Immortal and Martial Dual Cultivation 267 เผชิญหน้าสัตว์ประหลาดน้ํา
ตอนที่ 267 เผชิญหน้าสัตว์ประหลาดน้ํา
เซี่ยวเฉินเกฐกระบี่เข้าฝักและยิ้มขึ้น “ไม่สําคัญ ไม่จําเป็นต้องกังวลอะไร หากคนผู้นั้นแข็งแกร่งอย่างแท้จริง เขาคงไม่ติดตามพวกเรามาตลอดทาง
“เมื่อครู่, เขายอมแพ้ที่จะลงมือไปนั้น หมายความว่าเขาเพิ่งจะเสียโอกาสที่จะสังหารข้า คนผู้นี้ระมัดระวังตัวมากเกินไป เขาขาดจิตใจที่เฉียบคมของผู้บ่มเพาะพลังอย่างสิ้นเชิง เขาจะเป็นได้แค่เพียงผู้เชี่ยวชาญชั้นรองตลอดไป”
สูงขึ้นไปบนเมฆ,เยวหมิงชานที่เดิมที่ตั้งใจจะลงมือ อย่างไรก็ตาม,เขาตระหนักได้ว่าเซี่ยวเฉินได้รู้สึกถึงฉีฆ่าฟันของเขาในจังหวะสําคัญ
ด้วยหลักการระมัดระวังตัวของเหยวหมิงชาน,เมื่อฝ่ายตรงข้ามรู้สึกถึงฉีฆ่าฟันของเขาแล้ว มันไม่อาจเรียกได้ว่ากระบวณท่าปลิดชีพอีกต่อไป นี่เป็นสิ่งที่เขาคํานึงมาโดยตลอด
นี่เป็นสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มาจากการใช้ชีวิตเป็นผู้บ่มเพาะพลังเดียวดายมาเป็นเวลานาน มีโอกาสมากมาย,อย่าได้โจมตีอย่างมืดบอด
ขณะที่เยวหมิงชานมองดูเซียวเฉินและหลิวสุยเฟิงจากไปเขากล่าวอย่างเฉยเมย “ดูเหมือนข้าจะต้องปิดซ่อนฉีฆ่าฟันของข้าให้ลึกกว่าเดิมในครั้งหน้า ข้าจะต้องมั่นใจว่าสามารถสังหารเขาได้ผลภายในกระบวณท่าเดียว และไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้
ในเวลาที่ดวงอาทิตย์หายลับไปจากเส้นขอบฟ้า,เซี่ยวเฉินและหลิวสุยเฟิงในที่สุดก็ได้มาถึงท่าเรือของแม่น้ํามังกรทมิฬ มีตะเกียงส่องสว่างอยู่ที่ท่าเรือ,ทําให้พื้นที่สว่างไสวราวกับกลางวัน
เรือสินค้ามากมายปรากฏขึ้นในสายตาของเซียวเฉินเป็นการเปิดหูเปิดตาให้กับเขา เรือสูงประมาณสี่สิบหรือห้าสิบเมตร และยาวประมาณห้าหรือหกร้อยเมตร พวกมันดูคล้ายกับเรือบรรทุกน้ํามันจากชีวิตก่อนของเขา
เมื่อหลิวสุยเฟิงเห็นเชี่ยวเฉินตกตะลึง,เขาอธิบาย “มีสัตว์ประหลาดน้ํามากมายภายในแม่น้ํามังกรทมิฬ นอกจากนั้น คลื่นลมยังรุนแรงเป็นอย่างมาก เรือขนาดกลางไม่อาจที่จะต้านทานได้แม้แต่คลื่นเดียว ยิ่งกว่านั้น ยังมีเรือที่ออกแบบมาเพื่อเดินทะเล”
“สถานการณ์ภายในทะเลซับซ้อนยิ่งกว่า หากไม่สร้างเรือให้ใหญ่กว่านี้,พวกมันไม่อาจต้านทานได้แม้แต่คลื่นเดียว,หรือยิ่งกว่านั้น พวกสัตว์ประหลาดทะเล”
เป็นเช่นนั้นนี่เอง,ความสงสัยในใจของเซี่ยวเฉินพลันกระจ่าง คนพวกเขาทั้งสองมองหาผู้จัดการของเรือสินค้า หลังจากที่พวกเขาบอกกล่าวถึงความตั้งใจ,พวกเขาก็จ่ายเป็นหนึ่งหมื่นเหรียญทองและได้รับสิทธิ์ขึ้นเรือ
พวกเขาทั้งสองขี่ม้าเลือดมังกรของพวกเขาขึ้นไปบนเรือจากท่า ดาดฟ้าที่กว้างขวางไม่คับแคบสําหรับม้า
ไม่นานนัก,คนงานบนเรือสินค้าก็เข้ามาและพาม้าเลือดมังกรทั้งสองตัวออกไป แม้ว่าดาดฟ้าจะกว้างขวาง,พวกเขาก็ห้ามไม่ให้ม้ามาเดินป้วนเปี้ยน
ดาดฟ้าเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลัง พวกเขาส่วนใหญ่ตั้งใจจะไปเข้าร่วมการประมูลที่เมืองซีเหอ
เซี่ยวเฉินยืนอยู่ที่หัวเรือและวางมือจับราวเอาไว้เบาๆ สายลมเย็นพัดผ่านมาตามแม่น้ํา สายลมนําพาความสดชื่นของแม่น้ํา,ทําให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย
เซียวเฉินมองเข้าไปในความมืด ค่ําคืนที่มืดมิดไม่ได้ขัดขวางทัศนวิสัยของเขาแม้แต่น้อย และเขาสามารถมองเห็นสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน
แม่น้ําโงกรทมิฬกว้างขวางกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้ เรือสินค้าขนาดมหึมาดูราวกับจุดเล็กๆในความมีด,พวกเขานับไม่ได้ถึงหนึ่งในร่อยของความกว้างแม่น้ํา
มองผ่านครั้งเดียว,หากมันไม่ใช่เพราะสีของแม่น้ํา,คนส่วนใหญ่อาจจะเข้าใจผิดว่ามันคือทะเล
หลิวสุยเฟิงเดินเข้ามาและกล่าวขึ้น “เย่เฉิน,เรือจะออกจากท่าในวันพรุ่งนี้ มีห้องว่างเหลือยู่ไม่มากนัก,พวกเราจะใช้ใช้เวลาตบอดสามวันอยู่บนดาดฟ้า
เรือสินค้าไม่ได้ต่างไปจากเรือโดยสาร ภายในของเรือเต็มไปด้วยสินค้า สําหรับทั้งสองคนที่มาค่อนข้างช้า,ไม่น่าแปลกใจที่จะไม่เหลือห้องให้พวกเขา
เซี่ยวเฉินยิ้ม”ไม่เป็นปัญหา พวกเขาก็ใช้เวลาหลายวันอยู่ในทุ่งหญ้ามาแล้ว นี่ก็เพียงแค่อีกสามวันบนดาดฟ้าเรือ”
พวกเขาพื้นที่ว่างและเซี่ยวเฉินก็นั่งลงขัดสมาธิ ขึ้นสู่สภาวะบ่มเพาะพลัง อย่างไรก็ตาม มีผู้บ่มเพาะพลังมากมายที่อยู่ที่นี่,การแสดงของการหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์จะเป็นที่เตะตามากเกินไป เซี่ยวเฉินไม่อยากที่จะเป็นจุดสนใจมากนัก
ดังนั้น,เซี่ยวเฉินจึงค่อยๆหมุนเวียนทักษะสลักร่างพยัคฆ์มังกร เขาเตรียมที่จะบ่มเพาะทักษะบ่มเพาะพลังนี้ให้มั่นคงเสริมสร้างร่างกายของเขา
ผู้บ่มเพาะพลังบนดาดฟ้าก็กําลังบ่มเพาะพลังอยู่เช่นกัน มีอีกเล็กน้อยที่กําลังพูดคุยกัน ดังนั้นบนดาดฟ้าจึงเงียบและสงบเป็นอย่างยิ่ง
ในเช้าวันต่อมา ในตอนที่แสงอามิตย์ในที่สุดก็ขับไล่ความมืดและฉายลงบนที่ดาดฟ้าเรือ,ผู้บ่มเพาะพลังที่กําลังบ่มเพาะพลังอยู่ก็ค่อยๆลืมตาขึ้น?
เชี่ยวเฉินลืมตาตื่นขึ้นเช่นกัน ในทันทีที่เขาลุกขึ้นยืน,มีเสียงแตกดังกราวออกมาจากกระดูกของเขา ทั่วทั้งร่างของเขารู้สึกผ่อนคลายและจิตใจของเขาสดชื่น
ทักษะสลักร่างพยัคฆ์มังกรมีทั้งหมดห้าชั้น สองชั้นแรกคือชั้นก่อร่างและสามชั้นสุดท้ายเป็นส่วนหลักของทักษะบ่มเพาะพลังนี้
สําหรับวันนี้,เซี่ยวเฉินได้มาถึงกึ่งกลางของชั้นที่สี่ มังกรคํารามคลุมนภา,ทะยานทะลุท้องฟ้า -และกําลังจะก้าวขึ้นสู่ระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม
หากเซียวเฉินสามารถบ่มเพาะจนไปถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม,เพียงเสียงคํารามเรียบง่ายของเซี่ยวเฉินก็ราวกับพยัคฆ์มังกรกําลังขู่คําราม พลังงานที่ดึงออกมาสามารถทะลวงผ่านเก้าสวรรค์และสลายหมู่เมฆ
สําหรับชั้นที่ห้าคือกระดูกพยัคฆ์เอ็นมังกร,ลากภูผาม้วนธารา-คือการชุบร่างเกิดใหม่อย่างแท้จริง อาวุธธรรมดาไม่อาจสร้างบาดแผลให้กับเซียวเฉินอีกต่อไป นอกจากนั้น,ฉีและโลหิตของเขายังระเบิเพิ่ดมขึ้น,พลังของเขาจะสามารถขึ้นไปถึงหนึ่งหมื่นกิโลกรัม
เสียงแตกกราวจากกระดูกของเซียวเฉินถึงความสนใจของผู้บ่มเพาะพลังหลายคน ในทันใดนั้นเอง หลายคนมองเห็นภาพพยัคฆ์มังกรเลือนร่างบนร่างของเซี่ยวเฉิน
“หายากนะที่จะเห็นผู้บ่มเพาะพลังมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างร่างกาย “ความแข็งแกร่งทางกายภาพมันเป็นร้อง หลังจากที่ไปถึงระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,พลังของปราณจะน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง กําปั้นเรียบง่ายสามารถผ่าภูเขา การเสริมสร้างร่างกายมันเป็นเรื่องเสียเวลา” “แน่นอน ในระดับขอบเขตนักบุญหรือต่ํากว่า,สามารถสร้างความได้เปรียบได้โดยใช้พลังกายภาพ แต่อย่างไรก็ตาม,หลังจากนั้นไป,คุณภาพของพลังปราณเป็นวิธีทางที่แข็งแกร่งกว่า “หากมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างร่างกายเพียงอย่างเดียว,เขาก็อาจจะเป็นต้นกล้าที่ดี น่าเสียดาย,เขาใช้วิธีบ่มเพาะพลังคู่ ไม่ช้าก็เร็ว,เขากลจะไม่อาจคงไว้ได้ทั้งสองเส้นทาง,ทําให้การบ่มเพาะพลังของเขากลายเป็นชะงักลง”
