Immortal and Martial Dual Cultivation 268 ขาดแรงส่งสุดท้าย
บทที่ 268 ขาดแรงส่งสุดท้าย
สําหรับเรือสินค้าลํานี้ที่มีระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดถึงสองคน,พวกเขานับได้ว่าเป็นสมาคมใหญ่มากแล้ว
“ปัง! ปัง! ปัง!”
ดาบฉีพลุ่งพล่านสองเส้นซัดเข้าที่เสาน้ําและเกิดเสียงอันดัง คลื่นขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นที่ผิวน้ําและเรือสินค้ากระเด้งขึ้นลงก่อนที่จะหยุดลง
หลังจากที่ดาบฉีซัดเข้าไปที่เสาน้ําวนที่สูงกว่าสองร้อยเมตร,พลังและความเร็วของเสาน้ําวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้จางหายไปอย่างสมบูรณ์ เหมือนดั่งก่อนหน้านี้ มันยังคงมุ่งหน้ามาหาเรือสินค้า
เซี่ยวเฉินจ้องมองไปที่เสาน้ําวนที่กําลังเคลื่อนเข้ามาพร้อมกับครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุด,เขาก็ตัดสินใจที่จะลงมือ เหตุผลแรกก็คือเพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งทางกายภาพของตัวเอง เหตุผลที่สองก็คือต้องช่วยชีวิตตัวเองแล้ว
หลังจากที่เขาตัดสินใจได้,เซี่ยวเฉินกดเท้าดีดตัวออกจากดาดฟ้า,เคลื่อนที่ไปเป็นเส้นโค้งสีม่วง,มุ่งหน้าไปหาเสาน้ําวน
กระดูกทั่วร่างของเขาส่งเสียงแตกกร้าว พร้อมกับเขาหมุนเวียนสลักร่างพยัคฆ์มังกรอย่างบ้าคลั่ง ร่างของเขาเรืองแสงสีทองอ่อนออกมา พยัคฆ์สีทองว่ายวนเวียนรอบตัวของเขาอย่างต่อเนื่อง
“พยัคฆ์ร้ายทะลวงภูผา!”
เซี่ยวเฉินร้องตะโกน,ราวกับพยัคฆ์คํารามดังก้องไปในขุนเขาและลําไพร ทันใดนั้น,กระแสพลังของเขาทะยานขึ้นถึงขีดสุด ภาพร่างพยัคฆ์ผสานเข้ากับกําปั้นของเขาพร้อมกับเขาซัดเข้าที่เสาน้ําวนที่สูงตระหง่านอย่างรุนแรง
“ปัง!”
เสาน้ําวนพลุ่งพล่านหยุดลงในทันทีหลังโดนกําปั้นนี้ แรงสะท้อนกลับมหาศาลส่งร่างของเซี่ยวเฉินลอยกลับมาไกลกว่าสิบเมตร
“อีกครั้ง!”
เซี่ยวเฉินหัวเราะและกระโจนขึ้นมาจากน้ําใน ทันทีที่เขาร่วงลงไป หลังจากนั้นเขาซัดหมัดออกไปที่เสาน้ําวนซ้ําแล้วซ้ําเล่า
ขณะที่เซี่ยวเฉินซัดหมัดออกไป,เกิดคลื่นปรากฏขึ้นบนผิวน้ําโดยรอบ เกิดเสียงดังกึกก้องขณะที่เกลียวคลื่นสาดขึ้นในอากาศ
สายน้ําถูกยกขึ้นไปและตกลงมาราวกับฝนกระหน่ำ;เสียงผ้าของเซี่ยวเฉินเปียกปอน อย่างไรก็ตาม,ใบหน้าของเขาเป็นประกาย
ท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของทุกคน,เสาน้ําวนที่วาฬทูน่าสีดําสร้างขึ้นมาถูกกําปั้นของเซี่ยวเฉินขัดเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนต่อไปข้างหน้าก่อนที่จะค่อยๆจางหายไป
เสาน้ําวนกลายเป็นหยดน้ําเติมเต็มไปบนท้องฟ้า และร่วงโปรยลงมาราวกับห่าฝน
“ฟู ฟิว! ฟู ฟิว!”
ทันใดนั้น,ปลาประหลาดนับไม่ถ้วนกระโดดขึ้นมาจากผิวน้ําที่นิ่งสงบ, มุ่งหน้าตรงไปที่เซี่ยวเฉินปากของพวกมันเปิดออก,ฟันอันแหลมคมของพวกมันเรืองแสงเย็นเฉียบภายใต้แสงอาทิตย์
“ปะ!”
