Immortal and Martial Dual Cultivation 162 ฉู่ซินอวิ๋นที่เขินอาย

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 162 ฉู่ซินอวิ๋นที่เขินอาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 162 ฉู่ซินอวิ๋นที่เขินอาย

เซี่ยวเฉินหยุดพักหลังจากที่พูดเช่นนั้น จากนั้นเขาก็หยิบมีดเล่มนั้นออกมาและกล่าวต่อ “พื้นผิวของมีดเล่มนี้คงไม่ใสสะอาดเช่นนี้หากข้าไม่ทําเช่นนั้น มันจะฉีกเอาก้อนเนี้ อติดออกมาด้วย ข้าเกรงว่านางอาจจะถึงกับกัดทะลุชิ้นไม้”

หลิวสุยเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะรู้สึกว่าที่เซี่ยวเฉินกล่าวมาก็สมเหตุสมผล สีหน้าของเขากลายเป็นอบอุ่น และเขาก็พูดขึ้น “เย่เฉิน, ขอขอบใจเจ้า เจ้าไม่เพียงช่วยข้าเอาบุปผาผลึกน้ำแข็งกลับมาเจ้ายังได้ช่วยฉู่ซินอวิ๋น ฉู่ซินอวิ๋นต้องเข้าใจเจ้าผิด แต่ข้าจะช่วยอธิบายให้นางฟังที่หลัง”

เซี่ยวเฉินยิ้มบางๆและแตะไปที่หลังของหลิวสุยเฟิง “อย่าได้กล่าวเช่นนั้น บนยอดเขาฉิงหยุนข้าได้รับการดูแลอย่างดีจากพี่สาวของเจ้า สิ่งที่ทําไปทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ข้าหวังไว้”

“สําหรับเรื่องที่นางเข้าใจผิด,ไม่มีอะไรต้องไปเป็นกังวลเกี่ยวกับมัน นอกจากนั้น,นางก็เกือบจะฟื้นคืนกลับมาแล้ว ข้าไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรกับนางมากมาย,ไม่มีปัญหาที่จะแบกมลทินติดตัว”

หลังจากที่เซี่ยวเฉินพูดจบ,เขาหยิบเอาเม็ดยาและม้วนผ้าพันแผลออกมา หลังจากที่เขาโดนลิงน้ำแข็งทําร้ายเขาได้นําสิ่งนี้ติดมาเพื่อเอาไว้ยามต้องการ

ผ้าพันแผลชุบด้วยยาคุณภาพดีมันให้ผลเยี่ยมกว่าผ้าพันแผลทั่วไป เซี่ยวเฉินยื่นผ้าพันแผลและเม็ดยาให้กับหลิวสุยเฟิง,เขาพูดขึ้น “ช่วยทําแผลให้นางซะ!”

ท้ายที่สุด,หลิวสุยเฟิงก็รับเม็ดยาและผ้าพันแผลไปเดินวนรอบตัวคู่ฉู่ซินอวิ๋นอยู่หลายครั้ง เขาไม่รู้จะทําเช่นไร

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาพูดขึ้นพร้อมกับเขินเบาๆ “ พี่น้องเย่เฉินให้เจ้าจัดการจะดีกว่า ข้าไม่มีประสบการณ์”

ก็เชี่ยแล้ว! เจ้าหมอนี้บอกให้เขาเด็ดขาดเมื่อก่อนหน้านี้ เมื่อเป็นตาของเขา เขากลับม้วนหางวิ่งหนีเซี่ยวเฉินครุ่นคิดอย่างหมดหนทาง “ไม่ใช่ว่าเจ้ากําลังตามจีบนางอยู่? นี่เป็นโอกาสดีให้เจ้าได้แสดงฝีมือแล้ว เจ้าอยากให้ข้าจัดการเอง? เจ้าแน่ใจ?

หลิวสุยเฟิงอ้ำๆๆอึ้งๆ “มันไม่ถูกต้องที่ชายหญิงจะมาแตะเนื้อต้องตัวกัน ข้าเกรงว่าเมื่อในอนตื่นขึ้น,นางจะกล่าวโทษข้า”

โดยปกติ,หลิวสุยเฟิงจะดูสบายๆไร้กังวล,ตอนนี้เขาช่างดูสงบเสงี่ยม เซี่ยวเฉินหมดความอดทนและรับเอาเม็ดยากับผ้าพันแผลคืนมา

“ซีก ซี!”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเซี่ยวเฉินที่เขาได้ทําแบบนี้เขาคุ้นเคยกับสิ่งนี้ไปเรียบร้อย ในเวลาสั้นๆ เขาก็ฉีกเสื้อผ้าบริเวณบาดแผลของชินอวิ่นออก

มันเผยให้เห็นผืนผิวสีขาวครีม เซี่ยวเฉินได้เตรียมใจแน่วแน่ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เขาหยิบเม็ดยาหวนคียโลหิตออกมาโรยลงไปที่บาดแผลหลังจากที่บดมันเป็นผง จากนั้นเขาก็ยกเอวของฉู่ซินอวิ๋นขึ้นและพันแผลทบเป็นชั้นๆ

“เสร็จ!” เซี่ยวเฉินพูดขึ้นหลังจากที่เขาผูกปมสุดท้าย เสร็จและลุกขึ้น

หลังจากทําทั้งหมดนี้แล้ว เซี่ยวเฉินก็จัดเรียงสินสงคราม เขาพบหินวิญญาณระดับต่ำอีก 50 ก้อนบนตัวของเอี้ยนเทียนเจิ้ง

