Lady to Queen บัลลังก์แค้นจักรพรรดินีภาคแยก | บทที่ 21 ยังไม่คุ้นชินกับความรัก
“ย่อมต้องรู้จักขอรับ”
น้ำเสียงของชายชราฟังดูสั่นเครืออย่างประหลาด แพทริเซียมองชายชราอย่างมึนงง ทันใดนั้นนางก็นึกขึ้นได้ว่าด้านหลังยังมีคนรออยู่อีกมากจึงรีบถาม
“ดูจากที่ท่านทำเหมือนว่ารู้จักเรา ท่านคงมีอะไรจะพูดกับเราใช่หรือไม่”
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องจะกราบทูล”
“อย่างที่ท่านเห็นว่าตอนนี้คงไม่เหมาะ ไว้เราเรียกท่านมาพบทีหลังได้หรือไม่”
“ย่อมได้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทน่าจะมีราชกิจรัดตัว แต่ขอเพียงเรียกหา ไม่ว่าเมื่อไรกระหม่อมจะรีบไปเข้าเฝ้าทันที”
“แล้วเราจะส่งคนไป”
ชายชราได้ยินดังนั้นก็ยิ้มบางๆ และออกจากแถวไปพร้อมกับถ้วยโจ๊ก แพทริเซียต้องรีบตักอาหารให้คนที่รออยู่ในแถวจึงไม่มีแม้กระทั่งเวลาให้มองเงาหลังของอีกฝ่าย
หลังเสร็จจากงานช่วยเหลือราษฎรและกลับมาถึงพระราชวัง แพทริเซียก็ต้องพบกับเรื่องที่ไม่ใคร่น่ายินดีนัก
“เอ่อ ฝ่าบาท…”
มีร์ยาเรียกแพทริเซียอย่างระมัดระวัง เห็นดังนั้นแพทริเซียจึงถามอย่างสงสัย
“มีอะไรหรือ”
“มี…เรื่องด่วนที่รอการอนุมัติจากฝ่าบาทเพคะ”
“ต้องการการอนุมัติจากข้า?”
ได้ยินแพทริเซียถามดังนั้น มีร์ยาก็หลับตาแน่นทีหนึ่งจึงตอบ
“เรื่องการคัดเลือกสนมเพคะ”
“…อ้อ”
แพทริเซียมีสีหน้าเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกลับเป็นปกติในทันใดแล้วพยักหน้า
“เรื่องสำคัญทีเดียว ข้ารู้แล้วล่ะว่าฝ่าบาททรงมอบหมายเรื่องการคัดเลือกสนมให้ข้าตัดสินใจทั้งหมด”
ลูซิโอมอบหมายให้แพทริเซียคัดเลือกสนมโดยให้เหตุผลว่าเขาให้เกียรตินางซึ่งเป็นภรรยาหลวงของเขา เขาตั้งใจจะใช้การคัดเลือกสนมในครั้งนี้ช่วยสร้างอำนาจที่ถูกลิดรอนไปโดยไม่รู้ตัวให้กับแพทริเซียด้วย เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้รับสนมเข้ามาด้วยความเต็มใจอยู่แล้ว
แม้ว่าเรื่องนี้จะถือเป็นการให้เกียรติแพทริเซีย แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้แพทริเซียเจ็บปวดด้วยเช่นกัน
แพทริเซียถอนหายใจในใจและมองเอกสารที่มีร์ยาหอบอยู่เต็มสองมือ
“นั่นคือรายชื่อผู้เข้ารับการคัดเลือกหรือ”
“เพคะ ฝ่าบาท”
“วางไว้แล้วออกไปได้”
แพทริเซียให้ทุกคนออกไปจากห้อง ไม่ว่าอย่างไรนี่ก็เป็นการแต่งภรรยาครั้งที่สองของสามีอันเป็นที่รัก ต่อให้แสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร แต่ความจริงแล้วไม่มีทางเป็นเช่นนั้น และแพทริเซียไม่ต้องการเปิดเผยความรู้สึกในใจให้ใครรับรู้ เพราะไม่มีเรื่องใดน่าสมเพชไปมากกว่านี้อีกแล้ว
“เลดี้วาเลนติน เลดี้อนาโตเลีย เลดี้รัสติกา…”
แม้จะเคยคาดการณ์ไว้แล้ว แต่ทุกคนล้วนเป็นบุตรีจากตระกูลเก่าแก่ทั้งสิ้นจริงๆ แพทริเซียถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเริ่มมองหาสนมที่จะทำประโยชน์ให้ราชวงศ์ได้มากที่สุด อีกหน่อยเมื่อให้กำเนิดรัชทายาทแล้ว ตระกูลของสนมก็จะกลายเป็นครอบครัวของพระราชมารดา แพทริเซียจึงต้องพิจารณาตรงจุดนี้ด้วย
