Immortal and Martial Dual Cultivation 292 หรูขุยทะลวงสวรรค์

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 292 หรูขุยทะลวงสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 292 หรูขุยทะลวงสวรรค์

เชี่ยวเฉินถอนกระบี่ของเขากลับมาและหยุดมือลงเขารู้สึกพึงพอใจ;สามกระบวณท่าพื้นฐานกําลังเข้าใกล้ระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมตอนนี้เขาสามารถส่งกระบี่ฉีหนาแน่นออกมาได้เก้าเล่มพร้อมกัน

คุณภาพของกระบี่ระดับขอบเขตนักบุญด้อยกว่าของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธอย่างมากแต่อย่างไรก็ตาม,เซียวเฉินมีหวี่ขยแพรวพราวกระบี่ฉีที่ก่อตัวขึ้นมาจากกิ่งหมู่ขุยไม่ได้ด้อยไปกว่าของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธดังนั้น,จุดอ่อนตรงนี้จึงได้รับการแก้ไข

นอกจานั้น,กระบวณท่านี้ผลาญพลังปราณเพียงเล็กน้อยเซียวเฉินสามารถใช้ออกได้ไม่จบไม่สิ้นสามารถใช้ออกได้จนพลังปราณของเขาเดือดแห้งและไม่ต่างอะไรไปจากกระบี่

ในด้านของคุณภาพกระบี่ฉี,เชี่ยวเฉินได้เปรียเหนือมู่หลงชงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ข้อได้เปรียบที่ใหญ่โต,มันก็ยังช่วยเพิ่มโอกาสชนะของเขาอีกเล็ กน้อย
เซี่ยวเฉินในที่สุดก็ฝึกฝนจบสามกระบวณท่าพื้นฐานจากนั้เขาเริ่มฝึกฝนสามกระบวณท่าฆ่าฟัน,หวี่ขุยสะท้านสวรรค์,หรูขุยผลิบานและหรูขุยคําสวรรค์

จากสามกระบวณท่าฆ่าฟัน,หรูขุยสวรรค์เป็นกระบวณท่าเดี่ยวสําหรับหวี่ขยสะท้านสวรรค์และหรูขุยผลิบาน,พวกมันเป็นกระบวณท่าต่อเนื่องเพื่อที่จะปลดปล่อยพลังออกมาให้ได้มากที่สุด

หลังจากที่เซียวเฉินฝึกฝนจบสามกระบวณท่าฆ่าฟัน,พื้นดินเป็นรอยแยกขยายไปทุกที่กระแสไฟฟ้าล่องลอยไปในอากาศเขาหยุดเคลื่อนไหวและพักอยู่ครู่หนึ่ง

“หวี่ขุยทะลวงสวรรค์!”

เซียวเฉินร้องตะโกนและตามด้วยการหมุนเวียน ปราณไปในรูปแบบของทักษะกระบี่หรู่ขุย,พยายามใช้ออกกระบวณท่าที่เจ็ด

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์โบราณค่อยๆเติบโตขึ้นเหนือ หัวของเขาเริ่มงอกออกมาจากรากอย่างไรก็ตาม,ก่อนที่มันจะได้เติบโตเต็มที่มีกระบี่แสงปรากฏขึ้นบนกระบี่ของเขาและขยายออกไปอย่างน้อยหนึ่งร้อยเมตร

ความประหลาดใจเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซียวเฉินเขากล่าวเสียงนุ่ม “ข้าปลดปล่อยมันออกมาเร็วเกินไปข้ายังใช้เวลาในการหมุนเวียนไม่เหมาะสมเอาอีกครั้ง!”

“บูม!” ล้มเหลวเป็นครั้งที่สอง เหมือก่อนหน้านี้,กระบี่ฉีขยายออกไปยาวร้อยเมตรก่อนที่จะหายไปพลังของมันเทียบเท่าไม่ได้กับของหวี่ขุย แพรวพราว

ล้มเหลวครั้งที่สาม…ครั้งที่สี่…ครั้งที่ห้า…ล้มเหลวอีกแล้ว!

เซียวเฉินเคว้งคว้างหลังจากที่ล้มเหลวมาหลายครั้งแต่เขาไม่ได้แสดงอาการท้อใจแม้แต่น้อยที่ครั้งที่เขาล้มเหลว,เขาพยายามค้นหาสาเหตุที่เขาล้มเหลวและลองใหม่อีกครั้ง

พลังของกระบวณท่าฆ่าฟันของทักษะกระบหรูขุยนั้นรุนแรงมากแล้วพวกมันสามารถสังหารระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้นได้เซี่ยวเฉินเชื่อว่ากระบวณท่าปลิดชีพจะรุนแรงยิ่งกว่า

TL:ทักษะกระบี่หรูขุยมี 9 กระบวณท่านะครับสามกระบวณท่าแรกคือพื้นฐาน สี่ถึงหกคือ กระบวณท่าฆ่าฟันเจ็ดถึงเก้าคือกระบวณท่าปลิดชีพนะครับเผื่อใครงง

ระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้นทั่วไปไม่อาจมีชีวิตรอดดังนั้นเป็นเรื่องปกติที่มันยากที่จะเรียนรู้ โช คดี,ความอดทนต่อความเปล่าเปลี่ยวของเซียวเฉินสูงเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าเขาจะประสบความล้ม เหลวซ้ําแล้วซ้ําเล่า,เขาก็ไม่ท้อใจแม้แต่น้อย

“ฟุ ฟิว!”

