Immortal and Martial Dual Cultivation 293 ไพ่ตายของมู่หลงชง
ตอนที่ 293 ไพ่ตายของมู่หลงชง
สายลมแรงพัดผ่านด้านหลังของมู่หลงชง,ตบเอาฝุ่นควันลอยขึ้นมาสูงไปบนท้องฟ้า,หมู่เมฆกําลังปั่นป่วน,เคลื่อนตัวไปอย่างต่อเนื่องมันดูเหมือนจะอยู่เหนือขึ้นไปบนท้องฟ้ากว่า108,000 เมตร
ชั่วครู่หนึ่ง,เกิดสายลมแรงและหมู่เมฆโลดโผน,ท้องฟ้าดูราวกับเปลี่ยนสี กระแสพลังของมู่หลงชงทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า,ภายในพื้นที่แห่งนี้, ราวกับว่าเขาเป็นผู้ปกครองเขาเหมือนกับ กระบี่ล้ําที่กําลังตั้งตระหง่าน,มันรู้สึกราวกับเขาสามารถเจาะทะลวงท้องฟ้า
ในตอนที่กระบี่กวัดแกว่ง,กระบี่แสงเย็นและ เฉียบคมถูกจัดขึ้นสายลมหยุดนิ่งในทันทีและหมู่เมฆถูกแช่แข็งภายในพื้นที่แห่งนี้มีเพียงกระบี่ที่ยังเรืองแสงอันรุ่งโรจน์
ข้อมือของมู่หลงชงตวัดลง,และกระบี่แสงบินออกจากกระบี่,เปลี่ยนกลายไปเป็นกระบี่ฉีพลุ่งพล่านพุ่งเข้าใส่พื้นอย่างรุนแรง
หลุมกว้าง 10 เมตรและลึก 33 เมตรถูกเจาะลง ไปบนพื้นมันรูดผ่านไปเป็นระยะทางกว่าห้าร้อยเมตรก่อนที่จะหยุดลง
มองผ่านๆ,หลุมที่ทอดยาวไปกว่าห้าร้อยเมตรดูราวกับไร้จุดสิ้นสุด มีสภาวะแห่งสายลมและเมฆาล่องลอยหลงเหลืออยู่ด้านข้างมันไม่ได้จางหายไปไหนอยู่ชั่วครู่หนึ่งฝุ่นควันลอยขึ้นไปเติมเต็มในอากาศ,ร่ายราหมุนวนโกลาหล
“แครั้ง!”
มู่หลงชั่งถอนกระบี่ของเขากลับและยืนตัวตรงพร้อมกับเขามองไปเมฆฝุ่นที่กําลังลอยตัวอยู่เหนือหลุมยาวอันน่าสะพรึงใบหน้าของเขายังคงไร้ อารมณ์พร้อมกับกล่าวขึ้นอย่างเฉยเมย “หลิวหรูเยว่จะต้องบอกเย่เฉินถึงเก้าทักษะลับของยอดเขาฉิงหยุนอย่างแน่นอนพวกมันไม่อาจเป็นไพ่ตายของข้าได้”
“มีเพียงสภาวะแห่งเมฆาระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมและสามรูปแบบฟ้าดินที่ข้าสร้างขึ้นมาเองนี่เท่านั้นที่สามารถเป็นไพ่ตายที่แท้จริงของข้าได้ตอนนี้สภาวะแห่งสายลมได้มาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม,และสภาวะแห่งสายลมกับเมฆาผสานเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์,ระดับต่ํากว่าขอบเขตกษัตริย์ยุทธลงมาไม่มีใครคู่ควรกับข้า”
ดวงตะวันฉายแสงและดับลง:หมู่เมฆรวมตัวและแตกสลายห้าวันได้ลอยผ่านไปรวดเร็ว
กระบวณท่าที่แปดของกระบี่หรูขุนมันยากเย็นที่จะเรียนรู้กว่าที่เซียวเฉินคาดคิดเอาไว้ตอนแรกเขาใช้เวลาไปสามกับอีกครึ่งวันก่อนที่จะเรียนรู้มันได้สําเร็จจากนั้นเขาผสานมันเข้ากับสภาวะแห่งสายฟ้า
กลับกัน,การปรับปรุงสายฟ้าฉับพลันคํารามกลับง่ายดายกว่าที่คิดเซียวเฉินได้คุ้นเคยกับกระบวณท่านี้ในตอนที่อยู่ในทุ่งหญ้ามารอสูร
ไม่มีความจําเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากจากการโจมตีแบบกลุ่มเป็นแบบเป้าหมายเดียวสําหรับเซียวเฉิน,ผู้ที่ได้กินดอกดาวเรืองแสงไหล เข้าไปมันไม่ได้ยากเย็นนัก
เซียวเฉินจ้องมองพระอาทิตย์ที่เส้นขอบฟ้าพร้อมกับเก็บกระบี่ของเขาเข้าฝัก,เริ่มเดินทางกลับเขาใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยานและเปลี่ยนกลาย ไปเป็นเส้นสีม่วง,เคลื่อนที่ไป
ในเวลาธูปยังไม่หมดเล่ม,เซี่ยวเฉินก็กลับมาถึงลานบ้านของเขา เขาพบว่าสองพี่น้องหลิวและเสี่ยวไป,ผู้ที่วิ่งเอาแต่วิ่งเล่นถล่มทลายในสองสามวันที่ผ่านมา,กําลังรอเขาอยู่ที่บ้าน
เซียวเฉินกระโดดผ่านกําแพงและลงจอดบนพี่นอย่างมั่นคงเขายิ้มและถามขึ้น “พวกเจ้ามีเรื่องอะไร?”
