Immortal and Martial Dual Cultivation 201 เสริมร่างกาย

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 201 เสริมร่างกาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 201 เสริมร่างกาย

 

เซียวเฉินคิดกับตัวเอง,เปิดออก!

 

จุดปราณเหลากงใต้จุดปราณเฟิงหยานบนมือขวาของเขาปลดปล่อยแสงสีฟ้าหนาแน่นออกมามังกรฟ้าภายในจุดปราณเปลี่ยนกลายไปเป็นลูกบอลแสงและห่อหุ้มแขนขวาของเซียวเฉินเอาไว้ในทันที

 

เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและชกออกไปแสงสีฟ้าออกจากร่างของเขาและซัดเข้าที่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปหนึ่งร้อยเมตรลําต้นของต้นไม้หักลงในทันทีแต่แสงสีฟ้าไม่ได้อ่อนแรงลงแต่อย่างใด

 

เซี่ยวเฉินลุกขึ้นและกล่าวอย่างเป็นสุข “จุดปราณที่สองตรงมือขวาของข้าได้เปิดออกแล้ววิธีเปิดจุดปราณเป็นเช่น นี้นี่เอง”

 

หลังจากที่ฉีและโลหิตของเขาขึ้นมาถึงระดับหนึ่ง,เซี่ยวเฉินจะสามารถเผิดจุดปราณได้หรือว่านี่จะคือความลับของจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า?

 

เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง ตอนที่เขาทําทุกอย่างเมื่อก่อนหน้านี้,มันราวกับว่ามีเสียงอยู่ในหัวที่บอกว่าเขาควรจะทําอะไรมันราวกับภาพลวงตาในฝัน

 

ตามจริง มันน่าเศร้าที่มีจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า การสีบทอดของสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์อีกสามตนยังไม่ได้ขาดลงและพวกเขามีข้อมูลครบถ้วนที่เก็บไว้ให้ศึกษาหากมีอะไรที่พวกเขาไม่เข้าใจ,พวกเขาสามารถถามผู้อาวุโสที่มีทั้งความรู้และประสบการณ์

 

สําหรับเซี่ยวเฉิน…เขาตัวคนเดียวและไม่รู้อะไรเลยเขาต้องพึ่งตัวเองเพื่อค้นหาคําตอบเขาอาจจะไม่เข้าใจถึงเรื่องพื้นฐานหลังจากที่เขาครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน

 

ตั้งแต่ที่เขาบ่มเพาะพลังมาจนถึงวันนี้ เซี่ยวเฉินยังคงไม่รู้ ถึงความลับปริศนาในการใช้งานจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า แค่คิดก็น่าเศร้า

 

เขามีกองภูเขาสมบัติแต่ไม่รู้ถึงวิธีใช้

 

รวบรวมความคิดของเขากลับมา,เซี่ยวเฉินจ้องมองไปที่ทุ่งสมุนไพรที่อยู่ไม่ไกลออกไปและกล่าวขึ้น “ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร แต่ดูเหมือนว่าเส้นทางการฝึกฝนร่าง กายจะถูกต้องความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าต้องการร่างกายที่แข็งแกร่งก่อนที่จะสามารถนํามันออกมาใช้ได้”

 

ในตอนนี้ ดูเหมือนเขาจะเข้าใจได้เลือนลางว่าทําไมร่าง กายนี้ถึงไม่สามารถหลอมรวมจิตวิญญาณยุทธได้สํา เร็จในตลอดสิบปีที่ผ่านมา

 

มันไม่ได้เป็นเพราะเขาไม่มีพรสวรรค์เพียงพอ กลับกัน,มันเป็นเป็นความแข็งแกร่งทางกายของเขามันไม่ เพียงพอในช่วงเวลานั้น มันไม่สามารถทนต่อความกดดันจากการหลอมรวมจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าได้

 

ในเช้าวันต่อมา เซี่ยวเฉินขับเรือสงครามสีเงินออกไปและ มาถึงทุ่งสมุนไพร เขามองไปทั่วค้นหาสมุนไพรอื่นๆที่สามารถเสริมสร้างฉีและโลหิตของเขาเหมือนกับคราวก่อน,มีสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 5 กําลังเฝ้าสมุนไพรเอาไว้

 

เซี่ยวเฉินรู้แล้วว่าต้องทําเช่นไร หลังจากที่ความ แข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมา 500 กิโลกรัม,เขาสามารถรับมือกับสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 5 ได้ง่ายยิ่งกว่าง่ายเหมือนกับ ก่อนหน้านี้เขาชําแหละร่างของสัตว์อสูรวิญญาณและเก็บเกี่ยวสมุนไพรก่อนที่จะจากไปอย่างรวดเร็ว

 

สามวันต่อมา เซี่ยวเฉินก็สําเร็จในการกลั่นสกัดสมุนไพรอายุนับร้อยปีต้นนี้อย่างสมบูรณ์,เพิ่มฉีและโลหิตของเขาช่างเสียดาย,ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมาเพียง 250 กิโลกรัมนอกจากนั้นเขายังไม่ได้เปิดจุดปราณ

 

ในวันที่สี่,เซี่ยวเฉินใช้วิธีเดิมไปเก็บเกี่ยวสมุนไพรอายุหนึ่งร้อยปีหลังจากที่เขากลั่นสกัดสมุนไพรต้นนี้ผลของมันยิ่งแย่กว่าเดิมมันเพิ่มพละกําลังของเขาขึ้นมาเพียง 150 กิโลกรัมเท่านั้น

 