รวมกับหินวิญญาณระดับต่ําที่เก็บมาจากเหล่าสานุศิษย์ยอดเขาซื้อชิ้น,มีหินวิญญาณระดับต่ํารวมกันแล้วมากกว่า 200 ก้อน นอกจากเม็ดยาและหินวิญญาณ,เซี่ยวเฉินยัง พบตํารามโนภาพสามกระแสเมฆา

เซี่ยวเฉินตัดแบ่งหินวิญญาณครึ่งหนึ่งไว้สําหรับหลิวสุยเฟิง อย่างไรก็ตาม,หลิวสุยฟังยืนยันว่าจะไม่ขอรับไว้ เขากล่าวว่าได้บุปผาผลึกน้ำแข็งมามันก็เพียงพอแล้ว นอก จากนั้น,คนพวกนี้ถูกเซียวเฉินสังหารด้วยตัวคนเดียวมันไม่สมเหตุสมผลที่เขาจะรับหินวิญญาณพวกนี้

เซี่ยวเฉินรู้สึกหมดหนทาง ทําได้เพียงลดจํานวนหินวิญญาณลงให้อยู่ในระดับที่เขายอมรับเอาไว้ ต่อจากนั้น เซี่ยวเฉินก็เริ่มเก็บกวาดสนามรบโยใช้เพลิงแท้อัสนีม่วงเผาศพที่พื้นให้หายไปอย่างหมดจด

จากนั้นเซี่ยวเฉินก็มองไปที่ลูกม้าเมฆาเพลิง:สัตว์อสูรวิญญาณเหล่านี้ไม่ได้แตกหนีหายไป เซี่ยวเฉินเกรงว่ามันจะเหลือเป็นหลักฐานทิ้งไว้และทําได้เพียงสังหารลูกม้าเม ฆาเพลิงที่มูลค่ามากกว่าหนึ่งพันเหรียญทอง

เมื่อเขาจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จ เขาก็จ้องมองไปที่ซ่งเชียนเหอที่หมดสติด้วยสายตารังเกียจ เขาเตะไปที่หัวของเขา,ส่งตัวเขาลอยขึ้นไปเป็นผลให้เขาลอยไปค้างแขวนอยู่บนต้นไม้

เมื่อเขาทําสิ่งเหล่านี้เสร็จ,เซี่ยวเฉินก็เดินตรงไปที่หลิวสุยเฟิงและพูดขึ้น “สมุนไพรที่คู่ชินอวินต้องการนั้นคืออะไร? ไม่มีเวลาให้เสียอีกแล้วข้าจะช่วยนางรวบรวมของพวกมันมาให้ เมื่อน่าฟื้นขึ้น, พวกเขาจะกลับออกไปในทันที”

หลิวสุยเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดขึ้น “ข้าจําได้ไม่ชัดเจนนัก,นางเคยบอกข้าเพียงครั้งเดียว มีหญ้าหัวใจน้ำแข็ง, บุปผาน้ำค้างแข็งลึกลับ,ผลน้ำแข็งเหมันต์รวมไปถึงบัว หิมะม่วง,ข้าคิดว่ามีเท่านี้”

พวกมันทั้งหมดเป็นสมุนไพรระดับ 5 ;พวกมันไม่ได้หากยากมากนัก,เซี่ยวเฉินคิด “ดูแลนางไว้ เมื่อข้ากลับมาพวกเราจะออกไปในทันที”

หลังจากที่เซี่ยวเฉินพูดจบ,เขาก็จากไปอย่างรวดเร็ว,หายลับไปจากสายตาของหลิวสุยเฟิง หลังจากนั้นครูเขาก็ไปหยุดลงที่ยอดต้นไม้ใหญ่

แก่นกลางจิตวิญญาณในจิตสํานึกของเขาออกมาพร้อมกับสัมผัสวิญญาณ ทันใดนั้น,สมุนไพรที่อยู่โดยรอบก็ปรากฏขึ้นในจิตสํานึกของเซี่ยวเฉิน

มันมีสมุนไพรเยอะเกินไป,เซี่ยวเฉินออกคําสั่งในทันที่คัดสมุนไพรที่ต่ำกว่าระดับ 5 ออกไปมีเพียงสมุนไพรระดับ 5 เหลือในทะเลจิตสํานึกของเขา

มันทําให้สะดวกในการค้นหา เซียวเฉินลืมตาขึ้นและเผยรอยยิ้ม เขาค้นพบบริเวณที่หญ้าหัวใจน้ำแข็งงอกขึ้นมา

ที่นั้นมีงูน้ำแข็งเหมันต์ระดับ 4 อยู่จํานวนมาก เซี่ยวเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและประเมินถึงพวกมัน พวกมันเป็นแค่สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 4 :ไม่จําเป็นต้องไปลงแรงกับ พวกมันมากเกินไป

ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังคิดหาทางเข้าไปเก็บสมุนไพร,ฉู่ซินอวิ๋นก็ฟื้นขึ้นเร็วกว่าที่คาดเอาไว้สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือ เซี่ยวเฉินประเมินความแข็งแกร่งของคู่ชินอนผิดไป นอก จากนั้นเป็นเพราะนางอยู่ในสภาพอ่อนแอ,เขาจึงไม่ได้ตีนางหนักมือเกินไป

ขณะที่เซี่ยวเฉินฟื้นขึ้นช้าๆ หัวของนางรู้สึกวิงเวียน หลังจากผ่านไปนาน,นางก็ค่อยๆคืนสติและเห็นผ้าพันแผลบนหน้าอกของนาง

ใบหน้าอันงดงามของนางกลายเป็นสีแดงในทันที่และกล่าวกับหลิวสุยเฟิงที่อยู่ด้านข้าง “สุยเฟิง,ใครฉีกเสี้อผ้าของข้า?”

