Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 10 มังกรไร้ประโยชน์

Now you are reading Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru Chapter 10 มังกรไร้ประโยชน์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“—–แล้ว? ไม่มีอะไรจะพูดหน่อยหรอ?”

 
ผมนั่งอยู่บนบัลลังก์ มือยันแก้ม ชิอิก็อยู่บนเข่า
 
“จ-เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ม-เป็นสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต่างหาก ล-และเราก็ไม่ใช่คนผิดด้วย!”
 
ข้างหน้าของเรา กำลังนั่งคุกเข่า และพูดแก้ตัวอย่างเต็มที่– มังกรชั้นสูง เรฟีเซียส
 
“งั้้น? มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไงล่ะ? ไหนบอกมาสิ”
 
“…………”
 
เงียบ

ยัยมังกรนี้นอกจากจะไม่มองหน้าตรงๆแล้วยังหันหน้าหนีอีก
 
“……เฮ้ออ-…….”
 
พอผมถอนหายใจเฮื้อกใหญ่ เรฟี่ก็สะดุ้ง ไอความน่าเกรงขามที่เจอในตอนแรกมันหายไปไหนหมดฟ๊ะ
 
“นี้ อย่าเอาแต่เงียบสิ พูดอะไรบ้าง ชั้นอาจจะปล่อยเธอไปก็ได้นะ”
 
ไม่คิดจะปล่อยหรอก
 
‘อือออ…. มัน อย่างงั้นนะ”

“ว่า?”

“….ม-มันอร่อยมาก ร-เราก็เลย ผ-เผลอกินจนหมดนะ…..”
 
นั้นไงล่ะ อย่างที่คิดไว้เลย
 
“เธอนี่นะ…ตัวเองก็มีชีวิตมาตั้งนานแท้ๆ อย่างน้อยก็หัดอดทนสักหน่อยสิ…. แค่สักวันหนึ่งนะ ไม่ได้หรอ…?”
 
“ต-แต่ว่า… ม-มันอร่อยนี้นา….”
 
“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยเฟ้ย ยัยมังกรไร้ประโยชน์นี่!”
 
“Wha….?! จ-เจ้าเรียกเราว่ามังกรไร้ประโยชน์งั้นหรอ?!”
 
“ทั้งๆที่เธอก็อยู่มาตั้งนานขนาดนี้ แค่อดทนก็ยังทำไม่ได้เลย ทำตัวเป็นเด็กไปได้ ชั้นละทึ่งจริงๆที่เธอยังเรียกตัวเองว่าเป็นมังกรสูงส่งเนี่ย!!”
 
“งือออ… พูดตามที่เจ้าอยากไปเถอะ…! ก็ใช่ไง เราเป็นมังกรผู้สูงส่ง เราจะใช้ชีวิตยังไงตามที่เราต้องการก็ได้! ผิดอะไรละที่จะใช้ชีวิตตามที่อยากนะ?!”
 
อุวะ ยัยนี้ กล้าเถียงด้วยวุ้ย!

“หึ เจ้าควรยอมแพ้ซะนะ ตัวตนของเรานะถือเป็นภัยพิบัติของมนุษย์เลยนะ! และนั้นก็จะเกิดกับผู้ที่อยากจะลองของด้วย!”

“ชั้นจะไม่ให้ของหวานกับเธออีกแล้ว”

“เราผิดไปแล้ว ให้อภัยเราด้วยเถอะเจ้าค่ะ”
 
แล้วเธอก็ก้มหัวขอโทษ เปลี่ยนท่าทีจากหน้ามือเป็นหลังมือในพริบตา

 

 
*************************************************************************************************

  

ถ้าพวกคุณกำลังสงสัยว่าเหตุการณ์มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง คงต้องเล่าย้อนไปเมื่อตอนเช้านี้

 
“เอาล่ะ งั้น เลฟี่ ฝากดูแลดันเจี้ยนจนกว่าชั้นจะกลับมาด้วยล่ะ ชิอิ อยู่กับเรฟี่นะ”

“……………เข้าใจละ”

“ถ้าหิวละก็ ไปกินอาหารที่ชั้นทิ้งเอาไว้ก็ได้นะ แต่อย่ากินเยอะเกินไปล่ะ?”

