Immortal and Martial Dual Cultivation 307 บุปผาเหมันต์ลึกล้ํา

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 307 บุปผาเหมันต์ลึกล้ํา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 307 บุปผาเหมันต์ลึกล้ํา
พวกเขาทั้งสองพลังทัดเทียมกัน ทันทีที่มือและกําปั้นเข้าปะทะกัน,พวกเขาทั้งคู่ถอยกลับไปคนละห้าก้าวพวกเขาทั้งสองรู้สึกถึงแขนขวาที่ด้านชา,ฉีและพลังปราณในร่างของพวกเขาในป่วนหนักอวัยวะภายในทั้งหมดของพวกเขาสั่นสะเทือน

“พอได้แล้ว,หากมีใครลงมืออีก,พวกเจ้าไสหัวไปทันทีข้า,ตัวนมู่ฉิง,จะกล่าวอีกเพียงครั้งเดียวหากมีใครไม่เชื่อข้า,พวกเจ้าก็ลองดู”

ดวงตาอันเยือกเย็นของตัวนมู่ฉิง,สีหน้าของนางมืดมัวและน้ําเสียงที่เย็นเชียบทําให้ไม่มีใครสงสัยในความตั้งใจของนาง

จีชางคงมองไปที่เซี่ยวเฉินเขารู้ว่าเขาไม่อาจจัดการกับเซียวเฉินได้ในเวลาอันสั้นเขาทําได้เพียงปล่อยเซียวเฉินไปดวงดาราด้านหลังของเช่าลบหายไปในทันทีและความสงบก็กลับคืนมา

ข้ายังไม่ได้ทดสอบความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาดูเหมือนจะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมาอีกคนในการแสวงโชครั้งนี้ดังนั้นความสามารถในการแข่งขันของเขาจะรุนแรงกว่าคนอื่นๆ

มองดูจีชางคงถอยกลับ,เซี่ยวเฉินก็ไม่ได้มีความตั้งใจจะประมือต่อเขารู้ว่าอีกฝ่ายเพียงต้องการจะทดสอบความแข็งแกร่งของเขามันยังห่างไกลกับความขัดแย้ง

ด้วนมู่ฉิงหันมาและกล่าวกับเซียวเฉิน “ข้ายังไม่ได้ถามชื่อเจ้า แล้วก็, โปรดแสดงสัญญาภารกิจ และเหรียญแสดงตนของศาลากระบีสวรรค์”
เซียวเฉินยื่นเหรียญแสดงตนและสัญญาภารกิจจากนั้นเขาก็กล่าว“เย่เฉินจากยอดเขาฉิงหยุน”

ยอดเขาฉิงหยุน?

ในตอนที่ต้วนมู่ฉิงได้ยินคํานี้,นางค่อนข้างประหลาดใจนางเข้าใจถึงสถานการณ์ของศาลากระบี่สวรรค์อยู่บ้างจากที่นางได้ยินมามู่หลงชง ออกจากศาลากระบี่สวรรค์ก็เพราะเขาพ่ายแพ้ให้กับศิษย์ยอดเขาฉิงหยุนผู้หนึ่ง

บุคคลตรงหน้าของนางจะต้องเป็นศิษย์คนนั้นหลังจากตรวจสอบเหรียญแสดงตนและสัญญาภารกิจของเขา,ต้วนมู่ฉิงก็กล่าวเสียงเบา“โปรดนั่ง ลง นี่ภารกิจของเจ้า”

หลังจากที่เซียวเฉินนั่งลง,ตัวนมู่ฉิงก็กล่าวด้วยเสียงเบาๆ “แม้ว่าข้าจะไม่ต้องบอก,ทุกคนก็น่าจะรู้จักคุ้นเคยกับนิกายหลี่เพลิงในราชวงศ์เทียนหวี่,สมบัติลับทุกชิ้นภายในทวีปมาจากนิกายแห่งนี้หลังจากยุคโบราณ,นี่เป็นนิกายเดียวที่รู้ถึงวิธีสร้างสมบัติลับ”

“อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์ของตระกูลตัวนมู่ในครั้งนี้ไม่ใช่นิกายหลเพลิง กลับกัน มันเป็นบุปผาเหมันต์ลึกล้ําที่อยู่ด้านหน้าของซากปรักหักพังตราบใดที่ทุกคนช่วยเหลือข้าให้ได้รับบุปผาเหมันต์ลึกล้ํามา,ข้าจะช่วยพวกเจ้าทุกคนเพื่อเปิดทางเข้าของสาขานิกายหลเพลิง”

ฮวาหยุนเฟยกล่าวอย่างเฉยเมย “บุปผาเหมันต์ลึกล้ําไม่ใช่สมุนไพรวิญญาณทั่วไป ทําไมพวกเราถึงควรให้มันกับเจ้า? เจ้าจะพิสูจน์ได้อย่างไร ว่าซากสาขานิกายหลี่เพลิงอยู่ติดกับบุปผาเหมนต์ลึกล้ํา?”

