Immortal and Martial Dual Cultivation บทที่ 338 วิญญาณดวงใหม่ของกระบี่เงาจันทร์
ตอนที่ 338 วิญญาณดวงใหม่ของกระบี่เงาจันทร์
หญิงสาวชุดขาวคิ้วขมวดขณะที่นางคือกกระบี่เงาจันทร์เอาไว้ เสียงเด่นชัดที่ไร้อารมณ์ดังขึ้น “เจ้าเป็นใคร? เจ้าเข้ามาถึงจิตวิญญาณกระบี่ของกระบี่เงาจันทร์ได้อย่างไร?”
เซียวเฉินรู้กสึกประหลาดใจ เขากล่าว “เจ้าถามว่าข้าคือใคร? ข้าก็อาจจะถามเหมือนกันว่าเจ้าเป็นใคร! ข้าเป็นเจ้าของกระบี่เงาจันทร์เล่มนี้ ข้ามีคุณสมบัติเพียงพอหรือไม่ที่จะปลุกวิญญาณกระบี่ของมันขึ้นมา?”
ใบหน้าอันงดงามของหญิงสาวชุดขาวยังคงไร้อารมณ์ นางถือกระบี่เงาจันทร์เอาในมือเป็นแนวราบไขว้กับหน้าอกของนาง เสียงอันว่างเปล่าของนางดังขึ้นอีกครั้ง “น่าขันข้าคือเงาจันทร์ทําไมขาไม่รู้ว่ามีเจ้านายตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่ว่าเจ้าจะมีคุณสมบัติหรือไม่จะถูกตัดสินโดยกระบี่เล่มนี้”
เซียวเฉินสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย สถานการณ์แตกต่างจากที่เขาคาดการณ์เอาไว้ ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร,หญิงสาวตรงหน้าของเขากลายเป็นวิญญาณกระบีของกระบ้าเงาจันทร์นอกจากนั้น,นางยังไม่รู้จักเขาในฐานะเจ้านายของนาง
เซี่ยวเฉินจับกระบี่ในมือของเขาแน่นและสีหน้าของเขาสงบ เขากล่าวด้วยเสียงมัว “ตามที่เจ้าต้องการ ข้าจะใช้กระบี่ในมือทําให้เจ้ารู้จักข้า”
หญิงสาวชุดขาวยังคงไร้สีหน้าเสียงอันว่างเปล่าของนางกล่าวอย่างเฉยเมย “เช่นนั้นให้ข้าได้เห็นกระบี่ของเจ้า,ว่ามันจะสามารถทําให้ข้ายอมจํานนได้หรือไม่”
“ฟุฟว!”
หญิงสาวชุดขาววูบไหวไปในอากาศราวกับว่านางทะลวงผ่านอากาศมาปรากฏตัวที่ด้านซ้ายของเซี่ยวเฉินในทันที
“หวาขยแพรวพราว!”
กระบี่เงาจันทร์ในมือของนางปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าสีม่วง กระบี่ฉีสีม่วงที่บรรจุสภาวะแห่งสายฟ้าบินตรงมาที่เซี่ยวเฉิน
เซี่ยวเฉินตกตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าวิญญาณกระบี่ตนนี้จะรู้ทักษะกระบี่ของเขา นอกจากนั้น,ที่น่าตกตะลึงที่สุดก็คือหวาขยแพรวพราวนี้ยังบรรจุด้วยสภาวะแห่งสายฟ้า
ร่างของเซี่ยวเฉินวูบไหวไปในอากาศและเขารีบหลบไปในทิศทางของทะเลสาบหลังจากที่เท้าของเขาสัมผัสกับผิวน้ำ,เขารีบถอยกลับอย่างรวดเร็ว
ขณะที่เซี่ยวเฉินถอยหนี,พลังงานมหาศาลทําให้ทะเลสาบที่นิ่งสงบแยกออกและระเบิดขึ้นไปเป็นกําแพงน้ำสองข้าง
เมฆาอัสนี้สองกลุ่มเริ่มรวมตัวกันบนท้องฟ้ายามค่ําคืน หนึ่งเป็นของเซี่ยวเฉินและอีกหนึ่งเป็นของหญิงสาวชุดขาว
พวกเขาทั้งสองเริ่มประชันกันด้วยสภาวะแห่งสายฟ้าของพวกเขา ในตอนที่เมฆาอัสนี้ปะทะกัน,สายฟ้าแผดเสียงคารามในท้องฟ้ายามค่ําที่เงียบเชียบ เสาวารีนะเบิดพุ่งขึ้นมาจากผิวทะเลสาบ
ประกายกระแสไฟฟ้าสีม่วงนับไม่ถ้วยเคบื่อตัวไปในอากาศ
สภาวะแห่งสายฟ้าของข้าหลอมรวมกับพลังศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่อาจทําอะไรกับสภาวะของนาง!เซี่ยวเฉินตกตะลึง
“บูม!”
เมฆาอัสนี้ทั้งสองที่ฟัดเหวี่ยงซึ่งกันและกันได้สะสมพลังงานของพวกมันจนถึงขีดสุดและส่งเสียงดังขึ้นมาเสาวารีสูงหนึ่งร้อยเมตรปรากฏขึ้นบนผิวทะเลสาบ
“หวี่ขยเปลี่ยนรูปฉี!” หญิงสาวชุดขาวร้องตะโกนและกิ่งไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฎขึ้มาจากความว่างเปล่าจากนี้มันก็เปลี่ยนกลายเป็นกระบี่ฉีสีม่วงหนาแน่นหนึ่งร้อยเล่ม พวกมันทะลวงผ่านเสาวารีและมุ่งหน้าไปที่เซี่ยวเฉิน
หรูขุยเปลี่ยนรูปฉี!”
