Immortal and Martial Dual Cultivation 324 ที่มาของการสังหาร
ตอนที่ 324 ที่มาของการสังหาร
มีคนที่กล่าวคล้ายกันก่อนหน้านี้ และส่งผลดีเยี่ยมด้วยหลังจากนั้น,ทุกคนต่างพุ่งกันเข้าไป
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ ทุกคนได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเซียวเฉินแล้ว มีหลายคนที่ถอยหนี และมีเพียงส่วนน่อยที่ตอบรับ
สายตาของเซียวเฉินราวกับสายฟ้า เขาจ้องมองไปที่หงหยุนตู้อย่างโหดเหี้ยม ในเมื่อเจ้าต้องการจะสังหารข้า,ข้าจเริ่มจากเจ้าเป็นคนแรก
“ฟุ ฟิว”
เซียวเฉินเปิดใช้งานรองเท้าก้าววายุและกระโดดลงมาจากปากหม้อ ความเร็วของเขาขึ้นไปถึงระดับความเร็วเสียงในทันที เขาผสานเข้ากับสายลมอย่างเงียบเชียบและมาถึงตรงหน้าของหงหยุนต์ในทันที
หงหยุนตู้ตกตะลึงและพยายามจะถอยหลังอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินไม่เปิดโอกาสให้เขาทําเช่นนั้น เขาร้องตะโกนและใช้ออกเก้าราางมังกรสัญจร
สายลมเก้าสายพัดผ่านและร่างของเซียวเฉินแบ่งออกเป็นเก้าร่าง,ล้อมรอบหงหยุนตู้เอาไว้ เซี่ยวเฉินใช้ออกสับวายุใสและเจตนาฆ่าฟันของเขาลบหายไปในทันที
หงหยุนเพียงกระพริบตา,และหลายร่างของเซียวเฉินเข้ามาปิดล้อมเขาในทันที นอกจากนั้น,เขาไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาไม่อาจมองเห็นกระบี่เงาจันทร์ที่อยู่ในมือของคู่ต่อสู้อีกต่อไป
สายลมเย็นพัดผ่าน,หงหยุนตู้ยังคงสัมผัสไม่ได้ถึงเจตนาฆ่าฟัน กลับกัน,เขากลับรู้สึกผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม,หัวใจของเขารู้สึกราวกับอยู่ในหุบเหวลึก เม็ดเหงื่อเย็นเฉียบผุดขึ้นมาเต็มหลังของเขา
หงหยุนผู้รู้สึกได้ชัดเจนว่าเขากําลังอยู่ในอันตราย,แต่เขาสัมผัสไม่ได้ถึงเจตนาฆ่าฟัน เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดยิ่ง,ทําให้เขายิ่งสับสน เขาไม่อาจคิดหาทางตอบโต้
เซี่ยวเฉินไม่ปล่อยเวลาให้เขาได้คิด ทันทีที่สับวายุใสถูกใช้ออกมา,ร่างทั้งเก้าพุ่งตรงไปที่หงหยุนตู้พร้อมกัน
เก้ากระบี่แสงไร้รูปเรืองขึ้นอย่างพร้อมเพรียง,ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า เจตนาฆ่าฟันที่ลบเลือนไปเมื่อก่อนหน้านี้กําลังกดลงมาบนตัวของเขาอย่างรุนแรง
หงหยุนตู้ทุ่มสุดตัวและหยุดกระบี่ฉีสองเส้นเอาไว้ได้ จากนั้นเขากวัดแกว่งดาบของเขาพยายามจะป้องกันเอาไว้อีก
“ฟุ ฟิว!”
กระบี่ฉีที่ตามมาทะลวงเกราะปราณรอบตัวของเขา,ทิ้งบาดแผลน่ากลัวเอาไว้บนหน้าอกของหงหยุนตู้
การตอบสนองของหงหยุนตู้เชื่องช้าลงในทันที กระบี่ฉีสองเส้นที่เขารับเอาไว้ก็ไม่อาจจะยับยั้งเอาไว้ให้ได้นานกว่านี้
“บูม!”
