Lady to Queen บัลลังก์แค้นจักรพรรดินีภาคแยก | บทที่ 6 ข้ากำลังตั้งครรภ์ทายาทของฝ่าบาท
โรสมอนด์หลบออกจากตำหนักจักรพรรดินีด้วยเส้นทางลับที่มีแค่นางเท่านั้นที่รู้ เนื่องจากเป็นทางที่มีไว้ใช้ในยามฉุกเฉินจึงไม่มีใครมาตรวจตราแถวนี้ โรสมอนด์วิ่งไปที่ตำหนักกลางเพียงลำพังไร้เงาคลาราข้างกาย ตอนนี้เวลาไม่คอยท่าแล้ว
“พระจักรพรรดินี…?”
หัวหน้านางกำนัลดูตกใจมากที่เห็นโรสมอนด์มาในสภาพกระเซอะกระเซิง สีหน้าของนางคล้ายจะถามว่า ‘มาถึงที่นี่ได้อย่างไร’ แต่โรสมอนด์ก็มองข้ามความสงสัยนั้นและเอ่ยถามอย่างรีบร้อน
“ฝ่าบาท ฝ่าบาทประทับอยู่ด้านในหรือไม่”
“…อยู่เพคะ”
“แล้วทำไมไม่รีบเปิดประตูล่ะ”
นี่ยังคิดว่าตัวเองเป็นจักรพรรดินีอยู่อีกรึ? อีกไม่นานก็จะถูกปลดแล้วแท้ๆ
หัวหน้านางกำนัลก่นด่าในใจ แต่ภายนอกยังคงพูดกับอีกฝ่ายโดยไม่แสดงอาการ
“…เชิญเสด็จเพคะ”
ทันทีที่ประตูเปิด โรสมอนด์ก็ตะลีตะลานเข้าไปข้างใน
“ฝ่าบาท”
โรสมอนด์เข้าหาลูซิโอพร้อมทำน้ำเสียงออดอ้อนที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลูซิโอนั่งอ่านเอกสารอยู่ที่โต๊ะด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ โรสมอนด์จึงเรียกเขาอีกครั้ง
“ฝ่าบาท”
“…”
ตอนนั้นเองเขาจึงเงยหน้าขึ้นมา ทั้งคู่สบตากัน จากนั้นโรสมอนด์ก็เป็นฝ่ายเรียกลูซิโออีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฝ่าบาท”
“ข้าฟังอยู่ ไม่ได้หูตึง”
“ฝ่าบาท ช่วยหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ”
“…”
ลูซิโอมองโรสมอนด์ด้วยสีหน้าซับซ้อนพลางถาม
“ก่อนจะพูดถึงเรื่องนั้น เจ้าไม่มีอะไรจะพูดกับข้าหรือ”
“พูดอะไรหรือเพคะ”
“เรื่องอดีตจักรพรรดินี”
“หม่อมฉันคิดว่าพระองค์จะเห็นดีเห็นงามด้วยเสียอีก” โรสมอนด์ตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ “พระองค์ทรงให้สัญญากับหม่อมฉันว่าจะทำให้หม่อมฉันได้เป็นจักรพรรดินี หม่อมฉันเชื่ออย่างสนิทใจ… แต่อายุของหม่อมฉันก็มากขึ้นทุกวัน แล้วจะไม่ให้หม่อมฉันกระวนกระวายใจได้หรือเพคะ”
โรสมอนด์หัวเราะเสียงเย็นและพูดต่อ “หม่อมฉันคิดว่าพระองค์จะเข้าพระทัยเสียอีก ตอนนี้หม่อมฉันก็ยังเชื่ออย่างนั้น ที่หม่อมฉันพูดถูกต้องหรือไม่เพคะ”
“เจ้ากินยาทำแท้งทั้งๆ ที่เจ้าไม่ได้ท้องแล้วป้ายสีความผิดให้อดีตจักรพรรดินี โรส ข้าไม่ต้องการวิธีที่โหดร้ายเช่นนี้ หากจักรพรรดินีไม่มีลูกชายให้ข้าแต่เจ้ามีได้…ทุกอย่างก็จะจบลงอย่างสันติ”
“…ขอประทานอภัยเพคะ ฝ่าบาท แต่หม่อมฉันไม่ใช่คนที่มีน้ำอดน้ำทนขนาดนั้น”
ดวงตาที่เริ่มแดงของเขาดึงดูดความสนใจของโรสมอนด์ เขากำลังคิดอะไรอยู่? หรือเขาจะผิดหวังในตัวข้า? ท่านกล้าดีอย่างไรมาผิดหวังในตัวข้า?
