Immortal and Martial Dual Cultivation 166 น้ํานิ่งสมบูรณ์

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 166 น้ํานิ่งสมบูรณ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 166 น้ํานิ่งสมบูรณ์

 

เชี่ยวเฉินกล่าวเช่นนั้นทั้งที่รู้ว่าผลที่ตามมาอาจถึงชีวิต ขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดอาจจะไม่ต้องใช้พลังถึงหนึ่งในสิบส่วนในการสังหารเซียวเฉิน

 

ลูกผู้ชายจักต้องมีความทะเยอทะยานลูกผู้ชายคงอยู่ได้ด้วยความภาคภูมิและความทะเยอทะยาน

 

หากเขายังคงนิ่งเงียบ, หากเขาปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามมองข้ามหัวของเขาไปใช้กําลังรังแกอาจารย์ของเขา และโจมตีใส่หลิวหรูเยว่ ผู้ซึ่งได้บาดเจ็บสาหัส,เช่นนั้นเขาจะเป็นผู้ขายเช่นไร? เท่ากับว่าเขาได้ตกตายไปแล้ว

 

ซ่งเฉวสีหน้ากลายเป็นเย็นชาะมันเป็นเวลานานมากแล้ว ตั้งแต่ที่เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นท่านเจ้ายอดเขา ตั้งแต่ที่ยังมีใครกล้าดุด่าเขาเช่นนี้ อีกทั้งมันยังมาจากขอบเขตปรมจารย์ยุทธตัวกระจ้อยร่อย

 

“ฝีปากช่างคมกล้าเจ้าไม่กลัวจะกัดลิ้นตัวเอง? ตายซะ!”

 

หลังจากที่เขาพูดจบ,ซ่งเฉวเริ่มกลายเป็นเลือนราง,และเข้าก็พุ่งตรงมาที่เชี่ยวเฉินอย่างเลื่อนไหลราวกับสายน้ํา ทุกทุกที่ที่เขาผ่าน,มันราวกับมีแม่น้ําไหลผ่าน เลือดโลหิตที่อยู่ตามพื้นถูกชะล้างหายไป

 

“มโนภาพสามกระแสเมฆา!”

 

เซี่ยวเฉินพูดกับตัวเอง มโนภาพสามกระแสเมฆาที่ซ่งเฉว ใช้ออกมามันช่างดูราวกับเดินผ่านก้อนเมฆาและสายน้ําไหล มันไม่ดูอึดอาดแม้แต่น้อย มันมองดูเป็นธรรมชาติและคุณภาพสูง ราวกับแม่น้ําของจริงที่กําลังไหลพุ่งเป็นผลให้ผู้ใดไม่อาจสัมผัสได้ถึงอันตราย

 

หากนี้มันเป็นเมื่อหนึ่งวันก่อนเชี่ยวเฉินจะไม่สามารถป้องกันมันได้อย่างแน่นอน ซ่งเฉวได้ก้าวมาถึงระดับเชี่ยวชาญกับมโภาพสามกระแสเมฆา

 

อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินได้เข้าใจถึงสภาวะน้ํานิ่งสมบูรณ์ในป่าเมื่อวันก่อน เขาได้รับความเข้าใจในน้ํานิ่งสมบูรณ์ที่ซ่งเฉวนั้นยังไม่สําเร็จ

 

เชี่ยวเฉินโยนหลิวหรูเยว่อย่างอ่อนโยนไปทางหลิวสุยเพิ่ง เขาสงบจิตใจลงและทําดีอย่างที่สุดครุ่นคิดถึงสภาวะที่เขาเข้าไปในวันก่อน

 

แม้ว่าซ่งเฉวจะดูไม่มีพิษสงในตอนนี้เซี่ยวเฉินรู้ว่าหากเขาไม่สามารถเข้าสู่สภาวะนั้นได้ เมื่อเขารู้สึกตัวอีกครั้ง,จะเป็นตอนที่เขาถูกซ่งเฉวสังหารไปเรียบร้อยแล้ว

 

ในจุดอันตรายวิกฤต, ทันใดนั้นเซียวเฉินได้เข้าสู่สภาวะที่เขาเข้าไปในวันก่อน เขากลายเป็นผืนทะเลนิ่งสงบปราศจากคลื่นลม

 

ในสายตาของบุคคลอื่น พวกเขาทั้งสองกลายเป็นร่างเลือนราง ด้านหนึ่งดูเหมือนสายแม่น้ําที่พลุ่งพล่านอีกด้าน หนึ่งดูเหมือนผืนทะเลที่ไร้คลื่นนิ่งสงบ

 

เมื่อแม่น้ําเชี่ยวกรากและผืนทะเลมาพบกัน เกิดเป็นคลื่นกระแทกบ้าคลั่งที่ขยายออกไปโดยรอบมันราวกับน้ําสาดกระเซ็นไม่สิ้นสุด

 

“ปัง! ปัง! ปัง!” น้ํากระเซ็นในอากาศส่งเสียงระเบิดเข้มข้นออกมา ราวกับคลื่นบ้าคลั่งในพายุสมุทรไม่มีสิ้นสุดและบาดลึกไปถึงแก้วหมันช่างน่าเกรงขาม

 

ซ่งเฉวถอยกลับสามก้าวรู้สึกตกตะลึงอย่างมากในใจ น้ํานิ่งสมบูรณ์,สภาวะที่บรรลุได้ในตํานานเท่านั้นเข้าสามารถบรรลุมันได้เยี่ยงไร?