เมื่อร่างทั้งเก้าของเซี่ยวเฉินผสานกลับเข้าด้วยกัน,สายเลือดเก้าเส้นไหลทะลักออกมาจากหน้าอกของหงหยุนต์ แต่หงหยุนตู้ก็ยังคงยืนหยัด
ดวงตาของหงหยุนตู้เบิกกว้างพร้อมกับล้มลง,หมดสิ้นพลังไม่แน่ใจว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือตกตายไปแล้ว
พื้นที่รอบข้างกลายเป็นเงียบเชียบ บางคนที่กล้าบ้ากล้าเสี่ยงหยุดความคิดเกี่ยวกับหม้อใบนั้นแล้ว หงหยุนตู้เพียงร้องตะโกนขึ้นมาหนึ่งประโยคก็ถูกเซียวเฉินซัดลงไปกองไม่รู้เป็นหรือตายภายในกระบวณท่าเดียว
นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าเซี่ยวเฉินได้ออมมือเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว นี่เป็นการเตือนถึงคนที่ยังกล้าเข้ามา
อย่างไรก็ตาม ยังมีคนที่กล้าฉวยโอกาสเพื่อเข้าไปเด็บหม้อมังกรฟินิกซ์ น่าเสียดาย,พวกเขา
พบว่ามันมีความขัดแย้งกับแหวนมิติของพวกเขา,และพวกเขาไม่อาจเกฐเอามันไปได้
พวกเขาสองสามคนยังดื้อดึงและร่วมมือกันเพื่อยกหม้อใบนั้นขึ้น พวกเขาคิดจะแบกมันออกไปเช่นนั้น
เซี่ยวเฉินดีดตัวออกและเคลื่อนที่ราบไปตามนั้น ด้วยการช่วยเหลือของรองเท้าก้าววายุ,เขามาถึงที่ด้านล่างของหม้อมังกรฟินิกซ์ในทันที
เซียวเฉินเตะใส่หม้อและหม่อมังกรฟินิกซ์ใบมหึมาก็หลุดลอยออกจากมือของคนเหล่านั้น,ลอยสูงขึ้นไปถึงเพดาน
เมื่อผู้คนเห็นสถานการณ์เช่นนี้,พวกเขารีบกระโดดขึ้นไปและพยายามจะเอาหม้อมังกรฟินิกซ์คืนมา เป็นธรรมดา,ที่เซียวเฉินจะไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาทําเช่นนั้น
เซี่ยวเฉินเคลื่อนที่ไปในอากาศราวกับมังกนหลาก,ลอยวนไปทั่วทุกที่ กระบี่ฉีบินออกมาและขัดขวางคนพวกนั้นเอาไว้ พวกเขาทําได้เพียงยอมลามือจากหม้อมังกรฟินิกซ์และหันมารับมือกับการโจมตีของเซี่ยวเฉินก่อน
“เครั้ง เครั้ง! เครั้ง!”
เสียงอาวุธปะทะกันดังขึ้นมาไม่หยุดในอากาศผ่านไปครู่หนึ่ง ก็มีเสียงร้องน่าสังเวชดังตามมา พวกคนที่พยายามจะฉกฉวยหม้อมังกรฟินิกซ์ร่วงหล่นลงมาจากฟ้า
“บูม!”
หม้อมังกรฟินิกซ์ที่เซียวเฉินเตะขึ้นไปซัดเข้ากับเดพาน หินก้อนใหญ่ร่วงหล่นลงมาไม่หยุด
เมื่อเซี่ยวเฉินมองขึ้นไป,ดวงตาของเขาเป็นประกาย มีรอยแตกบนเพดาน เขาน่าจะใช้โอกาสนี้หลบหนีออกไปจากที่แห่งนี้
เซียวเฉินรับมือมังกรฟินิกซ์ที่กําลังตกลงมาอย่างง่ายดายด้วยมือเดียว จากนั้น ก็สั่งให้หุ่นรบเกราะเงินทั้งสองตัวกระโดดขึ้นไปในอากาศ เมื่อพวกเขาสัมผัสกับแหวนห้วงจักรวาล,หุ่นรบทั้งสองตัวก็ถูกเก็บเข้าไป
ทุกอย่างพร้อมแล้ว ขณะที่เชี่ยวเฉินกําลังเตรียมตัวจะจากไป,ตัวนมู่ฉิง,จีชางคง และคนอื่นๆได้มาถึงที่โรงหลอม
เมื่อจีชางคงและคนอื่นๆเห็นหม้อมังกรฟินิกซ์ ในมือของเซี่ยวเฉิน,พวกเขาตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “หม้อมังกรฟินิกซ์! มันเป็นหม่อมังกรฟินิกซ์! ทิ้งมันเอาไว้ซะ!”
กลุมคนดีดตัวออกจากพื้นและพุ่งไปที่เชี่ยวเฉิน โดยปราศจากความลังเล ใบหน้าของเซายวเฉินจมมืด,ความแข็งแกร่งของคนพวกนี้เทียบกันพวกคนก่อนหน้าไม่ได้
แต่ละคนมีความเข้าใจถึงสภาวะ พรสวรรค์ของพวกเขาอยู่ในระดับสัตว์ประหลาด พวกเขาเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ ทุกที่ที่พวกเขาก้าวไปในอาณาจักรต้าฉิน,พวกเขาจะฉายแสงโดดเด่น
อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นว่าฉ่ฉาวอวิ่นไม่อยู่ที่นี่ เขาก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย มิฉะนั้น,เขาจะต้องเสียหม้อมังกรฟินิกซ์ไปอย่างแน่นอน
เปลวเพลิงดุร้ายเผาไหม้ในดวงตาขวาของเซียวเฉินพร้อมกับเขาจ้องมองไปที่คนพวกนี้ด้วยกระแสพลังที่สว่างสไว เขาร้องตะโกน,และเปลวเพลิงดุร้ายสีม่วงก็ถูกพ่นออกมา
หลังจากนั้น,เซี่ยวเฉินก็เมินเฉยพวกเขา หากไม่ได้บีบอัดเพลิงแท้อัสนีม่วง มันจะไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ แต่อย่างไรก็ตาม,ช่วยซื้อเวลาเอาไว้เล็กน้อยไม่เป็นปัญหา
เซียวเฉินจับหม้อมังกรฟินิกซ์เอาไว้ด้วยมือขวาของเขาและหมุนมัน จากนั้นเขาก็ทุบมันไปที่เพดานอย่างแรง
“ปัง!”
