Immortal and Martial Dual Cultivation 323 ของที่เป็นของข้าท้ายที่สุดก็จะกลับมาหาข้า

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 323 ของที่เป็นของข้าท้ายที่สุดก็จะกลับมาหาข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 323 ของที่เป็นของข้าท้ายที่สุดก็จะกลับมาหาข้า

มีผู้กล้าหลายคนนําเข้าโจมตี จากนั้นเหล่าผู้มีพรสวรรค์คนอื่นๆก็ติดตามเข้ามา

อาวุธนี่รุ่งโรจน์และฉีฆ่าฟันมากมายถูกยิงออก มา,ประดาเข้ามาจากทั่วทิศทาง

มุมปากของเซียวเฉินยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา เขากล่าวด้วยน้ําเสียงหนักแน่น “ช่างกล้า! ความแข็งแกร่งไม่เท่าไหร! โจมตีเข้ามาแค่ไหนก็ได้ความหาย!”

“หวาขุยเปลี่ยนรูปฉี!”

เซี่ยวเฉินร้องตะโกน, และต้นหรูขุยศึกสิทธิ์โบราณปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า มันเปลี่ยนกลายเป็นเส้นกระบี่ฉีสีม่วง,บินไปรอบๆ

“เครั้ง! เครั้ง! เครั้ง!”

กระบี่ฉีสีม่วงปะทะเข้ากับอาวุธฉีมากมายที่ลอยเข้ามา เสียงระเบิดดังกึกก้องพร้อมกับกระบฉีหนา แน่นสลายอาวุธฉีมากมาย จากนั้น มันบินไปที่ฝูงชนโดยที่พลังของมันไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย

มีอาวุธฉีสองสามเส้นที่ลอดผ่านเข้ามาได้ เซียวเฉินกวัดแกว่งกระบี่ของเขา,กระบี่แสงวูบไหว,ป้องกันเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

เซายวเฉินยืนอยู่บนปากหม้อโดยไม่ไหวนิ่ง เขาดูสบายใจอย่างเหลือเชื่อ ทักษะกระบี่ที่ผสมผสานกับสภาวะแห่งสายฟ้าไม่ใช่สิ่งที่คนพวกนี้จะป้องกันเอาไว้ได้

กระบี่ฉีสีม่วงที่น่าหวาดกลัวทําให้กลุ่มคนสับสนแตกตื่นในทันที กระบีจีทะลวงผ่านเกราะปราณจํานวนมาก พวกเขาได้บาดแผลลึกเลือดไหล

เซี่ยวเฉันคิ้วขมวด เขารู้สึกได้ผ่านสัมผัสวิญญาณของเขา,มีสามคนที่กําลังบินเข้ามาจากด้านหลังของเขา พวกเขาเผยเจตนาฆ่าฟันออกมา พร้อมกับอาวุธชี้ตรงมาที่หลังของเซี่ยวเฉิน

“ทะลวงฉีหรูขุย!”

พลังงานสีม่วงที่หลงเหลืออยู่ในอากาศมารวมตัวกันที่กระบี่เงาจันทร์ในทันที เซียวเฉินหมุนตัวกลับและฟันลงด้วยกระบี่ของเขาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

“ปะ ปะ ปะ!”

มีเสียงคมชัดดังขึ้นสามครั้ง กระบี่ทะลวงของเซี่ยวเฉินทําลายอาวุธของคนทั้งสาม

พลังงานในกระบี่ระเบิดออกมาไม่หยุดหย่อน เซียวเฉินร้องตะโกน,และกระบี่แสงสีม่วงก็ระเบิด

คลื่นกระแทกซัดคนทั้งสามลอยออกไป:พวกเขาหน้าซีดกระอักเลือด

เซี่ยวเฉินถือกระบี่ของเขาและยืนอย่างภาคภูมิ เขามีสีหน้าที่เคร่งขรึมพร้อมกับกล่าวอย่างเฉยเมย “พวกเจ้าสามารถหยิบสมบัติลับตามพื้นออกไปได้ตามใจ แต่อย่าหวังกับหม้อมังกรฟินิกซ์ใบนี้ มิฉะนั้น,เจ้าต้องผ่านกระบี่ของข้าไปก่อน”

กระบี่ที่น่าทึ่งของเซียวเฉินทําให้ทุกคนตกตะลึง พวกเขาหยุดมือจากสิ่งที่กระทําทั้งหมด และสถานการณ์ก็ตกสู่ความเงียบ

“ช่างโอหัง! ข้า,หงหยุนต์,จากแคว้นหนานหลิง,อยากจะรู้ว่าดจ้าจะแกร่งถึงเพียงใด” เสียงดูหมิ่นดังขึ้นจากฝูงชน ผู้บ่มเพาะพลังในชุดคลุมขาว,ถือดาบยาว 2.33 เมตร,กระโดดออกมาจากฝูงชน

