Immortal and Martial Dual Cultivation 259 รูปสลักนั่น
ตอนที่ 259 รูปสลักนั่น
เซี่ยวเฉินไม่คาดคิดว่านิสัยของเจ้าหมูยังจะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน,ดูเหมือน นิสัยแย่ๆของเจ้านั้นมันยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้
เซี่ยวเฉินรีบอธิบาย “เอาล่ะ,ข้ายอมรับว่าข้าแกะสลักมันขึ้นมา แต่อย่าง ไรก็ตาม,ทั้งหมดเป็นความคิดของจินต้าเปา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้า เขาได้เล่ นสกปรก,บังคับให้ข้าทําเจ้าต้องเชื่อข้า”
ต้องขออภัยเจ้า,พี่น้องต้าเปา ข้าทําได้เพียงต้องกล่าวโทษเจ้าในจังห วะนี้ เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง
หยิงเยว่ยิ้มขึ้นโดยไม่ได้กล่าวอะไรพร้อมกับนางหยิบเอาลูกแก้วผลึกสีม่ วงออกมาดวงตาของเซี่ยวเฉินเพิ่งขึ้นเขารู้ว่ามันเป็นเครื่องมือพิเศษที่สา มารถใช้บันทึกเสียงได้แต่อย่างไรก็ตาม,ทําไมหยิงเยวถึงได้เอามันออกมา?
“ฝ่าบาท,โปรดฟังข้า ทั้งหมดเป็นความคิดของเซี่ยวเฉิน มันไม่ได้เกี่ยวข้อ งกับข้าเขาเล่นสกปรก,บังคับข้าให้ทํา ท่านต้องเชื่อข้า!”
เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ไม่มีทางลืมของจินต้าเปาดังออกมาจากลูกแก้วผล
กสีม่วง
เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินเช่นนี้เขานิ่งอึ้งไป เขาไม่คาดคิดว่าเจ้าหมูจะไร้ยางอาย หักหลังเขาได้ทันทีทันใด
หยิงเยว่ยิ้มและกล่าวขึ้น “เจ้าไม่มีอะไรอยากจะพูดสีกหน่อย?”
ดูเหมือนว่าเจ้าหมูจะสารภาพทุกอย่างไปแล้ว แม้ว่าเซี่ยวเฉินไม่อยากจะ ยอมรับเขาก็ไม่มีตัวเลือกอื่น อย่างไรก็ตาม,สีหน้าของเซี่ยวเฉินหลับค่อยๆ สงบลง
เขารีบครุ่นคิดอย่างรวดเร็วในใจ หากหยิงเยว่เกิดคิดโกรธขึ้นมา จริงๆ,นางคงไม่เสียเวลามากมายมาเสวนากับเขา ด้วยลักษณะนิสัยของ นาง,นางคงจะจัดการเขาไปเรียบร้อยแล้ว
ดูเหมือนว่าหยิงเยว่ยังจดจําที่เซี่ยวเฉินได้ช่วยชีวิตนางเอาไว้ครั้งหนี้ งดังนั้นนางจึงไม่ได้เก็บไปโกรธอย่างจริงจัง
คิดได้ดังนั้นเซี่ยวเฉินนั่งลงอีกครั้ง “เยาหยิง,เดียว,ตอนนี้ควรจะ เป็นองค์หญิงหยิงเยว่เจ้าอยากที่จะใช้ชื่อไหน?”
หยิงเยว่นิ่งอึ้งไป, นางไม่คาดคิดว่าเซี่ยวเฉินยังคงจะนิ่งสงบเช่นนี้หลังจาก ที่นางเอาหลักฐานออกมาท่าทีเช่นนี้มให้นางผิดหวังเอาเล็กน้อย นางยิ้ม และกล่าว “เจ้าคิดว่าข้าจะทําอะไรเจ้าได้บ้าง?”
หน้าอกของเซี่ยวเฉินบีบรัด,น้ําเสียงของหยิงเยว่ดูเหมือนนางจะค่อนข้าง โมโห
มองดูเซียวเฉินที่ยังคงนิ่งเงียบ,รอยยิ้มบนใบหน้าของหยิงเยว่จางหายไป นางกล่าวอย่างจริงจัง“สําหรับเรื่องรูปสลักเจ้าต้องถูกลงโทษโดยการแกะ สลักให้ข้าทุกเดือนนอกจากนั้น,รูปสลักแต่ละอันจะต้องไม่เหมือนกันหาก เจ้าทําได้,พวกเราถือว่าหายกัน”
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เฟิงเฟยเสวี่ยได้แนะนําเจ้ากับกองทัพจักรวรรดิมังกรในตอนนั้น,คําตอบที่ข้าให้นางไปคือปฏิเสธ หลังจากที่พวกเราพบกันตอนนี้ ข้าตัดสินอย่างเป็นทางการแล้วผู้สืบทอดจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าเชี่ยว เฉิน,เจ้าจะเข้าร่วมกองทัพจักรวรรดิมังกรหลังจากที่ออกจากศาลากระบี่ส วรรค์หรือไม่?”
เซี่ยวเฉินค่อนข้างประหลาดใจเมื่อสถานะผู้สืบทอดจิตวิญญาณยุทธมังกร ฟ้าของเจ้าถูกเผยออกมา แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาครุ่นคิดดู,หยิงเยวและ เฟิงเฟยเสวี่ยต่างรู้จักกันดังนั้นเขาจึงไม่เกรงกลัวอะไร
เซียวเฉินสงบสติลงและถามขึ้น “ข้าอยากจะถาม,ทําไมเฟิงเฟยเสวี่ยถึงได้แนะนําให้ข้าเข้าร่วมกองทัพจักรวรรดิมังกรของเจ้า?”
ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลเฟิงและเฟิงเฟยเสวี่ยใช้เวลาส่วนมากอยู่ที่ เมืองหลวงไม่น่าแปลกที่นางจะรู้จักกับหยิงเยว่ อย่างไรก็ตามทําไมนางถึง ได้แนะนําเขากับกองทัพจักรวรรดิมังกร?”
หาเป็นคนทั่วไปถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้เข้าร่วมกองทัพจักรวรรดิมังกร,พวกเขาก็สุขจนเป็นบ้ากับคําเชิญชวนของหยิงเยว่
กองทัพจักรวรรดิมังกรคือกองกําลังที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรต้าฉิน หลังจากที่ได้เข้าร่วม,พวกเขาจะได้รับสภาพแวดล้อมการบ่มเพาะพลังที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าของสามนิกายใหญ่
นอกจากนั้น พวกเขาจะได้รับสถานะและตําแหน่งในตําหนักราชวงศ์สําหรับผู้บ่มเพาะพลังส่วนใหญ่มันเป็นที่ใฝ่ฝัน มันกล่าวได้ว่าเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดสําหรับผู้บ่มเพะาพลังในอาณาจักรต้าฉิน
อย่างไรก็ตามเซี่ยวเฉินไม่อาจเข้าใจอะไรบ้างอย่างเขาเกี่ยวข้องอย่างไร กัลเฟิงเฟยเสวี่ย? ทําไมนางถึงได้ช่วยเหลือเขาหลายต่อหลายครั้ง? นอกจากนั้น,นางยังช่วยเหลือโดยไร้เงื่อนไขไม่มีอะไรตอบแทน
หยิงเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่นางจะกล่าว “อย่างแรกเจ้าได้ไปยั่วยุตระกูลชั้นสูงทั้งหมดภายในอาณาจักรต้าฉัน มันเป็นการยากแม้แต่กับเฟิงเฟยเสวี่ยเอง,ที่จะฟื้นคืนตัวตนของเจ้าในฐานะของเซี่ยวเฉินแต่อย่างไรก็ตาม,หลังจากที่เจ้าเข้าร่วมกองทัพจักรวรรดิมังกรและได้รับการคุ้มครองจากตําหนักราชวงศ์,เช่นนั้นแล้วไม่มีใครที่จะกล้ามาหาเรื่องเจ้า”
“อย่างที่สอง,มันมีทักษะต่อสู้และบ่มเพาะพลังเฉพาะสําหรับจิตวิญญาณ ยุทธมังกรฟ้าภายในตําหนักราชวงศ์หากเจ้าเข้าร่วมกับเรา,ข้าส่งมันให้กับ เจ้าได้ทันที”
“อย่างที่สาม,นี่เป็นเหตุผลง่ายๆ,ตําหนักราชวงศ์มีช่องทางถึงทรัพยากร ส่วนใหญ่จํานวนที่พวกเขาลงทุนกับกองทัพจักรวรรดิมังกรแทบจะไร้ขีดจํา กัดสภาพแวดล้อมการบ่มเพาะพลังดีเยี่ยมเสียยิ่งกว่าสามนิกายใหญ่”
“เฟิงเฟยเสวี่ยไม่ได้เร่งรัดให้เจ้ารีบตัดสินใจ ไม่ว่าเจ้าจะปฏิเสธหรือ ไม่เจ้าสามารถบอกข้าได้หลังจากที่เจ้าออกจากศาลากระบี่สวรรค์”
หลังจากที่เชี่ยวเฉินได้ยินเช่นนั้น มีรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าของเขา เฟองเฟยเสวี่ยได้คิดเอาไว้แล้วทุกอย่าง ไม่มีเหตุผลอันใดให้เขาต้องปฏิเสธ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ยอมรับมัน
ทวีปเทียนหวี่กว้างใหญ่ไพศาล เซี่ยวเฉินไม่เคยมีความคิดที่จะผูกติดตัว เองเอาไว้กับอาณาจักรต้าฉิน ตั้งแต่ที่เขามายังโลกใบนี้ เขาต้องทําให้ดีที่สุดทะลวงขีดจํากัดการบ่มเพาะพลัง
ถึงแม้เซี่ยวเฉินจะขึ้นไปไม่ถึงเทียบเท่ากับจักรพรรดิเทียนหอู่และถูกจารึก ไว้ในประวัติศาสตร์,อย่างน้อยเขาอยากที่จะขึ้นไปถึงระดับขอบเขตเดียวกับ จักรพรรดิอัสนี,ที่สามารถผจญไปทวีปไร้ผู้ต้านทาน
แม้ว่าการเข้าร่วมกองทัพจักรวรรดิมังกรจะสามารถทําให้เขายกระดับกา รบ่มเพาะพลังขึ้นมาได้ภายในระยะเวลาอันสั้น,แต่มันจะเป็นการยากสําหรับ เซี่ยวเฉินที่จะจากออกไปในอนาคต
มันอาจจะเป็นไปได้ที่เซียวเฉินจะถูกผูกติดกับอาณาจักรต้าฉันไปตลอด กาลสําหรับคนพวกนั้นที่มีเป้าหมายอยู่เพียงระกับขอบเขตกษัตริย์ยุทธห รือยอดกษัตริย์ยุทธ,มันไม่มีปัญหาอะไร
แต่อย่างไรก็ตาม สําหรับเซี่ยวเฉิน,มันนับเป็นปัญหาใหญ่
เซี่ยวเฉินสายหัวและกล่าว “ขออภัย,ข้าเกรงว่าข้าไม่อาจตอบรับข้อเสนอ ได้เจ้าช่วยบอกกับเฟิงเฟยเสวี่ยได้หรือไม่ว่าข้าซาบซึ้งในความตั้งใจข
องนาง?”