เซี่ยวเฉินทุบไปที่เพดานด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมด รอบแตกเมื่อก่อนหน้านี้ขยายเปิดกว้าง เขาถือหมัดมังกรฟินิกซ์เอาไว้พร้อมกับกระโดดผ่านออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไล่ตาม! พวกเราไม่อาจปล่อยให้เขาหนีไปได้ ฉ่ฉาวอวิ่นเอาตําราการหลอมสมบัติลับไปแล้ว! หากเจ้าหม้อนี้เอาหม้อมังกรฟินิกซ์ไปอีก,พวกเราจะไม่ได้อะไรเลย!”
กลุ่มคนพยายามอย่างที่สุดเพื่อกําจัดเพลิงสีม่วงออกไปจากตัวของพวกเขา เมื่อพวกเขามองเห็นเซียวเฉินกําลังหลบหนีไป,พวกเขารีบไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว
ในตอนที่ต้วนมู่ฉิงและคนอื่นๆได้มาถึง,พวกเขาได้ดับความหวังในการแย่งชิงหม้อมังกรฟินิกซ์ของคนอื่นๆไปอย่างสมบูรณ์ แม้หากว่าพวกเขาจะสังหารเซี่ยวเฉินลงได้ แต่ยังมีตัวนมู่ฉิง,จีชางคง และคนอื่นๆที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับเซี่ยวเฉิน สําหรับพวกเขา,ไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้ว
พวกเขาอาจจะเบนสายตาอไปที่กองสมบัติลับที่อยู่บนพื้น หากพวกเขาสามารถหาสมบัติลับสมบูรณ์มาได้สักสองสามชิ้น,พวกเขาก็ได้ผลกําไรมากแล้วจากภารกิจครั้งนี้
เซียวเฉินหยิบเอาแผนที่ออกมาและพบว่าเขาอยู่ห่างจากโถงหลักไปเพียงหนึ่งกิโลเมตร แน่นอนว่าเป็นระยะกระจัด
หลังจากที่เซียวเฉินยืนยันทิศทางแล้ว เขายกหม้อมังกรฟินิกซ์ขึ้นและเตรียมที่จะทุบลงไปเพื่อเปิดเส้นทาง,ให้เป็นทางตรง
“ปัง! ปัง! ปัง!”
เชี่ยวเฉินสามารถทุบเปิดทางไป๋าด้อย่างง่ายดาย,ทําให้เขาเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว
รองเท้าก้าววายุเปิดใช้งานและเซียวเฉินใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยานออกมาถึงขีดสุดเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีจากด้านหลังของเขา เป็นเพราะเขากําลังถือหม้อมังกรฟินิกซ์เอาไว้,เขาไม่มีทางที่จะสลัดคนที่ไล่ตามมาพ้น
“เย่เฉิน,ทิ้งหม้อมังกรฟินิกซ์เอาไว้ซะ! มิฉะนั้น ถึงแม้ว่าเจ้าจะกลับออกไปได้,ราชวังเหมันต์ลึกล้ําของต้วนมู่ฉิงก็จะไม่พอเจ้าออกไป”
“หม้อมังกรฟินิกซ์มันไร้ประโยชน์สําหรับเจ้า ส่งมันมาซะแล้วข้าจะแลกเปลี่ยนอย่างเหมาะสม”
กลุ่มคนรู้สึกตกตะลึงเมื่อเห็นเซียวเฉินวิ่งได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะถือหม้อมังกรฟินิกซ์ไปด้วย จากขนาดของหม้อมังกรฟินิกซ์,มันจะต้องมีน้ําหนักอย่างน้อยห้าร้อยกิโลกรัม อย่างไรก็ตาม,เซียวเฉินสามารถยกขึ้นได้ราวกับถือท่อนไม้”
ไม่เพียงแต่มันจะดูเบา,ความเร็วของเซียวเฉินก็ไม่ได้ลดลงพร้อมกับหลบการโจมตีไปด้วย กลุ่มคนข้างหลังไม่อาจทําอะไรเขาได้แม้แต่น้อย,ดังนั้นพวกเขาจึงใช้วิธีโน้มน้าวใจ
เซร่ยวเฉินขบขัน เขาไม่ต้องการราชวังเหมันต์ลึกล้ํา เขาสามารถออกไปจากเทือกเขาน้ําหมึกได้ด้วยตัวเอง
หม้อมังกรฟินิกซ์ใบนี้สําคัญกับเซี่ยวเฉินอย่างมาก ไม่เพียงแต่จะต้องใช้มันหลอมสมบัติลับ,เขายังต้องพึ่งพามันในการซ่อมแซมสมบัติที่เขามีอยู่ เขาตั้งความหวังเอาไว้กับหม้อมังกรฟินิกซ์ใบนี้ และเขาไม่มีเหตุผลที่จะยอมถอดใจ
