Immortal and Martial Dual Cultivation 236 เลื่อนระดับทักษะบ่มเพาะพลัง

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 236 เลื่อนระดับทักษะบ่มเพาะพลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Immortal and Martial Dual Cultivation

ตอนที่ 236 เลื่อนระดับทักษะบ่มเพาะพลัง

เซียวเฉินจมจิตใต้สํานึกของเขาลงไปและทําจิตใจให้สงบเขาหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ต่อไปอย่างไม่รีบร้อน ความรวดเร็วของพลังงานธาตุสายฟ้าที่หลั่งไหลเข้าไปในร่างของเซี่ยวเฉินเพิ่มความเร็วขึ้น

“ซี่! ซี่!”

ห้องของเซี่ยวเฉินเต็มไปด้วยประกายสายฟ้าบางครั้ง,จะเห็นได้ถึงประกายสายฟ้าแตกตัวก่อนที่จะจางหายไป

ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์หมุนเวียนครบรอบใหญ่อีกครั้งครั้งนี้ประกายสายฟ้าสีม่วงควบรวมกลายเป็นของเหลวสีม่วงสองหยด

ทันทีที่ของเลหวสีม่วงหยดลง,เซี่ยวเฉินรู้สึกราวกับกล้ามเนื้อทุกมัดในร่างของเขาเติมเต็มไปด้วยพลังงานอันไร้ขอบเขตฉีและโลหิตของเขาพลุ่งพล่านไม่หยุดหย่อน

เมื่อเวลาไหลผ่านไป,เซี่ยวเฉินเสียกาควบคุมความเร็วของการหมุนเวียนที่กษะอัสนีม่วงศักสิทธิ์ ความเร็วในการหมุนเวียนเป็นไปอย่างน่ากลัวประกายสายฟ้าในวังวนแตกตัวอย่างต่อเนื่อง

ทันใดนั้น, พลังงานธาตุสายฟ้าได้ก่อตัวเป็นวังวนเหนือหัวของเซี่ยวเฉินวังวนนี้อยู่ตรงกันกับวังวนในร่าของเซียวเฉินอย่างพอดิบพอดีในทุกครั้งที่วังวนในร่างของเซียวเฉินหมุนครบรอบ,พลังงานธาตุสายฟ้าพลุ่งพล่านจํานวนมหาศาลหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเซียวเฉิน

ภายในวังวน,ฟ้าร้องแตกตัว บางครั้งเกิดเป็นสายฟ้าผ่าทะลุท้องฟ้ายามค่ําคืน,ฉายแสงไปทั่วยอดเขา

เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทําให้ทุกคนบนยอดเขาฉิงหยุนตื่นตกใจมือกระบี่ค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าของห้องสมุดเผยสีหน้ามืดมัว

ผู้นําของพวกเขาไม่รู้ว่ากําลังเกิดอะไรขึ้นและอยากที่จะส่งคนไปตรวจสอบสถานการณ์

“ใจเย็น,อย่างได้รีบร้อน นี่เป็นผลมาจากการที่มีคนเลื่อนระดับทักษะบ่มเพาะพลัง ไม่มีอะไรให้ต้องตื่นตกใจ” หลิวฉิงเดินออกมาจากห้องสมุดและหยุดคนของค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เอาไว้

หลิวฉิงจ้องมองลงไปที่กลางยอดเขามองดูไปที่วังวนสายฟ้าอัสนีกระแสไฟฟ้าที่นาากลัวในวังวนแทงทะลุท้องฟ้า,ผ่าค่ําคืน

สีหน้าของหลิวจิ้งหนักอึ้งพอกันกับมือกระบี่ของค่ายกระ บี่ศักดิ์สิทธิ์เขาครุ่นคิดกับตัวเองเป็นปรากฏการณ์ลึกลับที่น่าหวา ดกลัวอะไรเช่นนี้เป็นไปได้ว่ามันคือการเลื่อนระดับของทักษะบ่ม เพาะพลังระดับสวรรค์?

หลิวหรูเยว่และหลิวสุยเฟิงกําลังยืนอยู่ที่ด้านนอกลานบ้านของเซี่ยวเฉินสีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

พวกขเาทั้งสองอยู่ห่างจากวังวนประมาณห้าร้อยเมตร พวกเขาสามารถรู้สึกถึงแรงกดดันอันน่ากลัวที่บรรจุอยู่ภายใน เสียงคํารามราวกับมังกร,และสายอัสนีราวกับแสที่ฟาดเหวี่ยงออกมา

มีเพียงพลังงานธาตุสายฟ้าที่เหลืองอยู่ในอากาศ พลังงานธาตุอื่นๆถูกขับหายออกไป มีสายฟ้าแตกตัวไปทั่วทุกแห่งส่งเสียง “เปรี้ยะ เปรียะ”ออกมา

แสงจากสายฟ้าเป็นประกายราวกับสุริยุปราคา มันทําให้หลิวสุยเพิ่งต้องหรี่ตาลง เขาค่อนข้างเป็นกังวลพร้อมกับกล่าว “พี่สาวเย่เฉินจะเป็นอะไรหรือไม่?”