เซี่ยวเฉินซัดกําปั้นออกไปและปลาประหลาด กลับกลายเป็นก้อนเลือดร่วงกลับไปที่แม่น้ํา อาวุธของผู้บ่มเพาะพังงพวกนั้นไม่อาจสังหารปลาพวกนี้ได้เมื่อก่อนหน้านี้ แต่กําปั้นของเซี่ยวเฉินกลับทําได้อย่างง่ายดาย
ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่บนดาดฟ้าตกตะลึง,และพวกเขากล่าวขึ้น “ช่างเป็นพลังกายภาพที่แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้ พวกเรามองเขาผิดไป,เพียงแค่พลังกายภาพเพียงอย่างเดียว,เขาก็มีพบังต่อสู้เท่ากับระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดแล้ว”
“ข้าสงสัยในทักษะต่อสู้ของเขาและการบ่มเพาะพลังปราณของเขาเป็นเช่นไร หากมันแข็งแกร่งทัดเทียมกับพลังกายภาพของเขา ในแง่ของพลังในการต่อสู้,ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงทั่วไปไม่ใช่คู่มือของเขา มีเพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดเท่านั้นที่จะประมือกับเขาได้”
“ถึงกระนั้น,เขาก็ได้เปรียบเพียงแค่ตอนนี้ ในตอนที่เขาขึ้นสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,หากเขายังไม่ยอมแพ้ในการเสริมสร้างร่างกาย,เขาอาจจะไม่มีทางพัฒนาขึ้นไปได้อีกตลอดกาล
ผู้บ่มเพาะพลังทั้งหมดบนดาดฟ้าถกเถียงกันถึง พลังที่เซี่ยวเฉินแสดงออกมา พวกเขาไม่คาดคิดว่าพลังกายภาพของเซี่ยวเฉินจะแข็งแกร่งถึง เพียงนี้
กลับมาที่เรือสินค้า,ชายชราสองคนที่ซัดดาบ ออกมาได้กระโดดลงจากเรือ พวกเขาแต่ละคนซัดดาบออกมาสังหารปลาประหลาดทั้งหมดที่กระโดดขึ้นมาในอากาศ
ปลาประหลาดที่อยู่โดยรอบไม่กล้าว่ายเข้ามาใกล้,และพวกมันก็แตกหนีไปไกล
เซี่ยวเฉินสังเกตเห็นว่าดาบฉีที่คนพวกนั้นซัดออกมามันมีแสงที่เข้มข้นรุนแรง พวกมันแข็งยิ่งกว่าดาบฉีทั่วไป เห็นชัดว่าพวกมันบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก
ครั้งหนึ่งเคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่าเมื่อคนผู้หนึ่งหมดหนทางที่จะยกระดับขึ้นสูงระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,พวกเขาจะหันมาขัดเกลาทักษะต่อสู้ และดาบฉีของพวกเขาเพิ่มที่จะเพิ่มพลังในการต่อสู้
แม้ว่าคนพวกนี้จะไม่อาจก้าวขึ้นสู่ระกับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,แต่ระดับขอบเขตกษัตริย์ ยุทธขั้นต้นทั่วไปก็ไม่อาจประมาทพวกเขาได้
ดูเหมือนชายชราทั้งสองนี้จะมีสถานการณ์คล้ายคลึงกัน พลังของดาบฉีของพวกเขาอาจจะขึ้นไปถึงขีดจํากัดของระดับขอบเขตนักบุญแล้ว
“น้องชายตัวน้อย,เจ้าสนใจที่จะร่วมมือกับพวกเราสังหารวาฬทูน่าสีดํานี้หรือไม่? สมาคมของพวกเราจะขอบพระคุณยิ่ง” ชายชราผู้หนึ่งกล่าวออกมา
ชายชราอีกคนกล่าวต่อ “ตามจริง,ความแข็งแกร่งของวาฬทูน่าสีดําเทียบเท่าได้เพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด พลังต่อสู้ของพวกมันจะพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในตอนที่พวกมันอยู่ในน้ํา เป็นเหตุว่าทําไมพวกมันถูกจัดให้เป็นสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงสุด”
เซี่ยวเฉินมีความเห็นเช่นเดียวกัน สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 นั่นแตกต่างจากสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 เป็นอย่างมาก วาฬทูน่าสีดํานี่ดูไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ขั้นต้นปีศาจงูแดง
ในตอนนั้น,หยุนเข่อซินและคนอื่นๆสามารถสังหารปีศาจงูแดงลงได้ ตอนนี้มีระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดสองคน มันเป็นไป๋าดที่พวกเขาจะสังหารวาฬทูน่าสีดําลงได้
เซี่ยวเฉินพยักหน้าและกล่าวขึ้น “แน่นอน!”