เซี่ยวเฉินรีบถอยกลับและใช้ออกมาหวี่ขุยเปลี่ยนรูปฉีออกมาเช่นกัน “ปัง! ปัง! ปัง!” พวกเขา ทั้งสองส่งกระบี่ฉออกมาปะทะกันในอากาศ
เสียงระเบิดรุนแรงดังขึ้นเป็นสาย พลังงานธาตุสายฟ้าที่บ้าคลั่งขยายออกไปทั่วทิศทางเหมือนกับก่อนหน้านี้,กระบวณท่าไม่อาจเหนือกว่าอีกฝ่าย
เมฆาอัสนีของหญิงสาวชุดขาวเริ่มหมุนวนอย่างรวดเร็ว ผ่าไปครู่หนึ่งมันเปลี่ยนกลายเป็นวังวนเมฆาอัสนีขนาดมหึมาเสียงกองทัพโห่ร้องดังออกมาจากภายในวังวน,ทําให้ท้องฟ้าสั้นสะเทือน
นางรู้ถึงกระบวณท่านี้เช่นกัน ใบหน้าของเซี่ยวเฉินซีดเทา กระบวณท่านี้ผสมรวมทุกกระบวณท่าในทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันเซี่ยวเฉินรู้ถึงพลังอํานาจของสายฟ้าฉับพลันคํารามนอย่างชัดเจน
เมฆาอัสนี้เหนือหัวของเซียวเฉินก็เริ่มหมุนวนเช่นกัน เมฆาอัสนีอันไร้ขอบเขตเปลี่ยนกลายเป็นวังวนกระแสไฟฟ้าขนาดมหึมากระแสพลังของทั้งสองเร่งขึ้นอย่างดุเดือด
“Rushing Thunder Roars, Ten Thousand Horses Galloping!”
พวกเขาทั้งสองร้องตะโกนในจังหวะเดียวกัน อัศวินบนหลังม้านับไม่ถ้วนควบออกมาจากวังวนกระแสไฟฟ้าเหนือหัวของพวกเขา มันราวกับพันม้าพันคนกําลังพุ่งเข้าสู่สมรภูมิพวกมันแบกพลังอานาจของสายฟ้าและระเบิดเข้าใส่กัน
อัศวินสายฟ้าของพวกเขาสู้รบกันเหนือผิวทะเลสาบ
ผ่านไปครู่หนึ่ง อัศวินสายฟ้ากว่าสองพันนายระเบิดออก,เป็นปฏิกิริยาลูกโซ่
อัศวินเหล่านี้หลอมรวมเข้ากับสภาวะแห่งสายฟ้า ทั่วทั้งทะเลสาบถูกยกลอยขึ้นไปในอากาศอย่างน้อยหนึ่งร้อยเมตรโดยพลังงานที่หลอมรวมกันจากแรงระเบิด
เซี่ยวเฉินไม่อาจหลบเลี่ยงคลื่นกระแทกขนาดมหึมา,และกระอักเลือดออกมาเต็มปากอย่างไรก็ตาม,หญิงสาวชุดขาวก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดูดีนัก ใบหน้าของนางซีดขาว
ในขณะเดียวกัน,กลับมาที่โลกแห่งความจริง,กระบี่เงาจันทร์ที่วางอยู่ด้านข้างเซียวเฉินสั่นไหวอย่างรุนแรงกระบี่ทุกเล่มในค่ายกลสั่นสะเทือนไม่หยุด
“บั้ม…!”
คลื่นพลังงานมหึมาขยายออกมาภายในลานฝึกฝน พื้นดินสั่นไหวซ้ายขวา
เซี่ยวเฉิน,ผู้ที่ร่างกายยังควอยู่ภายในค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณ, มีสีหน้าที่เจ็บปวดจากนี้ย,เขาก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก
สีหน้าของหลิวสยเพิ่งเปลี่ยน เขาถามขึ้นอย่างตกใจ “พี่! เกิดอะไรขึ้น? เย่เฉินเหมือนจะอยู่ในอันตรายพวกเราควรหยุดค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณหรือไม่?
ความกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันงดงามของหลิวหรูเยว่เช่นกัน อย่างไรก็ตาม,ความแน่วแน่ปรากฎขึ้นในดวงตาของนางพร้อมกับส่ายหัว “ไม่จําเป็น,ข้าเชื่อว่าเยู่เฉินจะสามารถต้านทานเอาไว้ได้กระบี่เงาจันทร์กําลังเริ่มแสดงการเปลี่ยนแปลง หากพวกเรายอมแพ้ไปในตอนนี้,ทั้งหมดก็จะสูญเปล่า”
“ฆ่า!”
จิตวิญญาณต่อสู้ของเซียวเฉินถูกจุดขึ้นมา เขาไม่เชื่อว่าเขาจะแพ้ให้กับวิญญาณอาวุธจากกระบี่เงาจันทร์
พวกเขาทั้งสองกระโดดผ่านน้ำที่กาลังลอยขึ้น ร่างของทั้งสองเข้าปะทะกัน,ร่างหนึ่งสีขาวและอีกร่างหนึ่งสีม่วง
“เครั้ง! เครั้ง! เครั้ง!”