“ปากพล่อย!” หลิวหรูเยว่เคาะหัวหลิวสุยเฟิงอย่างแรงพร้อมกับกล่าวขึ้น “ปรากฏการณ์เช่นนี้มีบันทึกไว้ในตําราโบราณมันเป็นสัญญาณของการเลื่อนชั้นทักษะบ่มเพาะพลังระดับสูง”

“เย่เฉินมักระมัดระวังในสิ่งที่ลงมือทําอย่าเสมอ หากเขาไม่ได้เตรียมตัวไว้เสร็จเรียบร้อย,เขาจะไม่เสี่ยงที่จะทําการเลื่อนชั้นอย่างแน่นอน”

แม้ว่าหลิวหรูเยวจะกล่าวเช่นนั้น,ความกังวลในดวงตาของนางไม่ไดลดลงแม้แต่น้อย ตําราโบราณยังบันทึกเอาไว้ว่าหากการเลื่อนชั้นล้มเหลว.ผู้บ่มเพาะพลังจะได้รับผลย้อนกลับ เส้นปราณจะแตกสลายและตกตายลงในที่สุด

ทันใดนั้นวังวนบนท้องฟ้ากลายไปเป็นสายฟ้านับไม่ถ้วนและเข้าไปในห้องของเซี่ยวเฉิน ปรากฏการณ์ลึกลับทันใดนั้นก็ลบหายไป,กลายเป็นเงียบสงบอีกครั้ง

“บูม!”

ช่วงเวลาสงบแสนสั้น,หลังจากนั้นก็มีพลังงานระเบิดออกมาจากห้องของเซี่ยวเฉิน บ้านอาคารทรุดตัวลงและตบเอาฝุ่นควันจํานวนมหาศาลขึ้นมา

ร่างของเซียวเฉินปรากฏออกมาจากฝุ่นควันในอาาศเขากระโดดออกมาพร้อมกับเสียง โซว” แสงสีม่วงในดวงตาของเขาจางหายไปในพริบตาแสงสีม่วงสองเส้นทันใดนั้นก็จางหายไปในความมืดมิดยามค่ําคืนขนาดของพวกมันเท่ากับเสาต้นหนึ่งและงดงามเป็นอย่างมากมันช่างต้องมนต์เสน่ห์

หลิวสุยเฟิงมองดูเซียวเฉินและเขาพบว่าเขาไม่สามารถมองเห็นงถึงระดับพลังของเซียวเฉินอีกต่อไปแล้ว ในอดีต,เขายังรู้สึกได้ถึงระดับการบ่มเพาะพลังของเซี่ยวเฉินอย่างเลือนลางตอนนี้เขาไม่รู้สึกถึงอะไรเลยไม่อาจหยั่งรู้ถึง

เซี่ยวเฉินสังเกตเห็นทั้งสองคนมานานแล้ว เขายิ้มบางเบาและกระโดดตรงมาหาทั้งสองคน

เขาทิ้งภาพติดตาสีม่วงไว้ในอากาศด้านหลัง พวกมันค่อยๆบางเบาและสลายหายเมื่อเวลาผ่านไป

ความวิตกกังวลในดวงตาของหลิวหรูเยาลบหายไป,และเผยเป็นสีความร่าเริงบนใบหน้าอันงดงามของนาง “ยินดีด้วยที่ก้าวผ่านอุปสรรคใหญ่ชิ้นแรกในการบ่มเพาะพลังและเลื่อนสู่ระดับขอบเขตนักบุญสําเร็จ”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เชี่ยวเฉินเลื่อนชั้นทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไปพร้อมกับระดับการบ่มเพาะพลัง ในตอนที่เขาเลื่อนสู่ระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธก็มีเหตุการณ์เช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดว่ามันแปลกอะไร ตรงกับข้าม,มันช่างน่ายินดีเสียอีก

เซี่ยวเฉินยิ้มและพูดขึ้น “ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณพลังงานจิตวิญญาณที่หนาแน่นของยอดเขาฉิงหยุนมิฉะนั้นมันจะต้องใช้เวลาอย่างนัยอหนึ่งเดือนในการเลื่อนระดับ”

คําพูดเหล่านี้อย่างน้อยก็ไม่ได้กล่าวเกินจริง ต้นกําเนิดเส้นโลหิตจิตวิญญาณด้านใต้เทือกเขาหลิงหยุนเป็นไปได้ว่าคือแก่นกลางของทั่วทั้งแคว้นซีเหอ

หากเซียวเฉินเลือกที่จะเลื่อนระดับในสถานที่อื่น, ด้วยพลังงานจิตวิญญาณที่บางเบาจะทําให้เขาไม่อาจเลื่อนระดับขึ้นไปได้อย่างราบลื่น

มองดูเซี่ยวเฉินที่ยังคงถ่อมตนถึงเพียงนี้ หลิวหรูเยวยิ่งประทับใจขึ้นไปอีก นางยิ้มและกล่าว “ข้าจะไม่รบกวนเจ้าแล้ว ทั้งทักษะบ่มเพาะพลังและระดับขอบเขตพลังของเจ้าเลื่อนขึ้นมาพร้อมกันเจ้าควรจะสัมผัสถึงมันอย่างละเอียด