เซียวเฉินกลืนเม็ดยาหวนคืนพลังฉีและใช้หม้อทุบลงไปที่กําแพงตรงหน้าอีกครั้ง หลังจากนั้น,เขาก็ตรงขึ้นหน้าต่อไปเรื่อยๆ
หลังจากนมาหลายนาที, ไม่เพียงคนที่อยู่ด้านหลังจะไล่ตามไม่ทัน ระยะทางยังยิ่งห่างออกไป เรื่อยๆ
ด้วยทักษะเคบอนไหวระดับสวรรค์และรองเท้า ก้าววายุ,เซี่ยวเฉินรวดเร็วเป็นอย่างมาก ภายในคนรุ่นเดียวกัน หากไม่ได้ร่ําเรียนทักษะเคลื่อนไหวระดับสวรรค์,ก็มีแต่จะต้องบรรลุถึงสภาวะแฟงสายลมระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมเท่านั้นที่จะไล่ตามเซียวเฉินได้ทัน
เห็นชัดว่าไม่มีในกลุ่มคนที่ไล่ตามเซียวเฉินมาข้างหลัง จะถูกทิ้งจนไม่เห็นฝุ่นก็ขึ้นอยู่กับเวลา
ผ่านไปครู่หนึ่ง เซียวเฉินก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรจากด้านหลังของเขาอีกต่อไป เขาได้กลับมาถึงห้องโถงหลัก ตราบใดที่เขาก้าวผ่านประตูออกไป เขาจะสามารถออกไปได้อย่างปลอดภัย
เซียวเฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา อย่างไรก็ตาม,ในจังหวะที่เขาก้าวออกมาจากประตูสัมฤทธิ์, รอยยิ้มของเขากลายเป็นแข็งที่อ
ที่ตรงหน้าของเขา คือหุ่นรบเกราะทอง มันกําลังถือดาบสีทองเอาไว้และกระแสพลังของมันกําลังพลุ่งพล่าน นี่เป็นกระแสพลังของระดับของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น
ที่กําลังยืนอยู่ข้างหุ่นรบเกราะทองคือฉ่ฉาวอวิ่น,ที่แต่งชุดคลุมยาวสีท้องฟ้าพร้อมกับดาบที่ห้อยอยู่บนหลัง เขายิ้มไปที่เซียวเฉินและกล่าว “วางหม้อมังกรฟินิกซ์เอาไว้ซะแล้วเจ้ากลับออกไปได้ ข้าจะให้เจ้าหนึ่งพันหินวิญญาณระดับกลาง”
เซี่ยวเฉินค่อยๆวางหม้อมังกรฟินิกซ์ลงบนพื้น เขาไม่คาดคิดว่าฉ่ฉาวอวิ่นจะมาดักรอที่ทางออก มันเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม
มีเพียงทางออกเดียวจากนิกายหลี่เพลิงแห่งนี้ ทุกคนจะต้องเดินผ่านตรงจุดที่เคยมีบุปผาเหมันต์ลึกล้ํา,เพื่อกลับไปยังป่าน้ําหมึก
ไม่ว่าใครจะได้หม้อมังกรฟินิกซ์ออกมา,พวกเขาไม่มีทางที่จะหลบเลี่ยงเส้นทางนี้ หลังจากที่ตบตีวิ่งหนีอยู่สงต่อเนื่อง,พลังปราณของพวกเขาจะต้องเดือดแห้งไปไม่น้อยอยู่สงแน่นอน
ด้วยการมาดักรอตรงจุดนี้ ฉ่ฉาวอวิ่นสามารถรักษาสภาพร่างกายที่ดีที่สุดเพื่อมาต้อนรับคู่ต่อสู้ที่กําลังอ่อนแรง นี่เป็นวิธีการที่แน่นอน
ฉ่ฉาวอวิ่นพึมพํากับตัวเองก่อนที่เขาจะกล่าวต่อ “ข้าได้วิธีการหลอมสมบัติลับของนิกายหลี่เพลิงมาแล้ว เหลือก็เพียงหม้อมังกรฟินิกซ์และเปลวเพลิงจันทรา ข้าสามารถจัดหาเปลวเพลิงจันทราได้
“แต่อย่างไรก็ตาม,หม้อมังกรฟินิกซ์มันยากที่จะจัดหาหม้อต้นแบบก็ได้หายสาบสูญไปนานแล้ว สําหรับของเทียม,รวมที่อยู่ในมือของเจ้า,ก็มีเพียงสามใบ”
เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินดังนั้น,ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย เขารู้สึกว่าฉ่ฉาวอวุ่นรู้ถึงรายละเอียดของนิกายหลเพลิงจนมากเกินไป
ในช่วงกลางของราชวงศ์เทียนหวี่, นิกายหลี่เพลิงถูกทําลายลงโดยจุมพลังลึกลับภายในคืนเดียว ไม่มีใครรู้ว่านิกายหลี่เพลิงที่เฟื่องฟูถูกทําลายลงได้อย่างง่ายดายได้เช่นไร
นี่เป็นความลึกล้ําที่ยังไม่ถูกเผยออกมาของทวีปผืนนี้ ที่น่าแปลกประหลาดยิ่งกว่าก็คือข้อมูลเกี่ยวกับนิกายหลี่เพลิงก็ถูกลบหายไปโดยขุมพลังลึกล้ํา