“หากเจ้าจากไปในทันทีที่ได้บุปผาเหมันต์ลึกล้ําไป,เช่นนั้นพวกเราจะกลายเป็นถูกเจ้าในหัวเจ้าต้องให้เหตุผลที่โน้มน้าวพวกเราได้”

บุปผาเหมันต์ลึกล้ํามันลึกลับเป็นอย่างมากเดิมที,ทวีปเทียนหวี่ไม่ได้มีบุปผาเหมันต์ลึกล้ํานี้ตามตํานาน,จักรพรรดิผู้เชี่ยวชาญ, ปิงโห่ว,ในยุค โบราณได้ตกตายลง,เลือดของนางหยดลงพื้นและเติบโตเป็นดอกไม้
ดอกไม้ทั้งหมดเกิดขึ้นมาจากพลังงานจิตวิญญาณธาตุน้ําแข็งที่บริสุทธิ์ที่สุด มันตกผลึกและบริสุทธิ์อย่างไม่น่าเชื่อ

ดอกไม้นี้ไม่สามารถพัฒนาขอบเขตพลังของผู้บ่มเพาะพลังอย่างไรก็ตาม,หากผู้บ่มเพาะพลังธาตุน้ําแข็งกินมันเข้าไปร่างกายของพวกเขาจะ เปลี่ยนกลายเป็นร่างจิตวิญญาณตามตํานาน

พวกเขาสามารถบรรลุสภาวะแห่งน้ําแข็งถึงขีดสุดนอกจากนั้นในตอนที่บ่มเพาะทักษะต่อสู้ธาตุน้ําแข็ง,พวกเขาจะรวดเร็วกว่าผู้บ่มเพาะพลังทั่ว ไปหลายเท่าตัว

ตํานานกล่าวว่าตระกูลต้วนม่เป็นทายาทของปิงโห่วทักษะบ่มเพาะสายเหมันต์ลึกล้ําที่สืบทอดกันมาก็เป็นทักษะบ่มเพาะพลังของปิงโห่ว

ดังนั้น สําหรับตระกูลต้วนมู่,บุปผาเหมันต์ลึกล้ํานี้มีความหมายมากกว่าผู้บ่มเพาะพลังทั่วไป

หากตัวนมาฉิงได้รับบุปผาเหมันต์ลึกล้ํามา มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตระกูลต้วนมู่ อย่างรวดเร็วแต่สําหรับเหล่าตรกูลอื่นนี่ไม่ใช่ ข่าวดีสําหรับพวกเขาอย่างแน่นอน

คําของฮวาหยุนเฟยพูดแทนทุกคนที่อยู่ที่นี่ตัวนมู่ฉิงจะต้องให้เหตุผลที่พวกเขาจะยอมปล่อยมือจากบุปผาเหมันต์ลึกล้ําโดยการพิสูจน์ถึงการมี อยู่ของสาขานิกายหลี่เพลิง

ตัวนมู่ฉิงได้คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าทุกคนจะต้องมีข้อสงสัย นางกล่าวอย่างเยือกเย็น “ตําแหน่งของบุปผาเหมันต์ลึกล้ําอยู่ภายในป่าสัตว์อสูรปีศาจมีผนึกของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงนั้นผู้บ่มเพาะพลังและสัตว์อสูรปีศาจที่ระดับพลังสูงกว่าระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธไม่อาจเข้าไปได้ครั้งนี้ข้าจะนําเพียงสี่คนเข้าไปพร้อมกับข้า”

“หากซากนิกายหลี่เพลิงไม่มีอยู่จริง,เจ้าสามารถสังหารข้าเสียอย่างง่ายดายด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าหลังจากที่ข้าได้รับบุปผาเหมันต์ลึกล้ํา,ข้าจะไม่แตะต้องสมบัติลับของนิกายหลี่เพลิงแม้แต่ชิ้นเดียว”

“สําหรับข้อพิสูจน์ที่เจ้าต้องการ,ข้าไม่อาจเอาออกมาได้อย่างไรก็ตาม,ข้าใช้ชีวิตของข้าเป็นรับประกันหากเจ้าเชื่อข้า,เช่นนั้นก็ตามข้ามาหาก เจ้าไม่เชื่อ,พวกเจ้ากลับออกไปได้”

หลังจากทุกคนได้ยินคําของต้วนมู่ฉิง,พวกเขาทั้งหมดเริ่มไตร่ตรองอยู่ในหัวของพวกเขา แม้ว่าตัวนมู่ฉิงจะไม่มีหลักฐานอะไรแต่ก็ไม่มีใครที่คิดจะจากไป

พวกเขาช่วยไม่ได้ ความหอมหวลของการเผชิญโชคมันยิ่งใหญ่เกินไป หากพวกเขาจาก ไป,และอัจฉริยะคนอื่นได้รับสมบัติลับจากการเผชิญโชคในครั้งนี้,พวกเขาอาจจะถูกทิ้งเอาไว้ไม่เห็นฝุ่นไปตลอดกาลเช่นนั้น มันจะสายเกินไปที่จะมานั่งเสียใจ

นอกจากนั้น ทุกคนเชื่อว่าต้วนมู่ฉิงไม่ได้กล้าพอที่จะมาหลอกลวงทุกคน

ทุกคนในลานแห่งนี้ล้วนมีพื้นหลังแข็งแกร่งอย่างน้อยก็เทียบเท่ากับตระกูลต้วนมู่หากตัวนมู่ฉิงสร้างความโกรธแค้นให้กับทุกคนที่อยู่ที่นี่,มันจะเป็นเวลาเพียงหนึ่งหรือสองวันเท่านั้นที่ตระกูลต้วนมู่จะถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
ทันใดนั้นฉ่ฉาวอวิ่นที่นิ่งเงียบก็ลืมตาขึ้นเขาถาม“ป่าสัตว์อสูรปีศาจ…ป่าไหน?”

