Immortal and Martial Dual Cultivation 36 คลื่นที่คืบคลาน

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 36 คลื่นที่คืบคลาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 36 คลื่นที่คืบคลาน

มองดูกระท่อมไม้ของนางพังลงไปต่อหน้า เซียวอวี่หลันก็ไม่ได้ปล่อยตัวเองไหลกับกับความโกรธ กลับกันนางหยิบตัวส่งสัญญาณช่วยเหลือออกมาจากแขนเสื้อของนาง หลังจากที่พลุไฟสีแดงระเบิดขึ้นในอากาศหนึ่งครั้ง สองครั้งแล้วก็สามครั้งมันก็หายไปอย่างสมบูรณ์

เซียวอวี่หลันพูดขึ้นเร่งรีบกับเซียวเฉิน “นี้เป็นสัญญาณช่วยเหลือระดับฉุกเฉิน ในไม่ช้าผู้อาวุโสสามและคนอื่นๆจะมาถึง”

เซียวเฉินมองไปที่ชายชุดดำ พวกเขาพบพลุไฟแล้วกำลังเร่งรีบมุ่งหน้ามาทางพวกเขา เขารู้สึกช่วยไม่ได้ในใจของเขา ไม่แน่กว่าผู้อาวุโสสามและคนอื่นๆจะมาถึง พวกเขาอาจกลายเป็นศพแล้วก็ได้

หากเซียวเฉินอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว สามารใช้อัสนีหลบเลี่ยงเขาคงจะหลบหนีออกไปได้โดยง่าย ช่างน่าเสียหายจากสถานะการณ์ในตอนนี้ มันไม่สามารถนำคนอื่นไปด้วยได้หากใช้มัน

พวกเขาทั้งสองวิ่งอย่างไม่หยุดหย่อนและหลบลูกศรที่พุ่งเข้ามาเป็นบางครั้ง นั้นทำให้ความเร็วของพวกเขาตกลง หากพวกเขาไม่หาหนทางแก้โดยเร็วพวกเขาอาจจะโดนจับได้ในไม่ช้า

เซียวเฉินตีลังกาหลบลูกศรกลางอากาศ พูดขึ้นอย่างรีบร้อน “พี่อวี่หลัน หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปพวกมันจะตามเราทันในไม่ช้า”

เซียวอวี่หลันหันกลับไปมองสถานะการณ์ข้างหลังนาง ชายชุดดำยังคงกระโดดจากต้นไม้ไปอีกต้นหนึ่งอย่างต่อเนื่องไม่หยุดแม้แต่ก้าวเดียว คนพวกนี้ต้องได้รับการฝึกฝนการใช้หน้าไม้มาเป็นอย่างดี แม้แต่ตอนที่ยิงพวกมันยังไม่หยุดฝีเท้า

นางกางแขนทั้งสองออก ร่างของเซียวอวี่หลันร่ายรำไปบนอากาศพร้อมกับกลีบมวลดอกไม้สีแดงนับไม่ถ้วนตกลงมาจากท้องฟ้า กลิ่นหอมจางๆของดอกสองฤดูแผ่กระจายไปทั่วป่า

เซียวอวี่หลันหยุดเท้าลง จากนั้นชักดาบจันทร์เสี้ยวออกมาแล้วเริ่มร่ายรำอีกครั้ง การเคลื่อนไหวของนางช่างงดงาม ราวกับนางฟ้าผู้ทรงปัญญา ลูกศรที่ถูกยิงออกมาราวกับมันชนเข้ากับสิ่งกรีดขวางที่ไม่อาจจับต้องได้ ลูกศรทั้งหมดถูกเบี่ยงออกไปซ้ายขวา

กระแสพลังสีแดงจากปลายดาบบินไปรอบๆ ขณะที่เซียวอวี่หลันยังร่ายรำไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยมวลกลีบดอกไม้ จากนั้น ดาบจันทร์เสี้ยวก็ยิงดาบสีแดงนับไม่ถ้วนออกไปยังบริเวณโดยรอบ

