Immortal and Martial Dual Cultivation บทที่ 382 งูเจ็ดเศียรที่ดุร้าย
ตอนที่ 382 งูเจ็ดเศียรที่ดุร้าย
การนิ่งสงบอยู่ในทางตันเช่นนี้ไม่ช่วยอะไร,เซี่ยวเฉินครุ่นคิด คนเหล่านี้มีไหวพริบและจะไม่ลงมือจนกว่าจะมีใครสักคนเปิดก่อน ข้าต้องคิดหาทาง
“ป่ายหลี่ซี,ไม่ใช่ว่าเจ้าพูดจาห้าวหาญอยู่เมื่อครู่? ทําไมตอนนี้กลายเป็นใบ้?” มีขอบเขตกษัตริย์ขั้นสูงผู้หนึ่งเยาเย้ยเขา
ป่ายหลี่ซีหัวเราะและกล่าว “เจ้าคิดว่าข้าดูหยาบกร้านแล้วต้องโง่เขลา? นักเชือดพันศพ,หวังเหอ,หากเจ้ากล้า,ทําไมเจ้าไม่เข้าไปก่อน? ขาสัญญาว่าจะช่วยเหลือเจ้า”
ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดที่มีอยู่น้อยนิดระวังตัวมากกว่าที่ทุกคนจินตนาการเอาไว้ พวกเขาไม่ขยับ หากไม่ได้รับประโยชน์ เห็นชัดว่าพวกเราร้อนรน,แต่พวกเขาก็ปฏิเสธที่จะเคลื่อนไหว
“ซิ่ว!”
จังหวะนั้นเอง,มีลูกศรบินมาจากเส้นขอบฟ้า ลูกศรทะลวงผ่านอากาศส่งเสียงโซนิคบูมออกมา ขณะที่มุ่งหน้าไปหางเจ็ดเศียร
ลูกศรแบกพลังอันแข็งแกร่งพร้อมกับซัดไปที่คอของงูเจ็ดเศียร,เกิดเป็นรูเลือดไหล
เลือดสีดําไหลทะลักออกมา พลังของลูกศรนี่แข็งแกร่งทะลวงผ่านการป้องกันของงเจ็ดเศียรไปได้
“ซิ่ว! ซิ่ว! ซิ่ว!”
ลูกศรอีกสามดอกบินผ่านท้องฟ้าท่ากลางฝูงชนที่ตกตะลึง พวกมันซัดเข้าถึงเจ็ดเศียรทิ้งไว้ให้อีกสามบาดแผล
“บึ้ม…!”
งูเจ็ดเศียรโกรธแค้น มันรีบพุ่งไปในทิศทางที่ลูกศรถูกยิงมาอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม, นักธนูคนนั้นซ่อนตัวอยู่หลังฝูงชน งูเจ็ดเศียรไม่อาจหลบเลี่ยงฝูงชนไปได้ นอกจากนั้น,คนกลุ่มแรกที่อยู่ในทางของมันก็คือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดไม่อาจตอบสนองได้ทัน ร่างมหึมาของงูเจ็ดเศียรทุบลงมา,บังคับให้พวกเขาต้องเคลื่อนไหวลงมือ
“ปัง!ปังปัง!”
มีเสียงคํารามศึกดังขึ้มาจากฝูงชน ขณะที่งเจ็ดเศียรเคลื่อนตัวผ่านฝูงชน,มันโจมตีกราดไปทั่วมีสองสามคนที่ต้องเผยพลังของพงกเขาในทันที
สายลมรุนแรงพัดเป่าฝุ่นควันถูกตบขึ้นมาในอากาศ:พื้นดินสั่นสะเทือน,และภูเขาโยกไหว ที่แห่งนี้กลายเป็นวุ่นวายขึ้นในทันที
ในตอนทั้งเจ็ดเศียรถูกโจมตี,มันลืมถึงเป้าหมายเดิมของมันไป มันเปิดปากของมันและโห่ร้อง
งเจ็ดเศียรสาดการโจมตีจากหลากหลายธาตุออกมา;มันเป็นน้ําแข็ง,ไฟ,พิษ,และอีกหลากหลายธาตุ มันพุ่งตัวเข้าไปท่ามกลางฝูงชน
ในทุกก้าวของงูตัวขนาดเท่าภูเขา,พื้นดินจะสั่นสะเทือน มันเหยียบโดนผู้บ่มเพาะพลังโชคร้ายบางคน
ขณะที่งปีศาจตนนี้หมายหัวขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดเจ็ดคน,พวกเขาไม่อาจหลบหนีจากการต่อสู้
คนเหล่านี้อยู่ใกล้กับงูเจ็ดเศียรมากที่สุด;และพวกเขายังซัดเข้าใส่งูเจ็ดเศียรหนักที่สุด เป็นธรรมดา,ทั่งปีศาจตนนี้จะโจมตีคนเหล่านี้ก่อน
ด้านหลังก้อนหินที่อยู่ไกลออกไป,เซี่ยวเฉินค่อยๆเก็บธนูล่าวิญญาณกละบไป เขายิ้มขึ้นเบาๆ และกล่าว “ดังอย่างนี้ พวกเราสามารถจัดการกับงูปีศาจตนนี้ด้วยกันก่อนที่จะเข้าไปข้างใน
เจ็ดผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดยืนหยัดอย่างขมขึ้น,และคนอื่นๆก็ค่อยๆหลบหนีออกจากสมรภูมิที่น่ากลัวนี้ ควันพิษ,เปลวเพลิงและน้ําแข็ง,กับสายลมรุนแรงเติมเต็มพื้นที่: มันไม่ใช่ที่ที่จะยืนอยู่ได้
“ปัง!”