“ถึงอย่างไรมันก็เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้วนะเพคะ” โรสมอนด์กล่าว
“…นั่นสินะ”
ลูซิโอถอนหายใจและพูดต่อ “แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ ตามกฎของจักรวรรดิ หลังจากจักรพรรดินีถูกปลดแล้วย่อมต้องถูกประหารด้วยการดื่มยาพิษ โรส เจ้าไม่เคยคิดเลยหรือว่าหากถูกจับได้จะต้องเจอกับอะไร”
“ไยต้องคิดเล่าเพคะ ในเมื่อทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เพียงแต่…มีบางเรื่องที่หม่อมฉันคาดไม่ถึงเท่านั้น”
แต่หม่อมฉันไม่สนใจหรอกเพคะ โรสมอนด์พูดราวกับกระซิบและกอดลูซิโอ เขาไม่อาจปฏิเสธหญิงสาวได้อีกเช่นเคย โรสมอนด์กระซิบข้างหูของลูซิโอด้วยน้ำเสียงยั่วยวน
“ช่วยหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ ฝ่าบาท มีแค่พระองค์เท่านั้นที่จะช่วยหม่อมฉันได้”
“จักรพรรดิมิอาจทำตามใจตัวเองได้ทุกเรื่องหรอกนะ โรส เจ้าก็รู้”
“วิธีนี้ไม่ส่งผลเสียอันใดต่อพระองค์หรอกเพคะ ฝ่าบาทโปรดวางพระทัย”
โรสมอนด์ยิ้มน้อยๆ และอธิบายให้ลูซิโอฟัง “สตรีที่ตั้งครรภ์สายเลือดของกษัตริย์มิอาจถูกประหารได้เพคะ”
“เจ้าอย่าบอกนะว่า…”
“ถูกต้องแล้วเพคะ”
พร้อมกันนั้น โรสมอนด์ก็ปลดเปลื้องชุดเดรสที่แขวนอยู่บนร่างแล้วโยนทิ้งไป หญิงสาวยืนต่อหน้าเขาในสภาพเปลือยเปล่าในชั่วพริบตาพร้อมทั้งยั่วยวนอย่างไร้ยางอาย
“ขอทายาทให้หม่อมฉันสักคนเถิดเพคะ ฝ่าบาท”
***
ไม่กี่วันหลังจากนั้นโรสมอนด์ก็ออกจากตำหนักจักรพรรดินี วันนั้นห่างจากวันงานวันคล้ายวันเกิดของลูซิโอหนึ่งเดือนพอดี โรสมอนด์ซึ่งไร้ญาติขาดมิตรพาคลาราย้ายไปอยู่ที่ปราสาทเฟ็ลปส์ที่จักรพรรดิเคยพระราชทานให้
แม้ว่าลูซิโอจะพยายามจัดการเรื่องทุกอย่างให้เงียบที่สุด แต่ถึงกระนั้นก็ไม่รู้ว่าชาวบ้านชาวเมืองไปได้ยินมาจากที่ใดถึงได้รู้สถานการณ์ทั้งหมด โรสมอนด์จึงได้แต่ทนฟังถ้อยคำดูถูกด่าทออยู่บนรถม้าที่เดินทางไปยังปราสาทเฟ็ลปส์
“นางแม่มด! อดีตจักรพรรดินีผู้บริสุทธิ์ต้องตายเพราะเจ้า!”
“เรื่องชั่วช้าพวกนั้นเจ้าเป็นคนสร้างขึ้นมาหรือนี่ เจ้าต้องถูกพระเจ้าลงโทษ!”
“วิญญาณของอดีตจักรพรรดินีจะลงโทษเจ้า!”
โรสมอนด์ได้ยินเสียงโห่ร้องเป็นพักๆ และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ไม่คิดเลยว่าจะเปลี่ยนท่าทีกันเร็วขนาดนี้ เมื่อไม่กี่เดือนก่อนคนพวกนั้นยังพูดคำในลักษณะเดียวกันนี้กับอดีตจักรพรรดินีอยู่เลย ทั้งที่แค่ได้ยินมาแท้ๆ ไม่ได้คิดจะนำไปคิดต่อเลยด้วยซ้ำ
พวกโง่!