แม้ว่าปลายดาบสีแดงจะร่ายรำอย่างงดงามไปบนอากาศ พวกมันกลับเคลือบไปด้วยพิษของดอกสองฤดู ขอเพียงแค่สัมผัสทีเดียวพิษก็จะกระจายไปทันที

ดาบสีแดงหนาแน่นเกือบจะเข้ามาเติมพื้นที่โดยรอบเซียวอวี่หลันในทันที พื้นที่ทั้งหมดอบอวลไปด้วยระอองเกสรของดอกสองฤดู แม้ว่าระอองเกสรจะเต็มไปด้วยพิษมันก็ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ

สายงามเกินกว่าความอันตรายของมัน เมื่อชายชุดดำเห็นพื้นที่สีแดงด้านหน้าของพวกเขาก็หยุดฝีเท้าลง ดอกสองฤดูนั้นเป็นหนึ่งในห้าพิษร้ายแรง ไม่มีใครกล้าพอที่จะลองท้าทาย

เซียวเฉินผู้ยืนอยู่ข้างหน้า มองไปยังเซียวอวี่หลันร่ายรำไปถามกลางมวลกลีบดอกไม้ ในขณะนี้นางราวกับนางฟ้ากำลังร่ายรำได้อย่างทรงเสน่ห์ที่สุดในโลก ทำให้ใครต่อใครที่กำลังจ้องมองอยู่หลงไหลไปอย่างลืมสติ

“ไปกันเถอะ น้องเฉิน”

ไม่รู้ว่าเมื่อไหรที่เซียวอวี่หลันได้หยุดร่ายรำและโผล่ขึ้นมาจากข้างหลังของเซียวเฉิน จับมือของเขาไว้ พวกเขาเปลี่ยนทิศทางและยังวิ่งต่อไปเรื่อยๆ

ทิศทางที่มุ่งไปนั้นเข้าไปยังใจกลางของภูเขาชีเจี่ยว ในพื้นที่นั้น เหล่าสัตว์อสูรวิญญาณดุร้ายยุกว่าพื้นที่รอบนอก นอกจากนั้นยังเป็นสัตว์อสูรวิญญาณระดับสูง โดยปกติระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดหรือแม้แต่ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธยังไม่กล้าที่จะเข้ามาพื้นที่ด้านในของภูเขาชีเจี่ยว

เซียวเฉินคืนสติ มองไปที่เซียวอวี่หลันที่กำลังกุมมือของเขา “พี่อวี่หลัน บาดแผลข้าหายดีแล้ว ข้าวิ่งไปเองได้”

เซียวอวี่หลันไม่ได้ตอบกลับ ยังคงกุมมือของเขาวิ่งไปข้างหน้าต่อไป นางพูดขึ้นอย่างไม่แยแส “เจ้าเกือบจะตายมาแล้ว ตอนนี้เจ้าจะจัดการเรื่องได้เรื่องนี้ได้เช่นไร”

ในสายตาของนาง เซียวเฉินเป็นเพียงระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นต่ำ ในขณะที่พวกเขากำลังถูกไล่ล่า หากนางจับเขาไว้ พวกเขาจะเคลื่อนที่ได้รวดเร็วกว่า

อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของเซียวเฉินถ้าดูแต่ภายนอกอาจจะธรรมดา เซียวอวี่หลันมาจับตัวเขาไว้แบบนี้กลับทำให้พวกเขาช้าลงไปกว่าที่ควรจะเป็นอีก

เซียวเฉินที่กำลังจะแย้งขึ้น เซียวอวี่หลันก็หยุดฝีเท้าลง สายตาเย็นชาของนางจับจ้องไปข้างหน้า ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ชายชุดดำยืนนิ่งอยู่เงียบๆ

“ส่งหยกวิญญาณสีเลือดมาหรือตาย” ชายชุดดำพูดอย่างไม่รีบร้อน ไม่ซึ่งอารมณ์ในน้ำเสียงของเขา

พิษร้ายของดอกสองฤดูอาจจะหยุดระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธพวกนั้นไว้ได้แต่ชายชุดดำคนนี้อยู่ระดับขอบเขตปรมจารย์ขั้นสูงสุด เขามีวิธีที่จะหลบเลี่ยงจากพิษของดอกสองฤดู