 

พลังมหาศาลไหลเข้าสู่ร่างของเซี่ยวเฉิน ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินรู้สึกราวกับว่ามันกําลังจะระเบิด เขารีบสลายพลังที่ถูกส่งมาโดยซ่งเฉว

 

ภายในทะเลจิตสํานึกของเชี่ยวเฉิน,หลังจากที่เขาสลายพลังออกไปจากร่าง,มีคลื่นเกิดขึ้นมาในทะเลสงบที่เขาเข้ามา

 

มันเป็นผลสะท้อนจากความเป็นจริง พื้นด้านหลังของเชี่ยวเฉินทันใดนั้นก็เกิดระเบิดขึ้นไม่หยุดหย่อน คลื่นของโคลนตมพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

“มันเป็นไปได้อย่างไร?! แม้ว่าเจ้าหมอนี่มันจะบรรลุน้ํานิ่งสมบูรณ์มาได้ ก็ไม่มีทางที่มันจะสามารถรับมือกับการโจมตีของพ่อขา ความแตกต่างระหว่างระดับขอบเขตพลังมันมีมากเกินไป” ซึ่งเขียนเหอกล่าวด้วยความตกตะลึงอย่างไม่น่าเชื่อ

 

กลุ่มคนข้างหลังของซ่งเชียนเหอก็ไม่สามารถเข้าใจได้เช่นกัน ความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของหลิวหรูเยว่ที่อยู่ห่างออกไป มันมีอยู่หลากหลายสภาวะฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันก็เป็นหนึ่งในสภาวะนั้น นางผู้ที่บรรลุฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันสามารถเข้าใจได้คราวๆว่าเกิดอะไรขึ้น

 

เมื่อผู้หนึ่งเข้าใจถึงสภาวะหนึ่งถึงระดับสูงสุด เมื่อเขาต่อสู้กับบุคคลอื่นที่ใช้ทักษะต่อสู้แบบเดียวกัน เขาจะได้เปรียบอย่างมหาศาล นี่เป็นสิ่งที่นางเรียนรู้มาด้วยตัวเอง

 

ซ่งเฉวกล่าวอย่างเยือกเย็น “น้ํานิ่งสมบูรณ์ ข้าสนใจอยากจะเห็นนักว่ามันแข็งแกร่งเช่นไร” ความภาคภูมิในระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดของซ่งเฉวไม่ยอมรับผลลัพธ์เช่นนี้ เขาได้ฝึกฝนมโนภาพสามกระแสเมฆามาตลอดทั้งชีวิตเขาจะไม่อาจไปเทียบเคียงกับรุ่นเยาว์ได้เช่นไร?

 

หลังจากที่ซ่งเฉวพูดจบ,เขาได้เปลี่ยนไปเป็นแม่น้ําเชี่ยวกราก,พุ่งตรงไปทางเซียวเฉิน เซียวเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยเขา ไม่กล้าที่จะประมาทและพร้อมกับเปลี่ยนไปเป็นทะเลอันไร้ขอบเขตและไม่สิ้นสุด

 

น้ํานิ่งสมบูรณ์,น้ํานั้นให้ประโยชน์แก่สิ่งมีชีวิตนับหมื่น นอกจากนั้น,เซี่ยวเฉินยังเข้าใจถึงมโนภาพสามกระแสเมฆา,แต่เดิมของมันเป็นเพียงทักษะต่อสู้สําหรับการป้องกันและสวนกลับ

 

ฝืนบังคับเปลี่ยนมันไปเป็นทักษะต่อสู้โจมตีเป็นธรรมดาที่จะเกิดผลนอกเหนือหลักการ

 

อย่างไรก็ตาม,ซ่งเฉวไม่ได้เข้าใจถึงแนวคิดนี้ เขาใช้ระดับบ่มเพาะพลังตั้งเป็นฐานและพุ่งเข้าหาเซี่ยวเฉินอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นเสียงปะทะดังไม่หยุดหย่อน

 

แม้แต่อากาศโดยรอบยังสั่นสะเทือนหลังจากนั้น เกิดเป็นสายระเบิดต่อเนื่องไปในอากาศ ผู้คนโดยรอบไม่กล้าเข้าไปใกล้พวกเขาต่างถอยหนีไปข้างหลัง

 

ลูกคลื่นรุนแรงสร้างคลื่นขนาดใหญ่บนผืนผิวสมุทร เสียงของคลื่นรุนแรงช่างน่าตกตะลึงเล็กน้อย

 

เชี่ยวเฉินราวกับเรือลําน้อยที่เลื่อนไหลไปตามสายลมสมุทร เขาถูกโยนไปมาด้วยลูกคลื่น,ราวกับจะถูกพวกมันกลืนกินลงไป อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปเรือน้อยลํานี้ไม่ได้ จมลงมันเลื่อนลอยไปกับคลื่น,ถูกเขย่าไปมา

 

ซ่งเฉวถอยกลับอีกครั้ง เขาได้เขาได้พุ่งเข้าใส่เป็นร้อย ครั้งใช้พลังมหาศาล เขาดูเหมือนเกือบจะระเบิดเซียวเฉินได้ทุกครั้ง อย่างไรก็ตามเขาก็ล้มเหลวทุกครั้งไป

 

ในครั้งนี้ เขาได้สูญเสียความอดทนความใจร้อนถึงขีดสุด ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา มือขวาของเขาเคลื่อนไหว และกระบี่เล่มหนาส่องแสงเย็นเฉียบปรากฏขึ้นในมือของเขา

 

เจตนาฆ่าฟันของซ่งเฉวค่อยๆขยายออกไปอย่างช้าๆ:เขาไม่ค่อยรู้สึกอยู่กจะฆ่าคนมากเท่าครั้งนี้มาก่อน นอกจากนั้น,โดยปกติเขาจะไม่แม้แต่ชายตามองระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธ

 

“สับแยกภูผา!”