กระบี่แสงกระพริบไหวภายใต้จันทร์เต็มดวงและสายลมรุนแรงพัดผ่าน พวกเขาทั้งสองรวดเร็วเทียบเท่ากันภายในพริบตา,พวกเขาแลกเปลี่ยนกันกว่าหนึ่งร้อยกระบวณท่าในอากาศในตอนที่อาวุธของพวกเขาปะทะกัน,เกิดประกายนับไม่ถ้วน
แม้ว่าแม่ว่าหญิงสาวชุดขาวจะไม่สามารถใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวเฉพาะตัวอย่างมังกรฟ้าเมฆาทะยาน,แต่นางก็มีทักษะเคลื่อนไหวที่ไม่อาจคาดเดาแท้จริง,มันดูเหมือนนางจะเหนือกว่าเซี่ยวเฉินเล็กน้อย
เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง,ข้าไม่อาจยื้อต่อไปเช่นนี้ ปราณของนางดูเหมือนไม่มีวันเหือดแห้งนางรู้ทุกทักษะต่อสู้ที่ข้าม,มันยากที่จะมีความได้เปรียบเหนือกว่านาง
หากข้ายังยืดเยื้อต่อไป,ข้าจะหมดสิ้นพลังปราณและถูกนางล้มลงได้ไม่ช้าก็เร็วข้าต้องคิดหาทางอื่น
“ปัง!”
คมกระบี่ของเซี่ยวเฉินเรืองแสงกระบี่เจิดจ้า กระจู่โจมที่หญิงสาวชุดขาวส่งออกมาถูกผลักกลับหลังจากนัย,เขารีบหมุนตัวตีลังกา
เซียวเฉินใช้ออกมามังกรฟ้าเมฆาทะยานจนถึงขีดสุดของมัน ภายในพริบตา,เขาสร้างระยะห่างหลายร้อยเมตรระหว่างทั้งสองคน
จากนั้น,เซียวเฉินดึงผ้าคาดหัวสีฟ้าบนหน้าผากของเขาออก เครื่องหมายบัลลังก์สีแดงระหว่างคิวของเขาเผยออกมา มันมองดูมีเสน่ห์และงดงาม,แดงงมงามยิ่งกว่าสีเลือดมันทําให้ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเขามีเสน่ห์ชั่วร้าย
ภายในสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกของเซี่ยวเฉิน,บัลลังก์สีแดงลุกเป็นไฟ เส้นสายแสงสีแดงส่องออกมาจากภายในในที่สุดเขาก็ใช้ใบตายที่แท้จริงของเขา “สภาวะแห่งการฆ่าล้างที่มาจากบัลลังก์สีแดงนี้
แสงสีแดงวูบไหวในดวงตาของเซียวเฉิน สภาวะแห่งการฆ่าล้างค่อยๆหลอมรวมเข้าไปในกระบี่เงาจันทร์ในมือของเขา เส้นสายแสงสีแดงที่ลามไปรอบๆกระบี่ค่อยๆปรากฏขึ้น
ใบหน้าของหญิงสาวชุดขาวที่ไร้อารมณ์ในที่สุดก็เผยความตกใจออกมาเป็นครั้งแรก,นางรู้สึกถึงความหวาดกลัว
“ฟุ ฟิว!”
เซียวเฉินดีดตัวออกจากผิวน้ำอย่างรุนแรง เขาผสานสภาวะแห่งสายฟ้าของเขาเข้ากับสภาวะแห่งการฆ่าล้าง,พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับเจตนาฆ่าฟันอันไร้ขอบเขต
หญิงสาวผู้นั้นมีสีหน้าระมัดระวังขณะที่กระบี่เงาจันทร์ในมือของนางระเบิดแสงออกมานางส่งกระบี่รุ่งโรจน์ออกไปมากมาย,พยายามจะหยุดยั้งเซียวเฉิน
“สลาย!”
เซี่ยวเฉินร้องตะโกนและมีกระบี่แสงวูบไหว
สลายกระบี่ฉีอันเฉียบคมที่หญิงสาวชุดขาวส่งออกมาราวกับหักกิ่งไม้,ระเบิดมันไม่เหลือซาก
เซี่ยวเฉินบิดข้อมือและเบี่ยงตัวออกข้าง จากนั้น,เขาแทงกระบี่ของเขาตรงไปที่หน้าอกของหญิงสาวชุดข้างในมุมที่แปลกประหลาด
“เครั้ง!
หญิงสาวชุดขาวใช้กระบี่ของนางป้องกันที่หน้าอก เมื่อพลังมหาศาลซัดเข้าทาตัวกระบี่,ตัวนางถูกส่งลอยออกไป,ไถลไปกับน้ำเป็นระยะไกล
เซี่ยวเฉินไม่มีความตั้งใจจะละเว้นหญิงสาวผู้นี้หลังจากที่ชิงความได้เปรียบมาได้ เขารีบพุ่งลงไปและส่งการโจมตีทุกรูปแบบเข้าใส่นาง
“ปัง! ปัง! ปัง!”
