Immortal and Martial Dual Cultivation 294 เริ่มการประลอง

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 294 เริ่มการประลอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 294 เริ่มการประลอง

“ฮ่าฮ่าเจ้ามันไร้เดียงสา มู่หลงชงเลื่อนสู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดมานานแล้วมีผู้เชี่ยวชาญรุ่นใหญ่ที่ตกตายด้วยมือของเขาเช่นกันพรสวรรค์ของพวกเขาอาจจะอยู่ในระดับเดียวกัน,แต่ด้วยขอบเขตพลัง,เย่เฉินค่อนข้างจะช้ากว่าเขาไม่โอกาสชนะในการเผชิญหน้ากับมู่หลงซึ่ง”

“ข้าเห็นด้วย ความแข็งแกร่งของมู่หลงชงคงเส้นคงวาอยู่เสมอนอกจากนั้นเขายังฝึกฝนทักษะลับของยอดเขาฉิงหยุนที่เขารู้จนถึงระดับ สมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมทักษะบ่มเพาะพลังและทักษะต่อสูงที่เขาฝึกฝนล้วนอยู่ในจุดยอดสุดในรุ่นของเขานอกจากนั้นเขายังมีบุคลิกที่ไร้ที่ติมันยากที่จะจินตนาการว่าเขาจะพ่ายแพ้ต่อเย่เฉิน”

“อย่างไรก็ตาม,ทําไมเย่เฉินยังมาไม่ถึง? ข้าได้ยินมาว่ามู่หลงชงมาตั้งแต่เมื่อคนและไม่ได้ออกไปจากสนามประลอง”

ก่อนที่การประลองจะเริ่มขึ้น,ฝูงชนเริ่มถกเถียงกันอย่างเข้มข้น

แม้ว่าพวกเขาจะชื่นชอบมู่หลงชง,แต่พวกเขาทั้งหมดก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของเย่เฉินพวกเขาทั้งหมดลงความเห็นว่านี่จะต้องไม่ใช่ชัยชนะที่ง่ายดายสําหรับมู่หลงชง

ในอดีตเรื่องแบบนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม,เหตุการณ์ก่อนหน้านี้พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของเซี่ยวเฉินมันไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด

มู่หลงชงไม่สนใจการถกเถียงกันรอบๆตัวของเขาทันใดนั้น,เขาพลันลืมตาขึ้นและมองไปยัง แร้งวายุสวรรค์บนท้องฟ้าเขากล่าวอย่างเฉยเมย “ในที่สุดเจ้าก็มา”

เซี่ยวเฉินมองไปที่มู่หลงชง, ผู้ที่ยืนอยู่บนสามประลองมาเป็นเวลานานแล้ว,จากนั้นก็ปรับสภาพจิตใจของเขา เขากระโดดลงจากแร้งวายุสวรรค์ และลงจอดบนสนามประลองอย่างมั่นคง

หลิวหรูเยว่จ้องมองไปที่ยังสองคนที่อยู่บนสนามประลองความรู้สึกสับซ้อนเติมเต็มหัวใจของนาง นางพึมพําด้วยเสียงต่ํา “ข้าหวังว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด”

เมื่อชายชราผู้หนึ่ง ที่อยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง,มองเห็นเซี่ยวเฉินบนสนามประลอง,เขาเดินออกมาและเผยตัวในทันทีเขาคือผู้ตัดสินในการประลองครั้งนี้และเขายังเป็นสมาชิกของสภาสูง

ชายชราโบกมือเป็นสัญญาณให้ทั้งสองคนถอยห่างกันออกไปหนึ่งร้อยเมตร หลังจากที่เขารอคอยอยู่ครู่หนึ่ง,เขากล่าวขึ้น“ในการประลองชิง ตําแหน่งท่านเจ้ายอดเขา,ไม่มีความเมตตาปราณีอย่างไรก็ตามให้ข้าได้กล่าวนี้เสียก่อนพวกเราต่างเป็นนิกายเดียวกันหากมีใยใดที่ยอมรับความพ่ายแพ้,ให้หยุดมือเสีย”

“ข้าจะไม่ขอพูดไร้สาระ เริ่มการต่อสู้ผู้ชนะคุมชะตายอดเขาฉิงหยุน”

หลังจากที่สิ้นเสียงของชายชรา,เขากดเท้าดีดตัวออกจากสนามประลอง

มู่หลงชงและเซี่ยวเฉินถอยห่างออกจากกันไปสองร้อยเมตรสายตาของพวกเขาจ้องมอง กัน มือขวาของพวกเขาวางลงบนด้ามกระบี่พวกเขาสะสมกระแสพลังอย่างไม่ลดละ

ในจังหวะนี้ เสียงหนวกหูบนอัฒจันทร์กลายเป็นใบ้สายตานับไม่ถ้วนจับจ้องไปที่สองคนที่อยู่บนสนามประลอง

“ฟุ!”