เมื่อชายชราทั้งสองเห็นเซี่ยวเฉินพยักหน้าตกลง,พวกเขาก็เผยสีหน้ายินดีในทันที พวกเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของเซี่ยวเฉินกับตาแล้วเมื่อครู่ ด้วยการสนับสนุนจากเขา,พวกเขามีโอกาสมากที่จะสังหารวาฬทูน่าสีดํา
พวกเขาทั้งสามใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวของพวกเขาและเคลื่นที่ไปอย่างรวดเร็ว มุ่งไปหาวาฬทูน่าสีดําที่อยู่ข้างหน้า
เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ เซี่ยวเฉินในที่สุดก็สามารถมองเห็นรูปร่างของวาฬทูน่าสีดําได้อย่างชัดเจน ส่วนที่อยู่เหนือผิวน้ําขึ้นมาสูงกว่าหนึ่งร้อยเมตร มีหนามแหลมสีดํายื่นออกมาจากที่หลังเป็นแถว
ก่อนที่ทั้งสามจะได้เข้าไปใกล้ วังวนน้ําขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่ผิวน้ําด้านล่างของพวกเขา พลังมหาศาลดูดพวกเขาตรวลงไปที่ก้นแม่น้ําในทันที
พลังจากวังวนน้ําแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และพวกเขาทั้งสามไม่อาจต่อต้านได้ พวกเขาถูกดึงลงไปที่ส่วนบกสุดในทันที และร่างของพวกเราหมุนวนไปรอบๆ
ขณะที่เซี่ยวเฉินลดการป้องกันลง,เขาสําลักน้ําเข้าไปเต็มปาก เขาหลับตาลงและพยายามทําใจให้สงบ จากนั้น เขาจึงค่อยๆหมุนเวียนพลังปราณ, ปล่อยให้ร่างของเขาคุ้นชินกับการหมุนวน
ชายชราอีกสองคนมีประสบการณ์ยิ่งกว่าเซี่ยวเฉิน เมื่อเกิดเหตุขึ้นเช่นนี้ พวกเขาไม่ได้ตื่นตกใจแต่อย่างใด พวกเขาหมุนเวียนพลังปราณของพวกเขาและอากาศภายในพร้อมกับมองหาเส้นทางหลบหนี
ทันใดนั้น,เซี่ยวเฉินรู้สึกได้ถึงกระแสพลังอันตราย เมื่อเขาลืมตาขึ้น,เขามองเห็นปากอันมหึมา
วงวันน้ําพัดพาพวกเขาทั้งสามคนไปที่ปากขนาดมหึมาอย่างรวดเร็ว เมื่อปากมันปิดลง,วาฬทูน่าสีดําจะสามารถกลืนพวกเขาทั้งสามลงไปได้
ระเบิดยอดเขาเดียวดาย!
เซี่ยวเฉินตะโกนขึ้นมาในใจ เขาชักกระบี่ออกมาและภาพร่างคลุมเครือของยอดเขาปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา ในทันทีต่อมา มันผสานเข้ากับร่างของเขา
เซี่ยวเฉินกลายเป็นขุนเขาในทันที น้ําหนักเทียบเท่าประหนึ่งจริง เขาสามารถหลบหนีออกไปจากแรงดูดของวังวนน้ําและจมลงไปที่ก้นแม่น้ําในทันที
“ปัง!”
ในอตนที่เท้าของเซี่ยวเฉินสัมผัสกับกัน แม่น้ํา,พลังงานรุนแรงปลดปล่อยออกมาและระเบิดน้ําออกไป รอบข้างของเขากลายเป็นว่างเปล่าไปชั่วครู่,น้ําในแม่น้ําถูดซัดออกไป
วังวนน้ําของวาฬทูน่าสีดําถูกลบหายไปในทันที ชายชราทั้งสองหลบหนีออกมาและส่งดาบฉีซัดเข้าใส่วาฬทูน่าสีดําในทันที
ดาบฉีเฉียบคมตัดผ่านแรงต้านของสายน้ําราวกับลูกศร ในไม่ช้า,มันก็ซัดลงบนหลังของวาฬทูน่าสีดําและสร้างบาดแผลเอาไว้สองรอย
ดาบฉีถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง,แยกสายน้ําออกจากกันขณะที่มันลอยออกไป
พื้นที่ในระยะหนึ่งเมตรจากตัวของเซี่ยวเฉินว่างเปล่า เขาสูดหายใจเข้าลึกและกดเท้าดีดตัวขึ้นจากกั้นแม่น้ํา,กระโดดกลับขึ้นมาบนผิวน้ําและมุ่งหน้าเข้าหาวาฬทูน่าสีดํา
หากเซี่ยวเฉินยังคงยืนอยู่ที่เดิม, ในตอนที่สายน้ําไหลกลับมา,แรงกดของสายน้ําจะสะท้อนกลับมาและซัดใส่เขาอย่างรุนแรง
แม้ว่าเขาจะมีพลังกายภาพที่แข็งแกร่ง,เขาก็ไม่อาจต้านทานมันได้
บางครั้งจะเกิดมีเสาน้ําพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าปรากฏขึ้นบนผิวน้ําที่นิ่งสงบ เรือสินค้าขนาดมหึมาเขย่าไปซ้ายขวาบนผิวน้ํา ฝูงชนไม่อาจมองเห็นสถานการณ์ใต้น้ํา พวกเขารู้สึกกังวลถึงการต่อสู้ที่เข้มข้นด้านล่าง พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะทําอะไรดี
ทันใดนั้นเลือดโลหิตปรากฏขึ้นในแม่น้ําสีใส ฝูงชนอุทานขึ้น “เลือดเต็มไปหมด ข้าสงสัยว่ามันเป็นเลือดของใคร
“วาฬทูน่าดําไม่ได้โง่เง่า มันลากมั้งสามคนลงไปในน้ําตั้งแต่เริ่ม การต่อสู้ใต้น้ําเป็นเวลานานไม่เป็นผลดีกับทั้งสามคน!”