ตัวนมู่ฉิงตอบเสียงเบา “ป่าน้ําหมึกใต้เทือกเขาน้ําหมึก”

“เป็นป่าน้ําหมึกไปได้อย่างไร?” เมื่อทุกคนทุกอยู่ที่นี่ได้ยินคําว่า “ป่าน้ําหมึก” พวกเขาสูดหายใจเข้าลึกสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนและหลายคน เกิดความลังเล

ป่าน้ําหมึกเป็นป่าสัตว์อสูรปีศาจที่อยู่ใต้พื้นดินไปห้าพันเมตร มันตั้งอยู่เบื้องล่างของเทือกเขาน้ําหมึก

เทือกเขาน้ําหมึกทั้งหมดเป็นเทือกเขาสัตว์อสูรปีศาจมันเป็นพื้นที่อันตรายที่มีชื่อเสียงในอณาจักรต้าฉินเส้นโลหิตวิญญาณทั้งหมดในเทือกเขาปนเปื้อนไปด้วยฉีปีศาจไปแล้ว

ภายในรัศมีห้าร้อยกิโลเมตร,พืชพรรณในที่แห่งนั้นสามารถทําให้ถึงตายได้หากไม่ระมัดระวัง หากไม่ใช่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,การเข้าไปในใจกลางของเทือกเขาก็เหมือนกับส่งตัวเองไปตาย

นอกจากนั้น,ป่าน้ําหมึกยังเป็นเขตต้องห้ามต้นกําเนิดเส้นโลหิตวิญญาณตั้งอยู่ที่ป่าน้ําหมึกที่ใต้เทือกเขาน้ําหมึก

สถานการณ์ที่ต้นกําเนิดเส้นโลหิตวิญญาณทั้งหมดถูกครอบงําโดยฉีปีศาจนั้นหายากในทวีปเทียนหอู๋ย้อนกลับไปในอดีต,สามดินแดนศักดิ์ สิทธิ์ไม่ทางที่จะผนึกพวกมันได้อย่างสมบูรณ์พวกเขาทําได้เพียงวางชั้นม่านพลังป้องกันไม่ให้สัตว์อสูรปีศาจที่ระดับสูงกว่ากษัตริย์ยุทธออกมาข้างนอก

มิฉะนั้น หากสัตว์อสูรปีศาจที่น่ากลัวหลุดออกมา,พวกมันจะก่อให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรงกับพื้นที่ โดยรอบ

ตัวนมู่ฉิงกล่าวเสียงเบา “ทุกคนไม่ต้องเป็นกังวลกับการเข้าสู่เทือกเขาน้ําหมึกราชวังน้ําแข็งลึกล้ําของตระกูลต้วนมู่จะไปส่งถึงทางเข้าป่าน้ําหมึกอย่างปลอดภัยนอกจากนั้น,บุปผาเหมันต์ลึกล้ําและซากนิกายหลี่เพลิงไม่ได้อยู่ที่ใจกลางของป่า”

ถึงกระนั้น,ความลังเลบนใบหน้าของทุกคนไม่ได้ลดน้อยลงพวกเขารีบคํานวณถึงความเสี่ยงและผลประโยชน์อย่างรวดเร็ว

การเผชิญโชคนั้นมาพร้อมกับความเสี่ยง พวกเขาพบว่าเมื่อเดินไปตามเส้นความระหว่างความเป็นและความตายไม่มีการเผชิญโชคที่ปราศจาก ซึ่งความเสี่ยง ถึงแม้ว่าจะมี,ผลประโยชน์ก็ไม่ได้มากมายนัก
ก่อนที่ทุกคนจะมา,พวกเขาได้เตรียมใจเอาไว้แล้วอย่างไรก็ตาม,เมื่อพวกเขาได้ยินว่าต้อง เข้าไปในป่าน้ําหมึก,พวกเขาก็เริ่มที่จะลังเล

การเผชิญโชคเป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตามหากต้องเสียชีวิตเพื่อให้ได้มา มันก็สูญเปล่า

ฉ่ฉาวอวุ่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวอย่างบูดบึง“หากเป็นแค่เพียงรอบนอก,พวกเราสามารถลองดู”

“ข้า,ฮวาหยุนเฟย,จะลองเข้าร่วมดูเช่นกันมันเป็นเพียงป่าน้ําหมึก,ข้าก็อยากจะเห็นว่ามันน่ากลัวเพียงใด”

“ข้า,จีชางคง,มีความกล้าเพียงพอ”

“มู่เยียนเสวี่ยยินดีจะลองดู!” หลังจากที่ฉ่ฉาวอวุ่นกล่าวออกมา,คนอื่นก็เริ่ม ที่จะตกลง ท้ายที่สุด,ก็ไม่มีใครถอย,และตัดสินใจที่จะอยู่

เหตุผลนั้นง่ายดายหากเพียงลองคิดดู ทุกคนที่นี่ล้วนเป็นผู้มีพรสวรรค์โดดเด่น ไม่มีใครที่จะยอมรับว่าพวกเขาด้อยไปกว่าคนอื่น