แสงสีแดงวูบไหวในดวงตาของมู่หลงชง,และแรงกดดันฉีฆ่าฟันยิงตรงไปที่เซียวเฉิน

ฉีฆ่าฟันนี้หนาแน่นรุนแรงขึ้นมาในทันที;มันแยกอากาศออกราวกับผิวน้ํา,จากนั้นก็ปิดล้อมพื้นที่ประมาณหนึ่งร้อยเมตรรอบตัวเซียวเฉิน

เสียงร้องน่าเวทนานับไม่ถ้วยดังสะท้อนในหูของเซียวเฉินภาพลวงตาอันน่าหวาดกลัวปรากฎ ขึ้นต่อหน้าต่อตาของเขานี่น่าจะเป็นความคับข้องใจของผู้ที่ถูกมู่หลงชงสังหารไป

มู่หลงชงสามารถใช้ฉีฆ่าฟันได้ดั่งใจ ไม่!ไม่เพียงแค่ระดับนั้น;มันลึกล้ําลงไปยิ่งกว่านั้น เขา สามารถใช้ฉีฆ่าฟันล้อมรอบร่างของเขาเอาไว้ได้โดยไม่กระจัดกระจายนี่คือการควบคุมระดับสูง

เซียวเฉิน,ประหลาดใจเล็กน้อย แต่ยังคงสีหน้าสงบ

เซี่ยวเฉินรวมพลังและทําจิตใจให้โปร่งใสแสงใสแวววับในดวงตาอันนิ่งสงบของเขา ด้วยจิต วิญญาณที่แข็งแกร่งค่อยปกป้องจิตใจของเขา,เขาไม่ถูกผลกระทบของฉีฆ่าฟัน

เซียวเฉินปล่อยให้ฉีฆ่าฟันล้อมรอบตัวของเขาแต่ดวงตาของเขายังนิ่งสงบไร้ที่ติเพียงแค่ปกป้องจิตใจของเขาทําให้ภาพลวงตาพวกนั้นลบหายไป

ใบหน้าของมู่หลงชงไร้อารมณ์ ในตอนที่เขาเห็นว่าฉีฆ่าฟันไม่ได้ผล,เขาก็ตัดสินใจเด็ดขาดถอนมันกลับมา

“ฟู ฟู!”

ทันใดนั้น,สายลมรุนแรงพัดผ่านด้านหลังของมู่หลงชงสายลมโห่ร้องและตบเอาฝุ่นควันขึ้นมา

เมฆาอัสนีรวมตัวกันอยู่เหนือหัวของเซี่ยวเฉิน,ปั่นป่วนอยู่สงต่อเนื่อง เสียงฟ้าร้องค้ําลั่นออกมาไม่มีสิ้นสุด

พวกเขาทั้งสองได้รวบรวมพลังมาได้ระยะเวลา หนึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็ปลดปล่อยออกมา พวก เขาเริ่มประชันกันด้วยความเข้าใจใน สภาวะ,สภาวะแห่งสายลมคลุ้มคลั่งปะทะสภาวะ แห่งสายฟ้าพลุ่งพล่าน

ชั่วครู่หนึ่ง,สายลมเร่งขึ้นและหมู่เมฆเคลื่อนตัวเมฆดํามืดบดบังดวงอาทิตย์, สิ้นแสงของมันโดยสิ้นเชิงสนามประลองตอนนี้กลายเป็นมืดมน

นอกจากนั้น,ฝุ่นดินที่สายลมรุนแรงได้พัดขึ้นมาบดบังวิสัยทัศน์ของผู้บ่มเพาะพลังจํานวนมาก,ยกเว้นแต่ผู้ที่มีสายตาเป็นเลิศแต่สําหรับส่วนใหญ่,พวกเขาไม่อาจเห็นสถานการณ์บนสนามประลอง

“ช่างทรงพลัง;พวกเขายังไม่ได้ประมือกันด้วยซ้ําการท้าชนในสภาวะของพวกเขาก็น่าสะพรึงกลัวแล้วไม่น่าสงสัยที่พวกเขาสามารถต่อกรกับผู้ที่มีขอบเขตพลังสูงกว่า,สังหารระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้นลงได้” มีคนอุทานขึ้นมา

“แครั้ง!”

ทันใดนั้น,กระบี่ฉีรุ่งโรจน์สองเส้นปรากฏขึ้นทากลางสายลมอันไร้ขอบเขต กระบี่แสงเฉียบคมเป่าฝุ่นควันทั้งหมดบนสนามประลองออกไป

แต่ละฝ่ายส่งกระบี่ฉีออกมาคนละเส้นกระบี่นี่ปะทะกันกลางอากาศและเกิดเป็นคลื่นกระแทกสาดไปทั่วทุกทิศทาง

มู่หลงชงประหลาดใจที่ความหนาแน่นของ กระบี่ฉีของเขาเทียบไม่ได้กับของเซียวเฉินแม้ว่าหลังจากที่ปะทะเข้ากับกระบี่ฉีของเขา,กระบี่ฉีสีม่วงยังคงลอยมาทางเขาอย่างรวดเร็ว,พลังไม่ได้ลดความเร็วลง

มู่หลงชงกระทืบเท้าลงบนพื้นและก้าวขึ้นหน้าไปเล็กน้อยเขากวาดกระบี่ของเขาและสลายกระบี่ฉีสีม่วงที่อ่อนแรงลงได้อย่างง่ายดายจากนั้นเขาก็พุ่งเข้าหาเซียวเฉินโดยที่ความเร็วไม่ได้ลดลง

เซี่ยวเฉินไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเขาร้องตะโกนและรีบพุ่งขึ้นหน้าต้อนรับสู่หลงชง

“แครั้ง! แครั้ง! แครั้ง! แครั้ง!”