ต้นหรูขุยเหนือหัวของเขาเติบโตจนเกือบจะถึง ระดับสมบูรณ์อย่างไรก็ตาม,กระบี่แสงยังปรากฎขึ้นก่อนเวลาในครั้งนี้มันขยายออกไปห้าร้อยเมตร

เซี่ยวเฉินปาดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขาและให้กําลังใจกับตัวเอง “ก็ไม่เลวเสียทีเดียวข้าเหลืออีกเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะสําเร็จเวลายังดํา เนินต่อไป”

หลังจากที่ฝึกฝนมาเป็นเวลานาน,เซี่ยวเฉินมีความเข้าใจเล็กน้อยเกี่ยวกับความลึกซึ้งของหวี่ขุยทะลวงสวรรค์

จุดสําคัญของกระบวณท่านี้คือปรากฎการณ์ล็กลับ,การหมุนเวียนพลังปราณ,และจังหวะในการปลดปล่อยออกมาทั้งสามส่วนต้องสมบูรณ์พร้อม กันเพื่อที่จะใช้ออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
สิ่งที่เรียกว่า ปรากฎการณ์ลึกลับ” หมายถึง ต้นหรูขุยที่เหนือหัวของเขา อีกสองส่วนที่เหลื อง่ายดายที่จะเข้าใจแต่ยากที่จะสําเร็จ

สําหรับตอนนี้ เซียวเฉินได้เข้าใจถึงการสํา แดงปรากฏการณ์ลึกลับอย่างครบถ้วน เขาสามารถรวบคุมความเร็วในการหมุนเวียนพลังปราณได้เกือบจะดั่งใจอีกสิ่งเดียวที่เขาไม่อาจควบคุมได้คือจังหวะในการปลดปล่อย

โดยไม่รู้เวลา,ท้องฟ้าเริ่มที่จะมืดลงเซี่ยวเฉินฝึกฝนกระบวณท่านี้ต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
“หวี่ขุยทะลวงสวรรค์!”

เซียวเฉินร้องตะโกน, และต้นหรูขุยศักดิ์สิทธิ์โบ ราณค่อยๆก่อตัวขึ้น ในทันทีที่ต้นหวี่ขยก่อตัวขึ้นครบถ้วน,กระบี่แสงรุ่งโรจน์ปรากฏขึ้นบนกระบี่เงา จันทร์ของเขาและฉายแสงในท้องฟ้าที่มืดมิด

กระบี่แสงขยายตัวโตขึ้นอย่างรวดเร็วภายในชั่วอึดใจ,มันขยายออกไปกว่าหนึ่งพันเมตรและขึ้นไปถึงที่ข้างหน้าผาเกิดเสียงระเบิดดัง,มีหลุมที่ดูไร้กันปรากฏขึ้นดินหินถล่มลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน

ในที่สุดข้าก็สําเร็จ! เชี่ยวเฉินเผยท่าทีดีอกดีใจผู้สําเร็จคือผู้ที่อดทนในที่สุดเขาก็บรรลุกระบวณท่านี้

ขั้นต่อไปจะเป็นการลองผสานมันเข้ากับสภาวะแห่งสายฟ้าการหลอมรวมเข้ากับสภาวะแห่ง สายฟ้าอย่างแท้จริงเท่านั้นที่จะสามารถปลด ปล่อยพลังของกระบวณท่านี้ออหมาได้อย่างสมบูรณ์
เมฆดํามืดปั่นป่วนบนท้องฟ้า;เสียงฟ้าคํารามทุ่มต่ําดังออกมาไม่หยุดหย่อนบางครั้ง,มีสายฟ้าเส้นบางวิ่งผ่านท้องฟ้า,สว่างลงมาที่พื้นดิน

เซี่ยวเฉินมีสีหน้านิ่งสงบพร้อมกับมือขวาของเขาจับไปที่ด้ามกระบี่สภาวะแห่งสายฟ้าก่อตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเสียงฟ้าคํารามกลายเป็นงดุดันขึ้นหลังจากเวลาผ่านไปมันราวกับกองทัพใหญ่กําลังเคลื่อนพลและโห่ร้องออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
เสียงสนั่นกึกก้องดังสะท้อนไปมาที่ด้านหลังของภูเขาสายลมสีม่วงพัดผ่านไปในอากาศ,ส่งเสียง “ซี่ ซี่”ออกมาไม่หยุดหย่อน

“หวี่ขุยทะลวงสวรรค์!”

เซียวเฉินตะโกน,และต้นหวี่ขยศักดิ์สิทธิ์โบราณเติบโตที่เหนือหัวของเขาอย่างรวดเร็วในตอนที่การเติบโตของต้นหรูขุยหยุดชะงัก,เตี๋ยวเฉินเคลื่อนมือขวาของเขาอย่างรวดเร็ว

“ฟุ ฟิว!”