เมื่อผู้บ่มเพาะพลังหลายคนเห็นถึงพลังกายภาพที่แข็งแกร่งของเซี่ยวเฉิน,พวกเขาทั้งหมดถอนหายใจและแสดงความเสียใจกับคําของพวกเขา
เซี่ยวเฉินยิ้มและไม่ได้ไปใส่ใจ พวกเชื่อว่านี่เป็นเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาเห็นว่าท่านเจ้าศาลาคนก่อนได้ทิ้งอะไรเอาไว้บ้างภายในพิภพใต้ดิน:นี่มันทําให้เขายิ่งเชื่อมั่น
การบ่มเพาะพลังกายไปพร้อมกับพลังปราณ แน่นอนว่าเป็นผลทําให้เขาเติบโตช้ากว่าคนทั่วไป บางที่เซียวเฉินจะใช้เวลายาวนานกว่าในการขึ้นสู่ระดับขอบเขตปราชญ์ยุทธเมื่อเทียบกับคนในรุ่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม มันจะเป็นไปไม่ได้หากจะก้าวขึ้นสู่ระดับขอบเขตจักรพรรดิยุทธโดยไม่มีร่างกายที่แข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เลย,โอกาสมันก็ริบหรี่ ถึงเวลานั้น,เซี่ยวเฉินจะแซงหน้าคนอื่นๆ
เมื่อเซี่ยวเฉินเดินไปที่หัวเรือ เขาพบว่าเรือสินค้าขนาดมหึมาได้ออกเดินทางแล้วโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว เรือตัดผ่านคลื่นบนผิวน้ําพร้อมกับแล่นไป
เซียวเฉินประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าเรือขนาดใหญ่เช่นนี้จะเดินทางได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้บนแม่น้ํา เขาไม่รู้เช่นกันว่าเรือลํานี้ขับเคลื่อนด้วยอะไร
หลิวสุยเฟิงเดินเข้ามาหาเซียวเฉินและถามขึ้น”เย่เฉิน,เจ้าคิดว่าผู้เชี่ยวชาญคนนั้นยังจับตาดูพวกเราอยู่หรือไม่?”
เซี่ยวเฉินมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและกล่าวข้าไม่แน่ใจ คนคนนั้นซ่อนตัวได้อย่างแนบเนียน ข้าไม่รู้สึกถึงกระแสพลังใดๆของเขา อย่างไรก็ตาม สัญชาตญาณบอกข้าว่าเขาน่าจะยังอยู่ข้างบน” “ข้างหน้ามีสัตว์ประหลาดน้ํา!”
ทันใดนั้น,บางคนอุทานขึ้นขณะที่ทั้งสองกําลังพูดคุย เซียวเฉินและหลิวสุยเฟิงเร่งตรงเข้าไป”
พวกเขามองเห็นเพียงวงวนน้ําขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นในหนึ่งานหน้า ผ่านไปครู่หนึ่ง,เสาน้ำความสูงกว่าสองร้อยเมตรก่อตัวขึ้น และมุ่งหน้ามาทางเรือพันเมตรด้สินค้าอย่างรวดเร็ว
“ฟู ปิ้ว! ฟูจิ๋ว!”
ผิวน้ําเริ่มกลายเป็นรุนแรง เรือเริ่มสั่นเขย่าเล็กน้อย เซียวเฉินขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไป ที่จุดสิ้นจุดของมัน,เขามองเห็นปลาประหลาดสีดําขนาดใหญ่
หลิวสุยเฟิงถามขึ้นอย่างงุนงง “นั้นมันอะไร?”
มีบางคนตอบกลับ “นั้นมันวาฬทูน่าสีดํา,สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงสุด พวกมันเป็นเจ้าแห่งแม่น้ํามังกรทมิฬแห่งนี้ พวกมันปรากฏตัวขึ้นสองสามครั้งในทุกปี เรือสินค้าที่ไปพบกับมันเข้า จบลงไม่สวยทุกลํา ช่างโชคร้าย,ที่พวกเรามาพบมันเข้า”
หลังจากที่ผู้บ่มเบาะพลังรู้ถึงตัวตนของปลาประหลาดนั้น พวกเขาเริ่มตื่นตระหนก
ใตอนที่พวกเขามองเห็นเสาน้ํากําลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนตัดสินใจกระโดดลงจากเรืออย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวและกระโดดผ่านไปตามผิวน้ํา,มุ่งหน้ากลับไป
เมื่อหลิวสุยเฟิงเห็นผู้บ่มเพาะพลังกําลังกระโดดลงจากเรือ,เขาถามขึ้น “เย่เฉิน,พวกเราควรกระโดดออกไปด้วย?”