ยิ่งเขาทําเช่นนี้มาเท่าไหรผลของสมุนไพรอายุร้อยปีก็ยิ่งเบาบางลงเท่านั้นในที่สุด,มันก็มาถึงจุดที่ว่าไม่เพิ่มขึ้นแม้แต่น้อยมันเพียงแค่เติมพลังงานของเขาที่อ่อนล้าเท่านั้น

 

เวลาที่เซี่ยวเฉินใช้ในการกลั่นสกัดสั้นลง ถึงจุดนี้ เขาใช้เวลาเพียงครึ่งวันในการกลั่นสกัดสมุนไพรอายุหนึ่งร้อยปี

 

หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน,ความพยายามของเซี่ยวเฉินเพิ่มพละกําลังของเขาได้ 500 กิโลกรัมการโจมตีเต็มกําลังของเซี่ยวเฉินขึ้นมาถึง 3,500 กิโลกรัมนอกจากนั้น,ปราณจุดที่สามของเขาบนแขนขวาได้เผดออกจุดปราณต้าหลิงในที่สุดก็เปิดออก

 

เซี่ยวเฉินสูดหายใจแรง ขณะที่เขาเปิดจุดปราณต้าหลีง, จุดปราณเหลากง,จุดปราณ,และจุดปราณต้าหลิงบนแขนขวาของเขา,พวกมันทั้งหมดส่องแสงสีฟ้าออกมา เมื่อแสงทั้งสามรวมเข้าด้วยกัน,เขารู้สึกราวกับแขนขวาของเขากําลังจะ ระเบิดและเติมเต็มไปด้วยพลังงานอันไร้ขอบเขต

 

“สังหาร!”

 

เซี่ยวเฉินร้องตะโกนขึ้นพร้อมกับกระโดดขึ้นไปในอากาศเขาชกออกลงไปที่พื้นที่อยู่ห่างออกไปแสงสีฟ้าออกจากร่างของเขาและยิงออกไป;แสงสีฟ้าทั้งสามผสานเข้าด้วยกัน

 

มันสร้างภาพร่างมังกรฟ้าที่บินไปในอากาศภาพมังกรฟ้าเลือนลางซัดเข้าที่พื้นอย่างรุนแรง

 

“ปัง! ปัง! ปัง!”

 

ต่อมาในทันทีเกิดระเบิดขึ้นสามครั้งบนพื้น มันระเบิดสร้างหลุมขนาดใหญ่ห่างกันประมาณสิบเมตรในวินาทีต่อมา,ฝุ่นควันลอยขึ้น,สายลมไหลรุนแรง,ดินหินปลิวไปมา

 

เซี่ยวเฉินถอนมือกลับและเผยรอยยิ้มบางเบา “ข้าเปิดจุดปราณมาได้เพียงสามจุดและมันก็แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เขาสงสัยว่ามันจะทรงพลังถึงเพียงใดเมื่อข้าเปิดจุดปราณทั้ง 18 จุดบนแขนขวาของข้า”

 

ด้วยขอบเขตการบ่มเพาะพลังของเซี่ยวเฉิน,เขายังไม่ถึง จุดที่จะสามารถยิงลมปราณออกไปได้นั้นเป็นสิ่งที่มีเพียงขอบเขตนักบุญหรือสูงกว่าเท่านั้นที่จะทําได้ถึงอย่างไร,ภาพร่างมังกรฟ้าที่เขาได้ยิงออกไปนั่นไม่ใช้พลังปราณเขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่ามันคืออะไร

 

เขาทําได้เพียงคาดเดาว่ามันคือพลังฉีมังกรจากจิตวิญ ญาณยุทธมังกรฟ้ามีเพียงฉีมังกรที่จะสามารถทรงพลังได้ถึงเพียงนี้

 

น่าเสียดายยิ่งเขาก้าวหน้ามากขึ้นเท่าไหร,เขายิ่งเปิดจุดปราณยากมากขึ้นเท่านั้น สมุนไพรอายุร้อยปีที่เสริมสร้างฉีและโลหิตของเขาไม่ส่งผลอีกต่อไป

 

เซี่ยวเฉินจ้องมองไปที่ทุ่งสมุนไพรและพึมพํากับตัวเอง “ดูเหมือว่าข้าจะต้องค้นหาสมุนไพรที่อายุมากกว่าสองร้อยปีขึ้นไปถึงกระนั้น,สัตว์อสูรวิญญาณที่เฝ้าสมุนไพรพวกนั้นอย่างน้อยก็อยู่ระดับ 5 ขั้นสูงสุดขึ้นไปมันไม่ง่ายที่จะไปเอามา”

 

สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 5 ขั้นสูงสุดเทียบเท่าได้กับขอบ เขตนักบุญขั้นสูงด้วยระดับการบ่มเพาะพลังของเซี่ยวเฉินที่ขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นกลางมันเป็นเรื่องยากที่จะไปท้าทายพวกมัน

 

“ความมั่งคั่งที่มาพร้อมกับอันตราย ในเส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลัง,ผู้นั้นต้องท้าทายสวรรค์,ท้าชนปฐพี,และ วยุนรชน หากผู้นั้นไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะสู้เขาจะเดินเส้น ทางการบ่มเพาะพลังไปได้ไกลถึงเพียงใด?”

 

เปลวแสงเด็ดเดี่ยวปรากฏขึ้นในดวงตาของเซี่ยวเฉิน เขาตบฝ่ามือขวาของเขาลงบนต้นไม้ใหญ่ด้านข้างของเขาอย่างรุนแรง

 

“ดง! ดง!”