โรสมอนด์หัวเราะอยู่ในใจ ภายนอกประสานมือไว้บนตักอย่างเรียบร้อยและทำสีหน้าคล้ายกำลังครุ่นคิด
‘ถ้าจะยืนยันว่าตั้งครรภ์จริงหรือไม่ ข้าต้องรออีกอย่างน้อยครึ่งเดือน’
ข้าต้องรักษาชีวิตไว้จนกว่าจะถึงตอนนั้นและปกป้องเด็กในท้องที่ไม่รู้ว่าจะมีหรือไม่ โรสมอนด์ลูบท้องของตัวเองโดยไม่รู้ตัว แม้จะเป็นไปไม่ได้แต่โรสมอนด์ก็รู้สึกราวกับมีเด็กดิ้นอยู่ในท้องแล้ว
“ฝ่าบาท พระองค์ต้องมาประทับอยู่ในที่แบบนี้หรือนี่ เหตุใดเรื่องแบบนี้…”
โรสมอนด์พานางกำนัลจำนวนน้อยที่สุดเดินทางมาจนถึงปราสาทเฟ็ลปส์ คลาราที่เคยใจเย็นอยู่เสมอไม่รู้หายไปไหน ตอนนี้นางเอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญ โรสมอนด์ทนฟังเสียงนั้นไม่ไหวจึงตอกกลับไปอย่างหงุดหงิด
“เลิกบีบน้ำตาเสียที คลารา ข้าไม่อยากฟังแล้ว! ตอนนี้ใครกันแน่ที่อยากร้องไห้!”
โรสมอนด์ตะคอกเสียงแหลมก่อนจะลูบหน้าท้องโดยไม่รู้ตัวและกล่าว
“ถ้าข้าตั้งครรภ์สำเร็จ ไม่ว่าใครก็ฆ่าข้าไม่ได้ เพราะกฎหมายของจักรวรรดิบัญญัติไว้ชัดเจนว่าสตรีที่ตั้งครรภ์สายเลือดกษัตริย์จะต้องละเว้นโทษประหารทุกกรณี! เพราะฉะนั้นเจ้ารออีกหน่อยเถอะ คลารา”
“เพคะ ฝ่าบาท หากเรื่องเป็นเช่นนั้นจริงคงดีไม่น้อย”
“เข้าใจแล้วก็รีบไปบอกให้หัวหน้าห้องเครื่องตั้งโต๊ะได้แล้ว พวกเรารีบเร่งเดินทางจากคาร์วูดมาถึงปราสาทเฟ็ลปส์โดยมิได้หยุดพัก ข้าหิวจะตายอยู่แล้ว”
“เพคะ ฝ่าบาท”
หลังจากนั้นครู่หนึ่งคลาราก็กลับมาพร้อมกับอาหารมากมายที่ถูกจัดใส่จานไว้อย่างสวยงาม ในตอนนั้นสีหน้าของโรสมอนด์จึงฉายแววของความยินดีขึ้นมาบ้าง
“อาหารหลากหลายดียิ่ง นี่คืออะไร” โรสมอนด์ถาม
“ส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเลที่พระองค์โปรดปรานเพคะ เพื่อให้พระองค์ผ่อนคลายหม่อมฉันจึงสั่งพ่อครัวให้ทำเป็นพิเศษ”
“รู้ใจนัก”
โรสมอนด์ยิ้มน้อยๆ และค่อยๆ เปิดฝาครอบอาหารสีเงินขึ้นดู แต่ยังไม่ทันได้เห็นอาหารด้านใน โรสมอนด์ก็ทนกลิ่นน่าสะอิดสะเอียนไม่ไหวจึงปล่อยฝาครอบร่วงกลับที่เดิม โรสมอนด์หน้าซีดเผือดมีอาการคลื่นไส้พะอืดพะอม
“อุ๊บ!”
“ฝ่าบาท!”
คลาราตกใจรีบปรี่เข้าไปหาโรสมอนด์เพื่อดูอาการ
“ฝ่าบาท ทรงเป็นอะไรไปเพคะ ฝ่าบาท!”
“กลิ่น…อาหาร” โรสมอนด์พูดออกมาทีละคำๆ อย่างยากลำบาก “เหม็นมาก… ทำจากอาหารทะเลแน่รึ”
“แน่นอนเพคะ”
คลาราอธิบายหน้าเจื่อน “นี่เป็นอาหารจากหมึกยักษ์ที่ฝ่าบาทโปรดปรานที่สุดเพคะ กลิ่นไม่ดีหรือเพคะ”
“แปลกนัก…ถ้าเป็นหมึกยักษ์ข้าไม่มีทางไม่ชอบ…อ๊ะ!”