หลิวสุยเฟิงตกตะลึงและหวั่นเกรงว่าลู่ชินอนจะเข้าใจผิด เขารีบผลักความรับผิดชอบออกไปในทันที “เย่เฉินเป็คนทําแผลให้เจ้า ข้าไม่ชํานาญเรื่องพวกนี้”

ฉู่ซินอวิ๋นเผยสีหน้าไม่พึงพอใจและดิ้นรนพยายามจะลุกขึ้นนั่ง นางเอนตัวลงที่ต้นไม้และพูดขึ้น “เย่เฉินผู้นี้ แต่เดิมข้าคิดว่าเขาจะเป็นเพียงคนกลับกลอกเจ้าเล่ห์,มีแต่พูด ไม่มีอะไรอื่น ข้าไม่คาดคิดว่าเขาจะไร้สํานึกโดยสิ้นเชิง”

“ไม่สงสัยเลยว่าทําไมพี่สาวเหลิ้งถึงได้เรียกเขาชาติชั่วเต็มไปด้วยตัณหา”

หลิวสุยเฟิงรู้สึกละอายในใจ เขาเห็นว่าสถานการณ์กําลังกลายเป็นรุนแรงและเขาจึงบอกนางถึงสิ่งที่เซี่ยวเฉินอธิบายให้เขาฟัง

หลังจากที่ฉู่ซินอวิ๋นได้ยินเช่นนั้น,นางก็ครุ่นคิดกับมันอยู่นาน นางรู้แล้วว่าที่เซี่ยวเฉินพูดมามันสมเหตุสมผลและนางได้เข้าใจเซียวเฉินผิดไป นางรู้สึกละอาย แต่นางก็ไม่อยากยอมรับว่าตัวเองผิด “ถึงกระนั่นเขาก็ไม่สามารถฉีกเสี้อผ้าของสตรีเช่นนี้ยิ่งกว่านั้นเขายังพูดถึงสิ่งที่น่ารังเกียจ”

“ปัง!”

ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินก็จอดลงบนพื้นและตบเอาฝุ่นควันขึ้นมา เขาตกใจที่เห็นว่าคู่ชินอวิ่นฟื้นขึ้นมาแล้ว และเขาก็พูดขึ้นอย่างตกตะลึง “เจ้าตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร? เจ้า ต้องนอนพักเป็นเวลาอย่างน้อยสิบชั่วโมง มิฉะนั้น มันจะใช้เวลานานในการรักษาร่างกายของเจ้า”

มองดูเซี่ยวเฉินที่จู่ๆก็กลับมา ฉู่ซินอวิ๋นขวยเขินยิ่งขึ้นไปอีก เซี่ยวเฉินมองไปที่หลิวสุยเฟิง,มองกันไปมองกันมาแลกเปลี่ยนสายตากัน

เซี่ยวเฉินได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นและถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ หากเป็นที่โลกเดิมของเขา,มันจะถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร ตอนนี้นั้นเขาอยู่ในโลกนี้ สิ่งพวกนี้กลายเป็นปัญหา

เซี่ยวเฉินโยนขวดเม็ดยาหวนคืนโลหิตให้กับฉู่ซินอวิ๋นและพูดขึ้น “หากเข้ายืนกรานที่จะไม่นอนพัก เช่นนั้นก็ใช้เม็ดยานี้เป็นเวลาสามวัน กินหนึ่งและโรยแผลหนึ่ง เพียงวันละครั้งก็เพียงพอแล้ว”

หลังจากที่เซี่ยวเฉินพูดจบ,เขาสะบัดมือของเขาและโยนสมุนไพรที่เขาเพิ่งเก็บมาให้กับฉู่ซินอวิ๋น เรือรบสีเงินปรากฏออกมาจากดวงตาขวาของเขา และเขาก็กระโดดขึ้นไปบนเรือ

หลิวสุยเฟิงช่วยพยุงคู่ชินอวิ่นขึ้นมา เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นว่าทั้งสองได้ขึ้นมาแล้วเขาควบคุมเรือสงครามสีเงินตรงไปที่ทางเข้าหุบเขาสายลมอสูรในทันที

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง,ฉู่ซินอวิ๋นก็จัดเรียงสมุนไพรอย่างเหมาะสม นางพบว่าพวกมันคือสมุนไพรทั้งหมดที่นางต้องการ,ไม่ขาดไปแม้แต่อย่างเดียว นางเดินไปที่ด้านหลังของเซี่ยวเฉินและพูดขึ้น “ขอบคุณ” เสียงนุ่ม

เซี่ยวเฉินรู้สึกอายเล็กน้อยขณะที่ยิ้มขึ้น “ไม่จําเป็นต้องขอบคุณข้า พวกเราควรหายกันแล้วตอนนี้”

จากนั้นเซี่ยวเฉินก็นึกถึงสิ่งที่เขาได้ทําลงไป และเขาก็รู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เขาได้ทําผิด

แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะทําไปโดยเจตนาดี,มันก็ผิดที่เขาไปพูดเช่นนั้นกับสตรี นี่อาจจะเป็นเหตุผลว่าทําไมเซี่ยวเฉินจึงช่วยน่ารวบรวมสมุนไพรมันเป็นการชดเชยให้นาง

