Immortal and Martial Dual Cultivation 210 ขี้เหล้าเสี่ยวไป๋

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 210 ขี้เหล้าเสี่ยวไป๋ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 210 ขี้เหล้าเสี่ยวไป๋

 

เงาสีเงินพุ่งลงมาจากยอดเขา เซี่ยวเฉินมองดูอย่างละเอียด และรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างอดไม่ได้

 

เงาสีขาวนั้นคือเสี่ยวไป๋ สหายตัวน้อยนี่ขี้เล่นเป็นอย่างมาก หลังจากที่มันไปกับเสี่ยวเมิ่งในวันนั้น,มันก็ไม่ได้กลับมาเลย มันวิ่งไประหไปทั่วยอดเขาฉิงหยุน

เซี่ยวเฉินรู้มันสนุกเมื่อได้อยู่บนปาเขา นอกจากนั้น,ภารกิจของเขายังอันตรายเป็นอย่างมาก เขาจึงปล่อยให้มันอยู่

 

เมื่อเสี่ยวไป๋เห็นเสี่ยวเฉิน,มันตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ขนสีขาวหิมะของมันส่องแสงแผ่วเบาภายใต้ดวงอาทิตย์ขณะที่ มันกระโดดเข้ามาที่เซี่ยวเฉิน

 

“ปูทง!”

 

เสี่ยวไป๋ต้องในจะกระโดเข้ามาในอ้อมกอดของเซี่ยวเฉิน อย่างไรก็ตาม เมื่อมันห่างจากเซี่ยวเฉินไปเพียงเมตร,มันก็ล้มหัวทิ่มกลิ้งลงไปเหมือนก้อนอิฐ

 

เสี่ยวไป๋ล้มลงไปที่พื้นอย่างแรง เมื่อมันลุกขึ้นยืน,มันดูงุนงง หัวเล็กๆของมันมองซ้ายขวา,ดูสับสนเป็นอย่างมาก

 

เซี่ยวเฉินผงะ เขาเดินตรงเข้าไปและอุ้มเสี่ยวไป๋ขึ้นมา เขาได้กลิ่นของเหล้าลอยมาชัดเจน เขาอดไม่ได้ที่ต้องอุทานออกมาอย่างตกตะลึง “เหม็นเหล้าอะไรขนาดนี้ นี่เจ้าเมามา?”

 

เสี่ยวเมิ่งเดินเข้ามาอย่างเลิ่กลักและพูดขึ้น “พี่ชายเย่เฉิน,มีครั้งหนึ่ง,ตอนที่เจ้าจากไปเสี่ยวไป๋บังเอิญไปกินเหล้าของช่าวหยางเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ 

หลังจากนั้น,มันก็ติดงอมแงม จากนั้นมันก็มักจะดื่มจนเมามายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเอาเหล้าไปซ่อนที่ไหน,มันก็ดมกลิ่นตามจนเจอตลอด”

 

ช่าวหยางเดินเข้ามาอย่างเขินอาย “พี่ชายเย่,ข้าต้องขออภัย ข้าพยายามหาทางป้องกันหลานชั้นแล้ว แต่จมูกของเสี่ยวไป๋มันดีเกินไป ถึงแม้ว่าข้าจะเลิกดื่มเหล้าแล้ว ถึงกระนั้น มันก็ยังวิ่งไปที่ยอดเขาและขอเหล้าจากพวกผู้อาวุโส”

 

เซี่ยวเฉินเหงื่อตกในใจ เสี่ยวไป๋ดื่มเหล้าเข้าไปจริงๆ นอกจากนั้นยังดื่มจนเมามาย หลังจากแยกกันไปเป็นเวลาสองเดือน,มันก็เสียนิสัย” เข้าแล้ว

 

“ไม่เป็นไร,ข้าจะรอดูสถานการณ์อยู่สักสองสามวันก่อน นอกจากนั้น,การดื่มมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร”

 

เซี่ยวเฉินไม่อาจโทษความซุกซนของเสี่ยวไป๋ นอกจากนั้น,สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 มันเทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ ช่าวหยางและเสี่ยวเมิ่งเป็นเพียงคนธรรมดา,ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะไม่สามารถจับตาดูมันได้ตลอด:มันก็โทษพวกเขาไม่ได้เช่นกัน

 

เสี่ยวไป๋ดูเหมือนจะรู้ว่าเจอปัญหาแล้ว ใบหูของมันตกลง,และไม่กล้าแม้แต่จะขยับในอ่อมอกของเซี่ยวเฉิน เซี่ยวเฉินหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้และใส่เสี่ยวไป๋เข้าไปในหยกวิญญาณสีเลือด

 

เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นหลิวสุยเฟิงที่อยู่ดานข้างเขา เขานึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ เขาหยิบเหรียญแต้มสะสมสีดําห้าเหรียญออกมาและยื่นให้กับหลิวสุยเฟิง “สุยเฟิง,ตอนที่เข้าไปยังยอดเขาสตรีหยกในวันพรุ่งนี้,ช่วยส่งเหรียญพวกนี้ให้กับบรรพบุรุษอาจารย์ป้าเฉิน”

 

TL:ขอเปลี่ยนเป็นบรรพบุรุษอาจารย์ป้านะครับ สมอายุหน่อย

 

หลิวสุยเฟิงปัดมือของเขาและปฏิเสธไม่รับเหรียญแต้มสะสม เขายิ้มและพูดขึ้น “พี่สาวของข้าได้ช่วยจ่ายให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว นางรู้ว่าเจ้าหยิบยืมแต้มสะสมมาเพื่อสร้างเม็ดยาบํารุงโฉม นางดุด่าข้าด้วยซ้ํา”

 