“หากมีอะไรที่เจ้าไม่เข้าใจ,เจ้าสมารถมาขอคําแนะนําจากข้าได้ข้าจะส่งคนมาซ่อมแซมบ้านในวันพรุ่งนี้”

หลิวสุยเฟิงรู้สึกขมขื่นและติดขัดในใจของเขาเมื่อเขามองไปที่เซี่ยวเฉินในตอนที่เชี่ยวเฉินเพิ่งเข้ามา เขาเป็นเพียงระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นต้นระดับพลังของเขาต่ํากว่าของหลิวสุยเฟิงไป

มาก

อย่างไรก็ตาม,ภายในครึ่งปี,เซี่ยวเฉินเลื่อนระดับขึ้นสองขั้นและจากนั้นก็ก้าวผ่านอุปสรรคใหญ่ชอันแรกของการบ่มเพาะพลัง,กลายมาเป็นระดับขอบเขตนักบุญ

พรสวรรค์ระดับนี้สามารถจัดให้อยู่ในสิบอันดับต้นของสานุศิษย์รุ่นเยาว์ของศาลากระบี่สวรรค์

หลิวสุยเฟิงครุ่นคิดกับตัวเอง ตัวเขาขึ้นมาสู่ระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นสูงสุดตั้งแต่ปีก่อน อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถมองเห็นหนทางเลื่อนระดับขึ้นสู่ระดับขอบเขตนักบุญได้เลยมันเป็นเพียงเมื่อเร็วๆนี้ที่เขากินดอกดาวเรืองแสงไหลเข้าไปจากนั้นเขาถึงทําความเข้าใจมันต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม, หลิวสุยเฟิงก็ไม่ได้ติดใจอะไร เซี่ยวเฉินสา มารถเลื่อนระดับขึ้นไปได้ทําให้เขขากดดันเล็กน้อยเท่านั้น เขา ยิ้มอ่อนโยนและกล่าว “ช่างน่ายินดี! ตอนนี้เขาไม่อาจไล่ตามเจ้าทัน แล้ว”

เซี่ยวเฉินยิ้มเบาๆและไม่ได้กล่าวอะไร พรสวรรค์ของหลิวสุยเฟิ งมีไม่น้อย น่าเสียดาย,เขาไม่ใช่คนที่มีความแน่วแน่นัก หากเขาสา มารถลบความวอกแวกของเขาออกไปได้บ้าง,ระดับการบ่มเพาะ พลังของเขาคงเพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากที่ทั้งสองจากไป,เซี่ยวเฉินเริ่มสํารวจร่างกายของเขา เขา จมจิตสํานึกลงไปในร่างของเขา วังวนน้ําแต่เดิมที่ไร้รูปในจุดตันเที่ยนของเขาตอนนี้กลายเป็นสีม่วง

ด้วยการนึกคิดของเซี่ยวเฉิน, ปราณสีม่วงหลั่งไหลออกมาจากวังวน จากนั้น มันก็ไหลไปตามเส้นปราณเข้าสู่แขนขวาของเขา

“ฉัวะ!”

พลังงานสีม่วงออกจากร่างของเขาโดยไม่มีติดขัดและก่อตัวเป็นเส้นในอากาศ

มันพุ่งไปข้างหน้าและต้นไม้เล็กห่างไปด้านหน้าสิบเมตรก็ถูกตัดขาดครึ่งอย่างง่ายดาย

จุดที่ต้นไม้ถูกตัด,มีประกายสายฟ้าสีม่วงกระโดดไปรอบๆโดยไม่ได้สลายไปครู่หนึ่ง

เชี่ยวเฉินเผยสีหน้าซับซ้อน เขากล่าว “ปราณในร่างของข้ากลายเป็นปราณธาตุสายฟ้าบริสุทธิ์ หากข้าฝึกฝนทักษะต่อสู้ธาตุสาย ฟ้า,ข้าจะสามารถสําเร็จมันได้โดยทุ่มเทได้น้อยลง”

“อย่างไรก็ตาม มันบริสุทธิ์จนเกินไป มันจะเป็นการยากที่จะบรรลุถึงทักษะต่อสู้ธาตุอื่นๆ”

เร็วๆนี้เชี่ยวเฉินจดจ่อไปกับทักษะกระบี่หลิงหยุน ทักษะกระบี่ลิงหยุนไม่ได้ต้องการธาตุอะไร แต่อย่างไรก็ตาม,สภาวะของมันเป็นสภาวะขุนเขาและสภาวะเมฆา

หากต้องการที่จะบรรลุถึงมันให้มากกว่านี้ เขาจําเป็นต้องก้าวผ่านสภาวะอัสนีในร่างของเขา นี่มันจะทําให้ยากขึ้นไปอีกที่เขาจะสําเร็จมันได้

เชี่ยวเฉินรวบรวมความคิดและกล่าวขึ้น “ช่างมัน,ข้าจะไม่ไปมัวครุ่นคิดถึงปัญหานี้ในตอนนี้ ข้าควรจะตรวจดูพัฒนาการของเพลิงแท้อัสนีม่วงเป็นอันดับแรก”

เพียงเสี้ยวเฉินนึกคิด,เปลวเพลิงร้อนแรงเริ่มเผาไหม้ในดวงตาขวาของเขา เซียวเฉินตะโกน“ออกมา!”

