Immortal and Martial Dual Cultivation 248 การต่อสู้ที่น่าหวาดกลัว
Immortal and Martial Dual Cultivation
ตอนที่ 248 การต่อสู้ที่น่าหวาดกลัว
มู่เพิ่งหาจังหวะได้พักหายใจ หลังจากนั้นเขายืนนิ่ง,และทั่วทั้งร่างของเขาเรืองแสงสีม่วง เขาดูราวกับกระบี่ล้ําค่าพร้อมจู่โจมอีกคน
ขณะที่พวกเขากําลังเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ขั้นต้น,พวกเขาทั้งสามไม่กล้าที่จะอ้อมพลัง พวกเขาทุ่มเททุกอย่างในทุกการโจมตี,ใช้ออกทุกกระบวนท่าทักษะที่พวกเขาเรียนมา
พวกเขาทั้งสามไม่ไปสนใจเรื่องพลังปราณที่กําลังถูกเผาผลาญแม้แต่น้อย:พวกเขาทุ่มทุกอย่างลงไปในการโจมตีของพวกเขาสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ที่น่าหวาดกลัวไม่อาจทําอะไรกับพวกเขาทั้งสามได้ตลอดช่วงเวลานี้
ผลพวงจากการต่อสู้ที่เข้มข้นขยายออกไปทั่วปาเปลวเพลิงทะยานขึ้นท้องฟ้าคลื่นระเบิดทั่วทิศเสียงเข้าปะทะร้องคําราม
ผลของการต่อสู้,ต้นไม้สูงในระยะหนึ่งพันเมตรทั้งหมดล้มลงเป็นเถ้าถ่านพื้นดินสั่นสะเทือนเกิดเป็นหลุมลึกปรากฏขึ้น
เซี่ยวเฉินและหยุนเข่อซินไม่เร่งรีบที่จะลงมือ พวกเขาทั้งสองเร่งกระแสพลังขึ้นพร้อมกับมือจับลงไปบนด้ามกระบี่ พวกเขาจ้องมองสมรภูมิไม่วางตา,เตรียมพร้อมที่จะระเบิดพลัง
พวกเขาทั้งสองต่างรู้,ขณะที่มันดูเหมือนสามคนนั้นไล่ต้อนปีศาจงูแดงสู่สภาพน่าสมเพช แต่มันไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงอะไรแม้แต่น้อย
ในตอนที่ทั้งสามคนหมดสิ้นซึ่งพลังปราณ,สถานการณ์จะพลิกกลับ ดังนั้น พวกเขาทั้งสองจึงรอโอกาสที่จะลงมือ เมื่อพวกเขาออกโจมตี,พวกเขาจําต้องจบการต่อสู้ลงในกระบี่เดียว
ภายในปา,ทั้งสามคนที่อยู่แนวหลังขณะที่เปลวเพลิงทะลวงขึ้นฟ้าและคลื่นระเบิดพลุ่งพล่าน, พวกเขารู้สึกหวาดกลัวในใจ,พวกเขาสั่นกลัว
“เป็นการต่อสู้ที่น่ากลัว! หรือพวกเขาจะไปเจอกับสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 เข้า?” สานุศิษย์หญิงยอดเขากางอถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
อีกครหนึ่งใบหน้าที่เป็นกังวลไม่ต่างกัน “ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นด้วยความแข็งแกร่งของหยุนเข่อซิน,นางน่าจะสามารถรับมือกับสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นสูงสุดได้ พร้อมด้วยคนที่เหลืออีก,พวกเขามีโอกาสครึ่งครึ่งที่จะสังหารมันลงได้ มีเพียงสัตว์อสูรปีศาจระดับหกที่ระเบิดพลังออกมาได้เช่นนี้”
คนสุดท้ายกล่าว “สัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ขั้นต้นเทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง ข้าไม่แน่ใจนักว่าหยุนเข่อซินและคนที่เหลือจะรอดมาได้หรือไม่”
“ข้าหวังให้พวกเขารอดกลับมา มิฉะนั้น ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเรามันยากที่พวกเราจะฝ่าป่าแห่งนี้ไปได้ มีเพียงความตายที่รอพวกเราอยู่”
สานุศิษย์หญิงยอดเขากางอ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าว“หรือพวกเราจะลองออกไปดู? หากเกิดอะไรขึ้น,พวกเราสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้”
คนที่อยู่ด้านข้างกล่าว “อย่าโง่นัก หากมันเป็นเพียงสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ธรรมดา,มันจะเป็นการดีหากนําคนไปเพิ่ม อย่างไรก็ตาม, หากมันเป็นสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 หรือระดับ 5 ขั้นสูงสุด,พวกเราเข้าไปก็จะมีแต่เป็นตัวถ่วง พวกเราควรที่จะรอข่าวดีอยู่ ที่นี่”
คนเขาทั้งสามหยุดพูดคุย พวกเขาเพียงอยู่รอตรงนี้อย่างเป็นกังวลการต่อสู้นี้เป็นตัวตัดสินชีวิตของพวกเขา
“ศิษย์พี่หญิงไป!”