“ฝ่าบาท”
แพทริเซียนั่งดูเอกสารได้หนึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงนางกำนัลดังมาจากด้านนอก นางจึงตอบกลับเสียงต่ำ
“ข้าสั่งว่าไม่ให้ใครเข้ามามิใช่หรือ”
“ขอประทานอภัยเพคะ ฝ่าบาท แต่พระจักรพรรดิเสด็จมา…”
“…ฝ่าบาทหรือ”
แพทริเซียตกใจ คนที่นางไม่อยากพบที่สุดในตอนนี้กลับเป็นฝ่ายมาหานางเอง ขณะที่แพทริเซียกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี นางกำนัลก็เอ่ยเร่ง
“ให้ทำอย่างไรดีเพคะ ฝ่าบาท”
แพทริเซียจงใจหลบหน้าลูซิโอตั้งแต่วันนั้น เพราะนางบอกเขาว่านางไม่เป็นไร แต่ที่จริงแล้วนางเป็น ถึงกระนั้นนางก็ไม่อยากโยนความรับผิดชอบที่เกิดจากความผิดของตนไปให้เขา ฉะนั้นนางจึงเลือกที่จะไม่เจอเขา เพื่อที่อย่างน้อยนางก็จะไม่สามารถโกรธเกลียดเขาโดยไม่มีเหตุผลได้
แพทริเซียตั้งใจว่าเมื่อจัดการความรู้สึกของตัวเองได้ในระดับหนึ่งแล้วจะไปพบลูซิโออีกครั้ง…แต่นี่มันเร็วเกินไป ถึงกระนั้นจะให้ปิดประตูใส่หน้าจักรพรรดิที่มาหาถึงที่ก็ไม่ได้ มิเช่นนั้นคงเกิดข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ระหองระแหงของพวกเขา และนั่นเป็นสิ่งที่แพทริเซียไม่ต้องการให้เกิดขึ้นมากที่สุด
‘ไม่สิ นอกเหนือจากเหตุผลพวกนี้แล้ว…’
ข้าคิดถึงเขา
เรื่องอื่นล้วนเป็นแค่ข้ออ้าง แพทริเซียแค่คิดถึงเขา นางไม่ได้พบลูซิโอมานานเกินไปแล้ว แม้นางจะผลักไสเขาเพราะความทะนงตน แต่ตอนนี้นางคิดถึงเขายิ่งกว่าใคร ดังนั้น นางจึงพยายามกลั้นน้ำตาที่เอ่อล้นขึ้นมาและตอบนางกำนัลอย่างตะกุกตะกัก
“ฝ่าบาท…เชิญฝ่าบาทเข้ามา”
“เพคะ ฝ่าบาท”
เมื่อได้พบลูซิโออีกครั้ง น้ำตาคงไหลออกมาเป็นอันดับแรก แพทริเซียพยายามสะกดกลั้นความรู้สึกไว้อย่างเต็มที่ก่อนจะเตรียมตัวต้อนรับลูซิโอ ทันใดนั้นประตูก็เปิดและลูซิโอก็เดินเข้ามา เขามีอะไรติดไม้ติดมือมาด้วยเช่นเคย คราวนี้ดูจากขนาดแล้วน่าจะเป็นช็อกโกแลต แพทริเซียฝืนยิ้มต้อนรับอีกฝ่าย
“ฝ่าบาท มาแล้วหรือเพคะ”
“ริซซี่”
ลูซิโอเรียกชื่อเล่นของแพทริเซียอย่างอ่อนโยนและเดินเข้ามาหา
“ไม่เจอกันนานเลยนะ”
เขาว่าพลางสวมกอดแพทริเซียอย่างอบอุ่น แพทริเซียซบลูซิโออย่างอ่อนแรงและตอบเสียงค่อย
“เพคะ…ไม่ได้เจอพระองค์ตั้งนาน”
“ข้าคิดถึงเจ้า”
“…เช่นนั้นก็น่าจะเสด็จมาหาหม่อมฉันสิเพคะ”
“ข้ามาไม่ได้” เขาเค้นเสียงพูด “วันนี้ว่าจะไม่มาแต่ก็มา”
“ทำไมหรือเพคะ”
“ข้ารู้สึกผิด”
“…”
แพทริเซียไม่พูดอะไร แต่ลูซิโอยังคงพูดต่อ “ขอโทษนะ ข้าเคยบอกว่าจะปกป้องเจ้าแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้”
“ฝ่าบาทกำลังปกป้องหม่อมฉันอยู่เพคะ ปกป้องอำนาจ เกียรติยศ และศักดิ์ศรีในฐานะจักรพรรดินีของหม่อมฉัน พระองค์ทรงปกป้องไว้ทั้งหมด”
“ขอโทษนะ”
เขาเป็นคนที่ไวต่อความรู้สึกจึงรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวกำลังโกหก แพทริเซียนิ่วหน้าและพูดต่อ
“…หม่อมฉันบอกแล้วมิใช่หรือเพคะว่าไม่เป็นไร”
“จะไม่เป็นไรได้อย่างไร”
