Immortal and Martial Dual Cultivation 319 เจตนารมณ์ฆ่าล้าง
ตอนที่ 319 เจตนารมณ์ฆ่าล้าง
“บูม!”
ในทันทีที่สัมผัสวิญญาณของเขาเข้าไปในบัลลังก์,เกิดระเบิดรุนแรงที่ข้างหูของเขา จิตใจของเขาพึ่งไปด้วยเจตนารมณ์ฆ่าล้างอันไร้ขอบเขต
เจตนารมณ์อันน่าหวาดกลัวราวกับเป็นผืนมหาสมุทรสีแดง มันหลอมรวมเข้ากับทุกเซลล์ประสาทในจิตใจของเซี่ยวเฉิน
เซี่ยวเฉินไม่อาจยับยั้งเจตนาฆ่าฟันนี้ได้ ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงในทันที ผมสีดําของเขาปลิวไหว, ใบหน้าที่บอบบางของเขาบิดเบี้ยว,ชั่วร้ายและน่ากลัว;เขาได้กลายเป็นปีศาจกินคน
เป็นไปได้อย่างไร? เซียวเฉินตื่นกลัว เขาอยากที่จะถอยออกมา,แต่พลังมหาศาลดูดมือของเขาลงไปเขาไม่มีทางปล่อยมือออก
ข้าไม่อาจปล่อยให้เป็นเช่นนี้ หากเจตนารมณ์ฆ่าล้างนี้เข้าควบคุมข้าได้อย่างสมบูรณ์,ข้าจะเสียสูญเสียซึ่งเหตุผลทั้งหมด ข้าจะเปลี่ยนกลายไปเป็นราชาปีศาจอย่างแท้จริง เจตนารมณ์นี้ช่างน่าหวาดกลัว
เซี่ยวเฉินหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ และป้องกันจุดตันเทียนของเขา เขาจมจิตใต้สํานึกของเขาลงไปและพยายามอย่างที่สุด เพื่อรักษาจิตใจของเขาให้โปร่งใส
ท้องสมุทรแห่งเจตนารมณ์ฆ่าล้างนี้ไร้ขอบเขตและล้นหลาม
เชี่ยวเฉินตกอยู่ในความเจ็บปวดขณะที่เขาต่อต้านพลังนี้ ผิวของเขากลายเป็นสีซีดทั่วทั้งตัวเส้นเลือดเล็กๆใต้ผิวหนังของเขาผุดขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจนราวกับพวกมันอยากที่จะทะลวงออกมาและระเบิดออก
ความรู้สึกนี้เจ็บปวดยิ่งกว่าครั้งแรกที่เขาปลุกจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าหลายเท่าตัว มันไม่ใช่ความรู้สึกที่มนุษย์จะสามารถทนได้
ขณะที่เซียวเฉินกําลังจะยอมจํานนต่อความทรมาน,จิตใต้สํานึกของเขาพล่ามัว เขาไม่อาจอดทนได้อีกต่อไปเขาร้องออกมาด้วยความ เจ็บปวด
“ปัง! ปัง! ปัง!”
หลอดเลือดแตกออก หยดเลอดเล็กๆปกคลุมผิวหนังของเขาทันที เชี่ยวเฉินเปลี้ยนกลายเป็นร่างเลือด
ยอมแพ้ซะ! ยอมรับในเจตนารมณ์ฆ่าล้างนี้ ความเจ็บปวดของเจ้าจะจางหายไปในทันที,และเจ้าจะได้รับพลังที่ไร้ขีดจํากัด
ขณะที่เซียวเฉินกําลังดิ้นรน,มีเสียงดังขึ้นมาจากในจิตใจของเขา เสียงนี้สะท้อนไปมาในหูของเขา,ล่อลวงให้เขายอมแพ้
ไม่มีทาง! เซียวเฉินกัดฟันแน่นและเมินเฉยเสียงในหัวของเขา เขาป้องกันความโปร่งใสในจิตใต้สํานึกของเขา
เมื่อเซี่ยวเฉินยอมแพ้ไม่ต่อต้าน,เขาจะกลายเป็นทาสของการฆ่าฟัน ตัวตนเดิมของเขาจะหายไปอย่างสมบูรณ์
ทันใดนั้น,เซี่ยวเฉินนึกถึงบางอย่างจากตําราบ่มเพาะพลังขึ้นได้ บัลลังก์สีแดงนี้น่าจะเป็นสมบัติลับ อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่สมบัติลับฝ่ายธรรมะ กลับกัน มันเป็นสมบูรณ์ลับที่ชั่วร้าย
เจ้าของของสมบัติลับชิ้นนี้น่าจะตกตายไปแล้ว,เต๋ของเขาแตกสลาย อย่างไรก็ตาม,ตัวตนชั่วร้ายภายในสมบัติลับยังไม่ได้จางหายไป หลังจากผ่านมาเป็นเวลานาน,มันน่าจะไม่ได้แข็งแกร่ง