ดาบของหงหยุนตู้ส่งดาบแสงออกมาพร้อมกับเขาเคลื่อนผ่านไปในอากาศ ร่างของเขาดูราวกับไม่มีตัวตน,และการเคบื่อนไหวของเขาไม่อาจคาดเดา ในระยะเวลาสั้นๆ,เขาส่งดาบจีนับร้อยไปที่เซี่ยวเฉิน

หมอกเมฆปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของหงหยุนตู้ คนผู้นี้บรรลุสภาวะแห่งเมฆา ไม่น่าแปลกใจที่ทักษะกระบี่ของเขาจะดูเหมือนไร้ตัวตน เขามีความคล้ายคลึงกับมู่หลงชง

สีหน้าของเซียวเฉินไม่เปลี่ยน ทันมดนั้นสายฟ้าปรากฏขึ้นรอบกายของเขา,สาดแสงไปในโรงหลอมขนาดใหญ่แห่งนี้ บางครา,จะมีสายฟ้าแตกเสียงออกมา

เมื่อเซี่ยวเฉินมองไปยังดาบแสงนับร้อยเล่มตรงหน้าของเขา เขาไม่ได้ตื่นตกใจ เขาป้องกันตัวเองด้วยกระบี่ของเขาและใช้จังหวะนั้นเริ่มเคลื่อนไหว

ในตอนแรกผู้อื่นสามารถเห็นความรวดเร็วของเซี่ยวเฉิน อย่างไรก็ตาม,ผ่านไปครู่หนึ่ง,ความเร็วค่อยๆเพิ่มขึ้น ในไม่ช้า,เขากลายเป็นรวดเร็วจนไม่เห็นแม้แต่ภาพติดตา

“เครั้ง! เครั้ง! เครั้ง! เครั้ง!”

เสียงอาวุธปะทะดังสะท้อนไปภายในโรงหลอม ฝูงชนมองเห็นเพียงดาบและกระบี่ฉีลอยปะทะกัน พวกมันเกิดระเบิดรุนแรงเป็นคลื่นในอากาศ

ภายในหมู่เมฆนับพัน,ร่างของหงหยุนตู้ดูเหมือนจะไร้ตัวตน อย่างไรก็ตาม,ความกังวลเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

เป็นเพราะหงหยุนตู้พบว่า ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้,เซียวเฉินได้ชิงความได้เปรียบในการต่อสู้ไป,เขาคือผู้ที่ตกเป็นฝ่ายป้องกัน

คู่ต่อสู้ของหงหยุนตู้เห็นชัดว่ายืนอยู่ตรง จุดเดิมตั้งแต่เริ่มเขาไม่แม้แต่จะได้ก้าวขยับ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะลงมือทีหลัง,แต่เขากลับกดกระแสพลังของหงหยุนตู้เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์

กระบี่ของคู่ต่อสู้ของหงหยุนตู้เร็วขึ้นและเร็วขึ้น เขารู้สึกว่ามันยิ่งป้องกันได้ยากขึ้น

เม็ดเหงื่อแตกผลักบนหน้าผากของเขา ร่างที่ไร้ตัวตนของเขาเริ่มเผยช่องโหว่ออกมา

“ทลาย!”

แสงสว่างจ้าวูบไหวในดวงตาของเซียวเฉิน เขาร้องตะโกน,และแสงกระแสไฟฟ้ารุ่งโรจน์ปรากฏ ขึ้นบนกระบี่ของเขา

เชี่ยวเฉินบิดเอวและเหวี่ยงกระบี่ตรงไปข้างหน้า พลังงานอันแข็งแกร่งในแสงกระแสไฟฟ้าผลักกาบที่หงหยุนต์ใช้ป้องกันลอยออกไป

พลังของมันไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย มันทะลวงผ่านเกราะปราณของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย ทิ้งบาดแผลใหญ่เอาไว้บนหน้าอกของหงหยุนตู้

หงหยุนตู้ร้องออกมาอย่างน่าสังเวชและร่วงหล่นลงมาจากอากาศ เขาตกถึงพื้นด้วยความเจ็บปวด,สีหน้าของเขาซีดเซียวอย่างไม่น่าเชื่อ

“ความแข็งแกร่งของหงหยุนต้อยู่ที่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด เขาค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียงในแคว้นหนานหลิง กระนั้น เขายังไม่แกร่งพอที่จะทําให้เซี่ยวเฉินถอยกลับไปแม้แต่ก้าวเดียว” มีคนกระซิบขึ้น

“พวกเราสามพี่น้องต้องการหมอมังกรฟินิกซ์ใบนั้น! ไอ้เด็กเหลือขอจากศาลากระบี่สวรรค์,ลงมาซะ!” คนหนุ่มสามคนก้าวเข้ามาจากทางเดินอีกด้านหนึ่งของโรงหลอม

อาวุธที่พวกเขาทั้งสามคนใช้แตกต่างกันไป คนตรงกลางใช้ดาบที่ห้อยอยู่ตรงเอวของเขา;คนทางซ้ยแบกกระบี่ใหญ่,และคนทางขวาถือพับมือ

“สามคนนี้เป็นทายาทของตระกูลหลัวแห่งเมืองหลวง;พวกเขาเป็นพี่น้องเลือดเดียวกัน ตระกูลหลัวมีขุมอํานาจใหญ่ภายในเมืองหลวง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้หม้อมังกรฟินิกซ์ใบนี้ไปแล้ว”

“อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทั้งสามคนนั้นไล่ตามฉาวอวนไปเมื่อครู่?
ทําไมเขาถึงได้มาอยู่ที่นี่?”

