจากโลกปีศาจ มันเป็นอย่างเดียวกับคนผู้นั้นที่หยิงเยว่สังหารลงไปในป่าสัตว์อสูรปีศาจ
ในสวนเล็ก,มีโลงศกสีดําหกโลงตั้งอยู่ด้านหลังของชายหน้าบากฝาโลงนอนกองอยู่กับพื้นแล้ว
ภายในโลงเหล่านั้นมีศพที่ดวงตาของพวกเขาปิดสนิท มีจุดสีแดงสามจุดที่หน้าผากของพวกเขา,ราวกับเป็นตราประทับ
ศพเหล่านั้นสวมชุดเกราะหนาที่สร้างขึ้นมาจากเหล็กลึกล้ํา ผิวของพวกเขาเป็นสีเทา,ราวกับสีของโลหะ
ขณะที่พลังชีวิตอันไร้ขอบเขตจากสมุนไพรวิญญาณนับไม่ถ้วนไหลเข้าสู่โลงศพ,ศพทั้งหกร่างพลันลืมตาขึ้น พวกเขาค่อยๆเดินออกมาพร้อมกับฝีเท้าหนักแน่น
“บูม! บูม! บูม!”
ร่างศพทั้งหกกลับมามีชีวิต ไม่รู้ว่าเกราะของพวกเขาหนักถึงเพียงใด,แต่ในทุกฝีก้าวของพวกเขา,ทําให้พื้นดินสันสะเทือน
สีหน้าของเยว่เฉินซีกลายเป็นร้ายแรงพร้อมกับกล่าวขึ้น “นี่เป็นศพปีศาจโลหิตทมิฬระดับ 3 มันสร้างขึ้นมาโดยวิธีการเฉพาะของโบสถ์ทมิฬคนผู้นี้เป็นผู้เหลือรอดของโบสถ์ทมิฬไม่แปลกใจ ว่าทําไมเขาถึงอยากได้ศพของราชาทุ่งหญ้ามารอสูรเขาต้องการที่จะหลอมร่างศพปราชญ์ให้กลายเป็นศพปีศาจช่างน่าหวดากลัว,อย่าปล่อยให้เขาหนีไปได้!”
เซี่ยวเฉินเคยได้ยินเรื่องของโบสถ์ทมิฬมาก่อน,พวกเขาเป็นศัตรูกับมนุษยชาติพงกเขายินดีที่จะเข้าร่วมกับเทพมารและกลายเป็นผู้บ่มเพาะพลังชั่วร้ายเหตุผลที่พวกมีตัวตนอยู่ก็เพื่อช่วยให้โลกปีศาจสยบทวีปเที่ยนหว่
อย่างไรก็ตาม,หลายปีก่อน,สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ร่วมมือกับทุกนิกายภายในทวีปและขับไล่พวกเขาออกจากทวีปแห่งนี้ พงกเขายังได้สังหารสมาชิกหลักของโบสถ์ทมิฬไปเป็นส่วนใหญ่
เจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามถึงกับร่วมมือกันเพื่อสังหารเจ้าโบสถ์ทมิฬ โบสถ์ทมิฬนับได้ว่าถูกกวาดล้างออกไปแล้ว,เหลือเพียงแต่กองกําลังยิบย่อยที่หลงเหลืออยู่
ในตอนที่เหล่าผู้บ่มเพาะพบังพลเห็นผู้เหลือรอดของโบสถ์ทมิฬ,พวกเขาจะต้องร่วมมือกันสังหารพวกมัน,ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ตามนี่เป็นกฎโบราณที่ไม่อาจขัดขึ้น
ในตอนที่ศพปีศาจโลหิตทมิฬปรากฏตัวขึ้น, พวกมันทะลวงทางผ่านฝูงชน ร่างอันใหญ่โตของพวกมันแบกพลังมหาศาลเข้าชน
“เครั้ง! เครั้ง! เครั้ง!”