ข้าเพียงถูกทรมานจนถึงจุดที่ไม่รู้ว่าจะทําเช่นไร หากความแข็งแกร่งจิตใจของมันแข็งแกร่งกว่าของข้าจริง,ข้าคงถูกกลืนกินไปนานแล้ว
คิดได้เช่นนั้น,เซี่ยวเฉินรวบรวมสัมผัสวิญญาณของเขาเข้าด้วยกัน และมันก็เปลี่ยนเป็นร่างเทพสีทอง จากนั้น มันก็มุ่งไปที่มหาสมุทรสีแดงในส่วนที่ลึกที่สุดของบัลลังก์นี้
ข้าต้องตามหาตัวตนของมันและทําลายซะ มิฉะนั้น, ข้าจะทําได้เพียงแค่ป้องกัน,จนในที่สุด,ข้าก็จะไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป
ร่างเทพบินไกลและไกลออกไปในพื้นที่แห่งจิตใจ มหาสมุทรที่ไร้ขอบเขตดูราวกับไม่มีที่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินก็ไม่ย่อท้อแม้แต่มหาสมุทรที่ใหญ่ที่สัดก็ต้องมีสุดสิ้นสุด
พื้นที่แห่งจิตใจนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากตอนที่เชี่ยวเฉินเผชิญหน้ากับจักรพรรดิโบราณที่แท้จริง เพียงแต่มีมหาสมุทรโลหิตนิรันดร์
ไม่รู้ได้ว่าเวลาได้ไหลผ่านมานานถึงเพียงใด เซียวเฉินควบคุมร่างเทพและในที่สุดก็มาถึงจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรโลหิต
มันมีหุบเหวลึกสีเลือดอยู่ที่ตรงนั้น ภายใน,มีหัวสีแดงขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับทะเลสีเลอด มันจ้องมองมาที่ร่างเทพตั้งแต่ระยะไกล
หัวสีแดงนั้นร้องคํารามและเปิดปากมหึมาของมัน มันกลืนร่างเทพลงไปในทันที ร่างเทพปิดตาลงและยอมให้เลือดเข้ามาปกคลุม
ผ่านไปครู่หนึ่ง ร่างเทพลืมตาขึ้น แสงสีทองสาดส่องออกมาจากดวงตาของมันและทะลวงผ่านหัวสีแดง
หัวสีแดงนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและ ยอมแพ้ที่จะกลืนกินร่างเทพ มันถอยกลับไปอย่างหวาดกลัว
มันเป็นไปตามที่ข้าคาดคิด เจตนารมณ์มารนี้ได้ อ่อนพลังลงมากแล้ว ข้าร้อนรนเกินไปและไม่ได้รับมืออย่างถูกต้องเมื่อก่อนหน้านี้ ทําให้มันจู่โจมเข้ามาจนถึงจุดที่ข้าไม่รู้ว่าจะทําเช่นไร
ข้าจะคิดเสียว่าเป็นบทเรียนในอนาคต, ในตอนที่เผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่รู้จัก,ข้าจะต้องรักษาความระมัดระวังให้มากอยู่เสมอ
แสงสีแดงในดวงตาของเซียวเฉินจางหายไปเล็กน้อย มันไม่ได้ดูน่ากลัวอีกต่อไป มันค่อยๆใสชัดขึ้น
หัวสีแดงถอยกลับไปยังพื้นที่เหนือหุบเหว มันโบกมือของมันอย่างรุนแรง และมือสุ่มเลือดอันมหึมา,ที่ดูราวกับจะปกคลุมท้องฟ้า,ทุบลงไปที่ร่างเทพ
“ตาย!”
ร่างเทพสีทองร้องตะโกน,และดาบเรืองแสงสีทองปรากฏขึ้นในมือของมัน มันกวัดแกว่งดาบ,และดาบแสงสีทองที่พลุ่งพล่านสับมือเลือดออกเป็นชิ้นๆ
ร่างเทพสีทองชี้ดาบขึ้นไปบนท้องฟ้า,และมีแสงทะยานขึ้นไป จากนั้น มันก็แยกออกเป็นเส้นแสงนับหมื่นเส้น,ตกลงมาเป็นของเหลวสีทองราวกับฝน
ขณะที่ของเหลวสีทองเพิ่มขึ้นสะสมในมหาสมุทร ในไม่ช้า มันก็กลายเป็นมหาสมุทรสีทอง
“อา! อา! อา!”