ทันใดนั้น มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังของพวกเขาสานุศิษย์หญิงยอดเขากางอวรู้สึกแปลกใจนางหันกลับไปและพบว่านั้นคือสหายของนางสองคนที่ได้ตกตายไปเมื่อก่อนหน้านี้กําลัง
มมา
“ศิษย์น้องหวัง…ศิษย์พี่หลิวไม่ใช่ว่าพวกเจ้าทั้งสองตายไปแล้ว?”
ความงุนงงปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกเขา
คนสองคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ทีละก้าวและอธิบายขึ้น “พวกยังเราดวงแข็งพวกเราไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้พวกเรา อยู่ดีๆก็ตื่นขึ้นในตอนกลางคืนดินที่ฝังพวกเราอยู่ค่อนข้าง รุ่ย,ดังนั้นพวกเราจึงปินกลับขึ้นมา”
“ใช่แล้วแล้วศิษย์พี่หยุนกับคนที่เหลืออยู่ที่ไหน?” ทั้งสองคนถามขึ้นอย่างสงสัย
เหตุการณ์แปลกประหลาดอย่างไม่น่าเชื่อ เห็นชักว่าพวกเขาตกตายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม,จู่ๆพวกเขาก็มาปรากฏตัวตรงหน้านี่มันทําให้พวกเขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
คนสามคนมองตากันไปมา และพวกเขาก็เข้าใจคสามคิดของกันและกันจากนั้นพวกเขาก็เริ่มถามคําถามบางอย่าง แต่ท้ายที่สุด ทั้ง สองคนนั้นก็สามารถตอบทุกคนถามได้อย่างไม่ลังเล
หลังจากทดสอบมาเป็นเวลานาน ในที่สุดพวกเขาก็ปักใจเชื่อว่า คนเป็นสองคนที่ตกตายไปจริงๆ
สานุศิษย์หญิงยอดเขากางอ เผยสีหน้าเป็นสุขพร้อมกับกล่าว “เยี่ยม! พวกเจ้าทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ศิษย์พี่หยุนและคนที่เหลืออยู่ด้านหน้”
“ฟูฟว!”
ก่อนที่ศิษย์หญิงยอดเขากางอว์ผู้นี้จะได้กล่าวจบ,กระบี่สั้นปรากฏขึ้นที่กลางหน้าอกของนาง รอยยิ้มบนใบหน้าของนางแข็งที่อลมหายใจของนางถูกพรากไป.ถูกพรากไปเช่นนั้น
“ศิษย์น้องหวัง! เจ้าทําอะไร?” หนึ่งในสองคนที่เหลืออุทานพร้อมกับก้าวขึ้นหน้า อย่างไรก็ตาม,ก่อนที่เขาจะก้าวไปได้ไกล,อีกคนหนึ่งแทงเขาเข้าที่ข้างหลัง
ก่อนที่อีกคนที่เหลือจะตอบสนอง,สี่ปีศาจเงาปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของเขา ซัดออกมาคนละหนึ่งฝ่ามือสังหารคนผู้นี้ไปโดยไร้เสียง
“ฟู ฟู!”
สามปีศาจเงาเข้าไปสิงสูซากศพหลังจากที่พวกมันยึดร่างกาย, พวกมันก็ยิ้มออกมาและกล่าว “มนุษย์มันเป็นสิ่งมีชีวิตเบาปัญญา”
ผู้นํากลุ่มปีศาจเงามองไปยังการต่อสู้ที่อยู่เบื้องหน้าเขากล่าว “ไม่น่าแปลกใจที่นายท่านต้องการให้พวกเราลงมือขณะที่พวกมันเผชิญหน้ากับปีศาจงูแดง ความแข็งแกร่งของคนพวกนั้นมันมากเห ลือ”
“แน่นอน ดูราวกับปีศาจงูแดงจะไม่อาจรับมือได้อยู่อย่างไรก็ตามด้วยศพพวกนี้มันจะเป็นการง่ายที่จะจัดหารกับพวกเขา”
“ปัง!”
กระบี่ยักษ์ของเกาเชียงแบกเปลวเพลวอะนไร้ขอบเขตพร้อมกับฟันลงอย่างแรงไปที่หางของปีศาจแดงที่กําลังลอยมาทางเขาเกิดเสียงระเบิดขึ้นเกาเชียงกระอักเลือดออกมาเต็มปากและถูกซัดถอย
กลับ
เกาเยางล้มลงไปกับพื้น,เผยสีหน้าเจ็บปวด เขาไม่อาจยืนขึ้นได้แม้จะลองพยายามลุกขึ้น
จางเลี้ยผู้ที่อยู่ด้านข้างเก็ไม่อาจทําอะไรได้ เขาเพียงนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น ในตอนต้น, เมื่อปรากฏการณ์ลึกลับของเขาถูกทําลาย,เขาได้รับบาดเจ็บไปไม่เบา หลังจากนั้นเขายังคงฝืนสู้ต่อไป.ยิ่งทําให้อาการบาดเจ็บย่ําแย่ลงไปอีก จากสามคน,เขาเป็นคนแรกที่หมดสภาพในการต่อสู้
“เจ็ดดาราโยกย้าย,ดาวไถวกวน!”