หยิงเยวประหลาดใจเล็กน้อย นางถามขึ้น “ทําไม? ทักษะต่อสู้ของจิต วิญญาณยุทธมังกรฟ้านั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก สําหรับเจ้า,มันรา วกับติดปีกให้พยัคฆ์เจ้าตั้งใจจะใช้ชื่อเย่เฉินไปตลอดกลาล?”
เซี่ยวเฉินยิ้มและกล่าวขึ้น “ในเมื่อตําราทักษะนั้นเป็นตัวสําเนา มันจะ ต้องมีมากกว่าหนึ่งเล่มอย่างแน่นอนมันก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับมาสักเล่มใน อนาคตนอกจากนั้น,ปราศจากคนค่อยชี้แนะ มันยากอย่างที่สุดสําหรับข้าที่ จะบรรลุมันได้ด้วยตัวเอง”
“สําหรับชื่อของข้า…แน่นอน,ข้าจะไม่ใช้ชื่อเย่เฉินไปตลอดกาล ในตอน นั้น,ข้าได้ให้คําไว้ว่าข้าจะกลับมาและสังหารตระกูลชั้นสูงพวกนั้นถึงหน้า ประตูในอีกสองปีให้หลังข้าจะทําให้พวกเขาต้องเสียใจในการตัดสินใจของพวกเขา”
น้ําเสียงของเซี่ยวเฉินนิ่งสงบอย่างยิ่ง ไม่มีโออวดในคําพูด อย่างไรก็ ตาม,ความแน่วแน่ในควตาของเขาทําให้ต้องเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย
หยิงเยว่เผยสีหน้าครุ่นคิดไตร่ตรอง ผ่านไปครู่หนึ่ง, นางหัวเราะเบาๆและ กล่าว“เจ้าเคยคิดบางหรือไม่ว่าทําไมเฟิงเฟยเสวี่ยถึงอยากให้เจ้าไปที่เมืองหลวง?”
ไม่ว่าจะเป็นสํานักฉินสวรรค์หรือกองทัพจักรวรรดิมังกร, ความตั้งใจหลัก ของเฟิงเฟยเสวี่ยคือให้ตัวเขาไปอยู่ที่เมืองหลวง หลังจากที่หยิงเยว่ยกขี้ นมา, เซี่ยวเฉินก็นึกขึ้นได้
หากข้ามีบางสิ่งที่ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าในอนาคต,ข้าหวังว่า เจ้าจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อช่วยเหลือข้า เซียวเฉินจําคําของเฟองเฟยเสวี ยตอนที่เขากําลังจะออกจากเมืองม่อเหอได้
ยังจะมีสิ่งใดในโลกที่เฟิงเฟยเสวี่ยไม่อาจทําได้สําเร็จ? หลังจากที่เขาจาก มาเป็นเวลานาน,เขาได้เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของตระกูลเฟิงมากขึ้น
สมาคมการค้าเฟิงหยู่แข็งแกร่งกว่าที่เขาได้จินตนาการเอาไว้มาก ธุ รกิจของพวกเขาแตกขยายไปทั่วทั้งทวีปเทียนหวู พวกเขาได้ลงทุนไปเป็นจํา นวนมากกับธุรกิจที่ทํากําไร
นิกายและขุมอํานาจใหญ่ทั้งหมดภายในอาณาจักรต้าฉันมีความเกี่ยวข้อ งกับตระกูลเฟิงหรือมีธุรกิจกับพวกเขา
สิ่งที่เป็นผลให้ไม่มีใครดูแคลนตระกูลเฟิงก็คือพวกเขาเกือบจะผูกขาดช่ องทางการแลกเปลี่ยนหินวิญญาณในอาณาจักรต้าฉิน
หินวิญญาณทั้งหมดผลิตขึ้นโดยเหมืองวิญญาณของศาลากระบี่สวรรค์, นิ กายดาบเงาหมอก,พระราชวังจิตวิญญาณค่ําคืน,และแม้แต่ตําหนักรา ชวงศ์ก็ต้องใช้ช่องทางของพวกเขาเพื่อที่จะสร้างผลประโยชน์ได้สูงที่สุด
แม้แต่อํานาจใหญ่อย่างศาลากระบี่สวรรค์,ที่สืบทอดต่อมาถึงหนี้ งหมื่นปี,ก็ไม่กล้าไปยั่วยุพวกเขาจะมีอะไรที่ยากเกินมือของเฟิงเฟยเสวี่ย?
เซี่ยวเฉินรวบรวมความคิดของเขาและตอบกลับ “เฟิงเฟยเสวี ยมีบุญคุณกับข้าหากนางต้องการความช่วยเหลือของข้า ทั้งหมดที่นางต้อง ทําคือบอกล่าวตราบใดที่มันไม่เกินกว่าพลังของข้า ไม่ว่าข้าจะอยู่ที่ใด ไม่ว่า ข้าจะมีเรื่องด่วนอะไรข้าจะไปทันทีที่นางเรียกหา นางเพียงแค่ต้องบอก กล่าวมา”
หยิงเยว่ยิ้มบางเบาพร้อมกับกล่าว “ก็เป็นไปเช่นนั้น ในเมื่อนางไม่ได้บอก เจ้าข้าก็ไม่อาจพูดได้มากเกินไป เพียงจําคําที่เจ้ากล่าวเอาไว้ในวันนี้ แล้ว ก็อย่างลืมแกะสลักรูปสลักให้ข้าทุกเดือนข้าขอตัวก่อน”
“ค่อยก่อน!” เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นหยิงเยว่กําลังจะจากไป เขานึกบางอย่าง ขึ้นได้
หยิงเยว่หันมาและกล่าว “ยังมีอะไรอีก? หรือเจ้าเกิดอยากจะเปลี่ยน ใจ?”