ลูซิโอว่าพลางมองสำรวจแพทริเซียที่อยู่ในอ้อมกอด แม้สีหน้าของนางจะเรียบเฉยแต่เขารู้ดีว่าภายในนั้นเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เขามองคนรักด้วยความสงสารและลูบใบหน้าของนางอย่างแผ่วเบา
“ช่วงที่ไม่ได้เจอกันเจ้าดูซูบไปนะ”
“ไม่ได้นานขนาดนั้นเสียหน่อยเพคะ”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ” ลูซิโอมอบอ้อมกอดอบอุ่นให้แพทริเซียอีกครั้ง “เหนื่อยใช่ไหม”
อา…ถ้าเขายังทำแบบนี้ ข้าก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว แพทริเซียกัดริมฝีปากอย่างแรงเพื่อกลั้นน้ำตา แต่ไม่นานนางก็เลิกล้มความตั้งใจราวกับรู้ว่ามันถึงที่สุดแล้ว น้ำใสๆ ค่อยๆ ไหลรินจากดวงตาของแพทริเซีย ลูซิโอรู้สึกได้ถึงความอุ่นชื้นที่หัวไหล่จึงรู้ว่าแพทริเซียกำลังร้องไห้ แต่เขาก็แสร้งทำเป็นไม่รู้
แพทริเซียสารภาพความในใจ “หม่อมฉันคิดถึงฝ่าบาทมากจริงๆ…แต่ฝ่าบาทไม่เสด็จมาหา หม่อมฉันจึงยิ่งทรมาน”
“อา…”
ลูซิโอไม่รู้เรื่องนั้นมาก่อน เขาจึงอุทานด้วยความตกใจ ชายหนุ่มกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“ขอโทษนะ ริซซี่ ข้าไม่รู้จริงๆ…”
“หม่อมฉันรู้ว่าเหตุใดพระองค์จึงไม่เสด็จมา พระองค์คงรู้สึกผิดต่อหม่อมฉัน แต่นั่น…กลับยิ่งทำให้หม่อมฉันทรมานยิ่งขึ้น หม่อมฉันกลัวว่าพระองค์จะไม่รักหม่อมฉันแล้ว…”
“ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นเด็ดขาด ข้าเองก็…” ลูซิโอเอ่ยปากอย่างลำบาก “ข้าเองก็กลัว กลัวว่าเรื่องนี้จะทำให้เจ้าหมดรักข้า ทั้งยังรู้สึกผิดต่อเจ้า ข้าจึงไม่สามารถมาหาเจ้าได้ ข้ากลัวเหลือเกินว่าเจ้าจะปฏิเสธข้า”
“หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้น ฝ่าบาทก็รู้”
“นั่นสินะ ใช่แล้ว”
ลูซิโอค่อยๆ ดันแพทริเซียออกจากอกและเช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา แพทริเซียเองก็ไม่ได้ปฏิเสธสัมผัสนั้น
“พวกเราไม่มีทางปฏิเสธกันและกันได้แท้ๆ” เขาว่า
ใช่แล้ว พวกเขายังไม่คุ้นชินกับความรัก
ลูซิโอพูดเสริม “ขอโทษนะ ทั้งที่ครุ่นคิดมากมาย แต่คำตอบที่ได้ก็ยังไม่ถูกต้อง”
“เป็นเพราะหม่อมฉันเองที่ไม่เชื่อใจพระองค์”
“ข้าขอโทษ”
เขาเอ่ยคำขอโทษอีกครั้งแต่สิ่งที่แพทริเซียอยากฟังไม่ใช่คำขอโทษ นางเบื่อที่จะฟังคำคำนั้นแล้ว หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตาและร้องขอ
“มอบจุมพิตให้หม่อมฉันแทนคำขอโทษได้ไหมเพคะ”
ลูซิโอได้ยินดังนั้นก็มองแพทริเซียอย่างรักใคร่และประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มโดยไม่เอ่ยคำพูดใด เมื่อเวลาผ่านไปจูบอันแผ่วเบาในตอนแรกก็ค่อยๆ รุนแรงขึ้น
“ฮา…ฝ่าบาท” แพทริเซียหอบหายใจพลางเรียกอีกฝ่าย
“ไปที่เตียงกันไหม”
น้ำเสียงของลูซิโอที่กระซิบข้างหูช่างเย้ายวนยิ่ง ทำให้แพทริเซียยากจะห้ามใจ หญิงสาวยังไม่ทันพยักหน้าขาก็ก้าวไปที่เตียงแล้ว ในระหว่างนั้นจูบของทั้งคู่ก็ยังคงดำเนินต่อไป
อยากให้จูบนี้ดำเนินไปชั่วนิรันดร์
แพทริเซียอยากจูบกับเขาไปเรื่อยๆ ความรู้สึกในตอนนี้ราวกับว่าสิ่งที่แพทริเซียเก็บกักไว้ในช่วงที่ไม่ได้พบอีกฝ่ายกำลังระเบิดออกมาในคราวเดียว
“อ๊ะ…!”