หัวสีแดงตอบสนองราวกับถูกน้ําลวก,ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ในตอนที่ทะเลสีแดงเปลี่ยนเป็นสีทองอย่างสมบูรณ์,มันถูกตัดออกจากผืนทะเลอย่างสมบูรณ์,กลายเป็นหัวโดดเดี่ยวที่ลอยในอากาศ
กลับมาที่ความเป็นจริง,ดวงตาของเซี่ยวเฉินไม่ได้เป็นสีแดงอีกต่อไป การแสดงออกที่ชั่วร้ายจางหายไป ดูเหมือนว่าเขาจะสงบลงแล้ว ความเจ็บปวดไม่ได้ทรมานตัวเขาอีกต่อไป
เหลือเพียงหัวมารโดดเดี่ยวที่เหลืออยู่ในพื้นที่แห่งจิตใจ มันไม่มีที่ที่จะหนีไปได้ มันอยากที่จะกลับสู่ผืนทะเลอยู่หลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อมันสัมผัสกับทะเลสีทอง,มันร้องออกมาอย่างเจ็บปวดในทันที นอกจากนั้น มันยังหดเล็กลงอีกด้วย
เซี่ยวเฉินควบคุมร่างเทพสีทองให้ส่งเส้นดาบแสงออกไป หัวสีแดงเคลื่อนที่ไปอย่างว้าวุ่นในอากาศ,หลบเลี่ยงแสงสีทองที่น่าหวาดกลัว
ท้ายที่สุด มันก็เป็นเพียงเสือกระดาษ,เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง ร่างเทพใช้โอกาสในจังหวะนี้ มือซ้ายของมันขยายใหญ่ขึ้นและจับหัวนั้นเอาไว้
“อย่าฆ่าข้า;ข้าสามารถยอมรับเจ้าในฐานะเจ้านาย พวกเราสามารถทําสัญญาโลหิตกันได้ ข้าจะไม่มีทางหักหลังเจ้าได้ นอกจากนั้นยังมีความลับของบัลลังก์สังหาร ข้าจะบอกเจ้าถึงทุกรายละเอียด”
หลังจากที่หัวสีแดงนั้นถูกจับได้ มันก็อ้อนวอนไม่หยุด
“เจ้าปีศาจนอกรีต,ทําไมข้าถึงต้องเก็บเจ้าเอาไว้?!” เซี่ยวเฉินสูดหายใจเย็นชาและบีบหัวสีแดงนั้นทันที
พวกปีศาจนี้มีลีลาและลูกไม้มากมาย ใครจะรู้ว่าตอนไหนที่มันจะจู่โจมข้าหนังจากที่เติบโตแข็งแกร่งขึ้น มันจะเป็นการดีที่สุดที่นะไม่เก็บมันเอาไว้
สําหรับความลับของบัลลังก์สีแดงนี้ ข้าจะค่อยๆตรวจสอบมันเอง นี่เป็นเรื่องระหว่างความเป็นความตายจะดีกว่าที่จะระมัดระวังเอาไว้
ทันทีที่เอาชนะหัวสีแดงนั้นในมิติแห่งจิตใจ ในความเป็นจริง บัลลังก์สีแดงที่ใต้มือของเซี่ยวเฉินเปลี่ยนกลายเป็นแสงสีแดงและเข้าไปในทุกส่วนของร่างกายของเซี่ยวเฉิน
เมื่อแสงสีแดงได้ไหลเข้าไปในร่างของเซี่ยวเฉินจนหมด,บาดแผลทั้งหมดที่เกิดจากหลอดเลือดระเบิดของเขาฟื้นตัสขึ้นอย่างชัดเจน
ผ่านไปครู่หนึ่ง, พวกมันก็ฟื้นตัวกลับไปเป็นเหมือนเดิม บาดแผลทั้งหมดหายไป ผิวของเซียวเฉินเนียนและขาว,อ่อนโยนและบอบบางยิ่งกว่าของหญิงสาว
“บูม!”
แสงสีแดงไหลผ่านส่วนต่างๆและมารวมตัวกันที่หน้าผากระหว่างคิ้วของเขา จากนั้น มันก็เปลี่ยนเป็นตราประทับบัลลังก์สีแดงขนาดเท่ากับเล็บมือของเขา
เซียวเฉินถอนสัมผัสวิญญาณของเขากลับมา และมองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขา ดวงตาของเขาเกิดความสงสัย
เซียวเฉินยกมือซ้ายของเขาขึ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด เขาเห็นผิวหนังที่บอบบางและเรียบเนียนมือของเขาสวยงามจนน่ากลัว
มันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงที่พื้นผิว ในตอนที่เซียวเฉินกํามือของเขา เขารู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ พลังกายภาพของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเกิดหน้านี้
เมื่อเซี่ยวเฉินสังเกตเห็นหุ่นรบเกราะเหล็กที่ฟังอยู่ทางด้านข้าง,เขาค่อยๆเดินเข้าไปและชกออกเบาๆไปที่หน้าอกของมัน
พลังอันยิ่งใหญ่ไหลผ่านแขนอันเรียวของเขาเข้าไปที่นิ้วทั้งห้า จากนั้นเขาได้ยินเสียงระเบิดดัง หุ่นรบเหล็กที่เสียหายแตกสลายเป็นชิ้น
ชิ้นส่วนโลหะที่อยู่ภายในแตกสลายลงกับพื้น ตอนนี้มันได้พังลงอย่างสมบูรณ์;ไม่มีทางที่จะซ่อมแซมมันกลับมาได้
เซียวเฉินเผยสีหน้าเป็นสุข เขากล่าว “หลังจากที่ข้าบ่มเพาะสลักร่างพยัคฆ์มังกรจนมาถึงหน้าประตูของชั้นที่ห้า,กระดูกพยัคฆ์เอ็นมังกร,ลากภูผา ม้วนธารา,เพียงกําปั้นง่ายก็มีพลังถึงหนึ่งหมื่นกิโลกรัม
“โจมตีเต็มแรงสามารถขึ้นไปถึง 15,000 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้เพียงกําปั้นธรรมดาของ ข้าพลังก็ขึ้นไปถึง 15,000 กิโลกรัม มันอาจเป็นไปได้ว่า หลังจากที่บัลลังก์สีแดงนั้นหลอมรวมเข้ากับร่างกายของข้า,ความแข็งแกร่งทางกายภาพของข้าก็เพิ่มขึ้น?”