หลิวสุยเฟิงยิ้ม “ข้ามาให้กําลังใจเข้าก่อนการประลองข้าขอตัวก่อน;พี่สาวของข้าจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับมู่หลงชงกับเจ้าข้าหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์”
หลังจากที่ใช้บุปผาสกัดเย็น,ผิวของหลิวหรูเยว่เริ่มมีสี:นางไม่ได้อ่อนแออย่างที่เคยเป็นนางกลใสวมชุดคลุมผู้บ่มเพาะพลังรัดรูปอีกครั้ง
หลังจากที่หลิวสุยเฟิงจากไป,หลิวหรูเยว่ตรวจสอบเซียวเฉินอย่างละเอียด นางพบว่ากระแสพลังของเขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อห้าวันก่อน;ความแข็งแกร่งของเขาพัฒนาขึ้นอย่างมาก
“มาที่ลานประลองกับข้า” หลิวหรูเยว่ากล่าวด้วยเสียงอ่อนนุ่ม
เซียวเฉินพยักหน้าและเดินตามหลิวหรูเยวไปพวกเขาค่อยๆเดินไปยังสนามประลอง
พวกเขาทั้งสองยืนอยู่ตรงข้าม,ห่างกันออกไปห้าเมตรหลิวหรูเยว่กล่าว “ก่อนที่มู่หลงชงจะออก จากยอดเขาฉิงหยุน,เขาอ่อนกว่าข้าเพียงเล็กน้อย ตอนนี้สามปีได้ผ่านไปความแข็งแกร่งของเขายิ่งกลายเป็นน่ากลัวข้าจะบอกเจ้าถึงทุกอย่างที่ข้ารู้”
“อย่างแรกคือเก้าทักษะลับของยอดเขานิ่งหยุนเขาได้เรียนรู้ไปสู่ทักษะ พวกมันคือสับวายุลึกล้ํา,เงาจันทราไร้พ่าย,สับวายุใส,และประกายแสง ผ่านเงา”
“เจ้าน่าจะคุ้นเคยอย่างมากกับสับวายุใสและสับวายุลึกล้ํา”
“ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นถึงเงาจันทราไร้พ่ายและประกายแสงผ่านเงา”
เซี่ยวเฉินรีบกล่าว “พี่สาวหรูเยว่เจ้าเพียงอธิบายให้ข้าฟังก็พอเส้นปราณของเจ้าเพิ่งจะฟื้นตัวจะเป็นการดีที่สุดหากเจ้าไม่หมุนเวียนพลังปราณ”
หลิวหรูเยว่เผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าอันสง่างามของนางพร้อมกับกล่าว “ไม่เป็นไร ข้ารู้ตัวของข้าดีค่อยดูให้ดีนี่คือเงาจันทราไร้พ่าย”
“ปะ ปะ!”
หลิวหรูเยวดึงกระบีเล่มบางของนางออกมามันเรืองกระบี่แสงเย็นและเฉียบคมออกมา สองกระบี่ฉีรูปจันทร์เสี้ยวสีแดงปรากฏขึ้นมา
เคลื่อนตามท่วงท่าของหลิวหรูเยว่,จันทร์สองเสี้ยวเคลื่อนไหวและเชื่อมต่อกัน,ประกอบเป็นจันทร์เต็มดวงที่ด้านหลังของนาง
ทันใดนั้น,ทั่วทั้งลานประลองกลายเป็นสีดํามืดจันทร์สีแดงค่อยๆลอยสูงและฉายแสงพื้นที่มืดมิดเป็นสีแดงค่ํา
หลิวหรูเยว่ลอยขึ้นไปในเวลาเดียวกันกับจันทร์เต็มดวงแสงสีแดงฉายลงบนเรือนร่างของนางและทําให้นางดูงดงามอย่างน่าประหลาด
กระบี่ของหลิวหรูเยว่ชี้ไปที่เชี่ยวเฉิน,กระแสพลังรวมเข้าที่จุดเดียว
เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดเล็กน้อย;เขารู้สึกถึงแรงกดดันแปลกประหลาดบนหน้าผากของเขา เขาไม่สามารถควบคุมฉีหรือโลหิตทั่วทั้งร่างของเขาได้และเขาเริ่มกระวนกระวายเขารู้สึกขุ่นมัวอย่างไม่อาจอธิบายได้
ช่างเป็นทักษะต่อสู้ที่ทรงพลังมันส่งผลต่อสภาพจิตใจของข้า,เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเองเขารีบจมจิตใต้สํานึกลองเขาลงและป้องกันจุดตันเที่ยน หลังจากที่เขาทําเช่นนั้นความรู้สึกไม่มั่นคงก็ได้หายไป
“แคร้ง!”