มีผู้บ่มเพาะพลังเจ้าเล่ห์อยากที่จะใช้โอกาสนี้ลอบเข้าไปในสวนสมุนไพรและฉกฉวยผลประโยชน์
อย่างไรก็ตาม มีขวาดยักษ์บินตรงไปและสับร่างของเขาขาดครึ่ง เลือดสาดกระเซ็น;เขาไม่มีโอกาสได้ป้องกัน
“โซว!โซว!โซว!”
หลังจากนั้น มีเส้นกระบี่และดาบจีมากมายบินเข้าไปเลือนร่างของเขากลายเป็นฝุ่น
เจ็ดผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดลงมือไปพร้อมกับป้องกันงูเจ็ดเศียร
“หากมีใครกล้าเข้าไปก่อนหน้าผู้เฒ่าคนส์,ข้าจะเป็นคนแรกที่เข้าไปสับตัวมันให้ขาด!” ป่ายหลี่ซีคารามขณะที่เขาเรียกขวานกลับมา
ผู้บ่มเพาะพลังคนอื่นๆรู้สึกหวาดกลัวขึ้นในใจทันทีพวกเขาไม่กล้าที่จะตุกติก พวกเขาจะสามารถป้องกันการโจมตีของผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดเจ็ดคนพร้อมกันได้อย่างไร
ในเจ็ดคนนี้ มีอยู่สองสามคนที่อยากจะหลบออกจากการต่อสู้ แต่อย่างก็ตาม ทุกครั้งที่พวกเขาพยายามจะผละตัวออกไป,คนอื่นๆก็จะยื้อพวกเขาเอาไว้
มือกระบโลหิต,ซุนกวงฉวน,กล่าวขึ้นอย่างเฉยเมย “หยุดเล่นตุกติก หากพวกเราถอย,งเจ็ดเศียรจะทําลายคนสุดท้ายที่เหลือยู่ ก่อนอื่นร่วมมือกันสังหารงปีศาจลงแล้วค่อยว่ากัน”
“ฟุ ฟิว!”
ป่ายหลี่ซีกวาดขวานยักษ์ของเขาอย่างรุนแรง พลังบริสุทธิ์ตัดอากาศขาดครึ่ง,สลายเปลวเพลิงสีดําทั้งเจ็ดเศียรพ่นออกมา
“หากข้ารู้ว่าใครเป็นคนยิงลูกศร, หากผู้เฒ่าคนนี้ไม่ฉีกมันเป็นชิ้นๆทั้งเป็น ก็ไม่ใช่ข้าป่ายหลี่ซี มันกล้าดีอย่างไรมาเล่นกลอุบายเช่นนี้กับข้า?”
แม้ว่างเจ็ดเศียรจะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่มีเจ็ดระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดร่วมมือกัน,มันไม่อาจเทียบได้และกระแสพลังลายค่อยๆถูกสยบลง
ทั้งเจ็ดคนใช้ทักษะยุทธหลาดหลายประเภทออกมา ฝูงชนในที่สุดก็ได้เห็นชัดถึงความแข็งแกร่งของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุด
ผ่านไปสองชั่วโมง,โอกาสชนะอยู่ในมือของเจ็ดผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด ในตอนที่ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนเห็นโอกาส,พวกเขาเข้าร่วมการต่อสู้
ทั่วทั้งร่างของราชาสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 นับได้ว่าเป็นสมบัติ คนเหล่านี้เริ่มเคลื่อนไหวก็เพราะคิดจะได้รับส่วนแบ่ง
ขณะที่จินอูจีมองไปที่ทางเข้าของสวนสมุนไพร,สายตาของเขาเป็นประกาย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง,เขากล่าว “แม่นางเยว่,เข้าไปเสียตอนนี้เป็นเช่นไร?”
ด้วยฐานะและความแข็งแกร่งของจินอจี้,เขาไม่กล้าแอบย่องเข้าไปใต้จมูกของเจ็ดผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม,เยว่เฉินซีนั้นต่างออกไป
ไม่ต้องนับถึงความแข็งแกร่งของนางผู้เชี่ยวชาญทั้งเจ็ดคนก็ไม่กล้าที่จะจู่โจามนาง,เป็นเพราะด้วนฐานะของนาง
เยว่เฉินซียิ้มเบาๆ ในตอนที่นางเข้าใจความตั้งใจของจินอจี้ นางกล่าว “อย่างกังวลไป, ในเมื่อข้าสัญญาว่าจะช่วยให้เจ้าได้รับผลทองแสงไหล,ข้าก็จะทําให้ได้”
“บูม!”