ทันใดนั้น,เซี่ยวเฉินก็คิดบางอย่างขึ้นได้ ในเมื่อความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้น,จุดปราณที่แขนขวาของเขาเปิดเพิ่มขึ้นหรือไม่?
เมื่อเซี่ยวเฉินสัมผัสถึงจุดปราณที่แขนขวาของเขา,มันเป็นไปตามที่เขาคาดเดา จุดปราณที่แขนขวาเปิดเพิ่มขึ้นมาเป็นสิบสี่จุด เขาเหลืออีกเพียงสองจุดก่อนที่จะเปิดครบทั้งหมดสิบหกจุด
“ข้าอยู่ไม่ก่อนที่ฉีมังกรฟ้าที่แท้จริงปรากฏขึ้น” เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างตื่นเต้น
ลองดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงอื่นอีกหรือไม่ เชี่ยวเฉินหยิบเอามีดเล่มเล็กออกมาและกรีดลงบนแขนที่เรียบเนียนราวกับหยกเบาๆ ทันใดนั้น,เกิดบาดแผลเล็กๆและเลือดไหลออกมา
อย่างไรก็ตาม ไม่นานนัก,บากแผลก็ตกสะเก็ด จากนั้น มันก็หยุดออก ผิวหนังกลับไปดูสมบูรณ์แบบเหมือนก่อนหน้านี้ ไม่มีทางเชื่อหากบอกว่าเมื่อครู่มันยังเกิดเป็นแผลอยู่
ตอนนี้ร่างกายของเซี่ยวเฉินมีคุณสมบัติในการสร้างขึ้นใหม่ ความแข็งแกร่งของเขากลายเป็นปกปิดเอาไว้ ในร่างกายของเขาเป็นเพราะการฝึกฝน,เขามีกล้ามเนื้อที่ค่อนข้างและปูดนูนออกมา ตอนนี้,พวกมันกลับหดเล็กลง
เซียวเฉินดูเป็นคนปกติ แต่ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
บัลลังก์สีแดงนั้นมีต้นกําเนิดมาจากอะไรกันแน่? ดวงตาของเซี่ยวเฉินเต็มไปด้วยความงุนงง ขณะที่เขาเด็บมีดเล็กนั้นกลับไป
เซี่ยวเฉินหลับตาของเขาและสัมผัสถึงตําแหน่งของบัลลังก์สีแดงนั้นอย่างละเอียด ในท้องสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกตรงหน้าผากของเขา,บัลลังก์สีแดงลอยอยู่ในอากาศ,ปลดปล่อยพลังอํานาจขั้นสูงสุดออกไปทั่วทั้งสมุทรในจิตสํานึกของเขา
ตําแหน่งที่ระหว่างริ้วของผู้บ่มเพาะพลังเป็นต้นกําเนิดของโลกแห่งจิตใจของผู้บ่มเพาะพลัง มันรู้จักกันในชื่อสมุทรแห่งจิตใต้สํานึก อย่างไรก็ตาม มีเพียงผู้คนมีพลังวิญญาณแข็งแกร่งเท่านั้น ที่จะสามารถเปิดสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกได้อย่างแท้จริง
เมื่อมองในภาพรวมของทวีปเทียนหวี่,มีเพียงผู้ที่ขึ้นไปถึงระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธเท่านั้น ที่จะสามารถเปิดสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกของพวกเขา สําหรับคนทั่วไป,พวกเขาไม่มีทางเปิดมันขึ้นมาได้ ดังนั้น, นี่ไม่ใช่สิ่งที่ปกติแล้วพวกเขาจะคิดถึง
หลังจากเปิดสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกของพวกเขาแล้ว,ผู้บ่มเพาะพลังสามารถบ่มเพาะพลัง วิญญาณของพวกเขาได้อย่างแท้จริง ก่อนหน้านั้น ผู้บ่มเพาะพลังมีเพียงการรับรู้พวกเขาไม่มีพลังวิญญาณที่แท้จริง
เนื่องจากทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์, เซี่ยวเฉินสามารถบ่มเพาะพลังวิญญาณได้ตั้งแต่เริ่มต้น ดังนั้น,พลังวิญญาณของเขาแข็งแรก่งกว่าผู้บ่มเพาะพลังทั่วไป พวกเขาไม่แม้แต่จะอยู่ในระดับเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินยังคงอยู่อีกไกลจากการเปิดสมุทรแห่งจิตใต้สํานึก อย่างน้อยที่สุด,เขาก็ยังไม่ถึงระกับขอบเขตพลังที่กําหนด เขาไม่คาดคิดว่าบัลลังก์สีแดงอันนี้จะเปิดสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกของเขา
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivation 319 เจตนารมณ์ฆ่าล้าง
ตอนที่ 319 เจตนารมณ์ฆ่าล้าง
“บูม!”