หลิวหรูเยว่เก็บกระบี่ของนางกลับเข้าฝัก,และปรากฎการณ์ลึกลับจางหายไป ร่างของนางลอยลง มาอย่างอ่อนนุ่ม เมื่อนางลงถึงพื้น,นางทรุดเขาลงข้างหนึ่งและเกือบที่จะล้มลง
เซียวเฉินตกใจและรีบเข้ามาประคองหลิวหรูเยว่เมื่อเขาเห็นสีหน้าอันซีดขาวของนาง,เขาพูดขึ้น“ไม่มีความจําเป็นต้องออกแรงหนักพี่สาวหรูเยว่,เจ้าเพียงแค่อธิบายให้ข้าฟังก็พอไม่จําเป็น ต้องแสดงมันออกมา”
ใบหน้าอันซีดขาวของหลิวหรูเยว่เผยรอยยิ้มขม ขึ้น นางผละออกจากแขนของเซี่ยวเฉินและยืนขี้นอย่างมั่นคงนางกล่าว“ดูเหมือนว่าข้าจะทําเกินไปหน่อยเช่นนั้นข้าจะอธิบายให้เจ้าฟัง”
“เงาจันทราไร้พ่ายคือปรากฎการณ์ลึกลับที่ สร้างขึ้นมาจากฉีฆ่าฟันของตัวข้าเองทักษะต่อสู้ นี้ดัดแปลงมาจากสับเงาโลหิตยิ่งฉีฆ่าฟันรุนแรงมากเท่าไหร,มันจะยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น”
“ในตอนที่เจ้าเผชิญกับกระบวณท่านี้ จิตใจของ เจ้าต้องสงบ มิฉะนั้น,ฉีฆ่าฟันจะเข้าสู่ร่างของเจ้ามันจะทําให้เจ้าหมดแม้แต่โอกาสที่จะดึงกระบี่ออกมา”
เซี่ยวเฉินพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว ข้ารู้สึกได้ถึง มันเมื่อครู่นี้ อย่างไรก็ตาม,ข้ามีนิสัยแน่วแน่เป็นปกติจิตใจของข้าไม่ถูกแทรกแซงได้ง่ายดายเช่นนั้น”
หลิวหรูเยว่เห็นเชี่ยวเฉินประมาทเลินเล่อ หลิว หรูเยว่เผยความจริงจังออกมาบนใบหน้าอันซีดเซียวของนางพร้อมกับกล่าว“เจ้าอย่าได้ประมาทในตอนนั้น,เพื่อที่จะฝึกฝนกระบวณท่านี้ของเขาให้ถึงระดับสมบูรณ์ขั้นเยอดเยี่ยม,มู่หลงชงได้ล่าสังหารกองโจรกว่าห้าสิบกลุ่มในทุ่งหญ้ามารอสูรแม้ว่าจํานวนโจรที่ถูกสังหารไปจะไม่ถึงหมื่น,แต่ไม่ต่ํากว่าแปดพันคนอย่างแน่นอน ฉีฆ่า ฟันของเขาน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง”
อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินจําได้ว่าในตอนที่เขาเผชิญหน้ากับมู่หลงชง,มู่หลงยังไม่ได้ปล่อยฉีฆ่าฟันรั่วไหลออกมาแม้แต่น้อยหากที่หลิวหรูเยว่พูดเป็นความจริง,มันก็แสดงให้เห็นว่ามู่หลงยังได้ไปถึงระดับที่เขาสามารถใช้ฉีฆ่าฟันได้ดั่งใจเพื่อที่จะควบคุมฉีฆ่าฟันมากมายเช่นนั้นนอกจากที่ต้องแข็งแกร่งมันยังต้องการภาวะจิตใจที่สูงส่ง
มู่หลงซึ่งเป็นคนเช่นไร? เขามีพรสวรรค์ที่น่าสะพริ้ง,เลือดเย็นและเด็ดขาด,รวมถึงมีความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ไร้ที่เปรียบมันยากที่จะหาจุดบกพร่องของเขา
หลิวหรูเยวพูดต่อ “อย่างไรก็ตามเจ้าไม่ต้องไปให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากนักหากเจ้าไม่อาจไปเอาชนะได้ในเรื่องของฉีฆ่าฟัน,เจ้าเพียงต้องใช้กําลังเพื่อทําลายปรากฎการณ์ลึกลับนี้ทําลายมันในขณะที่ยังเป็นดวงจันทร์สองเสี้ยว”
เซี่ยวเฉินกระจ่าง มีวิธีนี้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม,กระบวณท่าของข้าจะต้องรวดเร็วอย่างมาก,มากพอที่จะทําให้มู่หลงยังตอบสนองไม่ทัน
“ขอบคุณ พี่สาวหรูเยว” เซี่ยวเฉินกล่าวเสียงจริงจัง
หลิวหรูเยว่ยิ้มและกล่าวต่อ “พวกเรายังเหลือประกายแสงผ่านเงาข้าไม่รู้ถึงกระบวณท่านี้ ข้ารู้เพียงว่ามันเป็นทักษะต่อสู้เงาและผสานกับสภาวะแห่งแสงมันสามารถสร้างร่างเงาที่ยากจะจําแนกได้ออกมาจํานวนมาก