เปลวเพลิงสีม่วงไหลทะลักออกมาราวกับน้ําตกในทันที เซี่ยวเฉินเปิดฝ่ามือขวาของเขาและลูกบอลเพลิงลอยเข้าไปในมือของเขา

ที่ใจกลางของเปลวเพลิง,มีประกายสายฟ้ารุ่งโรจน์กําลังกระโดดไปรอบๆ มันทําให้เปลวเพลิงมีเฉดสีแปลกประหลาด

ประกายสายฟ้ารุ่งโรจน์นั้นก็คือเปลวเพลิงต้นกําเนิดของเพลิงแท้อัสนีม่วง ตอนนี้ที่ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ได้เลื่อนระดับมาถึงชั้นที่สี่เซี่ยวเฉินในที่สุดก็สามารถนําเอาต้นเปลวเพลิงต้นกําเนิดออกมาได้

ภายในทวีปเทียนหวูเปลวเพลิงก็มีแบ่งธาตุด้วยเช่นกันมีเปลวเพลิงเยือกแข็งที่สามารถแช่แข็งเป้าหมายให้กลายเป็นเสาน้ําแข็งได้อย่างทันทีก่อนที่จะแตกกระจายเป็นชิ้นนับไม่ถ้วน

ยังมีเปลวเพลิงอันอบอุ่นที่สามารถรักษาบาดแผลและบํารุงร่างกายได้ พวกมันยังมีผลถอนคําสาปน่าอัศจรรย์ ยังมีเปลวเพลิงผีที่ มาพร้อมคุณลักษณะกัดกร่อนเน่าเปื่อยไม่ว่าการป้องกันของคู่ต่อสู้ อะแข็งแกร่งก็ถึงเพียงใดบับสาบารกกัดกร่อบย่อยสลายอย่างง่า

เยดาย

ยังมีเปลวเพลิงกดข่มอย่างเปลวเพลิงมังกระมันสามารถพิชิตได้ทุกอุปสรรคและไม่มีอะไรที่จะมาปัดป้องมันได้ มันเหนือกว่าเปลวเพลิงอื่นนับไม่ถ้วน,และผลของมันไม่ได้มีเพียงแค่เผาไหม้

สําหรับเพลิงแท้อัสนีม่วงของเซียวเฉิน,มันคือเปลวเพลงคุณลักษณะธาติสายฟ้า เปลวเพลิงต้นกําเนิดของมันก็เป็นเส้นสายฟ้าเปลวเพลิงนี้บรรจุไปด้วยประกายสายฟ้าอันไร้ขีดจํากัด

“ยิง!” เซี่ยวเฉินตะโกนและเปลวเพลิงสีม่วงในมือของเขาเปลี่ยนไปเป็นลูกศรแหลมคม,ยิงออกไปสู่ค่ําคืนอันมืดมิด

ลูกศรสีม่วงทิ้งสายสีม่วงไว้เบื้องหลังพร้อมกับทะลวงผ่านค่ําคืนมืดมันบินออกไปไกลกว่าพันเมตรในทันทีเร็วเสียยิ่งกว่าความเร็ว

เสียง

ไม่อาจรู้ได้ว่ามันลอยไปไกลถึงเพียงใด มีเพียงจุดแสงวูบไหวราวกับอุกกาบาตที่สามารถมองเห็นในท้องฟ้ายามค่ําคืน

ผ่านไประยะเวลาหนึ่ง,แสงรุ่งโรจน์จุดประกายบนท้องฟ้าอันแสนไกลจากนั้น,ประกายสายฟ้านับไม่ถ้วนฉีกท้องฟ้าออกเป็นชิ้น

“ยิ้ม” ในมันทีที่ลูกศรระเบิดออก,เชี่ยวเฉินสามารถรู้สึกได้ถึงจํานวนพลังปราณที่หายไปอย่างชัดเจน

เซี่ยวเฉินมองไปยังท้องฟ้าในทิศทางที่ลูกศรบินออกไปเขาค่อนข้างตกตะลึงพร้อมกับกล่าว, “รวดเร็วอะไรเช่นนี้!หากข้าใช้ออกมันอย่างฉับพลัน,จะไม่มีใครหน้าไหนที่จะป้องกันมันได้”

อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้ยังไม่ใช้เวลาไปสนใจเกี่ยวกับมันเซี่ยวเฉินกระโดดขึ้นไปอย่างเร่งรีบและใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยานเขาหายตัวไปจากลานบ้านและมุ่งหน้าไปยังปารกร้างที่ด้านหลังของยอดเขาฉิงหยุน

เซี่ยวเฉินใช้สัมผัสวิญญาณของเขาสํารวจพื้นที่โดยรอบเมื่อเขาแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่โดยรอบ,เซี่ยวเฉินหยิบเอาดาบหักที่เขาได้มาจากซากโบราณออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 236 เลื่อนระดับทักษะบ่มเพาะพลัง

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 236 เลื่อนระดับทักษะบ่มเพาะพลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Immortal and Martial Dual Cultivation

ตอนที่ 236 เลื่อนระดับทักษะบ่มเพาะพลัง

เซียวเฉินจมจิตใต้สํานึกของเขาลงไปและทําจิตใจให้สงบเขาหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ต่อไปอย่างไม่รีบร้อน ความรวดเร็วของพลังงานธาตุสายฟ้าที่หลั่งไหลเข้าไปในร่างของเซี่ยวเฉินเพิ่มความเร็วขึ้น

“ซี่! ซี่!”