กระบี่สองเล่มกระทบใส่กัน,และทันใดนั้นเสียงลม,เสียงอัสนี,และเสียงเหล็กกระทบผสานเข้าด้วยกันดังสะท้อนไปในอากาศ

ภายในพริบตา,พวกเขาก็แลกเปลี่ยนกันไปมาหลายสิบกระบวณท่า เมื่อพวกเขาเห็นช่องทาง,พวกเขาก็จัดการไม่เปิดโอกาสให้กับอีกฝ่ายผ่านไปครู่หนึ่ง,พวกเขาทั้งสองร้องตะโกนและถอยกลับออกจากกันหนึ่งร้อยเมตร

สายลมดุดันแตกสลาย,ฝุ่นควันทิ้งตัวลงฉากข้างหน้าในขณะนี้ปรากฏขึ้นต่อสายตาของทุกคนอีกครั้ง

สายตาของทั้งสองราวกับมีดคมที่กําลังเชือดเฉือนกันอย่างดุเดือดในอากาศ เซียวเฉินกํากระบี่เอาไว้แน่นด้วยมือขวาของเขา,กําลังตื่นตัวสุดขีด นี่เป็นเพราะกระบวณท่าเมื่อครู่ทั้งหมดต่างมีรายละเอียดสูงหลังจากนี้การประลองที่แท้จริงจะเริ่มขึ้น

มู่หลงชงเผยรอยยิ้มบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา เขากล่าว “หลังจากที่ไม่ได้เห็นหน้าเจ้ามาหนึ่งเดือน,ความแข็งแกร่งของเจ้าพัฒนาไปไกลกว่าที่คาดเอาไว้ตอนนี้เจ้ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะท้าทายข้าอย่างไรก็ตามก็เพียงแค่มีสิทธิ์มาท้าทายข้าเท่านั้น!”

“ทักษะลับยอดเขาฉิงหยุน,เงาจันทร์ไร้พ่าย!”

มู่หลงชงร้องตะโกน,และกระบี่ของเขาก็ปลดปล่อยกระบี่ฉีสีแดงรูปจันทร์เสี้ยวออกมาอย่างรวดเร็วจันทร์เสี้ยวทั้งสองอันเคลื่อนตัวโค้งสวยงามในอากาศพร้อมกับพวกมันถูกยิงไปที่เซี่ยวเฉิน

กระบี่ฉีที่บรรจุฉีฆ่าฟันอันไร้ขอบเขตเอาไว้ทุกที่ที่มันวาดผ่าน,มันทิ้งเงาสีแดงตามหลังราวกับเป็นสายเลือด

“หรูขุยแพรวพราว!”

เมื่อเซี่ยวเฉินรู้สชถึงพลังของเงาจันทราได้พ่าย,เขาไม่กล้าที่จะประมาท กระบี่เงาจันทร์สีขาวหิมะสั่นไหวเก้าครั้ง,และหญ่ขยแพรวพราวแสดงออกมาจนถึงขีดจํากัด

เก้ากิ่งหวี่ขยศักดิ์สิทธิ์โบราณเปลี่ยนกลายเป็นกระบี่ฉีและเคลื่นออกไปราวกับหอกยาวตรงไปที่กระบี่ฉีสีแดงในอากาศ

มู่หลงชงยิ้มบางเบาและส่ายกระบี่ในมือของเขาเล็กน้อยจันทร์เสี้ยวสีแดงทั้งสองหยุดลงกลางอากาศจากนั้นมันก็เคลื่อนไหวอย่างแปลกประหลาด,เป็นโค้งครึ่งวงกลม

พวกมันไปบรรจบกันตรงจุดที่เซียวเฉินยืนอยู่การเปลี่ยนทิศอย่างฉับพลันทําให้พวกมันสามารถหลบเลี่ยงกระบี่ฉีเก้าเส้นที่อยู่ในอากาศ

“รองเท้าก้าววายุ! ทํางาน! ถอย!”

ความเร็วของจันทร์เสี้ยวขึ้นไปถึงความเร็วเสียงในทันทีมู่หลงชงได้ผสานสภาวะแห่งสายลมลงไปอย่างสมบูรณ์

เซี่ยวเฉินไม่กล้าที่จะประมาทเขาเรีกยใช้รองเท้าก้าววายุและใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยานเขาเปลี่ยนกลายไปเป็นลูกศรสีม่วงและถอยหลังกลับ

“ปัง!”