บนผิวน้ำ,หญิงสาวชุดขาวใช้ออกทักษะต่อสู้ที่ทรงพลังหลายอย่างของเซียวเฉินอย่างไรก็ตาม,หลังจากที่เซียวเฉินได้ใช้สภาวะแห่งการฆ่าล้าง,พวกมันล้วนไร้ความหมาย:กระบวณท่าทั้งหมดพังลงอย่างง่ายดาย
แต่ละกระบวณท่าที่พังลง,หญิงสาวชุดขาวก็ถอยหนีออกไปเรื่อยๆ ร่างกายที่แต่เดิมมั่นคงของนางเริ่มกลายเป็นไม่ชัดเจน,ให้ความรู้สึกว่าเป็นภาพลวงตา
พวกเขาได้มาถึงจุดสิ้นสุดของการต่อสู้แล้ว หากหญิงสาวชุดขาวส่งหลากหลายกระยวณท่าออกมา,นางต้องพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ให้กับเซี่ยวเฉิน แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการต่อสู้จะสิ้นสุดลงแล้ว,นางก็ไม่ยอมจํานนต่อเซี่ยวเฉินนางกลับทําทุกอย่างเพื่อต่อต้านกระบวณท่าของเซี่ยวเฉิน
เซี่ยวเฉินหมดความอดทนเขาไม่คิดที่จะยืดเยื้อการต่อสู้ออกไปมากกว่านี้ เขาเพียงต้องการกระบี่เงาจันทร์ในมือของหญิงสาวและปลุกอ่าวเจียวขึ้นมาโดยเร็ว
ขณะที่เซี่ยวเฉันกําลังจะออกกระบวณท่าปลิดชีพ,กระแสพลังอันแข็งแกร่งพุ่งออกมาจากพื้นผิวน้ำ มันทําให้ปฐพี่สันสะเทือนและไหลหลากขยายไปทั่วมิติแห่งนี้
กระแสพลังนี้สามารถกดข่มสภาวะของเซียวเฉินและหญิงสาวชุดขาวเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ในทันทีแม้กระทั่งสภาวะแห่งการฆ่าล้างของเซียวเฉินก็ได้รับผลกระทบและไม่อาจใช้ได้อย่างปกติ
วังวนขนาดมหึมาปรากฏขึ้นที่จุดกึ่งกลางของทะเลสาบ ผ่านไปครู่หนึ่ง,เสาน้ำขนาดใหญ่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
เสาน้ำนีสงมากกว่าห้าร้อยเมตร คลื่นกระเซ็นที่เกอดขึ้นราวกับฝนที่โปรยลงมาบนผิวทะเลสาบ
มีร่างที่งดงามที่กําลังยืนอยู่บนยอดของเสา นั้นคืออ่าวเจียว,ผู้ที่ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว
อ่าวเจียวค่อยๆลอนลงมาจากยอดของเสาวารี เสียงของนางดังขึ้นจากเบื้องบน “เซี่ยวเฉิน,อย่าได้สังหารนาง”
อ่าวเจียวกล่าวออกมาเช่นนี้,แน่นอน,เขาจะไม่สังหารหญิงสาวนางนี้ เขาถอนกระบี่ของเขาและถอยกลับจากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่อ่าวเจียว,ผู้ที่ค่อยๆลอยดิ่งลงมาเขากล่าว“อ่าวเจียว,เกิดอะไรขึ้น?ทําไมถึงมีสองวิญญาณอาวุธอยู่ในกระบี่เงาจันทร์?”
อ่าวเจียวกําลังจะได้กล่าวบางอย่างในตอนที่นางมองเห็นเครื่องหมายบัลลังก์สีแดงบนหน้า ผากของเซียวเฉินสีหน้าของนางพลันเปลี่ยนในทันทีนางกล่าว“รอเดียวก่อน,ข้าจะอธิบายราย ละเอียดให้เจ้าฟังตอนนั้น,เจ้าต้องอธิบายถึงบัลลังก์ฆ่าล้างบนหน้าผากของเจ้าด้วยเช่นกัน”
“ชิ!”
หลังจากที่อ่าวเจียวกล่าวจบ, นางมองไปที่หญิงสาวชุดขาวและยื่นมือชี้ไปที่นางเซี่ยวเฉินเห็นเพียงว่าหญิงสาวกลายเป็นยิ่งเลือนลาง
กระบี่เงาจันทร์ร่วงลงจากมือของหญิงสาวและร่างของหญิงสาวที่พล่ามัวก็ค่อยๆจมลึกลงไป ในทะเลสาบ
“ซิว!”
อ่าวเจียวยื่นมือของนางออกไปคว้าเอากระบี่เงาจันทรเอาไว้ “บูม!” เสาวาที่พลุ่งพล่านจมกลับลงไปในทันทีระลอกคลื่นกระจายบนผิวทะเลสาบอยู่นานก่อนที่จะค่อยๆสงบลง
“พวกเราจะคุยกันหลังจากที่ไปถึงฝั่ง” หลังจากที่อ่าวเจียวกล่าวจบ,นางดีดตัวออกจากผิวน้ำและมุ่งหน้าไปที่ชายฝั่งทะเลสาบ
เมื่อเซียวเฉินได้ยินคําของอ่าวเจียว,เขาก็ไม่ได้พูดอะไรและรีบติดตามนางไป พวกเขาทั้งสอง มุ่งหน้าไปที่ก้อนหินด้านข้างทะเลสาบและมองหาจุดที่สะอาดเพื่อนั่งลง
ผิวทะเลสาบเรื่องใส,สะท้อนแสงของเงาจันทร์ ระลอกคลื่นจากเมื่อก่อนหน้านี้สงบลงแล้ว ภายใต้แสงจันทร์,มันเงียบสงบ
อ่าวเจียวยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าว “เอาล่ะ,เจ้านายหน้าโง่,ตอนนี้เจ้าถามคําถามที่เจ้ามี”
เซี่ยวเฉินยิ้มนุ่มๆ อ่าวเจียวยังเป็นเหมือนเดิมที่เคยเป็น,ไม่เคารพข้าแม้แต่น้อยไม่ใยดีกับเจ้านายที่อยู่ตรงหน้าของนาง
อย่างไรก็ตาม,ทัศนคติของนางง่ายที่จะทําใจรับได้มากกว่าหญิงสาวชุดขางเมื่อก่อนหน้านี้เสียงของนางเหมือนกับเด็กที่ถูกตามใจ
เซี่ยวเฉินจัดระเบียบความคิดของเขาครู่หนึ่งก่อนที่จะถามขึ้น “เริ่มจากหญิงสาวคนเมื่อครู่นี้เป็นอันดับแรกนางกลายมาเป็นวิญญาณอาวุธของกระบี่เงาจันทร์ได้อย่างไร?นอกจากนั้น,ท่าไมนางถึงไม่รู้จักข้าในฐานะเจ้านายของนาง?”