“ใช่แล้ว,สุยเฟิง,ม้าทั้งสามตัวของพวกเราจะเป็นอะไรหรือไม่?” เซี่ยวเฉินพยายามกล่าวอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

หลิวสุยเฟิงตอบกลับ “นั้นไม่มีปัญหา แม้พวกเราจะจากมา ก็ยังมีคนดูแลพวกมันต่อไป พวกเราเพียงแค่ต้องกลับมาพามันไปคืน”

การเดินทางดําเนินต่อไปอย่างเงียบเชียบเซี่ยวเฉินไม่ได้พูดอะไรต่อและขับเรือสงครามสีเงินไปด้วยความเร็วสูงสุดของมัน เรือสงครามสีเงินกลายเปล่งแสง,พุ่งสูง ขึ้นไปบนท้องฟ้า

เมื่อพวกเขาสามารถมองเห็นเทือกเขาหลิงหยุน,เซี่ยวเฉิน ค่อยๆลดความเร็วลง น่านฟ้าของศาลากระปสวรรค์มีขีดกั้นหลายชั้นที่แตกต่างกันออกไป

หากเรือสงครามหรือคนที่ไม่ได้มาจากศาลากระบี่สวรรค์พวกเขาไม่มีทางรอดชีวิตจากการพยายามฝ่ามันเข้าไป แม้จะมีถึงเก้าชีวิตก็ตามเป็นปกติ เซี่ยวเฉินจะไม่ทําความผิดพลาดเช่นนี้

เมื่อพวกเขาเข้าใกล้ตีนเขา, เซี่ยวเฉินควบคุมเรือสงครามสีเงินลงจอดอย่างช้าๆ จากนั้นพวกเขาทั้งสามก็เริ่มเดินตรงไปที่เทือกเขาหลิงหยุน เมื่อพวกเขาผ่านทางเข้าเข้าไป,พวกเขาก็แยกทางกัน หลิวสุยเฟิงต้องไปส่งฉู่ซินอวิ๋นกลับทิ้งให้เซี่ยวเฉินต้องเดินกลับยอดเขาฉิงหยุนด้วยตัวเอง

ในจังหวะนั้นมันก็ใกล้ค่ําแล้ว ในตอนที่เซี่ยวเฉินมาถึงยอดเขาฉิงหยุนก็มืดแล้วเป็นที่เรียบร้อย

เขาได้ประสบเหตุการณ์มากมายในวันนี้ เซี่ยวเฉินเหนื่อยล้าถึงขีดสุด และหลังจากที่เขาผ่านเข้าห้องไปเขาล้มตัวลงที่เตียงและหลับไปในทันที

ในกลางดึกนั่นเอง,เขาได้ยินเสียง,ขณะที่กําลังงุนงง,ก็ได้ยินเสียงเคาะที่ประตูดังขึ้นเรื่อยๆ มันปลุกเซี่ยวเฉินให้ตื่นขึ้น

เซี่ยวเฉินลืมตาอย่างไม่เต็มใจนักและไปเปิดประตูอย่างหงุดหงิด เขาร้องออกมา “ใครกัน,ขัดขวางการนอนของข้า”

“ฟิ้ว ฟิ้ว!”

เจตนาฆ่าฟันที่สั่นสะเทือนปฐพีกลืนกินเซี่ยวเฉิน,ทําให้เซี่ยวเฉินตื่นเต็มตาในทันที จากนั้นเขาก็ถอยกลับอย่างระวัง

กระบี่เล็กวูบผ่าน,เฉียวจมูกเขาไปอย่างหวุดหวิด “เจ้าตื่นหรือยัง? หรือยังอยากที่จะนอนต่อ?”

โดยปกติ,มีเพียงหลิวหรูเยว่ที่ใช้วิธีรุนแรงเช่นนี้ใน การปลุกคนให้ตื่น:จะไม่มีผู้ใดในโลกอีกที่ทําเช่นนี้

เชี่ยวเฉินเห็นสีหน้าดํามืดและเย็นชาเป็นใบหน้าของนาง เขาถามขึ้นอย่างระวัง “พี่สายหรูเยว่ เกิดอะไรขึ้น? ทําไมถึงได้มาปลุกข้ากลางดึกเช่นนี้?”

หลิวหรูเยว่ดวงตาแดงก่ำพร้อมกับกล่าวอย่างเกรี้ยวโกรธ “เจ้ายังกล้าที่จะถาม? หลังจากเกิดเรื่องใหญ่โตเช่นนี้เจ้าไม่แม้แต่จะบอกกล่าวให้ข้าฟังและเดินตรงไปที่เตียง เจ้ายังเคารพข้าเป็นอาจารย์อยู่หรือไม่!?”