เซี่ยวเฉินสํารวจรอบข้างและพบว่าผู้บ่มเพาะ พลังที่กระโดดลงไปล้วนเป็นผู้บ่มเพาะพลังรุ่นเยาว์ แม้ว่าผู้บ่มเพาะพลังที่มีอายุมากกว่าจะดูตื่นกลัว,แต่ไม่มีพวกเขาคนใดพยายามจะกระโดดลงไป
ถึงกับมีบางคนที่เผยสีหน้าขบขันออกมาตอนที่พวกเขามองเห็นคนที่กระโดดลงไป
เซียวเฉินส่ายหัวและกล่าว “รอดูก่อน,ไม่จําเป็นต้องเร่งรีบ”
ข่งยิ่งแก่รสยิ่งเผ็ด ในเมื่อผู้บ่มเพาะพลังที่มีอายุหน่อยเลือกที่จะไม่กระโดดลงไปจากเรือ,มันจะต้องมีอะไรที่พวกเขายังไม่รู้ เป็นการดีที่สุดที่จะรอดูสถานการณ์ก่อน
“ฟว! ฟิว!”
ทันใดนั้น,เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นมาจากผิวน้ํา เซียวเฉินและหลิวสุยเฟิงหันหัวลงไปมองดู พวกเขามองเห็นผู้บ่มเพาะพลังที่กระโดดลงไปบนผิวน้ํากําลังถูกปลาประหลาดเข้าจู่โจมก่อนที่จะจมหายไปกับสายน้ํา
ในจังหวะที่พวกเขาจมลงไปในน้ํา,ปลาประหลาดนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามา มีเสียง กรวบ กรวบ ดังขึ้นมาจากน้ํา ผ่านไปครู่หนึ่ง มีเพียงกระดูกของผู้บ่มเพาะพลังที่เหลืออยู่
ผิวน้ําสีดําตอนนี้ย้อมไปด้วยสีแดงของเลือด,ยิ่งดึงดูดปลาประหลาดเข้ามา ปลาประหลาดมีฟันที่แหลมคมอย่างไม่น่าเชื่อ พลังปราณของผู้บ่มเพาะพลังไม่อาจที่จะป้องกันพวกมันได้
ในไม่ช้า,ผู้บ่มเพาะพลังส่วนใหญ่ที่กระโดดลงไปจากเรือ ถูกปลาประหลาดสังหารทั้งหมด ส่วนน้อยที่มีทักษะเคลื่อนไหวอันยอดเยี่ยมและสามารถกลับขึ้นมาบนเรือได้อีกครั้ง
หลังจากนั้น,ไม่มีผู้บ่มเพาะพลังคนใดที่จะกล้ากระโดดลงไปอย่างรูตามืดบอด หลังจากที่มีตัวอย่างให้เห็น
“พวกโง่ กล้าลองข้ามแม่น้ํามังกรทมิฬโดยไม่ได้มีความแข็งแกร่งถึงระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ ช่างบ้าบิ่น!” มีบางคนเย้ยหยัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเห็นเสาน้ํากําลังเข้ามาใกล้และผิวน้ําที่รุนแรง,สีหน้าเย้ยหยันของพวกเขาพลันหายไป
“ฟู ฟิว!”
ทันใดนั้น,ดาบฉีพลุ่งพล่านสองเส้นบินออกมาจากที่หัวเรือ พวกมันยาวกว่าหนึ่งร้อยเมตรและเจิดจ้าเป็นอย่างมาก มันตัดผ่านคลื่นบนผิวน้ํา และลอยไปที่เสาน้ําที่กําลังใกล้เข้ามา
บางคนกล่าวอย่างเป็นสุข “คนคุ้มกันเรือสินค้าได้ลงมือแล้วดูจากพลังของดาบฉี,พวกเขา อย่างน้อยน่าจะอยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด”
“สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงสุดน่าจะแข็งแกร่งได้เทียบเท่าระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น หากมีระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดสองคน พวกเราอาจจะสามารถรอดไปได้หากพวกเราร่วมมือกัน”
เรือสินค้าขนาดใหญ่เป็นธรรมดาที่จะมีผู้บ่ม เพาะพลังค่อยคุ้มกัน สมาคมการค้าขนาดใหญ่อาจจะมีแม้กระทั่งระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ
อย่างไรก็ตาม,ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธนั้นหาตัวได้ยาก มันเป็นการยากที่จะจ้างระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหากพวกเขาไม่ใช่ตระกูลชั้นสูง ที่มาพร้อมจิตวิญญาณยุทธสืบทอดหรือสํานักราชวงศ์
จากผู้บ่มเพาะพลังหนึ่งร้อยล้านคนภายในอาณาจักรต้าฉิน,มีเพียงพันที่จะขึ้นไปถึงระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ นอกจากนั้น,ในหนึ่งพันคนที่ว่าโดยทั่วไปจะขึ้นตรงต่อนิกายใหญ่,ตระกูลชั้นสูง,และสํานักราชวงศ์