เซี่ยวเฉินเก็บเหรียญแต้มสะสมและมองไปยังทิศทางที่หลิวหรูเยว่หายเข้าไปบนยอดเขา บุญคุณของนางต่อเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

 

ในช่วงดึก,ดวงดาราเติมเต็มท้องฟ้าคู่กับดวงจันทร์ที่ลอยสูง

 

เซี่ยวเฉินอยู่ในลานบ้านของเขา เขาหยิบเอาต้นดาวเรือง แสงไหลออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล บนต้นดาวเรืองแสงไหล,ดอกดาวเรืองแสงไหลส่งกลิ่นหอมหวนออกมา, ปลดปล่อยพลังงานจิตวิญญาณจํานวนมหาศาลออกมา

 

มีห้ากลีบอยู่บนดอกดาวเรืองแสงไหล ไม่มีความแตกต่างว่าจะกินไปหนึ่งหรือทั้งห้ากลีบ แต่ละคนมีเพียงโอกาสเดียวในชีวิต เพื่อเพิ่มความสามารถในการเข้าใจรู้แจ้งของพวกเขา

 

จํานวนที่เพิ่มขึ้นมาจะเป็นไปตามโชคของมัน ดอกไม้นี้ให้ผลไม่แน่นอน มันอาจจะให้ความสามารถในการจดจําสิ่งต่างๆได้ในพริบตาหรือเข้าใจทักษะต่อสู้ต่างๆเพียงมองแค่ครั้งเดียว

 

แม้ว่าดอกดาวเรืองแสงไหลจะให้ผลที่ไม่แน่นอน,มันก็ยังคงเป็นสมุนไพรวิญญาณระดับอมตะ หลังจากกลืนมันเข้าไป,มันจะสามารถเพิ่มความสามารถในการเข้าใจของนักบ่มเพาะพลังได้อย่างน้อยสองในสิบส่วน,มันให้ผลที่ชัดเจน

 

ทั้งหมดห้ากลีบ,เซี่ยวเฉินตั้งใจจะกินเองหนึ่ง,และหาโอกาสนําไปให้หลิวหรูเยว่และหลิวสุยเฟิงคนละหนึ่ง สําหรับช่าวหยางและเสี่ยวเมิ่ง, พวกเขาไร้จิตวิญญาณยุทธ ทําให้ถูกตัดออกไป

 

เหลืออีกสองชิ้น,เซี่ยวเฉินจะให้เสี่ยวไป๋หนึ่งชิ้น สําหรับชิ้นสุดท้ายให้พี่อี้หลานเมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งในอนาคต

 

TLเซี่ยวอวี้หลันกับเซี่ยวอี้หลานคนเดียวกันนะครับลูกพี่ ลูกน้องของเซี่ยวเฉิน ชื่อผิดผมแก้ใหม่เป็นเซี่ยวอี้หลาน แจ้งไว้เผื่อผมตกหล่นลืมแก้ในตอนที่ผ่านมา

 

เซี่ยวเฉินจัดสรรดอกไม้ทั้งห้ากลีบในใจของเขา จากนั้น เขาก็เด็ดกลีบดอกไม้สีทองออกมาหนึ่งกลีบ,วางลงใส่ปากของเขา

 

รสชาติที่สดชื่น,หนักแน่นกระจายไปทั่วปากของเขา กลีบดอกไม้กลายไปเป็นของเหลวเย็นและสดชื่นแพร่กระจายไปทั่วเส้นปราณในร่างของเขา

 

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง,มันแทรกซึมเข้าไปในทุกอณูของเซี่ยวเฉิน:ความรู้สึกนุ่มสบายกระจายไปทั่วร่างของเขามัน ทําให้เขารู้สึกไร้กังวลและผ่อนคลาย

 

เซี่ยวเฉินหลับตาลงและดื่มด่ไปกับความรู้สึกนี้ เข้าสู่สภาวะที่เขาได้ลืมตัวตนของตัวเอง ผ่านไปครู่หนึ่ง,มันรู้สึกราวกับจิตใจของเขาระเบิดออก,ข้อมูลนับไม่ถ้วนไหลทะลักเข้ามา

 

ต้นกําเนิดปัญญายุทธ รูปแบบแปรลักษณ์,สับวายุใส, หัตถ์จับมังกร มังกรฟ้าเมฆาทะยาน,สยายปีก,สายฟ้าฉับพลันทักษะต่อสู้มั้งหมดที่เขาได้ร่ําเรียนปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา

 

หลายสิ่งที่เขาไม่อาจเข้าใจได้ทันใดนั้นก็ชัดเจน ทุกสิ่งอย่างกลายเป็นแจ่มชัด,ราวกับเขารู้แจ้งอย่างสมบูรณ์ เขาสามารถวิเคราะห์หลายสิ่งได้ในครั้งเดียว ท่วงท่าของทักษะต่อสู้ต่างๆลอยผ่านจิตใจของเขา

 

เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้น ดวงตาของเขาล้ําลึกและใสชัด,ราวกับบ่อน้ําโบราณ,ที่ไม่อาจหยั่งถึง

 

สับวายุใส,มังกรฟ้าฟาดหาง!

 

เซี่ยวเฉินตะโกนขึ้นและสายลมเย็นอ่อนนุ่มพัดรอบลานบ้านของเขา ใบไม้ตามพื้นถูกปัดลอยขึ้นไปในอากาศ,พวกมันลอยไปในอากาศอย่างต่อเนื่อง,สร้างเสียง “โซว โซว” ออกมาไม่หยุด

 

เขาใช้ออกทักษะระดับสูงของมังกรฟ้าเมฆาทะยาน มังกรฟ้าฟาดหาง ไปพร้อมกับทักษะลับของยอดเขาฉิงหยุน

 

สับวายุใส และเคลื่อนไหวไปในอากาศอย่างสง่างาม

 

มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เซี่ยวเฉิน ผู้ที่ซ่อนอยู่ในสายลมเย็น ทันใดนั้นก็หายตัวไป ในทันทีต่อมา ทั้งกระบี่และผู้บ่มเพาะพลังถูกลบหายไป,ทั้งสองเลือนหายไปจากสายตา

 

มีเพียงสายลมเย็นและเสียงใบไม้ร่วงหล่นที่ยังคงอยู่ภายในลานบ้าน พื้นที่ตกสู่ความเงียบในทันที

 

“แคร้ง!”