ห้องของเซี่ยวเฉินเต็มไปด้วยประกายสายฟ้าบางครั้ง,จะเห็นได้ถึงประกายสายฟ้าแตกตัวก่อนที่จะจางหายไป

ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์หมุนเวียนครบรอบใหญ่อีกครั้งครั้งนี้ประกายสายฟ้าสีม่วงควบรวมกลายเป็นของเหลวสีม่วงสองหยด

ทันทีที่ของเลหวสีม่วงหยดลง,เซี่ยวเฉินรู้สึกราวกับกล้ามเนื้อทุกมัดในร่างของเขาเติมเต็มไปด้วยพลังงานอันไร้ขอบเขตฉีและโลหิตของเขาพลุ่งพล่านไม่หยุดหย่อน

เมื่อเวลาไหลผ่านไป,เซี่ยวเฉินเสียกาควบคุมความเร็วของการหมุนเวียนที่กษะอัสนีม่วงศักสิทธิ์ ความเร็วในการหมุนเวียนเป็นไปอย่างน่ากลัวประกายสายฟ้าในวังวนแตกตัวอย่างต่อเนื่อง

ทันใดนั้น, พลังงานธาตุสายฟ้าได้ก่อตัวเป็นวังวนเหนือหัวของเซี่ยวเฉินวังวนนี้อยู่ตรงกันกับวังวนในร่าของเซียวเฉินอย่างพอดิบพอดีในทุกครั้งที่วังวนในร่างของเซียวเฉินหมุนครบรอบ,พลังงานธาตุสายฟ้าพลุ่งพล่านจํานวนมหาศาลหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเซียวเฉิน

ภายในวังวน,ฟ้าร้องแตกตัว บางครั้งเกิดเป็นสายฟ้าผ่าทะลุท้องฟ้ายามค่ําคืน,ฉายแสงไปทั่วยอดเขา

เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทําให้ทุกคนบนยอดเขาฉิงหยุนตื่นตกใจมือกระบี่ค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าของห้องสมุดเผยสีหน้ามืดมัว

ผู้นําของพวกเขาไม่รู้ว่ากําลังเกิดอะไรขึ้นและอยากที่จะส่งคนไปตรวจสอบสถานการณ์

“ใจเย็น,อย่างได้รีบร้อน นี่เป็นผลมาจากการที่มีคนเลื่อนระดับทักษะบ่มเพาะพลัง ไม่มีอะไรให้ต้องตื่นตกใจ” หลิวฉิงเดินออกมาจากห้องสมุดและหยุดคนของค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เอาไว้

หลิวฉิงจ้องมองลงไปที่กลางยอดเขามองดูไปที่วังวนสายฟ้าอัสนีกระแสไฟฟ้าที่นาากลัวในวังวนแทงทะลุท้องฟ้า,ผ่าค่ําคืน

สีหน้าของหลิวจิ้งหนักอึ้งพอกันกับมือกระบี่ของค่ายกระ บี่ศักดิ์สิทธิ์เขาครุ่นคิดกับตัวเองเป็นปรากฏการณ์ลึกลับที่น่าหวา ดกลัวอะไรเช่นนี้เป็นไปได้ว่ามันคือการเลื่อนระดับของทักษะบ่ม เพาะพลังระดับสวรรค์?

หลิวหรูเยว่และหลิวสุยเฟิงกําลังยืนอยู่ที่ด้านนอกลานบ้านของเซี่ยวเฉินสีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

พวกขเาทั้งสองอยู่ห่างจากวังวนประมาณห้าร้อยเมตร พวกเขาสามารถรู้สึกถึงแรงกดดันอันน่ากลัวที่บรรจุอยู่ภายใน เสียงคํารามราวกับมังกร,และสายอัสนีราวกับแสที่ฟาดเหวี่ยงออกมา

มีเพียงพลังงานธาตุสายฟ้าที่เหลืองอยู่ในอากาศ พลังงานธาตุอื่นๆถูกขับหายออกไป มีสายฟ้าแตกตัวไปทั่วทุกแห่งส่งเสียง “เปรี้ยะ เปรียะ”ออกมา

แสงจากสายฟ้าเป็นประกายราวกับสุริยุปราคา มันทําให้หลิวสุยเพิ่งต้องหรี่ตาลง เขาค่อนข้างเป็นกังวลพร้อมกับกล่าว “พี่สาวเย่เฉินจะเป็นอะไรหรือไม่?”