ดังนั้น กําลังต่อสู้สูงสุดของสมาคมการค้าทั่วไปจะเป็นระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivation 267 เผชิญหน้าสัตว์ประหลาดน้ํา
ตอนที่ 267 เผชิญหน้าสัตว์ประหลาดน้ํา
เซี่ยวเฉินเกฐกระบี่เข้าฝักและยิ้มขึ้น “ไม่สําคัญ ไม่จําเป็นต้องกังวลอะไร หากคนผู้นั้นแข็งแกร่งอย่างแท้จริง เขาคงไม่ติดตามพวกเรามาตลอดทาง
“เมื่อครู่, เขายอมแพ้ที่จะลงมือไปนั้น หมายความว่าเขาเพิ่งจะเสียโอกาสที่จะสังหารข้า คนผู้นี้ระมัดระวังตัวมากเกินไป เขาขาดจิตใจที่เฉียบคมของผู้บ่มเพาะพลังอย่างสิ้นเชิง เขาจะเป็นได้แค่เพียงผู้เชี่ยวชาญชั้นรองตลอดไป”
สูงขึ้นไปบนเมฆ,เยวหมิงชานที่เดิมที่ตั้งใจจะลงมือ อย่างไรก็ตาม,เขาตระหนักได้ว่าเซี่ยวเฉินได้รู้สึกถึงฉีฆ่าฟันของเขาในจังหวะสําคัญ
ด้วยหลักการระมัดระวังตัวของเหยวหมิงชาน,เมื่อฝ่ายตรงข้ามรู้สึกถึงฉีฆ่าฟันของเขาแล้ว มันไม่อาจเรียกได้ว่ากระบวณท่าปลิดชีพอีกต่อไป นี่เป็นสิ่งที่เขาคํานึงมาโดยตลอด
นี่เป็นสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มาจากการใช้ชีวิตเป็นผู้บ่มเพาะพลังเดียวดายมาเป็นเวลานาน มีโอกาสมากมาย,อย่าได้โจมตีอย่างมืดบอด
ขณะที่เยวหมิงชานมองดูเซียวเฉินและหลิวสุยเฟิงจากไปเขากล่าวอย่างเฉยเมย “ดูเหมือนข้าจะต้องปิดซ่อนฉีฆ่าฟันของข้าให้ลึกกว่าเดิมในครั้งหน้า ข้าจะต้องมั่นใจว่าสามารถสังหารเขาได้ผลภายในกระบวณท่าเดียว และไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้
ในเวลาที่ดวงอาทิตย์หายลับไปจากเส้นขอบฟ้า,เซี่ยวเฉินและหลิวสุยเฟิงในที่สุดก็ได้มาถึงท่าเรือของแม่น้ํามังกรทมิฬ มีตะเกียงส่องสว่างอยู่ที่ท่าเรือ,ทําให้พื้นที่สว่างไสวราวกับกลางวัน
เรือสินค้ามากมายปรากฏขึ้นในสายตาของเซียวเฉินเป็นการเปิดหูเปิดตาให้กับเขา เรือสูงประมาณสี่สิบหรือห้าสิบเมตร และยาวประมาณห้าหรือหกร้อยเมตร พวกมันดูคล้ายกับเรือบรรทุกน้ํามันจากชีวิตก่อนของเขา
เมื่อหลิวสุยเฟิงเห็นเชี่ยวเฉินตกตะลึง,เขาอธิบาย “มีสัตว์ประหลาดน้ํามากมายภายในแม่น้ํามังกรทมิฬ นอกจากนั้น คลื่นลมยังรุนแรงเป็นอย่างมาก เรือขนาดกลางไม่อาจที่จะต้านทานได้แม้แต่คลื่นเดียว ยิ่งกว่านั้น ยังมีเรือที่ออกแบบมาเพื่อเดินทะเล”
“สถานการณ์ภายในทะเลซับซ้อนยิ่งกว่า หากไม่สร้างเรือให้ใหญ่กว่านี้,พวกมันไม่อาจต้านทานได้แม้แต่คลื่นเดียว,หรือยิ่งกว่านั้น พวกสัตว์ประหลาดทะเล”
เป็นเช่นนั้นนี่เอง,ความสงสัยในใจของเซี่ยวเฉินพลันกระจ่าง คนพวกเขาทั้งสองมองหาผู้จัดการของเรือสินค้า หลังจากที่พวกเขาบอกกล่าวถึงความตั้งใจ,พวกเขาก็จ่ายเป็นหนึ่งหมื่นเหรียญทองและได้รับสิทธิ์ขึ้นเรือ
พวกเขาทั้งสองขี่ม้าเลือดมังกรของพวกเขาขึ้นไปบนเรือจากท่า ดาดฟ้าที่กว้างขวางไม่คับแคบสําหรับม้า
ไม่นานนัก,คนงานบนเรือสินค้าก็เข้ามาและพาม้าเลือดมังกรทั้งสองตัวออกไป แม้ว่าดาดฟ้าจะกว้างขวาง,พวกเขาก็ห้ามไม่ให้ม้ามาเดินป้วนเปี้ยน
ดาดฟ้าเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลัง พวกเขาส่วนใหญ่ตั้งใจจะไปเข้าร่วมการประมูลที่เมืองซีเหอ
เซี่ยวเฉินยืนอยู่ที่หัวเรือและวางมือจับราวเอาไว้เบาๆ สายลมเย็นพัดผ่านมาตามแม่น้ํา สายลมนําพาความสดชื่นของแม่น้ํา,ทําให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย
เซียวเฉินมองเข้าไปในความมืด ค่ําคืนที่มืดมิดไม่ได้ขัดขวางทัศนวิสัยของเขาแม้แต่น้อย และเขาสามารถมองเห็นสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน
แม่น้ําโงกรทมิฬกว้างขวางกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้ เรือสินค้าขนาดมหึมาดูราวกับจุดเล็กๆในความมีด,พวกเขานับไม่ได้ถึงหนึ่งในร่อยของความกว้างแม่น้ํา
มองผ่านครั้งเดียว,หากมันไม่ใช่เพราะสีของแม่น้ํา,คนส่วนใหญ่อาจจะเข้าใจผิดว่ามันคือทะเล
หลิวสุยเฟิงเดินเข้ามาและกล่าวขึ้น “เย่เฉิน,เรือจะออกจากท่าในวันพรุ่งนี้ มีห้องว่างเหลือยู่ไม่มากนัก,พวกเราจะใช้ใช้เวลาตบอดสามวันอยู่บนดาดฟ้า
เรือสินค้าไม่ได้ต่างไปจากเรือโดยสาร ภายในของเรือเต็มไปด้วยสินค้า สําหรับทั้งสองคนที่มาค่อนข้างช้า,ไม่น่าแปลกใจที่จะไม่เหลือห้องให้พวกเขา
เซี่ยวเฉินยิ้ม”ไม่เป็นปัญหา พวกเขาก็ใช้เวลาหลายวันอยู่ในทุ่งหญ้ามาแล้ว นี่ก็เพียงแค่อีกสามวันบนดาดฟ้าเรือ”
พวกเขาพื้นที่ว่างและเซี่ยวเฉินก็นั่งลงขัดสมาธิ ขึ้นสู่สภาวะบ่มเพาะพลัง อย่างไรก็ตาม มีผู้บ่มเพาะพลังมากมายที่อยู่ที่นี่,การแสดงของการหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์จะเป็นที่เตะตามากเกินไป เซี่ยวเฉินไม่อยากที่จะเป็นจุดสนใจมากนัก
ดังนั้น,เซี่ยวเฉินจึงค่อยๆหมุนเวียนทักษะสลักร่างพยัคฆ์มังกร เขาเตรียมที่จะบ่มเพาะทักษะบ่มเพาะพลังนี้ให้มั่นคงเสริมสร้างร่างกายของเขา
ผู้บ่มเพาะพลังบนดาดฟ้าก็กําลังบ่มเพาะพลังอยู่เช่นกัน มีอีกเล็กน้อยที่กําลังพูดคุยกัน ดังนั้นบนดาดฟ้าจึงเงียบและสงบเป็นอย่างยิ่ง
ในเช้าวันต่อมา ในตอนที่แสงอามิตย์ในที่สุดก็ขับไล่ความมืดและฉายลงบนที่ดาดฟ้าเรือ,ผู้บ่มเพาะพลังที่กําลังบ่มเพาะพลังอยู่ก็ค่อยๆลืมตาขึ้น?
เชี่ยวเฉินลืมตาตื่นขึ้นเช่นกัน ในทันทีที่เขาลุกขึ้นยืน,มีเสียงแตกดังกราวออกมาจากกระดูกของเขา ทั่วทั้งร่างของเขารู้สึกผ่อนคลายและจิตใจของเขาสดชื่น
ทักษะสลักร่างพยัคฆ์มังกรมีทั้งหมดห้าชั้น สองชั้นแรกคือชั้นก่อร่างและสามชั้นสุดท้ายเป็นส่วนหลักของทักษะบ่มเพาะพลังนี้
สําหรับวันนี้,เซี่ยวเฉินได้มาถึงกึ่งกลางของชั้นที่สี่ มังกรคํารามคลุมนภา,ทะยานทะลุท้องฟ้า -และกําลังจะก้าวขึ้นสู่ระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม
หากเซียวเฉินสามารถบ่มเพาะจนไปถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม,เพียงเสียงคํารามเรียบง่ายของเซี่ยวเฉินก็ราวกับพยัคฆ์มังกรกําลังขู่คําราม พลังงานที่ดึงออกมาสามารถทะลวงผ่านเก้าสวรรค์และสลายหมู่เมฆ
สําหรับชั้นที่ห้าคือกระดูกพยัคฆ์เอ็นมังกร,ลากภูผาม้วนธารา-คือการชุบร่างเกิดใหม่อย่างแท้จริง อาวุธธรรมดาไม่อาจสร้างบาดแผลให้กับเซียวเฉินอีกต่อไป นอกจากนั้น,ฉีและโลหิตของเขายังระเบิเพิ่ดมขึ้น,พลังของเขาจะสามารถขึ้นไปถึงหนึ่งหมื่นกิโลกรัม
เสียงแตกกราวจากกระดูกของเซียวเฉินถึงความสนใจของผู้บ่มเพาะพลังหลายคน ในทันใดนั้นเอง หลายคนมองเห็นภาพพยัคฆ์มังกรเลือนร่างบนร่างของเซี่ยวเฉิน
“หายากนะที่จะเห็นผู้บ่มเพาะพลังมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างร่างกาย “ความแข็งแกร่งทางกายภาพมันเป็นร้อง หลังจากที่ไปถึงระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,พลังของปราณจะน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง กําปั้นเรียบง่ายสามารถผ่าภูเขา การเสริมสร้างร่างกายมันเป็นเรื่องเสียเวลา” “แน่นอน ในระดับขอบเขตนักบุญหรือต่ํากว่า,สามารถสร้างความได้เปรียบได้โดยใช้พลังกายภาพ แต่อย่างไรก็ตาม,หลังจากนั้นไป,คุณภาพของพลังปราณเป็นวิธีทางที่แข็งแกร่งกว่า “หากมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างร่างกายเพียงอย่างเดียว,เขาก็อาจจะเป็นต้นกล้าที่ดี น่าเสียดาย,เขาใช้วิธีบ่มเพาะพลังคู่ ไม่ช้าก็เร็ว,เขากลจะไม่อาจคงไว้ได้ทั้งสองเส้นทาง,ทําให้การบ่มเพาะพลังของเขากลายเป็นชะงักลง”