ในทันทีที่สัมผัสวิญญาณของเขาเข้าไปในบัลลังก์,เกิดระเบิดรุนแรงที่ข้างหูของเขา จิตใจของเขาพึ่งไปด้วยเจตนารมณ์ฆ่าล้างอันไร้ขอบเขต
เจตนารมณ์อันน่าหวาดกลัวราวกับเป็นผืนมหาสมุทรสีแดง มันหลอมรวมเข้ากับทุกเซลล์ประสาทในจิตใจของเซี่ยวเฉิน
เซี่ยวเฉินไม่อาจยับยั้งเจตนาฆ่าฟันนี้ได้ ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงในทันที ผมสีดําของเขาปลิวไหว, ใบหน้าที่บอบบางของเขาบิดเบี้ยว,ชั่วร้ายและน่ากลัว;เขาได้กลายเป็นปีศาจกินคน
เป็นไปได้อย่างไร? เซียวเฉินตื่นกลัว เขาอยากที่จะถอยออกมา,แต่พลังมหาศาลดูดมือของเขาลงไปเขาไม่มีทางปล่อยมือออก
ข้าไม่อาจปล่อยให้เป็นเช่นนี้ หากเจตนารมณ์ฆ่าล้างนี้เข้าควบคุมข้าได้อย่างสมบูรณ์,ข้าจะเสียสูญเสียซึ่งเหตุผลทั้งหมด ข้าจะเปลี่ยนกลายไปเป็นราชาปีศาจอย่างแท้จริง เจตนารมณ์นี้ช่างน่าหวาดกลัว
เซี่ยวเฉินหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ และป้องกันจุดตันเทียนของเขา เขาจมจิตใต้สํานึกของเขาลงไปและพยายามอย่างที่สุด เพื่อรักษาจิตใจของเขาให้โปร่งใส
ท้องสมุทรแห่งเจตนารมณ์ฆ่าล้างนี้ไร้ขอบเขตและล้นหลาม
เชี่ยวเฉินตกอยู่ในความเจ็บปวดขณะที่เขาต่อต้านพลังนี้ ผิวของเขากลายเป็นสีซีดทั่วทั้งตัวเส้นเลือดเล็กๆใต้ผิวหนังของเขาผุดขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจนราวกับพวกมันอยากที่จะทะลวงออกมาและระเบิดออก
ความรู้สึกนี้เจ็บปวดยิ่งกว่าครั้งแรกที่เขาปลุกจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าหลายเท่าตัว มันไม่ใช่ความรู้สึกที่มนุษย์จะสามารถทนได้
ขณะที่เซียวเฉินกําลังจะยอมจํานนต่อความทรมาน,จิตใต้สํานึกของเขาพล่ามัว เขาไม่อาจอดทนได้อีกต่อไปเขาร้องออกมาด้วยความ เจ็บปวด
“ปัง! ปัง! ปัง!”
หลอดเลือดแตกออก หยดเลอดเล็กๆปกคลุมผิวหนังของเขาทันที เชี่ยวเฉินเปลี้ยนกลายเป็นร่างเลือด
ยอมแพ้ซะ! ยอมรับในเจตนารมณ์ฆ่าล้างนี้ ความเจ็บปวดของเจ้าจะจางหายไปในทันที,และเจ้าจะได้รับพลังที่ไร้ขีดจํากัด
ขณะที่เซียวเฉินกําลังดิ้นรน,มีเสียงดังขึ้นมาจากในจิตใจของเขา เสียงนี้สะท้อนไปมาในหูของเขา,ล่อลวงให้เขายอมแพ้
ไม่มีทาง! เซียวเฉินกัดฟันแน่นและเมินเฉยเสียงในหัวของเขา เขาป้องกันความโปร่งใสในจิตใต้สํานึกของเขา
เมื่อเซี่ยวเฉินยอมแพ้ไม่ต่อต้าน,เขาจะกลายเป็นทาสของการฆ่าฟัน ตัวตนเดิมของเขาจะหายไปอย่างสมบูรณ์
ทันใดนั้น,เซี่ยวเฉินนึกถึงบางอย่างจากตําราบ่มเพาะพลังขึ้นได้ บัลลังก์สีแดงนี้น่าจะเป็นสมบัติลับ อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่สมบัติลับฝ่ายธรรมะ กลับกัน มันเป็นสมบูรณ์ลับที่ชั่วร้าย
เจ้าของของสมบัติลับชิ้นนี้น่าจะตกตายไปแล้ว,เต๋ของเขาแตกสลาย อย่างไรก็ตาม,ตัวตนชั่วร้ายภายในสมบัติลับยังไม่ได้จางหายไป หลังจากผ่านมาเป็นเวลานาน,มันน่าจะไม่ได้แข็งแกร่ง