ทันใดนั้นแววตาของโรสมอนด์ก็ลุกวาว หญิงสาวพึมพำด้วยเสียงเบาหวิว
“หรือว่า…หรือว่า…?”
“เพคะ? ฝ่าบาท ทรงเป็น…อ๊ะ!”
สีหน้าของคลาราพลันสดใสขึ้นเมื่อรู้ว่าโรสมอนด์กำลังคิดอะไรอยู่ โรสมอนด์ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น
***
หลังจากโรสมอนด์ถูกปลดจากตำแหน่งลูซิโอก็ไม่ยอมเลือกจักรพรรดินีคนใหม่ง่ายๆ ผู้คนต่างซุบซิบนินทากันว่าเขาต้องสะเทือนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ผิดแน่ สำหรับกลุ่มปฏิวัติก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเพราะพวกเขาเองก็หวังให้จักรพรรดิอยู่เงียบๆ ไปสักระยะหนึ่ง
สองอาทิตย์ต่อมาก็ถึงวันประหารโรสมอนด์
“ได้ยินว่าตั้งแต่จักรพรรดินีถูกปลด ฝ่าบาทก็ไม่เป็นอันกินอันนอนเลยหรือคะ”
ได้ยินคำพูดของบุตรสาว ดยุกวีเธอร์ฟอร์ดก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเผยให้เห็นสีหน้าเรียบเฉย ทั้งสองอยู่บนรถม้าเพื่อเดินทางไปชมการประหารอดีตจักรพรรดินีโรสมอนด์ที่จตุรัสเจอร์เบียเน็นแห่งนครหลวงคาร์วูด
“นี่เป็นการปลดจักรพรรดินีครั้งที่สองแล้วของปีนี้ อีกทั้งเดิมทีฝ่าบาทก็โปรดปรานอดีตจักรพรรดินีคนนี้มาก จะทุกข์ใจก็มิใช่เรื่องแปลก” เขาตอบ
ก็ไม่แน่หรอก ลอเรนคิดในใจ สำหรับลอเรนแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องปกติ หญิงสาวกลับคิดว่าพฤติกรรมของจักรพรรดิโง่เขลาสิ้นดีเสียด้วยซ้ำ แค่ผู้หญิงคนเดียวก็หาดีๆ ไม่ได้ แล้วดูสิว่าตอนนี้เขาตกอยู่ในสภาพไหน
ตอนนั้นเอง ดยุกวีเธอร์ฟอร์ดก็พูดขึ้นราวกับอ่านใจของบุตรสาวได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
“การเลือกคู่ครองเป็นเรื่องยากไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ลอเรน คนที่เลือกคู่ผิดจนนำไปสู่ความวิบัติก็มีให้เห็นทั่วไป”
ดยุกวีเธอร์ฟอร์ดกล่าวเพียงเท่านั้น กว่าเขาจะเปิดปากอีกครั้งก็เป็นอีกครู่หนึ่งให้หลัง
“อ้าว ดูเหมือนจะถึงแล้วล่ะ”
รถม้าค่อยๆ ชะลอความเร็วลง ผู้โดยสารทั้งสองจึงเตรียมตัวลงจากรถ เมื่อประตูรถม้าเปิดออกดยุกวีเธอร์ฟอร์ดก็ลงไปก่อนจากนั้นค่อยรับบุตรสาวลงมา นอกจากสองพ่อลูกคู่นี้แล้วยังมีผู้คนอีกมากมายมารวมตัวกันอยู่ที่จตุรัสแห่งนี้ แน่นอนว่าพวกเขามารอชมความตายของอดีตจักรพรรดินีโรสมอนด์ ประชาชนส่งเสียงประณามตั้งแต่เจ้าตัวยังไม่ปรากฏตัว และนั่นทำให้บรรยากาศในจัตุรัสห่างไกลจากคำว่าเงียบสงบนัก กลับดูเหมือนตลาดเสียมากกว่า
“เบิกตัวอดีตจักรพรรดินี”
และแล้วน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อยของลูซิโอก็ดังขึ้น เพียงไม่นานโรสมอนด์ก็เข้ามาในจัตุรัสโดยมีอัศวินประกบซ้ายขวา การปรากฏตัวของนางทำให้เสียงที่อื้ออึงอยู่แล้วกลายเป็นอึกทึก
“นางแม่มด! นางแม่มดออกมาแล้ว!”
“ตาย! ตาย!”