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivation บทที่ 338 วิญญาณดวงใหม่ของกระบี่เงาจันทร์
ตอนที่ 338 วิญญาณดวงใหม่ของกระบี่เงาจันทร์
หญิงสาวชุดขาวคิ้วขมวดขณะที่นางคือกกระบี่เงาจันทร์เอาไว้ เสียงเด่นชัดที่ไร้อารมณ์ดังขึ้น “เจ้าเป็นใคร? เจ้าเข้ามาถึงจิตวิญญาณกระบี่ของกระบี่เงาจันทร์ได้อย่างไร?”
เซียวเฉินรู้กสึกประหลาดใจ เขากล่าว “เจ้าถามว่าข้าคือใคร? ข้าก็อาจจะถามเหมือนกันว่าเจ้าเป็นใคร! ข้าเป็นเจ้าของกระบี่เงาจันทร์เล่มนี้ ข้ามีคุณสมบัติเพียงพอหรือไม่ที่จะปลุกวิญญาณกระบี่ของมันขึ้นมา?”
ใบหน้าอันงดงามของหญิงสาวชุดขาวยังคงไร้อารมณ์ นางถือกระบี่เงาจันทร์เอาในมือเป็นแนวราบไขว้กับหน้าอกของนาง เสียงอันว่างเปล่าของนางดังขึ้นอีกครั้ง “น่าขันข้าคือเงาจันทร์ทําไมขาไม่รู้ว่ามีเจ้านายตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่ว่าเจ้าจะมีคุณสมบัติหรือไม่จะถูกตัดสินโดยกระบี่เล่มนี้”
เซียวเฉินสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย สถานการณ์แตกต่างจากที่เขาคาดการณ์เอาไว้ ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร,หญิงสาวตรงหน้าของเขากลายเป็นวิญญาณกระบีของกระบ้าเงาจันทร์นอกจากนั้น,นางยังไม่รู้จักเขาในฐานะเจ้านายของนาง
เซี่ยวเฉินจับกระบี่ในมือของเขาแน่นและสีหน้าของเขาสงบ เขากล่าวด้วยเสียงมัว “ตามที่เจ้าต้องการ ข้าจะใช้กระบี่ในมือทําให้เจ้ารู้จักข้า”
หญิงสาวชุดขาวยังคงไร้สีหน้าเสียงอันว่างเปล่าของนางกล่าวอย่างเฉยเมย “เช่นนั้นให้ข้าได้เห็นกระบี่ของเจ้า,ว่ามันจะสามารถทําให้ข้ายอมจํานนได้หรือไม่”
“ฟุฟว!”
หญิงสาวชุดขาววูบไหวไปในอากาศราวกับว่านางทะลวงผ่านอากาศมาปรากฏตัวที่ด้านซ้ายของเซี่ยวเฉินในทันที
“หวาขยแพรวพราว!”
กระบี่เงาจันทร์ในมือของนางปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าสีม่วง กระบี่ฉีสีม่วงที่บรรจุสภาวะแห่งสายฟ้าบินตรงมาที่เซี่ยวเฉิน
เซี่ยวเฉินตกตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าวิญญาณกระบี่ตนนี้จะรู้ทักษะกระบี่ของเขา นอกจากนั้น,ที่น่าตกตะลึงที่สุดก็คือหวาขยแพรวพราวนี้ยังบรรจุด้วยสภาวะแห่งสายฟ้า
ร่างของเซี่ยวเฉินวูบไหวไปในอากาศและเขารีบหลบไปในทิศทางของทะเลสาบหลังจากที่เท้าของเขาสัมผัสกับผิวน้ำ,เขารีบถอยกลับอย่างรวดเร็ว
ขณะที่เซี่ยวเฉินถอยหนี,พลังงานมหาศาลทําให้ทะเลสาบที่นิ่งสงบแยกออกและระเบิดขึ้นไปเป็นกําแพงน้ำสองข้าง
เมฆาอัสนี้สองกลุ่มเริ่มรวมตัวกันบนท้องฟ้ายามค่ําคืน หนึ่งเป็นของเซี่ยวเฉินและอีกหนึ่งเป็นของหญิงสาวชุดขาว
พวกเขาทั้งสองเริ่มประชันกันด้วยสภาวะแห่งสายฟ้าของพวกเขา ในตอนที่เมฆาอัสนี้ปะทะกัน,สายฟ้าแผดเสียงคารามในท้องฟ้ายามค่ําที่เงียบเชียบ เสาวารีนะเบิดพุ่งขึ้นมาจากผิวทะเลสาบ
ประกายกระแสไฟฟ้าสีม่วงนับไม่ถ้วยเคบื่อตัวไปในอากาศ
สภาวะแห่งสายฟ้าของข้าหลอมรวมกับพลังศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่อาจทําอะไรกับสภาวะของนาง!เซี่ยวเฉินตกตะลึง
“บูม!”
เมฆาอัสนี้ทั้งสองที่ฟัดเหวี่ยงซึ่งกันและกันได้สะสมพลังงานของพวกมันจนถึงขีดสุดและส่งเสียงดังขึ้นมาเสาวารีสูงหนึ่งร้อยเมตรปรากฏขึ้นบนผิวทะเลสาบ
“หวี่ขยเปลี่ยนรูปฉี!” หญิงสาวชุดขาวร้องตะโกนและกิ่งไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฎขึ้มาจากความว่างเปล่าจากนี้มันก็เปลี่ยนกลายเป็นกระบี่ฉีสีม่วงหนาแน่นหนึ่งร้อยเล่ม พวกมันทะลวงผ่านเสาวารีและมุ่งหน้าไปที่เซี่ยวเฉิน
หรูขุยเปลี่ยนรูปฉี!”