ข้าเพียงถูกทรมานจนถึงจุดที่ไม่รู้ว่าจะทําเช่นไร หากความแข็งแกร่งจิตใจของมันแข็งแกร่งกว่าของข้าจริง,ข้าคงถูกกลืนกินไปนานแล้ว
คิดได้เช่นนั้น,เซี่ยวเฉินรวบรวมสัมผัสวิญญาณของเขาเข้าด้วยกัน และมันก็เปลี่ยนเป็นร่างเทพสีทอง จากนั้น มันก็มุ่งไปที่มหาสมุทรสีแดงในส่วนที่ลึกที่สุดของบัลลังก์นี้
ข้าต้องตามหาตัวตนของมันและทําลายซะ มิฉะนั้น, ข้าจะทําได้เพียงแค่ป้องกัน,จนในที่สุด,ข้าก็จะไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป
ร่างเทพบินไกลและไกลออกไปในพื้นที่แห่งจิตใจ มหาสมุทรที่ไร้ขอบเขตดูราวกับไม่มีที่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินก็ไม่ย่อท้อแม้แต่มหาสมุทรที่ใหญ่ที่สัดก็ต้องมีสุดสิ้นสุด
พื้นที่แห่งจิตใจนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากตอนที่เชี่ยวเฉินเผชิญหน้ากับจักรพรรดิโบราณที่แท้จริง เพียงแต่มีมหาสมุทรโลหิตนิรันดร์
ไม่รู้ได้ว่าเวลาได้ไหลผ่านมานานถึงเพียงใด เซียวเฉินควบคุมร่างเทพและในที่สุดก็มาถึงจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรโลหิต
มันมีหุบเหวลึกสีเลือดอยู่ที่ตรงนั้น ภายใน,มีหัวสีแดงขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับทะเลสีเลอด มันจ้องมองมาที่ร่างเทพตั้งแต่ระยะไกล
หัวสีแดงนั้นร้องคํารามและเปิดปากมหึมาของมัน มันกลืนร่างเทพลงไปในทันที ร่างเทพปิดตาลงและยอมให้เลือดเข้ามาปกคลุม
ผ่านไปครู่หนึ่ง ร่างเทพลืมตาขึ้น แสงสีทองสาดส่องออกมาจากดวงตาของมันและทะลวงผ่านหัวสีแดง
หัวสีแดงนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและ ยอมแพ้ที่จะกลืนกินร่างเทพ มันถอยกลับไปอย่างหวาดกลัว
มันเป็นไปตามที่ข้าคาดคิด เจตนารมณ์มารนี้ได้ อ่อนพลังลงมากแล้ว ข้าร้อนรนเกินไปและไม่ได้รับมืออย่างถูกต้องเมื่อก่อนหน้านี้ ทําให้มันจู่โจมเข้ามาจนถึงจุดที่ข้าไม่รู้ว่าจะทําเช่นไร
ข้าจะคิดเสียว่าเป็นบทเรียนในอนาคต, ในตอนที่เผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่รู้จัก,ข้าจะต้องรักษาความระมัดระวังให้มากอยู่เสมอ
แสงสีแดงในดวงตาของเซียวเฉินจางหายไปเล็กน้อย มันไม่ได้ดูน่ากลัวอีกต่อไป มันค่อยๆใสชัดขึ้น
หัวสีแดงถอยกลับไปยังพื้นที่เหนือหุบเหว มันโบกมือของมันอย่างรุนแรง และมือสุ่มเลือดอันมหึมา,ที่ดูราวกับจะปกคลุมท้องฟ้า,ทุบลงไปที่ร่างเทพ
“ตาย!”
ร่างเทพสีทองร้องตะโกน,และดาบเรืองแสงสีทองปรากฏขึ้นในมือของมัน มันกวัดแกว่งดาบ,และดาบแสงสีทองที่พลุ่งพล่านสับมือเลือดออกเป็นชิ้นๆ
ร่างเทพสีทองชี้ดาบขึ้นไปบนท้องฟ้า,และมีแสงทะยานขึ้นไป จากนั้น มันก็แยกออกเป็นเส้นแสงนับหมื่นเส้น,ตกลงมาเป็นของเหลวสีทองราวกับฝน
ขณะที่ของเหลวสีทองเพิ่มขึ้นสะสมในมหาสมุทร ในไม่ช้า มันก็กลายเป็นมหาสมุทรสีทอง
“อา! อา! อา!”