มู่เหิงร้องตะโกนและวาดมือซ้ายของเขาเป็นวงในอากาศ,ก่อเกิดพื้นที่พลังแปลกประหลาดตรงหน้าของเขานี่มันทําให้เพลิงสีดําที่ปีศาจงูแดงพ่นออกมากระดอนกลับ
ปีศาจงูแดงไม่อาจหลบได้ทันเวลา เพลิงสีดําอันน่าหวาดกลัวซีดเข้าและเผาร่างของมันร่างมหึมาของมันลงไปกองกับพื้น
หลังจากที่มู่เพิ่งใช้ออกกระบวณท่านี้,แสงสีม่วงบนร่างของเขาจางหายไปอย่างสมบูรณ์ ใบหน้าของเขาซีดเซียวอย่างไม่น่าเชื่อ,สายเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา เขาทําได้เพียงทรงตัวอย่างช้าๆหลังจากถอยกลับไปหลายก้าว
จังหวะนี้! เซี่ยวเฉินและหยุนเข่อซินสบตากัน พวกเขาไม่มีความลังเลพร้อมกับความแข็งแกร่งที่พวกเขารวบรวมเอาไว้พลุ่งพล่านและระเบิดออก
ขับทํานองสวรรค์,ทะลวงนภา!
หยุนเข่อซินร้องตะโกนและวาดกระบี่ของนาง กระบี่เล็กเพรียวบางเริ่มสั่นไหวยาวและลอยยาว
“กิ้ง ทิ้ง! แต้ง” เสียงราวกับฟ้าคํารามเชื่อมต่อร้อยเรียงเข้าด้วยกันก่อเกิดเป็นทํานองทะลวงสวรรค์ นางชี้กระบี่ไปที่ปีศาจงูแดง,ที่เพิ่งจะสลัดเพลิงสีดําออกไปได้พ้นตัว
กระบี่ฉีคลื่นเสียงร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าและเข้าไปในร่างของปีศาจงูแดง “ปัง! ปัง! ปัง!” ราวกับมีเสียงฟ้าคํารามดังออกมาจากตัวของปีศาจงูแดง
มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นในร่างมหึมาของมัน,ทําตัวมันกระเด้งขึ้นลงบนพื้น ทําให้พื้นดินสั้นสะเทือน สามคนที่หมดสิ้นพลังปราณแทบจะทิ้งตัวลงกับพื้นพวกเขาต้องพยายามอย่างหนักในการทรงตัวเอา
“หลิงหยุนเก้าสวรรค์เบี่ยงวิถีรอบยอดเขา!”
เซี่ยวเฉินดีดตัวออกจากพื้นเบาๆและทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า,ขึ้นไปสูงขึ้นและสูงขึ้น ชั้นหมู่เมฆขาวทันใดนั้นก็เริ่มม้วนตัวไม่หยุด
ท่ามกลางเมฆสีขาว,บางส่วนของเซียวเฉินถูกบดบัง “แคร้ง!” ทันใดนั้นเกิดรอยแยกสายฟ้าออกมาจากเมฆขาวที่ปิดเป็นเกลียวจากนั้น,หมู่เมฆขาวทั้งหมดแตกสลาย
เซี่ยวเฉินเคลื่อนไหวเป็นประกาย, จากบนท้องฟ้าลงมาราวกับเขาราวกับเขาได้ร่วงหล่น,ขอบเส้นของภูเขาวาดขึ้น เริ่มจากยอดลงมาล่าง,ค่อยๆปรากฏขึ้น
หมู่เมฆโอบรอบยอดเขาเอาไว้ มีพรรณไม้และศาลาทุกประเภทมันราวกับลูกภูเขาของจริงได้ปรากฏขึ้นมาเหนือหัวของพวกเขา
จางเลี่ยมองลึกไปที่ปรากฎการณ์ลึกลับที่เซียวเฉินใช้ออกมามีความประหลาดใจในดวงตาของเขาพร้อมกับพึมพํา “นั้นคือภูเขา,และนั้นคือหมู่เมฆมันคือสภาวะภูผาและสภาวะเมฆาที่แท้จริง?”
“เมฆาต้องคู่กับสายฟ้า:ภูผาต้องโอบล้อมด้วยปักษาและพรรณไม้พวกมันขาดกันไม่ได้ “หลิงหยุนเก้าสวรรค์เบี่ยงวิถีรอบยอดเขา!? นี่คือกระบวณท่าที่เจ็ดของกระบี่หลิงหยุนอย่างแท้จริง”
ฉัวะ!”