“ใครจะไปรู้?

คอยระวังอยู่ห่างๆกันเถอะ,จากนั้นก็ใช้ความได้เปรียบในตอนที่ทั้งสองฝ่ายเหนื่อยล้า ในการต่อสู้เมื่อครู่ของเซียวเฉิน,เขาจะต้องใช้พลังออกไปอย่างเต็มที่แน่นอน เขาน่าจะเสียพลังปราณไปไม่น้อยแล้ว”
สามพี่น้องตระกูลหลัวก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาอยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตรจากหม้อมังกรฟินิกซ์,น้องสาม,เผยรอยยิ้มเหี้ยมโหดพร้อมกับกล่าว “สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดก็คือมีคนมองต่ําลง มาที่ข้า ลงมาซะ!”

หลังจากที่น้องสามกล่าวจบ,เขาก็เตะหม้อมังกรฟินิกซ์ที่สูงกว่าสิบเมตร ลูกเตะที่แบกพลังอันน่าหวาดกลัวซัดลงบนหม้อในทันที เสียงร้องดังกึกก้องภายในโรงหลอม

“เว้ง! เจ๋ง! เว้ง!”

เสียงสั่นสะเทือนแก้วหูและสะท้อนไปมาภายในหูของทุกคน หม้อมังกรฟินิกซ์สั่นสะเทือนไม่หยุด อย่างไรก็ตาม,ทั้งสามขาของมันไม่ขยับแม้แต่น้อย

กลับกัน,พลังลูกเตะสะท้อนกลับไปที่น้องสามแห่งตระกูลหลัว เป็นผลให้ขาของเขาด้านชา เขาพึมพําและกล่าว “เป็นไปไม่ได้ ลูกเตะเบาๆของข้าสามารถทะลวงกําแพงเมือง ทําไมหม้อพังๆนี่ถึงไม่ขยับ?”

เมื่อน้องหลัวสามจ้องมองไปที่เซียวเฉินที่อยู่บนปากหม้อ,เขาครุ่นคิดกับตัวเอง มันจะต้องเป็นฝีมือของเจ้าหมอนี่ เขากล่าวอย่างเกรี้ยวกราด “อีกครั้ง! ข้าไม่เชื่อว่าจะเตะเจ้าลงมาไม่ได้”

น้องหลัวสามร้องตะโกนและหมุนตัว 180 องศา จากนั้นเขาก็เตะออก สายลมจากลูกเตะทําให้อากาศต้องสั่นสะเทือน

“ก้อง…!”

ขาหม้อทั้งสามข้าจมลงไปและติดแน่นอยู่กับพื้นของโรงหลอม

พลังอันไร้ขอบเขตซัดลงบนพื้นที่โดยรอบ ในทันที,เป็นผลให้พื้นดินพังทลายและลอยขึ้นรอยๆหม้อมังกรฟีนิกซ์,พุ่งไปถึงเพดาน

น้องหลัวสามที่เพิ่งจะพุ่งเข้ามาไม่ได้มีเวลาให้ตอบสนอง คลื่นพลังซัดเขาลอยไปในอากาศ
“ปัง!”

เซี่ยวเฉินถือฝึกกระบี่เอาไว้ในมือซ้ายและตวัดมันอย่างรวดเร็ว ปลายของฝึกกระบี่ทะลวงผ่านซากปรักหักพังและแทงเข้าที่หน้าอกของน้องหลัวสาม

น้องหลัวสามกระอักเลือดออกมาเต็มคําและลอยกลับหลังไป สีหน้าของเขารีดขาว;เขาได้รับบาดเจ็บภายในสาหัส

“น้องสาม!”

พี่ใหญ่และพี่กลางอุทานขึ้นพร้อมกับรับตัวของน้องสาม พวกเขาไม่คาดคิดว่าเซียวเฉินจะทําเขาสาหัสได้ภายในกระบวณทาาเดียว

“เจ้ากล้าทําลายน้องสาม! ไม่มีใครช่วยเจ้าได้ในวันนี้!” พวกเขาทั้งสองชักอาวุธของพวกเขาออกมา,และเกิดสายลมรุนแรงขณะที่พวกเขากระโดดตรงไปที่เซียวเฉินพร้อมกับเจตนาฆ่าฟัน

“หวายุยสะเทือนสวรรค์!”