เซี่ยวเฉินส่ายหัวและหยิบเอากลีบดอกดาวเรืองแสงไหลออกมาจากแหว นห้วงจักรวาลและส่งให้กับหยิงเยว่“ในตอนที่เจ้ากลับไปยังเมืองหลวง,ช่ว ยส่งสิ่งนี้ให้กับลูกพี่ลูกน้องของข้าอวหลาน”
เพียงแว่บเดียว,หยิงเยวรู้ได้ว่าดอกดาวเรืองแสงไหลนั้นไม่ใช่ดอกดาวเรือง แสงไหลธรรมดามันน่าจะเป็นดอกดาวเรืองแสงไหลระดับอมตะ นางไม่คาดคิดว่าเซี่ยวเฉินจะส่งของเช่นนี้มาให้นางง่ายดายเช่นนี้
หยิงเยว่ยกมือของนางขึ้นมาและแรงดูดมหาศาลปรากฏขึ้น ดอกดาว เรืองแสงไหลลอยไปหามือนางในทันที
นางวางกลีบดอกไม้สีทองไว้ใต้จมูกของนางและสูดดมอย่างอ่อนเบา นาง กล่าว “มันเป็นดอกดาวเรืองแสงไหลระดับอมตะอย่างแท้จริง เจ้าไม่กลัวว่า ข้าจะเก็บเอาไปใช้เอง?”
เซี่ยวเฉินยิ้มและกล่าว “ด้วยความสามารถในการเข้าใจของเจ้า,ดอกดาว เรืองแสงไหลไม่มีประโยชน์มากมายอะไรกับเจ้านัก นอกจากนั้นเจ้าเป็นถึง เจ้าหญิงเจ้าจะไม่ทําเรื่องน่ารังเกียจเช่นนี้”
หยิงเยว่กุมมือของนางและดอกดาวเรืองแสงไหลก็หายไปในพริบตา รอย ยิ้มซุกซนปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันงดงามของนาง “มันก็ไม่แน่”
เซี่ยวเฉินหัวเราะโดยไม่ได้ตอบอะไร หลังจากที่หยิงเยว่พูดจบ,นางไม่ได้ เสียเวลาและจากไปในทันที เขาบอกได้ว่านางกําลังเร่งรีบ
มันก็นับได้ปีนึงแล้วนับจากที่พวกเขาพบกัน ในตอนนั้นเขาเป็นเพียงระ ดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธตัวกระจ้อย ตอนนี้เขาอยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้ นต้นแต่เขายังไม่อาจะมองเห็นถึงความแข็งแกร่งของนาง
ข้าสงสัยว่านางบ่มเพาะพลังอย่างไร? อายุของพวกเราไล่เลี่ยกันแต่ระดับ การบ่มเพาะพลังช่างแตกต่าง
การมาของหยิงเยว่ย้ําเตือนเซียวเฉินถึงบางสิ่ง มันทําให้เขาลืมที่จะบ่ม เพาะพลังต่อ
ท้องฟ้าได้มืดมิดและพระจันทร์ลอยสูง แสงจันทร์อ่อนฉายลงบนลานบ้า นของเซียวเฉิน
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com
เซี่ยวเฉินหยิบเอาขวดและจอกเหล้าออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลของ เขา จากนั้นเขาก็รินเหล้าลงจอกและมองไปยังดวงจันทร์ทรงกลมพร้อมกับ ครุ่นคิดไตร่ตรอง
เซี่ยวเฉินได้จากเมืองม่อเหอมานับปีโดยไม่รู้ตัว ในหนึ่งปีนี้เขาได้ประส บอะไรหลายๆอย่าง
ในตอนที่เขาเพิ่งจะจากมาเป็นเพราะเขาฉายแสงมากเกินไปหน่อย เขา ได้ยั่วยุตระกูลชั้นสูงจากแคว้นหนานหลิงและแคว้นตงหมิงที่ซากโบราณ
หลังจากนั้นก็มีเรื่องเกิดขึ้นอีกหลายอย่าง จากการเคลื่อนไหวที่คฤหาสน์ หิมะล่องลอย,เขาได้เป็นปรปักษ์กับเหล่าตระกูลชั้นสูงอย่างเต็มตัว
แม้แต่เฟิงเฟยเสวี่ยก็ยากที่จะมาช่วยไกล่เกลี่ย แต่อย่างไรก็ตาม,เฟิงเฟย เสวี่ยก็ไม่ได้โทษเซียวเฉินแต่อย่างใด นางถึงกับค่อยดูแลตระกูลเซี่ยวในเมืองม่อเหอไม่ปล่อยให้ตระกูลชั้นสูงมาสร้างปัญหาให้กับเซี่ยวเฉิน
ในตอนนี้เซี่ยวเฉินนึกย้อนกลับไป,เขาได้ลืมที่จะคิดถึงผลที่จะตามมาจาก การกระทําของเขา เขาไม่เคยคิดถึงผลที่จะเกิดกับตระกูลเซี่ยวจากการกระ ทําของเขา
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivation 259 รูปสลักนั่น
ตอนที่ 259 รูปสลักนั่น
เซี่ยวเฉินไม่คาดคิดว่านิสัยของเจ้าหมูยังจะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน,ดูเหมือน นิสัยแย่ๆของเจ้านั้นมันยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้
เซี่ยวเฉินรีบอธิบาย “เอาล่ะ,ข้ายอมรับว่าข้าแกะสลักมันขึ้นมา แต่อย่าง ไรก็ตาม,ทั้งหมดเป็นความคิดของจินต้าเปา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้า เขาได้เล่ นสกปรก,บังคับให้ข้าทําเจ้าต้องเชื่อข้า”
ต้องขออภัยเจ้า,พี่น้องต้าเปา ข้าทําได้เพียงต้องกล่าวโทษเจ้าในจังห วะนี้ เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง
หยิงเยว่ยิ้มขึ้นโดยไม่ได้กล่าวอะไรพร้อมกับนางหยิบเอาลูกแก้วผลึกสีม่ วงออกมาดวงตาของเซี่ยวเฉินเพิ่งขึ้นเขารู้ว่ามันเป็นเครื่องมือพิเศษที่สา มารถใช้บันทึกเสียงได้แต่อย่างไรก็ตาม,ทําไมหยิงเยวถึงได้เอามันออกมา?