เซี่ยวเฉินไม่เคยเห็นหลิวหรูเยว่เดือดาลเช่นนี้มาก่อน แม้ว่าจุดเดือดของนางจะต่ำอยู่แล้วที่ผ่านมาในอดีต,มันก็ต่างไปจากที่เขาเห็นในวันนี้

นอกจากความเกรี้ยวโกรธ,นางยังดูเหมือนเจ็บปวด น้ำเสียงของนางเจือไปด้วยความผิดหวังอย่างชัดเจน 

เซี่ยวเฉินรีบครุ่นคิดว่าทําไมหลิวหรูเยวถึงได้โกรธ เขารีบอธิบาย “พี่สาวหรูเยว่,ข้าเชื่อว่าข้าจัดการสถานการณ์ที่หุบเขาสายลมอสูรได้อย่างหมดจด มันไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 162 ฉู่ซินอวิ๋นที่เขินอาย

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 162 ฉู่ซินอวิ๋นที่เขินอาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 162 ฉู่ซินอวิ๋นที่เขินอาย

เซี่ยวเฉินหยุดพักหลังจากที่พูดเช่นนั้น จากนั้นเขาก็หยิบมีดเล่มนั้นออกมาและกล่าวต่อ “พื้นผิวของมีดเล่มนี้คงไม่ใสสะอาดเช่นนี้หากข้าไม่ทําเช่นนั้น มันจะฉีกเอาก้อนเนี้ อติดออกมาด้วย ข้าเกรงว่านางอาจจะถึงกับกัดทะลุชิ้นไม้”

หลิวสุยเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะรู้สึกว่าที่เซี่ยวเฉินกล่าวมาก็สมเหตุสมผล สีหน้าของเขากลายเป็นอบอุ่น และเขาก็พูดขึ้น “เย่เฉิน, ขอขอบใจเจ้า เจ้าไม่เพียงช่วยข้าเอาบุปผาผลึกน้ำแข็งกลับมาเจ้ายังได้ช่วยฉู่ซินอวิ๋น ฉู่ซินอวิ๋นต้องเข้าใจเจ้าผิด แต่ข้าจะช่วยอธิบายให้นางฟังที่หลัง”

เซี่ยวเฉินยิ้มบางๆและแตะไปที่หลังของหลิวสุยเฟิง “อย่าได้กล่าวเช่นนั้น บนยอดเขาฉิงหยุนข้าได้รับการดูแลอย่างดีจากพี่สาวของเจ้า สิ่งที่ทําไปทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ข้าหวังไว้”

“สําหรับเรื่องที่นางเข้าใจผิด,ไม่มีอะไรต้องไปเป็นกังวลเกี่ยวกับมัน นอกจากนั้น,นางก็เกือบจะฟื้นคืนกลับมาแล้ว ข้าไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรกับนางมากมาย,ไม่มีปัญหาที่จะแบกมลทินติดตัว”

หลังจากที่เซี่ยวเฉินพูดจบ,เขาหยิบเอาเม็ดยาและม้วนผ้าพันแผลออกมา หลังจากที่เขาโดนลิงน้ำแข็งทําร้ายเขาได้นําสิ่งนี้ติดมาเพื่อเอาไว้ยามต้องการ

ผ้าพันแผลชุบด้วยยาคุณภาพดีมันให้ผลเยี่ยมกว่าผ้าพันแผลทั่วไป เซี่ยวเฉินยื่นผ้าพันแผลและเม็ดยาให้กับหลิวสุยเฟิง,เขาพูดขึ้น “ช่วยทําแผลให้นางซะ!”

ท้ายที่สุด,หลิวสุยเฟิงก็รับเม็ดยาและผ้าพันแผลไปเดินวนรอบตัวคู่ฉู่ซินอวิ๋นอยู่หลายครั้ง เขาไม่รู้จะทําเช่นไร

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาพูดขึ้นพร้อมกับเขินเบาๆ “ พี่น้องเย่เฉินให้เจ้าจัดการจะดีกว่า ข้าไม่มีประสบการณ์”

ก็เชี่ยแล้ว! เจ้าหมอนี้บอกให้เขาเด็ดขาดเมื่อก่อนหน้านี้ เมื่อเป็นตาของเขา เขากลับม้วนหางวิ่งหนีเซี่ยวเฉินครุ่นคิดอย่างหมดหนทาง “ไม่ใช่ว่าเจ้ากําลังตามจีบนางอยู่? นี่เป็นโอกาสดีให้เจ้าได้แสดงฝีมือแล้ว เจ้าอยากให้ข้าจัดการเอง? เจ้าแน่ใจ?

หลิวสุยเฟิงอ้ำๆๆอึ้งๆ “มันไม่ถูกต้องที่ชายหญิงจะมาแตะเนื้อต้องตัวกัน ข้าเกรงว่าเมื่อในอนตื่นขึ้น,นางจะกล่าวโทษข้า”

โดยปกติ,หลิวสุยเฟิงจะดูสบายๆไร้กังวล,ตอนนี้เขาช่างดูสงบเสงี่ยม เซี่ยวเฉินหมดความอดทนและรับเอาเม็ดยากับผ้าพันแผลคืนมา

“ซีก ซี!”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเซี่ยวเฉินที่เขาได้ทําแบบนี้เขาคุ้นเคยกับสิ่งนี้ไปเรียบร้อย ในเวลาสั้นๆ เขาก็ฉีกเสื้อผ้าบริเวณบาดแผลของชินอวิ่นออก

มันเผยให้เห็นผืนผิวสีขาวครีม เซี่ยวเฉินได้เตรียมใจแน่วแน่ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เขาหยิบเม็ดยาหวนคียโลหิตออกมาโรยลงไปที่บาดแผลหลังจากที่บดมันเป็นผง จากนั้นเขาก็ยกเอวของฉู่ซินอวิ๋นขึ้นและพันแผลทบเป็นชั้นๆ

“เสร็จ!” เซี่ยวเฉินพูดขึ้นหลังจากที่เขาผูกปมสุดท้าย เสร็จและลุกขึ้น

หลังจากทําทั้งหมดนี้แล้ว เซี่ยวเฉินก็จัดเรียงสินสงคราม เขาพบหินวิญญาณระดับต่ำอีก 50 ก้อนบนตัวของเอี้ยนเทียนเจิ้ง