เสาแสงรุ่งโรจน์ปรากฏขึ้นบนกระบี่สีขาวหิมะเสียงคํารามในอากาศยังดังขึ้นต่อไปไม่หยุดอย่างไรก็ตามมันหยุดเงียบหายไปในชั่วเสี้ยววินาที่หนึ่ง

จากนั้นเสียงสายฟ้าสนั่นคํารามเส้นสายฟ้าสีม่วงทะลวงผ่านเมฆอันมืดมิดบนท้องฟ้า,เคลื่อนไหวผ่านท้องฟ้ายามค่ําคืนมันราวกับมังกรคลั่งคําราม

งมาจากท้องฟ้า

ในจังหวะนั้น,กระแสพลังของเซี่ยวเฉินเร่ง นถึงขีดสุดมันเป็นราวกับกระบี่ล้ําค่าที่กําลังชักออกมาจากฝัก,ความโชติช่วงของมันเผยออก,ฉายส่องไปทั่วทุกทิศทางมันเป็นที่สะกดสายตาราวกับคมกระบวาดผ่านอากาศ
“ยิ้ม..”

สภาวะแห่งสายฟ้สและทักษะกระบี่หลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างลงตัวเสาแสงบนคมกระบี่ขยายออกอย่างรวดเร็วทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียว

ในตอนที่ยอดเขาเล็ก,ที่อยู่ห่างไปหนึ่งพันเมต รตรงหน้า,ถูกซัดด้วยเสาแสงต้นนี้มันแตกสลายลงดินหินถล่มลงมา,ไม่เหลืออะไรนอกจากซากผุพัง

ก้อนหินที่ปะทะเข้ากับเสาแสงเปลี่ยนกลายไปเป็นฝุ่นดินและแตกสลายไปตามสายลม,หายสิ้นไปอย่างสมบูรณ์

“เคว้ง!”

เซียวเฉินคืนกระบกลับเข้าฝัก และหมู่เมฆ คํารามบนท้องฟ้าพลันจางหายไปในทันทีเสียงสายฟ้าคํารามหยุดลง,และค่ําคืนกลายเป็นเงียบสงบอีกครั้งมีเพียงเสียงหินที่กําลังร่วงลงมาที่เหลืออยู่

เชี่ยวเฉินเผยสีหน้าเป็นสุข เขาพึมพํา “หลังจากผ่านไปสองวัน,ในที่สุดข้าก็หลอมรวมสภาวะแห่งสายฟ้ากับหรูขุยทะลวงสวรรค์ได้อย่างสมบูรณ์กระบวณท่านี้เพียงพอที่จะให้ข้าดูแคลนผู้ บ่มเพาะพลังระดับขอบเขตนักบุญ ด้วยพลังของมัน,ทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ขั้นต่ําต้องอับอาย

เซียวเฉินนั่งลงขัดสมาธิตรงจุดที่เขาอยู่ เขา หยิบเอาหินวิญญาณระดับกลางออกมาและฟื้นฟูพลังปราณของเขาอย่างรวดเร็ว

ผ่านไปครู่หนึ่งเขาเติมเต็มพลังปราณที่เดือดแห้งของเขากลับมาสมบูรณ์ นอกจากนั้นยังมีพลังงานจิตวิญญาณในหินวิญญาณระดับกลางหลงเหลืออยู่เล็กน้อยเซี่ยวเฉินคว้าเอาข้อได้เปรียบนี้และเข้าสู่สภาวะบ่มเพาะพลัง

เซียวเฉินส่งพลังงานจิตวิญญาณที่เหลืออยู่เข้าไปในวังวนฉีที่จุดต้นเที่ยนของเขาเมื่อเขาดึงพลังของหินวิญญาณจนหมด,วังวนหมุนวนหมุนวนและเพิ่มขนาดขึ้นเล็กน้อยความจุพลังปราณของเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

เซียวเฉินไม่รีบร้อนลุกขึ้น กลับกัน,เขาหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ต่อและฉีดพลังงานที่เขาเพิ่งดูดซับเข้าสู่ร่างของเขา,เปลี่ยนให้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของขอบเขตพลังของเขา

หลังจากที่ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์หมุนเวียนครบรอบใหญ่,เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นในทันทีและแสงสีม่วงวูบไหวในม่านตาของเขา

เซียวเฉินลุกขึ้นและมองไปยังเส้นขอบฟ้าที่อยู่ไกลออกไปแสงเรืองอ่อนเริ่มปรากฏขึ้นที่เส้นขอบฟ้ารุ่งอรุณได้มาเยือนแล้วเขากล่าว”หลังจากที่ฟ้าสว่าง,ข้าจะเหลือเวลาอีกห้าวันหรูขุยทะลวงสวรรค์เพียงเพิ่งจะหลอมนวมเข้ากับสภสวะแห่งสายฟ้านั้นหมายความว่าข้าเหลือเพียงอีกสี่วัน”จากสี่วัน,ข้าจะใช้สามวันในการฝึกฝนกระบวณท่าที่แปดของทักษะกระบี่หว่าขุยอีก หนึ่งวันที่เหลือข้าใช้ในการปรับปรุงและแก้ไขสายฟ้าฉับพลันคํารามเช่นนี้,ข้าจะมีไพ่ตายสามใบ”

หลังจากที่เซียวเฉินเอาอาหารแห้งในแหวนห้วงจักรวาลออกมาและลงมือจัดการ,เขาทําความคุ้นเคยกับการหลอมรวมหรูขุยทะลวงสวรรค์และสภาวะแห่งสายฟ้าต่อไป