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ถึงอันตรายและรู้ว่าจะต้องมีคนตาย,พวกเขาก็รู้สึกว่าคนที่ตายจะต้องไม่ใช่พวกเขา

เซียวเฉินมองไปที่ฝูงชนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยใจสู้และส่ายหัวเล็กน้อย อาจจะมีเพียงไม่กี่คนในที่นี่ที่เคยได้สัมผัสอันตรายของป่าสัตว์อสูรปีศาจอาจจะมีไม่ถึงครึ่งที่จะรอดกลับมาในครั้งนี้

มองเห็นทุกคนตกลง,ตัวนมู่ฉิงกล่าว “ทุกท่านโปรดกลับที่พักและพักผ่อนเสัยก่อนในคืนนี้พวกเราจะเริ่มการเดินทางในวันพรุ่งนี้อย่าได้สร้างปัญหาภายในที่พัก มิฉะนั้น,ข้าพวกเจ้าไปยั่วยุผู้อาวุโสเข้า,ข้าไม่อาจช่วยเหลือพวกเจ้าได้”

ในตอนกลางคืน,ดวงจันทร์ลอยสูงบนท้องฟ้าแสงนวลสีทองเรืองขึ้นบนพื้นดิน เชี่ยวเฉินตอนนี้อยู่ในห้องพักแขกในตอนที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบา

เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไปนั้นคือหยุนเข่อซินที่กําลังยืนอยู่ข้างนอกเขารีบลุกขึ้นและไปต้อนรับนาง

ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของนางประดับด้วยรอยยิ้มนางกล่าว,“ยินดีด้วย,ศิษย์พี่เย่ เจ้าล้มมู่หลงชงลงได้ตอนนี้ชื่อของเจ้าจะเลื่องลือไปทั่ว แคว้นซีเหอ:ทุกคนจะจดจําชื่อของเจ้า”

ภายในนิกาย,ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งสําคัญที่สุดเสมอ ตอนนี้เซี่ยวเฉินล้มมู่หลงชงลงได้เสานุศิษย์ทุกคนในศาลากระปสวรรค์จะกล่าวถึงเซียวเฉินเป็นศิษย์พี่เย่ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในนิกายมานานเท่าไหร่อย่างไรก็ตามด้วยน้ําเสียงที่ฟังดูซุกซนของหยุนเข่อซิน,นางน่าจะกิ่งจริงกึ่งหยอกล้อ

เซี่ยวเฉินยิ้มและกล่าวด้วยเสียงเบา “ไม่จําเป็นต้องทําเหมือนกับข้าเป็นคนนอกศิษย์พี่หยุนเรียกข้าว่าเยู่เฉินได้เลยมา,เข้ามานั่งก่อนทําไมเจ้า ถึงได้มาหาข้า?”

หยุนเข่อชิ้นค่อยๆนั่งลงและหยิบเอาตําราออกมานางยิ้มและกล่าว“เจ้าก็เรียกข้าเข่อซินด้วยเช่นกันข้ามาเพื่อส่งตําราเล่มนี้ให้กับเจ้าข้าได้บรรฤทักษบ่มเพาะพลังระดับสวรรค์ขั้นต่ํานี้แล้วลองเปิดดู”

เซี่ยวเฉินรับตํารามาเปิดดูคําที่เขียนลงไปดูประณีตเรียบร้อยมันจะต้องเป็นลานมือของหยุนเข่อซิน

หลังจากที่กวาดตามองอยู่สองสามครั้งเชี่ยวเฉินก็พบว่าน่าสนใจหลังจากผ่านไปนาน,เขาก็ละออกจากการตรวจสอบตําราเล่มนี้และกล่าวขึ้น “ขอบคุณเจ้าน่าจะเป็นคนเดียวที่ยินดีจะแบ่งปันทักษะบ่มเพาะพลังระดับสวรรค์”

หยุนเข่อซินยิ้มขึ้นสบายๆ “แค่เตือนเอาไว้ เจ้ายังไม่ควรบ่มเพาะพลังมันในตอนนี้ ข้าสามารถทําได้ในทันทีก็เพราะจิตวิญญาณยุทธของข้าจิด วิญญาณยุทธของเจ้าน่าจะเป็นธาตุสายฟ้าทักษะบ่มเพาะมังกรสัญจรนี่เป็นธาตุลม”

“ด้วยพลังที่กดข่มโดยธรรมชาติของทักษะบ่มเพาะระดับสวรรค์ มันจะทําลายปราณธาตุสายฟ้าในร่างของเจ้าในทันทีด้วยการบ่มเพาะระยะสั้นๆ,ขอบเขตพลังของเจ้าจะลดลงนอกจากนั้นมันจะเป็นการยากอย่างยิ่งที่จะผสานพลังปราณธาตุอื่นในอนาคต”

เป็นเช่นนั้นจริงๆ,กล่าวได้ว่าเซี่ยวเฉินเคยสัมผัสความกดข่มของทักษะบ่มเพาะระดับสวรรค์มาแล้ว หลังจากที่ทักษะบ่มเพาะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไปถึงชั้นที่สี่,มันก็ไม่ทนต่อปราณธาตุอื่นอีกต่อไป

ปัจจุบัน ทั้งปราณทั้งหมดในร่างของเขาเป็นธาตุสายฟ้า นอกจากนั้น มันยังบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 307 บุปผาเหมันต์ลึกล้ํา