ในทันทีที่เชี่ยวเฉินถอยกลับไป,จันทร์เสี้ยวทั้งสองเข้าปะทะกันและกันเกิดเสียงดัง“บูม” จากนั้น,พวกมันก็ก่อตัวเป็นจันทร์เต็มดวง

คลื่นกระแทกสีแดงอันน่าหวาดกลัวแผ่ออกไปเป็นระลอกด้วยพลังของคลื่นกระแทก,กําแพงฝุ่นยกขึ้นในอากาศ

แม้ว่าเซียวเฉินจะหลบออกมาล่วงหน้า,ความเร็วของคลื่นกระแทกก็ยังเกินความคาดหมายของเซี่ยวเฉิน

คลื่นกระแทกซัดเข้าร่างของเซียวเฉิน,กระแทกเขาลอยไปหลายร้อยเมตร ฉีฆ่าฟันที่แทรกเข้ามาในคลื่นกระแทกกรีดร้องในจิตใจของเขา

ฉีและโลหิตของเซียวเฉินพลุ่งพล่านอย่างไม่อาจควบคุมความคับข้องใจก่อตัวขึ้นในจิตใจของเขาความกระหายในการฆ่าและยุ่งเหยิงเกิด ขึ้นในจิตใจของเขา

“ให้ตาย!”

เซียวเฉินปล่อยวางความภาคภูมิใจของเขาและหมุนเวียนพลังปราณของเขาเพื่อรวบรวมฉีและโลหิตที่พลุ่งพล่านจากนั้นเขาก็อาเจียนพวกมันออกมาฉีและโลหิตที่พลุ่งพล่าน,รวมถึงฉีฆ่าฟันอันไร้ขอบเขตจางหายไป

บนอัฒจันทร์คนดู,หลิวหรูเยวคิ้วขมวดเล็กน้อยความกังวลเติมเต็มบนใบหน้าอันสง่างามของนาง นางไม่คาดคิดว่าในตอนที่เริ่มแลกเปลี่ยนกระ บวณท่ากันจริงๆ,เซี่ยวเฉินจะตกเป็นรองเล็กน้อย

ความเข้าใจของเงาจันทร์ไร้พ่ายของมู่หลงชั่งได้มาถึงจุดยอดสุดของความสมบูรณ์,ถึงจุดที่เขาสามารถควบคุมมันได้อย่างอิสระหลังจากที่ผสานเข้ากับสภาวะแห่งสายลมคลุ้มคลั่ง,พลังของกระบวณท่านี้ขึ้นไปถึงระดับที่น่าหวาดกลัว

“ฟู!”

ร่างของมู่หลงชงค่อยๆลอยขึ้นไปบนท้องฟ้ากระบี่ฉีรูปพระจันทร์แยกออกและลอยกลับไปที่ด้านหลังของเขาอีกครั้ง

จันทร์เสี้ยวผสานกลับเป็นเต็มดวงอีกครั้งฉากตอนกลางคืนที่มืดมิดปรากฏขึ้นมาอีกรอบทันใดนั้นมันบดบังซึ่งแสงอาทิตย์,รวมถึงปกคลุมเมฆดําที่สร้างขึ้นโดยสภาวะแห่งสายฟ้าของเซียวเฉิน

การเชื่อมต่อกับสภาวะแห่งสายฟ้าถูกทําลาย!

เซียวเฉินตกตะลึงอย่างมาก เขาพยายามอยู่สองสามครั้งแต่ก็พบว่าเขาไม่อาจเชื่อมต่อกับสภาวะแห่งสายฟ้าของเขาค่ําคืนที่ปกคลุมตัดขาดเขาออกจากโลกภายนอก

“นี่คือผลของปรากฎการณ์ลึกลับระดับสมบูรณ์ขั้นสูงสุดมันก่อตัวขึ้นเป็นม่านพลัง สภาวะแห่งสายฟ้าของเซี่ยวเฉินถูกแยกออกมา”

“ข้าไม่ได้คาดคิดว่ามู่หลงชงจะบรรลุปรากฏการณ์ลึกลับของเขาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นสูงสุดระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลายคนก็ไม่อาจที่จะทําได้เช่นนี้”

“แน่นอน, ปรากฏการณ์ลึกลับไม่ได้เกี่ยวข้องกับขอบเขตพลังมันขึ้นอยู่กับพรสวรรค์และความสามารถในการเข้าใจของแต่ละคนเองหลังจากที่สูญเสียสภาวะแห่งสายฟ้า,เย่เฉินตกอยู่ในสถานการณ์ย่ําแย่”

ผู้รู้หลายคนบนอัฒจันทร์ถอนหายใจและแสดงความคิดเห็นออกมาตอนนี้เขามีปรากฎการณ์ล็กลับระดับสมบูรณ์ขั้นสูงสุด,เขาอาจจะเป็นผู้ไร้พ่าย ในระดับขอบเขตนักบุญ

การข้ามขั้นขอบเขตพลังไปสังหารระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้นจะเป็นเรื่องง่ายดาย
หลิวหรูเยว่ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น;ม่หลงชงแข็งแกร่งกว่าที่นางคาดการณ์เอาไว้ แม้ว่าจะเป็นตัวนางเอง,นางก็ยากลําบากที่จะเผชิญหน้าสิ่งนี้
เมื่อเซี่ยวเฉินมองดูจันทร์สีแดงเต็มดวงและมู่หลงชง,ผู้ที่อาบไปด้วยแสงสีแดง,เขาค่อยๆสงบลงอย่างช้าๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 294 เริ่มการประลอง