ที่รอบนอกเทือกเขาหลิงหยุยอันกว้างใหญ่มันไม่รู้ได้ว่าแท้จริงแล้วมันกว้างใหญ่ถึงเพียงใด:มันมียอดเขาเดี่ยวมากมายมู่หลงชงยืนอยู่บนยอดเขาอันเงียบสงบแห่งนี้ยอดเขานี้โล่งเตียน;ไม่มีพืชพันธุ์แม่แต่น้อยมีเพียงดินหินอยู่เต็มพื้นที่

หน้าผาของมันสูงประมาณสองพันเมตร,สายลมพัดผ่านอย่างดิบเถื่อน เสื้อผ้าของมู่หลงชงปลิวไหว

“เฟียว!

มู่หลงชงทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้น,แสงปรากฏขึ้นเบื้องลึกในดวงตาทันใดนั้น,ผมของเขาก็หยุดปลิวไหวสายลมราวกับพัดผ่านทะลุร่างของเขาไปเขาผสานเป็นหนึ่งเดียวกับสายลม

“สภาวะแห่งสายลมของข้าในที่สุดก็มาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมข้าสามารถทลายกําแพงเสียงลงได้แล้วเช่นนี้,ข้าจะมีโอกาสเจ็ดในสิบส่วนที่จะหลบเลี่ยงกระบวณท่านั้นของเขาได้”

มู่หลงชงกล่าวกับตัวเองจากนั้น,ร่างของเขาวูบไหวไปตามทิศทางของสายลมขณะที่เขาเคลื่อนไหว,มันเกิดเป็นเสียงภายในพริบตา,เขาก็เคลื่อนไปไกลห้าร้อยเมตร

ร่างของมู่หลงชงกระพริบไหวไม่หยุดพร้อมกับเขาเคลื่อนตรงไปที่ตีนเขา สูงขึ้นไปบน ท้องฟ้า,ชั้นหมู่เมฆค่อยๆปั่นป่วนขึ้นบนท้องฟ้าที่สดใส

หมู่เมฆบนท้องฟ้าดูเหมือนกับถูกดึงนําไปด้วยพลังลึกลับพวกมันเริ่มเข้าชนกันที่ความเร็วสูง ในตอนที่หมู่เมฆเข้าชนกัน,สายฟ้าแตกตัวบนท้องฟ้า
” ฟุ ฟิว!”

มู่หลงชงชักกระบี่ของเขาออกมา,และเส้นสายฟ้าร่วงหล่นก่อนที่เส้นสายฟ้าจะได้ลงมาถึงพื้น,เกิดสายลมอันแข็งแกร่งพัดผ่าน

เส้นสายฟ้าผสานเข้ากับสายลมในทันที,และสายลมรุนแรงเปลี่ยนกลายเป็นสีม่วงทันใดก่อเกิดเป็นพายุหมุนสีม่วงกระแสไฟฟ้ากระพริบไหวในอากาศ,พร้อมกับฟ้าร้องคําราม

มู่หลงชงกระโดดขึ้นไปในอากาศ,ร่างของเขาดูเหมืออากาศธาตุและไร้รูป,ราวกับก้อนเมฆลอยผ่านลมพายุหมุนสีม่วงติดตามด้านหลังของเขา,ที่กําลังเรลื่อนไหวขึ้นลง

ทุกที่ที่มันผ่าน,พายุหมุนสรม่วงระเบิดก้อนหินใหญ่มากมายกลายเป็นผุยผง พวกมันกลายเป็นฝุ่นที่ลอยไปตามสายลมฝุ่นควันเติมเต็มไปในหมู่เมฆเป็นสีเหลือง

“ขับเมฆาล่าอัสนี!”

มู่หลงชัง ผู้ที่เคลื่อนไหวไปในอากาศอย่างไม่มีรูปแบบ,ร้องตะโกนขึ้นพายุหมุนสีม่วงเปลี่ยนและแปลงไปเป็นมังกรหลากสีม่วงมันเคลื่อนไปตาม ทิศทางที่กระบี่แสงของเขาชี้นํา

มันรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ:มันเกือบที่จะแตะความเร็วเสียงมังกรหลาก,ที่ก่อเกิดขึ้นมาจากก้อนเมฆ,สายลม,และกระแสไฟฟ้า,ทะยานเข้าปะทะกับยอดเขาจุดบนของยอดเขาแตกสลายและเปลี่ยนกลายเป็นผุยผงในทันที

“แหวกเมฆเบิกนภา!”

มู่หลงชงร้องตะโกนออกมาอีกครั้งและลงจอดที่พื้นแสงรุ่งโรจน์ปรากฏขึ้นบนตัวกระบี่ของเขา

ทันใดนั้น มันเติบโตขึ้น,ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้ากระบี่แสงตัดแยกหมู่เมฆที่กําลังปั่นป่วนในทันทีดวงตะวันเจิดจ้าเผยตัว,เผาไหม้สว่างไสวยิ่งกว่าก่อนหน้านี้

“ประณามสวรรค์ปฐพี!”