เซี่ยวเฉินรีบถอยกลับและใช้ออกมาหวี่ขุยเปลี่ยนรูปฉีออกมาเช่นกัน “ปัง! ปัง! ปัง!” พวกเขา ทั้งสองส่งกระบี่ฉออกมาปะทะกันในอากาศ
เสียงระเบิดรุนแรงดังขึ้นเป็นสาย พลังงานธาตุสายฟ้าที่บ้าคลั่งขยายออกไปทั่วทิศทางเหมือนกับก่อนหน้านี้,กระบวณท่าไม่อาจเหนือกว่าอีกฝ่าย
เมฆาอัสนีของหญิงสาวชุดขาวเริ่มหมุนวนอย่างรวดเร็ว ผ่าไปครู่หนึ่งมันเปลี่ยนกลายเป็นวังวนเมฆาอัสนีขนาดมหึมาเสียงกองทัพโห่ร้องดังออกมาจากภายในวังวน,ทําให้ท้องฟ้าสั้นสะเทือน
นางรู้ถึงกระบวณท่านี้เช่นกัน ใบหน้าของเซี่ยวเฉินซีดเทา กระบวณท่านี้ผสมรวมทุกกระบวณท่าในทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันเซี่ยวเฉินรู้ถึงพลังอํานาจของสายฟ้าฉับพลันคํารามนอย่างชัดเจน
เมฆาอัสนี้เหนือหัวของเซียวเฉินก็เริ่มหมุนวนเช่นกัน เมฆาอัสนีอันไร้ขอบเขตเปลี่ยนกลายเป็นวังวนกระแสไฟฟ้าขนาดมหึมากระแสพลังของทั้งสองเร่งขึ้นอย่างดุเดือด
“Rushing Thunder Roars, Ten Thousand Horses Galloping!”
พวกเขาทั้งสองร้องตะโกนในจังหวะเดียวกัน อัศวินบนหลังม้านับไม่ถ้วนควบออกมาจากวังวนกระแสไฟฟ้าเหนือหัวของพวกเขา มันราวกับพันม้าพันคนกําลังพุ่งเข้าสู่สมรภูมิพวกมันแบกพลังอานาจของสายฟ้าและระเบิดเข้าใส่กัน
อัศวินสายฟ้าของพวกเขาสู้รบกันเหนือผิวทะเลสาบ
ผ่านไปครู่หนึ่ง อัศวินสายฟ้ากว่าสองพันนายระเบิดออก,เป็นปฏิกิริยาลูกโซ่
อัศวินเหล่านี้หลอมรวมเข้ากับสภาวะแห่งสายฟ้า ทั่วทั้งทะเลสาบถูกยกลอยขึ้นไปในอากาศอย่างน้อยหนึ่งร้อยเมตรโดยพลังงานที่หลอมรวมกันจากแรงระเบิด
เซี่ยวเฉินไม่อาจหลบเลี่ยงคลื่นกระแทกขนาดมหึมา,และกระอักเลือดออกมาเต็มปากอย่างไรก็ตาม,หญิงสาวชุดขาวก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดูดีนัก ใบหน้าของนางซีดขาว
ในขณะเดียวกัน,กลับมาที่โลกแห่งความจริง,กระบี่เงาจันทร์ที่วางอยู่ด้านข้างเซียวเฉินสั่นไหวอย่างรุนแรงกระบี่ทุกเล่มในค่ายกลสั่นสะเทือนไม่หยุด
“บั้ม…!”
คลื่นพลังงานมหึมาขยายออกมาภายในลานฝึกฝน พื้นดินสั่นไหวซ้ายขวา
เซี่ยวเฉิน,ผู้ที่ร่างกายยังควอยู่ภายในค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณ, มีสีหน้าที่เจ็บปวดจากนี้ย,เขาก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก
สีหน้าของหลิวสยเพิ่งเปลี่ยน เขาถามขึ้นอย่างตกใจ “พี่! เกิดอะไรขึ้น? เย่เฉินเหมือนจะอยู่ในอันตรายพวกเราควรหยุดค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณหรือไม่?
ความกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันงดงามของหลิวหรูเยว่เช่นกัน อย่างไรก็ตาม,ความแน่วแน่ปรากฎขึ้นในดวงตาของนางพร้อมกับส่ายหัว “ไม่จําเป็น,ข้าเชื่อว่าเยู่เฉินจะสามารถต้านทานเอาไว้ได้กระบี่เงาจันทร์กําลังเริ่มแสดงการเปลี่ยนแปลง หากพวกเรายอมแพ้ไปในตอนนี้,ทั้งหมดก็จะสูญเปล่า”
“ฆ่า!”
จิตวิญญาณต่อสู้ของเซียวเฉินถูกจุดขึ้นมา เขาไม่เชื่อว่าเขาจะแพ้ให้กับวิญญาณอาวุธจากกระบี่เงาจันทร์
พวกเขาทั้งสองกระโดดผ่านน้ำที่กาลังลอยขึ้น ร่างของทั้งสองเข้าปะทะกัน,ร่างหนึ่งสีขาวและอีกร่างหนึ่งสีม่วง
“เครั้ง! เครั้ง! เครั้ง!”