 

“แตกสลายไปซะ!” ซ่งเฉวร้องตะโกน เรืองแสงบนกระบีกลายเป็นสงวนเอาไว้มันไม่ได้ดูฉุดฉาด อย่างไรก็ตาม มันแบกเอากระแสพลังสั่นสะเทือนปฐพีพร้อมกับสับลงไปที่เซียวเฉินอย่างรุนแรง ผืนทะเลไร้รูปที่เซียวเฉินกลายเป็นแตกแยกในทันที

 

“แย่แล้ว! เย่เฉินอยู่ในอันตราย!” หลิวหรูเยวร้องออกมาอย่างหวาดกลัวและอยากจะเข้าไปช่วยเมื่อนางเห็นซ่งเฉวได้ ทําลายมโนภาพสามกระแสเมฆา

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อนางหมุนเวียนพลังปราณของนาง,นางกระอักเลือดออกมาอย่างช่วยไม่ได้

 

ใบหน้าของหลิวหรูเยว่เต็มไปด้วยเลือด นางเผยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ ดวงตาของนางแดงกําพร้อมกับจ้องมองไปที่ซ่งเฉวอย่างเกรี้ยวโกรธ ในที่สุด,ดูเหมือนนางจะตัดสินใจบางอย่างได้นางจับกระบี่เงาจันทร์ไว้มั่นด้วยมือขวาของนาง

 

เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและทันใดนั้นก็ปลดปล่อยแสงสว่างจ้าออกมา เขามองดูซ่งเฉวพุ่งเข้าใส่เขาปานสายฟ้า,พร้อมกับกระบี่แยกภูผา

 

เขาได้เข้าใจ,อย่างแจ่มแจ้งในใจ,เขาไม่อาจจะป้องกันกระบี่นี้ไว้ได้ หากเขาอยากจะเป็นเหมือนตักแตนพยายามจะหยุดราชรถเช่นนั้นเขาก็จะเป็นเหมือนมดที่พยายามจะเขย่าต้นไม้เขาคงจะถูกสับขาดครึ่งและตกตายเป็นศพที่ไม่สมบูรณ์

 

TLตั๊กแตนพยายามจะหยุดราชรถทําสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

 

มดที่พยายามจะเขย่าต้นไม้:หากเขาอยากจะทําสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เขาได้ประเมินตัวเองสูงไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม เชี่ยวเฉินไม่ได้วางแผนจะป้องกันมัน ด้วยการสะบัดร่างของเขา,ระฆังจักรพรรดิตะวันตกออกได้ปรากฏขึ้นเหนือหัวของเขา,ออกมาจากความว่างเปล่า หลังจากนั้นครู่หนึ่ง,กลมันก็แปรเปลี่ยนไปเป็นระฆังทองแดงขนาดใหญ่

 

ด้วยเหตุผลบางประการ,ฉีสีดําเหลืองบนระฆังจักรพรรดิตะวันออกไม่สามารถเรียกใช้ได้อีกต่อไป เซียวเฉินตัดสินใจคุลมตัวเองด้วยระฆังทองแดง

 

เพียงนึกคิด,ระฆังจักรพรรดิตะวันออกทันใดนั้นก็ร่วงลงมาที่พื้นเสียงดังก้องกังวาล,คลุมร่างของเซี่ยวเฉินไว้มิดชิด

 

ซ่งเฉวยิ้มอย่างเย็นชาขณะที่มือของเขาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง “เจ้าตั้งใจจะใช้สมบัติลับมาป้องกันพลังเต็มพิกัดของข้า? ช่างไร้เดียงสา!”

 

“บูม!”

 

พลังโจมตีเต็มพิกัดของระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นสูงสุดขัด เข้าไปที่ระฆังจักรพรรดิตะวันออกอย่างรุนแรง เสียงกึกก้องไพเราะดังออกมาจากระฆังจักรพรรดิตะวันออก,สะท้อนไปในอากาศ

 

หลังจากนั้น, ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน ท่านเจ้ายอดเขาปี้อวิ๋น,ระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นสูงสุด, ถูกดีดกลับมาอย่างรวดเร็วราวกับกระสุนปืนใหญ่

 

อย่างไรก็ตาม เขามาเร็วเท่าไหร่,เขาเด้งกลับไปเร็วกว่าสองเท่า ซ่งเฉวรู้สึกว่าฉีและโลหิตของเขาบันปวนขณะที่มีของรสหวานบางอย่างในปากของเขา,ราวกับเขาจะกระอักเลือดออกมา

 

ซ่งเฉวรีบหมุนเวียนพลังปราณของเขากลางอากาศ, ระงับเลือดที่กําลังพุ่งออกมา หากเขาถูกกดดันจนถึงกับกระอักเลือดโดยระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นต้นต่อหน้าของกลุ่มรุ่นเยาว์,เขาคงจะอับอายจนถึงแก่ความตาย

 

อย่างไรก็ตาม,ซ่งเฉวไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะลอยกลับหลังไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ในอากาศ,หากเขาไม่สามารถหมุนกลับตัวได้ทันเขาคงจะกลิ้งไปกับพื้น

 

กว่าที่ซ่งเฉวระงับฉีกับโลหิตของเขาและได้ฟื้นคืนสติ,มันก็สายเกินไปแล้วที่จะหมุนกลับตัว

 