หัวสีแดงตอบสนองราวกับถูกน้ําลวก,ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ในตอนที่ทะเลสีแดงเปลี่ยนเป็นสีทองอย่างสมบูรณ์,มันถูกตัดออกจากผืนทะเลอย่างสมบูรณ์,กลายเป็นหัวโดดเดี่ยวที่ลอยในอากาศ
กลับมาที่ความเป็นจริง,ดวงตาของเซี่ยวเฉินไม่ได้เป็นสีแดงอีกต่อไป การแสดงออกที่ชั่วร้ายจางหายไป ดูเหมือนว่าเขาจะสงบลงแล้ว ความเจ็บปวดไม่ได้ทรมานตัวเขาอีกต่อไป
เหลือเพียงหัวมารโดดเดี่ยวที่เหลืออยู่ในพื้นที่แห่งจิตใจ มันไม่มีที่ที่จะหนีไปได้ มันอยากที่จะกลับสู่ผืนทะเลอยู่หลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อมันสัมผัสกับทะเลสีทอง,มันร้องออกมาอย่างเจ็บปวดในทันที นอกจากนั้น มันยังหดเล็กลงอีกด้วย
เซี่ยวเฉินควบคุมร่างเทพสีทองให้ส่งเส้นดาบแสงออกไป หัวสีแดงเคลื่อนที่ไปอย่างว้าวุ่นในอากาศ,หลบเลี่ยงแสงสีทองที่น่าหวาดกลัว
ท้ายที่สุด มันก็เป็นเพียงเสือกระดาษ,เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง ร่างเทพใช้โอกาสในจังหวะนี้ มือซ้ายของมันขยายใหญ่ขึ้นและจับหัวนั้นเอาไว้
“อย่าฆ่าข้า;ข้าสามารถยอมรับเจ้าในฐานะเจ้านาย พวกเราสามารถทําสัญญาโลหิตกันได้ ข้าจะไม่มีทางหักหลังเจ้าได้ นอกจากนั้นยังมีความลับของบัลลังก์สังหาร ข้าจะบอกเจ้าถึงทุกรายละเอียด”
หลังจากที่หัวสีแดงนั้นถูกจับได้ มันก็อ้อนวอนไม่หยุด
“เจ้าปีศาจนอกรีต,ทําไมข้าถึงต้องเก็บเจ้าเอาไว้?!” เซี่ยวเฉินสูดหายใจเย็นชาและบีบหัวสีแดงนั้นทันที
พวกปีศาจนี้มีลีลาและลูกไม้มากมาย ใครจะรู้ว่าตอนไหนที่มันจะจู่โจมข้าหนังจากที่เติบโตแข็งแกร่งขึ้น มันจะเป็นการดีที่สุดที่นะไม่เก็บมันเอาไว้
สําหรับความลับของบัลลังก์สีแดงนี้ ข้าจะค่อยๆตรวจสอบมันเอง นี่เป็นเรื่องระหว่างความเป็นความตายจะดีกว่าที่จะระมัดระวังเอาไว้
ทันทีที่เอาชนะหัวสีแดงนั้นในมิติแห่งจิตใจ ในความเป็นจริง บัลลังก์สีแดงที่ใต้มือของเซี่ยวเฉินเปลี่ยนกลายเป็นแสงสีแดงและเข้าไปในทุกส่วนของร่างกายของเซี่ยวเฉิน
เมื่อแสงสีแดงได้ไหลเข้าไปในร่างของเซี่ยวเฉินจนหมด,บาดแผลทั้งหมดที่เกิดจากหลอดเลือดระเบิดของเขาฟื้นตัสขึ้นอย่างชัดเจน
ผ่านไปครู่หนึ่ง, พวกมันก็ฟื้นตัวกลับไปเป็นเหมือนเดิม บาดแผลทั้งหมดหายไป ผิวของเซียวเฉินเนียนและขาว,อ่อนโยนและบอบบางยิ่งกว่าของหญิงสาว
“บูม!”
แสงสีแดงไหลผ่านส่วนต่างๆและมารวมตัวกันที่หน้าผากระหว่างคิ้วของเขา จากนั้น มันก็เปลี่ยนเป็นตราประทับบัลลังก์สีแดงขนาดเท่ากับเล็บมือของเขา
เซียวเฉินถอนสัมผัสวิญญาณของเขากลับมา และมองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขา ดวงตาของเขาเกิดความสงสัย
เซียวเฉินยกมือซ้ายของเขาขึ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด เขาเห็นผิวหนังที่บอบบางและเรียบเนียนมือของเขาสวยงามจนน่ากลัว
มันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงที่พื้นผิว ในตอนที่เซียวเฉินกํามือของเขา เขารู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ พลังกายภาพของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเกิดหน้านี้
เมื่อเซี่ยวเฉินสังเกตเห็นหุ่นรบเกราะเหล็กที่ฟังอยู่ทางด้านข้าง,เขาค่อยๆเดินเข้าไปและชกออกเบาๆไปที่หน้าอกของมัน
พลังอันยิ่งใหญ่ไหลผ่านแขนอันเรียวของเขาเข้าไปที่นิ้วทั้งห้า จากนั้นเขาได้ยินเสียงระเบิดดัง หุ่นรบเหล็กที่เสียหายแตกสลายเป็นชิ้น
ชิ้นส่วนโลหะที่อยู่ภายในแตกสลายลงกับพื้น ตอนนี้มันได้พังลงอย่างสมบูรณ์;ไม่มีทางที่จะซ่อมแซมมันกลับมาได้
เซียวเฉินเผยสีหน้าเป็นสุข เขากล่าว “หลังจากที่ข้าบ่มเพาะสลักร่างพยัคฆ์มังกรจนมาถึงหน้าประตูของชั้นที่ห้า,กระดูกพยัคฆ์เอ็นมังกร,ลากภูผา ม้วนธารา,เพียงกําปั้นง่ายก็มีพลังถึงหนึ่งหมื่นกิโลกรัม
“โจมตีเต็มแรงสามารถขึ้นไปถึง 15,000 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้เพียงกําปั้นธรรมดาของ ข้าพลังก็ขึ้นไปถึง 15,000 กิโลกรัม มันอาจเป็นไปได้ว่า หลังจากที่บัลลังก์สีแดงนั้นหลอมรวมเข้ากับร่างกายของข้า,ความแข็งแกร่งทางกายภาพของข้าก็เพิ่มขึ้น?”