“ปากพล่อย!” หลิวหรูเยว่เคาะหัวหลิวสุยเฟิงอย่างแรงพร้อมกับกล่าวขึ้น “ปรากฏการณ์เช่นนี้มีบันทึกไว้ในตําราโบราณมันเป็นสัญญาณของการเลื่อนชั้นทักษะบ่มเพาะพลังระดับสูง”

“เย่เฉินมักระมัดระวังในสิ่งที่ลงมือทําอย่าเสมอ หากเขาไม่ได้เตรียมตัวไว้เสร็จเรียบร้อย,เขาจะไม่เสี่ยงที่จะทําการเลื่อนชั้นอย่างแน่นอน”

แม้ว่าหลิวหรูเยวจะกล่าวเช่นนั้น,ความกังวลในดวงตาของนางไม่ไดลดลงแม้แต่น้อย ตําราโบราณยังบันทึกเอาไว้ว่าหากการเลื่อนชั้นล้มเหลว.ผู้บ่มเพาะพลังจะได้รับผลย้อนกลับ เส้นปราณจะแตกสลายและตกตายลงในที่สุด

ทันใดนั้นวังวนบนท้องฟ้ากลายไปเป็นสายฟ้านับไม่ถ้วนและเข้าไปในห้องของเซี่ยวเฉิน ปรากฏการณ์ลึกลับทันใดนั้นก็ลบหายไป,กลายเป็นเงียบสงบอีกครั้ง

“บูม!”

ช่วงเวลาสงบแสนสั้น,หลังจากนั้นก็มีพลังงานระเบิดออกมาจากห้องของเซี่ยวเฉิน บ้านอาคารทรุดตัวลงและตบเอาฝุ่นควันจํานวนมหาศาลขึ้นมา

ร่างของเซียวเฉินปรากฏออกมาจากฝุ่นควันในอาาศเขากระโดดออกมาพร้อมกับเสียง โซว” แสงสีม่วงในดวงตาของเขาจางหายไปในพริบตาแสงสีม่วงสองเส้นทันใดนั้นก็จางหายไปในความมืดมิดยามค่ําคืนขนาดของพวกมันเท่ากับเสาต้นหนึ่งและงดงามเป็นอย่างมากมันช่างต้องมนต์เสน่ห์

หลิวสุยเฟิงมองดูเซียวเฉินและเขาพบว่าเขาไม่สามารถมองเห็นงถึงระดับพลังของเซียวเฉินอีกต่อไปแล้ว ในอดีต,เขายังรู้สึกได้ถึงระดับการบ่มเพาะพลังของเซี่ยวเฉินอย่างเลือนลางตอนนี้เขาไม่รู้สึกถึงอะไรเลยไม่อาจหยั่งรู้ถึง

เซี่ยวเฉินสังเกตเห็นทั้งสองคนมานานแล้ว เขายิ้มบางเบาและกระโดดตรงมาหาทั้งสองคน

เขาทิ้งภาพติดตาสีม่วงไว้ในอากาศด้านหลัง พวกมันค่อยๆบางเบาและสลายหายเมื่อเวลาผ่านไป

ความวิตกกังวลในดวงตาของหลิวหรูเยาลบหายไป,และเผยเป็นสีความร่าเริงบนใบหน้าอันงดงามของนาง “ยินดีด้วยที่ก้าวผ่านอุปสรรคใหญ่ชิ้นแรกในการบ่มเพาะพลังและเลื่อนสู่ระดับขอบเขตนักบุญสําเร็จ”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เชี่ยวเฉินเลื่อนชั้นทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไปพร้อมกับระดับการบ่มเพาะพลัง ในตอนที่เขาเลื่อนสู่ระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธก็มีเหตุการณ์เช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดว่ามันแปลกอะไร ตรงกับข้าม,มันช่างน่ายินดีเสียอีก

เซี่ยวเฉินยิ้มและพูดขึ้น “ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณพลังงานจิตวิญญาณที่หนาแน่นของยอดเขาฉิงหยุนมิฉะนั้นมันจะต้องใช้เวลาอย่างนัยอหนึ่งเดือนในการเลื่อนระดับ”

คําพูดเหล่านี้อย่างน้อยก็ไม่ได้กล่าวเกินจริง ต้นกําเนิดเส้นโลหิตจิตวิญญาณด้านใต้เทือกเขาหลิงหยุนเป็นไปได้ว่าคือแก่นกลางของทั่วทั้งแคว้นซีเหอ

หากเซียวเฉินเลือกที่จะเลื่อนระดับในสถานที่อื่น, ด้วยพลังงานจิตวิญญาณที่บางเบาจะทําให้เขาไม่อาจเลื่อนระดับขึ้นไปได้อย่างราบลื่น

มองดูเซี่ยวเฉินที่ยังคงถ่อมตนถึงเพียงนี้ หลิวหรูเยวยิ่งประทับใจขึ้นไปอีก นางยิ้มและกล่าว “ข้าจะไม่รบกวนเจ้าแล้ว ทั้งทักษะบ่มเพาะพลังและระดับขอบเขตพลังของเจ้าเลื่อนขึ้นมาพร้อมกันเจ้าควรจะสัมผัสถึงมันอย่างละเอียด