“อย่างไรก็ตาม มู่หลงชงจดจ่อไปกับสภาวะแห่งสายลมเขาไม่น่าจะใช้เวลามากมายไปกับ การฝึกฝนกระบวณท่านี้เจ้าระวังมันเอาไว้ก็เพียง พอแล้ว”
หลังจากนั้น,หลิวหรูเยว่บอกเซียวเฉินถึงจุดแข็งอื่นๆของมู่หลงชงความกังวลในดวงตาของนางไม่เคยจางหายไป
“จําเอาไว้ อย่าได้เอาชีวิตของเจ้าไปเสี่ยงในจังหวะสําคัญรักษาชีวิตคือสิ่งสําคัญที่สุดสําหรับข้า,ถึงแม้ว่าข้าจะรักษายอดเขาฉิงหยุนไว้ได้ข้าจะโศกเศร้ายิ่งหากเสียเจ้าไปดังนั้น,เจ้าต้องสัญญากับข้าหากเจ้าไม่อาจชนะ เพียงยอมแพ้ไปเสีย
ขณะที่เซียวเฉินกําลังจะกลับออกไป,หลิวหรูเยวพูดด้วยน้ําเสียงจริงจัง เพียงหลังจากที่เซียวเฉินให้สัญญาแล้วเท่านั้นหลิวหรูเยวจึงเผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมาและกลับออกจากลานประลองไป
ในเช้าวันต่อมา,แสงแรกส่องผ่านหน้าต่างและฉายเข้าไปในห้องของเซียวเฉิน
เมื่อเซี่ยวเฉินรู้สึกถึงแสงที่แยงตา,เขาตื่นขึ้นจากการหลับลึกในทันที เนื่องจากการประลองจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า,เขาไม่ได้บ่มเพาะพลังแต่กลับพัก ผ่อนอย่างเต็มที่ดังนั้นร่างกายและจิตวิญญาณของเขาได้พักผ่อนอย่างเต็มเปี่ยม
หลังจากที่เชี่ยวเฉินล้างหน้าเขารู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมากทั้งหมดของเขา ทั้งร่างกายภายในและภายนอก,อยู่ในสภาพพร้อมสูงสุด
หลิวหรูเยวและหลิวสุยเฟิงได้มารอที่ลานบ้านของเขาแล้วหลังจากที่เซียวเฉินไถ่ถาม,เขาพบว่าการประลองชิงตําแหน่งท่านเจ้ายอดเขาไม่ได้จัดขึ้นที่ฐานส่องสวรรค์มันกลับไปจัดที่ฐานสวรรค์ลอยฟ้าที่เขาเคยไปมาครั้งหนึ่ง
หลิวหรูเยวโบกมือขึ้นไปบนท้องฟ้า,และแร้งวายุสวรรค์ว่ายวนอยู่ในอากาศรอบหนึ่งก่อนที่จะลงจอดตรงหน้าของพวกเขาทําให้เกิดลมแรง
หลังจากที่ทั้งสามคนขึ้นขี่แร้งวายุสวรรค์,ผู้ควบ คุมแร้งวายุสวรรค์ก็ร้องตะโกน แร้งวายุสวรรค์ก็ส ร้างสายลมบ้าคลั่งก่อนที่จะทะยานขึ้นไปบนท้อง ฟ้าในทันที
หากไม่มีเรื่องสําคัญอะไรโดยปกติจะไม่มีใครมาที่ฐานสวรรค์ลอยฟ้า อย่างไรก็ตามในตอนนี้มีกระแสผู้คนทอดยาวไปไม่รู้จบ,กําลังเดินทางไปที่แห่งนั้น
ที่ฐานสวรรค์ลอยฟ้ามีลานประลองขนาดมหึมาโดยรอบของมันเป็นที่นั่งผู้ชมตรงกลางเป็นเวทีประลองยางสองพันเมตรและกว้างหลายร้อยเมตร
ไม่มีใครสงสัยในขนาดของลานประลองถึงอย่างไร,การประลองชิงตําแหน่งท่านเจ้ายอดเขาทุกครั้งก็อยู่ในระดับกษัตริย์ยุทธ
การประลองไม่อาจอยู่ในสนามประลองขนาดปกติ
ในลานประลอง,มู่หลงชั่งยืนไร้สีหน้าหลับตาอยู่ที่มุมหนึ่ง
สามารถมองเห็นผู้คนอัดแน่นอยู่บนอัฒจันทร์นอกจากนั้นยังมีผู้บ่มเพาะพลังมากมายที่กําลังเดินทางเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เกิดการประลองชิงตําแหน่งท่านเจ้ายอดเขาอีกครั้งแล้วข้าไม่คาดคิดว่ามู่หลงชงจะโจมตียอดเขาฉิงหยุนเช่นนี้น่าเสียดาย,หลิวหรูเยว่บาดเจ็บ ยอดเขาฉิงหยุนจะต้องพ่ายแพ้ในครั้งนี้”
“ก็อาจจะไม่เป็นเช่นนั้น เย่เฉินก็เป็นสุดยอดอัจฉริยะที่สามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญรุ่นใหญ่มาได้ด้วยพรสวรรค์นี้เขาไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่ามู่หลงชง โอกาสชนะเป็นครึ่งต่อครึ่ง”
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivation 293 ไพ่ตายของมู่หลงชง
ตอนที่ 293 ไพ่ตายของมู่หลงชง