ขณะที่จางเลี่ยพึมพําอย่างหวาดกลัว,ภูเขาระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมทันใดนั้นก็ลบหายไป,ผสานเข้ากับร่างของเซียวเฉิน
ในทันที,กระแสพลังของเซี่ยวเฉินพลันเปลี่ยนไป เขามีความยิ่งใหญ่ของภูเขาและอากาศแปลกพิกลของเมฆา กระบีของเขากลายเป็นรวดเร็วอย่างแปลกประหลาดเช่นกัน
จางเลี้ยตะลึงนิ่งอึ้งไปนาน จากนั้นเขาก็กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น “เบี่ยงวิถีรอบยอดเขา…เบี่ยงวิถีรอบยอดเขา…ช่างน่าขัน ข้าคิดว่าข้าได้สําเร็จมันแล้ว แต่กระนั้น,ข้าเพียงหลงผิด”
ปีศาจงูแดงดิ้นอยู่กับพื้นด้วยความเจ็บปวดรู้สึกถึงกระแสพลังอันตรายมันอดทนต่อความเจ็บปวดในร่างของมันและซัดขึ้นบนด้วยหางอะนมหึมาของมันเกิดเป็นเสียงสายฟ้าสนั่น
ในทันทีที่หางมหึมาของมันกวาด,มีเกิดระเบิดขึ้นในอากาศ
เคลื่อนกระเชแทกสร้างแรงระเบิดทําให้ฉีและโลหิตเดือดแห้ง,ช่วยไม่ได้ที่สามหน้อบนพื้นปั่นป่วน,ทําให้พวกเขากระอักเลือดออกมาอีกคํา
“ปัง!”
กระบี่และหางงูปะทะกันกลางอากาศ เคลื่อนกระแทกที่มองเห็นได้ระเบิดออก,ขยายราวกับคลื่อนบนผิวน้ํา
ร่างของเซี่ยวเฉินราวกับขุนเขา ถึงแม้จะด้วยพลังมหาศาลของปีศาจงูแดง,เขาก็ไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยไม่มีทีท่าว่าเขาจะถอยกลับ
สําหรับผลของพลังมหาศาล,ฉีและโลหิตของเซี่ยวเฉินปั่นปวนเขาพยายามอย่างที่สุดเพื่อหมุนเวียนพลังปราณของเขา,จิตใจของเขาปลอดโปร่งเขาปลดปล่อยปรากฏการณ์ลึกลับที่ผสานเข้ากับร่างของเขาผ่านทางกระบี
บาดแผลปรากฏการณ์รอบหางอันโตของมันใหญ่ ด้วยกระบี,ที่ผสานเข้ากับสภาวะภูผาร่างมหึมาของปีศาจงูแดงถูกซัดลอยไปในอา
กาศ
เลือดสีดําโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าราวกับห่าฝน,พึมพําไม่หยุดหย่อนด้วยเสียง “ซี่ ซี่” พลังปราณของเซี่ยวเฉินสั่นสะเทือนและป้องกันเลือดสีดําเอาไว้
“ยิ้ม !”
ปีศาจงูแดงตัวมหึมาร่วงลงมาราวกับกระสอบทรายหลังจากที่เซี่ยวเฉินซัดมันลอยไปไกล จากนั้นเขาก็กลิ้งไปอีกระยะ ร่างขนาดเท่าภูเขาของมันทําให้พื้นดินสั่นสะเทือน
“โซว!”
เซี่ยวเฉินและหยุนเข่อซินยังไม่หยุดมือ,พวกเขาไม่อยากที่จะพลาดโอกาสในครั้งนี้ พลังชีวิตและพลังฟื้นฟูของปีศาจงูแดงนั้น่าตกตะลึง; พวกเขาไม่อาจเปลี่ยนให้มันได้พักหายใจ
ปีศาจงูแดงได้บาดเจ็บจากการโจมตีอย่างไร้ปราณีจาก,มู่เพิ่ง,จางเลี้ย,และเหาเชียง อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้บาดเจ็บมากมายอะไรนักตอนนี้มันบาดเจ็บหนักจากการลอบจู่โจม,
พวกเขาต้องคว้าโอกาศนี่และไม่ปล่อยให้มันพลิกสถานการณ์ก ลับมา”
ทั้งสองคนเข้ามาถึงที่ด้านข้างของปีศาจงูแดงในทันทีและปลดปล่อยทักษะต่อสู้ทุกประเภท ทุกกระบี่จู่โจมจากเซี่ยวเฉินทิ้งรอยแผลลึกบนลําตัวของปีศาจงูแดง,เจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อกระบี่เรียวบางของหยุนเข่อซินซัดเข้าที่ผิวหนังของมัน มันส์นางเพียงบาดแผลตื้นๆ มันดูเหมือนว่ากระบี่ของนางจะเป็นเพียงระดับลึกล้ําขั้นสูงและไม่อาจทะลุผ่านการป้องกันของปีศาจงูแดงไปได้
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivation 248 การต่อสู้ที่น่าหวาดกลัว
Immortal and Martial Dual Cultivation
ตอนที่ 248 การต่อสู้ที่น่าหวาดกลัว
มู่เพิ่งหาจังหวะได้พักหายใจ หลังจากนั้นเขายืนนิ่ง,และทั่วทั้งร่างของเขาเรืองแสงสีม่วง เขาดูราวกับกระบี่ล้ําค่าพร้อมจู่โจมอีกคน
