Immortal and Martial Dual Cultivation 254 ฟื้นคืนไม่จบสิ้น

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 254 ฟื้นคืนไม่จบสิ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Immortal and Martial Dual Cultivation

 

ตอนที่ 254 ฟื้นคืนไม่จบสิ้น

 

สู่เฉินไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวขึ้น “มันน่าจะตกตายไปแล้วถึงอย่างไรมันก็เป็นเพียงภาพเสมือน หลังจากที่พวกเราไล่สังหารปีศาจโลหิตที่เหลืออยู่จนสิ้น,มิติแห่งนี้จะลบหายไป” 

 

เมื่อคนที่เหลือได้ยินเช่นนั้น, พวกเขาพยักหน้า ความแข็งแกร่งของแม่ทัพปีศาจโลหิตน่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเพียงแค่ภาพเสมือนในมิติแห่งนี้ในไม่แม่แต่จะแข็งแกร่ง ได้ถึงหนึ่งในสิบจากของจริง

 

ขณะที่ทั้งกลุ่มกําลังจะเบาใจลงได้,หยดเลือดนับไม่ถ้วนทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นในห้องโถงใหญ่หยดเลือดรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว

 

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาพริบตาเดียว เมื่อหยดเลือดทั้งหมดรวมเข้าด้วยกัน,ร่างของแม่ทัพปีศาจโลหิตก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของมือกระบี่ผู้ที่ใช้ออกทักษะปีศาจโลหิตกลิ่นกาย

 

“ฟ!”

 

มีเสียงกรีดร้อง,น่าสังเวชและเสียงแตกฟองดังออกมาจากร่างของมือกระบี่ผู้นั้น แม่ทัพปีศาจ โลหิตสูบเลือดทุกหยดออกมาจากตัวของเขา

 

พระจันทร์สีดําแดงที่อยู่ใกลออกไปบนท้องฟ้าฉายแสงสีแดงลงบนร่างของแม่ทัพปีศาจโลหิต,เสริมพลังร่างกายที่อ่อนแอของเขา

 

ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วเวลาหนึ่งประกายแสง ทุกคนไม่อาจตอบสนองได้ทัน ความตกใจแสดงออกมาที่สีหนาของพวกเขา

 

แม่ทัพปีศาจโลหิตโยนร่างของมือกระบี่ผู้นั้นทิ้งไป ริมฝีปากสีซีดของเขามีเลือดไหลหยดลงมาพร้อมกับเผยรอยยิ้มชั่วร้าย “มนุษย์โงเขลา,ข้าจะตกตายลงง่ายดายเช่นนั้น?”

 

ขณะที่เรือสงครามสีเงินบินเข้าไปใกล้ราชวัง,แรงกดดันจากพลังฉีฆ่าฟันยิ่งรุนแรงขึ้น

 

หยุ่นเข่อซินกล่าว “ถึงแม้มันจะเป็นเพียงภาพเสมือน, ความแข็งแกร่งของแม่ทัพปีศาจโลหิตก็เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลางเป็นอย่างน้อย”

 

มู่หลงชงผู้ที่อยู่ตรงท้ายเรือ, ทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้น เขาลุกขึ้นยืนและกล่าว “จะต้องไม่ใช่เพียงเท่านั้นเมื่อเพิ่มสถานะปีศาจของมันเข้าไปความแข็งแกร่งของมันน่าจะเทียบได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูง”

 

ภายในอาณาจักรต้าฉิน,ตัวตนของระดับขอบเขตนักบุญนับได้ว่าเพียงจะย่างก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลังพวกเขานับได้ว่าคือผู้เชี่ยวชาญเล็กน้อย

 

พวกเขาสามารถกลายเป็นยอดในสถานที่เล็กๆ, อย่างเมืองม่อเหอเป็นต้น อํานาจท้องถิ่นจะเชื้อเชิญและปฏิบัติกับพวกเขาเป็นอย่างดี

 

หลังจากที่ก้าวเข้าสู่ระดับขอบเขตนักบุญ,ในแต่ละขั้นพลังที่พวกเขาก้าวขึ้นไปจะยกระดับความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม,มันเป็นการยากสําหรับพวกเขาสําหรับผู้บ่มเพาะพลัง ที่กลายเป็นระดับขอบเขตนักบุญก่อนที่พวกเขาจะอายุได้สามสิบปีจึงจะนับได้ว่าค่อนข้างดีเยี่ยม

 

สําหรับผู้ที่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงภายในอาณาจักรต้าฉินผู้นั้นจะต้องกลายเป็นระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลังจากที่สําเร็จระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,ทุกตระกูลใหญ่และขุมอํานาจภายในอาณาจักรต้าฉันจะเข้ามาประจบประแจง

 

โดยทั่วไป,ความแข็งแกร่งของตระกูลจะตัดสินกันที่จํานวนและคุณภาพระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธที่พวกเขามีแน่นอน,จํานวนที่กล่าวถึงคือจํานวนระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธที่มีอยู่และคุณภาพหมายถึงขั้นพลัง

 

สําหรับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,ไม่กล่าวถึงขั้นพลัง,แม้แต่ข้อได้เปรียบเล็กน้อยก็เป็นตัวตัดสินแพ้ชนะได้ทันที เป้ฯเพราะมันเป็นการยากที่จะก้าวหน้าของจากที่ก้าวขึ้นสูาระดับขอบเขตนี้

 

ทุกคนล้วนรู้ถึงความแตกต่างระหว่างระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดและระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงมันต่างกายราวกับฟ้าดินมันไม่ได้เกินจริงที่จะกล่าวว่าต่างกันถึงสิบเท่า

 

หลังจากที่เซียวเฉินได้ยินคําของมาหลงชง,ความนิ่งสงบยังคงอยู่บนใบหน้าของเขาอย่างไรก็ตาม,เขาเป็นกังวลถึงขีดสุด:เขาทําได้เพียงภาวนาให้หลิวหรูเยว่ปลอดภัย

 

เซี่ยวเฉินในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทําไมหลิวเทียนยู่ถึงได้ใส่พลังอันมหาศาลเอาไว้ในกระบี่เงาจันทร์ นี่เป็นเพราะเขาคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าเหล่ารุ่นเยาว์ของศาลากระบี่สวรรค์จะไม่ใช่คู่มือของแม่ทัพปีศาจโลหิต

 

ทันใดนั้น,อารมณ์บนใบหน้าของมู่หลงชงพลันเปลี่ยน เขากล่าวอย่างสับสน“เกิดอะไรขึ้น?กระแสพลังของแม่ทัพปีศาจอยู่ดีๆก็หายไป”

 

เซียวเฉินและหยุ่นเข่อซินก็รู้สึกได้เช่นกัน แรงกดดันพลังพล่านจางหายไปพวกเขารู้สึกถึงมันไม่ได้อีกแม้แต่น้อย

 

หยุ่นเข่อชินสงสัยพร้อมกับกล่าวขึ้น “เป็นไปได้ว่าแม่ทัพปีศาจโลหิตได้ถูกสังหายไปแล้ว?”

 

เมื่อกระแสพลังของบุคคลนั้นหายไป,นอกจากคนผู้นั้นจงใจปิดซ่อนเอาไว้มันก็มีเพียงความตายเท่านั้น

 

ด้วยแนวทางของแม่ทัพปีศาจโลหิต,การปิดซ่อนกระแสพลังตัวเองไม่ใช่คําตอบก็เหลือเพียงคําอธิบายเดียวก็คือความตาย

 

ภายใต้จันทร์เจ็มดวง,แสงสีแดงส่องลงมาอีกครั้ง,ทักคนรู้สึกถึงกระแสพลังอันน่าหวาดกลัวของแม่ทัพปีศาจโลหิต

 

หยุ่นเข่อชิ้นคิ้วขมวดและกล่าว “ความรู้สึกนี้…ทําไมรู้สึกราวกับมีการฟื้นคืนจากความตาย?เกิดอะไรขึ้นที่ราชวังกันแน่?”