 

เซี่ยวเฉินกําลังจะนั่งลงพักผ่อนและเตรียมตัวที่จะไปที่ทุ่งสมุนไพรในวันนี้ทันใดนั้น ความตกตะลึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซี่ยวเฉิน มันไม่อะไรไม่ถูกต้อง

 

เซี่ยวเฉินหันหน้าไปและเผยความงุนงง เขามองไปที่ต้นไม้ใหญ่สูงตระหง่านและพยายามขยายสัมผัสวิญญาณของเขาเข้าไปและมองดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน

 

“ฮัว!” เมื่อสัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินแตะเข้าที่ด้านข้างของต้นไม้,เซี่ยวเฉินรู้สึกราวกับสมองของเขาถูกแข็มทิ่มแทงมันเจ็บปวดเป็นอย่างมากดังนั้นเซี่ยวเฉินจึง รีบถอนสัมผัสวิญญาณของเขากลับมา

 

“ดง! ดง!”

 

เซี่ยวเฉินเคาะอย่างแรงที่ต้นไม้อีกครั้งและฟังเสียงอย่าง ละเอียด เสียงในครั้งนี้ชัดเจนยิ่งขึ้นเซี่ยวเฉินยิ่งมั่นใจ“นี่มันแปลกจริงๆ”

 

“เป็นไปได้ว่าข้างในมันกลวง?” เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างสงสัย เขามองไปที่ต้นไม้ตรงหน้าของเขา,มันต้องใช้ผู้ใหญ่หลายคนเพื่อที่จะโอบต้นไม้ต้นนี้

 

เซียวเฉินหยิบกระบี่เงาจันทร์ออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลเขาจับด้ามกระบี่มันและรวมรวบพลังปราณลงที่ตัวกระบี่ กระบี่แสงปรากฏขึ้นบนคมกระบี่พร้อมกับมันสับลงไป ที่ลําต้นหนาของต้นไม้

 

กระบี่แสงยาวกว่าสิบเมตรซัดเข้าที่ต้นไม้สูงใหญ่พร้อมกับ เสียง “ชั่ว” กระบี่แสงถูกต้นไม้ใหญ่ดูดกลืนและไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน

 

เซี่ยวเฉินเก็บกระบี่และพูดขึ้น “โจมตีด้วยพลังป ราณมันไร้ประโยชน์? เช่นนั้นก็ลองชิมหมัดของข้าดู!”

 

“ปัง!”

พลังเต็มพิกัด 3,500 กิโลกรัมของเซี่ยวเฉินกระแทกเข้า ที่ต้นไม้แต่มันไม่แม้แต่จะสั่นสะเทือนแรงไหลผ่านลําต้นของต้นไม้และลงไปสั่นสะเทือนที่พื้นดินแทน

 

มันยังคงไร้ประโยชน์ไม่ว่าเซี่ยวเฉินจะสรรหาวิธีอะไรก็ ตามแต่ เขาต้องการเปิดต้นไม้ออกเพื่อตรวบสอบดูในท้ายที่สุด,มันก็ไม่เป็นผล

 

ยิ่งเข้าล้มเหลวเซียวเฉินยิ่งสนใจมันยิ่งขึ้นไปอีก เขารู้สึ กว่านี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าข้างในต้นไม้จะต้องมีความลับอะไรบางอย่าง

 

เซี่ยวเฉินกระโดดขึ้นและลอยไปยังกิ่งไม้ หลังจากนั้นเขา ก็เริ่มตรวจสอบมันอย่างระวัง

 

ในเมื่อใช้กําลังไม่เป็นผล จากนั้นเขาก็ค้นหาทางเข้าแทน ต้นไม้เขียวชอุ่มและอุดมสมบูรณ์แตกกิ่งขยายไปในอากาศ,มันยากสําหรับเซี่ยวเฉินในการค้นหา

 

เซี่ยวเฉินค่อยๆค้นหาและขยับขึ้นไปที่ละเมตร เวลาไห ลผ่านไปอย่างช้าๆ เมื่อเซี่ยวเฉินขึ้นมาถึงยอดของต้นไม้,เขาพบรู้ที่มันน่าจะเป็นทางเข้า

 

รูนี่ถูกปกปิดไว้เย็นอย่างดีมันถูกปดบังด้วยใบไม้ที่หนาแน่นหากเซียวเฉินไม่มองดูดีๆ เขาคงไม่มีทางเจอ

 

หลุมดํามืดที่ต้นไม้ใหญ่ขนาดประมาณโอ่งน้ํามันใหญ่เพียงแค่ให้คนหนึ่งคนลอดผ่านเข้าไปได้เซี่ยวเฉินหักกิ่งไม้มาและโยนลงไปในรูหลังจากผ่านไปนาน,เขาก็ได้ยินเสียงสะท้อนเลาบางกลับมา

 

“ตราบใดที่มันไม่ใช่หลุมที่ไร้ก้น,ลงไปที่คงไม่เป็นไรมั้ง”เมื่อเขาเห็นว่ากิ่งไม้ลงไปถึงก้น,เซี่ยวเฉินก็ไม่ลังเลที่จะลอดผ่านไป

 

หลังจากที่เขาเข้าไป,มันก็กว้างขึ้นอย่างมาก เซี่ยวเฉินสา มารถยืดแขนออกไปด้อย่างอิสระ เขาร่วงลงไปเร็วขึ้นก่อน ที่จะสัมผัสอะไรแข็งๆที่ด้านลางเท้าของเขาเขาลงถึงพื้นอ ย่างมั่นคง

 

เซี่ยวเฉินหยิบไข่มุกราตรีออกมาและหลุมมืดมิดก็สว่างขึ้นทันตาฉากด้านล่างปรากฏขึ้นในวิสัยทัศน์ของเขาทันที

 