เซียวเฉินไม่สนใจไปวอแวกับพวกเขา เขาเพียงใช้ออกกระบวณท่าสังหารของทักษะกระบี่ หวี่ขุย ต้นหวี่ขุยศักดิ์สิทธิ์โบรางอกขึ้นมาในอากาศอย่างรวดเร็ว

มันราวกับภูเขาที่แบกพลังมหาศาล มันเต็มไปด้วยสภาวะแห่งสายฟ้าของเซียวเฉินขณะที่มันพุ่งขึ้นไปและร่วงหล่นลงมา

“ปัง!”

ต่อหน้าพลังอันเด็ดขาด,พวกเขาทั้งสองไม่อาจต้านทาน ต้นไม้ใหญ่ตกลงมาบนหัวของพวกเขา

ร่างของพวหเขาจมลงไปพื้นดินใต้เท้าของพวกเขา พลังปราณธาตุสายฟ้าที่บ้าคลั่งทะลวงผ่านร่างของพวกเขา,ทําให้พลังปราณของพวกเขาปั่นป่วน

เซี่ยวเฉินล้มสามพี่น้องลงได้อย่างง่ายดาย เป็นผลให้ฝูงชน,ที่กําลังรอฉวยโอกาสรู้สึกหวาดกลัว ผู้บ่มเพาะพลังที่ไล่ตามเซียวเฉินมายอมลามือ จากหม้อมังกรฟินิกซ์และถอยกลับไป แต่ผู้คนที่เข้ามาจากทางที่ตู้ฮาวใช้กลับท้าทายเขา

เซี่ยวเฉินไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว เขาป้องกันด้านหน้าด้วยกระบีของเขาและยืนหยัดอย่างภาคภูมิ ผมของเขาปลิวไหวไปขณะที่เขายืนอยู่บนปากหม้อซัดผู้ท้าทายแต่ละคนลอยออกไปในกระบวณท่าเดียว

เซียวเฉินยืนอยู่บนปากหม้อมังกรฟินิกซ์และถือกระบี่เอาไว้ด้วยมือเดียว เขามองดูผู้มากพรสวรรค์คนอื่นๆภายในโรงหลอมด้วยใบหน้าไร้สี

จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างเฉยเมย “ข้ายืนยันคําเดิม พวกเจ้าทําได้ตามที่ต้องการกับสมบัติลับที่อยู่บนพื้น,แต่ข้าต้องการหม้อมังกรฟินิกซ์ใบนี้”

มีคนประมาณห้าหรือหกสิบคนที่เข้ามาภายในซากนิกายหลี่เพลิง นอกจากส่วนน้อยที่ไล่ตามฉู่ฉาวอวิ๋นไป,คนอื่นได้มารวมตัวกันที่นี่แล้ว

หม้อมังกรฟินิกซ์เป็นหนึ่งในสิ่งสําเป็นที่ต้องใช้ในการหลอมสมบัติลับที่อยู่เบื้องหลังของทุกคน ที่นี่ต่างเป็นขุมอํานาจใหญ่ หากพวกเขาได้วิธีการสร้างสมบัติลับไป,มันจะเพิ่มขุมกําลังของพวกเขาในทันที

หม้อมังกรฟินิกซ์สําคัญมากสําหรับพวกเขา นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมถึงได้มีคนเขามาท้าทายเซียวเฉินไม่หยุดหย่อน แม้ว่าจะต้องร่วงลงไป พวกเขาก็ไม่ยอมลามือ

ดูเหมือนว่าข้าจะต้องสังหารใครสักคนแล้ว,เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง ทีแรกเขาวางแผนว่าจะเผิดใช้รองเท้ากาววายุในจังหวะที่เขาเอาหม้อมังกรฟินิกซ์ลงไปในแหวนห้วงจักรวาลได้

อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินพบว่าไม่สามารถใส่หม้อมังกรฟินิกซ์ลงไปในแหวนห้วงจักรวาลได้ นี่ทําให้เซียวเฉินตั้งในแน่วแน่ครุ่นคิดหาวิธีที่จะถอนหม้อตัวฟินิกซ์ออกมา

สมบัติลับสามารถเก็บเอาไว้ในแหวนห้วงจักรวาลได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากว่ามันใส่ลงไปไม่ได้ มันหมายความว่าหม้อมังกรฟินิกซ์มีพลังแห่งมิติ,ที่ขัดแย้งกับพื้นที่ภายในอหวนห้วงจักรวาล

นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าหม้อมังกรฟินิกซ์ใบนี้มีค่ามากอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นของปลอม บางทีตํานานอาจจะเป็นเรื่องจริง

“ให้ตาย! โจมตีพร้อมกัน! ข้าไม่เชื่อว่าพลังปราณของมันจะไม่มีวันหมด หลังจากสังหารมันได้แล้ว พวกเราค่อยตัดสินว่าใครจะได้หม้อมังกรฟินิกซ์ไป” หงหยุนต์ ผู้ที่ถูกเซียวเฉินล้มไปเมื่อก่อนหน้านี้,กล่าวออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 323 ของที่เป็นของข้าท้ายที่สุดก็จะกลับมาหาข้า