ตอนนี้ ทั้งหมดที่ผู้คนรู้เกี่ยวกับนิกายหลี่เพลิงก็ถูกส่งต่อมามาแบบปากต่อปาก พวกมันส่วนใหญ่เป็นเพียงข่าวลือและไม่มีมูลความจริงมากนัก
เซียวเฉินรวบรวมความคิดของเขาและกล่าวอย่างเฉยเมย “ยอมแพ้ไปซะ ข้าจะไม่ส่งหม้อมังกรฟินิกซ์ใบนี้ให้กับเจ้า ข้าไม่ได้ขาดแคลนหินวิญญาณ เจ้าต้องกลัวตัวนมู่ฉิงและคนอื่นๆที่กําลังไล่ตามหลังของข้ามา เมื่อถึงตอนนั้น,เจ้าก็หมดโอกาสเช่นกัน”
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivation 324 ที่มาของการสังหาร
ตอนที่ 324 ที่มาของการสังหาร
มีคนที่กล่าวคล้ายกันก่อนหน้านี้ และส่งผลดีเยี่ยมด้วยหลังจากนั้น,ทุกคนต่างพุ่งกันเข้าไป
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ ทุกคนได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเซียวเฉินแล้ว มีหลายคนที่ถอยหนี และมีเพียงส่วนน่อยที่ตอบรับ
สายตาของเซียวเฉินราวกับสายฟ้า เขาจ้องมองไปที่หงหยุนตู้อย่างโหดเหี้ยม ในเมื่อเจ้าต้องการจะสังหารข้า,ข้าจเริ่มจากเจ้าเป็นคนแรก
“ฟุ ฟิว”
เซียวเฉินเปิดใช้งานรองเท้าก้าววายุและกระโดดลงมาจากปากหม้อ ความเร็วของเขาขึ้นไปถึงระดับความเร็วเสียงในทันที เขาผสานเข้ากับสายลมอย่างเงียบเชียบและมาถึงตรงหน้าของหงหยุนต์ในทันที
หงหยุนตู้ตกตะลึงและพยายามจะถอยหลังอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินไม่เปิดโอกาสให้เขาทําเช่นนั้น เขาร้องตะโกนและใช้ออกเก้าราางมังกรสัญจร
สายลมเก้าสายพัดผ่านและร่างของเซียวเฉินแบ่งออกเป็นเก้าร่าง,ล้อมรอบหงหยุนตู้เอาไว้ เซี่ยวเฉินใช้ออกสับวายุใสและเจตนาฆ่าฟันของเขาลบหายไปในทันที
หงหยุนเพียงกระพริบตา,และหลายร่างของเซียวเฉินเข้ามาปิดล้อมเขาในทันที นอกจากนั้น,เขาไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาไม่อาจมองเห็นกระบี่เงาจันทร์ที่อยู่ในมือของคู่ต่อสู้อีกต่อไป
สายลมเย็นพัดผ่าน,หงหยุนตู้ยังคงสัมผัสไม่ได้ถึงเจตนาฆ่าฟัน กลับกัน,เขากลับรู้สึกผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม,หัวใจของเขารู้สึกราวกับอยู่ในหุบเหวลึก เม็ดเหงื่อเย็นเฉียบผุดขึ้นมาเต็มหลังของเขา
หงหยุนผู้รู้สึกได้ชัดเจนว่าเขากําลังอยู่ในอันตราย,แต่เขาสัมผัสไม่ได้ถึงเจตนาฆ่าฟัน เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดยิ่ง,ทําให้เขายิ่งสับสน เขาไม่อาจคิดหาทางตอบโต้
เซี่ยวเฉินไม่ปล่อยเวลาให้เขาได้คิด ทันทีที่สับวายุใสถูกใช้ออกมา,ร่างทั้งเก้าพุ่งตรงไปที่หงหยุนตู้พร้อมกัน
เก้ากระบี่แสงไร้รูปเรืองขึ้นอย่างพร้อมเพรียง,ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า เจตนาฆ่าฟันที่ลบเลือนไปเมื่อก่อนหน้านี้กําลังกดลงมาบนตัวของเขาอย่างรุนแรง
หงหยุนตู้ทุ่มสุดตัวและหยุดกระบี่ฉีสองเส้นเอาไว้ได้ จากนั้นเขากวัดแกว่งดาบของเขาพยายามจะป้องกันเอาไว้อีก
“ฟุ ฟิว!”
กระบี่ฉีที่ตามมาทะลวงเกราะปราณรอบตัวของเขา,ทิ้งบาดแผลน่ากลัวเอาไว้บนหน้าอกของหงหยุนตู้
การตอบสนองของหงหยุนตู้เชื่องช้าลงในทันที กระบี่ฉีสองเส้นที่เขารับเอาไว้ก็ไม่อาจจะยับยั้งเอาไว้ให้ได้นานกว่านี้
“บูม!”