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 294 เริ่มการประลอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 294 เริ่มการประลอง

“ฮ่าฮ่าเจ้ามันไร้เดียงสา มู่หลงชงเลื่อนสู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดมานานแล้วมีผู้เชี่ยวชาญรุ่นใหญ่ที่ตกตายด้วยมือของเขาเช่นกันพรสวรรค์ของพวกเขาอาจจะอยู่ในระดับเดียวกัน,แต่ด้วยขอบเขตพลัง,เย่เฉินค่อนข้างจะช้ากว่าเขาไม่โอกาสชนะในการเผชิญหน้ากับมู่หลงซึ่ง”

“ข้าเห็นด้วย ความแข็งแกร่งของมู่หลงชงคงเส้นคงวาอยู่เสมอนอกจากนั้นเขายังฝึกฝนทักษะลับของยอดเขาฉิงหยุนที่เขารู้จนถึงระดับ สมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมทักษะบ่มเพาะพลังและทักษะต่อสูงที่เขาฝึกฝนล้วนอยู่ในจุดยอดสุดในรุ่นของเขานอกจากนั้นเขายังมีบุคลิกที่ไร้ที่ติมันยากที่จะจินตนาการว่าเขาจะพ่ายแพ้ต่อเย่เฉิน”

“อย่างไรก็ตาม,ทําไมเย่เฉินยังมาไม่ถึง? ข้าได้ยินมาว่ามู่หลงชงมาตั้งแต่เมื่อคนและไม่ได้ออกไปจากสนามประลอง”

ก่อนที่การประลองจะเริ่มขึ้น,ฝูงชนเริ่มถกเถียงกันอย่างเข้มข้น

แม้ว่าพวกเขาจะชื่นชอบมู่หลงชง,แต่พวกเขาทั้งหมดก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของเย่เฉินพวกเขาทั้งหมดลงความเห็นว่านี่จะต้องไม่ใช่ชัยชนะที่ง่ายดายสําหรับมู่หลงชง

ในอดีตเรื่องแบบนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม,เหตุการณ์ก่อนหน้านี้พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของเซี่ยวเฉินมันไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด

มู่หลงชงไม่สนใจการถกเถียงกันรอบๆตัวของเขาทันใดนั้น,เขาพลันลืมตาขึ้นและมองไปยัง แร้งวายุสวรรค์บนท้องฟ้าเขากล่าวอย่างเฉยเมย “ในที่สุดเจ้าก็มา”

เซี่ยวเฉินมองไปที่มู่หลงชง, ผู้ที่ยืนอยู่บนสามประลองมาเป็นเวลานานแล้ว,จากนั้นก็ปรับสภาพจิตใจของเขา เขากระโดดลงจากแร้งวายุสวรรค์ และลงจอดบนสนามประลองอย่างมั่นคง

หลิวหรูเยว่จ้องมองไปที่ยังสองคนที่อยู่บนสนามประลองความรู้สึกสับซ้อนเติมเต็มหัวใจของนาง นางพึมพําด้วยเสียงต่ํา “ข้าหวังว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด”

เมื่อชายชราผู้หนึ่ง ที่อยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง,มองเห็นเซี่ยวเฉินบนสนามประลอง,เขาเดินออกมาและเผยตัวในทันทีเขาคือผู้ตัดสินในการประลองครั้งนี้และเขายังเป็นสมาชิกของสภาสูง

ชายชราโบกมือเป็นสัญญาณให้ทั้งสองคนถอยห่างกันออกไปหนึ่งร้อยเมตร หลังจากที่เขารอคอยอยู่ครู่หนึ่ง,เขากล่าวขึ้น“ในการประลองชิง ตําแหน่งท่านเจ้ายอดเขา,ไม่มีความเมตตาปราณีอย่างไรก็ตามให้ข้าได้กล่าวนี้เสียก่อนพวกเราต่างเป็นนิกายเดียวกันหากมีใยใดที่ยอมรับความพ่ายแพ้,ให้หยุดมือเสีย”

“ข้าจะไม่ขอพูดไร้สาระ เริ่มการต่อสู้ผู้ชนะคุมชะตายอดเขาฉิงหยุน”

หลังจากที่สิ้นเสียงของชายชรา,เขากดเท้าดีดตัวออกจากสนามประลอง

มู่หลงชงและเซี่ยวเฉินถอยห่างออกจากกันไปสองร้อยเมตรสายตาของพวกเขาจ้องมอง กัน มือขวาของพวกเขาวางลงบนด้ามกระบี่พวกเขาสะสมกระแสพลังอย่างไม่ลดละ

ในจังหวะนี้ เสียงหนวกหูบนอัฒจันทร์กลายเป็นใบ้สายตานับไม่ถ้วนจับจ้องไปที่สองคนที่อยู่บนสนามประลอง

“ฟุ!”