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 323 ของที่เป็นของข้าท้ายที่สุดก็จะกลับมาหาข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 323 ของที่เป็นของข้าท้ายที่สุดก็จะกลับมาหาข้า

มีผู้กล้าหลายคนนําเข้าโจมตี จากนั้นเหล่าผู้มีพรสวรรค์คนอื่นๆก็ติดตามเข้ามา

อาวุธนี่รุ่งโรจน์และฉีฆ่าฟันมากมายถูกยิงออก มา,ประดาเข้ามาจากทั่วทิศทาง

มุมปากของเซียวเฉินยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา เขากล่าวด้วยน้ําเสียงหนักแน่น “ช่างกล้า! ความแข็งแกร่งไม่เท่าไหร! โจมตีเข้ามาแค่ไหนก็ได้ความหาย!”

“หวาขุยเปลี่ยนรูปฉี!”

เซี่ยวเฉินร้องตะโกน, และต้นหรูขุยศึกสิทธิ์โบราณปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า มันเปลี่ยนกลายเป็นเส้นกระบี่ฉีสีม่วง,บินไปรอบๆ

“เครั้ง! เครั้ง! เครั้ง!”

กระบี่ฉีสีม่วงปะทะเข้ากับอาวุธฉีมากมายที่ลอยเข้ามา เสียงระเบิดดังกึกก้องพร้อมกับกระบฉีหนา แน่นสลายอาวุธฉีมากมาย จากนั้น มันบินไปที่ฝูงชนโดยที่พลังของมันไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย

มีอาวุธฉีสองสามเส้นที่ลอดผ่านเข้ามาได้ เซียวเฉินกวัดแกว่งกระบี่ของเขา,กระบี่แสงวูบไหว,ป้องกันเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

เซายวเฉินยืนอยู่บนปากหม้อโดยไม่ไหวนิ่ง เขาดูสบายใจอย่างเหลือเชื่อ ทักษะกระบี่ที่ผสมผสานกับสภาวะแห่งสายฟ้าไม่ใช่สิ่งที่คนพวกนี้จะป้องกันเอาไว้ได้

กระบี่ฉีสีม่วงที่น่าหวาดกลัวทําให้กลุ่มคนสับสนแตกตื่นในทันที กระบีจีทะลวงผ่านเกราะปราณจํานวนมาก พวกเขาได้บาดแผลลึกเลือดไหล

เซี่ยวเฉันคิ้วขมวด เขารู้สึกได้ผ่านสัมผัสวิญญาณของเขา,มีสามคนที่กําลังบินเข้ามาจากด้านหลังของเขา พวกเขาเผยเจตนาฆ่าฟันออกมา พร้อมกับอาวุธชี้ตรงมาที่หลังของเซี่ยวเฉิน

“ทะลวงฉีหรูขุย!”

พลังงานสีม่วงที่หลงเหลืออยู่ในอากาศมารวมตัวกันที่กระบี่เงาจันทร์ในทันที เซียวเฉินหมุนตัวกลับและฟันลงด้วยกระบี่ของเขาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

“ปะ ปะ ปะ!”

มีเสียงคมชัดดังขึ้นสามครั้ง กระบี่ทะลวงของเซี่ยวเฉินทําลายอาวุธของคนทั้งสาม

พลังงานในกระบี่ระเบิดออกมาไม่หยุดหย่อน เซียวเฉินร้องตะโกน,และกระบี่แสงสีม่วงก็ระเบิด

คลื่นกระแทกซัดคนทั้งสามลอยออกไป:พวกเขาหน้าซีดกระอักเลือด

เซี่ยวเฉินถือกระบี่ของเขาและยืนอย่างภาคภูมิ เขามีสีหน้าที่เคร่งขรึมพร้อมกับกล่าวอย่างเฉยเมย “พวกเจ้าสามารถหยิบสมบัติลับตามพื้นออกไปได้ตามใจ แต่อย่าหวังกับหม้อมังกรฟินิกซ์ใบนี้ มิฉะนั้น,เจ้าต้องผ่านกระบี่ของข้าไปก่อน”

กระบี่ที่น่าทึ่งของเซียวเฉินทําให้ทุกคนตกตะลึง พวกเขาหยุดมือจากสิ่งที่กระทําทั้งหมด และสถานการณ์ก็ตกสู่ความเงียบ

“ช่างโอหัง! ข้า,หงหยุนต์,จากแคว้นหนานหลิง,อยากจะรู้ว่าดจ้าจะแกร่งถึงเพียงใด” เสียงดูหมิ่นดังขึ้นจากฝูงชน ผู้บ่มเพาะพลังในชุดคลุมขาว,ถือดาบยาว 2.33 เมตร,กระโดดออกมาจากฝูงชน