รวมกับหินวิญญาณระดับต่ําที่เก็บมาจากเหล่าสานุศิษย์ยอดเขาซื้อชิ้น,มีหินวิญญาณระดับต่ํารวมกันแล้วมากกว่า 200 ก้อน นอกจากเม็ดยาและหินวิญญาณ,เซี่ยวเฉินยัง พบตํารามโนภาพสามกระแสเมฆา

เซี่ยวเฉินตัดแบ่งหินวิญญาณครึ่งหนึ่งไว้สําหรับหลิวสุยเฟิง อย่างไรก็ตาม,หลิวสุยฟังยืนยันว่าจะไม่ขอรับไว้ เขากล่าวว่าได้บุปผาผลึกน้ำแข็งมามันก็เพียงพอแล้ว นอก จากนั้น,คนพวกนี้ถูกเซียวเฉินสังหารด้วยตัวคนเดียวมันไม่สมเหตุสมผลที่เขาจะรับหินวิญญาณพวกนี้

เซี่ยวเฉินรู้สึกหมดหนทาง ทําได้เพียงลดจํานวนหินวิญญาณลงให้อยู่ในระดับที่เขายอมรับเอาไว้ ต่อจากนั้น เซี่ยวเฉินก็เริ่มเก็บกวาดสนามรบโยใช้เพลิงแท้อัสนีม่วงเผาศพที่พื้นให้หายไปอย่างหมดจด

จากนั้นเซี่ยวเฉินก็มองไปที่ลูกม้าเมฆาเพลิง:สัตว์อสูรวิญญาณเหล่านี้ไม่ได้แตกหนีหายไป เซี่ยวเฉินเกรงว่ามันจะเหลือเป็นหลักฐานทิ้งไว้และทําได้เพียงสังหารลูกม้าเม ฆาเพลิงที่มูลค่ามากกว่าหนึ่งพันเหรียญทอง

เมื่อเขาจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จ เขาก็จ้องมองไปที่ซ่งเชียนเหอที่หมดสติด้วยสายตารังเกียจ เขาเตะไปที่หัวของเขา,ส่งตัวเขาลอยขึ้นไปเป็นผลให้เขาลอยไปค้างแขวนอยู่บนต้นไม้

เมื่อเขาทําสิ่งเหล่านี้เสร็จ,เซี่ยวเฉินก็เดินตรงไปที่หลิวสุยเฟิงและพูดขึ้น “สมุนไพรที่คู่ชินอวินต้องการนั้นคืออะไร? ไม่มีเวลาให้เสียอีกแล้วข้าจะช่วยนางรวบรวมของพวกมันมาให้ เมื่อน่าฟื้นขึ้น, พวกเขาจะกลับออกไปในทันที”

หลิวสุยเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดขึ้น “ข้าจําได้ไม่ชัดเจนนัก,นางเคยบอกข้าเพียงครั้งเดียว มีหญ้าหัวใจน้ำแข็ง, บุปผาน้ำค้างแข็งลึกลับ,ผลน้ำแข็งเหมันต์รวมไปถึงบัว หิมะม่วง,ข้าคิดว่ามีเท่านี้”

พวกมันทั้งหมดเป็นสมุนไพรระดับ 5 ;พวกมันไม่ได้หากยากมากนัก,เซี่ยวเฉินคิด “ดูแลนางไว้ เมื่อข้ากลับมาพวกเราจะออกไปในทันที”

หลังจากที่เซี่ยวเฉินพูดจบ,เขาก็จากไปอย่างรวดเร็ว,หายลับไปจากสายตาของหลิวสุยเฟิง หลังจากนั้นครูเขาก็ไปหยุดลงที่ยอดต้นไม้ใหญ่

แก่นกลางจิตวิญญาณในจิตสํานึกของเขาออกมาพร้อมกับสัมผัสวิญญาณ ทันใดนั้น,สมุนไพรที่อยู่โดยรอบก็ปรากฏขึ้นในจิตสํานึกของเซี่ยวเฉิน

มันมีสมุนไพรเยอะเกินไป,เซี่ยวเฉินออกคําสั่งในทันที่คัดสมุนไพรที่ต่ำกว่าระดับ 5 ออกไปมีเพียงสมุนไพรระดับ 5 เหลือในทะเลจิตสํานึกของเขา

มันทําให้สะดวกในการค้นหา เซียวเฉินลืมตาขึ้นและเผยรอยยิ้ม เขาค้นพบบริเวณที่หญ้าหัวใจน้ำแข็งงอกขึ้นมา

ที่นั้นมีงูน้ำแข็งเหมันต์ระดับ 4 อยู่จํานวนมาก เซี่ยวเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและประเมินถึงพวกมัน พวกมันเป็นแค่สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 4 :ไม่จําเป็นต้องไปลงแรงกับ พวกมันมากเกินไป

ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังคิดหาทางเข้าไปเก็บสมุนไพร,ฉู่ซินอวิ๋นก็ฟื้นขึ้นเร็วกว่าที่คาดเอาไว้สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือ เซี่ยวเฉินประเมินความแข็งแกร่งของคู่ชินอนผิดไป นอก จากนั้นเป็นเพราะนางอยู่ในสภาพอ่อนแอ,เขาจึงไม่ได้ตีนางหนักมือเกินไป

ขณะที่เซี่ยวเฉินฟื้นขึ้นช้าๆ หัวของนางรู้สึกวิงเวียน หลังจากผ่านไปนาน,นางก็ค่อยๆคืนสติและเห็นผ้าพันแผลบนหน้าอกของนาง

ใบหน้าอันงดงามของนางกลายเป็นสีแดงในทันที่และกล่าวกับหลิวสุยเฟิงที่อยู่ด้านข้าง “สุยเฟิง,ใครฉีกเสี้อผ้าของข้า?”