“แน่นอน,ในแง่ของพลัง,ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดสามคนจะมีโอกาสครึ่งต่อครึ่งที่จะชนะสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงสุด แต่อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้พวกเขาอยู่ใต้น้ํา โอกาสชนะของพวกเขาจะเหลือเพียงสี่ในสิบส่วน”
“พวกเราลงไปช่วยเป็นเช่นไร? หากพวกเขาตาย,วาฬทูน่าสีดําก็ไม่ปล่อยพวกเราไปง่ายๆอย่างแน่นอน”
“เช่นนั้นก็ได้ เจ้าไปคนแรก,ข้าจะตามหลังเจ้าไป”
“ทําไมเจ้าไม่ไปก่อนแทนที่จะมายอกย้อนข้าออกไปพร้อมกัน
ฝูงชนถกเถียงกันเรื่องจะตามลงไปช่วยดีหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ถกเถียงกันมาเป็นเวลานาน,ไม่มีใครกล้าพอที่จะลงไป คนพวกนี้ เป็นเพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นธรรมดาสามัญ พวกเขาไม่มีความกล้ามากพอที่จะลงไป
ภายในฝูงชน,หลิวสุยเฟิงมีสีหน้าเป็นกังวลอย่างหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม,เขาเกรงว่าถ้าหากเขาลงไป,มันจะกลายเป็นเขาที่จะขัดแข้งขัดขาเซี่ยวเฉินแทน เขาทําได้เพียงลังเลสลับไปสลับมา
“ปัง! ปัง! ปัง!”
ทันใดนั้น เกิดเสียงดังสามครั้งออกมาจาก ผิวน้ํา มันเป็นเซี่ยวเฉินและชายชราอีกสองคนที่ระเบิดผิวน้ําออกมา มีจุดสีดํากําลังว่ายหนีจาก พวกเขาอย่างรวดเร็ว มันทิ้งสายเลือดทอดยาวไว้ในทุกที่ที่มันว่ายผ่าน
พวกเขาทั้งสามรับศึกใหญ่ที่ใต้น้ํา แม้ว่าพวกเขาจะทําให้วาฬทูน่าสีดําบาดเจ็บได้,พวกเขาก็ไม่มีอะไรจะใช้หยุดไม่ให้มันว่ายหนี พวกเขาทําได้เพียงปล่อยให้มันไป
“ขอบคุณสําหรับความช่วยเหลือจากสหายตัวน้อย” ชายชราคนหนึ่งคํานับมือและกล่าวกับเซี่ยวเฉินอย่างให้ความเคารพ
นี่คือโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง ตราบใดที่มีความแข็งแกร่งทัดเทียมกัน,ไม่ขึ้นอยู่กับอายุ,คนอื่นๆก็จะปฏิบัติกับเจ้าด้วยความเคารพคนผู้นี้ได้ เห็นถึงความแข็งแกร่งของเซี่ยวเฉินแล้วที่กันแม่น้ํา,ดังนั้นเน้ําเสียงของเขาเพื่อความเคารพยิ่งกว่าก่อนหน้านี้
เซี่ยวเฉินยิ้มและกล่าว “ข้าเพียงสะดวกที่จะทํา ข้าอยากจะขัดเกลาทักษะต่อสู้ของข้า”
ชายชราอีกคนหัวเราะและกล่าวขึ้น “ฮ่าฮ่า! สหายน้อยสุภาพเกินไปแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร,เจ้าทําความชอบให้กับสมาคมของเรา กัปตันจะมาขอบคุณเจ้าในภายหลัง
หลังจากที่ชายชราทั้งสองกล่าวจบ,พวกเขากระโดดกลับไปที่หัวเรือ แจ้งให้กัปตันเรือทราบว่าอันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้วและพวกเขาสามารถเดินทางต่อได้
ขณะที่เซี่ยวเฉินจ้องมองดูวาฬทูน่าสีดําที่กําลัง หายตัวไป,เขารู้สึกโชคไม่ดี หากเขาอยากที่จะไล่ตามมันไปจริงๆ,เซี่ยวเฉินมั่นใจว่าเขาสามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ตาม,หากมันดําลงไปในน้ําลึก, มันจะเป็นการยากสําหรับเซี่ยวเฉินที่จะรับมือ กับมัน
มันเป็นการเสียเวลา ได้มาไม่คุ้มเสีย เพียวแค่คิดก็เพียงพอแล้ว
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivation 268 ขาดแรงส่งสุดท้าย
บทที่ 268 ขาดแรงส่งสุดท้าย
สําหรับเรือสินค้าลํานี้ที่มีระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดถึงสองคน,พวกเขานับได้ว่าเป็นสมาคมใหญ่มากแล้ว
“ปัง! ปัง! ปัง!”