แสงสีแดงวูบไหวในดวงตาของมู่หลงชง,และแรงกดดันฉีฆ่าฟันยิงตรงไปที่เซียวเฉิน

ฉีฆ่าฟันนี้หนาแน่นรุนแรงขึ้นมาในทันที;มันแยกอากาศออกราวกับผิวน้ํา,จากนั้นก็ปิดล้อมพื้นที่ประมาณหนึ่งร้อยเมตรรอบตัวเซียวเฉิน

เสียงร้องน่าเวทนานับไม่ถ้วยดังสะท้อนในหูของเซียวเฉินภาพลวงตาอันน่าหวาดกลัวปรากฎ ขึ้นต่อหน้าต่อตาของเขานี่น่าจะเป็นความคับข้องใจของผู้ที่ถูกมู่หลงชงสังหารไป

มู่หลงชงสามารถใช้ฉีฆ่าฟันได้ดั่งใจ ไม่!ไม่เพียงแค่ระดับนั้น;มันลึกล้ําลงไปยิ่งกว่านั้น เขา สามารถใช้ฉีฆ่าฟันล้อมรอบร่างของเขาเอาไว้ได้โดยไม่กระจัดกระจายนี่คือการควบคุมระดับสูง

เซียวเฉิน,ประหลาดใจเล็กน้อย แต่ยังคงสีหน้าสงบ

เซี่ยวเฉินรวมพลังและทําจิตใจให้โปร่งใสแสงใสแวววับในดวงตาอันนิ่งสงบของเขา ด้วยจิต วิญญาณที่แข็งแกร่งค่อยปกป้องจิตใจของเขา,เขาไม่ถูกผลกระทบของฉีฆ่าฟัน

เซียวเฉินปล่อยให้ฉีฆ่าฟันล้อมรอบตัวของเขาแต่ดวงตาของเขายังนิ่งสงบไร้ที่ติเพียงแค่ปกป้องจิตใจของเขาทําให้ภาพลวงตาพวกนั้นลบหายไป

ใบหน้าของมู่หลงชงไร้อารมณ์ ในตอนที่เขาเห็นว่าฉีฆ่าฟันไม่ได้ผล,เขาก็ตัดสินใจเด็ดขาดถอนมันกลับมา

“ฟู ฟู!”

ทันใดนั้น,สายลมรุนแรงพัดผ่านด้านหลังของมู่หลงชงสายลมโห่ร้องและตบเอาฝุ่นควันขึ้นมา

เมฆาอัสนีรวมตัวกันอยู่เหนือหัวของเซี่ยวเฉิน,ปั่นป่วนอยู่สงต่อเนื่อง เสียงฟ้าร้องค้ําลั่นออกมาไม่มีสิ้นสุด

พวกเขาทั้งสองได้รวบรวมพลังมาได้ระยะเวลา หนึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็ปลดปล่อยออกมา พวก เขาเริ่มประชันกันด้วยความเข้าใจใน สภาวะ,สภาวะแห่งสายลมคลุ้มคลั่งปะทะสภาวะ แห่งสายฟ้าพลุ่งพล่าน

ชั่วครู่หนึ่ง,สายลมเร่งขึ้นและหมู่เมฆเคลื่อนตัวเมฆดํามืดบดบังดวงอาทิตย์, สิ้นแสงของมันโดยสิ้นเชิงสนามประลองตอนนี้กลายเป็นมืดมน

นอกจากนั้น,ฝุ่นดินที่สายลมรุนแรงได้พัดขึ้นมาบดบังวิสัยทัศน์ของผู้บ่มเพาะพลังจํานวนมาก,ยกเว้นแต่ผู้ที่มีสายตาเป็นเลิศแต่สําหรับส่วนใหญ่,พวกเขาไม่อาจเห็นสถานการณ์บนสนามประลอง

“ช่างทรงพลัง;พวกเขายังไม่ได้ประมือกันด้วยซ้ําการท้าชนในสภาวะของพวกเขาก็น่าสะพรึงกลัวแล้วไม่น่าสงสัยที่พวกเขาสามารถต่อกรกับผู้ที่มีขอบเขตพลังสูงกว่า,สังหารระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้นลงได้” มีคนอุทานขึ้นมา

“แครั้ง!”

ทันใดนั้น,กระบี่ฉีรุ่งโรจน์สองเส้นปรากฏขึ้นทากลางสายลมอันไร้ขอบเขต กระบี่แสงเฉียบคมเป่าฝุ่นควันทั้งหมดบนสนามประลองออกไป

แต่ละฝ่ายส่งกระบี่ฉีออกมาคนละเส้นกระบี่นี่ปะทะกันกลางอากาศและเกิดเป็นคลื่นกระแทกสาดไปทั่วทุกทิศทาง

มู่หลงชงประหลาดใจที่ความหนาแน่นของ กระบี่ฉีของเขาเทียบไม่ได้กับของเซียวเฉินแม้ว่าหลังจากที่ปะทะเข้ากับกระบี่ฉีของเขา,กระบี่ฉีสีม่วงยังคงลอยมาทางเขาอย่างรวดเร็ว,พลังไม่ได้ลดความเร็วลง

มู่หลงชงกระทืบเท้าลงบนพื้นและก้าวขึ้นหน้าไปเล็กน้อยเขากวาดกระบี่ของเขาและสลายกระบี่ฉีสีม่วงที่อ่อนแรงลงได้อย่างง่ายดายจากนั้นเขาก็พุ่งเข้าหาเซียวเฉินโดยที่ความเร็วไม่ได้ลดลง

เซี่ยวเฉินไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเขาร้องตะโกนและรีบพุ่งขึ้นหน้าต้อนรับสู่หลงชง

“แครั้ง! แครั้ง! แครั้ง! แครั้ง!”