ขณะที่พวกเขากําลังเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ขั้นต้น,พวกเขาทั้งสามไม่กล้าที่จะอ้อมพลัง พวกเขาทุ่มเททุกอย่างในทุกการโจมตี,ใช้ออกทุกกระบวนท่าทักษะที่พวกเขาเรียนมา
พวกเขาทั้งสามไม่ไปสนใจเรื่องพลังปราณที่กําลังถูกเผาผลาญแม้แต่น้อย:พวกเขาทุ่มทุกอย่างลงไปในการโจมตีของพวกเขาสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ที่น่าหวาดกลัวไม่อาจทําอะไรกับพวกเขาทั้งสามได้ตลอดช่วงเวลานี้
ผลพวงจากการต่อสู้ที่เข้มข้นขยายออกไปทั่วปาเปลวเพลิงทะยานขึ้นท้องฟ้าคลื่นระเบิดทั่วทิศเสียงเข้าปะทะร้องคําราม
ผลของการต่อสู้,ต้นไม้สูงในระยะหนึ่งพันเมตรทั้งหมดล้มลงเป็นเถ้าถ่านพื้นดินสั่นสะเทือนเกิดเป็นหลุมลึกปรากฏขึ้น
เซี่ยวเฉินและหยุนเข่อซินไม่เร่งรีบที่จะลงมือ พวกเขาทั้งสองเร่งกระแสพลังขึ้นพร้อมกับมือจับลงไปบนด้ามกระบี่ พวกเขาจ้องมองสมรภูมิไม่วางตา,เตรียมพร้อมที่จะระเบิดพลัง
พวกเขาทั้งสองต่างรู้,ขณะที่มันดูเหมือนสามคนนั้นไล่ต้อนปีศาจงูแดงสู่สภาพน่าสมเพช แต่มันไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงอะไรแม้แต่น้อย
ในตอนที่ทั้งสามคนหมดสิ้นซึ่งพลังปราณ,สถานการณ์จะพลิกกลับ ดังนั้น พวกเขาทั้งสองจึงรอโอกาสที่จะลงมือ เมื่อพวกเขาออกโจมตี,พวกเขาจําต้องจบการต่อสู้ลงในกระบี่เดียว
ภายในปา,ทั้งสามคนที่อยู่แนวหลังขณะที่เปลวเพลิงทะลวงขึ้นฟ้าและคลื่นระเบิดพลุ่งพล่าน, พวกเขารู้สึกหวาดกลัวในใจ,พวกเขาสั่นกลัว
“เป็นการต่อสู้ที่น่ากลัว! หรือพวกเขาจะไปเจอกับสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 เข้า?” สานุศิษย์หญิงยอดเขากางอถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
อีกครหนึ่งใบหน้าที่เป็นกังวลไม่ต่างกัน “ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นด้วยความแข็งแกร่งของหยุนเข่อซิน,นางน่าจะสามารถรับมือกับสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นสูงสุดได้ พร้อมด้วยคนที่เหลืออีก,พวกเขามีโอกาสครึ่งครึ่งที่จะสังหารมันลงได้ มีเพียงสัตว์อสูรปีศาจระดับหกที่ระเบิดพลังออกมาได้เช่นนี้”
คนสุดท้ายกล่าว “สัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ขั้นต้นเทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง ข้าไม่แน่ใจนักว่าหยุนเข่อซินและคนที่เหลือจะรอดมาได้หรือไม่”
“ข้าหวังให้พวกเขารอดกลับมา มิฉะนั้น ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเรามันยากที่พวกเราจะฝ่าป่าแห่งนี้ไปได้ มีเพียงความตายที่รอพวกเราอยู่”
สานุศิษย์หญิงยอดเขากางอ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าว“หรือพวกเราจะลองออกไปดู? หากเกิดอะไรขึ้น,พวกเราสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้”
คนที่อยู่ด้านข้างกล่าว “อย่าโง่นัก หากมันเป็นเพียงสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ธรรมดา,มันจะเป็นการดีหากนําคนไปเพิ่ม อย่างไรก็ตาม, หากมันเป็นสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 หรือระดับ 5 ขั้นสูงสุด,พวกเราเข้าไปก็จะมีแต่เป็นตัวถ่วง พวกเราควรที่จะรอข่าวดีอยู่ ที่นี่”
คนเขาทั้งสามหยุดพูดคุย พวกเขาเพียงอยู่รอตรงนี้อย่างเป็นกังวลการต่อสู้นี้เป็นตัวตัดสินชีวิตของพวกเขา
“ศิษย์พี่หญิงไป!”