ทันใดนั้น มู่หลงชงร้องตะโกนขึ้นและกระบี่ของเขาเรืองแสงเย็นขึ้นมาสั่นสะเทือนอย่างไม่หยุดหย่อน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 292 หรูขุยทะลวงสวรรค์

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 292 หรูขุยทะลวงสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 292 หรูขุยทะลวงสวรรค์

เชี่ยวเฉินถอนกระบี่ของเขากลับมาและหยุดมือลงเขารู้สึกพึงพอใจ;สามกระบวณท่าพื้นฐานกําลังเข้าใกล้ระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมตอนนี้เขาสามารถส่งกระบี่ฉีหนาแน่นออกมาได้เก้าเล่มพร้อมกัน

คุณภาพของกระบี่ระดับขอบเขตนักบุญด้อยกว่าของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธอย่างมากแต่อย่างไรก็ตาม,เซียวเฉินมีหวี่ขยแพรวพราวกระบี่ฉีที่ก่อตัวขึ้นมาจากกิ่งหมู่ขุยไม่ได้ด้อยไปกว่าของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธดังนั้น,จุดอ่อนตรงนี้จึงได้รับการแก้ไข

นอกจานั้น,กระบวณท่านี้ผลาญพลังปราณเพียงเล็กน้อยเซียวเฉินสามารถใช้ออกได้ไม่จบไม่สิ้นสามารถใช้ออกได้จนพลังปราณของเขาเดือดแห้งและไม่ต่างอะไรไปจากกระบี่

ในด้านของคุณภาพกระบี่ฉี,เชี่ยวเฉินได้เปรียเหนือมู่หลงชงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ข้อได้เปรียบที่ใหญ่โต,มันก็ยังช่วยเพิ่มโอกาสชนะของเขาอีกเล็ กน้อย
เซี่ยวเฉินในที่สุดก็ฝึกฝนจบสามกระบวณท่าพื้นฐานจากนั้เขาเริ่มฝึกฝนสามกระบวณท่าฆ่าฟัน,หวี่ขุยสะท้านสวรรค์,หรูขุยผลิบานและหรูขุยคําสวรรค์

จากสามกระบวณท่าฆ่าฟัน,หรูขุยสวรรค์เป็นกระบวณท่าเดี่ยวสําหรับหวี่ขยสะท้านสวรรค์และหรูขุยผลิบาน,พวกมันเป็นกระบวณท่าต่อเนื่องเพื่อที่จะปลดปล่อยพลังออกมาให้ได้มากที่สุด

หลังจากที่เซียวเฉินฝึกฝนจบสามกระบวณท่าฆ่าฟัน,พื้นดินเป็นรอยแยกขยายไปทุกที่กระแสไฟฟ้าล่องลอยไปในอากาศเขาหยุดเคลื่อนไหวและพักอยู่ครู่หนึ่ง

“หวี่ขุยทะลวงสวรรค์!”

เซียวเฉินร้องตะโกนและตามด้วยการหมุนเวียน ปราณไปในรูปแบบของทักษะกระบี่หรู่ขุย,พยายามใช้ออกกระบวณท่าที่เจ็ด

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์โบราณค่อยๆเติบโตขึ้นเหนือ หัวของเขาเริ่มงอกออกมาจากรากอย่างไรก็ตาม,ก่อนที่มันจะได้เติบโตเต็มที่มีกระบี่แสงปรากฏขึ้นบนกระบี่ของเขาและขยายออกไปอย่างน้อยหนึ่งร้อยเมตร

ความประหลาดใจเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซียวเฉินเขากล่าวเสียงนุ่ม “ข้าปลดปล่อยมันออกมาเร็วเกินไปข้ายังใช้เวลาในการหมุนเวียนไม่เหมาะสมเอาอีกครั้ง!”

“บูม!” ล้มเหลวเป็นครั้งที่สอง เหมือก่อนหน้านี้,กระบี่ฉีขยายออกไปยาวร้อยเมตรก่อนที่จะหายไปพลังของมันเทียบเท่าไม่ได้กับของหวี่ขุย แพรวพราว

ล้มเหลวครั้งที่สาม…ครั้งที่สี่…ครั้งที่ห้า…ล้มเหลวอีกแล้ว!

เซียวเฉินเคว้งคว้างหลังจากที่ล้มเหลวมาหลายครั้งแต่เขาไม่ได้แสดงอาการท้อใจแม้แต่น้อยที่ครั้งที่เขาล้มเหลว,เขาพยายามค้นหาสาเหตุที่เขาล้มเหลวและลองใหม่อีกครั้ง

พลังของกระบวณท่าฆ่าฟันของทักษะกระบหรูขุยนั้นรุนแรงมากแล้วพวกมันสามารถสังหารระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้นได้เซี่ยวเฉินเชื่อว่ากระบวณท่าปลิดชีพจะรุนแรงยิ่งกว่า

TL:ทักษะกระบี่หรูขุยมี 9 กระบวณท่านะครับสามกระบวณท่าแรกคือพื้นฐาน สี่ถึงหกคือ กระบวณท่าฆ่าฟันเจ็ดถึงเก้าคือกระบวณท่าปลิดชีพนะครับเผื่อใครงง

ระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้นทั่วไปไม่อาจมีชีวิตรอดดังนั้นเป็นเรื่องปกติที่มันยากที่จะเรียนรู้ โช คดี,ความอดทนต่อความเปล่าเปลี่ยวของเซียวเฉินสูงเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าเขาจะประสบความล้ม เหลวซ้ําแล้วซ้ําเล่า,เขาก็ไม่ท้อใจแม้แต่น้อย

“ฟุ ฟิว!”