 

ภาพเงาของราชวังปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขาแล้ว มันดูเหมือนอยู่อีกไม่ไกล,แต่มันยังคงใช้เวลาอีกสักพักก่อนที่พวกเขาจะมาถึง

 

เซี่ยวเฉินนิ่งเงียบพร้อมกับเขาจ้องมองไปที่ดวงจันทร์สีแดงเหนือหัวของเขา เขารู้สึกมานาน แล้วว่ามันมีอะไรแปลกกับดวงจันทร์สีแดง

 

แสงสีแดงที่ฉายลงมาจากดวงจันทร์สีแดงยืนยันการคาดเดาของเซียวเฉิน แสงสีแดงดูเหมือนจะบรรจุพลังงานแห่งชีวิตเอาไว้มันเต็มไปด้วยพลังงานพลุ่งพล่าน

 

มู่หลงชงกล่าว “พระจันทร์ดวงนี้ดูแปลกประหลาด ข้าแน่ใจว่าแม่ทัพปีศาจโลหิตจะต้องถูกสังหารลงไปแล้ว อย่างไรก็ตาม, แสงสีแดงนั้นทําให้เขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง”

 

ความเป็นอมตะขณะจันทร์สาดแสง? เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดพร้อมกันครุ่นคิดอย่างงุนงง

 

เชี่ยวเฉินหยุดความคิดลงในตอนนี้ สิ่งที่สําคัญที่สุดคือเร่งไปให้ถึงราชวัง

 

เซียวเฉินหยิบเอาหินวิญญาณระดับต่ําออกมาและซึมซับเอาพลังงาน วังวนฉีที่จุดตัน ที่ยันของเซี่ยวเฉินหมุนวนอย่างรวดเร็วพร้อมกับเซียวเฉินที่จ่ายพลังปราณออกไปอย่างไม่มีก็เก็บ

 

เรือสงครามสีเงินเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างมาก ผ่านไปสิบนาที,พวกเขาสามคนในที่สุดก็มาถึงที่ราชวัง

 

“ยิ้ม..” เสียงการต่อสู้เข้มข้นทะลุผ่านกําแพงของราชวังดังก้องอยู่ในหูของพวกเขา

 

“ฟูฟิว!”

 

มู่หลงชงกระโดดขึ้นไปในอากาศ,ออกจากท้ายเรือลงไปที่ยอดของราชวังอย่างรวดเร็วเขาส่งฝามือจู่โจมออกมาและเปิดรูใหญ่บนหลังคาของราชวังในทันทีจากนั้นเขากระโดดลงไปอย่างไม่มีลังเล

 

เซี่ยวเฉินไม่ได้ลังเลใจเช่นกัน เขาเก็บเรือสงครามสีเงินเข้าไปในตาขวาของเขาและลงไปยังรูที่มู่หลงชงเปิดเอาไว้พร้อมกับหยุ่นเข่อซิน

 

“ปัง!”

 

ก่อนที่พวกเขาจะลงถึงพื้น, พวกเขาเห็นมู่หลงชงกลายเป็นสายลมเย็นและมุ่งหน้าไปหาแม่ทัพปีศาจโลหิตเขาทิ้งบาดแผลไว้บนร่างของแม่ทัพปีศาจโลหิตด้วยกระบีของเขา

 

“แม่น้ําฟ้าคลั่ง!”

 

ภายในห้องโถงใหญ่กระบี่ฉีสีเลือดรวมตัวอีกครั้งและก่อเกิดเป็นสายน้ําสีแดง มันแบกกระแส พลังอันไร้ขอบเขตพร้อมกับพุ่งไปที่แม่ทัพปีศาจโลหิต

 

แม่น้ําฟ้าคลั่งเดิมที่เปฯทักษะต่อสู้ระดับปฐพีขั้นสูงสุด เมื่อหลายคนใช้ออกมันพร้อมกัน, พลังของกระบวณท่านี้จะขึ้นไปถึงทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ขั้นต่ํา

 

“ฟูว ฟิว!”

 

ระเบิดหนาแน่นแตกตายออกมาจากห้องโถงใหญ่ ทั่วทั้งห้องโถงใหญ่เริ่มสั่นสะเทือนไม่หยุดพร้อมกับเสียงระเบิดดัง,กระบวณท่านี้สังหารแม่ทัพปีศาจลงอีกครั้งจากนั้นเขากลายไปเป็นหยดเลือดนับไม่ถ้วนและจางหายไปอีกครั้ง

 

เมื่อหลิวหรูเยว่เห็นเซียวเฉิน, นางเร่งกระโดดเข้ามา ใบหน้าอันงดงามของนางเผยความเป็นกังวลออกมานางรีบกล่าวขึ้น “เยาเฉิน,ทําไมเจ้าถึงได้มาอยู่ที่นี่? ไม่ใช่ว่าข้ามอบเครื่องรางเพลิง ศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้าไปแล้ว?”

 

เซี่ยวเฉินพูดเสียงค่อย “ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล,บิดาของเจ้าบอกให้ข้ามา เขาได้คาดการณ์เอาไว้ว่าพวกเจ้าไม่อาจเปฯคู่มือกับแม่ทัพปีศาจโลหิตเขาได้ผนึกทักษะต่อสู้เอาไว้ในกระบี่เงาจันทร์ มันสามารถสังหารแม่ทัพปีศาจโลหอตได้”

 

ทั้งกลุ่มได้สังฟารแม่ทัพปีศาจโลหิตลงไปอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ไม่มีใครลดการป้องกันลงกลับกัน,พวกเขายิ่งเป็นกังวลมากขึ้น

 

“ศิษย์พี่ลู่,ผลของทักษะปีศาจโลหิตกลืนกายกําลังจะหมดลงแล้ว ทุกคนได้เผาผลาญความแข็งแกร่งไปมากหากพวกเราใช้แม่น้ําฟ้าคลั่งอีกครั้ง,พลังของมันจะลดต่ําลงอย่างมากหากแม่ทัพปีศาจโลหิตฟื้นคืนชีพอีกครั้ง,สถานการณ์จะย่ําแย่”

 

หนึ่งในมือกระบี่ของค่ายกระปสวรรค์กล่าวกับลู่เฉินอย่างเป็นกังวล

ลู่เฉินมีสีหน้ามืดมน,เขารู้ถึงสถานการณ์ดีอยู่แล้วแต่มันเกินความคาดการณ์ของเขาไปไกล

 

ความคิดแต่เดิมของพวกเขา,ด้วยความแข็งแกร่วที่เพิ่มขึ้นสิบเท่าจากทักษะปีศาจโลหิตกลืนกายและผสานเข้ากับแม่น้ําฟ้าคลั่ง, พวกเขาจะสามารถสังหารภาพเสมือนของแม่ทัพปีศาจโลหิตและปีศาจโลหิตตนอื่นลงได้ อย่างไรก็ตามพวกเขาคาดคิดถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน,สถานการณ์ที่แม่ทัพปีศาจโลหิตนั้นฆ่าไม่ตาย

 

เมื่อมู่หลงชงเห็นหลิวหนูเยว่ยืนอยู่กับเซียวเฉิน,ร่องรอยความเกรี้ยวโกรธเล็กๆปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เขารีบเดินตรงไปหาลู่เฉินและกล่าว“ร่างจริงของมันน่าจะเป็นดวงจันทร์สีแดงที่อยู่บนท้องฟ้า มันไม่มีสิ่งที่คืนชีพได้อย่างไม่รู้จบในโลกใบนี้หากพวกเราสังหารมันลงไปเรื่อยๆ เขาจะต้องตกตายลงในที่สุด”

 

ลู่เฉินยิ้มขมๆและชี้ไปที่ร่างสามร่างที่อยู่บนพื้นและกล่าวขึ้น “ข้าเกรงว่า ก่อนที่มันจะตาย,พวกเราจะยันเอาไว้ไม่อยู่หากมันยังไม่ตายหลังจากที่เราสังหารมันลงอีกครั้ง,พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล่าถอย”

 

“ฟู ฟิว! ฟูฟิว!”

 

หยดเลือดนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาในห้องโถงใหญ่อีกครั้ง พวกมันเร่งรวมตัวกันและแม่ทัพปีศาจโลหิตก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตามในครั้งนี้เป็นเพราะพวกเขาระมัดระวังยิ่งกว่า,มันไม่อาจลอยโจมตีใส่ใครได้

 

ดวงจันทร์สีเลือดฉายแสงสีแดงลงมาและร่างกายอันอ่อนแอของแม่ทัพปีศาจโลหิตกลายเป็นแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง

 

รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันซีดเซียวของเขาพร้อมกับมองไปที่ผู้มาใหม่สามคน“มีคนเข้ามาตายเพิ่มอีกสามคน?”

 

“สังหาร!”

 

ระยะเวลาที่พวกเขาจะสามารถรักษาสภาพทักษะปีศาจโลหิตกลืนกายนั้นมีจํากัด สู่เฉินไม่อยากที่จะเสียเวลา ในจังหวะที่แม่ทัพปีศาจโลหิตปรากฏตัวขึ้นมาเขานําทีมเข้าจู่โจม

 

หลิวหรูเยว่ ผู้ที่อยู่ด้านข้างเซียวเฉิน,เพียงบอกให้เซียวเฉินระวังตัวก่อนที่นางจะพุ่งเข้าสู่สมรภูมิ,ประมือกับแม่ทัพปีศาจโลหิตพร้อมกับคนที่เหลือ

 

คนทั้งเจ็ดได้ประมือผ่านศึกใหญ่มาด้วยกัน;พวกเขาสามารถประสานงานกันได้อย่างยอดเยี่ยมเซี่ยวเฉิน,หยุ่นเข่อซินและมู่หลงชงไม่ได้อยู่ในตําแหน่งที่ดีที่จะเข้าไปร่วมการต่อสู้มิฉะนั้น, พวก เขาอาจจะเป็นคนฟังการสอดประสานลงพวกเขาทําได้เพียงยืนอยู่ด้านข้างและมองดูอย่างเงียบๆ ค่อยมองหาโอกาส

 

“หอกมรณะปีศาจโลหิต!”

 

แม่ทัพปีศาจโลหิตร้องตะโกนออกมาและควบรวมลูกบอลเลือดในมือของเขา ลูกบอลเลือดยึดยาวกลายเป็นหอก มันทิ้งภาพติดตาสีเลือดเอาไว้ด้านหลังพร้อมกับบินไปที่กลั่มคนอย่างรวดเร็ว

 

หอกเล่มนี่รวดเร็วเป็นอย่างมาก ภายในพริบตา,มันมาถึงตรงหน้าของสู่เฉินดวงตาของลู่เฉินส์องประกายแวววับพร้อมกับเขากวาดกระบี่เป็นวงในอากาศ

 

อากาศหมุนวนสรางตัวขึ้นตรงหน้าของลู่เฉิน เมื่อหอกสรเลือดเข้าปะทะกับมัน,มันถูกเบียงทิศลอยออกด้านข้าง

 

“ปัง!”

 

หอกสีเลือดซัดเข้าที่เสาหินต้นมหึมาภายในห้องโถงใหญ่ เสาหินระเบิดออกและกร่อนลง

 

ในจังหวะต่อมา เกิดเสียงระเบิดดังท่อนบนของเสาหินทบายลงกับพื้น

 

เมื่อเสาหินสูงหลายเมตรร่วงลง,ทุกคนรีบหลบเลี่ยง เสาหินที่ล้มลงตบเอาฝุ่นควันจํานวนมากขึ้นมาในอากาศ ภายใต้แรงกระแทกรุนแรง,ทั่งทั้งห้องโถงใหญ่สั่นสะเทือนไม่หยุด

 

“ฟู ฟิว!”

 

แม่ทัพปีศาจโลหิตคว้าโอกาสในตอนที่ทุกคนกระโดดหลบ เขาหัวเราะเสียงประหลาดและกลายร่างเป็นของเหลวสีเบื้อด,พุ่งเข้าหามือกระบี่ผู้ที่ใช้ออกทักษะปีศาจโลหิตกลืนกาย

 

เมื่อมือกระบี่ผู้นั้นตั้งตัวได้, เขารู้สึกถึงอะนตรายจากด้านหลังของเขาอย่างไรก็ตาม,มันได้สายไปแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 254 ฟื้นคืนไม่จบสิ้น

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 254 ฟื้นคืนไม่จบสิ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Immortal and Martial Dual Cultivation

 

ตอนที่ 254 ฟื้นคืนไม่จบสิ้น

 

สู่เฉินไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวขึ้น “มันน่าจะตกตายไปแล้วถึงอย่างไรมันก็เป็นเพียงภาพเสมือน หลังจากที่พวกเราไล่สังหารปีศาจโลหิตที่เหลืออยู่จนสิ้น,มิติแห่งนี้จะลบหายไป” 

 

เมื่อคนที่เหลือได้ยินเช่นนั้น, พวกเขาพยักหน้า ความแข็งแกร่งของแม่ทัพปีศาจโลหิตน่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเพียงแค่ภาพเสมือนในมิติแห่งนี้ในไม่แม่แต่จะแข็งแกร่ง ได้ถึงหนึ่งในสิบจากของจริง

 

ขณะที่ทั้งกลุ่มกําลังจะเบาใจลงได้,หยดเลือดนับไม่ถ้วนทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นในห้องโถงใหญ่หยดเลือดรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว

 

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาพริบตาเดียว เมื่อหยดเลือดทั้งหมดรวมเข้าด้วยกัน,ร่างของแม่ทัพปีศาจโลหิตก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของมือกระบี่ผู้ที่ใช้ออกทักษะปีศาจโลหิตกลิ่นกาย

 

“ฟ!”

 

มีเสียงกรีดร้อง,น่าสังเวชและเสียงแตกฟองดังออกมาจากร่างของมือกระบี่ผู้นั้น แม่ทัพปีศาจ โลหิตสูบเลือดทุกหยดออกมาจากตัวของเขา

 

พระจันทร์สีดําแดงที่อยู่ใกลออกไปบนท้องฟ้าฉายแสงสีแดงลงบนร่างของแม่ทัพปีศาจโลหิต,เสริมพลังร่างกายที่อ่อนแอของเขา

 

ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วเวลาหนึ่งประกายแสง ทุกคนไม่อาจตอบสนองได้ทัน ความตกใจแสดงออกมาที่สีหนาของพวกเขา

 

แม่ทัพปีศาจโลหิตโยนร่างของมือกระบี่ผู้นั้นทิ้งไป ริมฝีปากสีซีดของเขามีเลือดไหลหยดลงมาพร้อมกับเผยรอยยิ้มชั่วร้าย “มนุษย์โงเขลา,ข้าจะตกตายลงง่ายดายเช่นนั้น?”

 

ขณะที่เรือสงครามสีเงินบินเข้าไปใกล้ราชวัง,แรงกดดันจากพลังฉีฆ่าฟันยิ่งรุนแรงขึ้น

 

หยุ่นเข่อซินกล่าว “ถึงแม้มันจะเป็นเพียงภาพเสมือน, ความแข็งแกร่งของแม่ทัพปีศาจโลหิตก็เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลางเป็นอย่างน้อย”

 

มู่หลงชงผู้ที่อยู่ตรงท้ายเรือ, ทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้น เขาลุกขึ้นยืนและกล่าว “จะต้องไม่ใช่เพียงเท่านั้นเมื่อเพิ่มสถานะปีศาจของมันเข้าไปความแข็งแกร่งของมันน่าจะเทียบได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูง”

 

ภายในอาณาจักรต้าฉิน,ตัวตนของระดับขอบเขตนักบุญนับได้ว่าเพียงจะย่างก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลังพวกเขานับได้ว่าคือผู้เชี่ยวชาญเล็กน้อย

 

พวกเขาสามารถกลายเป็นยอดในสถานที่เล็กๆ, อย่างเมืองม่อเหอเป็นต้น อํานาจท้องถิ่นจะเชื้อเชิญและปฏิบัติกับพวกเขาเป็นอย่างดี

 

หลังจากที่ก้าวเข้าสู่ระดับขอบเขตนักบุญ,ในแต่ละขั้นพลังที่พวกเขาก้าวขึ้นไปจะยกระดับความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม,มันเป็นการยากสําหรับพวกเขาสําหรับผู้บ่มเพาะพลัง ที่กลายเป็นระดับขอบเขตนักบุญก่อนที่พวกเขาจะอายุได้สามสิบปีจึงจะนับได้ว่าค่อนข้างดีเยี่ยม

 

สําหรับผู้ที่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงภายในอาณาจักรต้าฉินผู้นั้นจะต้องกลายเป็นระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลังจากที่สําเร็จระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,ทุกตระกูลใหญ่และขุมอํานาจภายในอาณาจักรต้าฉันจะเข้ามาประจบประแจง

 

โดยทั่วไป,ความแข็งแกร่งของตระกูลจะตัดสินกันที่จํานวนและคุณภาพระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธที่พวกเขามีแน่นอน,จํานวนที่กล่าวถึงคือจํานวนระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธที่มีอยู่และคุณภาพหมายถึงขั้นพลัง

 

สําหรับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,ไม่กล่าวถึงขั้นพลัง,แม้แต่ข้อได้เปรียบเล็กน้อยก็เป็นตัวตัดสินแพ้ชนะได้ทันที เป้ฯเพราะมันเป็นการยากที่จะก้าวหน้าของจากที่ก้าวขึ้นสูาระดับขอบเขตนี้

 

ทุกคนล้วนรู้ถึงความแตกต่างระหว่างระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดและระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงมันต่างกายราวกับฟ้าดินมันไม่ได้เกินจริงที่จะกล่าวว่าต่างกันถึงสิบเท่า

 

หลังจากที่เซียวเฉินได้ยินคําของมาหลงชง,ความนิ่งสงบยังคงอยู่บนใบหน้าของเขาอย่างไรก็ตาม,เขาเป็นกังวลถึงขีดสุด:เขาทําได้เพียงภาวนาให้หลิวหรูเยว่ปลอดภัย

 

เซี่ยวเฉินในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทําไมหลิวเทียนยู่ถึงได้ใส่พลังอันมหาศาลเอาไว้ในกระบี่เงาจันทร์ นี่เป็นเพราะเขาคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าเหล่ารุ่นเยาว์ของศาลากระบี่สวรรค์จะไม่ใช่คู่มือของแม่ทัพปีศาจโลหิต

 

ทันใดนั้น,อารมณ์บนใบหน้าของมู่หลงชงพลันเปลี่ยน เขากล่าวอย่างสับสน“เกิดอะไรขึ้น?กระแสพลังของแม่ทัพปีศาจอยู่ดีๆก็หายไป”

 

เซียวเฉินและหยุ่นเข่อซินก็รู้สึกได้เช่นกัน แรงกดดันพลังพล่านจางหายไปพวกเขารู้สึกถึงมันไม่ได้อีกแม้แต่น้อย

 

หยุ่นเข่อชินสงสัยพร้อมกับกล่าวขึ้น “เป็นไปได้ว่าแม่ทัพปีศาจโลหิตได้ถูกสังหายไปแล้ว?”

 

เมื่อกระแสพลังของบุคคลนั้นหายไป,นอกจากคนผู้นั้นจงใจปิดซ่อนเอาไว้มันก็มีเพียงความตายเท่านั้น

 

ด้วยแนวทางของแม่ทัพปีศาจโลหิต,การปิดซ่อนกระแสพลังตัวเองไม่ใช่คําตอบก็เหลือเพียงคําอธิบายเดียวก็คือความตาย

 

ภายใต้จันทร์เจ็มดวง,แสงสีแดงส่องลงมาอีกครั้ง,ทักคนรู้สึกถึงกระแสพลังอันน่าหวาดกลัวของแม่ทัพปีศาจโลหิต

 

หยุ่นเข่อชิ้นคิ้วขมวดและกล่าว “ความรู้สึกนี้…ทําไมรู้สึกราวกับมีการฟื้นคืนจากความตาย?เกิดอะไรขึ้นที่ราชวังกันแน่?”

 

ภาพเงาของราชวังปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขาแล้ว มันดูเหมือนอยู่อีกไม่ไกล,แต่มันยังคงใช้เวลาอีกสักพักก่อนที่พวกเขาจะมาถึง

 

เซี่ยวเฉินนิ่งเงียบพร้อมกับเขาจ้องมองไปที่ดวงจันทร์สีแดงเหนือหัวของเขา เขารู้สึกมานาน แล้วว่ามันมีอะไรแปลกกับดวงจันทร์สีแดง

 

แสงสีแดงที่ฉายลงมาจากดวงจันทร์สีแดงยืนยันการคาดเดาของเซียวเฉิน แสงสีแดงดูเหมือนจะบรรจุพลังงานแห่งชีวิตเอาไว้มันเต็มไปด้วยพลังงานพลุ่งพล่าน

 

มู่หลงชงกล่าว “พระจันทร์ดวงนี้ดูแปลกประหลาด ข้าแน่ใจว่าแม่ทัพปีศาจโลหิตจะต้องถูกสังหารลงไปแล้ว อย่างไรก็ตาม, แสงสีแดงนั้นทําให้เขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง”

 

ความเป็นอมตะขณะจันทร์สาดแสง? เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดพร้อมกันครุ่นคิดอย่างงุนงง

 

เชี่ยวเฉินหยุดความคิดลงในตอนนี้ สิ่งที่สําคัญที่สุดคือเร่งไปให้ถึงราชวัง

 

เซียวเฉินหยิบเอาหินวิญญาณระดับต่ําออกมาและซึมซับเอาพลังงาน วังวนฉีที่จุดตัน ที่ยันของเซี่ยวเฉินหมุนวนอย่างรวดเร็วพร้อมกับเซียวเฉินที่จ่ายพลังปราณออกไปอย่างไม่มีก็เก็บ

 

เรือสงครามสีเงินเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างมาก ผ่านไปสิบนาที,พวกเขาสามคนในที่สุดก็มาถึงที่ราชวัง

 

“ยิ้ม..” เสียงการต่อสู้เข้มข้นทะลุผ่านกําแพงของราชวังดังก้องอยู่ในหูของพวกเขา

 

“ฟูฟิว!”

 

มู่หลงชงกระโดดขึ้นไปในอากาศ,ออกจากท้ายเรือลงไปที่ยอดของราชวังอย่างรวดเร็วเขาส่งฝามือจู่โจมออกมาและเปิดรูใหญ่บนหลังคาของราชวังในทันทีจากนั้นเขากระโดดลงไปอย่างไม่มีลังเล

 

เซี่ยวเฉินไม่ได้ลังเลใจเช่นกัน เขาเก็บเรือสงครามสีเงินเข้าไปในตาขวาของเขาและลงไปยังรูที่มู่หลงชงเปิดเอาไว้พร้อมกับหยุ่นเข่อซิน

 

“ปัง!”

 

ก่อนที่พวกเขาจะลงถึงพื้น, พวกเขาเห็นมู่หลงชงกลายเป็นสายลมเย็นและมุ่งหน้าไปหาแม่ทัพปีศาจโลหิตเขาทิ้งบาดแผลไว้บนร่างของแม่ทัพปีศาจโลหิตด้วยกระบีของเขา

 

“แม่น้ําฟ้าคลั่ง!”

 

ภายในห้องโถงใหญ่กระบี่ฉีสีเลือดรวมตัวอีกครั้งและก่อเกิดเป็นสายน้ําสีแดง มันแบกกระแส พลังอันไร้ขอบเขตพร้อมกับพุ่งไปที่แม่ทัพปีศาจโลหิต

 

แม่น้ําฟ้าคลั่งเดิมที่เปฯทักษะต่อสู้ระดับปฐพีขั้นสูงสุด เมื่อหลายคนใช้ออกมันพร้อมกัน, พลังของกระบวณท่านี้จะขึ้นไปถึงทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ขั้นต่ํา

 

“ฟูว ฟิว!”

 

ระเบิดหนาแน่นแตกตายออกมาจากห้องโถงใหญ่ ทั่วทั้งห้องโถงใหญ่เริ่มสั่นสะเทือนไม่หยุดพร้อมกับเสียงระเบิดดัง,กระบวณท่านี้สังหารแม่ทัพปีศาจลงอีกครั้งจากนั้นเขากลายไปเป็นหยดเลือดนับไม่ถ้วนและจางหายไปอีกครั้ง

 

เมื่อหลิวหรูเยว่เห็นเซียวเฉิน, นางเร่งกระโดดเข้ามา ใบหน้าอันงดงามของนางเผยความเป็นกังวลออกมานางรีบกล่าวขึ้น “เยาเฉิน,ทําไมเจ้าถึงได้มาอยู่ที่นี่? ไม่ใช่ว่าข้ามอบเครื่องรางเพลิง ศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้าไปแล้ว?”

 

เซี่ยวเฉินพูดเสียงค่อย “ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล,บิดาของเจ้าบอกให้ข้ามา เขาได้คาดการณ์เอาไว้ว่าพวกเจ้าไม่อาจเปฯคู่มือกับแม่ทัพปีศาจโลหิตเขาได้ผนึกทักษะต่อสู้เอาไว้ในกระบี่เงาจันทร์ มันสามารถสังหารแม่ทัพปีศาจโลหอตได้”

 

ทั้งกลุ่มได้สังฟารแม่ทัพปีศาจโลหิตลงไปอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ไม่มีใครลดการป้องกันลงกลับกัน,พวกเขายิ่งเป็นกังวลมากขึ้น

 

“ศิษย์พี่ลู่,ผลของทักษะปีศาจโลหิตกลืนกายกําลังจะหมดลงแล้ว ทุกคนได้เผาผลาญความแข็งแกร่งไปมากหากพวกเราใช้แม่น้ําฟ้าคลั่งอีกครั้ง,พลังของมันจะลดต่ําลงอย่างมากหากแม่ทัพปีศาจโลหิตฟื้นคืนชีพอีกครั้ง,สถานการณ์จะย่ําแย่”

 

หนึ่งในมือกระบี่ของค่ายกระปสวรรค์กล่าวกับลู่เฉินอย่างเป็นกังวล

ลู่เฉินมีสีหน้ามืดมน,เขารู้ถึงสถานการณ์ดีอยู่แล้วแต่มันเกินความคาดการณ์ของเขาไปไกล

 

ความคิดแต่เดิมของพวกเขา,ด้วยความแข็งแกร่วที่เพิ่มขึ้นสิบเท่าจากทักษะปีศาจโลหิตกลืนกายและผสานเข้ากับแม่น้ําฟ้าคลั่ง, พวกเขาจะสามารถสังหารภาพเสมือนของแม่ทัพปีศาจโลหิตและปีศาจโลหิตตนอื่นลงได้ อย่างไรก็ตามพวกเขาคาดคิดถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน,สถานการณ์ที่แม่ทัพปีศาจโลหิตนั้นฆ่าไม่ตาย

 

เมื่อมู่หลงชงเห็นหลิวหนูเยว่ยืนอยู่กับเซียวเฉิน,ร่องรอยความเกรี้ยวโกรธเล็กๆปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เขารีบเดินตรงไปหาลู่เฉินและกล่าว“ร่างจริงของมันน่าจะเป็นดวงจันทร์สีแดงที่อยู่บนท้องฟ้า มันไม่มีสิ่งที่คืนชีพได้อย่างไม่รู้จบในโลกใบนี้หากพวกเราสังหารมันลงไปเรื่อยๆ เขาจะต้องตกตายลงในที่สุด”

 

ลู่เฉินยิ้มขมๆและชี้ไปที่ร่างสามร่างที่อยู่บนพื้นและกล่าวขึ้น “ข้าเกรงว่า ก่อนที่มันจะตาย,พวกเราจะยันเอาไว้ไม่อยู่หากมันยังไม่ตายหลังจากที่เราสังหารมันลงอีกครั้ง,พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล่าถอย”

 

“ฟู ฟิว! ฟูฟิว!”

 

หยดเลือดนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาในห้องโถงใหญ่อีกครั้ง พวกมันเร่งรวมตัวกันและแม่ทัพปีศาจโลหิตก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตามในครั้งนี้เป็นเพราะพวกเขาระมัดระวังยิ่งกว่า,มันไม่อาจลอยโจมตีใส่ใครได้

 

ดวงจันทร์สีเลือดฉายแสงสีแดงลงมาและร่างกายอันอ่อนแอของแม่ทัพปีศาจโลหิตกลายเป็นแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง

 

รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันซีดเซียวของเขาพร้อมกับมองไปที่ผู้มาใหม่สามคน“มีคนเข้ามาตายเพิ่มอีกสามคน?”

 

“สังหาร!”

 

ระยะเวลาที่พวกเขาจะสามารถรักษาสภาพทักษะปีศาจโลหิตกลืนกายนั้นมีจํากัด สู่เฉินไม่อยากที่จะเสียเวลา ในจังหวะที่แม่ทัพปีศาจโลหิตปรากฏตัวขึ้นมาเขานําทีมเข้าจู่โจม

 

หลิวหรูเยว่ ผู้ที่อยู่ด้านข้างเซียวเฉิน,เพียงบอกให้เซียวเฉินระวังตัวก่อนที่นางจะพุ่งเข้าสู่สมรภูมิ,ประมือกับแม่ทัพปีศาจโลหิตพร้อมกับคนที่เหลือ

 

คนทั้งเจ็ดได้ประมือผ่านศึกใหญ่มาด้วยกัน;พวกเขาสามารถประสานงานกันได้อย่างยอดเยี่ยมเซี่ยวเฉิน,หยุ่นเข่อซินและมู่หลงชงไม่ได้อยู่ในตําแหน่งที่ดีที่จะเข้าไปร่วมการต่อสู้มิฉะนั้น, พวก เขาอาจจะเป็นคนฟังการสอดประสานลงพวกเขาทําได้เพียงยืนอยู่ด้านข้างและมองดูอย่างเงียบๆ ค่อยมองหาโอกาส

 

“หอกมรณะปีศาจโลหิต!”

 

แม่ทัพปีศาจโลหิตร้องตะโกนออกมาและควบรวมลูกบอลเลือดในมือของเขา ลูกบอลเลือดยึดยาวกลายเป็นหอก มันทิ้งภาพติดตาสีเลือดเอาไว้ด้านหลังพร้อมกับบินไปที่กลั่มคนอย่างรวดเร็ว

 

หอกเล่มนี่รวดเร็วเป็นอย่างมาก ภายในพริบตา,มันมาถึงตรงหน้าของสู่เฉินดวงตาของลู่เฉินส์องประกายแวววับพร้อมกับเขากวาดกระบี่เป็นวงในอากาศ

 

อากาศหมุนวนสรางตัวขึ้นตรงหน้าของลู่เฉิน เมื่อหอกสรเลือดเข้าปะทะกับมัน,มันถูกเบียงทิศลอยออกด้านข้าง

 

“ปัง!”

 

หอกสีเลือดซัดเข้าที่เสาหินต้นมหึมาภายในห้องโถงใหญ่ เสาหินระเบิดออกและกร่อนลง

 

ในจังหวะต่อมา เกิดเสียงระเบิดดังท่อนบนของเสาหินทบายลงกับพื้น

 

เมื่อเสาหินสูงหลายเมตรร่วงลง,ทุกคนรีบหลบเลี่ยง เสาหินที่ล้มลงตบเอาฝุ่นควันจํานวนมากขึ้นมาในอากาศ ภายใต้แรงกระแทกรุนแรง,ทั่งทั้งห้องโถงใหญ่สั่นสะเทือนไม่หยุด

 

“ฟู ฟิว!”

 

แม่ทัพปีศาจโลหิตคว้าโอกาสในตอนที่ทุกคนกระโดดหลบ เขาหัวเราะเสียงประหลาดและกลายร่างเป็นของเหลวสีเบื้อด,พุ่งเข้าหามือกระบี่ผู้ที่ใช้ออกทักษะปีศาจโลหิตกลืนกาย

 

เมื่อมือกระบี่ผู้นั้นตั้งตัวได้, เขารู้สึกถึงอะนตรายจากด้านหลังของเขาอย่างไรก็ตาม,มันได้สายไปแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 254 ฟื้นคืนไม่จบสิ้น

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 254 ฟื้นคืนไม่จบสิ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Immortal and Martial Dual Cultivation

 

ตอนที่ 254 ฟื้นคืนไม่จบสิ้น

 

สู่เฉินไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวขึ้น “มันน่าจะตกตายไปแล้วถึงอย่างไรมันก็เป็นเพียงภาพเสมือน หลังจากที่พวกเราไล่สังหารปีศาจโลหิตที่เหลืออยู่จนสิ้น,มิติแห่งนี้จะลบหายไป” 

 

เมื่อคนที่เหลือได้ยินเช่นนั้น, พวกเขาพยักหน้า ความแข็งแกร่งของแม่ทัพปีศาจโลหิตน่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเพียงแค่ภาพเสมือนในมิติแห่งนี้ในไม่แม่แต่จะแข็งแกร่ง ได้ถึงหนึ่งในสิบจากของจริง

 

ขณะที่ทั้งกลุ่มกําลังจะเบาใจลงได้,หยดเลือดนับไม่ถ้วนทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นในห้องโถงใหญ่หยดเลือดรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว

 

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาพริบตาเดียว เมื่อหยดเลือดทั้งหมดรวมเข้าด้วยกัน,ร่างของแม่ทัพปีศาจโลหิตก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของมือกระบี่ผู้ที่ใช้ออกทักษะปีศาจโลหิตกลิ่นกาย

 

“ฟ!”

 

มีเสียงกรีดร้อง,น่าสังเวชและเสียงแตกฟองดังออกมาจากร่างของมือกระบี่ผู้นั้น แม่ทัพปีศาจ โลหิตสูบเลือดทุกหยดออกมาจากตัวของเขา

 

พระจันทร์สีดําแดงที่อยู่ใกลออกไปบนท้องฟ้าฉายแสงสีแดงลงบนร่างของแม่ทัพปีศาจโลหิต,เสริมพลังร่างกายที่อ่อนแอของเขา

 

ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วเวลาหนึ่งประกายแสง ทุกคนไม่อาจตอบสนองได้ทัน ความตกใจแสดงออกมาที่สีหนาของพวกเขา

 

แม่ทัพปีศาจโลหิตโยนร่างของมือกระบี่ผู้นั้นทิ้งไป ริมฝีปากสีซีดของเขามีเลือดไหลหยดลงมาพร้อมกับเผยรอยยิ้มชั่วร้าย “มนุษย์โงเขลา,ข้าจะตกตายลงง่ายดายเช่นนั้น?”

 

ขณะที่เรือสงครามสีเงินบินเข้าไปใกล้ราชวัง,แรงกดดันจากพลังฉีฆ่าฟันยิ่งรุนแรงขึ้น

 

หยุ่นเข่อซินกล่าว “ถึงแม้มันจะเป็นเพียงภาพเสมือน, ความแข็งแกร่งของแม่ทัพปีศาจโลหิตก็เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลางเป็นอย่างน้อย”

 

มู่หลงชงผู้ที่อยู่ตรงท้ายเรือ, ทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้น เขาลุกขึ้นยืนและกล่าว “จะต้องไม่ใช่เพียงเท่านั้นเมื่อเพิ่มสถานะปีศาจของมันเข้าไปความแข็งแกร่งของมันน่าจะเทียบได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูง”

 

ภายในอาณาจักรต้าฉิน,ตัวตนของระดับขอบเขตนักบุญนับได้ว่าเพียงจะย่างก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลังพวกเขานับได้ว่าคือผู้เชี่ยวชาญเล็กน้อย

 

พวกเขาสามารถกลายเป็นยอดในสถานที่เล็กๆ, อย่างเมืองม่อเหอเป็นต้น อํานาจท้องถิ่นจะเชื้อเชิญและปฏิบัติกับพวกเขาเป็นอย่างดี

 

หลังจากที่ก้าวเข้าสู่ระดับขอบเขตนักบุญ,ในแต่ละขั้นพลังที่พวกเขาก้าวขึ้นไปจะยกระดับความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม,มันเป็นการยากสําหรับพวกเขาสําหรับผู้บ่มเพาะพลัง ที่กลายเป็นระดับขอบเขตนักบุญก่อนที่พวกเขาจะอายุได้สามสิบปีจึงจะนับได้ว่าค่อนข้างดีเยี่ยม

 

สําหรับผู้ที่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงภายในอาณาจักรต้าฉินผู้นั้นจะต้องกลายเป็นระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลังจากที่สําเร็จระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,ทุกตระกูลใหญ่และขุมอํานาจภายในอาณาจักรต้าฉันจะเข้ามาประจบประแจง

 

โดยทั่วไป,ความแข็งแกร่งของตระกูลจะตัดสินกันที่จํานวนและคุณภาพระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธที่พวกเขามีแน่นอน,จํานวนที่กล่าวถึงคือจํานวนระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธที่มีอยู่และคุณภาพหมายถึงขั้นพลัง

 

สําหรับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,ไม่กล่าวถึงขั้นพลัง,แม้แต่ข้อได้เปรียบเล็กน้อยก็เป็นตัวตัดสินแพ้ชนะได้ทันที เป้ฯเพราะมันเป็นการยากที่จะก้าวหน้าของจากที่ก้าวขึ้นสูาระดับขอบเขตนี้

 

ทุกคนล้วนรู้ถึงความแตกต่างระหว่างระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดและระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงมันต่างกายราวกับฟ้าดินมันไม่ได้เกินจริงที่จะกล่าวว่าต่างกันถึงสิบเท่า

 

หลังจากที่เซียวเฉินได้ยินคําของมาหลงชง,ความนิ่งสงบยังคงอยู่บนใบหน้าของเขาอย่างไรก็ตาม,เขาเป็นกังวลถึงขีดสุด:เขาทําได้เพียงภาวนาให้หลิวหรูเยว่ปลอดภัย

 

เซี่ยวเฉินในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทําไมหลิวเทียนยู่ถึงได้ใส่พลังอันมหาศาลเอาไว้ในกระบี่เงาจันทร์ นี่เป็นเพราะเขาคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าเหล่ารุ่นเยาว์ของศาลากระบี่สวรรค์จะไม่ใช่คู่มือของแม่ทัพปีศาจโลหิต

 

ทันใดนั้น,อารมณ์บนใบหน้าของมู่หลงชงพลันเปลี่ยน เขากล่าวอย่างสับสน“เกิดอะไรขึ้น?กระแสพลังของแม่ทัพปีศาจอยู่ดีๆก็หายไป”

 

เซียวเฉินและหยุ่นเข่อซินก็รู้สึกได้เช่นกัน แรงกดดันพลังพล่านจางหายไปพวกเขารู้สึกถึงมันไม่ได้อีกแม้แต่น้อย

 

หยุ่นเข่อชินสงสัยพร้อมกับกล่าวขึ้น “เป็นไปได้ว่าแม่ทัพปีศาจโลหิตได้ถูกสังหายไปแล้ว?”

 

เมื่อกระแสพลังของบุคคลนั้นหายไป,นอกจากคนผู้นั้นจงใจปิดซ่อนเอาไว้มันก็มีเพียงความตายเท่านั้น

 

ด้วยแนวทางของแม่ทัพปีศาจโลหิต,การปิดซ่อนกระแสพลังตัวเองไม่ใช่คําตอบก็เหลือเพียงคําอธิบายเดียวก็คือความตาย

 

ภายใต้จันทร์เจ็มดวง,แสงสีแดงส่องลงมาอีกครั้ง,ทักคนรู้สึกถึงกระแสพลังอันน่าหวาดกลัวของแม่ทัพปีศาจโลหิต

 

หยุ่นเข่อชิ้นคิ้วขมวดและกล่าว “ความรู้สึกนี้…ทําไมรู้สึกราวกับมีการฟื้นคืนจากความตาย?เกิดอะไรขึ้นที่ราชวังกันแน่?”

 

ภาพเงาของราชวังปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขาแล้ว มันดูเหมือนอยู่อีกไม่ไกล,แต่มันยังคงใช้เวลาอีกสักพักก่อนที่พวกเขาจะมาถึง

 

เซี่ยวเฉินนิ่งเงียบพร้อมกับเขาจ้องมองไปที่ดวงจันทร์สีแดงเหนือหัวของเขา เขารู้สึกมานาน แล้วว่ามันมีอะไรแปลกกับดวงจันทร์สีแดง

 

แสงสีแดงที่ฉายลงมาจากดวงจันทร์สีแดงยืนยันการคาดเดาของเซียวเฉิน แสงสีแดงดูเหมือนจะบรรจุพลังงานแห่งชีวิตเอาไว้มันเต็มไปด้วยพลังงานพลุ่งพล่าน

 

มู่หลงชงกล่าว “พระจันทร์ดวงนี้ดูแปลกประหลาด ข้าแน่ใจว่าแม่ทัพปีศาจโลหิตจะต้องถูกสังหารลงไปแล้ว อย่างไรก็ตาม, แสงสีแดงนั้นทําให้เขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง”

 

ความเป็นอมตะขณะจันทร์สาดแสง? เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดพร้อมกันครุ่นคิดอย่างงุนงง

 

เชี่ยวเฉินหยุดความคิดลงในตอนนี้ สิ่งที่สําคัญที่สุดคือเร่งไปให้ถึงราชวัง

 

เซียวเฉินหยิบเอาหินวิญญาณระดับต่ําออกมาและซึมซับเอาพลังงาน วังวนฉีที่จุดตัน ที่ยันของเซี่ยวเฉินหมุนวนอย่างรวดเร็วพร้อมกับเซียวเฉินที่จ่ายพลังปราณออกไปอย่างไม่มีก็เก็บ

 

เรือสงครามสีเงินเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างมาก ผ่านไปสิบนาที,พวกเขาสามคนในที่สุดก็มาถึงที่ราชวัง

 

“ยิ้ม..” เสียงการต่อสู้เข้มข้นทะลุผ่านกําแพงของราชวังดังก้องอยู่ในหูของพวกเขา

 

“ฟูฟิว!”

 

มู่หลงชงกระโดดขึ้นไปในอากาศ,ออกจากท้ายเรือลงไปที่ยอดของราชวังอย่างรวดเร็วเขาส่งฝามือจู่โจมออกมาและเปิดรูใหญ่บนหลังคาของราชวังในทันทีจากนั้นเขากระโดดลงไปอย่างไม่มีลังเล

 

เซี่ยวเฉินไม่ได้ลังเลใจเช่นกัน เขาเก็บเรือสงครามสีเงินเข้าไปในตาขวาของเขาและลงไปยังรูที่มู่หลงชงเปิดเอาไว้พร้อมกับหยุ่นเข่อซิน

 

“ปัง!”

 

ก่อนที่พวกเขาจะลงถึงพื้น, พวกเขาเห็นมู่หลงชงกลายเป็นสายลมเย็นและมุ่งหน้าไปหาแม่ทัพปีศาจโลหิตเขาทิ้งบาดแผลไว้บนร่างของแม่ทัพปีศาจโลหิตด้วยกระบีของเขา

 

“แม่น้ําฟ้าคลั่ง!”

 

ภายในห้องโถงใหญ่กระบี่ฉีสีเลือดรวมตัวอีกครั้งและก่อเกิดเป็นสายน้ําสีแดง มันแบกกระแส พลังอันไร้ขอบเขตพร้อมกับพุ่งไปที่แม่ทัพปีศาจโลหิต

 

แม่น้ําฟ้าคลั่งเดิมที่เปฯทักษะต่อสู้ระดับปฐพีขั้นสูงสุด เมื่อหลายคนใช้ออกมันพร้อมกัน, พลังของกระบวณท่านี้จะขึ้นไปถึงทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ขั้นต่ํา

 

“ฟูว ฟิว!”

 

ระเบิดหนาแน่นแตกตายออกมาจากห้องโถงใหญ่ ทั่วทั้งห้องโถงใหญ่เริ่มสั่นสะเทือนไม่หยุดพร้อมกับเสียงระเบิดดัง,กระบวณท่านี้สังหารแม่ทัพปีศาจลงอีกครั้งจากนั้นเขากลายไปเป็นหยดเลือดนับไม่ถ้วนและจางหายไปอีกครั้ง

 

เมื่อหลิวหรูเยว่เห็นเซียวเฉิน, นางเร่งกระโดดเข้ามา ใบหน้าอันงดงามของนางเผยความเป็นกังวลออกมานางรีบกล่าวขึ้น “เยาเฉิน,ทําไมเจ้าถึงได้มาอยู่ที่นี่? ไม่ใช่ว่าข้ามอบเครื่องรางเพลิง ศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้าไปแล้ว?”

 

เซี่ยวเฉินพูดเสียงค่อย “ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล,บิดาของเจ้าบอกให้ข้ามา เขาได้คาดการณ์เอาไว้ว่าพวกเจ้าไม่อาจเปฯคู่มือกับแม่ทัพปีศาจโลหิตเขาได้ผนึกทักษะต่อสู้เอาไว้ในกระบี่เงาจันทร์ มันสามารถสังหารแม่ทัพปีศาจโลหอตได้”

 

ทั้งกลุ่มได้สังฟารแม่ทัพปีศาจโลหิตลงไปอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ไม่มีใครลดการป้องกันลงกลับกัน,พวกเขายิ่งเป็นกังวลมากขึ้น

 

“ศิษย์พี่ลู่,ผลของทักษะปีศาจโลหิตกลืนกายกําลังจะหมดลงแล้ว ทุกคนได้เผาผลาญความแข็งแกร่งไปมากหากพวกเราใช้แม่น้ําฟ้าคลั่งอีกครั้ง,พลังของมันจะลดต่ําลงอย่างมากหากแม่ทัพปีศาจโลหิตฟื้นคืนชีพอีกครั้ง,สถานการณ์จะย่ําแย่”

 

หนึ่งในมือกระบี่ของค่ายกระปสวรรค์กล่าวกับลู่เฉินอย่างเป็นกังวล

ลู่เฉินมีสีหน้ามืดมน,เขารู้ถึงสถานการณ์ดีอยู่แล้วแต่มันเกินความคาดการณ์ของเขาไปไกล

 

ความคิดแต่เดิมของพวกเขา,ด้วยความแข็งแกร่วที่เพิ่มขึ้นสิบเท่าจากทักษะปีศาจโลหิตกลืนกายและผสานเข้ากับแม่น้ําฟ้าคลั่ง, พวกเขาจะสามารถสังหารภาพเสมือนของแม่ทัพปีศาจโลหิตและปีศาจโลหิตตนอื่นลงได้ อย่างไรก็ตามพวกเขาคาดคิดถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน,สถานการณ์ที่แม่ทัพปีศาจโลหิตนั้นฆ่าไม่ตาย

 

เมื่อมู่หลงชงเห็นหลิวหนูเยว่ยืนอยู่กับเซียวเฉิน,ร่องรอยความเกรี้ยวโกรธเล็กๆปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เขารีบเดินตรงไปหาลู่เฉินและกล่าว“ร่างจริงของมันน่าจะเป็นดวงจันทร์สีแดงที่อยู่บนท้องฟ้า มันไม่มีสิ่งที่คืนชีพได้อย่างไม่รู้จบในโลกใบนี้หากพวกเราสังหารมันลงไปเรื่อยๆ เขาจะต้องตกตายลงในที่สุด”

 

ลู่เฉินยิ้มขมๆและชี้ไปที่ร่างสามร่างที่อยู่บนพื้นและกล่าวขึ้น “ข้าเกรงว่า ก่อนที่มันจะตาย,พวกเราจะยันเอาไว้ไม่อยู่หากมันยังไม่ตายหลังจากที่เราสังหารมันลงอีกครั้ง,พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล่าถอย”

 

“ฟู ฟิว! ฟูฟิว!”

 

หยดเลือดนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาในห้องโถงใหญ่อีกครั้ง พวกมันเร่งรวมตัวกันและแม่ทัพปีศาจโลหิตก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตามในครั้งนี้เป็นเพราะพวกเขาระมัดระวังยิ่งกว่า,มันไม่อาจลอยโจมตีใส่ใครได้

 

ดวงจันทร์สีเลือดฉายแสงสีแดงลงมาและร่างกายอันอ่อนแอของแม่ทัพปีศาจโลหิตกลายเป็นแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง

 

รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันซีดเซียวของเขาพร้อมกับมองไปที่ผู้มาใหม่สามคน“มีคนเข้ามาตายเพิ่มอีกสามคน?”

 

“สังหาร!”

 

ระยะเวลาที่พวกเขาจะสามารถรักษาสภาพทักษะปีศาจโลหิตกลืนกายนั้นมีจํากัด สู่เฉินไม่อยากที่จะเสียเวลา ในจังหวะที่แม่ทัพปีศาจโลหิตปรากฏตัวขึ้นมาเขานําทีมเข้าจู่โจม

 

หลิวหรูเยว่ ผู้ที่อยู่ด้านข้างเซียวเฉิน,เพียงบอกให้เซียวเฉินระวังตัวก่อนที่นางจะพุ่งเข้าสู่สมรภูมิ,ประมือกับแม่ทัพปีศาจโลหิตพร้อมกับคนที่เหลือ

 

คนทั้งเจ็ดได้ประมือผ่านศึกใหญ่มาด้วยกัน;พวกเขาสามารถประสานงานกันได้อย่างยอดเยี่ยมเซี่ยวเฉิน,หยุ่นเข่อซินและมู่หลงชงไม่ได้อยู่ในตําแหน่งที่ดีที่จะเข้าไปร่วมการต่อสู้มิฉะนั้น, พวก เขาอาจจะเป็นคนฟังการสอดประสานลงพวกเขาทําได้เพียงยืนอยู่ด้านข้างและมองดูอย่างเงียบๆ ค่อยมองหาโอกาส

 

“หอกมรณะปีศาจโลหิต!”

 

แม่ทัพปีศาจโลหิตร้องตะโกนออกมาและควบรวมลูกบอลเลือดในมือของเขา ลูกบอลเลือดยึดยาวกลายเป็นหอก มันทิ้งภาพติดตาสีเลือดเอาไว้ด้านหลังพร้อมกับบินไปที่กลั่มคนอย่างรวดเร็ว

 

หอกเล่มนี่รวดเร็วเป็นอย่างมาก ภายในพริบตา,มันมาถึงตรงหน้าของสู่เฉินดวงตาของลู่เฉินส์องประกายแวววับพร้อมกับเขากวาดกระบี่เป็นวงในอากาศ

 

อากาศหมุนวนสรางตัวขึ้นตรงหน้าของลู่เฉิน เมื่อหอกสรเลือดเข้าปะทะกับมัน,มันถูกเบียงทิศลอยออกด้านข้าง

 

“ปัง!”

 

หอกสีเลือดซัดเข้าที่เสาหินต้นมหึมาภายในห้องโถงใหญ่ เสาหินระเบิดออกและกร่อนลง

 

ในจังหวะต่อมา เกิดเสียงระเบิดดังท่อนบนของเสาหินทบายลงกับพื้น

 

เมื่อเสาหินสูงหลายเมตรร่วงลง,ทุกคนรีบหลบเลี่ยง เสาหินที่ล้มลงตบเอาฝุ่นควันจํานวนมากขึ้นมาในอากาศ ภายใต้แรงกระแทกรุนแรง,ทั่งทั้งห้องโถงใหญ่สั่นสะเทือนไม่หยุด

 

“ฟู ฟิว!”

 

แม่ทัพปีศาจโลหิตคว้าโอกาสในตอนที่ทุกคนกระโดดหลบ เขาหัวเราะเสียงประหลาดและกลายร่างเป็นของเหลวสีเบื้อด,พุ่งเข้าหามือกระบี่ผู้ที่ใช้ออกทักษะปีศาจโลหิตกลืนกาย

 

เมื่อมือกระบี่ผู้นั้นตั้งตัวได้, เขารู้สึกถึงอะนตรายจากด้านหลังของเขาอย่างไรก็ตาม,มันได้สายไปแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+