โดยไม่ต้องลงมือทำอะไร เพียงระดับขอบเขตปรมจารย์ปรากฎข้างหน้าเขา นี่ก็ทำให้เซียวเฉินรู้สึกกดดัน

ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ แม้เขาจะเผชิญหน้ากับระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธ เขามั่นใจว่าเขามีพลังพอที่จะต่อสู้กับพวกมัน

อย่างไรก็ตาม หากเขาเผชิญหน้ากับระดับขอบเขตปรมจารย์ขั้นสูงสุด เขาคงทำได้แต่พึ่งมังกรฟ้าหวนหลับเพื่อเสี่ยงดู แต่หลังจากที่ได้รับบทเรียนจากครั้งก่อน เขาไม่กล้าที่จะผลีผลามใช้ทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์อันน่ากลัวนี้ออกมาอีก

เซียวอวี่หลันไม่ได้ตอบกลับไป กลับกันท้องฟ้ากลับเต็มไปด้วยกลีบดอกไม้อีกครั้ง ดาบจันทร์เสี้ยวในมือของนางพุ่งเข้าไปหาชายคนนั้นอย่างไม่สะทกสะท้าน

“หาเรื่องตาย” ชายชุดดำตะคอก เขาตอบสนองอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าโยกตัวหลบดาบ จากนั้นเขาก็ยื่นสองนิ้วออกมาและชี้ไปยังหัวของเซียวอวี่หลัน

เซียวอวี่หลันถอยกลับอย่างรวดเร็วแต่ชายชุดดำก็ไม่ได้ไล่ตามนางมา ดอกไม้กินคนได้ถูกปล่อยออกมาจากมือของเขา ดอกไม้กินคนได้เปิดกลีบของมันออกราวกับปากของสัตว์อสูรวิญญาณดุร้าย และอ้าปากอย่างดุร้ายไปที่ดอกสองฤดูข้างหลังของมัน

กลับกลายเป็นว่าคนคนนั้นรู้อยู่แล้วว่าเซียวอวี่หลันแอบปลูกดอกสองฤดูไว้ข้างหลังของเขา การโจมตีก่อนหน้านั้นเป็นเพียงกลลวงและหลังจากนั้นเป็นของจริง

ดอกไม้กินคนสามารถดูดซับละอองเกสรทั้งหมดไว้ในร่างแล้วย่อยมันสร้างเป็นพิษแข็งแกร่ง ไม่น่าแปลกใจที่เขาไม่หวาดกลัวต่อพิษของดอกสองฤดู เขาสามารถสัมผัสได้ถึงดอกสองฤดูที่ปรากฎขึ้นมาข้างหลังของเขาอย่างลับๆ

ทันทีที่มันเกิดขึ้น เซียวอวี่หลันไม่สามารถเรียกจิตวิญญาณต่อสู้ของนางกลับมาได้ ได้ยินเสียงเคี้ยวและดอกไม้กินคนที่กำลังกัดกลืนอย่างหนักหน่วงกินดอกสองฤดูลงไป

สถานะการณ์วิกฤต เมื่อเซียวอวี่หลันเข้าต่อสู้นางจะล้อมรอบไปด้วยกลีบดอกไม้และพิษดอกสองฤดู พิษร้ายนั้นไม่สามารถแยกแยะมิตรหรือศูตรูทำให้เซียวเฉินไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้

ในจังหวะนี้เซียวเฉินไม่สามารถมองดูได้อีกต่อไป เขาร้องตะโกนขึ้น “อัสนีร่วงหล่น!”