“ผู้หญิงคนนั้นฆ่าอดีตจักรพรรดินีที่ไม่มีความผิด!”
โรสมอนด์ฟังถ้อยคำเสียดสีเหล่านั้นอย่างสบายอารมณ์ผิดคาด นางยืนต่อหน้าทุกคนด้วยท่าทีมาดมั่นราวกับตนไม่ได้ทำอะไรผิด ลูซิโอเห็นดังนั้นในใจก็ร้อนดั่งไฟแผดเผา ต่อให้นางทำเรื่องเลวร้ายลงไป อย่างไรนางก็ยังคงเป็นผู้หญิงที่เขารักจากใจจริง
เขาค่อยๆ เปิดปากร่ายความผิดของโรสมอนด์
“อดีตจักรพรรดินีโรสมอนด์ แมรี ลา เฟ็ลปส์ วางแผนชั่วร้ายป้ายสีให้อดีตจักรพรรดินีเปโตรนิยา ลอว์รา เลอ โกรเชสเตอร์จนถึงแก่ความตาย พฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมซึ่งจักรพรรดินีผู้เป็นมารดาของปวงชนไม่พึงกระทำ อีกทั้งยังเป็นการดูหมิ่นจักรพรรดิและราชวงศ์มาวินอส ด้วยเหตุนั้น เรา…ลูซิโอ แคร์ริก จอร์ช เดอ มาวินอส…”
ลูซิโอกล่าวให้จบประโยคด้วยเสียงสั่นเครือ “…ในนามของจักรพรรดิ เราขอสั่งให้ประหารชีวิต”
“ฝ่าบาท”
ตอนนั้นเอง โรสมอนด์ก็ฉีกยิ้มอย่างงดงามพลางเอ่ยเรียกลูซิโอ ลูซิโอมองนางหญิงสาวด้วยดวงตาแดงก่ำ คนรักของเขาไม่มีท่าทีหวาดหวั่นหรือหวาดกลัวต่อความตายที่อยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อย
“พระองค์ประหารหม่อมฉันมิได้เพคะ”
คำพูดนั้นทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเซ็งแซ่ในจัตุรัสอีกครั้ง ส่วนใหญ่พูดกันว่า ‘นั่นหมายความว่าอย่างไร’ ดยุกวีเธอร์ฟอร์ดที่เงียบฟังมาตลอดจึงเอ่ยถามแทนลูซิโอ
“นั่นหมายความว่าอย่างไร”
“ตามที่ข้าพูดเลยค่ะ ดยุก ไม่มีผู้ใดในจักรวรรดินี้ทำร้ายข้าได้”
โรสมอนด์พูดต่ออย่างมั่นใจ “ในครรภ์ของข้ามีสายเลือดของราชวงศ์มาวินอสอยู่ค่ะ”
“เป็นไปไม่ได้!”
เสียงโห่ร้องดังขึ้นจากทั่วทุกสารทิศ ลูซิโอจับตาดูโรสมอนด์ด้วยท่าทีเย็นชาเล็กน้อย แต่นอกจากเขาแล้ว ขุนนางคนอื่นๆ กลับดูตะลึงงัน จากนั้นขุนนางคนหนึ่งก็ตั้งข้อสงสัย
“เรื่องนั้นท่านสามารถพิสูจน์ได้หรือไม่ หากพบว่านั่นเป็นเรื่องโกหก ท่านจะต้องรับโทษหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและหลอกลวงประชาชนนะ”
“ตอนอยู่ที่ปราสาทเฟ็ลปส์ข้าทุกข์ทรมานอย่างหนักจากการแพ้ท้อง แต่มิอาจตรวจดูให้แน่ชัดเพราะไม่สามารถเชิญหมอหลวงได้ แต่…” แววตาของโรสมอนด์เป็นประกาย “เชิญท่านเรียกหมอหลวงมาตรวจดูเถิด ฟังผลพร้อมๆ กันเช่นนี้ย่อมดีกว่ามิใช่หรือ”
“….”
สุดท้ายหมอหลวงก็ถูกเรียกตัวมาจากพระราชวังและทำการตรวจร่างกายของโรสมอนด์อย่างละเอียด ผ่านไปครู่หนึ่งหมอหลวงก็เอ่ยสิ่งที่เหนือคาดออกมา
“ไม่มีการตั้งครรภ์พ่ะย่ะค่ะ”
สิ้นคำ โรสมอนด์ก็หวีดร้อง
“เป็นไปไม่ได้!”
Comments