ดาบฉีพลุ่งพล่านสองเส้นซัดเข้าที่เสาน้ําและเกิดเสียงอันดัง คลื่นขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นที่ผิวน้ําและเรือสินค้ากระเด้งขึ้นลงก่อนที่จะหยุดลง
หลังจากที่ดาบฉีซัดเข้าไปที่เสาน้ําวนที่สูงกว่าสองร้อยเมตร,พลังและความเร็วของเสาน้ําวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้จางหายไปอย่างสมบูรณ์ เหมือนดั่งก่อนหน้านี้ มันยังคงมุ่งหน้ามาหาเรือสินค้า
เซี่ยวเฉินจ้องมองไปที่เสาน้ําวนที่กําลังเคลื่อนเข้ามาพร้อมกับครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุด,เขาก็ตัดสินใจที่จะลงมือ เหตุผลแรกก็คือเพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งทางกายภาพของตัวเอง เหตุผลที่สองก็คือต้องช่วยชีวิตตัวเองแล้ว
หลังจากที่เขาตัดสินใจได้,เซี่ยวเฉินกดเท้าดีดตัวออกจากดาดฟ้า,เคลื่อนที่ไปเป็นเส้นโค้งสีม่วง,มุ่งหน้าไปหาเสาน้ําวน
กระดูกทั่วร่างของเขาส่งเสียงแตกกร้าว พร้อมกับเขาหมุนเวียนสลักร่างพยัคฆ์มังกรอย่างบ้าคลั่ง ร่างของเขาเรืองแสงสีทองอ่อนออกมา พยัคฆ์สีทองว่ายวนเวียนรอบตัวของเขาอย่างต่อเนื่อง
“พยัคฆ์ร้ายทะลวงภูผา!”
เซี่ยวเฉินร้องตะโกน,ราวกับพยัคฆ์คํารามดังก้องไปในขุนเขาและลําไพร ทันใดนั้น,กระแสพลังของเขาทะยานขึ้นถึงขีดสุด ภาพร่างพยัคฆ์ผสานเข้ากับกําปั้นของเขาพร้อมกับเขาซัดเข้าที่เสาน้ําวนที่สูงตระหง่านอย่างรุนแรง
“ปัง!”
เสาน้ําวนพลุ่งพล่านหยุดลงในทันทีหลังโดนกําปั้นนี้ แรงสะท้อนกลับมหาศาลส่งร่างของเซี่ยวเฉินลอยกลับมาไกลกว่าสิบเมตร
“อีกครั้ง!”
เซี่ยวเฉินหัวเราะและกระโจนขึ้นมาจากน้ําใน ทันทีที่เขาร่วงลงไป หลังจากนั้นเขาซัดหมัดออกไปที่เสาน้ําวนซ้ําแล้วซ้ําเล่า
ขณะที่เซี่ยวเฉินซัดหมัดออกไป,เกิดคลื่นปรากฏขึ้นบนผิวน้ําโดยรอบ เกิดเสียงดังกึกก้องขณะที่เกลียวคลื่นสาดขึ้นในอากาศ
สายน้ําถูกยกขึ้นไปและตกลงมาราวกับฝนกระหน่ำ;เสียงผ้าของเซี่ยวเฉินเปียกปอน อย่างไรก็ตาม,ใบหน้าของเขาเป็นประกาย
ท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของทุกคน,เสาน้ําวนที่วาฬทูน่าสีดําสร้างขึ้นมาถูกกําปั้นของเซี่ยวเฉินขัดเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนต่อไปข้างหน้าก่อนที่จะค่อยๆจางหายไป
เสาน้ําวนกลายเป็นหยดน้ําเติมเต็มไปบนท้องฟ้า และร่วงโปรยลงมาราวกับห่าฝน
“ฟู ฟิว! ฟู ฟิว!”
ทันใดนั้น,ปลาประหลาดนับไม่ถ้วนกระโดดขึ้นมาจากผิวน้ําที่นิ่งสงบ, มุ่งหน้าตรงไปที่เซี่ยวเฉินปากของพวกมันเปิดออก,ฟันอันแหลมคมของพวกมันเรืองแสงเย็นเฉียบภายใต้แสงอาทิตย์
“ปะ!”