กระบี่สองเล่มกระทบใส่กัน,และทันใดนั้นเสียงลม,เสียงอัสนี,และเสียงเหล็กกระทบผสานเข้าด้วยกันดังสะท้อนไปในอากาศ

ภายในพริบตา,พวกเขาก็แลกเปลี่ยนกันไปมาหลายสิบกระบวณท่า เมื่อพวกเขาเห็นช่องทาง,พวกเขาก็จัดการไม่เปิดโอกาสให้กับอีกฝ่ายผ่านไปครู่หนึ่ง,พวกเขาทั้งสองร้องตะโกนและถอยกลับออกจากกันหนึ่งร้อยเมตร

สายลมดุดันแตกสลาย,ฝุ่นควันทิ้งตัวลงฉากข้างหน้าในขณะนี้ปรากฏขึ้นต่อสายตาของทุกคนอีกครั้ง

สายตาของทั้งสองราวกับมีดคมที่กําลังเชือดเฉือนกันอย่างดุเดือดในอากาศ เซียวเฉินกํากระบี่เอาไว้แน่นด้วยมือขวาของเขา,กําลังตื่นตัวสุดขีด นี่เป็นเพราะกระบวณท่าเมื่อครู่ทั้งหมดต่างมีรายละเอียดสูงหลังจากนี้การประลองที่แท้จริงจะเริ่มขึ้น

มู่หลงชงเผยรอยยิ้มบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา เขากล่าว “หลังจากที่ไม่ได้เห็นหน้าเจ้ามาหนึ่งเดือน,ความแข็งแกร่งของเจ้าพัฒนาไปไกลกว่าที่คาดเอาไว้ตอนนี้เจ้ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะท้าทายข้าอย่างไรก็ตามก็เพียงแค่มีสิทธิ์มาท้าทายข้าเท่านั้น!”

“ทักษะลับยอดเขาฉิงหยุน,เงาจันทร์ไร้พ่าย!”

มู่หลงชงร้องตะโกน,และกระบี่ของเขาก็ปลดปล่อยกระบี่ฉีสีแดงรูปจันทร์เสี้ยวออกมาอย่างรวดเร็วจันทร์เสี้ยวทั้งสองอันเคลื่อนตัวโค้งสวยงามในอากาศพร้อมกับพวกมันถูกยิงไปที่เซี่ยวเฉิน

กระบี่ฉีที่บรรจุฉีฆ่าฟันอันไร้ขอบเขตเอาไว้ทุกที่ที่มันวาดผ่าน,มันทิ้งเงาสีแดงตามหลังราวกับเป็นสายเลือด

“หรูขุยแพรวพราว!”

เมื่อเซี่ยวเฉินรู้สชถึงพลังของเงาจันทราได้พ่าย,เขาไม่กล้าที่จะประมาท กระบี่เงาจันทร์สีขาวหิมะสั่นไหวเก้าครั้ง,และหญ่ขยแพรวพราวแสดงออกมาจนถึงขีดจํากัด

เก้ากิ่งหวี่ขยศักดิ์สิทธิ์โบราณเปลี่ยนกลายเป็นกระบี่ฉีและเคลื่นออกไปราวกับหอกยาวตรงไปที่กระบี่ฉีสีแดงในอากาศ

มู่หลงชงยิ้มบางเบาและส่ายกระบี่ในมือของเขาเล็กน้อยจันทร์เสี้ยวสีแดงทั้งสองหยุดลงกลางอากาศจากนั้นมันก็เคลื่อนไหวอย่างแปลกประหลาด,เป็นโค้งครึ่งวงกลม

พวกมันไปบรรจบกันตรงจุดที่เซียวเฉินยืนอยู่การเปลี่ยนทิศอย่างฉับพลันทําให้พวกมันสามารถหลบเลี่ยงกระบี่ฉีเก้าเส้นที่อยู่ในอากาศ

“รองเท้าก้าววายุ! ทํางาน! ถอย!”

ความเร็วของจันทร์เสี้ยวขึ้นไปถึงความเร็วเสียงในทันทีมู่หลงชงได้ผสานสภาวะแห่งสายลมลงไปอย่างสมบูรณ์

เซี่ยวเฉินไม่กล้าที่จะประมาทเขาเรีกยใช้รองเท้าก้าววายุและใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยานเขาเปลี่ยนกลายไปเป็นลูกศรสีม่วงและถอยหลังกลับ

“ปัง!”