ต้นหรูขุยเหนือหัวของเขาเติบโตจนเกือบจะถึง ระดับสมบูรณ์อย่างไรก็ตาม,กระบี่แสงยังปรากฎขึ้นก่อนเวลาในครั้งนี้มันขยายออกไปห้าร้อยเมตร

เซี่ยวเฉินปาดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขาและให้กําลังใจกับตัวเอง “ก็ไม่เลวเสียทีเดียวข้าเหลืออีกเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะสําเร็จเวลายังดํา เนินต่อไป”

หลังจากที่ฝึกฝนมาเป็นเวลานาน,เซี่ยวเฉินมีความเข้าใจเล็กน้อยเกี่ยวกับความลึกซึ้งของหวี่ขุยทะลวงสวรรค์

จุดสําคัญของกระบวณท่านี้คือปรากฎการณ์ล็กลับ,การหมุนเวียนพลังปราณ,และจังหวะในการปลดปล่อยออกมาทั้งสามส่วนต้องสมบูรณ์พร้อม กันเพื่อที่จะใช้ออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
สิ่งที่เรียกว่า ปรากฎการณ์ลึกลับ” หมายถึง ต้นหรูขุยที่เหนือหัวของเขา อีกสองส่วนที่เหลื อง่ายดายที่จะเข้าใจแต่ยากที่จะสําเร็จ

สําหรับตอนนี้ เซียวเฉินได้เข้าใจถึงการสํา แดงปรากฏการณ์ลึกลับอย่างครบถ้วน เขาสามารถรวบคุมความเร็วในการหมุนเวียนพลังปราณได้เกือบจะดั่งใจอีกสิ่งเดียวที่เขาไม่อาจควบคุมได้คือจังหวะในการปลดปล่อย

โดยไม่รู้เวลา,ท้องฟ้าเริ่มที่จะมืดลงเซี่ยวเฉินฝึกฝนกระบวณท่านี้ต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
“หวี่ขุยทะลวงสวรรค์!”

เซียวเฉินร้องตะโกน, และต้นหรูขุยศักดิ์สิทธิ์โบ ราณค่อยๆก่อตัวขึ้น ในทันทีที่ต้นหวี่ขยก่อตัวขึ้นครบถ้วน,กระบี่แสงรุ่งโรจน์ปรากฏขึ้นบนกระบี่เงา จันทร์ของเขาและฉายแสงในท้องฟ้าที่มืดมิด

กระบี่แสงขยายตัวโตขึ้นอย่างรวดเร็วภายในชั่วอึดใจ,มันขยายออกไปกว่าหนึ่งพันเมตรและขึ้นไปถึงที่ข้างหน้าผาเกิดเสียงระเบิดดัง,มีหลุมที่ดูไร้กันปรากฏขึ้นดินหินถล่มลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน

ในที่สุดข้าก็สําเร็จ! เชี่ยวเฉินเผยท่าทีดีอกดีใจผู้สําเร็จคือผู้ที่อดทนในที่สุดเขาก็บรรลุกระบวณท่านี้

ขั้นต่อไปจะเป็นการลองผสานมันเข้ากับสภาวะแห่งสายฟ้าการหลอมรวมเข้ากับสภาวะแห่ง สายฟ้าอย่างแท้จริงเท่านั้นที่จะสามารถปลด ปล่อยพลังของกระบวณท่านี้ออหมาได้อย่างสมบูรณ์
เมฆดํามืดปั่นป่วนบนท้องฟ้า;เสียงฟ้าคํารามทุ่มต่ําดังออกมาไม่หยุดหย่อนบางครั้ง,มีสายฟ้าเส้นบางวิ่งผ่านท้องฟ้า,สว่างลงมาที่พื้นดิน

เซี่ยวเฉินมีสีหน้านิ่งสงบพร้อมกับมือขวาของเขาจับไปที่ด้ามกระบี่สภาวะแห่งสายฟ้าก่อตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเสียงฟ้าคํารามกลายเป็นงดุดันขึ้นหลังจากเวลาผ่านไปมันราวกับกองทัพใหญ่กําลังเคลื่อนพลและโห่ร้องออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
เสียงสนั่นกึกก้องดังสะท้อนไปมาที่ด้านหลังของภูเขาสายลมสีม่วงพัดผ่านไปในอากาศ,ส่งเสียง “ซี่ ซี่”ออกมาไม่หยุดหย่อน

“หวี่ขุยทะลวงสวรรค์!”

เซียวเฉินตะโกน,และต้นหวี่ขยศักดิ์สิทธิ์โบราณเติบโตที่เหนือหัวของเขาอย่างรวดเร็วในตอนที่การเติบโตของต้นหรูขุยหยุดชะงัก,เตี๋ยวเฉินเคลื่อนมือขวาของเขาอย่างรวดเร็ว

“ฟุ ฟิว!”