“ฝ่าบาท,โปรดฟังข้า ทั้งหมดเป็นความคิดของเซี่ยวเฉิน มันไม่ได้เกี่ยวข้อ งกับข้าเขาเล่นสกปรก,บังคับข้าให้ทํา ท่านต้องเชื่อข้า!”
เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ไม่มีทางลืมของจินต้าเปาดังออกมาจากลูกแก้วผล
กสีม่วง
เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินเช่นนี้เขานิ่งอึ้งไป เขาไม่คาดคิดว่าเจ้าหมูจะไร้ยางอาย หักหลังเขาได้ทันทีทันใด
หยิงเยว่ยิ้มและกล่าวขึ้น “เจ้าไม่มีอะไรอยากจะพูดสีกหน่อย?”
ดูเหมือนว่าเจ้าหมูจะสารภาพทุกอย่างไปแล้ว แม้ว่าเซี่ยวเฉินไม่อยากจะ ยอมรับเขาก็ไม่มีตัวเลือกอื่น อย่างไรก็ตาม,สีหน้าของเซี่ยวเฉินหลับค่อยๆ สงบลง
เขารีบครุ่นคิดอย่างรวดเร็วในใจ หากหยิงเยว่เกิดคิดโกรธขึ้นมา จริงๆ,นางคงไม่เสียเวลามากมายมาเสวนากับเขา ด้วยลักษณะนิสัยของ นาง,นางคงจะจัดการเขาไปเรียบร้อยแล้ว
ดูเหมือนว่าหยิงเยว่ยังจดจําที่เซี่ยวเฉินได้ช่วยชีวิตนางเอาไว้ครั้งหนี้ งดังนั้นนางจึงไม่ได้เก็บไปโกรธอย่างจริงจัง
คิดได้ดังนั้นเซี่ยวเฉินนั่งลงอีกครั้ง “เยาหยิง,เดียว,ตอนนี้ควรจะ เป็นองค์หญิงหยิงเยว่เจ้าอยากที่จะใช้ชื่อไหน?”
หยิงเยว่นิ่งอึ้งไป, นางไม่คาดคิดว่าเซี่ยวเฉินยังคงจะนิ่งสงบเช่นนี้หลังจาก ที่นางเอาหลักฐานออกมาท่าทีเช่นนี้มให้นางผิดหวังเอาเล็กน้อย นางยิ้ม และกล่าว “เจ้าคิดว่าข้าจะทําอะไรเจ้าได้บ้าง?”
หน้าอกของเซี่ยวเฉินบีบรัด,น้ําเสียงของหยิงเยว่ดูเหมือนนางจะค่อนข้าง โมโห
มองดูเซียวเฉินที่ยังคงนิ่งเงียบ,รอยยิ้มบนใบหน้าของหยิงเยว่จางหายไป นางกล่าวอย่างจริงจัง“สําหรับเรื่องรูปสลักเจ้าต้องถูกลงโทษโดยการแกะ สลักให้ข้าทุกเดือนนอกจากนั้น,รูปสลักแต่ละอันจะต้องไม่เหมือนกันหาก เจ้าทําได้,พวกเราถือว่าหายกัน”
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เฟิงเฟยเสวี่ยได้แนะนําเจ้ากับกองทัพจักรวรรดิมังกรในตอนนั้น,คําตอบที่ข้าให้นางไปคือปฏิเสธ หลังจากที่พวกเราพบกันตอนนี้ ข้าตัดสินอย่างเป็นทางการแล้วผู้สืบทอดจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าเชี่ยว เฉิน,เจ้าจะเข้าร่วมกองทัพจักรวรรดิมังกรหลังจากที่ออกจากศาลากระบี่ส วรรค์หรือไม่?”
เซี่ยวเฉินค่อนข้างประหลาดใจเมื่อสถานะผู้สืบทอดจิตวิญญาณยุทธมังกร ฟ้าของเจ้าถูกเผยออกมา แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาครุ่นคิดดู,หยิงเยวและ เฟิงเฟยเสวี่ยต่างรู้จักกันดังนั้นเขาจึงไม่เกรงกลัวอะไร
เซียวเฉินสงบสติลงและถามขึ้น “ข้าอยากจะถาม,ทําไมเฟิงเฟยเสวี่ยถึงได้แนะนําให้ข้าเข้าร่วมกองทัพจักรวรรดิมังกรของเจ้า?”
ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลเฟิงและเฟิงเฟยเสวี่ยใช้เวลาส่วนมากอยู่ที่ เมืองหลวงไม่น่าแปลกที่นางจะรู้จักกับหยิงเยว่ อย่างไรก็ตามทําไมนางถึง ได้แนะนําเขากับกองทัพจักรวรรดิมังกร?”
หาเป็นคนทั่วไปถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้เข้าร่วมกองทัพจักรวรรดิมังกร,พวกเขาก็สุขจนเป็นบ้ากับคําเชิญชวนของหยิงเยว่
กองทัพจักรวรรดิมังกรคือกองกําลังที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรต้าฉิน หลังจากที่ได้เข้าร่วม,พวกเขาจะได้รับสภาพแวดล้อมการบ่มเพาะพลังที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าของสามนิกายใหญ่
นอกจากนั้น พวกเขาจะได้รับสถานะและตําแหน่งในตําหนักราชวงศ์สําหรับผู้บ่มเพาะพลังส่วนใหญ่มันเป็นที่ใฝ่ฝัน มันกล่าวได้ว่าเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดสําหรับผู้บ่มเพะาพลังในอาณาจักรต้าฉิน
อย่างไรก็ตามเซี่ยวเฉินไม่อาจเข้าใจอะไรบ้างอย่างเขาเกี่ยวข้องอย่างไร กัลเฟิงเฟยเสวี่ย? ทําไมนางถึงได้ช่วยเหลือเขาหลายต่อหลายครั้ง? นอกจากนั้น,นางยังช่วยเหลือโดยไร้เงื่อนไขไม่มีอะไรตอบแทน
หยิงเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่นางจะกล่าว “อย่างแรกเจ้าได้ไปยั่วยุตระกูลชั้นสูงทั้งหมดภายในอาณาจักรต้าฉัน มันเป็นการยากแม้แต่กับเฟิงเฟยเสวี่ยเอง,ที่จะฟื้นคืนตัวตนของเจ้าในฐานะของเซี่ยวเฉินแต่อย่างไรก็ตาม,หลังจากที่เจ้าเข้าร่วมกองทัพจักรวรรดิมังกรและได้รับการคุ้มครองจากตําหนักราชวงศ์,เช่นนั้นแล้วไม่มีใครที่จะกล้ามาหาเรื่องเจ้า”
“อย่างที่สอง,มันมีทักษะต่อสู้และบ่มเพาะพลังเฉพาะสําหรับจิตวิญญาณ ยุทธมังกรฟ้าภายในตําหนักราชวงศ์หากเจ้าเข้าร่วมกับเรา,ข้าส่งมันให้กับ เจ้าได้ทันที”
“อย่างที่สาม,นี่เป็นเหตุผลง่ายๆ,ตําหนักราชวงศ์มีช่องทางถึงทรัพยากร ส่วนใหญ่จํานวนที่พวกเขาลงทุนกับกองทัพจักรวรรดิมังกรแทบจะไร้ขีดจํา กัดสภาพแวดล้อมการบ่มเพาะพลังดีเยี่ยมเสียยิ่งกว่าสามนิกายใหญ่”
“เฟิงเฟยเสวี่ยไม่ได้เร่งรัดให้เจ้ารีบตัดสินใจ ไม่ว่าเจ้าจะปฏิเสธหรือ ไม่เจ้าสามารถบอกข้าได้หลังจากที่เจ้าออกจากศาลากระบี่สวรรค์”
หลังจากที่เชี่ยวเฉินได้ยินเช่นนั้น มีรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าของเขา เฟองเฟยเสวี่ยได้คิดเอาไว้แล้วทุกอย่าง ไม่มีเหตุผลอันใดให้เขาต้องปฏิเสธ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ยอมรับมัน
ทวีปเทียนหวี่กว้างใหญ่ไพศาล เซี่ยวเฉินไม่เคยมีความคิดที่จะผูกติดตัว เองเอาไว้กับอาณาจักรต้าฉิน ตั้งแต่ที่เขามายังโลกใบนี้ เขาต้องทําให้ดีที่สุดทะลวงขีดจํากัดการบ่มเพาะพลัง
ถึงแม้เซี่ยวเฉินจะขึ้นไปไม่ถึงเทียบเท่ากับจักรพรรดิเทียนหอู่และถูกจารึก ไว้ในประวัติศาสตร์,อย่างน้อยเขาอยากที่จะขึ้นไปถึงระดับขอบเขตเดียวกับ จักรพรรดิอัสนี,ที่สามารถผจญไปทวีปไร้ผู้ต้านทาน
แม้ว่าการเข้าร่วมกองทัพจักรวรรดิมังกรจะสามารถทําให้เขายกระดับกา รบ่มเพาะพลังขึ้นมาได้ภายในระยะเวลาอันสั้น,แต่มันจะเป็นการยากสําหรับ เซี่ยวเฉินที่จะจากออกไปในอนาคต
มันอาจจะเป็นไปได้ที่เซียวเฉินจะถูกผูกติดกับอาณาจักรต้าฉันไปตลอด กาลสําหรับคนพวกนั้นที่มีเป้าหมายอยู่เพียงระกับขอบเขตกษัตริย์ยุทธห รือยอดกษัตริย์ยุทธ,มันไม่มีปัญหาอะไร
แต่อย่างไรก็ตาม สําหรับเซี่ยวเฉิน,มันนับเป็นปัญหาใหญ่
เซี่ยวเฉินสายหัวและกล่าว “ขออภัย,ข้าเกรงว่าข้าไม่อาจตอบรับข้อเสนอ ได้เจ้าช่วยบอกกับเฟิงเฟยเสวี่ยได้หรือไม่ว่าข้าซาบซึ้งในความตั้งใจข
องนาง?”