หลิวสุยเฟิงตกตะลึงและหวั่นเกรงว่าลู่ชินอนจะเข้าใจผิด เขารีบผลักความรับผิดชอบออกไปในทันที “เย่เฉินเป็คนทําแผลให้เจ้า ข้าไม่ชํานาญเรื่องพวกนี้”

ฉู่ซินอวิ๋นเผยสีหน้าไม่พึงพอใจและดิ้นรนพยายามจะลุกขึ้นนั่ง นางเอนตัวลงที่ต้นไม้และพูดขึ้น “เย่เฉินผู้นี้ แต่เดิมข้าคิดว่าเขาจะเป็นเพียงคนกลับกลอกเจ้าเล่ห์,มีแต่พูด ไม่มีอะไรอื่น ข้าไม่คาดคิดว่าเขาจะไร้สํานึกโดยสิ้นเชิง”

“ไม่สงสัยเลยว่าทําไมพี่สาวเหลิ้งถึงได้เรียกเขาชาติชั่วเต็มไปด้วยตัณหา”

หลิวสุยเฟิงรู้สึกละอายในใจ เขาเห็นว่าสถานการณ์กําลังกลายเป็นรุนแรงและเขาจึงบอกนางถึงสิ่งที่เซี่ยวเฉินอธิบายให้เขาฟัง

หลังจากที่ฉู่ซินอวิ๋นได้ยินเช่นนั้น,นางก็ครุ่นคิดกับมันอยู่นาน นางรู้แล้วว่าที่เซี่ยวเฉินพูดมามันสมเหตุสมผลและนางได้เข้าใจเซียวเฉินผิดไป นางรู้สึกละอาย แต่นางก็ไม่อยากยอมรับว่าตัวเองผิด “ถึงกระนั่นเขาก็ไม่สามารถฉีกเสี้อผ้าของสตรีเช่นนี้ยิ่งกว่านั้นเขายังพูดถึงสิ่งที่น่ารังเกียจ”

“ปัง!”

ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินก็จอดลงบนพื้นและตบเอาฝุ่นควันขึ้นมา เขาตกใจที่เห็นว่าคู่ชินอวิ่นฟื้นขึ้นมาแล้ว และเขาก็พูดขึ้นอย่างตกตะลึง “เจ้าตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร? เจ้า ต้องนอนพักเป็นเวลาอย่างน้อยสิบชั่วโมง มิฉะนั้น มันจะใช้เวลานานในการรักษาร่างกายของเจ้า”

มองดูเซี่ยวเฉินที่จู่ๆก็กลับมา ฉู่ซินอวิ๋นขวยเขินยิ่งขึ้นไปอีก เซี่ยวเฉินมองไปที่หลิวสุยเฟิง,มองกันไปมองกันมาแลกเปลี่ยนสายตากัน

เซี่ยวเฉินได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นและถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ หากเป็นที่โลกเดิมของเขา,มันจะถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร ตอนนี้นั้นเขาอยู่ในโลกนี้ สิ่งพวกนี้กลายเป็นปัญหา

เซี่ยวเฉินโยนขวดเม็ดยาหวนคืนโลหิตให้กับฉู่ซินอวิ๋นและพูดขึ้น “หากเข้ายืนกรานที่จะไม่นอนพัก เช่นนั้นก็ใช้เม็ดยานี้เป็นเวลาสามวัน กินหนึ่งและโรยแผลหนึ่ง เพียงวันละครั้งก็เพียงพอแล้ว”

หลังจากที่เซี่ยวเฉินพูดจบ,เขาสะบัดมือของเขาและโยนสมุนไพรที่เขาเพิ่งเก็บมาให้กับฉู่ซินอวิ๋น เรือรบสีเงินปรากฏออกมาจากดวงตาขวาของเขา และเขาก็กระโดดขึ้นไปบนเรือ

หลิวสุยเฟิงช่วยพยุงคู่ชินอวิ่นขึ้นมา เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นว่าทั้งสองได้ขึ้นมาแล้วเขาควบคุมเรือสงครามสีเงินตรงไปที่ทางเข้าหุบเขาสายลมอสูรในทันที

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง,ฉู่ซินอวิ๋นก็จัดเรียงสมุนไพรอย่างเหมาะสม นางพบว่าพวกมันคือสมุนไพรทั้งหมดที่นางต้องการ,ไม่ขาดไปแม้แต่อย่างเดียว นางเดินไปที่ด้านหลังของเซี่ยวเฉินและพูดขึ้น “ขอบคุณ” เสียงนุ่ม

เซี่ยวเฉินรู้สึกอายเล็กน้อยขณะที่ยิ้มขึ้น “ไม่จําเป็นต้องขอบคุณข้า พวกเราควรหายกันแล้วตอนนี้”

จากนั้นเซี่ยวเฉินก็นึกถึงสิ่งที่เขาได้ทําลงไป และเขาก็รู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เขาได้ทําผิด

แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะทําไปโดยเจตนาดี,มันก็ผิดที่เขาไปพูดเช่นนั้นกับสตรี นี่อาจจะเป็นเหตุผลว่าทําไมเซี่ยวเฉินจึงช่วยน่ารวบรวมสมุนไพรมันเป็นการชดเชยให้นาง