เสาแสงรุ่งโรจน์ปรากฏขึ้นบนกระบี่สีขาวหิมะเสียงคํารามในอากาศยังดังขึ้นต่อไปไม่หยุดอย่างไรก็ตามมันหยุดเงียบหายไปในชั่วเสี้ยววินาที่หนึ่ง

จากนั้นเสียงสายฟ้าสนั่นคํารามเส้นสายฟ้าสีม่วงทะลวงผ่านเมฆอันมืดมิดบนท้องฟ้า,เคลื่อนไหวผ่านท้องฟ้ายามค่ําคืนมันราวกับมังกรคลั่งคําราม

งมาจากท้องฟ้า

ในจังหวะนั้น,กระแสพลังของเซี่ยวเฉินเร่ง นถึงขีดสุดมันเป็นราวกับกระบี่ล้ําค่าที่กําลังชักออกมาจากฝัก,ความโชติช่วงของมันเผยออก,ฉายส่องไปทั่วทุกทิศทางมันเป็นที่สะกดสายตาราวกับคมกระบวาดผ่านอากาศ
“ยิ้ม..”

สภาวะแห่งสายฟ้สและทักษะกระบี่หลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างลงตัวเสาแสงบนคมกระบี่ขยายออกอย่างรวดเร็วทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียว

ในตอนที่ยอดเขาเล็ก,ที่อยู่ห่างไปหนึ่งพันเมต รตรงหน้า,ถูกซัดด้วยเสาแสงต้นนี้มันแตกสลายลงดินหินถล่มลงมา,ไม่เหลืออะไรนอกจากซากผุพัง

ก้อนหินที่ปะทะเข้ากับเสาแสงเปลี่ยนกลายไปเป็นฝุ่นดินและแตกสลายไปตามสายลม,หายสิ้นไปอย่างสมบูรณ์

“เคว้ง!”

เซียวเฉินคืนกระบกลับเข้าฝัก และหมู่เมฆ คํารามบนท้องฟ้าพลันจางหายไปในทันทีเสียงสายฟ้าคํารามหยุดลง,และค่ําคืนกลายเป็นเงียบสงบอีกครั้งมีเพียงเสียงหินที่กําลังร่วงลงมาที่เหลืออยู่

เชี่ยวเฉินเผยสีหน้าเป็นสุข เขาพึมพํา “หลังจากผ่านไปสองวัน,ในที่สุดข้าก็หลอมรวมสภาวะแห่งสายฟ้ากับหรูขุยทะลวงสวรรค์ได้อย่างสมบูรณ์กระบวณท่านี้เพียงพอที่จะให้ข้าดูแคลนผู้ บ่มเพาะพลังระดับขอบเขตนักบุญ ด้วยพลังของมัน,ทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ขั้นต่ําต้องอับอาย

เซียวเฉินนั่งลงขัดสมาธิตรงจุดที่เขาอยู่ เขา หยิบเอาหินวิญญาณระดับกลางออกมาและฟื้นฟูพลังปราณของเขาอย่างรวดเร็ว

ผ่านไปครู่หนึ่งเขาเติมเต็มพลังปราณที่เดือดแห้งของเขากลับมาสมบูรณ์ นอกจากนั้นยังมีพลังงานจิตวิญญาณในหินวิญญาณระดับกลางหลงเหลืออยู่เล็กน้อยเซี่ยวเฉินคว้าเอาข้อได้เปรียบนี้และเข้าสู่สภาวะบ่มเพาะพลัง

เซียวเฉินส่งพลังงานจิตวิญญาณที่เหลืออยู่เข้าไปในวังวนฉีที่จุดต้นเที่ยนของเขาเมื่อเขาดึงพลังของหินวิญญาณจนหมด,วังวนหมุนวนหมุนวนและเพิ่มขนาดขึ้นเล็กน้อยความจุพลังปราณของเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

เซียวเฉินไม่รีบร้อนลุกขึ้น กลับกัน,เขาหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ต่อและฉีดพลังงานที่เขาเพิ่งดูดซับเข้าสู่ร่างของเขา,เปลี่ยนให้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของขอบเขตพลังของเขา

หลังจากที่ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์หมุนเวียนครบรอบใหญ่,เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นในทันทีและแสงสีม่วงวูบไหวในม่านตาของเขา

เซียวเฉินลุกขึ้นและมองไปยังเส้นขอบฟ้าที่อยู่ไกลออกไปแสงเรืองอ่อนเริ่มปรากฏขึ้นที่เส้นขอบฟ้ารุ่งอรุณได้มาเยือนแล้วเขากล่าว”หลังจากที่ฟ้าสว่าง,ข้าจะเหลือเวลาอีกห้าวันหรูขุยทะลวงสวรรค์เพียงเพิ่งจะหลอมนวมเข้ากับสภสวะแห่งสายฟ้านั้นหมายความว่าข้าเหลือเพียงอีกสี่วัน”จากสี่วัน,ข้าจะใช้สามวันในการฝึกฝนกระบวณท่าที่แปดของทักษะกระบี่หว่าขุยอีก หนึ่งวันที่เหลือข้าใช้ในการปรับปรุงและแก้ไขสายฟ้าฉับพลันคํารามเช่นนี้,ข้าจะมีไพ่ตายสามใบ”

หลังจากที่เซียวเฉินเอาอาหารแห้งในแหวนห้วงจักรวาลออกมาและลงมือจัดการ,เขาทําความคุ้นเคยกับการหลอมรวมหรูขุยทะลวงสวรรค์และสภาวะแห่งสายฟ้าต่อไป

ที่รอบนอกเทือกเขาหลิงหยุยอันกว้างใหญ่มันไม่รู้ได้ว่าแท้จริงแล้วมันกว้างใหญ่ถึงเพียงใด:มันมียอดเขาเดี่ยวมากมายมู่หลงชงยืนอยู่บนยอดเขาอันเงียบสงบแห่งนี้ยอดเขานี้โล่งเตียน;ไม่มีพืชพันธุ์แม่แต่น้อยมีเพียงดินหินอยู่เต็มพื้นที่

หน้าผาของมันสูงประมาณสองพันเมตร,สายลมพัดผ่านอย่างดิบเถื่อน เสื้อผ้าของมู่หลงชงปลิวไหว

“เฟียว!