นี่คือบ้านไม้กว้างขวาง มันยาวสิบเมตรและกว้างประมาณ 3.3 เมตร มีการตกแต่งที่เรียบง่ายภายในห้องพวกมันเป็นเพียงของธรรมดา

 

บนกําแพง,มีภาพวาดเหมือนยาว มันแสดงให้เห็นถึงชายร่างมหึมาเขาแต่งชุดสีดําและมีผมยาวดวงตาของเขาราวกับน้ําลึกและใบหน้าเฉียบคม เขายืนตัวตรงพร้อมกับมือไพล่หลังมีกระบี่ปักอยู่ที่พื้นตรงหน้าของเขา

 

ริมฝีปากของชายชุดดํายกขึ้นเล็กน้อยที่มุมและเผย รอมยิ้มที่น่ากลัว ผู้ที่วาดภาพนี้ออกมามีฝีมือเป็นอย่างมาก,เขาสร้างภาพที่แสดงอารมณ์ออกมาได้อย่างสมจริง

 

เซี่ยวเฉินรู้สึกว่าคนผู้นี้ดูคุ้นตาเป็นอย่างมาก เมื่อเขาใช้ไข่ มกราตรีส่องออกไป,เขารู้สึกราวกับคนผู้นี้กําลังยืนอยู่ตรงหน้าของเขาเซี่ยวเฉินมองอย่างละเอียดไปที่รูปร่างของบุคค ลผู้นี้

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาอุทานขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “ผู้ นี้คือจักรพรรดิกระบี่! บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งศาลากระบี่สวรรค์ เขายังเป็นระดับขอบเขตจักรพรรดิยุทธเพียงผู้เดียวภา ยในศาลากระบี่สวรรค์”

 

มีรูปสลักของเขาตั้งอยู่ที่ฐานส่องสวรรค์ เซียวเฉินเคยมอง ดูคราวๆ เขาจึงจดจําได้ไม่มากนัก ตอนนี้เขามองดูภาพวาดอย่างละเอียด,เขาก็จําได้

 

มันไม่มีเอกฉันท์ว่าผู้ใดคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศา สตร์อาณาจักรต้าฉิน อย่างไรก็ตามเก็มีระดับขอบเขตจักรพรรดิยุทธหลายคนในประวัติศาสตร์:ราชวงศ์ฉินรุ่นแรก,จักรพรรดิราตรีเงียบ,จักรพรรดิอัสนี,และจักรพรรดิยุทธอีกหลายท่านในประวัติศาสตร์อาณาจักรต้าฉิน

 

ไม่มีใครเห็นพ้องว่าใครผลคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดน่าเสียดาย,ที่จักรพรรดิเหล่านี้ล้วนมาจากต่างยุคต่างสมัยกันพวกเขาไม่เคยเผชิญหน้ากันมาก่อนดังนั้นจึงไม่รู้ได้ว่าใครคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด

 

บ้างก็ว่านั่นคือจักรพรรดิกระบี่เพราะเขาสามารถแยกแม่น้ํายาวนับ 5,000 กิโลเมตรด้วยกระบี่เดียวบ้างก็ว่าคือจักรพรรดิของนิกายดาบเงาหมอกเพราะเขาเคยไปที่ อาณาจักรต้าจินและท้าทายผู้ปกครองในยุคนั้น

 

ทุกคนล้วนมีความคิดเห็นของตัวเองแตกต่างกันไปแต่มีสิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญทลที่ครั้งหนึ่งเคยยืนอยู่จุดเหนือสุดของอาณาจักรต้าฉิน เรื่องราวของพวกเขาไม่ได้จางหายไปแม้ว่าจะผ่านมานับหมื่นปี

 

ในหมู่พวกเขา,จักรพรรดิกระบี่คือหนึ่งในที่เก่าแก่ที่สุดก่อนที่ราชวงศ์เทียนหวี่จะสิ้นสุดเขาก็ได้ก่อตั้งศาลากระบี่สวรรค์แห่งนี้ขึ้นมาเรียบร้อยแล้วนอกจากนั้นเขายังเป็นหนึ่งในผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในทวีปเทียนหวู่ในเวลานั้น

 

อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินมั่นใจว่านี่ไม่ใช่ที่พํานักดังเดิมของจักรพรรดิกระบี่ เป็นเพราะภาพวาดถูกวาดขึ้นโดย ใครบางคนที่ใช้คําอธิบายลักษณะของจักรพรรดิกระบี่,มันไม่ ได้วาดขึ้นจากการใช้จักรพรรดิกระบี่เป็นต้นแบบจริงๆ

 

เซี่ยวเฉินดึงสติของเขากลับมาและค้นหารอบห้องเพื่อดูว่าเขาจะพบเบาะแสว่าใครคือเจ้าของที่แห่งนี้

 

มีเสื้อสวดภาวนาอยู่ที่ตรงกลางของห้องดึงดูดตชความสนใจของเซียวเฉิน เสือสวดภาวนาช่างดูธรรมดา,นักบ่มเพาะพลังหลายคนใช้พวกมันเป็นที่นั่งและบ่มเพาะพลัง

 

แน่นอน,มันบางเสือสวดภาวนาที่ไม่ธรรมดาเมีบ้างที่ทําขึ้นมาจากต้นกกที่มีจิตวิญญาณธรรมชาติมีแม้แต่ค่ายกลรวบรวมวิญญาณเล็กสลักเอาไว้การบ่มเพาะพลังบนมันสามารถเพิ่มการดูดซับพลังงานจิตวิญญาณ

 

เซี่ยวเฉินไม่เคยใช้เสือสวดภาวนามาก่อนและไม่รู้อะไรมากนักสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาก็คือกองขี้เถ้าสีดําบนเสือสวดภาวนา

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 201 เสริมร่างกาย

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 201 เสริมร่างกาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 201 เสริมร่างกาย

 

เซียวเฉินคิดกับตัวเอง,เปิดออก!