ดาบของหงหยุนตู้ส่งดาบแสงออกมาพร้อมกับเขาเคลื่อนผ่านไปในอากาศ ร่างของเขาดูราวกับไม่มีตัวตน,และการเคบื่อนไหวของเขาไม่อาจคาดเดา ในระยะเวลาสั้นๆ,เขาส่งดาบจีนับร้อยไปที่เซี่ยวเฉิน

หมอกเมฆปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของหงหยุนตู้ คนผู้นี้บรรลุสภาวะแห่งเมฆา ไม่น่าแปลกใจที่ทักษะกระบี่ของเขาจะดูเหมือนไร้ตัวตน เขามีความคล้ายคลึงกับมู่หลงชง

สีหน้าของเซียวเฉินไม่เปลี่ยน ทันมดนั้นสายฟ้าปรากฏขึ้นรอบกายของเขา,สาดแสงไปในโรงหลอมขนาดใหญ่แห่งนี้ บางครา,จะมีสายฟ้าแตกเสียงออกมา

เมื่อเซี่ยวเฉินมองไปยังดาบแสงนับร้อยเล่มตรงหน้าของเขา เขาไม่ได้ตื่นตกใจ เขาป้องกันตัวเองด้วยกระบี่ของเขาและใช้จังหวะนั้นเริ่มเคลื่อนไหว

ในตอนแรกผู้อื่นสามารถเห็นความรวดเร็วของเซี่ยวเฉิน อย่างไรก็ตาม,ผ่านไปครู่หนึ่ง,ความเร็วค่อยๆเพิ่มขึ้น ในไม่ช้า,เขากลายเป็นรวดเร็วจนไม่เห็นแม้แต่ภาพติดตา

“เครั้ง! เครั้ง! เครั้ง! เครั้ง!”

เสียงอาวุธปะทะดังสะท้อนไปภายในโรงหลอม ฝูงชนมองเห็นเพียงดาบและกระบี่ฉีลอยปะทะกัน พวกมันเกิดระเบิดรุนแรงเป็นคลื่นในอากาศ

ภายในหมู่เมฆนับพัน,ร่างของหงหยุนตู้ดูเหมือนจะไร้ตัวตน อย่างไรก็ตาม,ความกังวลเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

เป็นเพราะหงหยุนตู้พบว่า ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้,เซียวเฉินได้ชิงความได้เปรียบในการต่อสู้ไป,เขาคือผู้ที่ตกเป็นฝ่ายป้องกัน

คู่ต่อสู้ของหงหยุนตู้เห็นชัดว่ายืนอยู่ตรง จุดเดิมตั้งแต่เริ่มเขาไม่แม้แต่จะได้ก้าวขยับ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะลงมือทีหลัง,แต่เขากลับกดกระแสพลังของหงหยุนตู้เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์

กระบี่ของคู่ต่อสู้ของหงหยุนตู้เร็วขึ้นและเร็วขึ้น เขารู้สึกว่ามันยิ่งป้องกันได้ยากขึ้น

เม็ดเหงื่อแตกผลักบนหน้าผากของเขา ร่างที่ไร้ตัวตนของเขาเริ่มเผยช่องโหว่ออกมา

“ทลาย!”

แสงสว่างจ้าวูบไหวในดวงตาของเซียวเฉิน เขาร้องตะโกน,และแสงกระแสไฟฟ้ารุ่งโรจน์ปรากฏ ขึ้นบนกระบี่ของเขา

เชี่ยวเฉินบิดเอวและเหวี่ยงกระบี่ตรงไปข้างหน้า พลังงานอันแข็งแกร่งในแสงกระแสไฟฟ้าผลักกาบที่หงหยุนต์ใช้ป้องกันลอยออกไป

พลังของมันไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย มันทะลวงผ่านเกราะปราณของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย ทิ้งบาดแผลใหญ่เอาไว้บนหน้าอกของหงหยุนตู้

หงหยุนตู้ร้องออกมาอย่างน่าสังเวชและร่วงหล่นลงมาจากอากาศ เขาตกถึงพื้นด้วยความเจ็บปวด,สีหน้าของเขาซีดเซียวอย่างไม่น่าเชื่อ

“ความแข็งแกร่งของหงหยุนต้อยู่ที่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด เขาค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียงในแคว้นหนานหลิง กระนั้น เขายังไม่แกร่งพอที่จะทําให้เซี่ยวเฉินถอยกลับไปแม้แต่ก้าวเดียว” มีคนกระซิบขึ้น

“พวกเราสามพี่น้องต้องการหมอมังกรฟินิกซ์ใบนั้น! ไอ้เด็กเหลือขอจากศาลากระบี่สวรรค์,ลงมาซะ!” คนหนุ่มสามคนก้าวเข้ามาจากทางเดินอีกด้านหนึ่งของโรงหลอม

อาวุธที่พวกเขาทั้งสามคนใช้แตกต่างกันไป คนตรงกลางใช้ดาบที่ห้อยอยู่ตรงเอวของเขา;คนทางซ้ยแบกกระบี่ใหญ่,และคนทางขวาถือพับมือ

“สามคนนี้เป็นทายาทของตระกูลหลัวแห่งเมืองหลวง;พวกเขาเป็นพี่น้องเลือดเดียวกัน ตระกูลหลัวมีขุมอํานาจใหญ่ภายในเมืองหลวง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้หม้อมังกรฟินิกซ์ใบนี้ไปแล้ว”

“อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทั้งสามคนนั้นไล่ตามฉาวอวนไปเมื่อครู่?
ทําไมเขาถึงได้มาอยู่ที่นี่?”