มู่หลงชงทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้น,แสงปรากฏขึ้นเบื้องลึกในดวงตาทันใดนั้น,ผมของเขาก็หยุดปลิวไหวสายลมราวกับพัดผ่านทะลุร่างของเขาไปเขาผสานเป็นหนึ่งเดียวกับสายลม

“สภาวะแห่งสายลมของข้าในที่สุดก็มาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมข้าสามารถทลายกําแพงเสียงลงได้แล้วเช่นนี้,ข้าจะมีโอกาสเจ็ดในสิบส่วนที่จะหลบเลี่ยงกระบวณท่านั้นของเขาได้”

มู่หลงชงกล่าวกับตัวเองจากนั้น,ร่างของเขาวูบไหวไปตามทิศทางของสายลมขณะที่เขาเคลื่อนไหว,มันเกิดเป็นเสียงภายในพริบตา,เขาก็เคลื่อนไปไกลห้าร้อยเมตร

ร่างของมู่หลงชงกระพริบไหวไม่หยุดพร้อมกับเขาเคลื่อนตรงไปที่ตีนเขา สูงขึ้นไปบน ท้องฟ้า,ชั้นหมู่เมฆค่อยๆปั่นป่วนขึ้นบนท้องฟ้าที่สดใส

หมู่เมฆบนท้องฟ้าดูเหมือนกับถูกดึงนําไปด้วยพลังลึกลับพวกมันเริ่มเข้าชนกันที่ความเร็วสูง ในตอนที่หมู่เมฆเข้าชนกัน,สายฟ้าแตกตัวบนท้องฟ้า
” ฟุ ฟิว!”

มู่หลงชงชักกระบี่ของเขาออกมา,และเส้นสายฟ้าร่วงหล่นก่อนที่เส้นสายฟ้าจะได้ลงมาถึงพื้น,เกิดสายลมอันแข็งแกร่งพัดผ่าน

เส้นสายฟ้าผสานเข้ากับสายลมในทันที,และสายลมรุนแรงเปลี่ยนกลายเป็นสีม่วงทันใดก่อเกิดเป็นพายุหมุนสีม่วงกระแสไฟฟ้ากระพริบไหวในอากาศ,พร้อมกับฟ้าร้องคําราม

มู่หลงชงกระโดดขึ้นไปในอากาศ,ร่างของเขาดูเหมืออากาศธาตุและไร้รูป,ราวกับก้อนเมฆลอยผ่านลมพายุหมุนสีม่วงติดตามด้านหลังของเขา,ที่กําลังเรลื่อนไหวขึ้นลง

ทุกที่ที่มันผ่าน,พายุหมุนสรม่วงระเบิดก้อนหินใหญ่มากมายกลายเป็นผุยผง พวกมันกลายเป็นฝุ่นที่ลอยไปตามสายลมฝุ่นควันเติมเต็มไปในหมู่เมฆเป็นสีเหลือง

“ขับเมฆาล่าอัสนี!”

มู่หลงชัง ผู้ที่เคลื่อนไหวไปในอากาศอย่างไม่มีรูปแบบ,ร้องตะโกนขึ้นพายุหมุนสีม่วงเปลี่ยนและแปลงไปเป็นมังกรหลากสีม่วงมันเคลื่อนไปตาม ทิศทางที่กระบี่แสงของเขาชี้นํา

มันรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ:มันเกือบที่จะแตะความเร็วเสียงมังกรหลาก,ที่ก่อเกิดขึ้นมาจากก้อนเมฆ,สายลม,และกระแสไฟฟ้า,ทะยานเข้าปะทะกับยอดเขาจุดบนของยอดเขาแตกสลายและเปลี่ยนกลายเป็นผุยผงในทันที

“แหวกเมฆเบิกนภา!”

มู่หลงชงร้องตะโกนออกมาอีกครั้งและลงจอดที่พื้นแสงรุ่งโรจน์ปรากฏขึ้นบนตัวกระบี่ของเขา

ทันใดนั้น มันเติบโตขึ้น,ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้ากระบี่แสงตัดแยกหมู่เมฆที่กําลังปั่นป่วนในทันทีดวงตะวันเจิดจ้าเผยตัว,เผาไหม้สว่างไสวยิ่งกว่าก่อนหน้านี้

“ประณามสวรรค์ปฐพี!”

ทันใดนั้น มู่หลงชงร้องตะโกนขึ้นและกระบี่ของเขาเรืองแสงเย็นขึ้นมาสั่นสะเทือนอย่างไม่หยุดหย่อน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+