สายลมแรงพัดผ่านด้านหลังของมู่หลงชง,ตบเอาฝุ่นควันลอยขึ้นมาสูงไปบนท้องฟ้า,หมู่เมฆกําลังปั่นป่วน,เคลื่อนตัวไปอย่างต่อเนื่องมันดูเหมือนจะอยู่เหนือขึ้นไปบนท้องฟ้ากว่า108,000 เมตร
ชั่วครู่หนึ่ง,เกิดสายลมแรงและหมู่เมฆโลดโผน,ท้องฟ้าดูราวกับเปลี่ยนสี กระแสพลังของมู่หลงชงทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า,ภายในพื้นที่แห่งนี้, ราวกับว่าเขาเป็นผู้ปกครองเขาเหมือนกับ กระบี่ล้ําที่กําลังตั้งตระหง่าน,มันรู้สึกราวกับเขาสามารถเจาะทะลวงท้องฟ้า
ในตอนที่กระบี่กวัดแกว่ง,กระบี่แสงเย็นและ เฉียบคมถูกจัดขึ้นสายลมหยุดนิ่งในทันทีและหมู่เมฆถูกแช่แข็งภายในพื้นที่แห่งนี้มีเพียงกระบี่ที่ยังเรืองแสงอันรุ่งโรจน์
ข้อมือของมู่หลงชงตวัดลง,และกระบี่แสงบินออกจากกระบี่,เปลี่ยนกลายไปเป็นกระบี่ฉีพลุ่งพล่านพุ่งเข้าใส่พื้นอย่างรุนแรง
หลุมกว้าง 10 เมตรและลึก 33 เมตรถูกเจาะลง ไปบนพื้นมันรูดผ่านไปเป็นระยะทางกว่าห้าร้อยเมตรก่อนที่จะหยุดลง
มองผ่านๆ,หลุมที่ทอดยาวไปกว่าห้าร้อยเมตรดูราวกับไร้จุดสิ้นสุด มีสภาวะแห่งสายลมและเมฆาล่องลอยหลงเหลืออยู่ด้านข้างมันไม่ได้จางหายไปไหนอยู่ชั่วครู่หนึ่งฝุ่นควันลอยขึ้นไปเติมเต็มในอากาศ,ร่ายราหมุนวนโกลาหล
“แครั้ง!”
มู่หลงชั่งถอนกระบี่ของเขากลับและยืนตัวตรงพร้อมกับเขามองไปเมฆฝุ่นที่กําลังลอยตัวอยู่เหนือหลุมยาวอันน่าสะพรึงใบหน้าของเขายังคงไร้ อารมณ์พร้อมกับกล่าวขึ้นอย่างเฉยเมย “หลิวหรูเยว่จะต้องบอกเย่เฉินถึงเก้าทักษะลับของยอดเขาฉิงหยุนอย่างแน่นอนพวกมันไม่อาจเป็นไพ่ตายของข้าได้”
“มีเพียงสภาวะแห่งเมฆาระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมและสามรูปแบบฟ้าดินที่ข้าสร้างขึ้นมาเองนี่เท่านั้นที่สามารถเป็นไพ่ตายที่แท้จริงของข้าได้ตอนนี้สภาวะแห่งสายลมได้มาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม,และสภาวะแห่งสายลมกับเมฆาผสานเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์,ระดับต่ํากว่าขอบเขตกษัตริย์ยุทธลงมาไม่มีใครคู่ควรกับข้า”
ดวงตะวันฉายแสงและดับลง:หมู่เมฆรวมตัวและแตกสลายห้าวันได้ลอยผ่านไปรวดเร็ว
กระบวณท่าที่แปดของกระบี่หรูขุนมันยากเย็นที่จะเรียนรู้กว่าที่เซียวเฉินคาดคิดเอาไว้ตอนแรกเขาใช้เวลาไปสามกับอีกครึ่งวันก่อนที่จะเรียนรู้มันได้สําเร็จจากนั้นเขาผสานมันเข้ากับสภาวะแห่งสายฟ้า
กลับกัน,การปรับปรุงสายฟ้าฉับพลันคํารามกลับง่ายดายกว่าที่คิดเซียวเฉินได้คุ้นเคยกับกระบวณท่านี้ในตอนที่อยู่ในทุ่งหญ้ามารอสูร
ไม่มีความจําเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากจากการโจมตีแบบกลุ่มเป็นแบบเป้าหมายเดียวสําหรับเซียวเฉิน,ผู้ที่ได้กินดอกดาวเรืองแสงไหล เข้าไปมันไม่ได้ยากเย็นนัก
เซียวเฉินจ้องมองพระอาทิตย์ที่เส้นขอบฟ้าพร้อมกับเก็บกระบี่ของเขาเข้าฝัก,เริ่มเดินทางกลับเขาใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยานและเปลี่ยนกลาย ไปเป็นเส้นสีม่วง,เคลื่อนที่ไป
ในเวลาธูปยังไม่หมดเล่ม,เซี่ยวเฉินก็กลับมาถึงลานบ้านของเขา เขาพบว่าสองพี่น้องหลิวและเสี่ยวไป,ผู้ที่วิ่งเอาแต่วิ่งเล่นถล่มทลายในสองสามวันที่ผ่านมา,กําลังรอเขาอยู่ที่บ้าน
เซียวเฉินกระโดดผ่านกําแพงและลงจอดบนพี่นอย่างมั่นคงเขายิ้มและถามขึ้น “พวกเจ้ามีเรื่องอะไร?”