“ใครจะไปรู้?

คอยระวังอยู่ห่างๆกันเถอะ,จากนั้นก็ใช้ความได้เปรียบในตอนที่ทั้งสองฝ่ายเหนื่อยล้า ในการต่อสู้เมื่อครู่ของเซียวเฉิน,เขาจะต้องใช้พลังออกไปอย่างเต็มที่แน่นอน เขาน่าจะเสียพลังปราณไปไม่น้อยแล้ว”
สามพี่น้องตระกูลหลัวก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาอยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตรจากหม้อมังกรฟินิกซ์,น้องสาม,เผยรอยยิ้มเหี้ยมโหดพร้อมกับกล่าว “สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดก็คือมีคนมองต่ําลง มาที่ข้า ลงมาซะ!”

หลังจากที่น้องสามกล่าวจบ,เขาก็เตะหม้อมังกรฟินิกซ์ที่สูงกว่าสิบเมตร ลูกเตะที่แบกพลังอันน่าหวาดกลัวซัดลงบนหม้อในทันที เสียงร้องดังกึกก้องภายในโรงหลอม

“เว้ง! เจ๋ง! เว้ง!”

เสียงสั่นสะเทือนแก้วหูและสะท้อนไปมาภายในหูของทุกคน หม้อมังกรฟินิกซ์สั่นสะเทือนไม่หยุด อย่างไรก็ตาม,ทั้งสามขาของมันไม่ขยับแม้แต่น้อย

กลับกัน,พลังลูกเตะสะท้อนกลับไปที่น้องสามแห่งตระกูลหลัว เป็นผลให้ขาของเขาด้านชา เขาพึมพําและกล่าว “เป็นไปไม่ได้ ลูกเตะเบาๆของข้าสามารถทะลวงกําแพงเมือง ทําไมหม้อพังๆนี่ถึงไม่ขยับ?”

เมื่อน้องหลัวสามจ้องมองไปที่เซียวเฉินที่อยู่บนปากหม้อ,เขาครุ่นคิดกับตัวเอง มันจะต้องเป็นฝีมือของเจ้าหมอนี่ เขากล่าวอย่างเกรี้ยวกราด “อีกครั้ง! ข้าไม่เชื่อว่าจะเตะเจ้าลงมาไม่ได้”

น้องหลัวสามร้องตะโกนและหมุนตัว 180 องศา จากนั้นเขาก็เตะออก สายลมจากลูกเตะทําให้อากาศต้องสั่นสะเทือน

“ก้อง…!”

ขาหม้อทั้งสามข้าจมลงไปและติดแน่นอยู่กับพื้นของโรงหลอม

พลังอันไร้ขอบเขตซัดลงบนพื้นที่โดยรอบ ในทันที,เป็นผลให้พื้นดินพังทลายและลอยขึ้นรอยๆหม้อมังกรฟีนิกซ์,พุ่งไปถึงเพดาน

น้องหลัวสามที่เพิ่งจะพุ่งเข้ามาไม่ได้มีเวลาให้ตอบสนอง คลื่นพลังซัดเขาลอยไปในอากาศ
“ปัง!”

เซี่ยวเฉินถือฝึกกระบี่เอาไว้ในมือซ้ายและตวัดมันอย่างรวดเร็ว ปลายของฝึกกระบี่ทะลวงผ่านซากปรักหักพังและแทงเข้าที่หน้าอกของน้องหลัวสาม

น้องหลัวสามกระอักเลือดออกมาเต็มคําและลอยกลับหลังไป สีหน้าของเขารีดขาว;เขาได้รับบาดเจ็บภายในสาหัส

“น้องสาม!”

พี่ใหญ่และพี่กลางอุทานขึ้นพร้อมกับรับตัวของน้องสาม พวกเขาไม่คาดคิดว่าเซียวเฉินจะทําเขาสาหัสได้ภายในกระบวณทาาเดียว

“เจ้ากล้าทําลายน้องสาม! ไม่มีใครช่วยเจ้าได้ในวันนี้!” พวกเขาทั้งสองชักอาวุธของพวกเขาออกมา,และเกิดสายลมรุนแรงขณะที่พวกเขากระโดดตรงไปที่เซียวเฉินพร้อมกับเจตนาฆ่าฟัน

“หวายุยสะเทือนสวรรค์!”