“หากมีอะไรที่เจ้าไม่เข้าใจ,เจ้าสมารถมาขอคําแนะนําจากข้าได้ข้าจะส่งคนมาซ่อมแซมบ้านในวันพรุ่งนี้”

หลิวสุยเฟิงรู้สึกขมขื่นและติดขัดในใจของเขาเมื่อเขามองไปที่เซี่ยวเฉินในตอนที่เชี่ยวเฉินเพิ่งเข้ามา เขาเป็นเพียงระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นต้นระดับพลังของเขาต่ํากว่าของหลิวสุยเฟิงไป

มาก

อย่างไรก็ตาม,ภายในครึ่งปี,เซี่ยวเฉินเลื่อนระดับขึ้นสองขั้นและจากนั้นก็ก้าวผ่านอุปสรรคใหญ่ชอันแรกของการบ่มเพาะพลัง,กลายมาเป็นระดับขอบเขตนักบุญ

พรสวรรค์ระดับนี้สามารถจัดให้อยู่ในสิบอันดับต้นของสานุศิษย์รุ่นเยาว์ของศาลากระบี่สวรรค์

หลิวสุยเฟิงครุ่นคิดกับตัวเอง ตัวเขาขึ้นมาสู่ระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นสูงสุดตั้งแต่ปีก่อน อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถมองเห็นหนทางเลื่อนระดับขึ้นสู่ระดับขอบเขตนักบุญได้เลยมันเป็นเพียงเมื่อเร็วๆนี้ที่เขากินดอกดาวเรืองแสงไหลเข้าไปจากนั้นเขาถึงทําความเข้าใจมันต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม, หลิวสุยเฟิงก็ไม่ได้ติดใจอะไร เซี่ยวเฉินสา มารถเลื่อนระดับขึ้นไปได้ทําให้เขขากดดันเล็กน้อยเท่านั้น เขา ยิ้มอ่อนโยนและกล่าว “ช่างน่ายินดี! ตอนนี้เขาไม่อาจไล่ตามเจ้าทัน แล้ว”

เซี่ยวเฉินยิ้มเบาๆและไม่ได้กล่าวอะไร พรสวรรค์ของหลิวสุยเฟิ งมีไม่น้อย น่าเสียดาย,เขาไม่ใช่คนที่มีความแน่วแน่นัก หากเขาสา มารถลบความวอกแวกของเขาออกไปได้บ้าง,ระดับการบ่มเพาะ พลังของเขาคงเพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากที่ทั้งสองจากไป,เซี่ยวเฉินเริ่มสํารวจร่างกายของเขา เขา จมจิตสํานึกลงไปในร่างของเขา วังวนน้ําแต่เดิมที่ไร้รูปในจุดตันเที่ยนของเขาตอนนี้กลายเป็นสีม่วง

ด้วยการนึกคิดของเซี่ยวเฉิน, ปราณสีม่วงหลั่งไหลออกมาจากวังวน จากนั้น มันก็ไหลไปตามเส้นปราณเข้าสู่แขนขวาของเขา

“ฉัวะ!”

พลังงานสีม่วงออกจากร่างของเขาโดยไม่มีติดขัดและก่อตัวเป็นเส้นในอากาศ

มันพุ่งไปข้างหน้าและต้นไม้เล็กห่างไปด้านหน้าสิบเมตรก็ถูกตัดขาดครึ่งอย่างง่ายดาย

จุดที่ต้นไม้ถูกตัด,มีประกายสายฟ้าสีม่วงกระโดดไปรอบๆโดยไม่ได้สลายไปครู่หนึ่ง

เชี่ยวเฉินเผยสีหน้าซับซ้อน เขากล่าว “ปราณในร่างของข้ากลายเป็นปราณธาตุสายฟ้าบริสุทธิ์ หากข้าฝึกฝนทักษะต่อสู้ธาตุสาย ฟ้า,ข้าจะสามารถสําเร็จมันได้โดยทุ่มเทได้น้อยลง”

“อย่างไรก็ตาม มันบริสุทธิ์จนเกินไป มันจะเป็นการยากที่จะบรรลุถึงทักษะต่อสู้ธาตุอื่นๆ”

เร็วๆนี้เชี่ยวเฉินจดจ่อไปกับทักษะกระบี่หลิงหยุน ทักษะกระบี่ลิงหยุนไม่ได้ต้องการธาตุอะไร แต่อย่างไรก็ตาม,สภาวะของมันเป็นสภาวะขุนเขาและสภาวะเมฆา

หากต้องการที่จะบรรลุถึงมันให้มากกว่านี้ เขาจําเป็นต้องก้าวผ่านสภาวะอัสนีในร่างของเขา นี่มันจะทําให้ยากขึ้นไปอีกที่เขาจะสําเร็จมันได้

เชี่ยวเฉินรวบรวมความคิดและกล่าวขึ้น “ช่างมัน,ข้าจะไม่ไปมัวครุ่นคิดถึงปัญหานี้ในตอนนี้ ข้าควรจะตรวจดูพัฒนาการของเพลิงแท้อัสนีม่วงเป็นอันดับแรก”

เพียงเสี้ยวเฉินนึกคิด,เปลวเพลิงร้อนแรงเริ่มเผาไหม้ในดวงตาขวาของเขา เซียวเฉินตะโกน“ออกมา!”