หลิวสุยเฟิงยิ้ม “ข้ามาให้กําลังใจเข้าก่อนการประลองข้าขอตัวก่อน;พี่สาวของข้าจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับมู่หลงชงกับเจ้าข้าหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์”
หลังจากที่ใช้บุปผาสกัดเย็น,ผิวของหลิวหรูเยว่เริ่มมีสี:นางไม่ได้อ่อนแออย่างที่เคยเป็นนางกลใสวมชุดคลุมผู้บ่มเพาะพลังรัดรูปอีกครั้ง
หลังจากที่หลิวสุยเฟิงจากไป,หลิวหรูเยว่ตรวจสอบเซียวเฉินอย่างละเอียด นางพบว่ากระแสพลังของเขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อห้าวันก่อน;ความแข็งแกร่งของเขาพัฒนาขึ้นอย่างมาก
“มาที่ลานประลองกับข้า” หลิวหรูเยว่ากล่าวด้วยเสียงอ่อนนุ่ม
เซียวเฉินพยักหน้าและเดินตามหลิวหรูเยวไปพวกเขาค่อยๆเดินไปยังสนามประลอง
พวกเขาทั้งสองยืนอยู่ตรงข้าม,ห่างกันออกไปห้าเมตรหลิวหรูเยว่กล่าว “ก่อนที่มู่หลงชงจะออก จากยอดเขาฉิงหยุน,เขาอ่อนกว่าข้าเพียงเล็กน้อย ตอนนี้สามปีได้ผ่านไปความแข็งแกร่งของเขายิ่งกลายเป็นน่ากลัวข้าจะบอกเจ้าถึงทุกอย่างที่ข้ารู้”
“อย่างแรกคือเก้าทักษะลับของยอดเขานิ่งหยุนเขาได้เรียนรู้ไปสู่ทักษะ พวกมันคือสับวายุลึกล้ํา,เงาจันทราไร้พ่าย,สับวายุใส,และประกายแสง ผ่านเงา”
“เจ้าน่าจะคุ้นเคยอย่างมากกับสับวายุใสและสับวายุลึกล้ํา”
“ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นถึงเงาจันทราไร้พ่ายและประกายแสงผ่านเงา”
เซี่ยวเฉินรีบกล่าว “พี่สาวหรูเยว่เจ้าเพียงอธิบายให้ข้าฟังก็พอเส้นปราณของเจ้าเพิ่งจะฟื้นตัวจะเป็นการดีที่สุดหากเจ้าไม่หมุนเวียนพลังปราณ”
หลิวหรูเยว่เผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าอันสง่างามของนางพร้อมกับกล่าว “ไม่เป็นไร ข้ารู้ตัวของข้าดีค่อยดูให้ดีนี่คือเงาจันทราไร้พ่าย”
“ปะ ปะ!”
หลิวหรูเยวดึงกระบีเล่มบางของนางออกมามันเรืองกระบี่แสงเย็นและเฉียบคมออกมา สองกระบี่ฉีรูปจันทร์เสี้ยวสีแดงปรากฏขึ้นมา
เคลื่อนตามท่วงท่าของหลิวหรูเยว่,จันทร์สองเสี้ยวเคลื่อนไหวและเชื่อมต่อกัน,ประกอบเป็นจันทร์เต็มดวงที่ด้านหลังของนาง
ทันใดนั้น,ทั่วทั้งลานประลองกลายเป็นสีดํามืดจันทร์สีแดงค่อยๆลอยสูงและฉายแสงพื้นที่มืดมิดเป็นสีแดงค่ํา
หลิวหรูเยว่ลอยขึ้นไปในเวลาเดียวกันกับจันทร์เต็มดวงแสงสีแดงฉายลงบนเรือนร่างของนางและทําให้นางดูงดงามอย่างน่าประหลาด
กระบี่ของหลิวหรูเยว่ชี้ไปที่เชี่ยวเฉิน,กระแสพลังรวมเข้าที่จุดเดียว
เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดเล็กน้อย;เขารู้สึกถึงแรงกดดันแปลกประหลาดบนหน้าผากของเขา เขาไม่สามารถควบคุมฉีหรือโลหิตทั่วทั้งร่างของเขาได้และเขาเริ่มกระวนกระวายเขารู้สึกขุ่นมัวอย่างไม่อาจอธิบายได้
ช่างเป็นทักษะต่อสู้ที่ทรงพลังมันส่งผลต่อสภาพจิตใจของข้า,เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเองเขารีบจมจิตใต้สํานึกลองเขาลงและป้องกันจุดตันเที่ยน หลังจากที่เขาทําเช่นนั้นความรู้สึกไม่มั่นคงก็ได้หายไป
“แคร้ง!”