ซ่งเฉวหัวหิมดินก่อนเกิดเสียงดังสั่นสะเทือน หลังจากม้วนกลิ้งไปสองรอบ,ซ่งเฉวก็ร้องตะโกนและยืนขึ้นอีกครั้ง

 

ใบหน้าของซ่งเฉวตอนนี้กลายเป็นมีดเทา เขาพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่าระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นต้นจะสามารถทําให้เขาม้วนกลิ้งไปกับพื้น นี่มันน่าอับอายยิ่งกว่ากระอักเลือดออกมา

 

ซ่งเฉวหวังจะสังหารเซี่ยวเฉินยิ่งขึ้นไปอีก ไม่เคยมีใครก่อนหน้ามันผู้นี้ที่ทําให้ซ่งเฉวปวดหัวได้เช่นนี้ ตลอดชีวิตของเขา เขาได้สังหารขอบเขตกษัตริย์ไปนับไม่ถ้วนในการต่อสู้ และผ่านสมรภูมยากลําบากมาทุกรูปแบบ อย่างไรก็ตาม,ไม่เคยมีครั้งใดที่เขาตกอยู่ในสภาพน่าสมเพชเช่นตอนนี้มาก่อน

 

เขาได้ลืมจุดประสงค์ที่มาไปหมดสิ้น เขาต้องการเพียงสับเซี่ยวเฉินให้เป็นหมื่นชิ้นเพื่อขจัดความเกลียดชังในใจของเขา

 

มองดูเชี่ยวเฉินที่ซ่อนตัวอยู่ในระฆังจักรพรรดิตะวันออก,ซ่งเฉวพยายามอย่างที่สุดเพื่อสงบสติลงและคิดอย่างรอบคอบ

 

แม้ว่าแรงสะท้อนกลับของสมบัติลับชิ้นนี้จะแข็งแกร่ง,มันยังเป็นของที่ข้าสามารถรับมือได้ นอกจากนั้น,สมบัติลับชิ้นนี้ยังเป็นสมบัติลับที่เสียหาย ข้าต้องจดจ่อพลังของข้า ไปที่จุดจุดเดียวและโจมตีใส่อย่างต่อเนื่อง จากนั้นข้าจะสามารถทําลายสมบัติลับชิ้นนี้ลงได้

 

เมื่อซ่งเฉวตัดสินใจได้เขากระโดดขึ้นหน้าไปในทันที่และใช้กระบี่ของเขาโจมตีเข้าใส่ระฆังจักรพรรดิตะวันออก

 

เกิดแรงสะท้อนมหาศาลกลับมา แต่ซ่งเฉวได้เตรียมพร้อมมาแล้วในครั้งนี้ เขาหมุนตัวกลางอากาศอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นเขาสลายพลังนี้ออกไปสู่ความว่างเปล่า

 

ซ่งเฉวลอยกลับมาที่ระฆังจักรพรรดิตะวันออกด้วยแสงวูบ และชัดเข้าที่จุดเดิมที่เข้าตีใส่ก่อนหน้านี้ เขาทําซ้ําอย่างต่อเนื่องในพริบตาเดียว,เขาได้ชัดใส่มันนับร้อยครั้ง

 

ระฆังส่งเสียงออกมา สิ้นเสียงไม่หยุดหย่อน, ขยายไปทั่วศาลากระปสวรรค์ เมื่อศิษย์ชั้นในของศาลากระบี่สวรรค์หลายคนได้ยินเสียง,พวกเขาต่างรู้สึกว่ามันแปลกประหลาด พวกเขาทั้งหมดตรงมาตามเสียงด้วยความสงสัย

 

แม้ว่าเซียวเฉินจะซ่อนตัวอยู่ในระฆังจักรพรรดิตะวันออก,เขาก็รู้สึกไม่ดีอย่างที่สุด เสียงที่ดังสะท้อนกลับไปกลับมาแทบจะทําให้แก้วหูของเขาฉีกขาด อวัยวะภายในของเขาทั้งหมดปั่นป่วน เขาไม่อาจแม้แต่จะอาเจียนออกมาแม้ว่าเขาจะต้องการ

 

หลังจากที่โจมตีเข้าไปหลายร้อยครั้งด้วยกระบี่ในที่สุดก็เกิดรอยแตกเล็กๆปรากฏบนระฆังจักรพรรดิตะวันออก มีความปิติปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซ่งเฉว

 

ทันใดนั้นร่างของซ่งเฉวก็ลอยสูงขึ้นไปในอากาศ:เขากระโดดสูงขึ้นไปหลายร้อยเมตรในทันที เขาอยากจะให้มันเป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย,หมายจะทําลายระฆังขนาดเท่าเขื่อนและลากตัวเซียวเฉินออกมาสับเป็นชิ้น

 

เซียวเฉินรู้สึกแปลกที่จู่ๆเสียงก็หยุดลง เขาค่อยๆใช้สัมผัสวิญญาณของเขาตรวจสอบสถานการณ์ เขาพบรอยแตกบนระฆังในทันที

 

เขารู้สึกกลัวอย่างช่วยไม่ได้ หากระฆังจักรพรรดิตะวันออกเกิดแตกสลายขึ้นมาจริงๆ เขาคงไม่อาจป้องกันกระบวณท่าของซ่งเฉวได้แม้แต่ท่าเดียวด้วยระดับพลังปัจจุบันของเขา

 

“ไม่เป็นไรในเมื่อข้าจะต้องตาย, ข้าก็จะเดิมพันทุกอย่างของข้า!” เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นซ่งเฉวตกลงมาจากฟากฟ้า,ความเด็ดเดี่ยววูบผ่านดวงตาของเขา