 

เซี่ยวเฉินปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเคลื่อนไปจากจุดที่เขาอยู่ ก่อนหน้านี้เล็กน้อยพร้อมกับขเาเก็บกระบี่เงาจันทร์เข้าฝัก ความประหลาดนี้ทําให้สีหน้าของเขาแจ่มใสขึ้น

 

ตามจากนั้น “สับวายุใสในที่สุดก็ขึ้นมาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม”

 

หลังจากที่เขาพูดจบ,สายลมเย็นด้านหลังของเขาก็หยุดลง หมูใบไม้ที่ลอยอยู่ในอากาศร่วงหล่นสู่พื้น

 

ใบไม้ทุกใบที่ร่วงลงพื้นแยกตัวออกเป็นสอง,สี่แปด…ในที่สุดก็กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยนับไม่ถ้วน

 

เซี่ยวเฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าพลังในการเข้าใจของเขาเพิ่มขึ้นถึงเพียงใด อย่างไรก็ตาม,เขาคาดว่ามันจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อยครึ่งเท่าเมื่อเทียบกับในอดีต

 

สับวายุใสที่อีกเพียงก้าวเดียวก็จะขึ้นสู่ระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม การกินดอกดาวเรืองแสงไหลเข้าไปผลักดันเขาให้เข้าใจมันในทันที เขาพบแม้กระทั้งหนทางที่จะผสานมันเข้ากับมังกรฟ้าเมฆาทะยาน

 

เซี่ยวเฉินได้ยกระดับสับวายุใส่ไปถึงจุดที่คาดไม่ถึง ไม่เพียงแค่ถึงจุดที่คมกระบี่ไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไป เขาไปถึงจุดที่แม้แต่ตัวของเขาเองก็ถูกปิดซ่อนไว้ท่ามกลางสายลม

 

แม้แต่หลิวหรูเยว่ก็ยังมาไม่ถึงจุดนี้ ยังไม่เคยมีใครในประวัติศาสตร์สําเร็จมันมาก่อน ก่อนหน้านี้เซี่ยวเฉินไม่เคยรู้ว่าจะมีขอบเขตนี้อยู่เซี่ยวเฉินรู้สึกราวกับเขาอยู่ในสภาวะที่แปลกประหลาด จิตใจของเขาเฉียบคม นี่ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มความสามารถในการเข้าใจธรรมดา

 

มันเป็นสภาวะที่สามารถพบได้โดยไม่ร้องขอ มันค่อนข้างคล้ายคลึงกับสภาวะรู้แจ้งในที่ตอนอยู่ที่หุบเขาสายลมอสูรในวันนั้น ในตอนนี้เขารู้สึกเช่นนี้ รู้ไม่ว่าจะทักษะต่อสู้อะไร, เขาสามารถมองทะลุได้ปรุโปร่ง

 

มันรู้สึกค่อนข้างยอดเยี่ยม มันเป็นบางสิ่งที่อธิบายออกเป็นคําพูดไม่ได้และต้องสัมผัสในด้วยตัวเองเท่านั้น นี่จะต้องเป็นผลลึกลับจากดอกดาวเรืองแสงไหล เซี่ยวเฉินรู้สึกว่าเวลากําลังจะหมดลง,เวลาในสภาวะเช่นนี้เขาไม่สามารถรักษาไว้ได้นานนัก

 

สภาวะนี้กําลังจะเลือนหายไป เซี่ยวเฉินระดมสมองของเขา หากเขาพลาดโอกาสนี้ไป,มันอาจจะไม่ได้มีมาให้อีกค

 

สิ่งที่เขาต้องตัดสินใจก็คือทักษะต่อสู้อะไรที่เขาอยากจะพัฒนาในช่วงเวลาที่จํากัดนี้

 

สายฟ้าฉับพลัน? ไม่,สายฟ้าฉับพลันได้เข้าใจถึงระดับสูงมากแล้ว นอกจากนั้น,ข้ายังคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี แม้จะไม่ได้ใช้โอกาสนี้,ข้าก็ยังสามารถสร้างความก้าวหน้าได้ในอนาคต

 

ทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยาน? ไม่จําเป็นเช่นกัน ข้าได้ฝึกฝนจนถึงระดับสมบูรณ์ขั้นต้นเรียบร้อยแล้ว,ข้าต้องพึ่งพาการบ่มเพาะพลังของข้า หลังจากที่ข้าก้าวขึ้นสู่ระดับขอบเขตนักบุญ.มันจะสามารถยกระดับขึ้นสู่ระดับสมบูรณ์ขั้นกลางได้

 

ต้นกําเนิดปัญญายุทธ-รูปแบบแปรลักษณ์? ไม่,ทักษะบ่มเพาะพลังนี้มันแปลกประหลาดเกินไป แม้กระทั่งถึงตอนนี้,ข้าสามารถสัมผัสมันได้เพียงผิวเผิน มันต้องการปาฏิหาริย์เพื่อสร้างความก้าวหน้า หากข้าใช้โอกาสนี้ไปกับมัน มันจะโชคร้ายอย่างมากหากว่าข้าล้มเหลว

 