เซี่ยวเฉินซัดกําปั้นออกไปและปลาประหลาด กลับกลายเป็นก้อนเลือดร่วงกลับไปที่แม่น้ํา อาวุธของผู้บ่มเพาะพังงพวกนั้นไม่อาจสังหารปลาพวกนี้ได้เมื่อก่อนหน้านี้ แต่กําปั้นของเซี่ยวเฉินกลับทําได้อย่างง่ายดาย
ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่บนดาดฟ้าตกตะลึง,และพวกเขากล่าวขึ้น “ช่างเป็นพลังกายภาพที่แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้ พวกเรามองเขาผิดไป,เพียงแค่พลังกายภาพเพียงอย่างเดียว,เขาก็มีพบังต่อสู้เท่ากับระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดแล้ว”
“ข้าสงสัยในทักษะต่อสู้ของเขาและการบ่มเพาะพลังปราณของเขาเป็นเช่นไร หากมันแข็งแกร่งทัดเทียมกับพลังกายภาพของเขา ในแง่ของพลังในการต่อสู้,ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงทั่วไปไม่ใช่คู่มือของเขา มีเพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดเท่านั้นที่จะประมือกับเขาได้”
“ถึงกระนั้น,เขาก็ได้เปรียบเพียงแค่ตอนนี้ ในตอนที่เขาขึ้นสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,หากเขายังไม่ยอมแพ้ในการเสริมสร้างร่างกาย,เขาอาจจะไม่มีทางพัฒนาขึ้นไปได้อีกตลอดกาล
ผู้บ่มเพาะพลังทั้งหมดบนดาดฟ้าถกเถียงกันถึง พลังที่เซี่ยวเฉินแสดงออกมา พวกเขาไม่คาดคิดว่าพลังกายภาพของเซี่ยวเฉินจะแข็งแกร่งถึง เพียงนี้
กลับมาที่เรือสินค้า,ชายชราสองคนที่ซัดดาบ ออกมาได้กระโดดลงจากเรือ พวกเขาแต่ละคนซัดดาบออกมาสังหารปลาประหลาดทั้งหมดที่กระโดดขึ้นมาในอากาศ
ปลาประหลาดที่อยู่โดยรอบไม่กล้าว่ายเข้ามาใกล้,และพวกมันก็แตกหนีไปไกล
เซี่ยวเฉินสังเกตเห็นว่าดาบฉีที่คนพวกนั้นซัดออกมามันมีแสงที่เข้มข้นรุนแรง พวกมันแข็งยิ่งกว่าดาบฉีทั่วไป เห็นชัดว่าพวกมันบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก
ครั้งหนึ่งเคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่าเมื่อคนผู้หนึ่งหมดหนทางที่จะยกระดับขึ้นสูงระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,พวกเขาจะหันมาขัดเกลาทักษะต่อสู้ และดาบฉีของพวกเขาเพิ่มที่จะเพิ่มพลังในการต่อสู้
แม้ว่าคนพวกนี้จะไม่อาจก้าวขึ้นสู่ระกับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,แต่ระดับขอบเขตกษัตริย์ ยุทธขั้นต้นทั่วไปก็ไม่อาจประมาทพวกเขาได้
ดูเหมือนชายชราทั้งสองนี้จะมีสถานการณ์คล้ายคลึงกัน พลังของดาบฉีของพวกเขาอาจจะขึ้นไปถึงขีดจํากัดของระดับขอบเขตนักบุญแล้ว
“น้องชายตัวน้อย,เจ้าสนใจที่จะร่วมมือกับพวกเราสังหารวาฬทูน่าสีดํานี้หรือไม่? สมาคมของพวกเราจะขอบพระคุณยิ่ง” ชายชราผู้หนึ่งกล่าวออกมา
ชายชราอีกคนกล่าวต่อ “ตามจริง,ความแข็งแกร่งของวาฬทูน่าสีดําเทียบเท่าได้เพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด พลังต่อสู้ของพวกมันจะพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในตอนที่พวกมันอยู่ในน้ํา เป็นเหตุว่าทําไมพวกมันถูกจัดให้เป็นสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงสุด”
เซี่ยวเฉินมีความเห็นเช่นเดียวกัน สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 นั่นแตกต่างจากสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 เป็นอย่างมาก วาฬทูน่าสีดํานี่ดูไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ขั้นต้นปีศาจงูแดง
ในตอนนั้น,หยุนเข่อซินและคนอื่นๆสามารถสังหารปีศาจงูแดงลงได้ ตอนนี้มีระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดสองคน มันเป็นไป๋าดที่พวกเขาจะสังหารวาฬทูน่าสีดําลงได้
เซี่ยวเฉินพยักหน้าและกล่าวขึ้น “แน่นอน!”