ในทันทีที่เชี่ยวเฉินถอยกลับไป,จันทร์เสี้ยวทั้งสองเข้าปะทะกันและกันเกิดเสียงดัง“บูม” จากนั้น,พวกมันก็ก่อตัวเป็นจันทร์เต็มดวง

คลื่นกระแทกสีแดงอันน่าหวาดกลัวแผ่ออกไปเป็นระลอกด้วยพลังของคลื่นกระแทก,กําแพงฝุ่นยกขึ้นในอากาศ

แม้ว่าเซียวเฉินจะหลบออกมาล่วงหน้า,ความเร็วของคลื่นกระแทกก็ยังเกินความคาดหมายของเซี่ยวเฉิน

คลื่นกระแทกซัดเข้าร่างของเซียวเฉิน,กระแทกเขาลอยไปหลายร้อยเมตร ฉีฆ่าฟันที่แทรกเข้ามาในคลื่นกระแทกกรีดร้องในจิตใจของเขา

ฉีและโลหิตของเซียวเฉินพลุ่งพล่านอย่างไม่อาจควบคุมความคับข้องใจก่อตัวขึ้นในจิตใจของเขาความกระหายในการฆ่าและยุ่งเหยิงเกิด ขึ้นในจิตใจของเขา

“ให้ตาย!”

เซียวเฉินปล่อยวางความภาคภูมิใจของเขาและหมุนเวียนพลังปราณของเขาเพื่อรวบรวมฉีและโลหิตที่พลุ่งพล่านจากนั้นเขาก็อาเจียนพวกมันออกมาฉีและโลหิตที่พลุ่งพล่าน,รวมถึงฉีฆ่าฟันอันไร้ขอบเขตจางหายไป

บนอัฒจันทร์คนดู,หลิวหรูเยวคิ้วขมวดเล็กน้อยความกังวลเติมเต็มบนใบหน้าอันสง่างามของนาง นางไม่คาดคิดว่าในตอนที่เริ่มแลกเปลี่ยนกระ บวณท่ากันจริงๆ,เซี่ยวเฉินจะตกเป็นรองเล็กน้อย

ความเข้าใจของเงาจันทร์ไร้พ่ายของมู่หลงชั่งได้มาถึงจุดยอดสุดของความสมบูรณ์,ถึงจุดที่เขาสามารถควบคุมมันได้อย่างอิสระหลังจากที่ผสานเข้ากับสภาวะแห่งสายลมคลุ้มคลั่ง,พลังของกระบวณท่านี้ขึ้นไปถึงระดับที่น่าหวาดกลัว

“ฟู!”

ร่างของมู่หลงชงค่อยๆลอยขึ้นไปบนท้องฟ้ากระบี่ฉีรูปพระจันทร์แยกออกและลอยกลับไปที่ด้านหลังของเขาอีกครั้ง

จันทร์เสี้ยวผสานกลับเป็นเต็มดวงอีกครั้งฉากตอนกลางคืนที่มืดมิดปรากฏขึ้นมาอีกรอบทันใดนั้นมันบดบังซึ่งแสงอาทิตย์,รวมถึงปกคลุมเมฆดําที่สร้างขึ้นโดยสภาวะแห่งสายฟ้าของเซียวเฉิน

การเชื่อมต่อกับสภาวะแห่งสายฟ้าถูกทําลาย!

เซียวเฉินตกตะลึงอย่างมาก เขาพยายามอยู่สองสามครั้งแต่ก็พบว่าเขาไม่อาจเชื่อมต่อกับสภาวะแห่งสายฟ้าของเขาค่ําคืนที่ปกคลุมตัดขาดเขาออกจากโลกภายนอก

“นี่คือผลของปรากฎการณ์ลึกลับระดับสมบูรณ์ขั้นสูงสุดมันก่อตัวขึ้นเป็นม่านพลัง สภาวะแห่งสายฟ้าของเซี่ยวเฉินถูกแยกออกมา”

“ข้าไม่ได้คาดคิดว่ามู่หลงชงจะบรรลุปรากฏการณ์ลึกลับของเขาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นสูงสุดระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลายคนก็ไม่อาจที่จะทําได้เช่นนี้”

“แน่นอน, ปรากฏการณ์ลึกลับไม่ได้เกี่ยวข้องกับขอบเขตพลังมันขึ้นอยู่กับพรสวรรค์และความสามารถในการเข้าใจของแต่ละคนเองหลังจากที่สูญเสียสภาวะแห่งสายฟ้า,เย่เฉินตกอยู่ในสถานการณ์ย่ําแย่”

ผู้รู้หลายคนบนอัฒจันทร์ถอนหายใจและแสดงความคิดเห็นออกมาตอนนี้เขามีปรากฎการณ์ล็กลับระดับสมบูรณ์ขั้นสูงสุด,เขาอาจจะเป็นผู้ไร้พ่าย ในระดับขอบเขตนักบุญ

การข้ามขั้นขอบเขตพลังไปสังหารระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้นจะเป็นเรื่องง่ายดาย
หลิวหรูเยว่ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น;ม่หลงชงแข็งแกร่งกว่าที่นางคาดการณ์เอาไว้ แม้ว่าจะเป็นตัวนางเอง,นางก็ยากลําบากที่จะเผชิญหน้าสิ่งนี้
เมื่อเซี่ยวเฉินมองดูจันทร์สีแดงเต็มดวงและมู่หลงชง,ผู้ที่อาบไปด้วยแสงสีแดง,เขาค่อยๆสงบลงอย่างช้าๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+