ทักษะดาบสยายปีก? ยิ่งกว่าไม่ นี่คือทักษะต่อสู้ที่ข้าเลียนแบบมาโดยใช้รูปแบบแปรลักษณ์ ข้าไม่ได้ฝึกฝนมันมากนัก ดังนั้นจึงไม่คุ้มกัน

 

เวลาของเขากําลังจะหมดลง เซี่ยวเฉินครุ่นคิดต่อไป แต่เขาไม่สามารถตัดสินใจได้ ทันใดนั้น ก็มีทักษะต่อสู้นึ่งผุดขึ้นมาในใจของเขา

 

เขาเผยร้อยยิ้มและพูดขึ้น “ข้าจะฝึกฝนหมัดพยัคฆ์มังกร,กระบวณท่าที่สอง พยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน ข้าได้ติดดิ้นรนอยู่กับมันและไม่รู้ว่าต้องทําเช่นไร นอกจากนั้น,ทักษะต่อสู้นี้ยังมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยม หากข้าใช้โอกาสนี้ทําความเข้าใจมัน, พลังต่อสู้ของข้าจะเพิ่มขึ้นในทันที”

 

เมื่อเซี่ยวเฉินตัดสินใจได้ เขาก็วางกระบี่เงาจันทร์พร้อมกับผักลงบนพื้น หมุนเวียนพลังปราณของเขาพร้อมกับตั้งท่า,เขาเริ่มฝึกฝนพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน

 

ร่างภาพพยัคฆ์ดุร้ายปรากฏขึ้นด้านหลังของเซี่ยวเฉิน,และดูเหมือนว่าเขาถูกเข้าครอบงําโดยภาพร่างดังกล่าว ฉีและโลหิตของเขาเดือดพล่าน ราชันแห่งสัตว์อสูรได้จุติ,และเซี่ยวเฉินเริ่มปลดปล่อยกระแสพลังแห่งราชาที่ปกครองสัตว์อสูรหลายร้อยตัวรอบตัวของเขา

 

เซี่ยวเฉินเปล่งเสียงคํารามที่ดังก้องราวกับฟ้าร้อง ต้นไม้เล็กที่อยู่ในลานบ้านของเขาแยกออกจากกัน พร้อมกับเสียงระเบิดดังเป็นผลมาจากเสียงคําราม

 

“พยัคฆ์ร้ายทะลวงภูผา!”

 

ร่างของเซี่ยวเฉินก้มลงและเท้าขวาของเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างหนักแน่น เขากระโดดและชกหมัดออกมา,และภาพร่างพยัคฆ์ด้านหลังของเขาก็ร้องคํารามออกมาเสียงดัง

 

เซี่ยวเฉินรู้สึกได้ถึงระเบิดพลังที่ไหลผ่านมือขวาของเขา เมื่อเขาชกออกไปในอากาศ,มีเสียงระเบิดดังกึกก้อง

 

อากาศแยกออกเป็นละลอกคลื่นกระจายออกไป อณูฝุ่นที่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่าระเบิดอย่างต่อเนื่อง

 

เซี่ยวเฉินดีใจยิ่ง เขาไม่คาดคิดว่าพยัคฆ์ร้ายทะลวงภูผาจะสามารถพัฒนาขึ้นมาได้อย่างเห็นได้ชัดเช่นนี้ ต้องขอบคุณสภาวะยอดเยี่ยมที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้

 

หลังจากที่เขาชกออกไป,เขาหมุนเวียนพลังปราณในลักษณะของพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน ทันใดนั้น,ข้อมูลแปลกประหลาดได้ไหลเข้ามาในหัวของเขา

 

ไม่อาจรู้ได้ว่าข้อมูลเหล่านี้มาจากไหน มันตราตรึงอยู่ในหัวของเซี่ยวเฉิน มันคือคําอธิบายเกี่ยวกับพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อนทั้งหมด

 

เซี่ยวเฉินหลับตาของเขาลงและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดูดซับข้อมูล ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาลืมตาขึ้นเปลวแสงประหลาด วูบผ่านในดวงตาที่ลุ่มลึกและนิ่งสงบของเขา

 

เป็นเช่นนี้, นี่คือพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน กระบวณท่าที่สองของหมักพยัคฆ์มังกรมันไม่ได้ใช้เพื่อโจมตี กลับกัน มันเป็นทักษะป้องกันระดับสูง

 

ในการที่จะฝึกฝนมัน,ผู้นั้นจะต้องสามารถหลอมรวมพลังแห่งพยัคฆ์และมังกร มังกรและพยัคฆ์ขยายร่างและสงวนกระแสพลัง พลังอํานาจของมหาพยัคฆ์และมังกร แบกน้ําหนักของธาราและภูผา

 

ในขณะเดียวกัน มันก็สะสมพลังไว้สาหรับกระบวณท่าต่อไป พยัคฆ์ข่มมังกรคําราม หากเขาไม่ฝึกฝนกระบวณท่านี้ถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม มันไม่มีทางที่จะสําเร็จการฝึกฝนกระบวณท่าต่อไป

 

แขนซ้ายคือมังกร,ทะลุทะลวงผ่านฟ้าครามแขนขวาคือพยัคฆ์,ถูกก้มกราบจากสัตว์อสูรหลายร้อย พยัคฆ์และมังกรขยายร่าง,ไม่เกรงกลัวต่อธาราและภูผา

 

จิตใจของเซี่ยวเฉินชัดเจน ด้วยการใช้สภาวะอัศจรรย์นี้ เขาซัดออกไปด้วยแขนทั้งสองข้างในท่าทางของพยัคฆ์และมังกร ทั่วร่างของเขากลายเป็นนิ่งสงบอย่างไม่น่าเชื่อ รอบตัวกลายเป็นเงียบกริบ,และไม่มีร่องรอยของละลอกคลื่นใดๆ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 210 ขี้เหล้าเสี่ยวไป๋