เซียวเฉินไม่สนใจไปวอแวกับพวกเขา เขาเพียงใช้ออกกระบวณท่าสังหารของทักษะกระบี่ หวี่ขุย ต้นหวี่ขุยศักดิ์สิทธิ์โบรางอกขึ้นมาในอากาศอย่างรวดเร็ว

มันราวกับภูเขาที่แบกพลังมหาศาล มันเต็มไปด้วยสภาวะแห่งสายฟ้าของเซียวเฉินขณะที่มันพุ่งขึ้นไปและร่วงหล่นลงมา

“ปัง!”

ต่อหน้าพลังอันเด็ดขาด,พวกเขาทั้งสองไม่อาจต้านทาน ต้นไม้ใหญ่ตกลงมาบนหัวของพวกเขา

ร่างของพวหเขาจมลงไปพื้นดินใต้เท้าของพวกเขา พลังปราณธาตุสายฟ้าที่บ้าคลั่งทะลวงผ่านร่างของพวกเขา,ทําให้พลังปราณของพวกเขาปั่นป่วน

เซี่ยวเฉินล้มสามพี่น้องลงได้อย่างง่ายดาย เป็นผลให้ฝูงชน,ที่กําลังรอฉวยโอกาสรู้สึกหวาดกลัว ผู้บ่มเพาะพลังที่ไล่ตามเซียวเฉินมายอมลามือ จากหม้อมังกรฟินิกซ์และถอยกลับไป แต่ผู้คนที่เข้ามาจากทางที่ตู้ฮาวใช้กลับท้าทายเขา

เซี่ยวเฉินไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว เขาป้องกันด้านหน้าด้วยกระบีของเขาและยืนหยัดอย่างภาคภูมิ ผมของเขาปลิวไหวไปขณะที่เขายืนอยู่บนปากหม้อซัดผู้ท้าทายแต่ละคนลอยออกไปในกระบวณท่าเดียว

เซียวเฉินยืนอยู่บนปากหม้อมังกรฟินิกซ์และถือกระบี่เอาไว้ด้วยมือเดียว เขามองดูผู้มากพรสวรรค์คนอื่นๆภายในโรงหลอมด้วยใบหน้าไร้สี

จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างเฉยเมย “ข้ายืนยันคําเดิม พวกเจ้าทําได้ตามที่ต้องการกับสมบัติลับที่อยู่บนพื้น,แต่ข้าต้องการหม้อมังกรฟินิกซ์ใบนี้”

มีคนประมาณห้าหรือหกสิบคนที่เข้ามาภายในซากนิกายหลี่เพลิง นอกจากส่วนน้อยที่ไล่ตามฉู่ฉาวอวิ๋นไป,คนอื่นได้มารวมตัวกันที่นี่แล้ว

หม้อมังกรฟินิกซ์เป็นหนึ่งในสิ่งสําเป็นที่ต้องใช้ในการหลอมสมบัติลับที่อยู่เบื้องหลังของทุกคน ที่นี่ต่างเป็นขุมอํานาจใหญ่ หากพวกเขาได้วิธีการสร้างสมบัติลับไป,มันจะเพิ่มขุมกําลังของพวกเขาในทันที

หม้อมังกรฟินิกซ์สําคัญมากสําหรับพวกเขา นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมถึงได้มีคนเขามาท้าทายเซียวเฉินไม่หยุดหย่อน แม้ว่าจะต้องร่วงลงไป พวกเขาก็ไม่ยอมลามือ

ดูเหมือนว่าข้าจะต้องสังหารใครสักคนแล้ว,เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง ทีแรกเขาวางแผนว่าจะเผิดใช้รองเท้ากาววายุในจังหวะที่เขาเอาหม้อมังกรฟินิกซ์ลงไปในแหวนห้วงจักรวาลได้

อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินพบว่าไม่สามารถใส่หม้อมังกรฟินิกซ์ลงไปในแหวนห้วงจักรวาลได้ นี่ทําให้เซียวเฉินตั้งในแน่วแน่ครุ่นคิดหาวิธีที่จะถอนหม้อตัวฟินิกซ์ออกมา

สมบัติลับสามารถเก็บเอาไว้ในแหวนห้วงจักรวาลได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากว่ามันใส่ลงไปไม่ได้ มันหมายความว่าหม้อมังกรฟินิกซ์มีพลังแห่งมิติ,ที่ขัดแย้งกับพื้นที่ภายในอหวนห้วงจักรวาล

นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าหม้อมังกรฟินิกซ์ใบนี้มีค่ามากอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นของปลอม บางทีตํานานอาจจะเป็นเรื่องจริง

“ให้ตาย! โจมตีพร้อมกัน! ข้าไม่เชื่อว่าพลังปราณของมันจะไม่มีวันหมด หลังจากสังหารมันได้แล้ว พวกเราค่อยตัดสินว่าใครจะได้หม้อมังกรฟินิกซ์ไป” หงหยุนต์ ผู้ที่ถูกเซียวเฉินล้มไปเมื่อก่อนหน้านี้,กล่าวออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+