เมื่อร่างทั้งเก้าของเซี่ยวเฉินผสานกลับเข้าด้วยกัน,สายเลือดเก้าเส้นไหลทะลักออกมาจากหน้าอกของหงหยุนต์ แต่หงหยุนตู้ก็ยังคงยืนหยัด
ดวงตาของหงหยุนตู้เบิกกว้างพร้อมกับล้มลง,หมดสิ้นพลังไม่แน่ใจว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือตกตายไปแล้ว
พื้นที่รอบข้างกลายเป็นเงียบเชียบ บางคนที่กล้าบ้ากล้าเสี่ยงหยุดความคิดเกี่ยวกับหม้อใบนั้นแล้ว หงหยุนตู้เพียงร้องตะโกนขึ้นมาหนึ่งประโยคก็ถูกเซียวเฉินซัดลงไปกองไม่รู้เป็นหรือตายภายในกระบวณท่าเดียว
นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าเซี่ยวเฉินได้ออมมือเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว นี่เป็นการเตือนถึงคนที่ยังกล้าเข้ามา
อย่างไรก็ตาม ยังมีคนที่กล้าฉวยโอกาสเพื่อเข้าไปเด็บหม้อมังกรฟินิกซ์ น่าเสียดาย,พวกเขา
พบว่ามันมีความขัดแย้งกับแหวนมิติของพวกเขา,และพวกเขาไม่อาจเกฐเอามันไปได้
พวกเขาสองสามคนยังดื้อดึงและร่วมมือกันเพื่อยกหม้อใบนั้นขึ้น พวกเขาคิดจะแบกมันออกไปเช่นนั้น
เซี่ยวเฉินดีดตัวออกและเคลื่อนที่ราบไปตามนั้น ด้วยการช่วยเหลือของรองเท้าก้าววายุ,เขามาถึงที่ด้านล่างของหม้อมังกรฟินิกซ์ในทันที
เซียวเฉินเตะใส่หม้อและหม่อมังกรฟินิกซ์ใบมหึมาก็หลุดลอยออกจากมือของคนเหล่านั้น,ลอยสูงขึ้นไปถึงเพดาน
เมื่อผู้คนเห็นสถานการณ์เช่นนี้,พวกเขารีบกระโดดขึ้นไปและพยายามจะเอาหม้อมังกรฟินิกซ์คืนมา เป็นธรรมดา,ที่เซียวเฉินจะไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาทําเช่นนั้น
เซี่ยวเฉินเคลื่อนที่ไปในอากาศราวกับมังกนหลาก,ลอยวนไปทั่วทุกที่ กระบี่ฉีบินออกมาและขัดขวางคนพวกนั้นเอาไว้ พวกเขาทําได้เพียงยอมลามือจากหม้อมังกรฟินิกซ์และหันมารับมือกับการโจมตีของเซี่ยวเฉินก่อน
“เครั้ง เครั้ง! เครั้ง!”
เสียงอาวุธปะทะกันดังขึ้นมาไม่หยุดในอากาศผ่านไปครู่หนึ่ง ก็มีเสียงร้องน่าสังเวชดังตามมา พวกคนที่พยายามจะฉกฉวยหม้อมังกรฟินิกซ์ร่วงหล่นลงมาจากฟ้า
“บูม!”
หม้อมังกรฟินิกซ์ที่เซียวเฉินเตะขึ้นไปซัดเข้ากับเดพาน หินก้อนใหญ่ร่วงหล่นลงมาไม่หยุด
เมื่อเซี่ยวเฉินมองขึ้นไป,ดวงตาของเขาเป็นประกาย มีรอยแตกบนเพดาน เขาน่าจะใช้โอกาสนี้หลบหนีออกไปจากที่แห่งนี้
เซียวเฉินรับมือมังกรฟินิกซ์ที่กําลังตกลงมาอย่างง่ายดายด้วยมือเดียว จากนั้น ก็สั่งให้หุ่นรบเกราะเงินทั้งสองตัวกระโดดขึ้นไปในอากาศ เมื่อพวกเขาสัมผัสกับแหวนห้วงจักรวาล,หุ่นรบทั้งสองตัวก็ถูกเก็บเข้าไป
ทุกอย่างพร้อมแล้ว ขณะที่เชี่ยวเฉินกําลังเตรียมตัวจะจากไป,ตัวนมู่ฉิง,จีชางคง และคนอื่นๆได้มาถึงที่โรงหลอม
เมื่อจีชางคงและคนอื่นๆเห็นหม้อมังกรฟินิกซ์ ในมือของเซี่ยวเฉิน,พวกเขาตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “หม้อมังกรฟินิกซ์! มันเป็นหม่อมังกรฟินิกซ์! ทิ้งมันเอาไว้ซะ!”
กลุมคนดีดตัวออกจากพื้นและพุ่งไปที่เชี่ยวเฉิน โดยปราศจากความลังเล ใบหน้าของเซายวเฉินจมมืด,ความแข็งแกร่งของคนพวกนี้เทียบกันพวกคนก่อนหน้าไม่ได้
แต่ละคนมีความเข้าใจถึงสภาวะ พรสวรรค์ของพวกเขาอยู่ในระดับสัตว์ประหลาด พวกเขาเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ ทุกที่ที่พวกเขาก้าวไปในอาณาจักรต้าฉิน,พวกเขาจะฉายแสงโดดเด่น
อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นว่าฉ่ฉาวอวิ่นไม่อยู่ที่นี่ เขาก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย มิฉะนั้น,เขาจะต้องเสียหม้อมังกรฟินิกซ์ไปอย่างแน่นอน
เปลวเพลิงดุร้ายเผาไหม้ในดวงตาขวาของเซียวเฉินพร้อมกับเขาจ้องมองไปที่คนพวกนี้ด้วยกระแสพลังที่สว่างสไว เขาร้องตะโกน,และเปลวเพลิงดุร้ายสีม่วงก็ถูกพ่นออกมา
หลังจากนั้น,เซี่ยวเฉินก็เมินเฉยพวกเขา หากไม่ได้บีบอัดเพลิงแท้อัสนีม่วง มันจะไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ แต่อย่างไรก็ตาม,ช่วยซื้อเวลาเอาไว้เล็กน้อยไม่เป็นปัญหา
เซียวเฉินจับหม้อมังกรฟินิกซ์เอาไว้ด้วยมือขวาของเขาและหมุนมัน จากนั้นเขาก็ทุบมันไปที่เพดานอย่างแรง
“ปัง!”