หยิงเยวประหลาดใจเล็กน้อย นางถามขึ้น “ทําไม? ทักษะต่อสู้ของจิต วิญญาณยุทธมังกรฟ้านั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก สําหรับเจ้า,มันรา วกับติดปีกให้พยัคฆ์เจ้าตั้งใจจะใช้ชื่อเย่เฉินไปตลอดกลาล?”
เซี่ยวเฉินยิ้มและกล่าวขึ้น “ในเมื่อตําราทักษะนั้นเป็นตัวสําเนา มันจะ ต้องมีมากกว่าหนึ่งเล่มอย่างแน่นอนมันก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับมาสักเล่มใน อนาคตนอกจากนั้น,ปราศจากคนค่อยชี้แนะ มันยากอย่างที่สุดสําหรับข้าที่ จะบรรลุมันได้ด้วยตัวเอง”
“สําหรับชื่อของข้า…แน่นอน,ข้าจะไม่ใช้ชื่อเย่เฉินไปตลอดกาล ในตอน นั้น,ข้าได้ให้คําไว้ว่าข้าจะกลับมาและสังหารตระกูลชั้นสูงพวกนั้นถึงหน้า ประตูในอีกสองปีให้หลังข้าจะทําให้พวกเขาต้องเสียใจในการตัดสินใจของพวกเขา”
น้ําเสียงของเซี่ยวเฉินนิ่งสงบอย่างยิ่ง ไม่มีโออวดในคําพูด อย่างไรก็ ตาม,ความแน่วแน่ในควตาของเขาทําให้ต้องเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย
หยิงเยว่เผยสีหน้าครุ่นคิดไตร่ตรอง ผ่านไปครู่หนึ่ง, นางหัวเราะเบาๆและ กล่าว“เจ้าเคยคิดบางหรือไม่ว่าทําไมเฟิงเฟยเสวี่ยถึงอยากให้เจ้าไปที่เมืองหลวง?”
ไม่ว่าจะเป็นสํานักฉินสวรรค์หรือกองทัพจักรวรรดิมังกร, ความตั้งใจหลัก ของเฟิงเฟยเสวี่ยคือให้ตัวเขาไปอยู่ที่เมืองหลวง หลังจากที่หยิงเยว่ยกขี้ นมา, เซี่ยวเฉินก็นึกขึ้นได้
หากข้ามีบางสิ่งที่ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าในอนาคต,ข้าหวังว่า เจ้าจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อช่วยเหลือข้า เซียวเฉินจําคําของเฟองเฟยเสวี ยตอนที่เขากําลังจะออกจากเมืองม่อเหอได้
ยังจะมีสิ่งใดในโลกที่เฟิงเฟยเสวี่ยไม่อาจทําได้สําเร็จ? หลังจากที่เขาจาก มาเป็นเวลานาน,เขาได้เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของตระกูลเฟิงมากขึ้น
สมาคมการค้าเฟิงหยู่แข็งแกร่งกว่าที่เขาได้จินตนาการเอาไว้มาก ธุ รกิจของพวกเขาแตกขยายไปทั่วทั้งทวีปเทียนหวู พวกเขาได้ลงทุนไปเป็นจํา นวนมากกับธุรกิจที่ทํากําไร
นิกายและขุมอํานาจใหญ่ทั้งหมดภายในอาณาจักรต้าฉันมีความเกี่ยวข้อ งกับตระกูลเฟิงหรือมีธุรกิจกับพวกเขา
สิ่งที่เป็นผลให้ไม่มีใครดูแคลนตระกูลเฟิงก็คือพวกเขาเกือบจะผูกขาดช่ องทางการแลกเปลี่ยนหินวิญญาณในอาณาจักรต้าฉิน
หินวิญญาณทั้งหมดผลิตขึ้นโดยเหมืองวิญญาณของศาลากระบี่สวรรค์, นิ กายดาบเงาหมอก,พระราชวังจิตวิญญาณค่ําคืน,และแม้แต่ตําหนักรา ชวงศ์ก็ต้องใช้ช่องทางของพวกเขาเพื่อที่จะสร้างผลประโยชน์ได้สูงที่สุด
แม้แต่อํานาจใหญ่อย่างศาลากระบี่สวรรค์,ที่สืบทอดต่อมาถึงหนี้ งหมื่นปี,ก็ไม่กล้าไปยั่วยุพวกเขาจะมีอะไรที่ยากเกินมือของเฟิงเฟยเสวี่ย?
เซี่ยวเฉินรวบรวมความคิดของเขาและตอบกลับ “เฟิงเฟยเสวี ยมีบุญคุณกับข้าหากนางต้องการความช่วยเหลือของข้า ทั้งหมดที่นางต้อง ทําคือบอกล่าวตราบใดที่มันไม่เกินกว่าพลังของข้า ไม่ว่าข้าจะอยู่ที่ใด ไม่ว่า ข้าจะมีเรื่องด่วนอะไรข้าจะไปทันทีที่นางเรียกหา นางเพียงแค่ต้องบอก กล่าวมา”
หยิงเยว่ยิ้มบางเบาพร้อมกับกล่าว “ก็เป็นไปเช่นนั้น ในเมื่อนางไม่ได้บอก เจ้าข้าก็ไม่อาจพูดได้มากเกินไป เพียงจําคําที่เจ้ากล่าวเอาไว้ในวันนี้ แล้ว ก็อย่างลืมแกะสลักรูปสลักให้ข้าทุกเดือนข้าขอตัวก่อน”
“ค่อยก่อน!” เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นหยิงเยว่กําลังจะจากไป เขานึกบางอย่าง ขึ้นได้
หยิงเยว่หันมาและกล่าว “ยังมีอะไรอีก? หรือเจ้าเกิดอยากจะเปลี่ยน ใจ?”