ทันใดนั้น,เซี่ยวเฉินก็คิดบางอย่างขึ้นได้ ในเมื่อความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้น,จุดปราณที่แขนขวาของเขาเปิดเพิ่มขึ้นหรือไม่?
เมื่อเซี่ยวเฉินสัมผัสถึงจุดปราณที่แขนขวาของเขา,มันเป็นไปตามที่เขาคาดเดา จุดปราณที่แขนขวาเปิดเพิ่มขึ้นมาเป็นสิบสี่จุด เขาเหลืออีกเพียงสองจุดก่อนที่จะเปิดครบทั้งหมดสิบหกจุด
“ข้าอยู่ไม่ก่อนที่ฉีมังกรฟ้าที่แท้จริงปรากฏขึ้น” เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างตื่นเต้น
ลองดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงอื่นอีกหรือไม่ เชี่ยวเฉินหยิบเอามีดเล่มเล็กออกมาและกรีดลงบนแขนที่เรียบเนียนราวกับหยกเบาๆ ทันใดนั้น,เกิดบาดแผลเล็กๆและเลือดไหลออกมา
อย่างไรก็ตาม ไม่นานนัก,บากแผลก็ตกสะเก็ด จากนั้น มันก็หยุดออก ผิวหนังกลับไปดูสมบูรณ์แบบเหมือนก่อนหน้านี้ ไม่มีทางเชื่อหากบอกว่าเมื่อครู่มันยังเกิดเป็นแผลอยู่
ตอนนี้ร่างกายของเซี่ยวเฉินมีคุณสมบัติในการสร้างขึ้นใหม่ ความแข็งแกร่งของเขากลายเป็นปกปิดเอาไว้ ในร่างกายของเขาเป็นเพราะการฝึกฝน,เขามีกล้ามเนื้อที่ค่อนข้างและปูดนูนออกมา ตอนนี้,พวกมันกลับหดเล็กลง
เซียวเฉินดูเป็นคนปกติ แต่ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
บัลลังก์สีแดงนั้นมีต้นกําเนิดมาจากอะไรกันแน่? ดวงตาของเซี่ยวเฉินเต็มไปด้วยความงุนงง ขณะที่เขาเด็บมีดเล็กนั้นกลับไป
เซี่ยวเฉินหลับตาของเขาและสัมผัสถึงตําแหน่งของบัลลังก์สีแดงนั้นอย่างละเอียด ในท้องสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกตรงหน้าผากของเขา,บัลลังก์สีแดงลอยอยู่ในอากาศ,ปลดปล่อยพลังอํานาจขั้นสูงสุดออกไปทั่วทั้งสมุทรในจิตสํานึกของเขา
ตําแหน่งที่ระหว่างริ้วของผู้บ่มเพาะพลังเป็นต้นกําเนิดของโลกแห่งจิตใจของผู้บ่มเพาะพลัง มันรู้จักกันในชื่อสมุทรแห่งจิตใต้สํานึก อย่างไรก็ตาม มีเพียงผู้คนมีพลังวิญญาณแข็งแกร่งเท่านั้น ที่จะสามารถเปิดสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกได้อย่างแท้จริง
เมื่อมองในภาพรวมของทวีปเทียนหวี่,มีเพียงผู้ที่ขึ้นไปถึงระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธเท่านั้น ที่จะสามารถเปิดสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกของพวกเขา สําหรับคนทั่วไป,พวกเขาไม่มีทางเปิดมันขึ้นมาได้ ดังนั้น, นี่ไม่ใช่สิ่งที่ปกติแล้วพวกเขาจะคิดถึง
หลังจากเปิดสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกของพวกเขาแล้ว,ผู้บ่มเพาะพลังสามารถบ่มเพาะพลัง วิญญาณของพวกเขาได้อย่างแท้จริง ก่อนหน้านั้น ผู้บ่มเพาะพลังมีเพียงการรับรู้พวกเขาไม่มีพลังวิญญาณที่แท้จริง
เนื่องจากทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์, เซี่ยวเฉินสามารถบ่มเพาะพลังวิญญาณได้ตั้งแต่เริ่มต้น ดังนั้น,พลังวิญญาณของเขาแข็งแรก่งกว่าผู้บ่มเพาะพลังทั่วไป พวกเขาไม่แม้แต่จะอยู่ในระดับเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินยังคงอยู่อีกไกลจากการเปิดสมุทรแห่งจิตใต้สํานึก อย่างน้อยที่สุด,เขาก็ยังไม่ถึงระกับขอบเขตพลังที่กําหนด เขาไม่คาดคิดว่าบัลลังก์สีแดงอันนี้จะเปิดสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกของเขา
Comments