 

จุดปราณเหลากงใต้จุดปราณเฟิงหยานบนมือขวาของเขาปลดปล่อยแสงสีฟ้าหนาแน่นออกมามังกรฟ้าภายในจุดปราณเปลี่ยนกลายไปเป็นลูกบอลแสงและห่อหุ้มแขนขวาของเซียวเฉินเอาไว้ในทันที

 

เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและชกออกไปแสงสีฟ้าออกจากร่างของเขาและซัดเข้าที่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปหนึ่งร้อยเมตรลําต้นของต้นไม้หักลงในทันทีแต่แสงสีฟ้าไม่ได้อ่อนแรงลงแต่อย่างใด

 

เซี่ยวเฉินลุกขึ้นและกล่าวอย่างเป็นสุข “จุดปราณที่สองตรงมือขวาของข้าได้เปิดออกแล้ววิธีเปิดจุดปราณเป็นเช่น นี้นี่เอง”

 

หลังจากที่ฉีและโลหิตของเขาขึ้นมาถึงระดับหนึ่ง,เซี่ยวเฉินจะสามารถเผิดจุดปราณได้หรือว่านี่จะคือความลับของจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า?

 

เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง ตอนที่เขาทําทุกอย่างเมื่อก่อนหน้านี้,มันราวกับว่ามีเสียงอยู่ในหัวที่บอกว่าเขาควรจะทําอะไรมันราวกับภาพลวงตาในฝัน

 

ตามจริง มันน่าเศร้าที่มีจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า การสีบทอดของสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์อีกสามตนยังไม่ได้ขาดลงและพวกเขามีข้อมูลครบถ้วนที่เก็บไว้ให้ศึกษาหากมีอะไรที่พวกเขาไม่เข้าใจ,พวกเขาสามารถถามผู้อาวุโสที่มีทั้งความรู้และประสบการณ์

 

สําหรับเซี่ยวเฉิน…เขาตัวคนเดียวและไม่รู้อะไรเลยเขาต้องพึ่งตัวเองเพื่อค้นหาคําตอบเขาอาจจะไม่เข้าใจถึงเรื่องพื้นฐานหลังจากที่เขาครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน

 

ตั้งแต่ที่เขาบ่มเพาะพลังมาจนถึงวันนี้ เซี่ยวเฉินยังคงไม่รู้ ถึงความลับปริศนาในการใช้งานจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า แค่คิดก็น่าเศร้า

 

เขามีกองภูเขาสมบัติแต่ไม่รู้ถึงวิธีใช้

 

รวบรวมความคิดของเขากลับมา,เซี่ยวเฉินจ้องมองไปที่ทุ่งสมุนไพรที่อยู่ไม่ไกลออกไปและกล่าวขึ้น “ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร แต่ดูเหมือนว่าเส้นทางการฝึกฝนร่าง กายจะถูกต้องความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าต้องการร่างกายที่แข็งแกร่งก่อนที่จะสามารถนํามันออกมาใช้ได้”

 

ในตอนนี้ ดูเหมือนเขาจะเข้าใจได้เลือนลางว่าทําไมร่าง กายนี้ถึงไม่สามารถหลอมรวมจิตวิญญาณยุทธได้สํา เร็จในตลอดสิบปีที่ผ่านมา

 

มันไม่ได้เป็นเพราะเขาไม่มีพรสวรรค์เพียงพอ กลับกัน,มันเป็นเป็นความแข็งแกร่งทางกายของเขามันไม่ เพียงพอในช่วงเวลานั้น มันไม่สามารถทนต่อความกดดันจากการหลอมรวมจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าได้

 

ในเช้าวันต่อมา เซี่ยวเฉินขับเรือสงครามสีเงินออกไปและ มาถึงทุ่งสมุนไพร เขามองไปทั่วค้นหาสมุนไพรอื่นๆที่สามารถเสริมสร้างฉีและโลหิตของเขาเหมือนกับคราวก่อน,มีสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 5 กําลังเฝ้าสมุนไพรเอาไว้

 

เซี่ยวเฉินรู้แล้วว่าต้องทําเช่นไร หลังจากที่ความ แข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมา 500 กิโลกรัม,เขาสามารถรับมือกับสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 5 ได้ง่ายยิ่งกว่าง่ายเหมือนกับ ก่อนหน้านี้เขาชําแหละร่างของสัตว์อสูรวิญญาณและเก็บเกี่ยวสมุนไพรก่อนที่จะจากไปอย่างรวดเร็ว

 

สามวันต่อมา เซี่ยวเฉินก็สําเร็จในการกลั่นสกัดสมุนไพรอายุนับร้อยปีต้นนี้อย่างสมบูรณ์,เพิ่มฉีและโลหิตของเขาช่างเสียดาย,ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมาเพียง 250 กิโลกรัมนอกจากนั้นเขายังไม่ได้เปิดจุดปราณ

 

ในวันที่สี่,เซี่ยวเฉินใช้วิธีเดิมไปเก็บเกี่ยวสมุนไพรอายุหนึ่งร้อยปีหลังจากที่เขากลั่นสกัดสมุนไพรต้นนี้ผลของมันยิ่งแย่กว่าเดิมมันเพิ่มพละกําลังของเขาขึ้นมาเพียง 150 กิโลกรัมเท่านั้น

 