เปลวเพลิงสีม่วงไหลทะลักออกมาราวกับน้ําตกในทันที เซี่ยวเฉินเปิดฝ่ามือขวาของเขาและลูกบอลเพลิงลอยเข้าไปในมือของเขา

ที่ใจกลางของเปลวเพลิง,มีประกายสายฟ้ารุ่งโรจน์กําลังกระโดดไปรอบๆ มันทําให้เปลวเพลิงมีเฉดสีแปลกประหลาด

ประกายสายฟ้ารุ่งโรจน์นั้นก็คือเปลวเพลิงต้นกําเนิดของเพลิงแท้อัสนีม่วง ตอนนี้ที่ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ได้เลื่อนระดับมาถึงชั้นที่สี่เซี่ยวเฉินในที่สุดก็สามารถนําเอาต้นเปลวเพลิงต้นกําเนิดออกมาได้

ภายในทวีปเทียนหวูเปลวเพลิงก็มีแบ่งธาตุด้วยเช่นกันมีเปลวเพลิงเยือกแข็งที่สามารถแช่แข็งเป้าหมายให้กลายเป็นเสาน้ําแข็งได้อย่างทันทีก่อนที่จะแตกกระจายเป็นชิ้นนับไม่ถ้วน

ยังมีเปลวเพลิงอันอบอุ่นที่สามารถรักษาบาดแผลและบํารุงร่างกายได้ พวกมันยังมีผลถอนคําสาปน่าอัศจรรย์ ยังมีเปลวเพลิงผีที่ มาพร้อมคุณลักษณะกัดกร่อนเน่าเปื่อยไม่ว่าการป้องกันของคู่ต่อสู้ อะแข็งแกร่งก็ถึงเพียงใดบับสาบารกกัดกร่อบย่อยสลายอย่างง่า

เยดาย

ยังมีเปลวเพลิงกดข่มอย่างเปลวเพลิงมังกระมันสามารถพิชิตได้ทุกอุปสรรคและไม่มีอะไรที่จะมาปัดป้องมันได้ มันเหนือกว่าเปลวเพลิงอื่นนับไม่ถ้วน,และผลของมันไม่ได้มีเพียงแค่เผาไหม้

สําหรับเพลิงแท้อัสนีม่วงของเซียวเฉิน,มันคือเปลวเพลงคุณลักษณะธาติสายฟ้า เปลวเพลิงต้นกําเนิดของมันก็เป็นเส้นสายฟ้าเปลวเพลิงนี้บรรจุไปด้วยประกายสายฟ้าอันไร้ขีดจํากัด

“ยิง!” เซี่ยวเฉินตะโกนและเปลวเพลิงสีม่วงในมือของเขาเปลี่ยนไปเป็นลูกศรแหลมคม,ยิงออกไปสู่ค่ําคืนอันมืดมิด

ลูกศรสีม่วงทิ้งสายสีม่วงไว้เบื้องหลังพร้อมกับทะลวงผ่านค่ําคืนมืดมันบินออกไปไกลกว่าพันเมตรในทันทีเร็วเสียยิ่งกว่าความเร็ว

เสียง

ไม่อาจรู้ได้ว่ามันลอยไปไกลถึงเพียงใด มีเพียงจุดแสงวูบไหวราวกับอุกกาบาตที่สามารถมองเห็นในท้องฟ้ายามค่ําคืน

ผ่านไประยะเวลาหนึ่ง,แสงรุ่งโรจน์จุดประกายบนท้องฟ้าอันแสนไกลจากนั้น,ประกายสายฟ้านับไม่ถ้วนฉีกท้องฟ้าออกเป็นชิ้น

“ยิ้ม” ในมันทีที่ลูกศรระเบิดออก,เชี่ยวเฉินสามารถรู้สึกได้ถึงจํานวนพลังปราณที่หายไปอย่างชัดเจน

เซี่ยวเฉินมองไปยังท้องฟ้าในทิศทางที่ลูกศรบินออกไปเขาค่อนข้างตกตะลึงพร้อมกับกล่าว, “รวดเร็วอะไรเช่นนี้!หากข้าใช้ออกมันอย่างฉับพลัน,จะไม่มีใครหน้าไหนที่จะป้องกันมันได้”

อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้ยังไม่ใช้เวลาไปสนใจเกี่ยวกับมันเซี่ยวเฉินกระโดดขึ้นไปอย่างเร่งรีบและใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยานเขาหายตัวไปจากลานบ้านและมุ่งหน้าไปยังปารกร้างที่ด้านหลังของยอดเขาฉิงหยุน

เซี่ยวเฉินใช้สัมผัสวิญญาณของเขาสํารวจพื้นที่โดยรอบเมื่อเขาแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่โดยรอบ,เซี่ยวเฉินหยิบเอาดาบหักที่เขาได้มาจากซากโบราณออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+