สายฟ้าพุ่งลงมาจากท้องฟ้าที่ว่างเปล่าตรงลงมาที่ชายชุดดำ ชายคนนั้นไม่กล้าเสี่ยงและถอยกลับไปในทันที ในจังหวะที่เข้าหยุดเท้า สายฟ้าก็ตรงมาจากฟ้าลงมาหาเขาอีกครั้ง

สัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินได้จับไปที่เขาเรียบร้อยแล้ว ทำให้คาดเดาได้ว่าเขาจะเคลื่นที่ไปหยุดลงตรงไหน หากเขาถอยหลังกลับ สายฟ้าร่วงหล่นก็จะฟาดถอยหลังกลับไปเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ด้วยขอบเขตการบ่มเพาะพลังของเซียวเฉินในตอนนี้ เขาสามารถรักษาความเร็วไว้ได้เพียงสามครั้งเท่านั้น หลังจากสามครั้งเขาต้องหยุดพักเพื่อที่จะใช้มันได้อีกครั้ง

ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ เซียวอวี่หลันเรียกดอกสองฤดูกลับในทันที เหลือเพียงกลีบดอกไม้ที่แตกหักเท่านั้น ที่เหลือโดนดอกไม้กินคนกลืนลงไป

หลบสายฟ้าอีกครั้งหนึ่งสายตาของชายชุดดำเต็มไปด้วยแสงเย็นชา สายตาของเขาจ้องไปที่เซียวเฉินพร้อมกับโบกมือและดอกไม้กินคนที่อ้าปากกว้างของมัน ตรงเข้าไปหาเซียวเฉินอย่างรวดเร็ว

มองดูดอกไม้กินคนที่น่ากลัว เซียวเฉินเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เจ้าดอกไม้นั้นมีฟันแหลมคมเหมือนกับสัตว์ เขาสามารถเห็นแสงเย็นวาวออกมา

สมองของเซียวเฉินทำงานอย่างหนักคิดอย่างเร่งด่วนเพื่อหาทางรับมือกับมัน สิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาจะพึ่งได้คือจิตวิญญาณต่อสู้มังกรฟ้า อย่างไรก็ตามอาวุธวิญญาณของเขาก็แตกไปแล้วดังนั้นเขาจึงไม่สามารถดึงพลังของมังกรฟ้าออกมาใช้ได้

ดังนั้นสิ่งที่เขาจะพอใช้ได้คือเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริง ช่างน่าเสียดายที่เปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงนั้นมีข้อเสียร้ายแรง แม้ว่ามันจะมีพลังกดข่มน่ากลัวแต่อำนาจในการเจาะทะลวงนั้นต่ำ ด้วยเกราะพลังปราณจากระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดทั่วไป ก็สามารถป้องกันได้โดยง่าย

เขาจะเพิ่มพลังเจาะทะลวงของเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานะการณ์ตอนนี้ เขาไม่มีความให้มาคิดเยอะเกี่ยวกับมัน ดอกไม้กินคนกำลังตรงเข้ามาแล้ว หากดอกไม้กินคนเข้าประชิดตัวเขาได้ โดยไม่มีอาวุธวิญญาณในมือเขาคงจะโดนมันกลืนลงไปในพริบตา ไม่เหลือซาก

“ฮ่ะ!”

เปลวเพลิงสีม่วงปรากฎขึ้นที่ปลายนิ้วของเซียวเฉิน เมื่อเขาจดจ่อสัมผัสวิญญาณไปที่มันเซียวเฉินก็นึกความคิดแปลกๆออกมาได้ ด้วยทักษะการปรุงยา สัมผัสวิญญาณของเขาหมุนวนเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริง

ทุกครั้งที่หมุนวน

พลังปราณของเซียวเฉินจะถูกผลาญอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามพลังที่บรรจุในเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

เปลวไฟพุ่งเข้าใส่ดอกไม้กินคน

“ปัง!” เมื่อเปลวไฟปะทะเข้ากับดอกไม้กินคน มันส่งผลให้เกิดระเบิดอย่างรุนแรง ดอกไม้กินคนกระจายกลายเป็นแสงและกลับไปที่ร่างของชายชุดดำ

จริงๆแล้วการระเบิดนั้นมันต่างจากที่เซียวเฉินคาดไว้เล็กน้อย แต่เดิมเขาคิดว่าเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงที่ปรับปรุงใหม่จะสามารถทะลุผ่านดอกไม้กินคนก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่ชายชุดดำ