กระบี่แสงกระพริบไหวภายใต้จันทร์เต็มดวงและสายลมรุนแรงพัดผ่าน พวกเขาทั้งสองรวดเร็วเทียบเท่ากันภายในพริบตา,พวกเขาแลกเปลี่ยนกันกว่าหนึ่งร้อยกระบวณท่าในอากาศในตอนที่อาวุธของพวกเขาปะทะกัน,เกิดประกายนับไม่ถ้วน
แม้ว่าแม่ว่าหญิงสาวชุดขาวจะไม่สามารถใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวเฉพาะตัวอย่างมังกรฟ้าเมฆาทะยาน,แต่นางก็มีทักษะเคลื่อนไหวที่ไม่อาจคาดเดาแท้จริง,มันดูเหมือนนางจะเหนือกว่าเซี่ยวเฉินเล็กน้อย
เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง,ข้าไม่อาจยื้อต่อไปเช่นนี้ ปราณของนางดูเหมือนไม่มีวันเหือดแห้งนางรู้ทุกทักษะต่อสู้ที่ข้าม,มันยากที่จะมีความได้เปรียบเหนือกว่านาง
หากข้ายังยืดเยื้อต่อไป,ข้าจะหมดสิ้นพลังปราณและถูกนางล้มลงได้ไม่ช้าก็เร็วข้าต้องคิดหาทางอื่น
“ปัง!”
คมกระบี่ของเซี่ยวเฉินเรืองแสงกระบี่เจิดจ้า กระจู่โจมที่หญิงสาวชุดขาวส่งออกมาถูกผลักกลับหลังจากนัย,เขารีบหมุนตัวตีลังกา
เซียวเฉินใช้ออกมามังกรฟ้าเมฆาทะยานจนถึงขีดสุดของมัน ภายในพริบตา,เขาสร้างระยะห่างหลายร้อยเมตรระหว่างทั้งสองคน
จากนั้น,เซียวเฉินดึงผ้าคาดหัวสีฟ้าบนหน้าผากของเขาออก เครื่องหมายบัลลังก์สีแดงระหว่างคิวของเขาเผยออกมา มันมองดูมีเสน่ห์และงดงาม,แดงงมงามยิ่งกว่าสีเลือดมันทําให้ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเขามีเสน่ห์ชั่วร้าย
ภายในสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกของเซี่ยวเฉิน,บัลลังก์สีแดงลุกเป็นไฟ เส้นสายแสงสีแดงส่องออกมาจากภายในในที่สุดเขาก็ใช้ใบตายที่แท้จริงของเขา “สภาวะแห่งการฆ่าล้างที่มาจากบัลลังก์สีแดงนี้
แสงสีแดงวูบไหวในดวงตาของเซียวเฉิน สภาวะแห่งการฆ่าล้างค่อยๆหลอมรวมเข้าไปในกระบี่เงาจันทร์ในมือของเขา เส้นสายแสงสีแดงที่ลามไปรอบๆกระบี่ค่อยๆปรากฏขึ้น
ใบหน้าของหญิงสาวชุดขาวที่ไร้อารมณ์ในที่สุดก็เผยความตกใจออกมาเป็นครั้งแรก,นางรู้สึกถึงความหวาดกลัว
“ฟุ ฟิว!”
เซียวเฉินดีดตัวออกจากผิวน้ำอย่างรุนแรง เขาผสานสภาวะแห่งสายฟ้าของเขาเข้ากับสภาวะแห่งการฆ่าล้าง,พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับเจตนาฆ่าฟันอันไร้ขอบเขต
หญิงสาวผู้นั้นมีสีหน้าระมัดระวังขณะที่กระบี่เงาจันทร์ในมือของนางระเบิดแสงออกมานางส่งกระบี่รุ่งโรจน์ออกไปมากมาย,พยายามจะหยุดยั้งเซียวเฉิน
“สลาย!”
เซี่ยวเฉินร้องตะโกนและมีกระบี่แสงวูบไหว
สลายกระบี่ฉีอันเฉียบคมที่หญิงสาวชุดขาวส่งออกมาราวกับหักกิ่งไม้,ระเบิดมันไม่เหลือซาก
เซี่ยวเฉินบิดข้อมือและเบี่ยงตัวออกข้าง จากนั้น,เขาแทงกระบี่ของเขาตรงไปที่หน้าอกของหญิงสาวชุดข้างในมุมที่แปลกประหลาด
“เครั้ง!
หญิงสาวชุดขาวใช้กระบี่ของนางป้องกันที่หน้าอก เมื่อพลังมหาศาลซัดเข้าทาตัวกระบี่,ตัวนางถูกส่งลอยออกไป,ไถลไปกับน้ำเป็นระยะไกล
เซี่ยวเฉินไม่มีความตั้งใจจะละเว้นหญิงสาวผู้นี้หลังจากที่ชิงความได้เปรียบมาได้ เขารีบพุ่งลงไปและส่งการโจมตีทุกรูปแบบเข้าใส่นาง
“ปัง! ปัง! ปัง!”