ในตอนที่การโจมตีจากฝูงชนซัดเข้าที่ศพปีศาจโลหิตทมิฬ,เกิดเสียงเหล็กกระทบดังออกมาศพปีศาจโลหิตทมิฬิดไม่เหมือนจะอ่อนกําลังลงแม้แต่น้อย
หัวหรือดวงตาของศพปีศาจโลหิตทมิฬไม่ได้เป็นจุดอ่อน พวกมันไม่มีอารมณ์หรือรู้สึกถึงความเจ็บปวด
พวกมันไม่แยแสการโจมตีที่ถาโถมเข้ามา พวกมันกลับสามารถทะลวงผ่านคู่ต่อสู้ของพวกมันในกระบวณท่าเดียว
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 385 สมบัติมากมาย
ตอนที่ 385 สมบัติมากมาย
โอกาสที่เซี่ยวเฉินรออยู่ในที่สุดก็ปรากฏขึ้น เกิดแสงสายฟ้าวูบไหว,และเซี่ยวเฉินก็หายตัวไปจากด้านข้างของเยว่เฉินซี
ชายหน้าแผลเป็นลงมือโดยตรงอย่างไม่ลังเล,ฉกฉวยเอาร่างศพครึ่งก้าวจักรพรรดิยุทธ
ในขณะที่ชายหน้าบากกําลังจะฉวยเอาของที่ถูกฝัง,เส้นสายฟ้าและกระบี่แสงสีแดงเฉียบคมปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของเขา
ทักษะกระบอันไร้ขอบเขตระเบิดมาพร้อมกับแสงกระแสไฟฟ้า
ชายหน้าบากหลบเลี่ยงการโจมตีและล่าถอยไปอย่างเด็ดขาด เขาแบกศพครึ่งก้าวจักรพรรดิยุทธพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
เซี่ยวเฉินยิ้มเบาๆ กระบี่แสงเฉียบคมจากเมื่อครู่นี้จางหายสู่ความว่างเปล่าเขาเดิมพันเอาไว้ว่าชายคนนั้นคงไม่กล้าที่จะชนกับเขาโดยตรงเห็นชัดว่าเขาเกรงกลัวว่าเซี่ยวเฉินจะทําให้เขาต้องต่อสู้ติดพันและไม่อาจหลบหนีออกไปได้
โดยปราศจากความลังเล,เซี่ยวเฉินเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับสายฟ้า,กวาดเอาของที่ถูกฝังเอาไว้ภายในโลงหยกทองคําขาวโยนเข้าไปในแหวนห้วงจักรวาลของเขา
เซียวเฉินไม่แม้แต่จะสนใจว่าเขากวาดเอาอะไรมาบ้าง เขาเร่งรีบและผละออกจากสวนสมุนไพรเล็กอย่างเงียบๆไม่เห็นแม้แต่ฝุ่น
“ปัง!”
ขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดทั้งหกคนใช้พลังเต็มที่ของพวกเขาและทุบไปยังฝาโลงที่กําลังปั่นเอาฝุ่นขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม,พลังเหวียงที่อยู่ภายในฝาโลงมันมากเกินไป ในตอนที่มันแตกออก,เกิดเป็นคลื่นกระแทกรุนแรง
ทั้งหกคนถูกซัดถอยกลับไปด้วยแรงจากคลื่นกระแทกในตอนที่คลื่นกระแทกจางหายไผ,พวกเขารีบตรงเข้าไปที่โลงศพ
“ให้ตาย! หายไปหมดแล้ว!”
“ไม่ต้องพูดถึงสมบัติปราชญ์, แม้แต่ของที่ถูกฝังก็ไม่เหลือ!”
ทั้งหกคนมองไปยังโลงศพที่ว่างเปล่าและรู้สึกเจ็บปวดใจ:สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยน
“เขายังหนีไปได้ไม่ไกล เขาอยู่บนท้องฟ้า”
มือกระบี่โลหิตมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาปากระบี่เขี้ยวมังกรของเขาไปในทิศทางที่ชายหน้าบากหนีไป
กระบีเขียวมังกรสีดําเปลี่ยนกลายเป็นแสงและลบหายไปอย่างสมบูรณ์ ในจังหวะต่อมามังกรคลั่งปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของชายหน้าบากและชนเข้ากับตัวเขา
ชายหน้าบากร่วงลงสู่พื้นและทั้งหกคนก็เข้าปิดล้อมในทันที
ทั้งหกคนไม่ได้กล่าวอะไรและไม่แม้แต่จะให้ชายหน้าบากได้มีโอกาสพูดพวกเขาเพียงโหมส่งคมอาวุธเข้าโจมตี
ขณะนั้นเอง,เซี่ยวเฉินก็กลับมาปรากฏตัวที่ด้านข้างของเยว่เฉินซีอีกครั้งเขามีสีหน้านิ่งสงบ,มีรอยยิ้มบางๆขณะที่มองดูทั้งเจ็ดคนกําลังต่อสู้กัน
เยว่เฉินซี,ผู้ที่เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น มีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ เจ้าหมอนี่ทําได้อย่างไร?