หลิวหรูเยว่เก็บกระบี่ของนางกลับเข้าฝัก,และปรากฎการณ์ลึกลับจางหายไป ร่างของนางลอยลง มาอย่างอ่อนนุ่ม เมื่อนางลงถึงพื้น,นางทรุดเขาลงข้างหนึ่งและเกือบที่จะล้มลง
เซียวเฉินตกใจและรีบเข้ามาประคองหลิวหรูเยว่เมื่อเขาเห็นสีหน้าอันซีดขาวของนาง,เขาพูดขึ้น“ไม่มีความจําเป็นต้องออกแรงหนักพี่สาวหรูเยว่,เจ้าเพียงแค่อธิบายให้ข้าฟังก็พอไม่จําเป็น ต้องแสดงมันออกมา”
ใบหน้าอันซีดขาวของหลิวหรูเยว่เผยรอยยิ้มขม ขึ้น นางผละออกจากแขนของเซี่ยวเฉินและยืนขี้นอย่างมั่นคงนางกล่าว“ดูเหมือนว่าข้าจะทําเกินไปหน่อยเช่นนั้นข้าจะอธิบายให้เจ้าฟัง”
“เงาจันทราไร้พ่ายคือปรากฎการณ์ลึกลับที่ สร้างขึ้นมาจากฉีฆ่าฟันของตัวข้าเองทักษะต่อสู้ นี้ดัดแปลงมาจากสับเงาโลหิตยิ่งฉีฆ่าฟันรุนแรงมากเท่าไหร,มันจะยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น”
“ในตอนที่เจ้าเผชิญกับกระบวณท่านี้ จิตใจของ เจ้าต้องสงบ มิฉะนั้น,ฉีฆ่าฟันจะเข้าสู่ร่างของเจ้ามันจะทําให้เจ้าหมดแม้แต่โอกาสที่จะดึงกระบี่ออกมา”
เซี่ยวเฉินพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว ข้ารู้สึกได้ถึง มันเมื่อครู่นี้ อย่างไรก็ตาม,ข้ามีนิสัยแน่วแน่เป็นปกติจิตใจของข้าไม่ถูกแทรกแซงได้ง่ายดายเช่นนั้น”
หลิวหรูเยว่เห็นเชี่ยวเฉินประมาทเลินเล่อ หลิว หรูเยว่เผยความจริงจังออกมาบนใบหน้าอันซีดเซียวของนางพร้อมกับกล่าว“เจ้าอย่าได้ประมาทในตอนนั้น,เพื่อที่จะฝึกฝนกระบวณท่านี้ของเขาให้ถึงระดับสมบูรณ์ขั้นเยอดเยี่ยม,มู่หลงชงได้ล่าสังหารกองโจรกว่าห้าสิบกลุ่มในทุ่งหญ้ามารอสูรแม้ว่าจํานวนโจรที่ถูกสังหารไปจะไม่ถึงหมื่น,แต่ไม่ต่ํากว่าแปดพันคนอย่างแน่นอน ฉีฆ่า ฟันของเขาน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง”
อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินจําได้ว่าในตอนที่เขาเผชิญหน้ากับมู่หลงชง,มู่หลงยังไม่ได้ปล่อยฉีฆ่าฟันรั่วไหลออกมาแม้แต่น้อยหากที่หลิวหรูเยว่พูดเป็นความจริง,มันก็แสดงให้เห็นว่ามู่หลงยังได้ไปถึงระดับที่เขาสามารถใช้ฉีฆ่าฟันได้ดั่งใจเพื่อที่จะควบคุมฉีฆ่าฟันมากมายเช่นนั้นนอกจากที่ต้องแข็งแกร่งมันยังต้องการภาวะจิตใจที่สูงส่ง
มู่หลงซึ่งเป็นคนเช่นไร? เขามีพรสวรรค์ที่น่าสะพริ้ง,เลือดเย็นและเด็ดขาด,รวมถึงมีความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ไร้ที่เปรียบมันยากที่จะหาจุดบกพร่องของเขา
หลิวหรูเยวพูดต่อ “อย่างไรก็ตามเจ้าไม่ต้องไปให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากนักหากเจ้าไม่อาจไปเอาชนะได้ในเรื่องของฉีฆ่าฟัน,เจ้าเพียงต้องใช้กําลังเพื่อทําลายปรากฎการณ์ลึกลับนี้ทําลายมันในขณะที่ยังเป็นดวงจันทร์สองเสี้ยว”
เซี่ยวเฉินกระจ่าง มีวิธีนี้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม,กระบวณท่าของข้าจะต้องรวดเร็วอย่างมาก,มากพอที่จะทําให้มู่หลงยังตอบสนองไม่ทัน
“ขอบคุณ พี่สาวหรูเยว” เซี่ยวเฉินกล่าวเสียงจริงจัง
หลิวหรูเยว่ยิ้มและกล่าวต่อ “พวกเรายังเหลือประกายแสงผ่านเงาข้าไม่รู้ถึงกระบวณท่านี้ ข้ารู้เพียงว่ามันเป็นทักษะต่อสู้เงาและผสานกับสภาวะแห่งแสงมันสามารถสร้างร่างเงาที่ยากจะจําแนกได้ออกมาจํานวนมาก