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 166 น้ํานิ่งสมบูรณ์

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 166 น้ํานิ่งสมบูรณ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 166 น้ํานิ่งสมบูรณ์

 

เชี่ยวเฉินกล่าวเช่นนั้นทั้งที่รู้ว่าผลที่ตามมาอาจถึงชีวิต ขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดอาจจะไม่ต้องใช้พลังถึงหนึ่งในสิบส่วนในการสังหารเซียวเฉิน

 

ลูกผู้ชายจักต้องมีความทะเยอทะยานลูกผู้ชายคงอยู่ได้ด้วยความภาคภูมิและความทะเยอทะยาน

 

หากเขายังคงนิ่งเงียบ, หากเขาปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามมองข้ามหัวของเขาไปใช้กําลังรังแกอาจารย์ของเขา และโจมตีใส่หลิวหรูเยว่ ผู้ซึ่งได้บาดเจ็บสาหัส,เช่นนั้นเขาจะเป็นผู้ขายเช่นไร? เท่ากับว่าเขาได้ตกตายไปแล้ว

 

ซ่งเฉวสีหน้ากลายเป็นเย็นชาะมันเป็นเวลานานมากแล้ว ตั้งแต่ที่เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นท่านเจ้ายอดเขา ตั้งแต่ที่ยังมีใครกล้าดุด่าเขาเช่นนี้ อีกทั้งมันยังมาจากขอบเขตปรมจารย์ยุทธตัวกระจ้อยร่อย

 

“ฝีปากช่างคมกล้าเจ้าไม่กลัวจะกัดลิ้นตัวเอง? ตายซะ!”

 

หลังจากที่เขาพูดจบ,ซ่งเฉวเริ่มกลายเป็นเลือนราง,และเข้าก็พุ่งตรงมาที่เชี่ยวเฉินอย่างเลื่อนไหลราวกับสายน้ํา ทุกทุกที่ที่เขาผ่าน,มันราวกับมีแม่น้ําไหลผ่าน เลือดโลหิตที่อยู่ตามพื้นถูกชะล้างหายไป

 

“มโนภาพสามกระแสเมฆา!”

 

เซี่ยวเฉินพูดกับตัวเอง มโนภาพสามกระแสเมฆาที่ซ่งเฉว ใช้ออกมามันช่างดูราวกับเดินผ่านก้อนเมฆาและสายน้ําไหล มันไม่ดูอึดอาดแม้แต่น้อย มันมองดูเป็นธรรมชาติและคุณภาพสูง ราวกับแม่น้ําของจริงที่กําลังไหลพุ่งเป็นผลให้ผู้ใดไม่อาจสัมผัสได้ถึงอันตราย

 

หากนี้มันเป็นเมื่อหนึ่งวันก่อนเชี่ยวเฉินจะไม่สามารถป้องกันมันได้อย่างแน่นอน ซ่งเฉวได้ก้าวมาถึงระดับเชี่ยวชาญกับมโภาพสามกระแสเมฆา

 

อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินได้เข้าใจถึงสภาวะน้ํานิ่งสมบูรณ์ในป่าเมื่อวันก่อน เขาได้รับความเข้าใจในน้ํานิ่งสมบูรณ์ที่ซ่งเฉวนั้นยังไม่สําเร็จ

 

เชี่ยวเฉินโยนหลิวหรูเยว่อย่างอ่อนโยนไปทางหลิวสุยเพิ่ง เขาสงบจิตใจลงและทําดีอย่างที่สุดครุ่นคิดถึงสภาวะที่เขาเข้าไปในวันก่อน

 

แม้ว่าซ่งเฉวจะดูไม่มีพิษสงในตอนนี้เซี่ยวเฉินรู้ว่าหากเขาไม่สามารถเข้าสู่สภาวะนั้นได้ เมื่อเขารู้สึกตัวอีกครั้ง,จะเป็นตอนที่เขาถูกซ่งเฉวสังหารไปเรียบร้อยแล้ว

 

ในจุดอันตรายวิกฤต, ทันใดนั้นเซียวเฉินได้เข้าสู่สภาวะที่เขาเข้าไปในวันก่อน เขากลายเป็นผืนทะเลนิ่งสงบปราศจากคลื่นลม

 

ในสายตาของบุคคลอื่น พวกเขาทั้งสองกลายเป็นร่างเลือนราง ด้านหนึ่งดูเหมือนสายแม่น้ําที่พลุ่งพล่านอีกด้าน หนึ่งดูเหมือนผืนทะเลที่ไร้คลื่นนิ่งสงบ

 

เมื่อแม่น้ําเชี่ยวกรากและผืนทะเลมาพบกัน เกิดเป็นคลื่นกระแทกบ้าคลั่งที่ขยายออกไปโดยรอบมันราวกับน้ําสาดกระเซ็นไม่สิ้นสุด

 

“ปัง! ปัง! ปัง!” น้ํากระเซ็นในอากาศส่งเสียงระเบิดเข้มข้นออกมา ราวกับคลื่นบ้าคลั่งในพายุสมุทรไม่มีสิ้นสุดและบาดลึกไปถึงแก้วหมันช่างน่าเกรงขาม

 

ซ่งเฉวถอยกลับสามก้าวรู้สึกตกตะลึงอย่างมากในใจ น้ํานิ่งสมบูรณ์,สภาวะที่บรรลุได้ในตํานานเท่านั้นเข้าสามารถบรรลุมันได้เยี่ยงไร?