ทันใดนั้น มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังของพวกเขาสานุศิษย์หญิงยอดเขากางอวรู้สึกแปลกใจนางหันกลับไปและพบว่านั้นคือสหายของนางสองคนที่ได้ตกตายไปเมื่อก่อนหน้านี้กําลัง
มมา
“ศิษย์น้องหวัง…ศิษย์พี่หลิวไม่ใช่ว่าพวกเจ้าทั้งสองตายไปแล้ว?”
ความงุนงงปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกเขา
คนสองคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ทีละก้าวและอธิบายขึ้น “พวกยังเราดวงแข็งพวกเราไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้พวกเรา อยู่ดีๆก็ตื่นขึ้นในตอนกลางคืนดินที่ฝังพวกเราอยู่ค่อนข้าง รุ่ย,ดังนั้นพวกเราจึงปินกลับขึ้นมา”
“ใช่แล้วแล้วศิษย์พี่หยุนกับคนที่เหลืออยู่ที่ไหน?” ทั้งสองคนถามขึ้นอย่างสงสัย
เหตุการณ์แปลกประหลาดอย่างไม่น่าเชื่อ เห็นชักว่าพวกเขาตกตายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม,จู่ๆพวกเขาก็มาปรากฏตัวตรงหน้านี่มันทําให้พวกเขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
คนสามคนมองตากันไปมา และพวกเขาก็เข้าใจคสามคิดของกันและกันจากนั้นพวกเขาก็เริ่มถามคําถามบางอย่าง แต่ท้ายที่สุด ทั้ง สองคนนั้นก็สามารถตอบทุกคนถามได้อย่างไม่ลังเล
หลังจากทดสอบมาเป็นเวลานาน ในที่สุดพวกเขาก็ปักใจเชื่อว่า คนเป็นสองคนที่ตกตายไปจริงๆ
สานุศิษย์หญิงยอดเขากางอ เผยสีหน้าเป็นสุขพร้อมกับกล่าว “เยี่ยม! พวกเจ้าทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ศิษย์พี่หยุนและคนที่เหลืออยู่ด้านหน้”
“ฟูฟว!”
ก่อนที่ศิษย์หญิงยอดเขากางอว์ผู้นี้จะได้กล่าวจบ,กระบี่สั้นปรากฏขึ้นที่กลางหน้าอกของนาง รอยยิ้มบนใบหน้าของนางแข็งที่อลมหายใจของนางถูกพรากไป.ถูกพรากไปเช่นนั้น
“ศิษย์น้องหวัง! เจ้าทําอะไร?” หนึ่งในสองคนที่เหลืออุทานพร้อมกับก้าวขึ้นหน้า อย่างไรก็ตาม,ก่อนที่เขาจะก้าวไปได้ไกล,อีกคนหนึ่งแทงเขาเข้าที่ข้างหลัง
ก่อนที่อีกคนที่เหลือจะตอบสนอง,สี่ปีศาจเงาปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของเขา ซัดออกมาคนละหนึ่งฝ่ามือสังหารคนผู้นี้ไปโดยไร้เสียง
“ฟู ฟู!”
สามปีศาจเงาเข้าไปสิงสูซากศพหลังจากที่พวกมันยึดร่างกาย, พวกมันก็ยิ้มออกมาและกล่าว “มนุษย์มันเป็นสิ่งมีชีวิตเบาปัญญา”
ผู้นํากลุ่มปีศาจเงามองไปยังการต่อสู้ที่อยู่เบื้องหน้าเขากล่าว “ไม่น่าแปลกใจที่นายท่านต้องการให้พวกเราลงมือขณะที่พวกมันเผชิญหน้ากับปีศาจงูแดง ความแข็งแกร่งของคนพวกนั้นมันมากเห ลือ”
“แน่นอน ดูราวกับปีศาจงูแดงจะไม่อาจรับมือได้อยู่อย่างไรก็ตามด้วยศพพวกนี้มันจะเป็นการง่ายที่จะจัดหารกับพวกเขา”
“ปัง!”
กระบี่ยักษ์ของเกาเชียงแบกเปลวเพลวอะนไร้ขอบเขตพร้อมกับฟันลงอย่างแรงไปที่หางของปีศาจแดงที่กําลังลอยมาทางเขาเกิดเสียงระเบิดขึ้นเกาเชียงกระอักเลือดออกมาเต็มปากและถูกซัดถอย
กลับ
เกาเยางล้มลงไปกับพื้น,เผยสีหน้าเจ็บปวด เขาไม่อาจยืนขึ้นได้แม้จะลองพยายามลุกขึ้น
จางเลี้ยผู้ที่อยู่ด้านข้างเก็ไม่อาจทําอะไรได้ เขาเพียงนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น ในตอนต้น, เมื่อปรากฏการณ์ลึกลับของเขาถูกทําลาย,เขาได้รับบาดเจ็บไปไม่เบา หลังจากนั้นเขายังคงฝืนสู้ต่อไป.ยิ่งทําให้อาการบาดเจ็บย่ําแย่ลงไปอีก จากสามคน,เขาเป็นคนแรกที่หมดสภาพในการต่อสู้
“เจ็ดดาราโยกย้าย,ดาวไถวกวน!”