“อย่างไรก็ตาม มู่หลงชงจดจ่อไปกับสภาวะแห่งสายลมเขาไม่น่าจะใช้เวลามากมายไปกับ การฝึกฝนกระบวณท่านี้เจ้าระวังมันเอาไว้ก็เพียง พอแล้ว”
หลังจากนั้น,หลิวหรูเยว่บอกเซียวเฉินถึงจุดแข็งอื่นๆของมู่หลงชงความกังวลในดวงตาของนางไม่เคยจางหายไป
“จําเอาไว้ อย่าได้เอาชีวิตของเจ้าไปเสี่ยงในจังหวะสําคัญรักษาชีวิตคือสิ่งสําคัญที่สุดสําหรับข้า,ถึงแม้ว่าข้าจะรักษายอดเขาฉิงหยุนไว้ได้ข้าจะโศกเศร้ายิ่งหากเสียเจ้าไปดังนั้น,เจ้าต้องสัญญากับข้าหากเจ้าไม่อาจชนะ เพียงยอมแพ้ไปเสีย
ขณะที่เซียวเฉินกําลังจะกลับออกไป,หลิวหรูเยวพูดด้วยน้ําเสียงจริงจัง เพียงหลังจากที่เซียวเฉินให้สัญญาแล้วเท่านั้นหลิวหรูเยวจึงเผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมาและกลับออกจากลานประลองไป
ในเช้าวันต่อมา,แสงแรกส่องผ่านหน้าต่างและฉายเข้าไปในห้องของเซียวเฉิน
เมื่อเซี่ยวเฉินรู้สึกถึงแสงที่แยงตา,เขาตื่นขึ้นจากการหลับลึกในทันที เนื่องจากการประลองจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า,เขาไม่ได้บ่มเพาะพลังแต่กลับพัก ผ่อนอย่างเต็มที่ดังนั้นร่างกายและจิตวิญญาณของเขาได้พักผ่อนอย่างเต็มเปี่ยม
หลังจากที่เชี่ยวเฉินล้างหน้าเขารู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมากทั้งหมดของเขา ทั้งร่างกายภายในและภายนอก,อยู่ในสภาพพร้อมสูงสุด
หลิวหรูเยวและหลิวสุยเฟิงได้มารอที่ลานบ้านของเขาแล้วหลังจากที่เซียวเฉินไถ่ถาม,เขาพบว่าการประลองชิงตําแหน่งท่านเจ้ายอดเขาไม่ได้จัดขึ้นที่ฐานส่องสวรรค์มันกลับไปจัดที่ฐานสวรรค์ลอยฟ้าที่เขาเคยไปมาครั้งหนึ่ง
หลิวหรูเยวโบกมือขึ้นไปบนท้องฟ้า,และแร้งวายุสวรรค์ว่ายวนอยู่ในอากาศรอบหนึ่งก่อนที่จะลงจอดตรงหน้าของพวกเขาทําให้เกิดลมแรง
หลังจากที่ทั้งสามคนขึ้นขี่แร้งวายุสวรรค์,ผู้ควบ คุมแร้งวายุสวรรค์ก็ร้องตะโกน แร้งวายุสวรรค์ก็ส ร้างสายลมบ้าคลั่งก่อนที่จะทะยานขึ้นไปบนท้อง ฟ้าในทันที
หากไม่มีเรื่องสําคัญอะไรโดยปกติจะไม่มีใครมาที่ฐานสวรรค์ลอยฟ้า อย่างไรก็ตามในตอนนี้มีกระแสผู้คนทอดยาวไปไม่รู้จบ,กําลังเดินทางไปที่แห่งนั้น
ที่ฐานสวรรค์ลอยฟ้ามีลานประลองขนาดมหึมาโดยรอบของมันเป็นที่นั่งผู้ชมตรงกลางเป็นเวทีประลองยางสองพันเมตรและกว้างหลายร้อยเมตร
ไม่มีใครสงสัยในขนาดของลานประลองถึงอย่างไร,การประลองชิงตําแหน่งท่านเจ้ายอดเขาทุกครั้งก็อยู่ในระดับกษัตริย์ยุทธ
การประลองไม่อาจอยู่ในสนามประลองขนาดปกติ
ในลานประลอง,มู่หลงชั่งยืนไร้สีหน้าหลับตาอยู่ที่มุมหนึ่ง
สามารถมองเห็นผู้คนอัดแน่นอยู่บนอัฒจันทร์นอกจากนั้นยังมีผู้บ่มเพาะพลังมากมายที่กําลังเดินทางเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เกิดการประลองชิงตําแหน่งท่านเจ้ายอดเขาอีกครั้งแล้วข้าไม่คาดคิดว่ามู่หลงชงจะโจมตียอดเขาฉิงหยุนเช่นนี้น่าเสียดาย,หลิวหรูเยว่บาดเจ็บ ยอดเขาฉิงหยุนจะต้องพ่ายแพ้ในครั้งนี้”
“ก็อาจจะไม่เป็นเช่นนั้น เย่เฉินก็เป็นสุดยอดอัจฉริยะที่สามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญรุ่นใหญ่มาได้ด้วยพรสวรรค์นี้เขาไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่ามู่หลงชง โอกาสชนะเป็นครึ่งต่อครึ่ง”
Comments