แต่ดูเหมือนว่าเขาต้องไปวิเคราะห์เพิ่มเติมเกี่ยวกับมันในอนาคต อย่างไรก็ตามอันตรายที่ตรงเข้ามาก็กระเด็นไปแล้ว เซียวเฉินหยิบหยกวิญญาณสีเลือดออกมาจากแหวนหวงอวกาศ

“หยกวิญญาณสีเหลืออยู่กับข้า ถ้าเจ้าอยากได้ก็จับข้าให้ทัน”  เซียวเฉินตะโกนออกมาเสียงดังไปที่ชายชุดดำ ในจังหวะนี้เซียวอวี่หลันบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถต่อสู้ได้ เขาทำได้เพียงล่อชายชุดดำให้ออกไปไกลๆ

หากเขาสามารถล่อมันออกไปได้ จากนั้นก็เป็นการง่ายที่เขาจะหลบหนีไปด้วยอัสนีหลบเลี่ยง ด้วยวิธีนี้พี่อวี่หลันก็จะมีโอกาสหลับหนี

มองดูร่างของเซียวเฉินกำลังพุ่งห่างออกไป ชายชุดดำสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนที่และสำแดงจิตวิญญาณต่อสู้ออกมาก่อนที่เขาจะไล่ตามเซียวเฉิน

เป้าหมายของเขามีเพียงหยกวิญญาณสีเลือดไม่มีสิ่งใดอื่นอีก เมื่อหยกวิญญาณสีเหลือดอยู่ที่เซียวเฉิน เขาก็หมดธุระกับเซียวอวี่หลัน

ความคิดของเซียวอวี่หลันยุ่งเหยิงขณะเห็นร่างของเซียวเฉินที่จากไป สีหน้าซับซ้อนปรากฎบนใบหน้าของนางพร้อมกับดาบจันทร์เสี้ยวในมือของนางที่กำลังสั่น จิตใจของนางยุ่งหยิงพร้อมกับกำลังตัดสินใจว่าควรจะตามพวกเขาไปหรือไม่

นางรู้ว่าเซียวเฉินล่อชายชุดดำออกไปเพื่อให้นางได้มีโอกาสหลบหนี ด้วยระดับขอบเขตของคนคนนั้น ต่อให้พวกเขาทั้งสองร่วมมือกันก็ยังไม่ใช่คู่มือ พวกเขาอาจจะใช้คนหนึ่งล่อชายคนนั้นออกไปเพื่อช่วยอีกคนหนึ่ง

หากนางไล่ตามไปนางก็จะทำให้ความพยายามของน้องเฉินสูญเปล่า อย่างไรก็ตามนางคิดว่าหากนางหนีไป เซียวเฉินที่กำลังบาดเจ็บคงไม่อาจหลบหนีไปจากชายคนนั้นได้

นั้นไม่มีทางที่นางจะสงบหรือสบายใจลงได้!

ในขณะเดียวกัน ในค่ายตระกูลเซียวภายในภูเขาชีเจี่ยว ผู้อาวุโสสามแห่งตระกูลเซียวมองไปยังสัญญาณพลุสีแดงสามครั้งระเบิดบนท้องฟ้า เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นทีที

“ส่งคำสั่งออกไป ศิษย์ตระกูลเซียวระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดหรือสูงกว่าทุกคนให้มารวมตัวกันเดียวนี้! ส่งใครก็ได้ลงไปแจ้งผู้อาวุโสหนึ่งว่าคุณหนูหนึ่งตกอยู่ในอันตราย บอกเขาให้ผู้อาวุโสหลิวมาด้วย เดียวนี้!”

ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาไม่เคยเห็นสีหน้าตื่นกลัวของผู้อาวุโสสามมาก่อน พวกเขารู้ว่าสถานะการณ์จริงจังมากจึงลงมือทันที

ในเวลาสั้นๆ กระแสเชี่ยวหลากภายใต้ภูเขาชีเจี่ยวคืบคลาน ลมฟ้าเปลี่ยนสีรุนแรง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด