Immortal and Martial Dual Cultivation 177 กระบี่บินโกลาหล

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 177 กระบี่บินโกลาหล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 177 กระบี่บินโกลาหล

 

นอกจากนั้นเซี่ยวเฉินพบว่าทักษะต่อสู้นี้พิเศษอย่างมากกระบี่สั้นที่กวัดแกว่ง,ยิ่งมากจํานวนยิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิมใน ตอนที่เขายังมีกระบี่สองเล่ม,มันช้ากว่าในตอนปัจจุบันมากกว่าครึ่ง

 

“นี้คือทักษะลับของยอดเขาว่านเหริน-กระบีบินโกลาหล ว่ากันว่าเมื่อฝึกฝนถึงจุดสูงสุด,มันสามารถควบคุมกระบุได้ถึงสิบแปดเล่ม สามารถควบคุมกระบี่สั้นสี่เล่มได้อย่างง่ายดาย,สมชื่อศิษย์แก่นกลางของยอดเขาว่านเหริน”

 

“ด้วยระดับพลังขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นสูงสุดของเขา พร้อมด้วยพลังของทักษะลับ,หยางฉีสามารถประมือกับขอบเขตนักบุญขั้นต้นได้ ไม่น่าจะมีปัญหาที่จะรับมือกับระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นต้น”

 

“สิ่งที่สําคัญที่สุดคือเขาปล่อยให้หยางฉีชิงความได้เปรียบไปแล้ว ด้วยสถานการณ์ตอนนี้เขาไม่มีโอกาสที่จะพลิกกลับมาได้ หลังจากที่กระบี่บินโกลาหลใช้ออกมา,ความเร็วของมันมีแต่จะเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าเขาจะมีทักษะ ต่อสู้ที่จะงดออกมาพลิกสถานการณ์,เขาก็ไม่มีแม้แต่โอกาสจะใช้มันออกมา”

 

“มันผู้นี้เหิมเกริมเกินไป แม้จะมาตัวคนเดียว เขายังกล้าทําร้ายสานุศิษย์ยอดเขาว่านเหรินหลายคนในโถงคุณความชอบ หยางฉีไม่ใช่ศิษย์แก่นกลางเพียงคนเดียวของยอดเขาว่านเหริน นอกจากนั้นยังมีศิษย์สืบทอดอยู่เบื้องหลังของพวก เขาที่ยังไม่ปรากฏตัวออกมาเขามันบ้าบินอย่างแท้จริง”

 

การต่อสู้เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆและสถานการณ์ของเซี่ยว เฉินน่าเป็นห่วงผู้คนโดยรอบออกความเห็นเกี่ยวกับเชียวเฉิน,อย่างไรก็ตามเขาเป็นเพียงระดับขอบเขตปรมาจารย์ ยุทธขั้นต้นเมื่อเขาเผชิญหน้ากับหยางฉีที่แข็งแกร่งกว่าเขา จะไม่มีแม้แต่โอกาส”

 

เซียวเฉินยังคงนิ่ง กระบี่เงาจันทร์ในมือขวาของเขาวูบไหวราวกับสายน้ํา,ปัดป้องกระบี่สั้นในมือของหยางฉี มือซ้ายของเขาถือฝักกระบี่กวัดแกว่งไปมา เขาป้องกันกระบี่สั้นที่ หมุนอยู่ในอากาศไปทีละเล่ม

 

“ฟว จิ๋ว!”

 

หยางฉีหยิบกระบี่ที่คาดอยู่ตรงเอวของเขาออกมาอีกสอง เล่ม ทันใดนั้น,กระบี่ที่เขาควบคุมอยู่ก็กลายเป็นหกเล่มความเร็วของมันกลายเป็นเร็วขึ้นและแสงกระบี่หมุนวนราวกับเงาล่องลอย

 

เสียงเหล็กกระทบดังกึกก้องไม่หยุด แขนของเซี่ยวเฉินมีแผลจากกระบี่เพิ่มขึ้นอีกสองสามแห่ง

 

แม้ว่าเซียวเฉินจะไม่ได้อยู่ในจังหวะได้เปรียบ,หัวใจของเขาก็ยังคงนิ่งสงบดุจสายน้ํา,เขาไม่ได้ตื่นกลัวแม้แต่น้อยเปลวเพลิงเริ่มเผาไหม้ในดวงตาของเขาอย่างช้าๆ มันสะสมพลังขณะเตรียมตัวที่จะปลดปล่อยออกมา

 

มันยังไม่ถึงเวลา, นี่ยังไม่ถึงขีดจํากัดของเขา,เซี่ยวเฉินครู่นคิดกับตัวเอง ลักษณะเฉพาะของกระบี่บินโกลาหลคือความต่อเนื่องของมันจํานวนกระบี่ที่ใช้ ยิ่งต้องการความต่อเนื่องที่แข็งแกร่ง

 

ดังนั้น การเพิ่มจํานวนกระบี่เป็นสิ่งที่ต้องฝืนทํา หากความเร็วของมันตกลงและจํานวนของกระบีเพิ่มขึ้น,ความต่อเนื่องก็จะถูกทําร้ายลง

 

หากมันเหมือนกับสายพานที่อยู่ในรถ หากมันช้าลง,ความเร็วของรถก็จะช้าลงตามไปด้วย หรือแม้กระทั่งหยุดทํางานหากสายพานขาด, จะเกิดอะไรขึ้นกับรถ? หากรถกําลังวิ่งไปด้วยความเร็วสูงจากนั้นสายพานก็ขาดลงอย่างฉับพลัน,รถ คันนั้นก็ไม่ต่างไปจากขยะ

 

เซี่ยวเฉินกําลังรอคอยโอกาส เมื่อความเร็วของหยางฉีขึ้นจนถึงขีดจํากัดของเขา,กระบวณท่าของเขาก็จะพังทลายลง,ปล่อยให้เขาพ่ายแพ้อย่างง่ายดายภายในหมัดเดียว ตราบใดที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เซี่ยวเฉินก็สามารถทนรับไว้ได้

 

“ฟว นิ้ว!” แขนขวาของเซี่ยวเฉินปรากฏเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแผลเลือดไหลทะลัก เซี่ยวเฉินกัดริมฝีปากและรักษาความเด็ดเดี่ยวเขาไม่เผยความเจ็บปวดแม้แต่น้อยบนใบหน้าของเขา

 

เหงื่อของหยางฉีผุดขึ้นมาที่หน้าผากของเขาอย่างต่อเนื่องและหยดลงพื้น เขารู้สึกเป็นกังวลอย่างมากเพราะกระบีบินโกลาหลนี้เผาผลาญพลังปราณอย่างรวดเร็ว

เขาได้ควบคุมกระบี่ถึงหกเล่มแต่เขายังไม่สามารถล้มเชี่ยวเฉินลงได้ หากเขายังฝืนต่อไป ก่อนที่เชี่ยวเฉินจะล้มลง,หยางฉีคงจะต้องพ่ายแพ้ไปเพราะเผาผลาญพลังปราณจนหมด

 

“ฆ่า!”

 

สีหน้าของหยางฉีกลายเป็นเย็นชาและกัดฟันแน่น กระบี่สั้นสองเล่มทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นมาจากแขนของเขา กระ

 

หมุนวนอย่างต่อเนื่อง,สร้างอากาศไหลพร้อมกับลอยไปหาหน้าอกของเซี่ยวเฉิน

 

เซียวเฉินได้เตรียมตัวเอาไว้แล้วและทันใดนั้นเขาก็โน้มตัวกลับหลัง กระบี่สั้นสองเล่มลอยผ่านหน้าของเขาไปจากนั้นเขาก็เตะออกไปด้วยเท้าหนึ่งข้าง,หมายจะกดดันให้ห ยางฉีถอยกลับไป

 

อีกเท้าหนึ่งของเซี่ยวเฉินกดลงพื้นและปลดปล่อยทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยานเขาทะยานขึ้นไปในอากาศทันที

 

หลังจากที่เชี่ยวเฉินลงถึงพื้น,เขาพุ่งออกจากพื้นอีกครั้งและปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของหยางฉี ระเบิดความเร็วของทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยาน,เขาสามารถหลบหนีจากการโจมตีต่อเนื่องของหยางได้สําเร็จ

 

หยางฉีไม่ได้เชื่องช้าเช่นกันและถอยกลับอย่างรวดเร็วก่อนที่เชี่ยวเฉินจะได้ถึงพื้น,เขากระโดดตีลังกาไปด้านข้างและเซี่ยวเฉินก็มาอยู่ตรงหน้าของเขาอีกครั้ง

 

ในวูบแรก,กระบี่สั้นที่กําลังหมุนในอากาศดูราวกับกระบี่ที่กําลังตัดผ่านอากาศ มันสร้างแรงดันอากาศอันแข็งแกรง,ก่อเกิดเป็นพายุหมุน

 

ตอนนี้ จะต้องเป็นขีดจํากัดของเจ้าแล้ว!

 

ดวงตาของเซี่ยวเฉินยกขึ้นพร้อมกับพลิกผักกระบี่ในมือซ้ายของเขาไปทั่ว กระบี่สั้นที่กําลังบินเข้ามาทางเขาไถลไปกับผักกระบี่โดยตรง

 

เขาเผยรอยยิ้มบางเบาพร้อมกับกระโดดออกด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงจุดสําคัญ,ยอมให้กระบี่ปักเข้าไปที่ไหลซ้าย ของเขาเลือดไหลออกมาในทันทีและความเจ็บปวดวูบผ่าน ใบหน้าของเซี่ยวเฉิน

 

อย่างไรก็ตาม,มือของเซียวเฉินก็ไม่ได้หยุดนิ่งเขาโยนฝึกกระบี่ออกไปด้วยความเร็วสายฟ้าและจับเอากระบี่สั้นอีกเล่มที่บินเข้ามาด้วยมือเปล่าเป็นผลให้เกิดแผลเลือดไหลออกมาจากฝ่ามือของเขา

 

กระบี่บินโกลาหลของหยางฉีถูกตีขัดในทันที มีกระบี่สั้น เพียงสามเล่มที่กําลังบินอยู่บนท้องฟ้า เซี่ยวเฉินตะโกนออ กมา “ฟาดฟันประกายแสง!”

 

ประกายแสงสีม่วงพร้อมกับกระแสไฟฟ้าถูกยิงออกมาแสงสายฟ้าระเบิด เกิดเป็นคลื่นกระแทกในอากาศ กระบี่สั้นสามเล่มถูกดีดออกในทันที

 

“กระบีบินโกลาหลถูกทําลายลงไปเช่นนั้น!” มีเสียงร้องตกตะลึงดังขึ้นมาจากฝั่ง เชี่ยวเฉินใช้วิธีแลกเลือดเพื่อทําลายกระบี่บินโกลาหลของหยางฉี, ที่ได้ขึ้นถึงขีดสุดของมันแล้ว

 

ทันทีที่กระบี่บินโกลาหลถูกทําลาย

 

ง,พลังปราณที่กําลังไหลอย่างราบลื่นในร่างของหยางฉีกลายเป็นปั่นป่วน กระแสพลังของเขากลายเป็นไม่มั่นคงพร้อมกับถอยกลับหลังไปอย่างรวดเร็ว

 

เจ้าอยากจะหนีแต่จะหนี้ได้ทัน? เซียวเฉินยิ้มอย่างเย็นชาและตะโกนขึ้น “เพลิงแท้อัสนีม่วง! ยิง!”

 

เปลวเพลิงหนานแน่นที่กําลังลุกไหม้ในดวงตาของเซี่ยวเฉินทันใดนั้นก็รวมเป็นเสาแสงก่อนที่จะยิงออกไปนี่คือสิ่งที่ ซี่ยวเฉินได้เข้าใจมาจากเส้นสายน้ําแข็งของลิงน้ําแข็งที่เขาเคยต่อสู้ด้วย

 

เนื่องจากพลังฉีสามารถรวมตัวกลายเป็นเส้น สาย,จากนั้นด้วยหลักการเดียวกัน,เปลวเพลิงก็สามารถทําได้เช่นกัน

 

เพลิงแท้อัสนีม่วง,ที่เชี่ยวเฉินได้ใช้เวลานานสะสมพลังมา,ทันใดนั้นก็เจาะทะลุหน้าอกของหยางฉีแผลข นาดหนึ่งนิ้วมือปรากฏขึ้นเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

หยางฉีสะดุดและล้มลงไปที่พื้น เขากุมมือไปที่หน้าอกของเขา,พยายามจะห้ามเลือด อย่างไรก็ตาม มันโดนเข้าที่เส้นเลือด,มันช่วยไม่ได้แม้แต่น้อย

 

เซียวเฉินเมินเฉยเขาและโยนกระบี่สั้นในมือของเขาทิ้งไปจากนั้นเขาก็ดึงกระบี่สั้นที่ไหล่ซ้ายของเขาออกมาและเก็บกลับผักกระบีของเขา

 

หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆเดินไปที่ทางออกของโถงคุณความชอบ ฝูงชนเปิดทางให้เขาโดยอัตโนมัติเซียวเฉินเดินไป ที่ทางออกทีละก้าวทีละก้าวเช่นนี้

 

“ช้าก่อน!”

 

ในที่สุด,สานุศิษย์แก่นกลางของยอดเขาว่านเหรินคนอื่นก็อดไม่ได้ที่จะเรียกเสี่ยวเฉิน สามศิษย์แก่นกลางของยอดเขาว่านเหรินเดินตรงไปที่เซี่ยวเฉิน

 

เป็นเพราะพวกเขาต้องรักษาหน้าตาของหยางฉี,พวกเขาจึงไม่ได้เข้าไปช่วยลุมเซี่ยวเฉินในการต่อสู้เมื่อก่อนหน้านี้อย่างไรก็ตามเขาได้ล้มสานุศิษย์ชั้นในของยอดเขาว่านเหรินไปมากมายก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาล้มได้แม้กระทั่งศิษย์แก่นก ลางหยางฉี หากเขาปล่อยให้เซียวเฉินเดินออกจากโถงคุณธรรมไปอย่างภาคภูมิเช่นนี้ ยอดเขาว่านเหรินจะสูญเสียงความน่าเกรงขามทั้งหมด

 

เชี่ยวเฉินยิ้มบางๆ “พวกเจ้าสองสามคนมีอะไรจะแนะนําข้า?”

 

“เจ้าทําร้ายศิษย์ยอดเขาว่านเหรินไปมากมายและเจ้าจะเดินเฉิดฉายออกไปเช่นนั้น?”

 

เซี่ยวเฉินพบว่ามันน่าขบขันและยิ้มขึ้นบางเบา “หากเจ้าไม่ลงมือและโจมตีกับเยาะเย้ยข้าก่อนเข้าจะทําร้ายสานุศิษย์ยอดเขาว่านเหรินทําไม?”

 

“เมื่อเป็นเช่นนั้น ศิษย์พี่หยางฉีเพียงถามคําถามเจ้า,ทําไมเจ้าถึงได้ลงมือก่อนและทําร้ายเขา?”

 

ใบหน้าของเซี่ยวเฉินกลายเป็นเย็นเฉียบพร้อมกับตอบกลับไปด้วยน้ําเสียงที่เย็นกว่า “มันไม่จบไม่สิ้น ฝีมือของเจ้าเป็นรองกว่าคนอื่นและเจ้ายังมีทัศนคติเลวทราม หากเจ้าอยากจะมาขวางทางข้าเช่นนั้นก็ทําให้ชัดเจน, หนึ่งต่อหนึ่งห รือเข้ามาพร้อมกัน? เจ้าอยากได้แบบไหน”

 

พวกเขาทั้งสามคนคิดเป็นเช่นเดียวกัน หากไปแบบหนึ่งต่อหนึ่ง,ข้าไม่มั่นใจว่าจะรับมือกับเข้าได้อย่างไรก็ตาม,หาก พวกเขาทั้งสามคนบุกเข้าไปพร้อมกันต่อหน้าทุกคนที่อยู่ที่นี่,พวกเขาจะเสียหน้าไม่น้อย นี่เป็นสถานการณ์ที่ให้เป็นไป ไม่ได้, พวกเขาจะทําเช่นไรดี?”

 

“ข้าตารางงานแน่น หากเข้าไม่เข้ามาตอนนี้เจ้ามาหาข้าเวลาอื่นข้าก็ไม่ขัด ข้าจะเป็นเพื่อนเล่นให้พวกเจ้าเอง!” เซียวเฉินสามารถเดาความคิดของทั้งสามคนเพียงมองแว่บเดียวเขาไม่อยากไปวอแวกับพวกเขาอีกหลังจากที่เขาพูดจบ,เขา ก็เดินออกไปในทันที

 

เซียวเฉินตารางเวลาแน่นอย่างแท้จริง,เขาไม่มีเวลาให้มาอ้อยอิ่งอยู่ที่นี่ภารกิจเฝ้ายามเส้นโลหิตวิญญาณกําลังจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้เขามีเวลาเพียงหนึ่งคืนเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมภารกิจเฝ้ายามเส้นโลหิตวิญญาณฟังดูง่ายดายแต่ เมื่อมันกลายเป็นภารกิจนิกายระดับและรางวัลสูงถึงเพียง นี้ จะต้องมีอันตรายรออยู่เป็นแน่ถึงอย่างไร,คนที่จัดการภารกิจนิกายไม่ใช่คนโง่งม;พวกเขาคงไม่แจกแต้มสะสมง่า ยด่ายเช่นนี้

 

เซียวเฉินตัดสินใจที่จะไปยังตลาดในฐานส่องสวรรค์แห่งนี้แต่เดิมเขามีหินวิญญาณมากกว่าหนึ่งพันก้อนเล็กน้อย เพิ่มด้วยที่เขาได้รับมาจากเฉินม่านจวิน,เขามีหินวิญญาณเกือบ 2000 ก้อน

 

ด้วยหินวิญญาณมากมายเช่นนี้มันเกินพอสําหรับการบ่มเพาะพลังของเขา หากเขาแบกพวกมันไว้เฉยๆไม่หยิบมาใช้จ่ายมันก็ค่อนข้างจะเสียของ

 

เซี่ยวเฉินกลืนเม็ดยาหวนคืนโลหิตและรับมือกับอาการบาดเจ็บบนร่างการของเขา หลังจากที่เซียวเฉิน,ถามถึงที่ตั้งของตลาด,เขาก็ค่อยๆออกเดินไปอย่างช้าๆ

 

นอกจากแผลลึกตรงไหล่ของเขา, อาการบาดเจ็บส่วนอื่นก็เป็นเพียงรอยข่วน เมื่อพลังงานยาของเม็ดยาหวนคืนโลหิตกระจายออกไปและเขาพักสักหนึ่งคืน,ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรมากมาย

 

หลังจากเดินหามาเป็นเวลานาน,เชี่ยวเฉินก็พบทางเข้าตลาดของฐานส่องสวรรค์ ก่อนที่จะเข้าไป.ผู้นั้นจะต้องจ่ายผ่านทางเป็นหินวิญญาณหนึ่งก้อน

 

การสนับสนุนสานุศิษย์ชั้นในธรรมดาทั่วไปเป็นเพียงนวิญญานเดือนละสิบห้าก้อน หากพวกเขาไม่มีช่องทางราย ได้อื่น,พวกเขาจะต้องรู้สึกปวดใจที่ต้องใช้หินวิญญาณนี้

 

ในตลาดช่างจอแจ ในสถานที่แห่งนี้ ศาลากระบี่สวรรค์สามารถขายหรือแลกเปลี่ยนสิ่งของได้ที่นี่ พวกเขามีแม้กระทั่งร้านค้าทางการเขาขายสินค้าทุกประเภท เช่นทักษะต่อสู้เอาวุธวิญญาณ,ชุดเกราะศึก,ทักษะบ่มเพาะพลัง….ทุกสิ่งอย่างที่ ต้องการสามารถหาเจอได้ที่นี่

 

อย่างไรก็ตาม,ในสถานที่แห่งนี้ สินค้าทุกอย่างแลกเปลี่ยนด้วยหินวิญญาณ เงินของโลกมนุษย์ไม่ได้มีประโยชน์มากที่นี่อย่างไรก็ตาม มันมีสถานที่ที่สามารถนําเงินของโลกมนุษย์ไปแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณ

 

ในตอนที่เซียวเฉินปล้นสมบัติที่สะสมมากว่าร้อยปีของตระกูลเจียง,เขาได้มาทั้งหมด 30,000,000 เหรียญทองเขาใช้ 20,000,000 เหรียญทองไปที่คฤหาสน์หิมะล่องลอย,มีอีก10,000,000 เหรียญทองอยู่ในแหวนห้วงจักรวาลของเขา

 

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง,เซี่ยวเฉินตัดสินใจจะนํามันทั้งหมดไปแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณในอดีต,เจ้าหมู จินได้เผยออกมาอย่างไม่ตั้งใจว่าสุดยอดงานประมูลของทวีปเทียนหวี่ทั้งหมดจะใช้หินวิญญาณในการแลกเปลี่ยน

 

เหรียญทองนั้นไร้ค่าที่นั่น แทนที่ที่จะปล่อยให้มันนอนเน่าอยู่ในแหวนห้วงจักรวาลของเขา เขาน่าจะใช้โอกาสนี้แลกเปลี่ยนมันทั้งหมด

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 177 กระบี่บินโกลาหล

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 177 กระบี่บินโกลาหล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 177 กระบี่บินโกลาหล

 

นอกจากนั้นเซี่ยวเฉินพบว่าทักษะต่อสู้นี้พิเศษอย่างมากกระบี่สั้นที่กวัดแกว่ง,ยิ่งมากจํานวนยิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิมใน ตอนที่เขายังมีกระบี่สองเล่ม,มันช้ากว่าในตอนปัจจุบันมากกว่าครึ่ง

 

“นี้คือทักษะลับของยอดเขาว่านเหริน-กระบีบินโกลาหล ว่ากันว่าเมื่อฝึกฝนถึงจุดสูงสุด,มันสามารถควบคุมกระบุได้ถึงสิบแปดเล่ม สามารถควบคุมกระบี่สั้นสี่เล่มได้อย่างง่ายดาย,สมชื่อศิษย์แก่นกลางของยอดเขาว่านเหริน”

 

“ด้วยระดับพลังขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นสูงสุดของเขา พร้อมด้วยพลังของทักษะลับ,หยางฉีสามารถประมือกับขอบเขตนักบุญขั้นต้นได้ ไม่น่าจะมีปัญหาที่จะรับมือกับระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นต้น”

 

“สิ่งที่สําคัญที่สุดคือเขาปล่อยให้หยางฉีชิงความได้เปรียบไปแล้ว ด้วยสถานการณ์ตอนนี้เขาไม่มีโอกาสที่จะพลิกกลับมาได้ หลังจากที่กระบี่บินโกลาหลใช้ออกมา,ความเร็วของมันมีแต่จะเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าเขาจะมีทักษะ ต่อสู้ที่จะงดออกมาพลิกสถานการณ์,เขาก็ไม่มีแม้แต่โอกาสจะใช้มันออกมา”

 

“มันผู้นี้เหิมเกริมเกินไป แม้จะมาตัวคนเดียว เขายังกล้าทําร้ายสานุศิษย์ยอดเขาว่านเหรินหลายคนในโถงคุณความชอบ หยางฉีไม่ใช่ศิษย์แก่นกลางเพียงคนเดียวของยอดเขาว่านเหริน นอกจากนั้นยังมีศิษย์สืบทอดอยู่เบื้องหลังของพวก เขาที่ยังไม่ปรากฏตัวออกมาเขามันบ้าบินอย่างแท้จริง”

 

การต่อสู้เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆและสถานการณ์ของเซี่ยว เฉินน่าเป็นห่วงผู้คนโดยรอบออกความเห็นเกี่ยวกับเชียวเฉิน,อย่างไรก็ตามเขาเป็นเพียงระดับขอบเขตปรมาจารย์ ยุทธขั้นต้นเมื่อเขาเผชิญหน้ากับหยางฉีที่แข็งแกร่งกว่าเขา จะไม่มีแม้แต่โอกาส”

 

เซียวเฉินยังคงนิ่ง กระบี่เงาจันทร์ในมือขวาของเขาวูบไหวราวกับสายน้ํา,ปัดป้องกระบี่สั้นในมือของหยางฉี มือซ้ายของเขาถือฝักกระบี่กวัดแกว่งไปมา เขาป้องกันกระบี่สั้นที่ หมุนอยู่ในอากาศไปทีละเล่ม

 

“ฟว จิ๋ว!”

 

หยางฉีหยิบกระบี่ที่คาดอยู่ตรงเอวของเขาออกมาอีกสอง เล่ม ทันใดนั้น,กระบี่ที่เขาควบคุมอยู่ก็กลายเป็นหกเล่มความเร็วของมันกลายเป็นเร็วขึ้นและแสงกระบี่หมุนวนราวกับเงาล่องลอย

 

เสียงเหล็กกระทบดังกึกก้องไม่หยุด แขนของเซี่ยวเฉินมีแผลจากกระบี่เพิ่มขึ้นอีกสองสามแห่ง

 

แม้ว่าเซียวเฉินจะไม่ได้อยู่ในจังหวะได้เปรียบ,หัวใจของเขาก็ยังคงนิ่งสงบดุจสายน้ํา,เขาไม่ได้ตื่นกลัวแม้แต่น้อยเปลวเพลิงเริ่มเผาไหม้ในดวงตาของเขาอย่างช้าๆ มันสะสมพลังขณะเตรียมตัวที่จะปลดปล่อยออกมา

 

มันยังไม่ถึงเวลา, นี่ยังไม่ถึงขีดจํากัดของเขา,เซี่ยวเฉินครู่นคิดกับตัวเอง ลักษณะเฉพาะของกระบี่บินโกลาหลคือความต่อเนื่องของมันจํานวนกระบี่ที่ใช้ ยิ่งต้องการความต่อเนื่องที่แข็งแกร่ง

 

ดังนั้น การเพิ่มจํานวนกระบี่เป็นสิ่งที่ต้องฝืนทํา หากความเร็วของมันตกลงและจํานวนของกระบีเพิ่มขึ้น,ความต่อเนื่องก็จะถูกทําร้ายลง

 

หากมันเหมือนกับสายพานที่อยู่ในรถ หากมันช้าลง,ความเร็วของรถก็จะช้าลงตามไปด้วย หรือแม้กระทั่งหยุดทํางานหากสายพานขาด, จะเกิดอะไรขึ้นกับรถ? หากรถกําลังวิ่งไปด้วยความเร็วสูงจากนั้นสายพานก็ขาดลงอย่างฉับพลัน,รถ คันนั้นก็ไม่ต่างไปจากขยะ

 

เซี่ยวเฉินกําลังรอคอยโอกาส เมื่อความเร็วของหยางฉีขึ้นจนถึงขีดจํากัดของเขา,กระบวณท่าของเขาก็จะพังทลายลง,ปล่อยให้เขาพ่ายแพ้อย่างง่ายดายภายในหมัดเดียว ตราบใดที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เซี่ยวเฉินก็สามารถทนรับไว้ได้

 

“ฟว นิ้ว!” แขนขวาของเซี่ยวเฉินปรากฏเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแผลเลือดไหลทะลัก เซี่ยวเฉินกัดริมฝีปากและรักษาความเด็ดเดี่ยวเขาไม่เผยความเจ็บปวดแม้แต่น้อยบนใบหน้าของเขา

 

เหงื่อของหยางฉีผุดขึ้นมาที่หน้าผากของเขาอย่างต่อเนื่องและหยดลงพื้น เขารู้สึกเป็นกังวลอย่างมากเพราะกระบีบินโกลาหลนี้เผาผลาญพลังปราณอย่างรวดเร็ว

เขาได้ควบคุมกระบี่ถึงหกเล่มแต่เขายังไม่สามารถล้มเชี่ยวเฉินลงได้ หากเขายังฝืนต่อไป ก่อนที่เชี่ยวเฉินจะล้มลง,หยางฉีคงจะต้องพ่ายแพ้ไปเพราะเผาผลาญพลังปราณจนหมด

 

“ฆ่า!”

 

สีหน้าของหยางฉีกลายเป็นเย็นชาและกัดฟันแน่น กระบี่สั้นสองเล่มทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นมาจากแขนของเขา กระ

 

หมุนวนอย่างต่อเนื่อง,สร้างอากาศไหลพร้อมกับลอยไปหาหน้าอกของเซี่ยวเฉิน

 

เซียวเฉินได้เตรียมตัวเอาไว้แล้วและทันใดนั้นเขาก็โน้มตัวกลับหลัง กระบี่สั้นสองเล่มลอยผ่านหน้าของเขาไปจากนั้นเขาก็เตะออกไปด้วยเท้าหนึ่งข้าง,หมายจะกดดันให้ห ยางฉีถอยกลับไป

 

อีกเท้าหนึ่งของเซี่ยวเฉินกดลงพื้นและปลดปล่อยทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยานเขาทะยานขึ้นไปในอากาศทันที

 

หลังจากที่เชี่ยวเฉินลงถึงพื้น,เขาพุ่งออกจากพื้นอีกครั้งและปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของหยางฉี ระเบิดความเร็วของทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยาน,เขาสามารถหลบหนีจากการโจมตีต่อเนื่องของหยางได้สําเร็จ

 

หยางฉีไม่ได้เชื่องช้าเช่นกันและถอยกลับอย่างรวดเร็วก่อนที่เชี่ยวเฉินจะได้ถึงพื้น,เขากระโดดตีลังกาไปด้านข้างและเซี่ยวเฉินก็มาอยู่ตรงหน้าของเขาอีกครั้ง

 

ในวูบแรก,กระบี่สั้นที่กําลังหมุนในอากาศดูราวกับกระบี่ที่กําลังตัดผ่านอากาศ มันสร้างแรงดันอากาศอันแข็งแกรง,ก่อเกิดเป็นพายุหมุน

 

ตอนนี้ จะต้องเป็นขีดจํากัดของเจ้าแล้ว!

 

ดวงตาของเซี่ยวเฉินยกขึ้นพร้อมกับพลิกผักกระบี่ในมือซ้ายของเขาไปทั่ว กระบี่สั้นที่กําลังบินเข้ามาทางเขาไถลไปกับผักกระบี่โดยตรง

 

เขาเผยรอยยิ้มบางเบาพร้อมกับกระโดดออกด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงจุดสําคัญ,ยอมให้กระบี่ปักเข้าไปที่ไหลซ้าย ของเขาเลือดไหลออกมาในทันทีและความเจ็บปวดวูบผ่าน ใบหน้าของเซี่ยวเฉิน

 

อย่างไรก็ตาม,มือของเซียวเฉินก็ไม่ได้หยุดนิ่งเขาโยนฝึกกระบี่ออกไปด้วยความเร็วสายฟ้าและจับเอากระบี่สั้นอีกเล่มที่บินเข้ามาด้วยมือเปล่าเป็นผลให้เกิดแผลเลือดไหลออกมาจากฝ่ามือของเขา

 

กระบี่บินโกลาหลของหยางฉีถูกตีขัดในทันที มีกระบี่สั้น เพียงสามเล่มที่กําลังบินอยู่บนท้องฟ้า เซี่ยวเฉินตะโกนออ กมา “ฟาดฟันประกายแสง!”

 

ประกายแสงสีม่วงพร้อมกับกระแสไฟฟ้าถูกยิงออกมาแสงสายฟ้าระเบิด เกิดเป็นคลื่นกระแทกในอากาศ กระบี่สั้นสามเล่มถูกดีดออกในทันที

 

“กระบีบินโกลาหลถูกทําลายลงไปเช่นนั้น!” มีเสียงร้องตกตะลึงดังขึ้นมาจากฝั่ง เชี่ยวเฉินใช้วิธีแลกเลือดเพื่อทําลายกระบี่บินโกลาหลของหยางฉี, ที่ได้ขึ้นถึงขีดสุดของมันแล้ว

 

ทันทีที่กระบี่บินโกลาหลถูกทําลาย

 

ง,พลังปราณที่กําลังไหลอย่างราบลื่นในร่างของหยางฉีกลายเป็นปั่นป่วน กระแสพลังของเขากลายเป็นไม่มั่นคงพร้อมกับถอยกลับหลังไปอย่างรวดเร็ว

 

เจ้าอยากจะหนีแต่จะหนี้ได้ทัน? เซียวเฉินยิ้มอย่างเย็นชาและตะโกนขึ้น “เพลิงแท้อัสนีม่วง! ยิง!”

 

เปลวเพลิงหนานแน่นที่กําลังลุกไหม้ในดวงตาของเซี่ยวเฉินทันใดนั้นก็รวมเป็นเสาแสงก่อนที่จะยิงออกไปนี่คือสิ่งที่ ซี่ยวเฉินได้เข้าใจมาจากเส้นสายน้ําแข็งของลิงน้ําแข็งที่เขาเคยต่อสู้ด้วย

 

เนื่องจากพลังฉีสามารถรวมตัวกลายเป็นเส้น สาย,จากนั้นด้วยหลักการเดียวกัน,เปลวเพลิงก็สามารถทําได้เช่นกัน

 

เพลิงแท้อัสนีม่วง,ที่เชี่ยวเฉินได้ใช้เวลานานสะสมพลังมา,ทันใดนั้นก็เจาะทะลุหน้าอกของหยางฉีแผลข นาดหนึ่งนิ้วมือปรากฏขึ้นเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

หยางฉีสะดุดและล้มลงไปที่พื้น เขากุมมือไปที่หน้าอกของเขา,พยายามจะห้ามเลือด อย่างไรก็ตาม มันโดนเข้าที่เส้นเลือด,มันช่วยไม่ได้แม้แต่น้อย

 

เซียวเฉินเมินเฉยเขาและโยนกระบี่สั้นในมือของเขาทิ้งไปจากนั้นเขาก็ดึงกระบี่สั้นที่ไหล่ซ้ายของเขาออกมาและเก็บกลับผักกระบีของเขา

 

หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆเดินไปที่ทางออกของโถงคุณความชอบ ฝูงชนเปิดทางให้เขาโดยอัตโนมัติเซียวเฉินเดินไป ที่ทางออกทีละก้าวทีละก้าวเช่นนี้

 

“ช้าก่อน!”

 

ในที่สุด,สานุศิษย์แก่นกลางของยอดเขาว่านเหรินคนอื่นก็อดไม่ได้ที่จะเรียกเสี่ยวเฉิน สามศิษย์แก่นกลางของยอดเขาว่านเหรินเดินตรงไปที่เซี่ยวเฉิน

 

เป็นเพราะพวกเขาต้องรักษาหน้าตาของหยางฉี,พวกเขาจึงไม่ได้เข้าไปช่วยลุมเซี่ยวเฉินในการต่อสู้เมื่อก่อนหน้านี้อย่างไรก็ตามเขาได้ล้มสานุศิษย์ชั้นในของยอดเขาว่านเหรินไปมากมายก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาล้มได้แม้กระทั่งศิษย์แก่นก ลางหยางฉี หากเขาปล่อยให้เซียวเฉินเดินออกจากโถงคุณธรรมไปอย่างภาคภูมิเช่นนี้ ยอดเขาว่านเหรินจะสูญเสียงความน่าเกรงขามทั้งหมด

 

เชี่ยวเฉินยิ้มบางๆ “พวกเจ้าสองสามคนมีอะไรจะแนะนําข้า?”

 

“เจ้าทําร้ายศิษย์ยอดเขาว่านเหรินไปมากมายและเจ้าจะเดินเฉิดฉายออกไปเช่นนั้น?”

 

เซี่ยวเฉินพบว่ามันน่าขบขันและยิ้มขึ้นบางเบา “หากเจ้าไม่ลงมือและโจมตีกับเยาะเย้ยข้าก่อนเข้าจะทําร้ายสานุศิษย์ยอดเขาว่านเหรินทําไม?”

 

“เมื่อเป็นเช่นนั้น ศิษย์พี่หยางฉีเพียงถามคําถามเจ้า,ทําไมเจ้าถึงได้ลงมือก่อนและทําร้ายเขา?”

 

ใบหน้าของเซี่ยวเฉินกลายเป็นเย็นเฉียบพร้อมกับตอบกลับไปด้วยน้ําเสียงที่เย็นกว่า “มันไม่จบไม่สิ้น ฝีมือของเจ้าเป็นรองกว่าคนอื่นและเจ้ายังมีทัศนคติเลวทราม หากเจ้าอยากจะมาขวางทางข้าเช่นนั้นก็ทําให้ชัดเจน, หนึ่งต่อหนึ่งห รือเข้ามาพร้อมกัน? เจ้าอยากได้แบบไหน”

 

พวกเขาทั้งสามคนคิดเป็นเช่นเดียวกัน หากไปแบบหนึ่งต่อหนึ่ง,ข้าไม่มั่นใจว่าจะรับมือกับเข้าได้อย่างไรก็ตาม,หาก พวกเขาทั้งสามคนบุกเข้าไปพร้อมกันต่อหน้าทุกคนที่อยู่ที่นี่,พวกเขาจะเสียหน้าไม่น้อย นี่เป็นสถานการณ์ที่ให้เป็นไป ไม่ได้, พวกเขาจะทําเช่นไรดี?”

 

“ข้าตารางงานแน่น หากเข้าไม่เข้ามาตอนนี้เจ้ามาหาข้าเวลาอื่นข้าก็ไม่ขัด ข้าจะเป็นเพื่อนเล่นให้พวกเจ้าเอง!” เซียวเฉินสามารถเดาความคิดของทั้งสามคนเพียงมองแว่บเดียวเขาไม่อยากไปวอแวกับพวกเขาอีกหลังจากที่เขาพูดจบ,เขา ก็เดินออกไปในทันที

 

เซียวเฉินตารางเวลาแน่นอย่างแท้จริง,เขาไม่มีเวลาให้มาอ้อยอิ่งอยู่ที่นี่ภารกิจเฝ้ายามเส้นโลหิตวิญญาณกําลังจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้เขามีเวลาเพียงหนึ่งคืนเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมภารกิจเฝ้ายามเส้นโลหิตวิญญาณฟังดูง่ายดายแต่ เมื่อมันกลายเป็นภารกิจนิกายระดับและรางวัลสูงถึงเพียง นี้ จะต้องมีอันตรายรออยู่เป็นแน่ถึงอย่างไร,คนที่จัดการภารกิจนิกายไม่ใช่คนโง่งม;พวกเขาคงไม่แจกแต้มสะสมง่า ยด่ายเช่นนี้

 

เซียวเฉินตัดสินใจที่จะไปยังตลาดในฐานส่องสวรรค์แห่งนี้แต่เดิมเขามีหินวิญญาณมากกว่าหนึ่งพันก้อนเล็กน้อย เพิ่มด้วยที่เขาได้รับมาจากเฉินม่านจวิน,เขามีหินวิญญาณเกือบ 2000 ก้อน

 

ด้วยหินวิญญาณมากมายเช่นนี้มันเกินพอสําหรับการบ่มเพาะพลังของเขา หากเขาแบกพวกมันไว้เฉยๆไม่หยิบมาใช้จ่ายมันก็ค่อนข้างจะเสียของ

 

เซี่ยวเฉินกลืนเม็ดยาหวนคืนโลหิตและรับมือกับอาการบาดเจ็บบนร่างการของเขา หลังจากที่เซียวเฉิน,ถามถึงที่ตั้งของตลาด,เขาก็ค่อยๆออกเดินไปอย่างช้าๆ

 

นอกจากแผลลึกตรงไหล่ของเขา, อาการบาดเจ็บส่วนอื่นก็เป็นเพียงรอยข่วน เมื่อพลังงานยาของเม็ดยาหวนคืนโลหิตกระจายออกไปและเขาพักสักหนึ่งคืน,ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรมากมาย

 

หลังจากเดินหามาเป็นเวลานาน,เชี่ยวเฉินก็พบทางเข้าตลาดของฐานส่องสวรรค์ ก่อนที่จะเข้าไป.ผู้นั้นจะต้องจ่ายผ่านทางเป็นหินวิญญาณหนึ่งก้อน

 

การสนับสนุนสานุศิษย์ชั้นในธรรมดาทั่วไปเป็นเพียงนวิญญานเดือนละสิบห้าก้อน หากพวกเขาไม่มีช่องทางราย ได้อื่น,พวกเขาจะต้องรู้สึกปวดใจที่ต้องใช้หินวิญญาณนี้

 

ในตลาดช่างจอแจ ในสถานที่แห่งนี้ ศาลากระบี่สวรรค์สามารถขายหรือแลกเปลี่ยนสิ่งของได้ที่นี่ พวกเขามีแม้กระทั่งร้านค้าทางการเขาขายสินค้าทุกประเภท เช่นทักษะต่อสู้เอาวุธวิญญาณ,ชุดเกราะศึก,ทักษะบ่มเพาะพลัง….ทุกสิ่งอย่างที่ ต้องการสามารถหาเจอได้ที่นี่

 

อย่างไรก็ตาม,ในสถานที่แห่งนี้ สินค้าทุกอย่างแลกเปลี่ยนด้วยหินวิญญาณ เงินของโลกมนุษย์ไม่ได้มีประโยชน์มากที่นี่อย่างไรก็ตาม มันมีสถานที่ที่สามารถนําเงินของโลกมนุษย์ไปแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณ

 

ในตอนที่เซียวเฉินปล้นสมบัติที่สะสมมากว่าร้อยปีของตระกูลเจียง,เขาได้มาทั้งหมด 30,000,000 เหรียญทองเขาใช้ 20,000,000 เหรียญทองไปที่คฤหาสน์หิมะล่องลอย,มีอีก10,000,000 เหรียญทองอยู่ในแหวนห้วงจักรวาลของเขา

 

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง,เซี่ยวเฉินตัดสินใจจะนํามันทั้งหมดไปแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณในอดีต,เจ้าหมู จินได้เผยออกมาอย่างไม่ตั้งใจว่าสุดยอดงานประมูลของทวีปเทียนหวี่ทั้งหมดจะใช้หินวิญญาณในการแลกเปลี่ยน

 

เหรียญทองนั้นไร้ค่าที่นั่น แทนที่ที่จะปล่อยให้มันนอนเน่าอยู่ในแหวนห้วงจักรวาลของเขา เขาน่าจะใช้โอกาสนี้แลกเปลี่ยนมันทั้งหมด

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+