 

พลังมหาศาลไหลเข้าสู่ร่างของเซี่ยวเฉิน ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินรู้สึกราวกับว่ามันกําลังจะระเบิด เขารีบสลายพลังที่ถูกส่งมาโดยซ่งเฉว

 

ภายในทะเลจิตสํานึกของเชี่ยวเฉิน,หลังจากที่เขาสลายพลังออกไปจากร่าง,มีคลื่นเกิดขึ้นมาในทะเลสงบที่เขาเข้ามา

 

มันเป็นผลสะท้อนจากความเป็นจริง พื้นด้านหลังของเชี่ยวเฉินทันใดนั้นก็เกิดระเบิดขึ้นไม่หยุดหย่อน คลื่นของโคลนตมพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

“มันเป็นไปได้อย่างไร?! แม้ว่าเจ้าหมอนี่มันจะบรรลุน้ํานิ่งสมบูรณ์มาได้ ก็ไม่มีทางที่มันจะสามารถรับมือกับการโจมตีของพ่อขา ความแตกต่างระหว่างระดับขอบเขตพลังมันมีมากเกินไป” ซึ่งเขียนเหอกล่าวด้วยความตกตะลึงอย่างไม่น่าเชื่อ

 

กลุ่มคนข้างหลังของซ่งเชียนเหอก็ไม่สามารถเข้าใจได้เช่นกัน ความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของหลิวหรูเยว่ที่อยู่ห่างออกไป มันมีอยู่หลากหลายสภาวะฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันก็เป็นหนึ่งในสภาวะนั้น นางผู้ที่บรรลุฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันสามารถเข้าใจได้คราวๆว่าเกิดอะไรขึ้น

 

เมื่อผู้หนึ่งเข้าใจถึงสภาวะหนึ่งถึงระดับสูงสุด เมื่อเขาต่อสู้กับบุคคลอื่นที่ใช้ทักษะต่อสู้แบบเดียวกัน เขาจะได้เปรียบอย่างมหาศาล นี่เป็นสิ่งที่นางเรียนรู้มาด้วยตัวเอง

 

ซ่งเฉวกล่าวอย่างเยือกเย็น “น้ํานิ่งสมบูรณ์ ข้าสนใจอยากจะเห็นนักว่ามันแข็งแกร่งเช่นไร” ความภาคภูมิในระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดของซ่งเฉวไม่ยอมรับผลลัพธ์เช่นนี้ เขาได้ฝึกฝนมโนภาพสามกระแสเมฆามาตลอดทั้งชีวิตเขาจะไม่อาจไปเทียบเคียงกับรุ่นเยาว์ได้เช่นไร?

 

หลังจากที่ซ่งเฉวพูดจบ,เขาได้เปลี่ยนไปเป็นแม่น้ําเชี่ยวกราก,พุ่งตรงไปทางเซียวเฉิน เซียวเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยเขา ไม่กล้าที่จะประมาทและพร้อมกับเปลี่ยนไปเป็นทะเลอันไร้ขอบเขตและไม่สิ้นสุด

 

น้ํานิ่งสมบูรณ์,น้ํานั้นให้ประโยชน์แก่สิ่งมีชีวิตนับหมื่น นอกจากนั้น,เซี่ยวเฉินยังเข้าใจถึงมโนภาพสามกระแสเมฆา,แต่เดิมของมันเป็นเพียงทักษะต่อสู้สําหรับการป้องกันและสวนกลับ

 

ฝืนบังคับเปลี่ยนมันไปเป็นทักษะต่อสู้โจมตีเป็นธรรมดาที่จะเกิดผลนอกเหนือหลักการ

 

อย่างไรก็ตาม,ซ่งเฉวไม่ได้เข้าใจถึงแนวคิดนี้ เขาใช้ระดับบ่มเพาะพลังตั้งเป็นฐานและพุ่งเข้าหาเซี่ยวเฉินอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นเสียงปะทะดังไม่หยุดหย่อน

 

แม้แต่อากาศโดยรอบยังสั่นสะเทือนหลังจากนั้น เกิดเป็นสายระเบิดต่อเนื่องไปในอากาศ ผู้คนโดยรอบไม่กล้าเข้าไปใกล้พวกเขาต่างถอยหนีไปข้างหลัง

 

ลูกคลื่นรุนแรงสร้างคลื่นขนาดใหญ่บนผืนผิวสมุทร เสียงของคลื่นรุนแรงช่างน่าตกตะลึงเล็กน้อย

 

เชี่ยวเฉินราวกับเรือลําน้อยที่เลื่อนไหลไปตามสายลมสมุทร เขาถูกโยนไปมาด้วยลูกคลื่น,ราวกับจะถูกพวกมันกลืนกินลงไป อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปเรือน้อยลํานี้ไม่ได้ จมลงมันเลื่อนลอยไปกับคลื่น,ถูกเขย่าไปมา

 

ซ่งเฉวถอยกลับอีกครั้ง เขาได้เขาได้พุ่งเข้าใส่เป็นร้อย ครั้งใช้พลังมหาศาล เขาดูเหมือนเกือบจะระเบิดเซียวเฉินได้ทุกครั้ง อย่างไรก็ตามเขาก็ล้มเหลวทุกครั้งไป

 

ในครั้งนี้ เขาได้สูญเสียความอดทนความใจร้อนถึงขีดสุด ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา มือขวาของเขาเคลื่อนไหว และกระบี่เล่มหนาส่องแสงเย็นเฉียบปรากฏขึ้นในมือของเขา

 

เจตนาฆ่าฟันของซ่งเฉวค่อยๆขยายออกไปอย่างช้าๆ:เขาไม่ค่อยรู้สึกอยู่กจะฆ่าคนมากเท่าครั้งนี้มาก่อน นอกจากนั้น,โดยปกติเขาจะไม่แม้แต่ชายตามองระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธ

 

“สับแยกภูผา!”