มู่เหิงร้องตะโกนและวาดมือซ้ายของเขาเป็นวงในอากาศ,ก่อเกิดพื้นที่พลังแปลกประหลาดตรงหน้าของเขานี่มันทําให้เพลิงสีดําที่ปีศาจงูแดงพ่นออกมากระดอนกลับ
ปีศาจงูแดงไม่อาจหลบได้ทันเวลา เพลิงสีดําอันน่าหวาดกลัวซีดเข้าและเผาร่างของมันร่างมหึมาของมันลงไปกองกับพื้น
หลังจากที่มู่เพิ่งใช้ออกกระบวณท่านี้,แสงสีม่วงบนร่างของเขาจางหายไปอย่างสมบูรณ์ ใบหน้าของเขาซีดเซียวอย่างไม่น่าเชื่อ,สายเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา เขาทําได้เพียงทรงตัวอย่างช้าๆหลังจากถอยกลับไปหลายก้าว
จังหวะนี้! เซี่ยวเฉินและหยุนเข่อซินสบตากัน พวกเขาไม่มีความลังเลพร้อมกับความแข็งแกร่งที่พวกเขารวบรวมเอาไว้พลุ่งพล่านและระเบิดออก
ขับทํานองสวรรค์,ทะลวงนภา!
หยุนเข่อซินร้องตะโกนและวาดกระบี่ของนาง กระบี่เล็กเพรียวบางเริ่มสั่นไหวยาวและลอยยาว
“กิ้ง ทิ้ง! แต้ง” เสียงราวกับฟ้าคํารามเชื่อมต่อร้อยเรียงเข้าด้วยกันก่อเกิดเป็นทํานองทะลวงสวรรค์ นางชี้กระบี่ไปที่ปีศาจงูแดง,ที่เพิ่งจะสลัดเพลิงสีดําออกไปได้พ้นตัว
กระบี่ฉีคลื่นเสียงร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าและเข้าไปในร่างของปีศาจงูแดง “ปัง! ปัง! ปัง!” ราวกับมีเสียงฟ้าคํารามดังออกมาจากตัวของปีศาจงูแดง
มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นในร่างมหึมาของมัน,ทําตัวมันกระเด้งขึ้นลงบนพื้น ทําให้พื้นดินสั้นสะเทือน สามคนที่หมดสิ้นพลังปราณแทบจะทิ้งตัวลงกับพื้นพวกเขาต้องพยายามอย่างหนักในการทรงตัวเอา
“หลิงหยุนเก้าสวรรค์เบี่ยงวิถีรอบยอดเขา!”
เซี่ยวเฉินดีดตัวออกจากพื้นเบาๆและทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า,ขึ้นไปสูงขึ้นและสูงขึ้น ชั้นหมู่เมฆขาวทันใดนั้นก็เริ่มม้วนตัวไม่หยุด
ท่ามกลางเมฆสีขาว,บางส่วนของเซียวเฉินถูกบดบัง “แคร้ง!” ทันใดนั้นเกิดรอยแยกสายฟ้าออกมาจากเมฆขาวที่ปิดเป็นเกลียวจากนั้น,หมู่เมฆขาวทั้งหมดแตกสลาย
เซี่ยวเฉินเคลื่อนไหวเป็นประกาย, จากบนท้องฟ้าลงมาราวกับเขาราวกับเขาได้ร่วงหล่น,ขอบเส้นของภูเขาวาดขึ้น เริ่มจากยอดลงมาล่าง,ค่อยๆปรากฏขึ้น
หมู่เมฆโอบรอบยอดเขาเอาไว้ มีพรรณไม้และศาลาทุกประเภทมันราวกับลูกภูเขาของจริงได้ปรากฏขึ้นมาเหนือหัวของพวกเขา
จางเลี่ยมองลึกไปที่ปรากฎการณ์ลึกลับที่เซียวเฉินใช้ออกมามีความประหลาดใจในดวงตาของเขาพร้อมกับพึมพํา “นั้นคือภูเขา,และนั้นคือหมู่เมฆมันคือสภาวะภูผาและสภาวะเมฆาที่แท้จริง?”
“เมฆาต้องคู่กับสายฟ้า:ภูผาต้องโอบล้อมด้วยปักษาและพรรณไม้พวกมันขาดกันไม่ได้ “หลิงหยุนเก้าสวรรค์เบี่ยงวิถีรอบยอดเขา!? นี่คือกระบวณท่าที่เจ็ดของกระบี่หลิงหยุนอย่างแท้จริง”
ฉัวะ!”