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 210 ขี้เหล้าเสี่ยวไป๋ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 210 ขี้เหล้าเสี่ยวไป๋

 

เงาสีเงินพุ่งลงมาจากยอดเขา เซี่ยวเฉินมองดูอย่างละเอียด และรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างอดไม่ได้

 

เงาสีขาวนั้นคือเสี่ยวไป๋ สหายตัวน้อยนี่ขี้เล่นเป็นอย่างมาก หลังจากที่มันไปกับเสี่ยวเมิ่งในวันนั้น,มันก็ไม่ได้กลับมาเลย มันวิ่งไประหไปทั่วยอดเขาฉิงหยุน

เซี่ยวเฉินรู้มันสนุกเมื่อได้อยู่บนปาเขา นอกจากนั้น,ภารกิจของเขายังอันตรายเป็นอย่างมาก เขาจึงปล่อยให้มันอยู่

 

เมื่อเสี่ยวไป๋เห็นเสี่ยวเฉิน,มันตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ขนสีขาวหิมะของมันส่องแสงแผ่วเบาภายใต้ดวงอาทิตย์ขณะที่ มันกระโดดเข้ามาที่เซี่ยวเฉิน

 

“ปูทง!”

 

เสี่ยวไป๋ต้องในจะกระโดเข้ามาในอ้อมกอดของเซี่ยวเฉิน อย่างไรก็ตาม เมื่อมันห่างจากเซี่ยวเฉินไปเพียงเมตร,มันก็ล้มหัวทิ่มกลิ้งลงไปเหมือนก้อนอิฐ

 

เสี่ยวไป๋ล้มลงไปที่พื้นอย่างแรง เมื่อมันลุกขึ้นยืน,มันดูงุนงง หัวเล็กๆของมันมองซ้ายขวา,ดูสับสนเป็นอย่างมาก

 

เซี่ยวเฉินผงะ เขาเดินตรงเข้าไปและอุ้มเสี่ยวไป๋ขึ้นมา เขาได้กลิ่นของเหล้าลอยมาชัดเจน เขาอดไม่ได้ที่ต้องอุทานออกมาอย่างตกตะลึง “เหม็นเหล้าอะไรขนาดนี้ นี่เจ้าเมามา?”

 

เสี่ยวเมิ่งเดินเข้ามาอย่างเลิ่กลักและพูดขึ้น “พี่ชายเย่เฉิน,มีครั้งหนึ่ง,ตอนที่เจ้าจากไปเสี่ยวไป๋บังเอิญไปกินเหล้าของช่าวหยางเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ 

หลังจากนั้น,มันก็ติดงอมแงม จากนั้นมันก็มักจะดื่มจนเมามายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเอาเหล้าไปซ่อนที่ไหน,มันก็ดมกลิ่นตามจนเจอตลอด”

 

ช่าวหยางเดินเข้ามาอย่างเขินอาย “พี่ชายเย่,ข้าต้องขออภัย ข้าพยายามหาทางป้องกันหลานชั้นแล้ว แต่จมูกของเสี่ยวไป๋มันดีเกินไป ถึงแม้ว่าข้าจะเลิกดื่มเหล้าแล้ว ถึงกระนั้น มันก็ยังวิ่งไปที่ยอดเขาและขอเหล้าจากพวกผู้อาวุโส”

 

เซี่ยวเฉินเหงื่อตกในใจ เสี่ยวไป๋ดื่มเหล้าเข้าไปจริงๆ นอกจากนั้นยังดื่มจนเมามาย หลังจากแยกกันไปเป็นเวลาสองเดือน,มันก็เสียนิสัย” เข้าแล้ว

 

“ไม่เป็นไร,ข้าจะรอดูสถานการณ์อยู่สักสองสามวันก่อน นอกจากนั้น,การดื่มมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร”

 

เซี่ยวเฉินไม่อาจโทษความซุกซนของเสี่ยวไป๋ นอกจากนั้น,สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 มันเทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ ช่าวหยางและเสี่ยวเมิ่งเป็นเพียงคนธรรมดา,ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะไม่สามารถจับตาดูมันได้ตลอด:มันก็โทษพวกเขาไม่ได้เช่นกัน

 

เสี่ยวไป๋ดูเหมือนจะรู้ว่าเจอปัญหาแล้ว ใบหูของมันตกลง,และไม่กล้าแม้แต่จะขยับในอ่อมอกของเซี่ยวเฉิน เซี่ยวเฉินหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้และใส่เสี่ยวไป๋เข้าไปในหยกวิญญาณสีเลือด

 

เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นหลิวสุยเฟิงที่อยู่ดานข้างเขา เขานึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ เขาหยิบเหรียญแต้มสะสมสีดําห้าเหรียญออกมาและยื่นให้กับหลิวสุยเฟิง “สุยเฟิง,ตอนที่เข้าไปยังยอดเขาสตรีหยกในวันพรุ่งนี้,ช่วยส่งเหรียญพวกนี้ให้กับบรรพบุรุษอาจารย์ป้าเฉิน”

 

TL:ขอเปลี่ยนเป็นบรรพบุรุษอาจารย์ป้านะครับ สมอายุหน่อย

 

หลิวสุยเฟิงปัดมือของเขาและปฏิเสธไม่รับเหรียญแต้มสะสม เขายิ้มและพูดขึ้น “พี่สาวของข้าได้ช่วยจ่ายให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว นางรู้ว่าเจ้าหยิบยืมแต้มสะสมมาเพื่อสร้างเม็ดยาบํารุงโฉม นางดุด่าข้าด้วยซ้ํา”

 