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 307 บุปผาเหมันต์ลึกล้ํา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 307 บุปผาเหมันต์ลึกล้ํา
พวกเขาทั้งสองพลังทัดเทียมกัน ทันทีที่มือและกําปั้นเข้าปะทะกัน,พวกเขาทั้งคู่ถอยกลับไปคนละห้าก้าวพวกเขาทั้งสองรู้สึกถึงแขนขวาที่ด้านชา,ฉีและพลังปราณในร่างของพวกเขาในป่วนหนักอวัยวะภายในทั้งหมดของพวกเขาสั่นสะเทือน

“พอได้แล้ว,หากมีใครลงมืออีก,พวกเจ้าไสหัวไปทันทีข้า,ตัวนมู่ฉิง,จะกล่าวอีกเพียงครั้งเดียวหากมีใครไม่เชื่อข้า,พวกเจ้าก็ลองดู”

ดวงตาอันเยือกเย็นของตัวนมู่ฉิง,สีหน้าของนางมืดมัวและน้ําเสียงที่เย็นเชียบทําให้ไม่มีใครสงสัยในความตั้งใจของนาง

จีชางคงมองไปที่เซี่ยวเฉินเขารู้ว่าเขาไม่อาจจัดการกับเซียวเฉินได้ในเวลาอันสั้นเขาทําได้เพียงปล่อยเซียวเฉินไปดวงดาราด้านหลังของเช่าลบหายไปในทันทีและความสงบก็กลับคืนมา

ข้ายังไม่ได้ทดสอบความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาดูเหมือนจะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมาอีกคนในการแสวงโชครั้งนี้ดังนั้นความสามารถในการแข่งขันของเขาจะรุนแรงกว่าคนอื่นๆ

มองดูจีชางคงถอยกลับ,เซี่ยวเฉินก็ไม่ได้มีความตั้งใจจะประมือต่อเขารู้ว่าอีกฝ่ายเพียงต้องการจะทดสอบความแข็งแกร่งของเขามันยังห่างไกลกับความขัดแย้ง

ด้วนมู่ฉิงหันมาและกล่าวกับเซียวเฉิน “ข้ายังไม่ได้ถามชื่อเจ้า แล้วก็, โปรดแสดงสัญญาภารกิจ และเหรียญแสดงตนของศาลากระบีสวรรค์”
เซียวเฉินยื่นเหรียญแสดงตนและสัญญาภารกิจจากนั้นเขาก็กล่าว“เย่เฉินจากยอดเขาฉิงหยุน”

ยอดเขาฉิงหยุน?

ในตอนที่ต้วนมู่ฉิงได้ยินคํานี้,นางค่อนข้างประหลาดใจนางเข้าใจถึงสถานการณ์ของศาลากระบี่สวรรค์อยู่บ้างจากที่นางได้ยินมามู่หลงชง ออกจากศาลากระบี่สวรรค์ก็เพราะเขาพ่ายแพ้ให้กับศิษย์ยอดเขาฉิงหยุนผู้หนึ่ง

บุคคลตรงหน้าของนางจะต้องเป็นศิษย์คนนั้นหลังจากตรวจสอบเหรียญแสดงตนและสัญญาภารกิจของเขา,ต้วนมู่ฉิงก็กล่าวเสียงเบา“โปรดนั่ง ลง นี่ภารกิจของเจ้า”

หลังจากที่เซียวเฉินนั่งลง,ตัวนมู่ฉิงก็กล่าวด้วยเสียงเบาๆ “แม้ว่าข้าจะไม่ต้องบอก,ทุกคนก็น่าจะรู้จักคุ้นเคยกับนิกายหลี่เพลิงในราชวงศ์เทียนหวี่,สมบัติลับทุกชิ้นภายในทวีปมาจากนิกายแห่งนี้หลังจากยุคโบราณ,นี่เป็นนิกายเดียวที่รู้ถึงวิธีสร้างสมบัติลับ”

“อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์ของตระกูลตัวนมู่ในครั้งนี้ไม่ใช่นิกายหลเพลิง กลับกัน มันเป็นบุปผาเหมันต์ลึกล้ําที่อยู่ด้านหน้าของซากปรักหักพังตราบใดที่ทุกคนช่วยเหลือข้าให้ได้รับบุปผาเหมันต์ลึกล้ํามา,ข้าจะช่วยพวกเจ้าทุกคนเพื่อเปิดทางเข้าของสาขานิกายหลเพลิง”

ฮวาหยุนเฟยกล่าวอย่างเฉยเมย “บุปผาเหมันต์ลึกล้ําไม่ใช่สมุนไพรวิญญาณทั่วไป ทําไมพวกเราถึงควรให้มันกับเจ้า? เจ้าจะพิสูจน์ได้อย่างไร ว่าซากสาขานิกายหลี่เพลิงอยู่ติดกับบุปผาเหมนต์ลึกล้ํา?”