เมื่อชายชราทั้งสองเห็นเซี่ยวเฉินพยักหน้าตกลง,พวกเขาก็เผยสีหน้ายินดีในทันที พวกเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของเซี่ยวเฉินกับตาแล้วเมื่อครู่ ด้วยการสนับสนุนจากเขา,พวกเขามีโอกาสมากที่จะสังหารวาฬทูน่าสีดํา
พวกเขาทั้งสามใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวของพวกเขาและเคลื่นที่ไปอย่างรวดเร็ว มุ่งไปหาวาฬทูน่าสีดําที่อยู่ข้างหน้า
เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ เซี่ยวเฉินในที่สุดก็สามารถมองเห็นรูปร่างของวาฬทูน่าสีดําได้อย่างชัดเจน ส่วนที่อยู่เหนือผิวน้ําขึ้นมาสูงกว่าหนึ่งร้อยเมตร มีหนามแหลมสีดํายื่นออกมาจากที่หลังเป็นแถว
ก่อนที่ทั้งสามจะได้เข้าไปใกล้ วังวนน้ําขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่ผิวน้ําด้านล่างของพวกเขา พลังมหาศาลดูดพวกเขาตรวลงไปที่ก้นแม่น้ําในทันที
พลังจากวังวนน้ําแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และพวกเขาทั้งสามไม่อาจต่อต้านได้ พวกเขาถูกดึงลงไปที่ส่วนบกสุดในทันที และร่างของพวกเราหมุนวนไปรอบๆ
ขณะที่เซี่ยวเฉินลดการป้องกันลง,เขาสําลักน้ําเข้าไปเต็มปาก เขาหลับตาลงและพยายามทําใจให้สงบ จากนั้น เขาจึงค่อยๆหมุนเวียนพลังปราณ, ปล่อยให้ร่างของเขาคุ้นชินกับการหมุนวน
ชายชราอีกสองคนมีประสบการณ์ยิ่งกว่าเซี่ยวเฉิน เมื่อเกิดเหตุขึ้นเช่นนี้ พวกเขาไม่ได้ตื่นตกใจแต่อย่างใด พวกเขาหมุนเวียนพลังปราณของพวกเขาและอากาศภายในพร้อมกับมองหาเส้นทางหลบหนี
ทันใดนั้น,เซี่ยวเฉินรู้สึกได้ถึงกระแสพลังอันตราย เมื่อเขาลืมตาขึ้น,เขามองเห็นปากอันมหึมา
วงวันน้ําพัดพาพวกเขาทั้งสามคนไปที่ปากขนาดมหึมาอย่างรวดเร็ว เมื่อปากมันปิดลง,วาฬทูน่าสีดําจะสามารถกลืนพวกเขาทั้งสามลงไปได้
ระเบิดยอดเขาเดียวดาย!
เซี่ยวเฉินตะโกนขึ้นมาในใจ เขาชักกระบี่ออกมาและภาพร่างคลุมเครือของยอดเขาปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา ในทันทีต่อมา มันผสานเข้ากับร่างของเขา
เซี่ยวเฉินกลายเป็นขุนเขาในทันที น้ําหนักเทียบเท่าประหนึ่งจริง เขาสามารถหลบหนีออกไปจากแรงดูดของวังวนน้ําและจมลงไปที่ก้นแม่น้ําในทันที
“ปัง!”
ในอตนที่เท้าของเซี่ยวเฉินสัมผัสกับกัน แม่น้ํา,พลังงานรุนแรงปลดปล่อยออกมาและระเบิดน้ําออกไป รอบข้างของเขากลายเป็นว่างเปล่าไปชั่วครู่,น้ําในแม่น้ําถูดซัดออกไป
วังวนน้ําของวาฬทูน่าสีดําถูกลบหายไปในทันที ชายชราทั้งสองหลบหนีออกมาและส่งดาบฉีซัดเข้าใส่วาฬทูน่าสีดําในทันที
ดาบฉีเฉียบคมตัดผ่านแรงต้านของสายน้ําราวกับลูกศร ในไม่ช้า,มันก็ซัดลงบนหลังของวาฬทูน่าสีดําและสร้างบาดแผลเอาไว้สองรอย
ดาบฉีถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง,แยกสายน้ําออกจากกันขณะที่มันลอยออกไป
พื้นที่ในระยะหนึ่งเมตรจากตัวของเซี่ยวเฉินว่างเปล่า เขาสูดหายใจเข้าลึกและกดเท้าดีดตัวขึ้นจากกั้นแม่น้ํา,กระโดดกลับขึ้นมาบนผิวน้ําและมุ่งหน้าเข้าหาวาฬทูน่าสีดํา
หากเซี่ยวเฉินยังคงยืนอยู่ที่เดิม, ในตอนที่สายน้ําไหลกลับมา,แรงกดของสายน้ําจะสะท้อนกลับมาและซัดใส่เขาอย่างรุนแรง
แม้ว่าเขาจะมีพลังกายภาพที่แข็งแกร่ง,เขาก็ไม่อาจต้านทานมันได้
บางครั้งจะเกิดมีเสาน้ําพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าปรากฏขึ้นบนผิวน้ําที่นิ่งสงบ เรือสินค้าขนาดมหึมาเขย่าไปซ้ายขวาบนผิวน้ํา ฝูงชนไม่อาจมองเห็นสถานการณ์ใต้น้ํา พวกเขารู้สึกกังวลถึงการต่อสู้ที่เข้มข้นด้านล่าง พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะทําอะไรดี
ทันใดนั้นเลือดโลหิตปรากฏขึ้นในแม่น้ําสีใส ฝูงชนอุทานขึ้น “เลือดเต็มไปหมด ข้าสงสัยว่ามันเป็นเลือดของใคร
“วาฬทูน่าดําไม่ได้โง่เง่า มันลากมั้งสามคนลงไปในน้ําตั้งแต่เริ่ม การต่อสู้ใต้น้ําเป็นเวลานานไม่เป็นผลดีกับทั้งสามคน!”