“ใช่แล้ว,สุยเฟิง,ม้าทั้งสามตัวของพวกเราจะเป็นอะไรหรือไม่?” เซี่ยวเฉินพยายามกล่าวอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

หลิวสุยเฟิงตอบกลับ “นั้นไม่มีปัญหา แม้พวกเราจะจากมา ก็ยังมีคนดูแลพวกมันต่อไป พวกเราเพียงแค่ต้องกลับมาพามันไปคืน”

การเดินทางดําเนินต่อไปอย่างเงียบเชียบเซี่ยวเฉินไม่ได้พูดอะไรต่อและขับเรือสงครามสีเงินไปด้วยความเร็วสูงสุดของมัน เรือสงครามสีเงินกลายเปล่งแสง,พุ่งสูง ขึ้นไปบนท้องฟ้า

เมื่อพวกเขาสามารถมองเห็นเทือกเขาหลิงหยุน,เซี่ยวเฉิน ค่อยๆลดความเร็วลง น่านฟ้าของศาลากระปสวรรค์มีขีดกั้นหลายชั้นที่แตกต่างกันออกไป

หากเรือสงครามหรือคนที่ไม่ได้มาจากศาลากระบี่สวรรค์พวกเขาไม่มีทางรอดชีวิตจากการพยายามฝ่ามันเข้าไป แม้จะมีถึงเก้าชีวิตก็ตามเป็นปกติ เซี่ยวเฉินจะไม่ทําความผิดพลาดเช่นนี้

เมื่อพวกเขาเข้าใกล้ตีนเขา, เซี่ยวเฉินควบคุมเรือสงครามสีเงินลงจอดอย่างช้าๆ จากนั้นพวกเขาทั้งสามก็เริ่มเดินตรงไปที่เทือกเขาหลิงหยุน เมื่อพวกเขาผ่านทางเข้าเข้าไป,พวกเขาก็แยกทางกัน หลิวสุยเฟิงต้องไปส่งฉู่ซินอวิ๋นกลับทิ้งให้เซี่ยวเฉินต้องเดินกลับยอดเขาฉิงหยุนด้วยตัวเอง

ในจังหวะนั้นมันก็ใกล้ค่ําแล้ว ในตอนที่เซี่ยวเฉินมาถึงยอดเขาฉิงหยุนก็มืดแล้วเป็นที่เรียบร้อย

เขาได้ประสบเหตุการณ์มากมายในวันนี้ เซี่ยวเฉินเหนื่อยล้าถึงขีดสุด และหลังจากที่เขาผ่านเข้าห้องไปเขาล้มตัวลงที่เตียงและหลับไปในทันที

ในกลางดึกนั่นเอง,เขาได้ยินเสียง,ขณะที่กําลังงุนงง,ก็ได้ยินเสียงเคาะที่ประตูดังขึ้นเรื่อยๆ มันปลุกเซี่ยวเฉินให้ตื่นขึ้น

เซี่ยวเฉินลืมตาอย่างไม่เต็มใจนักและไปเปิดประตูอย่างหงุดหงิด เขาร้องออกมา “ใครกัน,ขัดขวางการนอนของข้า”

“ฟิ้ว ฟิ้ว!”

เจตนาฆ่าฟันที่สั่นสะเทือนปฐพีกลืนกินเซี่ยวเฉิน,ทําให้เซี่ยวเฉินตื่นเต็มตาในทันที จากนั้นเขาก็ถอยกลับอย่างระวัง

กระบี่เล็กวูบผ่าน,เฉียวจมูกเขาไปอย่างหวุดหวิด “เจ้าตื่นหรือยัง? หรือยังอยากที่จะนอนต่อ?”

โดยปกติ,มีเพียงหลิวหรูเยว่ที่ใช้วิธีรุนแรงเช่นนี้ใน การปลุกคนให้ตื่น:จะไม่มีผู้ใดในโลกอีกที่ทําเช่นนี้

เชี่ยวเฉินเห็นสีหน้าดํามืดและเย็นชาเป็นใบหน้าของนาง เขาถามขึ้นอย่างระวัง “พี่สายหรูเยว่ เกิดอะไรขึ้น? ทําไมถึงได้มาปลุกข้ากลางดึกเช่นนี้?”

หลิวหรูเยว่ดวงตาแดงก่ำพร้อมกับกล่าวอย่างเกรี้ยวโกรธ “เจ้ายังกล้าที่จะถาม? หลังจากเกิดเรื่องใหญ่โตเช่นนี้เจ้าไม่แม้แต่จะบอกกล่าวให้ข้าฟังและเดินตรงไปที่เตียง เจ้ายังเคารพข้าเป็นอาจารย์อยู่หรือไม่!?”

เซี่ยวเฉินไม่เคยเห็นหลิวหรูเยว่เดือดาลเช่นนี้มาก่อน แม้ว่าจุดเดือดของนางจะต่ำอยู่แล้วที่ผ่านมาในอดีต,มันก็ต่างไปจากที่เขาเห็นในวันนี้

นอกจากความเกรี้ยวโกรธ,นางยังดูเหมือนเจ็บปวด น้ำเสียงของนางเจือไปด้วยความผิดหวังอย่างชัดเจน 

เซี่ยวเฉินรีบครุ่นคิดว่าทําไมหลิวหรูเยวถึงได้โกรธ เขารีบอธิบาย “พี่สาวหรูเยว่,ข้าเชื่อว่าข้าจัดการสถานการณ์ที่หุบเขาสายลมอสูรได้อย่างหมดจด มันไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+