ยิ่งเขาทําเช่นนี้มาเท่าไหรผลของสมุนไพรอายุร้อยปีก็ยิ่งเบาบางลงเท่านั้นในที่สุด,มันก็มาถึงจุดที่ว่าไม่เพิ่มขึ้นแม้แต่น้อยมันเพียงแค่เติมพลังงานของเขาที่อ่อนล้าเท่านั้น

 

เวลาที่เซี่ยวเฉินใช้ในการกลั่นสกัดสั้นลง ถึงจุดนี้ เขาใช้เวลาเพียงครึ่งวันในการกลั่นสกัดสมุนไพรอายุหนึ่งร้อยปี

 

หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน,ความพยายามของเซี่ยวเฉินเพิ่มพละกําลังของเขาได้ 500 กิโลกรัมการโจมตีเต็มกําลังของเซี่ยวเฉินขึ้นมาถึง 3,500 กิโลกรัมนอกจากนั้น,ปราณจุดที่สามของเขาบนแขนขวาได้เผดออกจุดปราณต้าหลิงในที่สุดก็เปิดออก

 

เซี่ยวเฉินสูดหายใจแรง ขณะที่เขาเปิดจุดปราณต้าหลีง, จุดปราณเหลากง,จุดปราณ,และจุดปราณต้าหลิงบนแขนขวาของเขา,พวกมันทั้งหมดส่องแสงสีฟ้าออกมา เมื่อแสงทั้งสามรวมเข้าด้วยกัน,เขารู้สึกราวกับแขนขวาของเขากําลังจะ ระเบิดและเติมเต็มไปด้วยพลังงานอันไร้ขอบเขต

 

“สังหาร!”

 

เซี่ยวเฉินร้องตะโกนขึ้นพร้อมกับกระโดดขึ้นไปในอากาศเขาชกออกลงไปที่พื้นที่อยู่ห่างออกไปแสงสีฟ้าออกจากร่างของเขาและยิงออกไป;แสงสีฟ้าทั้งสามผสานเข้าด้วยกัน

 

มันสร้างภาพร่างมังกรฟ้าที่บินไปในอากาศภาพมังกรฟ้าเลือนลางซัดเข้าที่พื้นอย่างรุนแรง

 

“ปัง! ปัง! ปัง!”

 

ต่อมาในทันทีเกิดระเบิดขึ้นสามครั้งบนพื้น มันระเบิดสร้างหลุมขนาดใหญ่ห่างกันประมาณสิบเมตรในวินาทีต่อมา,ฝุ่นควันลอยขึ้น,สายลมไหลรุนแรง,ดินหินปลิวไปมา

 

เซี่ยวเฉินถอนมือกลับและเผยรอยยิ้มบางเบา “ข้าเปิดจุดปราณมาได้เพียงสามจุดและมันก็แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เขาสงสัยว่ามันจะทรงพลังถึงเพียงใดเมื่อข้าเปิดจุดปราณทั้ง 18 จุดบนแขนขวาของข้า”

 

ด้วยขอบเขตการบ่มเพาะพลังของเซี่ยวเฉิน,เขายังไม่ถึง จุดที่จะสามารถยิงลมปราณออกไปได้นั้นเป็นสิ่งที่มีเพียงขอบเขตนักบุญหรือสูงกว่าเท่านั้นที่จะทําได้ถึงอย่างไร,ภาพร่างมังกรฟ้าที่เขาได้ยิงออกไปนั่นไม่ใช้พลังปราณเขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่ามันคืออะไร

 

เขาทําได้เพียงคาดเดาว่ามันคือพลังฉีมังกรจากจิตวิญ ญาณยุทธมังกรฟ้ามีเพียงฉีมังกรที่จะสามารถทรงพลังได้ถึงเพียงนี้

 

น่าเสียดายยิ่งเขาก้าวหน้ามากขึ้นเท่าไหร,เขายิ่งเปิดจุดปราณยากมากขึ้นเท่านั้น สมุนไพรอายุร้อยปีที่เสริมสร้างฉีและโลหิตของเขาไม่ส่งผลอีกต่อไป

 

เซี่ยวเฉินจ้องมองไปที่ทุ่งสมุนไพรและพึมพํากับตัวเอง “ดูเหมือว่าข้าจะต้องค้นหาสมุนไพรที่อายุมากกว่าสองร้อยปีขึ้นไปถึงกระนั้น,สัตว์อสูรวิญญาณที่เฝ้าสมุนไพรพวกนั้นอย่างน้อยก็อยู่ระดับ 5 ขั้นสูงสุดขึ้นไปมันไม่ง่ายที่จะไปเอามา”

 

สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 5 ขั้นสูงสุดเทียบเท่าได้กับขอบ เขตนักบุญขั้นสูงด้วยระดับการบ่มเพาะพลังของเซี่ยวเฉินที่ขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นกลางมันเป็นเรื่องยากที่จะไปท้าทายพวกมัน

 

“ความมั่งคั่งที่มาพร้อมกับอันตราย ในเส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลัง,ผู้นั้นต้องท้าทายสวรรค์,ท้าชนปฐพี,และ วยุนรชน หากผู้นั้นไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะสู้เขาจะเดินเส้น ทางการบ่มเพาะพลังไปได้ไกลถึงเพียงใด?”

 

เปลวแสงเด็ดเดี่ยวปรากฏขึ้นในดวงตาของเซี่ยวเฉิน เขาตบฝ่ามือขวาของเขาลงบนต้นไม้ใหญ่ด้านข้างของเขาอย่างรุนแรง

 

“ดง! ดง!”