“หากเจ้าจากไปในทันทีที่ได้บุปผาเหมันต์ลึกล้ําไป,เช่นนั้นพวกเราจะกลายเป็นถูกเจ้าในหัวเจ้าต้องให้เหตุผลที่โน้มน้าวพวกเราได้”

บุปผาเหมันต์ลึกล้ํามันลึกลับเป็นอย่างมากเดิมที,ทวีปเทียนหวี่ไม่ได้มีบุปผาเหมันต์ลึกล้ํานี้ตามตํานาน,จักรพรรดิผู้เชี่ยวชาญ, ปิงโห่ว,ในยุค โบราณได้ตกตายลง,เลือดของนางหยดลงพื้นและเติบโตเป็นดอกไม้
ดอกไม้ทั้งหมดเกิดขึ้นมาจากพลังงานจิตวิญญาณธาตุน้ําแข็งที่บริสุทธิ์ที่สุด มันตกผลึกและบริสุทธิ์อย่างไม่น่าเชื่อ

ดอกไม้นี้ไม่สามารถพัฒนาขอบเขตพลังของผู้บ่มเพาะพลังอย่างไรก็ตาม,หากผู้บ่มเพาะพลังธาตุน้ําแข็งกินมันเข้าไปร่างกายของพวกเขาจะ เปลี่ยนกลายเป็นร่างจิตวิญญาณตามตํานาน

พวกเขาสามารถบรรลุสภาวะแห่งน้ําแข็งถึงขีดสุดนอกจากนั้นในตอนที่บ่มเพาะทักษะต่อสู้ธาตุน้ําแข็ง,พวกเขาจะรวดเร็วกว่าผู้บ่มเพาะพลังทั่ว ไปหลายเท่าตัว

ตํานานกล่าวว่าตระกูลต้วนม่เป็นทายาทของปิงโห่วทักษะบ่มเพาะสายเหมันต์ลึกล้ําที่สืบทอดกันมาก็เป็นทักษะบ่มเพาะพลังของปิงโห่ว

ดังนั้น สําหรับตระกูลต้วนมู่,บุปผาเหมันต์ลึกล้ํานี้มีความหมายมากกว่าผู้บ่มเพาะพลังทั่วไป

หากตัวนมาฉิงได้รับบุปผาเหมันต์ลึกล้ํามา มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตระกูลต้วนมู่ อย่างรวดเร็วแต่สําหรับเหล่าตรกูลอื่นนี่ไม่ใช่ ข่าวดีสําหรับพวกเขาอย่างแน่นอน

คําของฮวาหยุนเฟยพูดแทนทุกคนที่อยู่ที่นี่ตัวนมู่ฉิงจะต้องให้เหตุผลที่พวกเขาจะยอมปล่อยมือจากบุปผาเหมันต์ลึกล้ําโดยการพิสูจน์ถึงการมี อยู่ของสาขานิกายหลี่เพลิง

ตัวนมู่ฉิงได้คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าทุกคนจะต้องมีข้อสงสัย นางกล่าวอย่างเยือกเย็น “ตําแหน่งของบุปผาเหมันต์ลึกล้ําอยู่ภายในป่าสัตว์อสูรปีศาจมีผนึกของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงนั้นผู้บ่มเพาะพลังและสัตว์อสูรปีศาจที่ระดับพลังสูงกว่าระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธไม่อาจเข้าไปได้ครั้งนี้ข้าจะนําเพียงสี่คนเข้าไปพร้อมกับข้า”

“หากซากนิกายหลี่เพลิงไม่มีอยู่จริง,เจ้าสามารถสังหารข้าเสียอย่างง่ายดายด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าหลังจากที่ข้าได้รับบุปผาเหมันต์ลึกล้ํา,ข้าจะไม่แตะต้องสมบัติลับของนิกายหลี่เพลิงแม้แต่ชิ้นเดียว”

“สําหรับข้อพิสูจน์ที่เจ้าต้องการ,ข้าไม่อาจเอาออกมาได้อย่างไรก็ตาม,ข้าใช้ชีวิตของข้าเป็นรับประกันหากเจ้าเชื่อข้า,เช่นนั้นก็ตามข้ามาหาก เจ้าไม่เชื่อ,พวกเจ้ากลับออกไปได้”

หลังจากทุกคนได้ยินคําของต้วนมู่ฉิง,พวกเขาทั้งหมดเริ่มไตร่ตรองอยู่ในหัวของพวกเขา แม้ว่าตัวนมู่ฉิงจะไม่มีหลักฐานอะไรแต่ก็ไม่มีใครที่คิดจะจากไป

พวกเขาช่วยไม่ได้ ความหอมหวลของการเผชิญโชคมันยิ่งใหญ่เกินไป หากพวกเขาจาก ไป,และอัจฉริยะคนอื่นได้รับสมบัติลับจากการเผชิญโชคในครั้งนี้,พวกเขาอาจจะถูกทิ้งเอาไว้ไม่เห็นฝุ่นไปตลอดกาลเช่นนั้น มันจะสายเกินไปที่จะมานั่งเสียใจ

นอกจากนั้น ทุกคนเชื่อว่าต้วนมู่ฉิงไม่ได้กล้าพอที่จะมาหลอกลวงทุกคน

ทุกคนในลานแห่งนี้ล้วนมีพื้นหลังแข็งแกร่งอย่างน้อยก็เทียบเท่ากับตระกูลต้วนมู่หากตัวนมู่ฉิงสร้างความโกรธแค้นให้กับทุกคนที่อยู่ที่นี่,มันจะเป็นเวลาเพียงหนึ่งหรือสองวันเท่านั้นที่ตระกูลต้วนมู่จะถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
ทันใดนั้นฉ่ฉาวอวิ่นที่นิ่งเงียบก็ลืมตาขึ้นเขาถาม“ป่าสัตว์อสูรปีศาจ…ป่าไหน?”