“แน่นอน,ในแง่ของพลัง,ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดสามคนจะมีโอกาสครึ่งต่อครึ่งที่จะชนะสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงสุด แต่อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้พวกเขาอยู่ใต้น้ํา โอกาสชนะของพวกเขาจะเหลือเพียงสี่ในสิบส่วน”
“พวกเราลงไปช่วยเป็นเช่นไร? หากพวกเขาตาย,วาฬทูน่าสีดําก็ไม่ปล่อยพวกเราไปง่ายๆอย่างแน่นอน”
“เช่นนั้นก็ได้ เจ้าไปคนแรก,ข้าจะตามหลังเจ้าไป”
“ทําไมเจ้าไม่ไปก่อนแทนที่จะมายอกย้อนข้าออกไปพร้อมกัน
ฝูงชนถกเถียงกันเรื่องจะตามลงไปช่วยดีหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ถกเถียงกันมาเป็นเวลานาน,ไม่มีใครกล้าพอที่จะลงไป คนพวกนี้ เป็นเพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นธรรมดาสามัญ พวกเขาไม่มีความกล้ามากพอที่จะลงไป
ภายในฝูงชน,หลิวสุยเฟิงมีสีหน้าเป็นกังวลอย่างหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม,เขาเกรงว่าถ้าหากเขาลงไป,มันจะกลายเป็นเขาที่จะขัดแข้งขัดขาเซี่ยวเฉินแทน เขาทําได้เพียงลังเลสลับไปสลับมา
“ปัง! ปัง! ปัง!”
ทันใดนั้น เกิดเสียงดังสามครั้งออกมาจาก ผิวน้ํา มันเป็นเซี่ยวเฉินและชายชราอีกสองคนที่ระเบิดผิวน้ําออกมา มีจุดสีดํากําลังว่ายหนีจาก พวกเขาอย่างรวดเร็ว มันทิ้งสายเลือดทอดยาวไว้ในทุกที่ที่มันว่ายผ่าน
พวกเขาทั้งสามรับศึกใหญ่ที่ใต้น้ํา แม้ว่าพวกเขาจะทําให้วาฬทูน่าสีดําบาดเจ็บได้,พวกเขาก็ไม่มีอะไรจะใช้หยุดไม่ให้มันว่ายหนี พวกเขาทําได้เพียงปล่อยให้มันไป
“ขอบคุณสําหรับความช่วยเหลือจากสหายตัวน้อย” ชายชราคนหนึ่งคํานับมือและกล่าวกับเซี่ยวเฉินอย่างให้ความเคารพ
นี่คือโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง ตราบใดที่มีความแข็งแกร่งทัดเทียมกัน,ไม่ขึ้นอยู่กับอายุ,คนอื่นๆก็จะปฏิบัติกับเจ้าด้วยความเคารพคนผู้นี้ได้ เห็นถึงความแข็งแกร่งของเซี่ยวเฉินแล้วที่กันแม่น้ํา,ดังนั้นเน้ําเสียงของเขาเพื่อความเคารพยิ่งกว่าก่อนหน้านี้
เซี่ยวเฉินยิ้มและกล่าว “ข้าเพียงสะดวกที่จะทํา ข้าอยากจะขัดเกลาทักษะต่อสู้ของข้า”
ชายชราอีกคนหัวเราะและกล่าวขึ้น “ฮ่าฮ่า! สหายน้อยสุภาพเกินไปแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร,เจ้าทําความชอบให้กับสมาคมของเรา กัปตันจะมาขอบคุณเจ้าในภายหลัง
หลังจากที่ชายชราทั้งสองกล่าวจบ,พวกเขากระโดดกลับไปที่หัวเรือ แจ้งให้กัปตันเรือทราบว่าอันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้วและพวกเขาสามารถเดินทางต่อได้
ขณะที่เซี่ยวเฉินจ้องมองดูวาฬทูน่าสีดําที่กําลัง หายตัวไป,เขารู้สึกโชคไม่ดี หากเขาอยากที่จะไล่ตามมันไปจริงๆ,เซี่ยวเฉินมั่นใจว่าเขาสามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ตาม,หากมันดําลงไปในน้ําลึก, มันจะเป็นการยากสําหรับเซี่ยวเฉินที่จะรับมือ กับมัน
มันเป็นการเสียเวลา ได้มาไม่คุ้มเสีย เพียวแค่คิดก็เพียงพอแล้ว
Comments