เซี่ยวเฉินทุบไปที่เพดานด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมด รอบแตกเมื่อก่อนหน้านี้ขยายเปิดกว้าง เขาถือหมัดมังกรฟินิกซ์เอาไว้พร้อมกับกระโดดผ่านออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไล่ตาม! พวกเราไม่อาจปล่อยให้เขาหนีไปได้ ฉ่ฉาวอวิ่นเอาตําราการหลอมสมบัติลับไปแล้ว! หากเจ้าหม้อนี้เอาหม้อมังกรฟินิกซ์ไปอีก,พวกเราจะไม่ได้อะไรเลย!”
กลุ่มคนพยายามอย่างที่สุดเพื่อกําจัดเพลิงสีม่วงออกไปจากตัวของพวกเขา เมื่อพวกเขามองเห็นเซียวเฉินกําลังหลบหนีไป,พวกเขารีบไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว
ในตอนที่ต้วนมู่ฉิงและคนอื่นๆได้มาถึง,พวกเขาได้ดับความหวังในการแย่งชิงหม้อมังกรฟินิกซ์ของคนอื่นๆไปอย่างสมบูรณ์ แม้หากว่าพวกเขาจะสังหารเซี่ยวเฉินลงได้ แต่ยังมีตัวนมู่ฉิง,จีชางคง และคนอื่นๆที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับเซี่ยวเฉิน สําหรับพวกเขา,ไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้ว
พวกเขาอาจจะเบนสายตาอไปที่กองสมบัติลับที่อยู่บนพื้น หากพวกเขาสามารถหาสมบัติลับสมบูรณ์มาได้สักสองสามชิ้น,พวกเขาก็ได้ผลกําไรมากแล้วจากภารกิจครั้งนี้
เซียวเฉินหยิบเอาแผนที่ออกมาและพบว่าเขาอยู่ห่างจากโถงหลักไปเพียงหนึ่งกิโลเมตร แน่นอนว่าเป็นระยะกระจัด
หลังจากที่เซียวเฉินยืนยันทิศทางแล้ว เขายกหม้อมังกรฟินิกซ์ขึ้นและเตรียมที่จะทุบลงไปเพื่อเปิดเส้นทาง,ให้เป็นทางตรง
“ปัง! ปัง! ปัง!”
เชี่ยวเฉินสามารถทุบเปิดทางไป๋าด้อย่างง่ายดาย,ทําให้เขาเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว
รองเท้าก้าววายุเปิดใช้งานและเซียวเฉินใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยานออกมาถึงขีดสุดเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีจากด้านหลังของเขา เป็นเพราะเขากําลังถือหม้อมังกรฟินิกซ์เอาไว้,เขาไม่มีทางที่จะสลัดคนที่ไล่ตามมาพ้น
“เย่เฉิน,ทิ้งหม้อมังกรฟินิกซ์เอาไว้ซะ! มิฉะนั้น ถึงแม้ว่าเจ้าจะกลับออกไปได้,ราชวังเหมันต์ลึกล้ําของต้วนมู่ฉิงก็จะไม่พอเจ้าออกไป”
“หม้อมังกรฟินิกซ์มันไร้ประโยชน์สําหรับเจ้า ส่งมันมาซะแล้วข้าจะแลกเปลี่ยนอย่างเหมาะสม”
กลุ่มคนรู้สึกตกตะลึงเมื่อเห็นเซียวเฉินวิ่งได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะถือหม้อมังกรฟินิกซ์ไปด้วย จากขนาดของหม้อมังกรฟินิกซ์,มันจะต้องมีน้ําหนักอย่างน้อยห้าร้อยกิโลกรัม อย่างไรก็ตาม,เซียวเฉินสามารถยกขึ้นได้ราวกับถือท่อนไม้”
ไม่เพียงแต่มันจะดูเบา,ความเร็วของเซียวเฉินก็ไม่ได้ลดลงพร้อมกับหลบการโจมตีไปด้วย กลุ่มคนข้างหลังไม่อาจทําอะไรเขาได้แม้แต่น้อย,ดังนั้นพวกเขาจึงใช้วิธีโน้มน้าวใจ
เซร่ยวเฉินขบขัน เขาไม่ต้องการราชวังเหมันต์ลึกล้ํา เขาสามารถออกไปจากเทือกเขาน้ําหมึกได้ด้วยตัวเอง
หม้อมังกรฟินิกซ์ใบนี้สําคัญกับเซี่ยวเฉินอย่างมาก ไม่เพียงแต่จะต้องใช้มันหลอมสมบัติลับ,เขายังต้องพึ่งพามันในการซ่อมแซมสมบัติที่เขามีอยู่ เขาตั้งความหวังเอาไว้กับหม้อมังกรฟินิกซ์ใบนี้ และเขาไม่มีเหตุผลที่จะยอมถอดใจ
เซียวเฉินกลืนเม็ดยาหวนคืนพลังฉีและใช้หม้อทุบลงไปที่กําแพงตรงหน้าอีกครั้ง หลังจากนั้น,เขาก็ตรงขึ้นหน้าต่อไปเรื่อยๆ
หลังจากนมาหลายนาที, ไม่เพียงคนที่อยู่ด้านหลังจะไล่ตามไม่ทัน ระยะทางยังยิ่งห่างออกไป เรื่อยๆ