เกิดเสียงดังขึ้นในตอนที่ป่ายหลี่ซีใช้ขวานของเขาตัดหนึ่งในเจ็ดหัวของงปีศาจ
หัวหายไปหนึ่งหัว,ความแข็งแกร่งของงูเจ็ดเศียรดึงลดลง ฝูงชนกดดันมันต่อไป,ตัดทิ้งไปทีละหัว
ในที่สุด,งูเจ็ดเศียรก็ล้มลงกับพื้น ในตอนที่ร่างมหึมาของมันล้มลง,พื้นดินสั่นสะเทือน
มีรอยแตกปกคลุมทั่วพื้นที่เคยราบเรียบ มีแม้กระทั่งหลุมลึกที่ไร้กัน มันยากที่จะจินตนาการว่าที่ตรงนี้เคยเป็นพื้นราบเรียบมาก่อน
ผู้บ่มเพาะพลังจํานวนมากที่ถูกซัดด้วยการโจมตีอันบ้าคลั่งของงูเจ็ดเศียรพยายามจะฟื้นฟู ถูกที่ถูกอาบด้วยหมอกพิษตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชยิ่งกว่า
สีผิวของคนที่ติดพิษกลายเป็นสีดํา,และริมฝรปากของเขาซีดเซียว พวกเขาไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะเข้าไปในสวนสมุนไพรอีกต่อไป
สําหรับผู้ที่ทําให้เกิดเรื่องทั้งหมด,เซี่ยวเฉิน,เซี่ยวเฉินมย่องเข้าฝูงชนไปอย่างเงียบๆ เขามองดูผู้บ่มเพาะพลังตัดแบ่งวัตถุดิบจากงูเจ็ดเศียร
แต่ละหัวของงูเจ็ดเศียร์มีแก่นกลางปีศาจแตกต่างธาตุกันไป แน่นอน,พวกมันถูกแบ่งกันระหว่างป่ายหลี่ซี,มือกระบโลหิต,และผู้เชี่ยวชาญที่เหลือ สิ่งที่เหลือตกถึงมือของคนอื่นๆคือผิวหนัง,เกล็ด,และมงกุฎของมัน แต่อย่างไรก็ตาม,ของเหล่านี้ก็ยังมีค่าอยู่ดี
ป่ายหลี่ซีได้แก่นกลางปีศาจธาตุปฐพีไป หลังจากที่เขาเก็บมันเข้าไปในแหวนมิติ,เขากวาดสายตาผ่านฝูงชน
ชายร่างสูงล่าสองเมตรมองดูน่ากลัวอย่างยิ่งในตอนที่เขาสวมสีหน้าดุร้าย
ป่ายหลี่ซึมองกวาดผ่านไปสองสามครั้งและในที่สุดสายตาของเขาก็จับจ้องมาที่เซียวเฉิน เขาเหลียวมองเซี่ยวเฉินอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะค่อยๆเดินเข้ามา
“หลีกทางให้ผู้เฒ่า!”
ป่ายหลี่ซีร้องคารามอย่างเกรี้ยวกราด,และฝูงบ่มเพาะพลังที่ขวางทางก็เคลื่อนหลบไปด้านข้าง,ไม่อยากที่จะไปยั่วยเขา
ป่ายหลี่ซีเดินถึงระยะห้าเมตรห่างจากเซี่ยวเฉิน เขาสูงกว่าเซี่ยวเฉินหนึ่งช่วงหัว,ดังนั้นเขาจึงต้องก้มมองลงและตะโกนขึ้น “ไอ้หนู,เจ้าเป็นคนที่ยิงลูกศรมา?”
เสียงของป่ายหลี่ซี่ลุ่มลึกและทรงพลังราวกับฟ้าคํารามที่ข้างหู ผู้บ่มเพาะพลังส่วนใหญ่ที่โดนตะโกนใส่เช่นนี้ พวกเขาจะขวัญกระเจิงและไม่กล้าต่อต้านในทันที
เซี่ยวเฉินยังคงนิ่งสงบพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ “ไม่ใช่”
ป่ายหลี่ซีกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้ายังกล้าว่าไม่ใช่?! ในตอนที่ข้ามองไปที่เจ้าเมื่อครู่นี้ สีหน้าของเจ้าผันผวน จากนั้น,เจ้าก็เก็บซ่อนมันอย่างรวดเร็ซ หากไม่ใช่เจ้ารู้สึกถึงความผิด,เจ้าจะทําเช่นนั้นทําไม?”
สีหน้าของเซี่ยวเฉินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขามองขึ้นไปโดยปราศจากความเกรงกลัวต่อป่ายหลี่ซีและกล่าวขึ้น “น่าขัน ข้าคิดอะไรอยู่แล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า? หากเจ้าไม่มีหลักฐาน,อย่ามากล่าวหาข้า!”