ตัวนมู่ฉิงตอบเสียงเบา “ป่าน้ําหมึกใต้เทือกเขาน้ําหมึก”

“เป็นป่าน้ําหมึกไปได้อย่างไร?” เมื่อทุกคนทุกอยู่ที่นี่ได้ยินคําว่า “ป่าน้ําหมึก” พวกเขาสูดหายใจเข้าลึกสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนและหลายคน เกิดความลังเล

ป่าน้ําหมึกเป็นป่าสัตว์อสูรปีศาจที่อยู่ใต้พื้นดินไปห้าพันเมตร มันตั้งอยู่เบื้องล่างของเทือกเขาน้ําหมึก

เทือกเขาน้ําหมึกทั้งหมดเป็นเทือกเขาสัตว์อสูรปีศาจมันเป็นพื้นที่อันตรายที่มีชื่อเสียงในอณาจักรต้าฉินเส้นโลหิตวิญญาณทั้งหมดในเทือกเขาปนเปื้อนไปด้วยฉีปีศาจไปแล้ว

ภายในรัศมีห้าร้อยกิโลเมตร,พืชพรรณในที่แห่งนั้นสามารถทําให้ถึงตายได้หากไม่ระมัดระวัง หากไม่ใช่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,การเข้าไปในใจกลางของเทือกเขาก็เหมือนกับส่งตัวเองไปตาย

นอกจากนั้น,ป่าน้ําหมึกยังเป็นเขตต้องห้ามต้นกําเนิดเส้นโลหิตวิญญาณตั้งอยู่ที่ป่าน้ําหมึกที่ใต้เทือกเขาน้ําหมึก

สถานการณ์ที่ต้นกําเนิดเส้นโลหิตวิญญาณทั้งหมดถูกครอบงําโดยฉีปีศาจนั้นหายากในทวีปเทียนหอู๋ย้อนกลับไปในอดีต,สามดินแดนศักดิ์ สิทธิ์ไม่ทางที่จะผนึกพวกมันได้อย่างสมบูรณ์พวกเขาทําได้เพียงวางชั้นม่านพลังป้องกันไม่ให้สัตว์อสูรปีศาจที่ระดับสูงกว่ากษัตริย์ยุทธออกมาข้างนอก

มิฉะนั้น หากสัตว์อสูรปีศาจที่น่ากลัวหลุดออกมา,พวกมันจะก่อให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรงกับพื้นที่ โดยรอบ

ตัวนมู่ฉิงกล่าวเสียงเบา “ทุกคนไม่ต้องเป็นกังวลกับการเข้าสู่เทือกเขาน้ําหมึกราชวังน้ําแข็งลึกล้ําของตระกูลต้วนมู่จะไปส่งถึงทางเข้าป่าน้ําหมึกอย่างปลอดภัยนอกจากนั้น,บุปผาเหมันต์ลึกล้ําและซากนิกายหลี่เพลิงไม่ได้อยู่ที่ใจกลางของป่า”

ถึงกระนั้น,ความลังเลบนใบหน้าของทุกคนไม่ได้ลดน้อยลงพวกเขารีบคํานวณถึงความเสี่ยงและผลประโยชน์อย่างรวดเร็ว

การเผชิญโชคนั้นมาพร้อมกับความเสี่ยง พวกเขาพบว่าเมื่อเดินไปตามเส้นความระหว่างความเป็นและความตายไม่มีการเผชิญโชคที่ปราศจาก ซึ่งความเสี่ยง ถึงแม้ว่าจะมี,ผลประโยชน์ก็ไม่ได้มากมายนัก
ก่อนที่ทุกคนจะมา,พวกเขาได้เตรียมใจเอาไว้แล้วอย่างไรก็ตาม,เมื่อพวกเขาได้ยินว่าต้อง เข้าไปในป่าน้ําหมึก,พวกเขาก็เริ่มที่จะลังเล

การเผชิญโชคเป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตามหากต้องเสียชีวิตเพื่อให้ได้มา มันก็สูญเปล่า

ฉ่ฉาวอวุ่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวอย่างบูดบึง“หากเป็นแค่เพียงรอบนอก,พวกเราสามารถลองดู”

“ข้า,ฮวาหยุนเฟย,จะลองเข้าร่วมดูเช่นกันมันเป็นเพียงป่าน้ําหมึก,ข้าก็อยากจะเห็นว่ามันน่ากลัวเพียงใด”

“ข้า,จีชางคง,มีความกล้าเพียงพอ”

“มู่เยียนเสวี่ยยินดีจะลองดู!” หลังจากที่ฉ่ฉาวอวุ่นกล่าวออกมา,คนอื่นก็เริ่ม ที่จะตกลง ท้ายที่สุด,ก็ไม่มีใครถอย,และตัดสินใจที่จะอยู่

เหตุผลนั้นง่ายดายหากเพียงลองคิดดู ทุกคนที่นี่ล้วนเป็นผู้มีพรสวรรค์โดดเด่น ไม่มีใครที่จะยอมรับว่าพวกเขาด้อยไปกว่าคนอื่น