ด้วยทักษะเคบอนไหวระดับสวรรค์และรองเท้า ก้าววายุ,เซี่ยวเฉินรวดเร็วเป็นอย่างมาก ภายในคนรุ่นเดียวกัน หากไม่ได้ร่ําเรียนทักษะเคลื่อนไหวระดับสวรรค์,ก็มีแต่จะต้องบรรลุถึงสภาวะแฟงสายลมระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมเท่านั้นที่จะไล่ตามเซียวเฉินได้ทัน
เห็นชัดว่าไม่มีในกลุ่มคนที่ไล่ตามเซียวเฉินมาข้างหลัง จะถูกทิ้งจนไม่เห็นฝุ่นก็ขึ้นอยู่กับเวลา
ผ่านไปครู่หนึ่ง เซียวเฉินก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรจากด้านหลังของเขาอีกต่อไป เขาได้กลับมาถึงห้องโถงหลัก ตราบใดที่เขาก้าวผ่านประตูออกไป เขาจะสามารถออกไปได้อย่างปลอดภัย
เซียวเฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา อย่างไรก็ตาม,ในจังหวะที่เขาก้าวออกมาจากประตูสัมฤทธิ์, รอยยิ้มของเขากลายเป็นแข็งที่อ
ที่ตรงหน้าของเขา คือหุ่นรบเกราะทอง มันกําลังถือดาบสีทองเอาไว้และกระแสพลังของมันกําลังพลุ่งพล่าน นี่เป็นกระแสพลังของระดับของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น
ที่กําลังยืนอยู่ข้างหุ่นรบเกราะทองคือฉ่ฉาวอวิ่น,ที่แต่งชุดคลุมยาวสีท้องฟ้าพร้อมกับดาบที่ห้อยอยู่บนหลัง เขายิ้มไปที่เซียวเฉินและกล่าว “วางหม้อมังกรฟินิกซ์เอาไว้ซะแล้วเจ้ากลับออกไปได้ ข้าจะให้เจ้าหนึ่งพันหินวิญญาณระดับกลาง”
เซี่ยวเฉินค่อยๆวางหม้อมังกรฟินิกซ์ลงบนพื้น เขาไม่คาดคิดว่าฉ่ฉาวอวิ่นจะมาดักรอที่ทางออก มันเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม
มีเพียงทางออกเดียวจากนิกายหลี่เพลิงแห่งนี้ ทุกคนจะต้องเดินผ่านตรงจุดที่เคยมีบุปผาเหมันต์ลึกล้ํา,เพื่อกลับไปยังป่าน้ําหมึก
ไม่ว่าใครจะได้หม้อมังกรฟินิกซ์ออกมา,พวกเขาไม่มีทางที่จะหลบเลี่ยงเส้นทางนี้ หลังจากที่ตบตีวิ่งหนีอยู่สงต่อเนื่อง,พลังปราณของพวกเขาจะต้องเดือดแห้งไปไม่น้อยอยู่สงแน่นอน
ด้วยการมาดักรอตรงจุดนี้ ฉ่ฉาวอวิ่นสามารถรักษาสภาพร่างกายที่ดีที่สุดเพื่อมาต้อนรับคู่ต่อสู้ที่กําลังอ่อนแรง นี่เป็นวิธีการที่แน่นอน
ฉ่ฉาวอวิ่นพึมพํากับตัวเองก่อนที่เขาจะกล่าวต่อ “ข้าได้วิธีการหลอมสมบัติลับของนิกายหลี่เพลิงมาแล้ว เหลือก็เพียงหม้อมังกรฟินิกซ์และเปลวเพลิงจันทรา ข้าสามารถจัดหาเปลวเพลิงจันทราได้
“แต่อย่างไรก็ตาม,หม้อมังกรฟินิกซ์มันยากที่จะจัดหาหม้อต้นแบบก็ได้หายสาบสูญไปนานแล้ว สําหรับของเทียม,รวมที่อยู่ในมือของเจ้า,ก็มีเพียงสามใบ”
เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินดังนั้น,ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย เขารู้สึกว่าฉ่ฉาวอวุ่นรู้ถึงรายละเอียดของนิกายหลเพลิงจนมากเกินไป
ในช่วงกลางของราชวงศ์เทียนหวี่, นิกายหลี่เพลิงถูกทําลายลงโดยจุมพลังลึกลับภายในคืนเดียว ไม่มีใครรู้ว่านิกายหลี่เพลิงที่เฟื่องฟูถูกทําลายลงได้อย่างง่ายดายได้เช่นไร
นี่เป็นความลึกล้ําที่ยังไม่ถูกเผยออกมาของทวีปผืนนี้ ที่น่าแปลกประหลาดยิ่งกว่าก็คือข้อมูลเกี่ยวกับนิกายหลี่เพลิงก็ถูกลบหายไปโดยขุมพลังลึกล้ํา
ตอนนี้ ทั้งหมดที่ผู้คนรู้เกี่ยวกับนิกายหลี่เพลิงก็ถูกส่งต่อมามาแบบปากต่อปาก พวกมันส่วนใหญ่เป็นเพียงข่าวลือและไม่มีมูลความจริงมากนัก
เซียวเฉินรวบรวมความคิดของเขาและกล่าวอย่างเฉยเมย “ยอมแพ้ไปซะ ข้าจะไม่ส่งหม้อมังกรฟินิกซ์ใบนี้ให้กับเจ้า ข้าไม่ได้ขาดแคลนหินวิญญาณ เจ้าต้องกลัวตัวนมู่ฉิงและคนอื่นๆที่กําลังไล่ตามหลังของข้ามา เมื่อถึงตอนนั้น,เจ้าก็หมดโอกาสเช่นกัน”
Comments