ใบหน้าของป่ายหลี่ซี่มืดมัว และเขากล่าวขึ้น “ข้ามั่นใจเพียงครึ่งเมื่อก่อนหน้านี้,แต่ตอนนี้ข้ามั่นใจเพิ่มเป็นเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์แล้วว่าเจ้าเป็นคนยิง”
“หากเจ้าอยากจะพิสูจน์ตัวเอง,เอาแหวนมิติของเจ้าออกมา หากเจ้าไม่มีธนูหรือลูกศร,ข้าจะไม่สร้างปัญหาอะไรให้เจ้าอีก”
ขอบเขตกษัตริย์ยุทธชั้นสูงสุดอีกหกคนมองตรงมา ในตอนที่พวกเขาได้ยินค่าของป่ายหลี่ซี,พวกเขาก็สงสัยเช่นกัน
ขอบเขตกษัตริย์ยุทธชั้นสูงสุดคนอื่นๆค่อยเดินเข้ามาเห็นชัดว่าพวกเขาอยากที่จะให้เซี่ยวเฉินแสดงแหวนมิติของเขาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์
ในตอนที่เซี่ยวเฉินเห็นดังนั้น, หัวใจของเขาจมลึก หากเขาไปมีเรื่องขัดแย้งกับเจ็ดขอบเขตกษัตริย์ยุทธชั้นสูงสุด,เขาก็ไม่รู้จะทําเช่นไร
ทันใดนั้น มีความคิดหนึ่งวูบเข้ามาในหัวของเซี่ยวเฉิน;เขาพบวิธีตอบโต้ เขาชี้ไปที่ป่ายหลี่ซี และตะโกน “เจ้าว่าข้าเป็นคนยิง แล้วยังไง?! ข้าก็ว่าเจ้าเป็นคนยิง!”
ป่ายหลี่ซีกล่าว “ไร้สาระ,เห็นชัดว่าข้ายืนอยู่ด้านหน้า จะเป็นข้าไปได้อย่างไร?”
เซี่ยวเฉินยิ้มขึ้นในใจ:ป่ายหลี่ซีก้าวเข้ามาในกับดักของเขา เขากล่าวอย่างนุ่มนวล “ในโลกนี้มีทักษะแยกร่าง,ดังนั้นมันก็มีเหตุผล จนกว่าเจ้าจะแสดงแหวนมิติของเจ้า,เจ้าก็เป็นผู้ต้องสงสัย!”
“ในเมื่อเจ้าสงสัยข้าและข้าก็สงสัยเจ้า,ตราบใดที่เจ้าเปิดแหวนมิติของเจ้าและมันไม่มีธนูหรือ ลูกศร,ข้าจะไม่สร้างปัญหาให้กับเจ้าอีก”
เซี่ยวเฉินคืนคําพูดให้กับป่ายหลี่ซี
ผู้บ่มเพาะพลังทุกคนมีความลับหรือของมีค่าอยู่ในแหวนมิติของพวกเขา พวกเขาจะแสดงให้ทุกคนเห็นในแหวนมิติของพวกเขาอย่างง่ายดายได้อย่างไร?
ตราบใดที่ป่ายหลี่ซีไม่กล้าเปิดแหวนของเขาต่อหน้าทุกคน,เซี่ยวเฉินก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทําเช่นกัน
ป่ายหลี่ซีกล่าวเป็นมืดมัว หลังจากเงียบอยู่นาน,เขาพลันตะดกนขึ้น “ไอ้สารเลวน้อย! ผู้เฒ่าคนนี้ไม่มีหลักฐานแล้วมันจะทําไม ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ข้า, ป่ายหลี่ซี,ต้องมีเหตุผลในการฆ่ใครสักคน?!”
ป่ายหลี่ซีใช้ฝ่ามือขวาของเขาเป็นกระบี่ฟันตรงไปที่หัวของเซี่ยวเฉินด้วยพลังมหาศาล
ป่ายหลี่จดจ่อไปที่การบ่มเพาะร่างกายภาพ สําหรับเขาที่อยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุด,ฝ่ามือกระบี่นี้เพียงพอที่จะฟันแยกกําแพงเมือง
ข้ากําลังรอให้เจ้าลงมือ สีหน้าของเซียวเฉินกลายเป็นจดจ่อเขาไม่ได้แปลกใจนัก เขาไม่ได้ขยับถอยหลังและยกแขนของเขาขึ้นทํามุมเก้าสิบองศา,ป้องกันหัวของเขา
“เคร้ง!”
ฝ่ามือกระบี่ของป่ายหลี่ซีซัดเข้าที่ล่าแขนของเซี่ยวเฉิน เกิดเสียงราวกับโลหะกระทบกัน คลี่นกระแทกที่มองเห็นด้วยตากวาดออกไปโดยรอบ
“บูม!”