เซี่ยวเฉินเก็บเหรียญแต้มสะสมและมองไปยังทิศทางที่หลิวหรูเยว่หายเข้าไปบนยอดเขา บุญคุณของนางต่อเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

 

ในช่วงดึก,ดวงดาราเติมเต็มท้องฟ้าคู่กับดวงจันทร์ที่ลอยสูง

 

เซี่ยวเฉินอยู่ในลานบ้านของเขา เขาหยิบเอาต้นดาวเรือง แสงไหลออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล บนต้นดาวเรืองแสงไหล,ดอกดาวเรืองแสงไหลส่งกลิ่นหอมหวนออกมา, ปลดปล่อยพลังงานจิตวิญญาณจํานวนมหาศาลออกมา

 

มีห้ากลีบอยู่บนดอกดาวเรืองแสงไหล ไม่มีความแตกต่างว่าจะกินไปหนึ่งหรือทั้งห้ากลีบ แต่ละคนมีเพียงโอกาสเดียวในชีวิต เพื่อเพิ่มความสามารถในการเข้าใจรู้แจ้งของพวกเขา

 

จํานวนที่เพิ่มขึ้นมาจะเป็นไปตามโชคของมัน ดอกไม้นี้ให้ผลไม่แน่นอน มันอาจจะให้ความสามารถในการจดจําสิ่งต่างๆได้ในพริบตาหรือเข้าใจทักษะต่อสู้ต่างๆเพียงมองแค่ครั้งเดียว

 

แม้ว่าดอกดาวเรืองแสงไหลจะให้ผลที่ไม่แน่นอน,มันก็ยังคงเป็นสมุนไพรวิญญาณระดับอมตะ หลังจากกลืนมันเข้าไป,มันจะสามารถเพิ่มความสามารถในการเข้าใจของนักบ่มเพาะพลังได้อย่างน้อยสองในสิบส่วน,มันให้ผลที่ชัดเจน

 

ทั้งหมดห้ากลีบ,เซี่ยวเฉินตั้งใจจะกินเองหนึ่ง,และหาโอกาสนําไปให้หลิวหรูเยว่และหลิวสุยเฟิงคนละหนึ่ง สําหรับช่าวหยางและเสี่ยวเมิ่ง, พวกเขาไร้จิตวิญญาณยุทธ ทําให้ถูกตัดออกไป

 

เหลืออีกสองชิ้น,เซี่ยวเฉินจะให้เสี่ยวไป๋หนึ่งชิ้น สําหรับชิ้นสุดท้ายให้พี่อี้หลานเมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งในอนาคต

 

TLเซี่ยวอวี้หลันกับเซี่ยวอี้หลานคนเดียวกันนะครับลูกพี่ ลูกน้องของเซี่ยวเฉิน ชื่อผิดผมแก้ใหม่เป็นเซี่ยวอี้หลาน แจ้งไว้เผื่อผมตกหล่นลืมแก้ในตอนที่ผ่านมา

 

เซี่ยวเฉินจัดสรรดอกไม้ทั้งห้ากลีบในใจของเขา จากนั้น เขาก็เด็ดกลีบดอกไม้สีทองออกมาหนึ่งกลีบ,วางลงใส่ปากของเขา

 

รสชาติที่สดชื่น,หนักแน่นกระจายไปทั่วปากของเขา กลีบดอกไม้กลายไปเป็นของเหลวเย็นและสดชื่นแพร่กระจายไปทั่วเส้นปราณในร่างของเขา

 

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง,มันแทรกซึมเข้าไปในทุกอณูของเซี่ยวเฉิน:ความรู้สึกนุ่มสบายกระจายไปทั่วร่างของเขามัน ทําให้เขารู้สึกไร้กังวลและผ่อนคลาย

 

เซี่ยวเฉินหลับตาลงและดื่มด่ไปกับความรู้สึกนี้ เข้าสู่สภาวะที่เขาได้ลืมตัวตนของตัวเอง ผ่านไปครู่หนึ่ง,มันรู้สึกราวกับจิตใจของเขาระเบิดออก,ข้อมูลนับไม่ถ้วนไหลทะลักเข้ามา

 

ต้นกําเนิดปัญญายุทธ รูปแบบแปรลักษณ์,สับวายุใส, หัตถ์จับมังกร มังกรฟ้าเมฆาทะยาน,สยายปีก,สายฟ้าฉับพลันทักษะต่อสู้มั้งหมดที่เขาได้ร่ําเรียนปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา

 

หลายสิ่งที่เขาไม่อาจเข้าใจได้ทันใดนั้นก็ชัดเจน ทุกสิ่งอย่างกลายเป็นแจ่มชัด,ราวกับเขารู้แจ้งอย่างสมบูรณ์ เขาสามารถวิเคราะห์หลายสิ่งได้ในครั้งเดียว ท่วงท่าของทักษะต่อสู้ต่างๆลอยผ่านจิตใจของเขา

 

เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้น ดวงตาของเขาล้ําลึกและใสชัด,ราวกับบ่อน้ําโบราณ,ที่ไม่อาจหยั่งถึง

 

สับวายุใส,มังกรฟ้าฟาดหาง!

 

เซี่ยวเฉินตะโกนขึ้นและสายลมเย็นอ่อนนุ่มพัดรอบลานบ้านของเขา ใบไม้ตามพื้นถูกปัดลอยขึ้นไปในอากาศ,พวกมันลอยไปในอากาศอย่างต่อเนื่อง,สร้างเสียง “โซว โซว” ออกมาไม่หยุด

 

เขาใช้ออกทักษะระดับสูงของมังกรฟ้าเมฆาทะยาน มังกรฟ้าฟาดหาง ไปพร้อมกับทักษะลับของยอดเขาฉิงหยุน

 

สับวายุใส และเคลื่อนไหวไปในอากาศอย่างสง่างาม

 

มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เซี่ยวเฉิน ผู้ที่ซ่อนอยู่ในสายลมเย็น ทันใดนั้นก็หายตัวไป ในทันทีต่อมา ทั้งกระบี่และผู้บ่มเพาะพลังถูกลบหายไป,ทั้งสองเลือนหายไปจากสายตา

 

มีเพียงสายลมเย็นและเสียงใบไม้ร่วงหล่นที่ยังคงอยู่ภายในลานบ้าน พื้นที่ตกสู่ความเงียบในทันที

 

“แคร้ง!”