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ถึงอันตรายและรู้ว่าจะต้องมีคนตาย,พวกเขาก็รู้สึกว่าคนที่ตายจะต้องไม่ใช่พวกเขา

เซียวเฉินมองไปที่ฝูงชนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยใจสู้และส่ายหัวเล็กน้อย อาจจะมีเพียงไม่กี่คนในที่นี่ที่เคยได้สัมผัสอันตรายของป่าสัตว์อสูรปีศาจอาจจะมีไม่ถึงครึ่งที่จะรอดกลับมาในครั้งนี้

มองเห็นทุกคนตกลง,ตัวนมู่ฉิงกล่าว “ทุกท่านโปรดกลับที่พักและพักผ่อนเสัยก่อนในคืนนี้พวกเราจะเริ่มการเดินทางในวันพรุ่งนี้อย่าได้สร้างปัญหาภายในที่พัก มิฉะนั้น,ข้าพวกเจ้าไปยั่วยุผู้อาวุโสเข้า,ข้าไม่อาจช่วยเหลือพวกเจ้าได้”

ในตอนกลางคืน,ดวงจันทร์ลอยสูงบนท้องฟ้าแสงนวลสีทองเรืองขึ้นบนพื้นดิน เชี่ยวเฉินตอนนี้อยู่ในห้องพักแขกในตอนที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบา

เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไปนั้นคือหยุนเข่อซินที่กําลังยืนอยู่ข้างนอกเขารีบลุกขึ้นและไปต้อนรับนาง

ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของนางประดับด้วยรอยยิ้มนางกล่าว,“ยินดีด้วย,ศิษย์พี่เย่ เจ้าล้มมู่หลงชงลงได้ตอนนี้ชื่อของเจ้าจะเลื่องลือไปทั่ว แคว้นซีเหอ:ทุกคนจะจดจําชื่อของเจ้า”

ภายในนิกาย,ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งสําคัญที่สุดเสมอ ตอนนี้เซี่ยวเฉินล้มมู่หลงชงลงได้เสานุศิษย์ทุกคนในศาลากระปสวรรค์จะกล่าวถึงเซียวเฉินเป็นศิษย์พี่เย่ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในนิกายมานานเท่าไหร่อย่างไรก็ตามด้วยน้ําเสียงที่ฟังดูซุกซนของหยุนเข่อซิน,นางน่าจะกิ่งจริงกึ่งหยอกล้อ

เซี่ยวเฉินยิ้มและกล่าวด้วยเสียงเบา “ไม่จําเป็นต้องทําเหมือนกับข้าเป็นคนนอกศิษย์พี่หยุนเรียกข้าว่าเยู่เฉินได้เลยมา,เข้ามานั่งก่อนทําไมเจ้า ถึงได้มาหาข้า?”

หยุนเข่อชิ้นค่อยๆนั่งลงและหยิบเอาตําราออกมานางยิ้มและกล่าว“เจ้าก็เรียกข้าเข่อซินด้วยเช่นกันข้ามาเพื่อส่งตําราเล่มนี้ให้กับเจ้าข้าได้บรรฤทักษบ่มเพาะพลังระดับสวรรค์ขั้นต่ํานี้แล้วลองเปิดดู”

เซี่ยวเฉินรับตํารามาเปิดดูคําที่เขียนลงไปดูประณีตเรียบร้อยมันจะต้องเป็นลานมือของหยุนเข่อซิน

หลังจากที่กวาดตามองอยู่สองสามครั้งเชี่ยวเฉินก็พบว่าน่าสนใจหลังจากผ่านไปนาน,เขาก็ละออกจากการตรวจสอบตําราเล่มนี้และกล่าวขึ้น “ขอบคุณเจ้าน่าจะเป็นคนเดียวที่ยินดีจะแบ่งปันทักษะบ่มเพาะพลังระดับสวรรค์”

หยุนเข่อซินยิ้มขึ้นสบายๆ “แค่เตือนเอาไว้ เจ้ายังไม่ควรบ่มเพาะพลังมันในตอนนี้ ข้าสามารถทําได้ในทันทีก็เพราะจิตวิญญาณยุทธของข้าจิด วิญญาณยุทธของเจ้าน่าจะเป็นธาตุสายฟ้าทักษะบ่มเพาะมังกรสัญจรนี่เป็นธาตุลม”

“ด้วยพลังที่กดข่มโดยธรรมชาติของทักษะบ่มเพาะระดับสวรรค์ มันจะทําลายปราณธาตุสายฟ้าในร่างของเจ้าในทันทีด้วยการบ่มเพาะระยะสั้นๆ,ขอบเขตพลังของเจ้าจะลดลงนอกจากนั้นมันจะเป็นการยากอย่างยิ่งที่จะผสานพลังปราณธาตุอื่นในอนาคต”

เป็นเช่นนั้นจริงๆ,กล่าวได้ว่าเซี่ยวเฉินเคยสัมผัสความกดข่มของทักษะบ่มเพาะระดับสวรรค์มาแล้ว หลังจากที่ทักษะบ่มเพาะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไปถึงชั้นที่สี่,มันก็ไม่ทนต่อปราณธาตุอื่นอีกต่อไป

ปัจจุบัน ทั้งปราณทั้งหมดในร่างของเขาเป็นธาตุสายฟ้า นอกจากนั้น มันยังบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+