พลังอันแข็งแกร่งเคลื่อนผ่านจากแขนไปถึงขาของเซี่ยวเฉิน พื้นดินไม่อาจแบกรับพลังที่รุนแรงและแตกออก ก้อนหินลอยไปในอากาศ,ล้อมรอบทั้งสองเอาไว้
อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินก็ยังคงไม่ไหวนิ่ง เขาพึ่งกําลังกายภาพของเขาเพื่อป้องกันการโจมตีของป่ายหลี่ซี
“พลังกายภาพของมือกระบี่ชุดขาวทําไมแข็งแกร่งเพียงนี้? เขาสามารถป้องกันการโจมตีจากป่ายหลี่ซี”
“ป่ายหลี่ซึเกิดมาโดยไร้จิตวิญญาณยุทธ เขาจดจ่อไปกับการบ่มเพาะร่างกายภา การโซมตี เบาๆของเขาแบกพลังถึงห้าหมื่นกิโลกรัม กระนั้น,เซี่ยวเฉินที่เป็นมือกระบี่,กล้าที่จะเข้าชนกับเขาไม่อยากจะเชื่อ”
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivation บทที่ 382 งูเจ็ดเศียรที่ดุร้าย
ตอนที่ 382 งูเจ็ดเศียรที่ดุร้าย
การนิ่งสงบอยู่ในทางตันเช่นนี้ไม่ช่วยอะไร,เซี่ยวเฉินครุ่นคิด คนเหล่านี้มีไหวพริบและจะไม่ลงมือจนกว่าจะมีใครสักคนเปิดก่อน ข้าต้องคิดหาทาง
“ป่ายหลี่ซี,ไม่ใช่ว่าเจ้าพูดจาห้าวหาญอยู่เมื่อครู่? ทําไมตอนนี้กลายเป็นใบ้?” มีขอบเขตกษัตริย์ขั้นสูงผู้หนึ่งเยาเย้ยเขา
ป่ายหลี่ซีหัวเราะและกล่าว “เจ้าคิดว่าข้าดูหยาบกร้านแล้วต้องโง่เขลา? นักเชือดพันศพ,หวังเหอ,หากเจ้ากล้า,ทําไมเจ้าไม่เข้าไปก่อน? ขาสัญญาว่าจะช่วยเหลือเจ้า”
ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดที่มีอยู่น้อยนิดระวังตัวมากกว่าที่ทุกคนจินตนาการเอาไว้ พวกเขาไม่ขยับ หากไม่ได้รับประโยชน์ เห็นชัดว่าพวกเราร้อนรน,แต่พวกเขาก็ปฏิเสธที่จะเคลื่อนไหว
“ซิ่ว!”
จังหวะนั้นเอง,มีลูกศรบินมาจากเส้นขอบฟ้า ลูกศรทะลวงผ่านอากาศส่งเสียงโซนิคบูมออกมา ขณะที่มุ่งหน้าไปหางเจ็ดเศียร
ลูกศรแบกพลังอันแข็งแกร่งพร้อมกับซัดไปที่คอของงูเจ็ดเศียร,เกิดเป็นรูเลือดไหล
เลือดสีดําไหลทะลักออกมา พลังของลูกศรนี่แข็งแกร่งทะลวงผ่านการป้องกันของงเจ็ดเศียรไปได้
“ซิ่ว! ซิ่ว! ซิ่ว!”
ลูกศรอีกสามดอกบินผ่านท้องฟ้าท่ากลางฝูงชนที่ตกตะลึง พวกมันซัดเข้าถึงเจ็ดเศียรทิ้งไว้ให้อีกสามบาดแผล
“บึ้ม…!”
งูเจ็ดเศียรโกรธแค้น มันรีบพุ่งไปในทิศทางที่ลูกศรถูกยิงมาอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม, นักธนูคนนั้นซ่อนตัวอยู่หลังฝูงชน งูเจ็ดเศียรไม่อาจหลบเลี่ยงฝูงชนไปได้ นอกจากนั้น,คนกลุ่มแรกที่อยู่ในทางของมันก็คือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดไม่อาจตอบสนองได้ทัน ร่างมหึมาของงูเจ็ดเศียรทุบลงมา,บังคับให้พวกเขาต้องเคลื่อนไหวลงมือ
“ปัง!ปังปัง!”
มีเสียงคํารามศึกดังขึ้มาจากฝูงชน ขณะที่งเจ็ดเศียรเคลื่อนตัวผ่านฝูงชน,มันโจมตีกราดไปทั่วมีสองสามคนที่ต้องเผยพลังของพงกเขาในทันที
สายลมรุนแรงพัดเป่าฝุ่นควันถูกตบขึ้นมาในอากาศ:พื้นดินสั่นสะเทือน,และภูเขาโยกไหว ที่แห่งนี้กลายเป็นวุ่นวายขึ้นในทันที
ในตอนทั้งเจ็ดเศียรถูกโจมตี,มันลืมถึงเป้าหมายเดิมของมันไป มันเปิดปากของมันและโห่ร้อง
งเจ็ดเศียรสาดการโจมตีจากหลากหลายธาตุออกมา;มันเป็นน้ําแข็ง,ไฟ,พิษ,และอีกหลากหลายธาตุ มันพุ่งตัวเข้าไปท่ามกลางฝูงชน
ในทุกก้าวของงูตัวขนาดเท่าภูเขา,พื้นดินจะสั่นสะเทือน มันเหยียบโดนผู้บ่มเพาะพลังโชคร้ายบางคน
ขณะที่งปีศาจตนนี้หมายหัวขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดเจ็ดคน,พวกเขาไม่อาจหลบหนีจากการต่อสู้
คนเหล่านี้อยู่ใกล้กับงูเจ็ดเศียรมากที่สุด;และพวกเขายังซัดเข้าใส่งูเจ็ดเศียรหนักที่สุด เป็นธรรมดา,ทั่งปีศาจตนนี้จะโจมตีคนเหล่านี้ก่อน
ด้านหลังก้อนหินที่อยู่ไกลออกไป,เซี่ยวเฉินค่อยๆเก็บธนูล่าวิญญาณกละบไป เขายิ้มขึ้นเบาๆ และกล่าว “ดังอย่างนี้ พวกเราสามารถจัดการกับงูปีศาจตนนี้ด้วยกันก่อนที่จะเข้าไปข้างใน
เจ็ดผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดยืนหยัดอย่างขมขึ้น,และคนอื่นๆก็ค่อยๆหลบหนีออกจากสมรภูมิที่น่ากลัวนี้ ควันพิษ,เปลวเพลิงและน้ําแข็ง,กับสายลมรุนแรงเติมเต็มพื้นที่: มันไม่ใช่ที่ที่จะยืนอยู่ได้
“ปัง!”