 

เซี่ยวเฉินกําลังจะนั่งลงพักผ่อนและเตรียมตัวที่จะไปที่ทุ่งสมุนไพรในวันนี้ทันใดนั้น ความตกตะลึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซี่ยวเฉิน มันไม่อะไรไม่ถูกต้อง

 

เซี่ยวเฉินหันหน้าไปและเผยความงุนงง เขามองไปที่ต้นไม้ใหญ่สูงตระหง่านและพยายามขยายสัมผัสวิญญาณของเขาเข้าไปและมองดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน

 

“ฮัว!” เมื่อสัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินแตะเข้าที่ด้านข้างของต้นไม้,เซี่ยวเฉินรู้สึกราวกับสมองของเขาถูกแข็มทิ่มแทงมันเจ็บปวดเป็นอย่างมากดังนั้นเซี่ยวเฉินจึง รีบถอนสัมผัสวิญญาณของเขากลับมา

 

“ดง! ดง!”

 

เซี่ยวเฉินเคาะอย่างแรงที่ต้นไม้อีกครั้งและฟังเสียงอย่าง ละเอียด เสียงในครั้งนี้ชัดเจนยิ่งขึ้นเซี่ยวเฉินยิ่งมั่นใจ“นี่มันแปลกจริงๆ”

 

“เป็นไปได้ว่าข้างในมันกลวง?” เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างสงสัย เขามองไปที่ต้นไม้ตรงหน้าของเขา,มันต้องใช้ผู้ใหญ่หลายคนเพื่อที่จะโอบต้นไม้ต้นนี้

 

เซียวเฉินหยิบกระบี่เงาจันทร์ออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลเขาจับด้ามกระบี่มันและรวมรวบพลังปราณลงที่ตัวกระบี่ กระบี่แสงปรากฏขึ้นบนคมกระบี่พร้อมกับมันสับลงไป ที่ลําต้นหนาของต้นไม้

 

กระบี่แสงยาวกว่าสิบเมตรซัดเข้าที่ต้นไม้สูงใหญ่พร้อมกับ เสียง “ชั่ว” กระบี่แสงถูกต้นไม้ใหญ่ดูดกลืนและไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน

 

เซี่ยวเฉินเก็บกระบี่และพูดขึ้น “โจมตีด้วยพลังป ราณมันไร้ประโยชน์? เช่นนั้นก็ลองชิมหมัดของข้าดู!”

 

“ปัง!”

พลังเต็มพิกัด 3,500 กิโลกรัมของเซี่ยวเฉินกระแทกเข้า ที่ต้นไม้แต่มันไม่แม้แต่จะสั่นสะเทือนแรงไหลผ่านลําต้นของต้นไม้และลงไปสั่นสะเทือนที่พื้นดินแทน

 

มันยังคงไร้ประโยชน์ไม่ว่าเซี่ยวเฉินจะสรรหาวิธีอะไรก็ ตามแต่ เขาต้องการเปิดต้นไม้ออกเพื่อตรวบสอบดูในท้ายที่สุด,มันก็ไม่เป็นผล

 

ยิ่งเข้าล้มเหลวเซียวเฉินยิ่งสนใจมันยิ่งขึ้นไปอีก เขารู้สึ กว่านี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าข้างในต้นไม้จะต้องมีความลับอะไรบางอย่าง

 

เซี่ยวเฉินกระโดดขึ้นและลอยไปยังกิ่งไม้ หลังจากนั้นเขา ก็เริ่มตรวจสอบมันอย่างระวัง

 

ในเมื่อใช้กําลังไม่เป็นผล จากนั้นเขาก็ค้นหาทางเข้าแทน ต้นไม้เขียวชอุ่มและอุดมสมบูรณ์แตกกิ่งขยายไปในอากาศ,มันยากสําหรับเซี่ยวเฉินในการค้นหา

 

เซี่ยวเฉินค่อยๆค้นหาและขยับขึ้นไปที่ละเมตร เวลาไห ลผ่านไปอย่างช้าๆ เมื่อเซี่ยวเฉินขึ้นมาถึงยอดของต้นไม้,เขาพบรู้ที่มันน่าจะเป็นทางเข้า

 

รูนี่ถูกปกปิดไว้เย็นอย่างดีมันถูกปดบังด้วยใบไม้ที่หนาแน่นหากเซียวเฉินไม่มองดูดีๆ เขาคงไม่มีทางเจอ

 

หลุมดํามืดที่ต้นไม้ใหญ่ขนาดประมาณโอ่งน้ํามันใหญ่เพียงแค่ให้คนหนึ่งคนลอดผ่านเข้าไปได้เซี่ยวเฉินหักกิ่งไม้มาและโยนลงไปในรูหลังจากผ่านไปนาน,เขาก็ได้ยินเสียงสะท้อนเลาบางกลับมา

 

“ตราบใดที่มันไม่ใช่หลุมที่ไร้ก้น,ลงไปที่คงไม่เป็นไรมั้ง”เมื่อเขาเห็นว่ากิ่งไม้ลงไปถึงก้น,เซี่ยวเฉินก็ไม่ลังเลที่จะลอดผ่านไป

 

หลังจากที่เขาเข้าไป,มันก็กว้างขึ้นอย่างมาก เซี่ยวเฉินสา มารถยืดแขนออกไปด้อย่างอิสระ เขาร่วงลงไปเร็วขึ้นก่อน ที่จะสัมผัสอะไรแข็งๆที่ด้านลางเท้าของเขาเขาลงถึงพื้นอ ย่างมั่นคง

 

เซี่ยวเฉินหยิบไข่มุกราตรีออกมาและหลุมมืดมิดก็สว่างขึ้นทันตาฉากด้านล่างปรากฏขึ้นในวิสัยทัศน์ของเขาทันที

 