 

เซี่ยวเฉินปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเคลื่อนไปจากจุดที่เขาอยู่ ก่อนหน้านี้เล็กน้อยพร้อมกับขเาเก็บกระบี่เงาจันทร์เข้าฝัก ความประหลาดนี้ทําให้สีหน้าของเขาแจ่มใสขึ้น

 

ตามจากนั้น “สับวายุใสในที่สุดก็ขึ้นมาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม”

 

หลังจากที่เขาพูดจบ,สายลมเย็นด้านหลังของเขาก็หยุดลง หมูใบไม้ที่ลอยอยู่ในอากาศร่วงหล่นสู่พื้น

 

ใบไม้ทุกใบที่ร่วงลงพื้นแยกตัวออกเป็นสอง,สี่แปด…ในที่สุดก็กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยนับไม่ถ้วน

 

เซี่ยวเฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าพลังในการเข้าใจของเขาเพิ่มขึ้นถึงเพียงใด อย่างไรก็ตาม,เขาคาดว่ามันจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อยครึ่งเท่าเมื่อเทียบกับในอดีต

 

สับวายุใสที่อีกเพียงก้าวเดียวก็จะขึ้นสู่ระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม การกินดอกดาวเรืองแสงไหลเข้าไปผลักดันเขาให้เข้าใจมันในทันที เขาพบแม้กระทั้งหนทางที่จะผสานมันเข้ากับมังกรฟ้าเมฆาทะยาน

 

เซี่ยวเฉินได้ยกระดับสับวายุใส่ไปถึงจุดที่คาดไม่ถึง ไม่เพียงแค่ถึงจุดที่คมกระบี่ไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไป เขาไปถึงจุดที่แม้แต่ตัวของเขาเองก็ถูกปิดซ่อนไว้ท่ามกลางสายลม

 

แม้แต่หลิวหรูเยว่ก็ยังมาไม่ถึงจุดนี้ ยังไม่เคยมีใครในประวัติศาสตร์สําเร็จมันมาก่อน ก่อนหน้านี้เซี่ยวเฉินไม่เคยรู้ว่าจะมีขอบเขตนี้อยู่เซี่ยวเฉินรู้สึกราวกับเขาอยู่ในสภาวะที่แปลกประหลาด จิตใจของเขาเฉียบคม นี่ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มความสามารถในการเข้าใจธรรมดา

 

มันเป็นสภาวะที่สามารถพบได้โดยไม่ร้องขอ มันค่อนข้างคล้ายคลึงกับสภาวะรู้แจ้งในที่ตอนอยู่ที่หุบเขาสายลมอสูรในวันนั้น ในตอนนี้เขารู้สึกเช่นนี้ รู้ไม่ว่าจะทักษะต่อสู้อะไร, เขาสามารถมองทะลุได้ปรุโปร่ง

 

มันรู้สึกค่อนข้างยอดเยี่ยม มันเป็นบางสิ่งที่อธิบายออกเป็นคําพูดไม่ได้และต้องสัมผัสในด้วยตัวเองเท่านั้น นี่จะต้องเป็นผลลึกลับจากดอกดาวเรืองแสงไหล เซี่ยวเฉินรู้สึกว่าเวลากําลังจะหมดลง,เวลาในสภาวะเช่นนี้เขาไม่สามารถรักษาไว้ได้นานนัก

 

สภาวะนี้กําลังจะเลือนหายไป เซี่ยวเฉินระดมสมองของเขา หากเขาพลาดโอกาสนี้ไป,มันอาจจะไม่ได้มีมาให้อีกค

 

สิ่งที่เขาต้องตัดสินใจก็คือทักษะต่อสู้อะไรที่เขาอยากจะพัฒนาในช่วงเวลาที่จํากัดนี้

 

สายฟ้าฉับพลัน? ไม่,สายฟ้าฉับพลันได้เข้าใจถึงระดับสูงมากแล้ว นอกจากนั้น,ข้ายังคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี แม้จะไม่ได้ใช้โอกาสนี้,ข้าก็ยังสามารถสร้างความก้าวหน้าได้ในอนาคต

 

ทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยาน? ไม่จําเป็นเช่นกัน ข้าได้ฝึกฝนจนถึงระดับสมบูรณ์ขั้นต้นเรียบร้อยแล้ว,ข้าต้องพึ่งพาการบ่มเพาะพลังของข้า หลังจากที่ข้าก้าวขึ้นสู่ระดับขอบเขตนักบุญ.มันจะสามารถยกระดับขึ้นสู่ระดับสมบูรณ์ขั้นกลางได้

 

ต้นกําเนิดปัญญายุทธ-รูปแบบแปรลักษณ์? ไม่,ทักษะบ่มเพาะพลังนี้มันแปลกประหลาดเกินไป แม้กระทั่งถึงตอนนี้,ข้าสามารถสัมผัสมันได้เพียงผิวเผิน มันต้องการปาฏิหาริย์เพื่อสร้างความก้าวหน้า หากข้าใช้โอกาสนี้ไปกับมัน มันจะโชคร้ายอย่างมากหากว่าข้าล้มเหลว

 