เมื่อผู้บ่มเพาะพลังหลายคนเห็นถึงพลังกายภาพที่แข็งแกร่งของเซี่ยวเฉิน,พวกเขาทั้งหมดถอนหายใจและแสดงความเสียใจกับคําของพวกเขา
เซี่ยวเฉินยิ้มและไม่ได้ไปใส่ใจ พวกเชื่อว่านี่เป็นเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาเห็นว่าท่านเจ้าศาลาคนก่อนได้ทิ้งอะไรเอาไว้บ้างภายในพิภพใต้ดิน:นี่มันทําให้เขายิ่งเชื่อมั่น
การบ่มเพาะพลังกายไปพร้อมกับพลังปราณ แน่นอนว่าเป็นผลทําให้เขาเติบโตช้ากว่าคนทั่วไป บางที่เซียวเฉินจะใช้เวลายาวนานกว่าในการขึ้นสู่ระดับขอบเขตปราชญ์ยุทธเมื่อเทียบกับคนในรุ่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม มันจะเป็นไปไม่ได้หากจะก้าวขึ้นสู่ระดับขอบเขตจักรพรรดิยุทธโดยไม่มีร่างกายที่แข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เลย,โอกาสมันก็ริบหรี่ ถึงเวลานั้น,เซี่ยวเฉินจะแซงหน้าคนอื่นๆ
เมื่อเซี่ยวเฉินเดินไปที่หัวเรือ เขาพบว่าเรือสินค้าขนาดมหึมาได้ออกเดินทางแล้วโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว เรือตัดผ่านคลื่นบนผิวน้ําพร้อมกับแล่นไป
เซียวเฉินประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าเรือขนาดใหญ่เช่นนี้จะเดินทางได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้บนแม่น้ํา เขาไม่รู้เช่นกันว่าเรือลํานี้ขับเคลื่อนด้วยอะไร
หลิวสุยเฟิงเดินเข้ามาหาเซียวเฉินและถามขึ้น”เย่เฉิน,เจ้าคิดว่าผู้เชี่ยวชาญคนนั้นยังจับตาดูพวกเราอยู่หรือไม่?”
เซี่ยวเฉินมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและกล่าวข้าไม่แน่ใจ คนคนนั้นซ่อนตัวได้อย่างแนบเนียน ข้าไม่รู้สึกถึงกระแสพลังใดๆของเขา อย่างไรก็ตาม สัญชาตญาณบอกข้าว่าเขาน่าจะยังอยู่ข้างบน” “ข้างหน้ามีสัตว์ประหลาดน้ํา!”
ทันใดนั้น,บางคนอุทานขึ้นขณะที่ทั้งสองกําลังพูดคุย เซียวเฉินและหลิวสุยเฟิงเร่งตรงเข้าไป”
พวกเขามองเห็นเพียงวงวนน้ําขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นในหนึ่งานหน้า ผ่านไปครู่หนึ่ง,เสาน้ำความสูงกว่าสองร้อยเมตรก่อตัวขึ้น และมุ่งหน้ามาทางเรือพันเมตรด้สินค้าอย่างรวดเร็ว
“ฟู ปิ้ว! ฟูจิ๋ว!”
ผิวน้ําเริ่มกลายเป็นรุนแรง เรือเริ่มสั่นเขย่าเล็กน้อย เซียวเฉินขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไป ที่จุดสิ้นจุดของมัน,เขามองเห็นปลาประหลาดสีดําขนาดใหญ่
หลิวสุยเฟิงถามขึ้นอย่างงุนงง “นั้นมันอะไร?”
มีบางคนตอบกลับ “นั้นมันวาฬทูน่าสีดํา,สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงสุด พวกมันเป็นเจ้าแห่งแม่น้ํามังกรทมิฬแห่งนี้ พวกมันปรากฏตัวขึ้นสองสามครั้งในทุกปี เรือสินค้าที่ไปพบกับมันเข้า จบลงไม่สวยทุกลํา ช่างโชคร้าย,ที่พวกเรามาพบมันเข้า”
หลังจากที่ผู้บ่มเบาะพลังรู้ถึงตัวตนของปลาประหลาดนั้น พวกเขาเริ่มตื่นตระหนก
ใตอนที่พวกเขามองเห็นเสาน้ํากําลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนตัดสินใจกระโดดลงจากเรืออย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวและกระโดดผ่านไปตามผิวน้ํา,มุ่งหน้ากลับไป
เมื่อหลิวสุยเฟิงเห็นผู้บ่มเพาะพลังกําลังกระโดดลงจากเรือ,เขาถามขึ้น “เย่เฉิน,พวกเราควรกระโดดออกไปด้วย?”