ขณะที่จางเลี่ยพึมพําอย่างหวาดกลัว,ภูเขาระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมทันใดนั้นก็ลบหายไป,ผสานเข้ากับร่างของเซียวเฉิน
ในทันที,กระแสพลังของเซี่ยวเฉินพลันเปลี่ยนไป เขามีความยิ่งใหญ่ของภูเขาและอากาศแปลกพิกลของเมฆา กระบีของเขากลายเป็นรวดเร็วอย่างแปลกประหลาดเช่นกัน
จางเลี้ยตะลึงนิ่งอึ้งไปนาน จากนั้นเขาก็กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น “เบี่ยงวิถีรอบยอดเขา…เบี่ยงวิถีรอบยอดเขา…ช่างน่าขัน ข้าคิดว่าข้าได้สําเร็จมันแล้ว แต่กระนั้น,ข้าเพียงหลงผิด”
ปีศาจงูแดงดิ้นอยู่กับพื้นด้วยความเจ็บปวดรู้สึกถึงกระแสพลังอันตรายมันอดทนต่อความเจ็บปวดในร่างของมันและซัดขึ้นบนด้วยหางอะนมหึมาของมันเกิดเป็นเสียงสายฟ้าสนั่น
ในทันทีที่หางมหึมาของมันกวาด,มีเกิดระเบิดขึ้นในอากาศ
เคลื่อนกระเชแทกสร้างแรงระเบิดทําให้ฉีและโลหิตเดือดแห้ง,ช่วยไม่ได้ที่สามหน้อบนพื้นปั่นป่วน,ทําให้พวกเขากระอักเลือดออกมาอีกคํา
“ปัง!”
กระบี่และหางงูปะทะกันกลางอากาศ เคลื่อนกระแทกที่มองเห็นได้ระเบิดออก,ขยายราวกับคลื่อนบนผิวน้ํา
ร่างของเซี่ยวเฉินราวกับขุนเขา ถึงแม้จะด้วยพลังมหาศาลของปีศาจงูแดง,เขาก็ไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยไม่มีทีท่าว่าเขาจะถอยกลับ
สําหรับผลของพลังมหาศาล,ฉีและโลหิตของเซี่ยวเฉินปั่นปวนเขาพยายามอย่างที่สุดเพื่อหมุนเวียนพลังปราณของเขา,จิตใจของเขาปลอดโปร่งเขาปลดปล่อยปรากฏการณ์ลึกลับที่ผสานเข้ากับร่างของเขาผ่านทางกระบี
บาดแผลปรากฏการณ์รอบหางอันโตของมันใหญ่ ด้วยกระบี,ที่ผสานเข้ากับสภาวะภูผาร่างมหึมาของปีศาจงูแดงถูกซัดลอยไปในอา
กาศ
เลือดสีดําโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าราวกับห่าฝน,พึมพําไม่หยุดหย่อนด้วยเสียง “ซี่ ซี่” พลังปราณของเซี่ยวเฉินสั่นสะเทือนและป้องกันเลือดสีดําเอาไว้
“ยิ้ม !”
ปีศาจงูแดงตัวมหึมาร่วงลงมาราวกับกระสอบทรายหลังจากที่เซี่ยวเฉินซัดมันลอยไปไกล จากนั้นเขาก็กลิ้งไปอีกระยะ ร่างขนาดเท่าภูเขาของมันทําให้พื้นดินสั่นสะเทือน
“โซว!”
เซี่ยวเฉินและหยุนเข่อซินยังไม่หยุดมือ,พวกเขาไม่อยากที่จะพลาดโอกาสในครั้งนี้ พลังชีวิตและพลังฟื้นฟูของปีศาจงูแดงนั้น่าตกตะลึง; พวกเขาไม่อาจเปลี่ยนให้มันได้พักหายใจ
ปีศาจงูแดงได้บาดเจ็บจากการโจมตีอย่างไร้ปราณีจาก,มู่เพิ่ง,จางเลี้ย,และเหาเชียง อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้บาดเจ็บมากมายอะไรนักตอนนี้มันบาดเจ็บหนักจากการลอบจู่โจม,
พวกเขาต้องคว้าโอกาศนี่และไม่ปล่อยให้มันพลิกสถานการณ์ก ลับมา”
ทั้งสองคนเข้ามาถึงที่ด้านข้างของปีศาจงูแดงในทันทีและปลดปล่อยทักษะต่อสู้ทุกประเภท ทุกกระบี่จู่โจมจากเซี่ยวเฉินทิ้งรอยแผลลึกบนลําตัวของปีศาจงูแดง,เจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อกระบี่เรียวบางของหยุนเข่อซินซัดเข้าที่ผิวหนังของมัน มันส์นางเพียงบาดแผลตื้นๆ มันดูเหมือนว่ากระบี่ของนางจะเป็นเพียงระดับลึกล้ําขั้นสูงและไม่อาจทะลุผ่านการป้องกันของปีศาจงูแดงไปได้
Comments