มีผู้บ่มเพาะพลังเจ้าเล่ห์อยากที่จะใช้โอกาสนี้ลอบเข้าไปในสวนสมุนไพรและฉกฉวยผลประโยชน์
อย่างไรก็ตาม มีขวาดยักษ์บินตรงไปและสับร่างของเขาขาดครึ่ง เลือดสาดกระเซ็น;เขาไม่มีโอกาสได้ป้องกัน
“โซว!โซว!โซว!”
หลังจากนั้น มีเส้นกระบี่และดาบจีมากมายบินเข้าไปเลือนร่างของเขากลายเป็นฝุ่น
เจ็ดผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดลงมือไปพร้อมกับป้องกันงูเจ็ดเศียร
“หากมีใครกล้าเข้าไปก่อนหน้าผู้เฒ่าคนส์,ข้าจะเป็นคนแรกที่เข้าไปสับตัวมันให้ขาด!” ป่ายหลี่ซีคารามขณะที่เขาเรียกขวานกลับมา
ผู้บ่มเพาะพลังคนอื่นๆรู้สึกหวาดกลัวขึ้นในใจทันทีพวกเขาไม่กล้าที่จะตุกติก พวกเขาจะสามารถป้องกันการโจมตีของผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดเจ็ดคนพร้อมกันได้อย่างไร
ในเจ็ดคนนี้ มีอยู่สองสามคนที่อยากจะหลบออกจากการต่อสู้ แต่อย่างก็ตาม ทุกครั้งที่พวกเขาพยายามจะผละตัวออกไป,คนอื่นๆก็จะยื้อพวกเขาเอาไว้
มือกระบโลหิต,ซุนกวงฉวน,กล่าวขึ้นอย่างเฉยเมย “หยุดเล่นตุกติก หากพวกเราถอย,งเจ็ดเศียรจะทําลายคนสุดท้ายที่เหลือยู่ ก่อนอื่นร่วมมือกันสังหารงปีศาจลงแล้วค่อยว่ากัน”
“ฟุ ฟิว!”
ป่ายหลี่ซีกวาดขวานยักษ์ของเขาอย่างรุนแรง พลังบริสุทธิ์ตัดอากาศขาดครึ่ง,สลายเปลวเพลิงสีดําทั้งเจ็ดเศียรพ่นออกมา
“หากข้ารู้ว่าใครเป็นคนยิงลูกศร, หากผู้เฒ่าคนนี้ไม่ฉีกมันเป็นชิ้นๆทั้งเป็น ก็ไม่ใช่ข้าป่ายหลี่ซี มันกล้าดีอย่างไรมาเล่นกลอุบายเช่นนี้กับข้า?”
แม้ว่างเจ็ดเศียรจะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่มีเจ็ดระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดร่วมมือกัน,มันไม่อาจเทียบได้และกระแสพลังลายค่อยๆถูกสยบลง
ทั้งเจ็ดคนใช้ทักษะยุทธหลาดหลายประเภทออกมา ฝูงชนในที่สุดก็ได้เห็นชัดถึงความแข็งแกร่งของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุด
ผ่านไปสองชั่วโมง,โอกาสชนะอยู่ในมือของเจ็ดผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด ในตอนที่ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนเห็นโอกาส,พวกเขาเข้าร่วมการต่อสู้
ทั่วทั้งร่างของราชาสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 นับได้ว่าเป็นสมบัติ คนเหล่านี้เริ่มเคลื่อนไหวก็เพราะคิดจะได้รับส่วนแบ่ง
ขณะที่จินอูจีมองไปที่ทางเข้าของสวนสมุนไพร,สายตาของเขาเป็นประกาย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง,เขากล่าว “แม่นางเยว่,เข้าไปเสียตอนนี้เป็นเช่นไร?”
ด้วยฐานะและความแข็งแกร่งของจินอจี้,เขาไม่กล้าแอบย่องเข้าไปใต้จมูกของเจ็ดผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม,เยว่เฉินซีนั้นต่างออกไป
ไม่ต้องนับถึงความแข็งแกร่งของนางผู้เชี่ยวชาญทั้งเจ็ดคนก็ไม่กล้าที่จะจู่โจามนาง,เป็นเพราะด้วนฐานะของนาง
เยว่เฉินซียิ้มเบาๆ ในตอนที่นางเข้าใจความตั้งใจของจินอจี้ นางกล่าว “อย่างกังวลไป, ในเมื่อข้าสัญญาว่าจะช่วยให้เจ้าได้รับผลทองแสงไหล,ข้าก็จะทําให้ได้”
“บูม!”