เซี่ยวเฉินสํารวจรอบข้างและพบว่าผู้บ่มเพาะ พลังที่กระโดดลงไปล้วนเป็นผู้บ่มเพาะพลังรุ่นเยาว์ แม้ว่าผู้บ่มเพาะพลังที่มีอายุมากกว่าจะดูตื่นกลัว,แต่ไม่มีพวกเขาคนใดพยายามจะกระโดดลงไป
ถึงกับมีบางคนที่เผยสีหน้าขบขันออกมาตอนที่พวกเขามองเห็นคนที่กระโดดลงไป
เซียวเฉินส่ายหัวและกล่าว “รอดูก่อน,ไม่จําเป็นต้องเร่งรีบ”
ข่งยิ่งแก่รสยิ่งเผ็ด ในเมื่อผู้บ่มเพาะพลังที่มีอายุหน่อยเลือกที่จะไม่กระโดดลงไปจากเรือ,มันจะต้องมีอะไรที่พวกเขายังไม่รู้ เป็นการดีที่สุดที่จะรอดูสถานการณ์ก่อน
“ฟว! ฟิว!”
ทันใดนั้น,เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นมาจากผิวน้ํา เซียวเฉินและหลิวสุยเฟิงหันหัวลงไปมองดู พวกเขามองเห็นผู้บ่มเพาะพลังที่กระโดดลงไปบนผิวน้ํากําลังถูกปลาประหลาดเข้าจู่โจมก่อนที่จะจมหายไปกับสายน้ํา
ในจังหวะที่พวกเขาจมลงไปในน้ํา,ปลาประหลาดนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามา มีเสียง กรวบ กรวบ ดังขึ้นมาจากน้ํา ผ่านไปครู่หนึ่ง มีเพียงกระดูกของผู้บ่มเพาะพลังที่เหลืออยู่
ผิวน้ําสีดําตอนนี้ย้อมไปด้วยสีแดงของเลือด,ยิ่งดึงดูดปลาประหลาดเข้ามา ปลาประหลาดมีฟันที่แหลมคมอย่างไม่น่าเชื่อ พลังปราณของผู้บ่มเพาะพลังไม่อาจที่จะป้องกันพวกมันได้
ในไม่ช้า,ผู้บ่มเพาะพลังส่วนใหญ่ที่กระโดดลงไปจากเรือ ถูกปลาประหลาดสังหารทั้งหมด ส่วนน้อยที่มีทักษะเคลื่อนไหวอันยอดเยี่ยมและสามารถกลับขึ้นมาบนเรือได้อีกครั้ง
หลังจากนั้น,ไม่มีผู้บ่มเพาะพลังคนใดที่จะกล้ากระโดดลงไปอย่างรูตามืดบอด หลังจากที่มีตัวอย่างให้เห็น
“พวกโง่ กล้าลองข้ามแม่น้ํามังกรทมิฬโดยไม่ได้มีความแข็งแกร่งถึงระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ ช่างบ้าบิ่น!” มีบางคนเย้ยหยัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเห็นเสาน้ํากําลังเข้ามาใกล้และผิวน้ําที่รุนแรง,สีหน้าเย้ยหยันของพวกเขาพลันหายไป
“ฟู ฟิว!”
ทันใดนั้น,ดาบฉีพลุ่งพล่านสองเส้นบินออกมาจากที่หัวเรือ พวกมันยาวกว่าหนึ่งร้อยเมตรและเจิดจ้าเป็นอย่างมาก มันตัดผ่านคลื่นบนผิวน้ํา และลอยไปที่เสาน้ําที่กําลังใกล้เข้ามา
บางคนกล่าวอย่างเป็นสุข “คนคุ้มกันเรือสินค้าได้ลงมือแล้วดูจากพลังของดาบฉี,พวกเขา อย่างน้อยน่าจะอยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด”
“สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงสุดน่าจะแข็งแกร่งได้เทียบเท่าระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น หากมีระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดสองคน พวกเราอาจจะสามารถรอดไปได้หากพวกเราร่วมมือกัน”
เรือสินค้าขนาดใหญ่เป็นธรรมดาที่จะมีผู้บ่ม เพาะพลังค่อยคุ้มกัน สมาคมการค้าขนาดใหญ่อาจจะมีแม้กระทั่งระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ
อย่างไรก็ตาม,ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธนั้นหาตัวได้ยาก มันเป็นการยากที่จะจ้างระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหากพวกเขาไม่ใช่ตระกูลชั้นสูง ที่มาพร้อมจิตวิญญาณยุทธสืบทอดหรือสํานักราชวงศ์
จากผู้บ่มเพาะพลังหนึ่งร้อยล้านคนภายในอาณาจักรต้าฉิน,มีเพียงพันที่จะขึ้นไปถึงระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ นอกจากนั้น,ในหนึ่งพันคนที่ว่าโดยทั่วไปจะขึ้นตรงต่อนิกายใหญ่,ตระกูลชั้นสูง,และสํานักราชวงศ์
ดังนั้น กําลังต่อสู้สูงสุดของสมาคมการค้าทั่วไปจะเป็นระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด
Comments