บนผิวน้ำ,หญิงสาวชุดขาวใช้ออกทักษะต่อสู้ที่ทรงพลังหลายอย่างของเซียวเฉินอย่างไรก็ตาม,หลังจากที่เซียวเฉินได้ใช้สภาวะแห่งการฆ่าล้าง,พวกมันล้วนไร้ความหมาย:กระบวณท่าทั้งหมดพังลงอย่างง่ายดาย
แต่ละกระบวณท่าที่พังลง,หญิงสาวชุดขาวก็ถอยหนีออกไปเรื่อยๆ ร่างกายที่แต่เดิมมั่นคงของนางเริ่มกลายเป็นไม่ชัดเจน,ให้ความรู้สึกว่าเป็นภาพลวงตา
พวกเขาได้มาถึงจุดสิ้นสุดของการต่อสู้แล้ว หากหญิงสาวชุดขาวส่งหลากหลายกระยวณท่าออกมา,นางต้องพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ให้กับเซี่ยวเฉิน แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการต่อสู้จะสิ้นสุดลงแล้ว,นางก็ไม่ยอมจํานนต่อเซี่ยวเฉินนางกลับทําทุกอย่างเพื่อต่อต้านกระบวณท่าของเซี่ยวเฉิน
เซี่ยวเฉินหมดความอดทนเขาไม่คิดที่จะยืดเยื้อการต่อสู้ออกไปมากกว่านี้ เขาเพียงต้องการกระบี่เงาจันทร์ในมือของหญิงสาวและปลุกอ่าวเจียวขึ้นมาโดยเร็ว
ขณะที่เซี่ยวเฉันกําลังจะออกกระบวณท่าปลิดชีพ,กระแสพลังอันแข็งแกร่งพุ่งออกมาจากพื้นผิวน้ำ มันทําให้ปฐพี่สันสะเทือนและไหลหลากขยายไปทั่วมิติแห่งนี้
กระแสพลังนี้สามารถกดข่มสภาวะของเซียวเฉินและหญิงสาวชุดขาวเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ในทันทีแม้กระทั่งสภาวะแห่งการฆ่าล้างของเซียวเฉินก็ได้รับผลกระทบและไม่อาจใช้ได้อย่างปกติ
วังวนขนาดมหึมาปรากฏขึ้นที่จุดกึ่งกลางของทะเลสาบ ผ่านไปครู่หนึ่ง,เสาน้ำขนาดใหญ่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
เสาน้ำนีสงมากกว่าห้าร้อยเมตร คลื่นกระเซ็นที่เกอดขึ้นราวกับฝนที่โปรยลงมาบนผิวทะเลสาบ
มีร่างที่งดงามที่กําลังยืนอยู่บนยอดของเสา นั้นคืออ่าวเจียว,ผู้ที่ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว
อ่าวเจียวค่อยๆลอนลงมาจากยอดของเสาวารี เสียงของนางดังขึ้นจากเบื้องบน “เซี่ยวเฉิน,อย่าได้สังหารนาง”
อ่าวเจียวกล่าวออกมาเช่นนี้,แน่นอน,เขาจะไม่สังหารหญิงสาวนางนี้ เขาถอนกระบี่ของเขาและถอยกลับจากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่อ่าวเจียว,ผู้ที่ค่อยๆลอยดิ่งลงมาเขากล่าว“อ่าวเจียว,เกิดอะไรขึ้น?ทําไมถึงมีสองวิญญาณอาวุธอยู่ในกระบี่เงาจันทร์?”
อ่าวเจียวกําลังจะได้กล่าวบางอย่างในตอนที่นางมองเห็นเครื่องหมายบัลลังก์สีแดงบนหน้า ผากของเซียวเฉินสีหน้าของนางพลันเปลี่ยนในทันทีนางกล่าว“รอเดียวก่อน,ข้าจะอธิบายราย ละเอียดให้เจ้าฟังตอนนั้น,เจ้าต้องอธิบายถึงบัลลังก์ฆ่าล้างบนหน้าผากของเจ้าด้วยเช่นกัน”
“ชิ!”
หลังจากที่อ่าวเจียวกล่าวจบ, นางมองไปที่หญิงสาวชุดขาวและยื่นมือชี้ไปที่นางเซี่ยวเฉินเห็นเพียงว่าหญิงสาวกลายเป็นยิ่งเลือนลาง
กระบี่เงาจันทร์ร่วงลงจากมือของหญิงสาวและร่างของหญิงสาวที่พล่ามัวก็ค่อยๆจมลึกลงไป ในทะเลสาบ
“ซิว!”
อ่าวเจียวยื่นมือของนางออกไปคว้าเอากระบี่เงาจันทรเอาไว้ “บูม!” เสาวาที่พลุ่งพล่านจมกลับลงไปในทันทีระลอกคลื่นกระจายบนผิวทะเลสาบอยู่นานก่อนที่จะค่อยๆสงบลง
“พวกเราจะคุยกันหลังจากที่ไปถึงฝั่ง” หลังจากที่อ่าวเจียวกล่าวจบ,นางดีดตัวออกจากผิวน้ำและมุ่งหน้าไปที่ชายฝั่งทะเลสาบ
เมื่อเซียวเฉินได้ยินคําของอ่าวเจียว,เขาก็ไม่ได้พูดอะไรและรีบติดตามนางไป พวกเขาทั้งสอง มุ่งหน้าไปที่ก้อนหินด้านข้างทะเลสาบและมองหาจุดที่สะอาดเพื่อนั่งลง
ผิวทะเลสาบเรื่องใส,สะท้อนแสงของเงาจันทร์ ระลอกคลื่นจากเมื่อก่อนหน้านี้สงบลงแล้ว ภายใต้แสงจันทร์,มันเงียบสงบ
อ่าวเจียวยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าว “เอาล่ะ,เจ้านายหน้าโง่,ตอนนี้เจ้าถามคําถามที่เจ้ามี”
เซี่ยวเฉินยิ้มนุ่มๆ อ่าวเจียวยังเป็นเหมือนเดิมที่เคยเป็น,ไม่เคารพข้าแม้แต่น้อยไม่ใยดีกับเจ้านายที่อยู่ตรงหน้าของนาง
อย่างไรก็ตาม,ทัศนคติของนางง่ายที่จะทําใจรับได้มากกว่าหญิงสาวชุดขางเมื่อก่อนหน้านี้เสียงของนางเหมือนกับเด็กที่ถูกตามใจ
เซี่ยวเฉินจัดระเบียบความคิดของเขาครู่หนึ่งก่อนที่จะถามขึ้น “เริ่มจากหญิงสาวคนเมื่อครู่นี้เป็นอันดับแรกนางกลายมาเป็นวิญญาณอาวุธของกระบี่เงาจันทร์ได้อย่างไร?นอกจากนั้น,ท่าไมนางถึงไม่รู้จักข้าในฐานะเจ้านายของนาง?”
Comments