เกิดเสียงดังขึ้นในตอนที่ป่ายหลี่ซีใช้ขวานของเขาตัดหนึ่งในเจ็ดหัวของงปีศาจ
หัวหายไปหนึ่งหัว,ความแข็งแกร่งของงูเจ็ดเศียรดึงลดลง ฝูงชนกดดันมันต่อไป,ตัดทิ้งไปทีละหัว
ในที่สุด,งูเจ็ดเศียรก็ล้มลงกับพื้น ในตอนที่ร่างมหึมาของมันล้มลง,พื้นดินสั่นสะเทือน
มีรอยแตกปกคลุมทั่วพื้นที่เคยราบเรียบ มีแม้กระทั่งหลุมลึกที่ไร้กัน มันยากที่จะจินตนาการว่าที่ตรงนี้เคยเป็นพื้นราบเรียบมาก่อน
ผู้บ่มเพาะพลังจํานวนมากที่ถูกซัดด้วยการโจมตีอันบ้าคลั่งของงูเจ็ดเศียรพยายามจะฟื้นฟู ถูกที่ถูกอาบด้วยหมอกพิษตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชยิ่งกว่า
สีผิวของคนที่ติดพิษกลายเป็นสีดํา,และริมฝรปากของเขาซีดเซียว พวกเขาไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะเข้าไปในสวนสมุนไพรอีกต่อไป
สําหรับผู้ที่ทําให้เกิดเรื่องทั้งหมด,เซี่ยวเฉิน,เซี่ยวเฉินมย่องเข้าฝูงชนไปอย่างเงียบๆ เขามองดูผู้บ่มเพาะพลังตัดแบ่งวัตถุดิบจากงูเจ็ดเศียร
แต่ละหัวของงูเจ็ดเศียร์มีแก่นกลางปีศาจแตกต่างธาตุกันไป แน่นอน,พวกมันถูกแบ่งกันระหว่างป่ายหลี่ซี,มือกระบโลหิต,และผู้เชี่ยวชาญที่เหลือ สิ่งที่เหลือตกถึงมือของคนอื่นๆคือผิวหนัง,เกล็ด,และมงกุฎของมัน แต่อย่างไรก็ตาม,ของเหล่านี้ก็ยังมีค่าอยู่ดี
ป่ายหลี่ซีได้แก่นกลางปีศาจธาตุปฐพีไป หลังจากที่เขาเก็บมันเข้าไปในแหวนมิติ,เขากวาดสายตาผ่านฝูงชน
ชายร่างสูงล่าสองเมตรมองดูน่ากลัวอย่างยิ่งในตอนที่เขาสวมสีหน้าดุร้าย
ป่ายหลี่ซึมองกวาดผ่านไปสองสามครั้งและในที่สุดสายตาของเขาก็จับจ้องมาที่เซียวเฉิน เขาเหลียวมองเซี่ยวเฉินอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะค่อยๆเดินเข้ามา
“หลีกทางให้ผู้เฒ่า!”
ป่ายหลี่ซีร้องคารามอย่างเกรี้ยวกราด,และฝูงบ่มเพาะพลังที่ขวางทางก็เคลื่อนหลบไปด้านข้าง,ไม่อยากที่จะไปยั่วยเขา
ป่ายหลี่ซีเดินถึงระยะห้าเมตรห่างจากเซี่ยวเฉิน เขาสูงกว่าเซี่ยวเฉินหนึ่งช่วงหัว,ดังนั้นเขาจึงต้องก้มมองลงและตะโกนขึ้น “ไอ้หนู,เจ้าเป็นคนที่ยิงลูกศรมา?”
เสียงของป่ายหลี่ซี่ลุ่มลึกและทรงพลังราวกับฟ้าคํารามที่ข้างหู ผู้บ่มเพาะพลังส่วนใหญ่ที่โดนตะโกนใส่เช่นนี้ พวกเขาจะขวัญกระเจิงและไม่กล้าต่อต้านในทันที
เซี่ยวเฉินยังคงนิ่งสงบพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ “ไม่ใช่”
ป่ายหลี่ซีกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้ายังกล้าว่าไม่ใช่?! ในตอนที่ข้ามองไปที่เจ้าเมื่อครู่นี้ สีหน้าของเจ้าผันผวน จากนั้น,เจ้าก็เก็บซ่อนมันอย่างรวดเร็ซ หากไม่ใช่เจ้ารู้สึกถึงความผิด,เจ้าจะทําเช่นนั้นทําไม?”
สีหน้าของเซี่ยวเฉินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขามองขึ้นไปโดยปราศจากความเกรงกลัวต่อป่ายหลี่ซีและกล่าวขึ้น “น่าขัน ข้าคิดอะไรอยู่แล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า? หากเจ้าไม่มีหลักฐาน,อย่ามากล่าวหาข้า!”