ทักษะดาบสยายปีก? ยิ่งกว่าไม่ นี่คือทักษะต่อสู้ที่ข้าเลียนแบบมาโดยใช้รูปแบบแปรลักษณ์ ข้าไม่ได้ฝึกฝนมันมากนัก ดังนั้นจึงไม่คุ้มกัน

 

เวลาของเขากําลังจะหมดลง เซี่ยวเฉินครุ่นคิดต่อไป แต่เขาไม่สามารถตัดสินใจได้ ทันใดนั้น ก็มีทักษะต่อสู้นึ่งผุดขึ้นมาในใจของเขา

 

เขาเผยร้อยยิ้มและพูดขึ้น “ข้าจะฝึกฝนหมัดพยัคฆ์มังกร,กระบวณท่าที่สอง พยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน ข้าได้ติดดิ้นรนอยู่กับมันและไม่รู้ว่าต้องทําเช่นไร นอกจากนั้น,ทักษะต่อสู้นี้ยังมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยม หากข้าใช้โอกาสนี้ทําความเข้าใจมัน, พลังต่อสู้ของข้าจะเพิ่มขึ้นในทันที”

 

เมื่อเซี่ยวเฉินตัดสินใจได้ เขาก็วางกระบี่เงาจันทร์พร้อมกับผักลงบนพื้น หมุนเวียนพลังปราณของเขาพร้อมกับตั้งท่า,เขาเริ่มฝึกฝนพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน

 

ร่างภาพพยัคฆ์ดุร้ายปรากฏขึ้นด้านหลังของเซี่ยวเฉิน,และดูเหมือนว่าเขาถูกเข้าครอบงําโดยภาพร่างดังกล่าว ฉีและโลหิตของเขาเดือดพล่าน ราชันแห่งสัตว์อสูรได้จุติ,และเซี่ยวเฉินเริ่มปลดปล่อยกระแสพลังแห่งราชาที่ปกครองสัตว์อสูรหลายร้อยตัวรอบตัวของเขา

 

เซี่ยวเฉินเปล่งเสียงคํารามที่ดังก้องราวกับฟ้าร้อง ต้นไม้เล็กที่อยู่ในลานบ้านของเขาแยกออกจากกัน พร้อมกับเสียงระเบิดดังเป็นผลมาจากเสียงคําราม

 

“พยัคฆ์ร้ายทะลวงภูผา!”

 

ร่างของเซี่ยวเฉินก้มลงและเท้าขวาของเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างหนักแน่น เขากระโดดและชกหมัดออกมา,และภาพร่างพยัคฆ์ด้านหลังของเขาก็ร้องคํารามออกมาเสียงดัง

 

เซี่ยวเฉินรู้สึกได้ถึงระเบิดพลังที่ไหลผ่านมือขวาของเขา เมื่อเขาชกออกไปในอากาศ,มีเสียงระเบิดดังกึกก้อง

 

อากาศแยกออกเป็นละลอกคลื่นกระจายออกไป อณูฝุ่นที่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่าระเบิดอย่างต่อเนื่อง

 

เซี่ยวเฉินดีใจยิ่ง เขาไม่คาดคิดว่าพยัคฆ์ร้ายทะลวงภูผาจะสามารถพัฒนาขึ้นมาได้อย่างเห็นได้ชัดเช่นนี้ ต้องขอบคุณสภาวะยอดเยี่ยมที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้

 

หลังจากที่เขาชกออกไป,เขาหมุนเวียนพลังปราณในลักษณะของพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน ทันใดนั้น,ข้อมูลแปลกประหลาดได้ไหลเข้ามาในหัวของเขา

 

ไม่อาจรู้ได้ว่าข้อมูลเหล่านี้มาจากไหน มันตราตรึงอยู่ในหัวของเซี่ยวเฉิน มันคือคําอธิบายเกี่ยวกับพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อนทั้งหมด

 

เซี่ยวเฉินหลับตาของเขาลงและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดูดซับข้อมูล ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาลืมตาขึ้นเปลวแสงประหลาด วูบผ่านในดวงตาที่ลุ่มลึกและนิ่งสงบของเขา

 

เป็นเช่นนี้, นี่คือพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน กระบวณท่าที่สองของหมักพยัคฆ์มังกรมันไม่ได้ใช้เพื่อโจมตี กลับกัน มันเป็นทักษะป้องกันระดับสูง

 

ในการที่จะฝึกฝนมัน,ผู้นั้นจะต้องสามารถหลอมรวมพลังแห่งพยัคฆ์และมังกร มังกรและพยัคฆ์ขยายร่างและสงวนกระแสพลัง พลังอํานาจของมหาพยัคฆ์และมังกร แบกน้ําหนักของธาราและภูผา

 

ในขณะเดียวกัน มันก็สะสมพลังไว้สาหรับกระบวณท่าต่อไป พยัคฆ์ข่มมังกรคําราม หากเขาไม่ฝึกฝนกระบวณท่านี้ถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม มันไม่มีทางที่จะสําเร็จการฝึกฝนกระบวณท่าต่อไป

 

แขนซ้ายคือมังกร,ทะลุทะลวงผ่านฟ้าครามแขนขวาคือพยัคฆ์,ถูกก้มกราบจากสัตว์อสูรหลายร้อย พยัคฆ์และมังกรขยายร่าง,ไม่เกรงกลัวต่อธาราและภูผา

 

จิตใจของเซี่ยวเฉินชัดเจน ด้วยการใช้สภาวะอัศจรรย์นี้ เขาซัดออกไปด้วยแขนทั้งสองข้างในท่าทางของพยัคฆ์และมังกร ทั่วร่างของเขากลายเป็นนิ่งสงบอย่างไม่น่าเชื่อ รอบตัวกลายเป็นเงียบกริบ,และไม่มีร่องรอยของละลอกคลื่นใดๆ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+