เขาสามารถฉกฉวยเอาของมาได้อย่างง่ายดายโดยไม่เป็นที่สังเกตแม้แต่น้อย
ทักษะยุทธของชายหน้าบากชุดด่าช่างแปลกประหลาดยิ่ง ในตอนที่เขาจู่โจม,มีฉีสีด่าภายในฝ่ามือวายุของเขามันมาพร้อมกับก๊าซสีดําที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง
เซียวเฉินรู้สึกว่ากระแสพลังของคนผู้นั้นช่างคุ้นเคย แต่อย่างไรก็ตาม,เขานึกขึ้นไม่ออกว่าเขาได้เห็นมาจากที่ไหน
ในแง่ของความแข็งแกร่ง,นอกจากมือกระบี่โลหิตซุนกวงฉวน,คนที่เหลือไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
อย่างไรก็ตาม,ขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดทั้งหกคนได้เปรียบในเรื่องจํานวนนอกจากนั้น,พวกเขาแต่ละคนไม่ได้อ่อนไปกว่าชายหน้าบากมากนักชายชุดดํายังต้องแบกร่างศพของครี่งก้าวจักรพรรดิยุทธเขาค่อยๆเสียเปรียบมากขึ้น
ในตอนที่ผู้บ่มเพาะพลังไปถึงระดับขอบเขตปราชญ์ยุทธ,พวกเขาสามารถคว้าจับร่องรอยของเตสวรรค์ราชาทุ่งหญ้ามารอสูรอีกเพียงหนึ่งก้าวก็จะกลายเป็นจักรพรรดิยุทธเขาได้ครอบครองเตสวรรค์สําานวนมากเอาไว้อย่างแน่นอน
พลังของเตสวรรค์ไม่กระจัดกระจายไปหลังจากผ่านมาหนึ่งพันปีร่างศพนี้ไม่สามารถเอาเข้าไปในแหวนมิติ
หากร่างศพถูกฝืนใส่เข้าไป,เต๋สวรรค์จะทําลายพลังงานมิติที่อ่อนแอดังนั้น,ชายชุดดําผู้นี้สา มารถทําได้เพียงแบกศพเอาไว้, เป็นผลให้เขาทําได้เพียงตั้งรับอย่างขมขึ้น
ด้วยความแข็งแกร่งของผู้บ่มเพาะพลังชุดดําคนนั้น,เซี่ยวเฉินประเมินว่าหากเขายอมปล่อยศพของราชาทุ่งหญ้าไป,เขาจะสามารถหนีไปได้
สถานการณ์การแปลเปลี่ยนอย่างฉับพลันภายในสวนสมุนไพรเล็กทําให้ผู้บ่มเพาะพลังที่ถูกไล่ออกไปตกตะลึง พวกเขาเพิ่งจะคืนสติกลับมาช้าๆ
แววแสงในดวงตาของพวกเขาสว่างขึ้น พวกเขาทั้งหมดป้วนเปียนอยู่ด้านนอกของสวนสมุนไพรเล็ก,ยังไม่ยินยอมที่จะจากไป
พวกเขาหวังที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บ เช่นนั้น,พวกเขาจะสามารถฉวยโอกาสได้
เซี่ยวเฉินยิ้มเบาๆและไม่สนใจที่จะยืนชม ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร มันก็ไม่เกี่ยวกับเขาแล้ว
ไม่มีความตําเป็นที่เซียวเฉินจะอยู่ต่อ เขาอาจจะเจอเข้ากับปัญหา เขาหันหลังและกลับไปที่สวนสมุนไพรใหญ่เพื่อเริ่มเก็บเกี่ยวสมุนไพรอีกครั้ง
เมื่อเยว่เฉินซีเห็นดังนั้น,นางรีบตามเซี่ยวเฉินไป
“นี่มันหญ้าหมัดหมา มันสามารถแก้พิษได้หลากหลายประเภทและส่งผลอย่างยิ่งกับพิษงเก็บ
“หญ้าไป๋หย…นี่เป็นส่วนผสมหลักในการสกัดเม็ดยาประเภทบํารุง,เม็ดยาน้ำค้างสายลมมันยังมีอายุกว่าสองร้อยปี เก็บ!”
“โสมหิมะอายุห้าร้อยปีแม้ว่ามันจะมีอายุเพียงห้าร้อยปีแต่ก็นับว่าค่อนข้างดีมันพลาดโสมอายุหนึ่งพันปีไปก่อนหน้านี้แต่โสมนี้ก็เท่ากับการบ่มเพาะพลังเจ็ดหรือแปดปีเก็บ!”
เซี่ยวเฉินกวาดสิ่งที่เขาจําเป็นต้องใช้ไปหมดแล้ว ตอนนี้เขาไม่แม่แต่จะขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไปเขาเพียงเดินผ่านสวนสมุนไพรและเก็บสมุนไพรที่เขาเห็น
ถึงกระนั้น,ผ่านไปครู่เดียว ก็มีสมุนไพรมากมายหลายสิบในแหวนห้วงจักรวาลของเซี่ยวเฉินนับเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่
สําหรับคนที่ป่วนเปี้ยนอยู่รอบนอกของสวนเล็ก,กําลังหวังให้ทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บหนัก,พวกเขาไม่ได้อะไรเลยพวกเขาทําได้เพียงมองดูเซียวเฉินไล่เก็บสมุนไพร
ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังหวังที่จะจับปลาตัวใหญ่ หลังจากที่แต่ละฝ่ายบาดเจ็บ,พวกเขาสามารถเข้าไปฉกฉวยส่วนแบ่งของที่อยู่ในโลงศพปราชญ์พวกเขาไม่รู้ว่าเซียวเฉินได้กวาดเอาไปหมดแล้ว
เยว่เฉินซี,ผู้ที่รู้ทุกอย่างรู้สึกเพียงว่าคนพวกนี้ช่างโง่งมขณะที่นางมองดูพวกเขารอคอยอย่างมีความหวังที่รอบนอกของสวนเล็ก
เยว่เฉินซี,ผู้ที่ยังคงเดินตามเซียวเฉิน,เห็นว่าเขาดูใจเย็นเป็นอย่างมาก ในที่สุดนางก็อดถามขึ้นไม่ได้“มือกระบี่ชุดขาวเซียวเฉิน,ข้าไม่เข้าใจจริงทําไมเจ้ายังดูใจเย็นจนถึงตอนนี้?”
“หากขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดหกคนนั้นรู้ว่าเจ้าเป็นคนเอาของในโลงศพไป,เจ้าจะไม่มีแม้แต่โอกาสจะวิ่งหนีแต่เจ้ากลับยังมีอารมณ์เดินเก็บสมุนไพรต่อ”
เซี่ยวเฉินยืนขึ้นและวางสมุนไพรวิญญาณที่เขาเพิ่งจะเก็บได้เข้าไปในแหวนหัวงมิติอย่างระวังเขายิ้มอ่อนโยนและกล่าวขึ้น “ข้าไม่เหมือนเจ้า,ข้าไม่ได้มีนิกายใหญ่อย่างนิกายนภาสูงค่อน สนับสนุนเจ้าไม่ได้ขาดแคลนสมบัติธรรมชาติอย่างเม็ดยาวิเศษ”
ในเมื่อนี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง,เป็นธรรมดาที่ข้าจะเก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้นอีกใครจะรู้,บางที่สวนแห่งนี้อาจจะว่างเปล่าไปในไม่ช้าดังนั้น,ข้าจะต้องเก็บเกี่ยวให้ได้มากที่สุด”
ในตอนที่เยว่เฉินซีได้ยินดังนั้น,นางค่อนข้างอึ้งนิกายนภาสูงมีทุ่งสมุนไพรเป็นของตัวเอง,และมันใหญ่ยิ่งกว่าสวนสมุนไพรแห่งนี้เสียอีก
นอกจากนั้น นิกายนภาสูงมีผู้ดูแลสวนสมุนไพรโดยเฉพาะ เป็นเช่นนี้มานานนับหมื่นปีพวกเขามีแม้แต่โถงโอสถพร้อมกับอุปกรณ์จ่าเป็นทั้งหมดรวมถึงนักปรุงยาชั้นยอดในทวีปแห่งนี้
ดังนั้น,เยว่เฉินซีไม่เคยที่จะขาดแคลนสมบัติธรรมชาติหรือเม็ดยาวิเศษ
อย่างไรก็ตาม,ในตอนที่เยสเฉินซ์ได้ยินเซี่ยวเฉินกล่าวว่าสวนสมุนไพรแห่งนี้อาจจะหายไป,นางพบว่ามันน่าตลกขบขันนางกล่าวขึ้นเสียงนุ่ม “ฮ่าฮ่าเจ้าก็ว่าไปสวนสมุนไพรใหญ่โตแห่งนี้จะหายไปทันทีทันใดได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้”
“ชี! ชี!”
สิ้นเสียงของเยว่เฉินซี,สมุนไพรทั้งหมดภายในสวนใหญ่เริ่มเหี่ยวแห้งลงอย่างเห็นได้ชัด
หญ้าแสงสีเขียวเหี่ยวแห้งลงในมือของเซี่ยวเฉินก่อนที่เขาจะเก็บมันเข้าแหวนห้วงจักรวาลมันถูกดูดพลังงานยาออกไปอย่างสมบูรณ์และไม่หลงเลหอพลังชีวิต
สวนสมุนไพรอันยิ่งใหญ่ที่เต็มไปด้วยสมุนไพรและพืชพันธุ์เหี่ยวแห้งลงอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตาคนทั้งสอง
มันราวกับการเร่งกาลเวลา จากฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูร้อน,เป็นฤดูใบไม้ร่วง,และเข้าสู่หน้าหนาวทุกอย่างภายในสวนสมุนไพรแห่งนี้ร่วงโรย
สีหน้าของเยว่เฉินซีพลันเปลี่ยน,ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อนางกล่าว “เจ้า…เจ้ารู้?”
ความรู้สึกเช่นเดียวกันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซี่ยวเฉิน เขาส่ายหัวและยิ้มแย่างขมขึ้น “ข้าไม่รู้ก่อนหน้านี้ข้าเพียงพูดไปเรื่อยเปื่อย ไปดูที่สวนสมุนไพรเล็กกันเถอะพลังงานยาทั้งหมดไหลไปที่แห่งนั้น”
ทั้งสองหมุนเวียนทักษะเคลื่อนไหวของพวกเขาและมาถึงที่ชายขอบของสวนเล็กหลังจากผ่านไปชั่วครู่ พวกเขามองเห็นเพียงผู้บ่มเพาะพลังที่รอคอยอยู่ก่อนหน้านนี้เข้าไปร่วมการต่อสู้
น่าแปลก…คนเหล่านี้เจ้าเล่ห์เป็นอย่างยิ่ง พวกเขาจะเข้าไปร่วมวงต่อสู้ก่อนที่มันจะจบทําไม?
เซี่ยวเฉินมองเข้าไปในสวนเล็กและสีหน้าของเขาพลันเปลี่ยน ดอกไม้สีน้ำน้ำตาลดําภายในสวนก็เหี่ยวแห้งลงเช่นกัน,พลังชีวิตของพวกมันทั้งหมดถูกสูบออกไป
ก่อนหน้านี้จะมีก๊าซสีดําออกมาในตอนที่ชายหน้าบากคนนั้นโจมตีในตอนนี้ก๊าซสีดําปกคล มทั่วร่างของเขา
ก๊าซสีดําส่งเสียงออกมาในอากาศ,ราวกับอากาศกําลังถูกกัดกร่อน มันดูแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีใครกล้าดข้าไปใกล้กับเขา เหล่าผู้บ่มเพาะพลังต่อสู้ราวกับกําลังหวาดกลัวอยู่
ความคิดหนึ่งปะทะเข้ามาในหัวของเซี่ยวเฉิน ในที่สุดเซียวเฉินก็เข้าใจว่าทําไมกระแสพลังของเขาช่างดูคุ้นเคยอย่างมากคนผู้นี้มีจิตวิญญาณยุทธสัตว์อสูรปีศาจ
ก๊าซสีดํานั้นคือฉีปรศาจจากโลกปีศาจ มันเป็นอย่างเดียวกับคนผู้นั้นที่หยิงเยว่สังหารลงไปในป่าสัตว์อสูรปีศาจ
ในสวนเล็ก,มีโลงศกสีดําหกโลงตั้งอยู่ด้านหลังของชายหน้าบากฝาโลงนอนกองอยู่กับพื้นแล้ว
ภายในโลงเหล่านั้นมีศพที่ดวงตาของพวกเขาปิดสนิท มีจุดสีแดงสามจุดที่หน้าผากของพวกเขา,ราวกับเป็นตราประทับ
ศพเหล่านั้นสวมชุดเกราะหนาที่สร้างขึ้นมาจากเหล็กลึกล้ํา ผิวของพวกเขาเป็นสีเทา,ราวกับสีของโลหะ
ขณะที่พลังชีวิตอันไร้ขอบเขตจากสมุนไพรวิญญาณนับไม่ถ้วนไหลเข้าสู่โลงศพ,ศพทั้งหกร่างพลันลืมตาขึ้น พวกเขาค่อยๆเดินออกมาพร้อมกับฝีเท้าหนักแน่น
“บูม! บูม! บูม!”
ร่างศพทั้งหกกลับมามีชีวิต ไม่รู้ว่าเกราะของพวกเขาหนักถึงเพียงใด,แต่ในทุกฝีก้าวของพวกเขา,ทําให้พื้นดินสันสะเทือน
สีหน้าของเยว่เฉินซีกลายเป็นร้ายแรงพร้อมกับกล่าวขึ้น “นี่เป็นศพปีศาจโลหิตทมิฬระดับ 3 มันสร้างขึ้นมาโดยวิธีการเฉพาะของโบสถ์ทมิฬคนผู้นี้เป็นผู้เหลือรอดของโบสถ์ทมิฬไม่แปลกใจ ว่าทําไมเขาถึงอยากได้ศพของราชาทุ่งหญ้ามารอสูรเขาต้องการที่จะหลอมร่างศพปราชญ์ให้กลายเป็นศพปีศาจช่างน่าหวดากลัว,อย่าปล่อยให้เขาหนีไปได้!”
เซี่ยวเฉินเคยได้ยินเรื่องของโบสถ์ทมิฬมาก่อน,พวกเขาเป็นศัตรูกับมนุษยชาติพงกเขายินดีที่จะเข้าร่วมกับเทพมารและกลายเป็นผู้บ่มเพาะพลังชั่วร้ายเหตุผลที่พวกมีตัวตนอยู่ก็เพื่อช่วยให้โลกปีศาจสยบทวีปเที่ยนหว่
อย่างไรก็ตาม,หลายปีก่อน,สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ร่วมมือกับทุกนิกายภายในทวีปและขับไล่พวกเขาออกจากทวีปแห่งนี้ พงกเขายังได้สังหารสมาชิกหลักของโบสถ์ทมิฬไปเป็นส่วนใหญ่
เจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามถึงกับร่วมมือกันเพื่อสังหารเจ้าโบสถ์ทมิฬ โบสถ์ทมิฬนับได้ว่าถูกกวาดล้างออกไปแล้ว,เหลือเพียงแต่กองกําลังยิบย่อยที่หลงเหลืออยู่
ในตอนที่เหล่าผู้บ่มเพาะพบังพลเห็นผู้เหลือรอดของโบสถ์ทมิฬ,พวกเขาจะต้องร่วมมือกันสังหารพวกมัน,ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ตามนี่เป็นกฎโบราณที่ไม่อาจขัดขึ้น
ในตอนที่ศพปีศาจโลหิตทมิฬปรากฏตัวขึ้น, พวกมันทะลวงทางผ่านฝูงชน ร่างอันใหญ่โตของพวกมันแบกพลังมหาศาลเข้าชน
“เครั้ง! เครั้ง! เครั้ง!”
ในตอนที่การโจมตีจากฝูงชนซัดเข้าที่ศพปีศาจโลหิตทมิฬ,เกิดเสียงเหล็กกระทบดังออกมาศพปีศาจโลหิตทมิฬิดไม่เหมือนจะอ่อนกําลังลงแม้แต่น้อย
หัวหรือดวงตาของศพปีศาจโลหิตทมิฬไม่ได้เป็นจุดอ่อน พวกมันไม่มีอารมณ์หรือรู้สึกถึงความเจ็บปวด
พวกมันไม่แยแสการโจมตีที่ถาโถมเข้ามา พวกมันกลับสามารถทะลวงผ่านคู่ต่อสู้ของพวกมันในกระบวณท่าเดียว
Comments