 

“แตกสลายไปซะ!” ซ่งเฉวร้องตะโกน เรืองแสงบนกระบีกลายเป็นสงวนเอาไว้มันไม่ได้ดูฉุดฉาด อย่างไรก็ตาม มันแบกเอากระแสพลังสั่นสะเทือนปฐพีพร้อมกับสับลงไปที่เซียวเฉินอย่างรุนแรง ผืนทะเลไร้รูปที่เซียวเฉินกลายเป็นแตกแยกในทันที

 

“แย่แล้ว! เย่เฉินอยู่ในอันตราย!” หลิวหรูเยวร้องออกมาอย่างหวาดกลัวและอยากจะเข้าไปช่วยเมื่อนางเห็นซ่งเฉวได้ ทําลายมโนภาพสามกระแสเมฆา

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อนางหมุนเวียนพลังปราณของนาง,นางกระอักเลือดออกมาอย่างช่วยไม่ได้

 

ใบหน้าของหลิวหรูเยว่เต็มไปด้วยเลือด นางเผยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ ดวงตาของนางแดงกําพร้อมกับจ้องมองไปที่ซ่งเฉวอย่างเกรี้ยวโกรธ ในที่สุด,ดูเหมือนนางจะตัดสินใจบางอย่างได้นางจับกระบี่เงาจันทร์ไว้มั่นด้วยมือขวาของนาง

 

เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและทันใดนั้นก็ปลดปล่อยแสงสว่างจ้าออกมา เขามองดูซ่งเฉวพุ่งเข้าใส่เขาปานสายฟ้า,พร้อมกับกระบี่แยกภูผา

 

เขาได้เข้าใจ,อย่างแจ่มแจ้งในใจ,เขาไม่อาจจะป้องกันกระบี่นี้ไว้ได้ หากเขาอยากจะเป็นเหมือนตักแตนพยายามจะหยุดราชรถเช่นนั้นเขาก็จะเป็นเหมือนมดที่พยายามจะเขย่าต้นไม้เขาคงจะถูกสับขาดครึ่งและตกตายเป็นศพที่ไม่สมบูรณ์

 

TLตั๊กแตนพยายามจะหยุดราชรถทําสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

 

มดที่พยายามจะเขย่าต้นไม้:หากเขาอยากจะทําสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เขาได้ประเมินตัวเองสูงไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม เชี่ยวเฉินไม่ได้วางแผนจะป้องกันมัน ด้วยการสะบัดร่างของเขา,ระฆังจักรพรรดิตะวันตกออกได้ปรากฏขึ้นเหนือหัวของเขา,ออกมาจากความว่างเปล่า หลังจากนั้นครู่หนึ่ง,กลมันก็แปรเปลี่ยนไปเป็นระฆังทองแดงขนาดใหญ่

 

ด้วยเหตุผลบางประการ,ฉีสีดําเหลืองบนระฆังจักรพรรดิตะวันออกไม่สามารถเรียกใช้ได้อีกต่อไป เซียวเฉินตัดสินใจคุลมตัวเองด้วยระฆังทองแดง

 

เพียงนึกคิด,ระฆังจักรพรรดิตะวันออกทันใดนั้นก็ร่วงลงมาที่พื้นเสียงดังก้องกังวาล,คลุมร่างของเซี่ยวเฉินไว้มิดชิด

 

ซ่งเฉวยิ้มอย่างเย็นชาขณะที่มือของเขาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง “เจ้าตั้งใจจะใช้สมบัติลับมาป้องกันพลังเต็มพิกัดของข้า? ช่างไร้เดียงสา!”

 

“บูม!”

 

พลังโจมตีเต็มพิกัดของระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นสูงสุดขัด เข้าไปที่ระฆังจักรพรรดิตะวันออกอย่างรุนแรง เสียงกึกก้องไพเราะดังออกมาจากระฆังจักรพรรดิตะวันออก,สะท้อนไปในอากาศ

 

หลังจากนั้น, ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน ท่านเจ้ายอดเขาปี้อวิ๋น,ระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นสูงสุด, ถูกดีดกลับมาอย่างรวดเร็วราวกับกระสุนปืนใหญ่

 

อย่างไรก็ตาม เขามาเร็วเท่าไหร่,เขาเด้งกลับไปเร็วกว่าสองเท่า ซ่งเฉวรู้สึกว่าฉีและโลหิตของเขาบันปวนขณะที่มีของรสหวานบางอย่างในปากของเขา,ราวกับเขาจะกระอักเลือดออกมา

 

ซ่งเฉวรีบหมุนเวียนพลังปราณของเขากลางอากาศ, ระงับเลือดที่กําลังพุ่งออกมา หากเขาถูกกดดันจนถึงกับกระอักเลือดโดยระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นต้นต่อหน้าของกลุ่มรุ่นเยาว์,เขาคงจะอับอายจนถึงแก่ความตาย

 

อย่างไรก็ตาม,ซ่งเฉวไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะลอยกลับหลังไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ในอากาศ,หากเขาไม่สามารถหมุนกลับตัวได้ทันเขาคงจะกลิ้งไปกับพื้น

 

กว่าที่ซ่งเฉวระงับฉีกับโลหิตของเขาและได้ฟื้นคืนสติ,มันก็สายเกินไปแล้วที่จะหมุนกลับตัว

 

ซ่งเฉวหัวหิมดินก่อนเกิดเสียงดังสั่นสะเทือน หลังจากม้วนกลิ้งไปสองรอบ,ซ่งเฉวก็ร้องตะโกนและยืนขึ้นอีกครั้ง

 

ใบหน้าของซ่งเฉวตอนนี้กลายเป็นมีดเทา เขาพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่าระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นต้นจะสามารถทําให้เขาม้วนกลิ้งไปกับพื้น นี่มันน่าอับอายยิ่งกว่ากระอักเลือดออกมา

 

ซ่งเฉวหวังจะสังหารเซี่ยวเฉินยิ่งขึ้นไปอีก ไม่เคยมีใครก่อนหน้ามันผู้นี้ที่ทําให้ซ่งเฉวปวดหัวได้เช่นนี้ ตลอดชีวิตของเขา เขาได้สังหารขอบเขตกษัตริย์ไปนับไม่ถ้วนในการต่อสู้ และผ่านสมรภูมยากลําบากมาทุกรูปแบบ อย่างไรก็ตาม,ไม่เคยมีครั้งใดที่เขาตกอยู่ในสภาพน่าสมเพชเช่นตอนนี้มาก่อน

 

เขาได้ลืมจุดประสงค์ที่มาไปหมดสิ้น เขาต้องการเพียงสับเซี่ยวเฉินให้เป็นหมื่นชิ้นเพื่อขจัดความเกลียดชังในใจของเขา

 

มองดูเชี่ยวเฉินที่ซ่อนตัวอยู่ในระฆังจักรพรรดิตะวันออก,ซ่งเฉวพยายามอย่างที่สุดเพื่อสงบสติลงและคิดอย่างรอบคอบ

 

แม้ว่าแรงสะท้อนกลับของสมบัติลับชิ้นนี้จะแข็งแกร่ง,มันยังเป็นของที่ข้าสามารถรับมือได้ นอกจากนั้น,สมบัติลับชิ้นนี้ยังเป็นสมบัติลับที่เสียหาย ข้าต้องจดจ่อพลังของข้า ไปที่จุดจุดเดียวและโจมตีใส่อย่างต่อเนื่อง จากนั้นข้าจะสามารถทําลายสมบัติลับชิ้นนี้ลงได้

 

เมื่อซ่งเฉวตัดสินใจได้เขากระโดดขึ้นหน้าไปในทันที่และใช้กระบี่ของเขาโจมตีเข้าใส่ระฆังจักรพรรดิตะวันออก

 

เกิดแรงสะท้อนมหาศาลกลับมา แต่ซ่งเฉวได้เตรียมพร้อมมาแล้วในครั้งนี้ เขาหมุนตัวกลางอากาศอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นเขาสลายพลังนี้ออกไปสู่ความว่างเปล่า

 

ซ่งเฉวลอยกลับมาที่ระฆังจักรพรรดิตะวันออกด้วยแสงวูบ และชัดเข้าที่จุดเดิมที่เข้าตีใส่ก่อนหน้านี้ เขาทําซ้ําอย่างต่อเนื่องในพริบตาเดียว,เขาได้ชัดใส่มันนับร้อยครั้ง

 

ระฆังส่งเสียงออกมา สิ้นเสียงไม่หยุดหย่อน, ขยายไปทั่วศาลากระปสวรรค์ เมื่อศิษย์ชั้นในของศาลากระบี่สวรรค์หลายคนได้ยินเสียง,พวกเขาต่างรู้สึกว่ามันแปลกประหลาด พวกเขาทั้งหมดตรงมาตามเสียงด้วยความสงสัย

 

แม้ว่าเซียวเฉินจะซ่อนตัวอยู่ในระฆังจักรพรรดิตะวันออก,เขาก็รู้สึกไม่ดีอย่างที่สุด เสียงที่ดังสะท้อนกลับไปกลับมาแทบจะทําให้แก้วหูของเขาฉีกขาด อวัยวะภายในของเขาทั้งหมดปั่นป่วน เขาไม่อาจแม้แต่จะอาเจียนออกมาแม้ว่าเขาจะต้องการ

 

หลังจากที่โจมตีเข้าไปหลายร้อยครั้งด้วยกระบี่ในที่สุดก็เกิดรอยแตกเล็กๆปรากฏบนระฆังจักรพรรดิตะวันออก มีความปิติปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซ่งเฉว

 

ทันใดนั้นร่างของซ่งเฉวก็ลอยสูงขึ้นไปในอากาศ:เขากระโดดสูงขึ้นไปหลายร้อยเมตรในทันที เขาอยากจะให้มันเป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย,หมายจะทําลายระฆังขนาดเท่าเขื่อนและลากตัวเซียวเฉินออกมาสับเป็นชิ้น

 

เซียวเฉินรู้สึกแปลกที่จู่ๆเสียงก็หยุดลง เขาค่อยๆใช้สัมผัสวิญญาณของเขาตรวจสอบสถานการณ์ เขาพบรอยแตกบนระฆังในทันที

 

เขารู้สึกกลัวอย่างช่วยไม่ได้ หากระฆังจักรพรรดิตะวันออกเกิดแตกสลายขึ้นมาจริงๆ เขาคงไม่อาจป้องกันกระบวณท่าของซ่งเฉวได้แม้แต่ท่าเดียวด้วยระดับพลังปัจจุบันของเขา

 

“ไม่เป็นไรในเมื่อข้าจะต้องตาย, ข้าก็จะเดิมพันทุกอย่างของข้า!” เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นซ่งเฉวตกลงมาจากฟากฟ้า,ความเด็ดเดี่ยววูบผ่านดวงตาของเขา

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+