ใบหน้าของป่ายหลี่ซี่มืดมัว และเขากล่าวขึ้น “ข้ามั่นใจเพียงครึ่งเมื่อก่อนหน้านี้,แต่ตอนนี้ข้ามั่นใจเพิ่มเป็นเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์แล้วว่าเจ้าเป็นคนยิง”
“หากเจ้าอยากจะพิสูจน์ตัวเอง,เอาแหวนมิติของเจ้าออกมา หากเจ้าไม่มีธนูหรือลูกศร,ข้าจะไม่สร้างปัญหาอะไรให้เจ้าอีก”
ขอบเขตกษัตริย์ยุทธชั้นสูงสุดอีกหกคนมองตรงมา ในตอนที่พวกเขาได้ยินค่าของป่ายหลี่ซี,พวกเขาก็สงสัยเช่นกัน
ขอบเขตกษัตริย์ยุทธชั้นสูงสุดคนอื่นๆค่อยเดินเข้ามาเห็นชัดว่าพวกเขาอยากที่จะให้เซี่ยวเฉินแสดงแหวนมิติของเขาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์
ในตอนที่เซี่ยวเฉินเห็นดังนั้น, หัวใจของเขาจมลึก หากเขาไปมีเรื่องขัดแย้งกับเจ็ดขอบเขตกษัตริย์ยุทธชั้นสูงสุด,เขาก็ไม่รู้จะทําเช่นไร
ทันใดนั้น มีความคิดหนึ่งวูบเข้ามาในหัวของเซี่ยวเฉิน;เขาพบวิธีตอบโต้ เขาชี้ไปที่ป่ายหลี่ซี และตะโกน “เจ้าว่าข้าเป็นคนยิง แล้วยังไง?! ข้าก็ว่าเจ้าเป็นคนยิง!”
ป่ายหลี่ซีกล่าว “ไร้สาระ,เห็นชัดว่าข้ายืนอยู่ด้านหน้า จะเป็นข้าไปได้อย่างไร?”
เซี่ยวเฉินยิ้มขึ้นในใจ:ป่ายหลี่ซีก้าวเข้ามาในกับดักของเขา เขากล่าวอย่างนุ่มนวล “ในโลกนี้มีทักษะแยกร่าง,ดังนั้นมันก็มีเหตุผล จนกว่าเจ้าจะแสดงแหวนมิติของเจ้า,เจ้าก็เป็นผู้ต้องสงสัย!”
“ในเมื่อเจ้าสงสัยข้าและข้าก็สงสัยเจ้า,ตราบใดที่เจ้าเปิดแหวนมิติของเจ้าและมันไม่มีธนูหรือ ลูกศร,ข้าจะไม่สร้างปัญหาให้กับเจ้าอีก”
เซี่ยวเฉินคืนคําพูดให้กับป่ายหลี่ซี
ผู้บ่มเพาะพลังทุกคนมีความลับหรือของมีค่าอยู่ในแหวนมิติของพวกเขา พวกเขาจะแสดงให้ทุกคนเห็นในแหวนมิติของพวกเขาอย่างง่ายดายได้อย่างไร?
ตราบใดที่ป่ายหลี่ซีไม่กล้าเปิดแหวนของเขาต่อหน้าทุกคน,เซี่ยวเฉินก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทําเช่นกัน
ป่ายหลี่ซีกล่าวเป็นมืดมัว หลังจากเงียบอยู่นาน,เขาพลันตะดกนขึ้น “ไอ้สารเลวน้อย! ผู้เฒ่าคนนี้ไม่มีหลักฐานแล้วมันจะทําไม ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ข้า, ป่ายหลี่ซี,ต้องมีเหตุผลในการฆ่ใครสักคน?!”
ป่ายหลี่ซีใช้ฝ่ามือขวาของเขาเป็นกระบี่ฟันตรงไปที่หัวของเซี่ยวเฉินด้วยพลังมหาศาล
ป่ายหลี่จดจ่อไปที่การบ่มเพาะร่างกายภาพ สําหรับเขาที่อยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุด,ฝ่ามือกระบี่นี้เพียงพอที่จะฟันแยกกําแพงเมือง
ข้ากําลังรอให้เจ้าลงมือ สีหน้าของเซียวเฉินกลายเป็นจดจ่อเขาไม่ได้แปลกใจนัก เขาไม่ได้ขยับถอยหลังและยกแขนของเขาขึ้นทํามุมเก้าสิบองศา,ป้องกันหัวของเขา
“เคร้ง!”
ฝ่ามือกระบี่ของป่ายหลี่ซีซัดเข้าที่ล่าแขนของเซี่ยวเฉิน เกิดเสียงราวกับโลหะกระทบกัน คลี่นกระแทกที่มองเห็นด้วยตากวาดออกไปโดยรอบ
“บูม!”
พลังอันแข็งแกร่งเคลื่อนผ่านจากแขนไปถึงขาของเซี่ยวเฉิน พื้นดินไม่อาจแบกรับพลังที่รุนแรงและแตกออก ก้อนหินลอยไปในอากาศ,ล้อมรอบทั้งสองเอาไว้
อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินก็ยังคงไม่ไหวนิ่ง เขาพึ่งกําลังกายภาพของเขาเพื่อป้องกันการโจมตีของป่ายหลี่ซี
“พลังกายภาพของมือกระบี่ชุดขาวทําไมแข็งแกร่งเพียงนี้? เขาสามารถป้องกันการโจมตีจากป่ายหลี่ซี”
“ป่ายหลี่ซึเกิดมาโดยไร้จิตวิญญาณยุทธ เขาจดจ่อไปกับการบ่มเพาะร่างกายภา การโซมตี เบาๆของเขาแบกพลังถึงห้าหมื่นกิโลกรัม กระนั้น,เซี่ยวเฉินที่เป็นมือกระบี่,กล้าที่จะเข้าชนกับเขาไม่อยากจะเชื่อ”
Comments