แพทริเซียร้องเสียงหลงพร้อมกับทิ้งตัวลงบนเตียง แม้ทั้งสองกำลังง่วนอยู่กับการจูบ แต่ลูซิโอก็ประคองศีรษะของแพทริเซียไว้อย่างระมัดระวังด้วยกลัวว่านางจะบาดเจ็บ แพทริเซียหัวเราะเบาๆ และเริ่มปลดกระดุมเสื้อของเขา
“เมื่อครู่หม่อมฉันดูอย่างละเอียดแล้ว คิดว่าเลดี้พิทูเนียดูจะเหมาะสมนะเพคะ”
“…เหมาะสมอะไร?”
“สนมน่ะสิเพคะ”
ได้ยินดังนั้นสีหน้าของลูซิโอที่กำลังตบหลังปลอบแพทริเซียเบาๆ ก็พลันย่ำแย่
“ต้องพูดเรื่องนี้ตอนอยู่ด้วยกันสองคนด้วยหรือ” เขาถามเสียงแข็ง
“เดี๋ยวนางก็จะกลายมาเป็นสมาชิกของราชวงศ์แล้วนี่เพคะ แล้วการถวายรายงานแยกทีหลังก็น่าเบื่อด้วย…”
ได้ยินดังนั้น ลูซิโอก็จับแพทริเซียหันมาหาตน สายตาของแพทริเซียที่จับจ้องอยู่ด้านบนจึงย้ายมาที่ลูซิโอ
“ฟังให้ดี ริซซี่ ครอบครัวของข้ามีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น” ลูซิโอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“จริงหรือเพคะ”
“แน่นอนสิ”
เขาจุมพิตนางเบาๆ แล้วกระซิบ “บอกแล้วมิใช่หรือ ไม่ว่าเจ้าจะมีลูกได้หรือไม่ข้าก็ไม่สนใจ เจ้าจะเป็นจักรพรรดินีเพียงคนเดียวที่ข้ายอมรับตราบจนวันตาย”
“…”
แพทริเซียเพียงแต่ยิ้มโดยไม่เอ่ยคำพูดใด แน่นอนว่านั่นเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ในขณะเดียวกันก็ช่างน่าเศร้า หากนางตั้งครรภ์ได้คงจะดีไม่น้อย ในหัวของแพทริเซียมีแต่ความคาดหวังที่ไร้ประโยชน์
***
เนื่องจากลูซิโอมอบอำนาจในการคัดเลือกสนมให้กับแพทริเซีย ตำแหน่งสนมที่ว่างอยู่จึงน่าจะตกเป็นของเลดี้พิทูเนีย บุตรีของมาร์ควิสเบลินซ์ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสมตามคาด ในเมื่อตัดสินใจเลือกสนมได้แล้ว จะยืดเยื้อต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ แพทริเซียจึงประกาศออกไปทันทีว่าเลดี้พิทูเนียเป็นว่าที่สนม
งานแต่งงานจะถูกจัดขึ้นในอีกหกเดือนข้างหน้า ซึ่งนี่เป็นผลจากความตั้งใจอย่างแน่วแน่ของลูซิโอ เขาอ้างเหตุผลร้อยแปดเพื่อที่จะเลื่อนวันแต่งงานออกไปให้ไกลที่สุด ไม่มีทางที่แพทริเซียจะไม่รู้ว่าลูซิโอคิดอะไรอยู่ แต่การที่นางเป็นฝ่ายเลื่อนวันแต่งงานเข้ามาก่อนก็เป็นเรื่องที่เสแสร้งแกล้งทำไปอย่างนั้นเช่นกัน ดังนั้น เมื่อลูซิโอยืนกราน นางจึงทำตามโดยไม่คัดค้านอะไร
สองเดือนหลังจากพิทูเนียถูกเลือกเป็นว่าที่สนม ในวังก็จัดงานเลี้ยงโดยใช้วันคล้ายวันพระราชสมภพของอดีตจักรพรรดิผู้ล่วงลับเป็นข้ออ้าง แน่นอนว่าพิทูเนียย่อมต้องเข้าร่วมด้วย
“เอดา เร็วเข้าสิ! ถ้าข้าไปงานเลี้ยงสายขึ้นมาเจ้าจะรับผิดชอบไหวรึ”
พิทูเนียเรียกสาวใช้ประจำตัวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
Comments