เซี่ยวเฉินส่ายหัวและหยิบเอากลีบดอกดาวเรืองแสงไหลออกมาจากแหว นห้วงจักรวาลและส่งให้กับหยิงเยว่“ในตอนที่เจ้ากลับไปยังเมืองหลวง,ช่ว ยส่งสิ่งนี้ให้กับลูกพี่ลูกน้องของข้าอวหลาน”
เพียงแว่บเดียว,หยิงเยวรู้ได้ว่าดอกดาวเรืองแสงไหลนั้นไม่ใช่ดอกดาวเรือง แสงไหลธรรมดามันน่าจะเป็นดอกดาวเรืองแสงไหลระดับอมตะ นางไม่คาดคิดว่าเซี่ยวเฉินจะส่งของเช่นนี้มาให้นางง่ายดายเช่นนี้
หยิงเยว่ยกมือของนางขึ้นมาและแรงดูดมหาศาลปรากฏขึ้น ดอกดาว เรืองแสงไหลลอยไปหามือนางในทันที
นางวางกลีบดอกไม้สีทองไว้ใต้จมูกของนางและสูดดมอย่างอ่อนเบา นาง กล่าว “มันเป็นดอกดาวเรืองแสงไหลระดับอมตะอย่างแท้จริง เจ้าไม่กลัวว่า ข้าจะเก็บเอาไปใช้เอง?”
เซี่ยวเฉินยิ้มและกล่าว “ด้วยความสามารถในการเข้าใจของเจ้า,ดอกดาว เรืองแสงไหลไม่มีประโยชน์มากมายอะไรกับเจ้านัก นอกจากนั้นเจ้าเป็นถึง เจ้าหญิงเจ้าจะไม่ทําเรื่องน่ารังเกียจเช่นนี้”
หยิงเยว่กุมมือของนางและดอกดาวเรืองแสงไหลก็หายไปในพริบตา รอย ยิ้มซุกซนปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันงดงามของนาง “มันก็ไม่แน่”
เซี่ยวเฉินหัวเราะโดยไม่ได้ตอบอะไร หลังจากที่หยิงเยว่พูดจบ,นางไม่ได้ เสียเวลาและจากไปในทันที เขาบอกได้ว่านางกําลังเร่งรีบ
มันก็นับได้ปีนึงแล้วนับจากที่พวกเขาพบกัน ในตอนนั้นเขาเป็นเพียงระ ดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธตัวกระจ้อย ตอนนี้เขาอยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้ นต้นแต่เขายังไม่อาจะมองเห็นถึงความแข็งแกร่งของนาง
ข้าสงสัยว่านางบ่มเพาะพลังอย่างไร? อายุของพวกเราไล่เลี่ยกันแต่ระดับ การบ่มเพาะพลังช่างแตกต่าง
การมาของหยิงเยว่ย้ําเตือนเซียวเฉินถึงบางสิ่ง มันทําให้เขาลืมที่จะบ่ม เพาะพลังต่อ
ท้องฟ้าได้มืดมิดและพระจันทร์ลอยสูง แสงจันทร์อ่อนฉายลงบนลานบ้า นของเซียวเฉิน
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com
เซี่ยวเฉินหยิบเอาขวดและจอกเหล้าออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลของ เขา จากนั้นเขาก็รินเหล้าลงจอกและมองไปยังดวงจันทร์ทรงกลมพร้อมกับ ครุ่นคิดไตร่ตรอง
เซี่ยวเฉินได้จากเมืองม่อเหอมานับปีโดยไม่รู้ตัว ในหนึ่งปีนี้เขาได้ประส บอะไรหลายๆอย่าง
ในตอนที่เขาเพิ่งจะจากมาเป็นเพราะเขาฉายแสงมากเกินไปหน่อย เขา ได้ยั่วยุตระกูลชั้นสูงจากแคว้นหนานหลิงและแคว้นตงหมิงที่ซากโบราณ
หลังจากนั้นก็มีเรื่องเกิดขึ้นอีกหลายอย่าง จากการเคลื่อนไหวที่คฤหาสน์ หิมะล่องลอย,เขาได้เป็นปรปักษ์กับเหล่าตระกูลชั้นสูงอย่างเต็มตัว
แม้แต่เฟิงเฟยเสวี่ยก็ยากที่จะมาช่วยไกล่เกลี่ย แต่อย่างไรก็ตาม,เฟิงเฟย เสวี่ยก็ไม่ได้โทษเซียวเฉินแต่อย่างใด นางถึงกับค่อยดูแลตระกูลเซี่ยวในเมืองม่อเหอไม่ปล่อยให้ตระกูลชั้นสูงมาสร้างปัญหาให้กับเซี่ยวเฉิน
ในตอนนี้เซี่ยวเฉินนึกย้อนกลับไป,เขาได้ลืมที่จะคิดถึงผลที่จะตามมาจาก การกระทําของเขา เขาไม่เคยคิดถึงผลที่จะเกิดกับตระกูลเซี่ยวจากการกระ ทําของเขา
Comments