นี่คือบ้านไม้กว้างขวาง มันยาวสิบเมตรและกว้างประมาณ 3.3 เมตร มีการตกแต่งที่เรียบง่ายภายในห้องพวกมันเป็นเพียงของธรรมดา

 

บนกําแพง,มีภาพวาดเหมือนยาว มันแสดงให้เห็นถึงชายร่างมหึมาเขาแต่งชุดสีดําและมีผมยาวดวงตาของเขาราวกับน้ําลึกและใบหน้าเฉียบคม เขายืนตัวตรงพร้อมกับมือไพล่หลังมีกระบี่ปักอยู่ที่พื้นตรงหน้าของเขา

 

ริมฝีปากของชายชุดดํายกขึ้นเล็กน้อยที่มุมและเผย รอมยิ้มที่น่ากลัว ผู้ที่วาดภาพนี้ออกมามีฝีมือเป็นอย่างมาก,เขาสร้างภาพที่แสดงอารมณ์ออกมาได้อย่างสมจริง

 

เซี่ยวเฉินรู้สึกว่าคนผู้นี้ดูคุ้นตาเป็นอย่างมาก เมื่อเขาใช้ไข่ มกราตรีส่องออกไป,เขารู้สึกราวกับคนผู้นี้กําลังยืนอยู่ตรงหน้าของเขาเซี่ยวเฉินมองอย่างละเอียดไปที่รูปร่างของบุคค ลผู้นี้

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาอุทานขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “ผู้ นี้คือจักรพรรดิกระบี่! บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งศาลากระบี่สวรรค์ เขายังเป็นระดับขอบเขตจักรพรรดิยุทธเพียงผู้เดียวภา ยในศาลากระบี่สวรรค์”

 

มีรูปสลักของเขาตั้งอยู่ที่ฐานส่องสวรรค์ เซียวเฉินเคยมอง ดูคราวๆ เขาจึงจดจําได้ไม่มากนัก ตอนนี้เขามองดูภาพวาดอย่างละเอียด,เขาก็จําได้

 

มันไม่มีเอกฉันท์ว่าผู้ใดคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศา สตร์อาณาจักรต้าฉิน อย่างไรก็ตามเก็มีระดับขอบเขตจักรพรรดิยุทธหลายคนในประวัติศาสตร์:ราชวงศ์ฉินรุ่นแรก,จักรพรรดิราตรีเงียบ,จักรพรรดิอัสนี,และจักรพรรดิยุทธอีกหลายท่านในประวัติศาสตร์อาณาจักรต้าฉิน

 

ไม่มีใครเห็นพ้องว่าใครผลคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดน่าเสียดาย,ที่จักรพรรดิเหล่านี้ล้วนมาจากต่างยุคต่างสมัยกันพวกเขาไม่เคยเผชิญหน้ากันมาก่อนดังนั้นจึงไม่รู้ได้ว่าใครคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด

 

บ้างก็ว่านั่นคือจักรพรรดิกระบี่เพราะเขาสามารถแยกแม่น้ํายาวนับ 5,000 กิโลเมตรด้วยกระบี่เดียวบ้างก็ว่าคือจักรพรรดิของนิกายดาบเงาหมอกเพราะเขาเคยไปที่ อาณาจักรต้าจินและท้าทายผู้ปกครองในยุคนั้น

 

ทุกคนล้วนมีความคิดเห็นของตัวเองแตกต่างกันไปแต่มีสิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญทลที่ครั้งหนึ่งเคยยืนอยู่จุดเหนือสุดของอาณาจักรต้าฉิน เรื่องราวของพวกเขาไม่ได้จางหายไปแม้ว่าจะผ่านมานับหมื่นปี

 

ในหมู่พวกเขา,จักรพรรดิกระบี่คือหนึ่งในที่เก่าแก่ที่สุดก่อนที่ราชวงศ์เทียนหวี่จะสิ้นสุดเขาก็ได้ก่อตั้งศาลากระบี่สวรรค์แห่งนี้ขึ้นมาเรียบร้อยแล้วนอกจากนั้นเขายังเป็นหนึ่งในผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในทวีปเทียนหวู่ในเวลานั้น

 

อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินมั่นใจว่านี่ไม่ใช่ที่พํานักดังเดิมของจักรพรรดิกระบี่ เป็นเพราะภาพวาดถูกวาดขึ้นโดย ใครบางคนที่ใช้คําอธิบายลักษณะของจักรพรรดิกระบี่,มันไม่ ได้วาดขึ้นจากการใช้จักรพรรดิกระบี่เป็นต้นแบบจริงๆ

 

เซี่ยวเฉินดึงสติของเขากลับมาและค้นหารอบห้องเพื่อดูว่าเขาจะพบเบาะแสว่าใครคือเจ้าของที่แห่งนี้

 

มีเสื้อสวดภาวนาอยู่ที่ตรงกลางของห้องดึงดูดตชความสนใจของเซียวเฉิน เสือสวดภาวนาช่างดูธรรมดา,นักบ่มเพาะพลังหลายคนใช้พวกมันเป็นที่นั่งและบ่มเพาะพลัง

 

แน่นอน,มันบางเสือสวดภาวนาที่ไม่ธรรมดาเมีบ้างที่ทําขึ้นมาจากต้นกกที่มีจิตวิญญาณธรรมชาติมีแม้แต่ค่ายกลรวบรวมวิญญาณเล็กสลักเอาไว้การบ่มเพาะพลังบนมันสามารถเพิ่มการดูดซับพลังงานจิตวิญญาณ

 

เซี่ยวเฉินไม่เคยใช้เสือสวดภาวนามาก่อนและไม่รู้อะไรมากนักสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาก็คือกองขี้เถ้าสีดําบนเสือสวดภาวนา

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+