“……..โอเค”

เลฟี่กำลังเล่น ‘ทามาก็อต' เกมที่เคยเป็นที่นิยมมาก่อน เธอจึงตอบกลับแบบเหม่อลอย

ข้างๆเธอก็มีชิอิที่โดดขึ้นลงบอกว่าเข้าใจแล้ว

เกมที่เลฟี่เล่นเป็นเกมที่ผมแลกมาจากแค็ตตาล็อก DP และราคาถูกกว่าเกมอื่นเพราะมันเล็ก (ถึงจะบอกว่าถูกก็เถอะ แต่เมื่อเทียบกับของใช้ธรรมดาทั่วไป มันก็แพงใช้ได้เลย) ผมได้ลองเล่นดูแล้ว แต่แทนที่จะเป็นผม กลับเป็นเลฟี่ที่ติดแทน

คงเป็นเพราะเธอไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนมั้ง

เท่าที่ได้ฟังจากเรฟี่ เทคโนโลยีในโลกนี้มันไม่ได้ไปไกลอะไรเลย

เธอพูดด้วยว่า ‘เราไม่รู้เลยว่าจอมมารจะทำของอย่างนี้ได้ด้วย….’ เรฟี่ซังครับ คงมีแค่ผมเท่านั้นแหละที่ทำของแบบนี้ได้

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรฟี่และชิอิ ทั้งคู่ก็สนิทกันดี

ผู้หญิงไม่ว่าเผ่าพันธุ์ไหนก็คงชอบของน่ารักๆสินะ– เรฟี่ก็เหมือนกัน เล่นกับชิอิจนพูดว่า ‘ฟุฟุ… ชิอิ เจ้าจะต้องกลายเป็นสไลม์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้แน่!’

ก็ ชิอิน่ารักนี่เนอะ คงเป็นเรื่องปกติแหละ

ตอนแรกชิอิก็กลัวเรฟี่อยู่ แต่พอเห็นผมคุยกับเรฟี่เป็นปกติก็คงรู้ได้ว่าไม่ใช่คนที่ต้องระวังอะไร จนตอนนี้ก็เล่นกันสนุกสนานไปแล้ว

ตอนนี้ผมก็ไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามอะไรจากเธออีกแล้ว

ภาพที่เห็นตอนนี้เป็นเด็กสาวที่เล่นเกมอย่างจริงจัง นอนเกลือกกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้น ไม่มีเค้าความเป็นมังกรที่อาศัยมา 1000 ปี เหลืออยู่เลย

ไม่ว่าผมจะมองยังไงก็เห็นเธอเป็นแค่เด็ก
 
เห็นพวกนั้นเล่นกัน ผมก็ยิ้มนิดๆ พลางพูด ‘งั้น ชั้นไปก่อนนะ’ แล้วก็ออกจากห้องไป

 
เหตุผลที่ผมออกมาข้างนอกก็เพื่อหาวิธีเพิ่ม DP

รายได้ครึ่งหนึ่งของ DP ขึ้นอยู่กับผู้บุกรุก แต่มันไม่มีผู้บุกรุกมาในดันเจี้ยนเราเลย มีมาก็แค่หมาที่ผมฆ่าไปเมื่อคราวก่อน

ในอาณาเขตของเรฟี่ สิ่งมีชีวิตอื่นๆพากันหลีกเลี่ยงที่จะเข้ามา ทำให้มอนเตอร์เก่งๆก็ลดลงเช่นกัน แล้วในทางฝั่งอื่น พื้นที่นี้ถือเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการบุกเบิก ผมจึงไม่เห็นแม้แต่มนุษย์หรือมนุษย์สัตว์เลย

ผมจึงตั้งใจจะขยายพื้นที่ดันเจี้ยนที่ไม่ใช่ที่นี้

ถ้าผมเปลี่ยนพื้นที่รอบๆนี้ให้กลาบเป็นอาณาเขตของดันเจี้ยนละก็ ผมจะได้ DP มาจากพวกที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทั้งหมดเลยล่ะ

ผมมีทุนอยู่ระดับหนึ่งเพราะเรฟี่ ที่ตอนนี้นอนขี้เกียจไปวันๆอยู่

ปกติแล้ว  DP จะใช้ในการเพิ่มพลังดันเจี้ยน เพิ่มชั้น อัญเชิญมอนเตอร์หรือกับดักมาเพื่อจัดการผู้บุกรุกอะไรทำนองนั้น แต่เผอิญเรามีตัวต่อต้านผู้บุกรุกเป็นมังกรชั้นสูงอยู่แล้ว ผมรู้สึก

สงสารใครก็ตามที่จะมาบุกที่นี้จริงๆ

ดูเหมือนว่าในฟังก์ชั่นของดันเจี้ยน จะสร้างท้องฟ้า ไม่ก็ท้องฟ้ากลางคืนไว้ในห้องก็ได้ จะขยายใหญ่ขึ้นด้วย DP ก็ได้ ผมเลยคิดจะสร้างปราสาทถ้าเก็บ DP ได้มากพอ

ประมาณประสาทลาสบอสพวกเนี่ย คงเท่น่าดู

 
—-Outside the cave there would lie an ever expanding, endless world of perpetual night.

 
With a moon which was not supposed to be seen, illuminating an enormous black castle in the centre.

From the windows of that castle, light leaks out, lighting the darkness, giving the beholder an eerie, grand impression.

Oh man, that might actually be good. It tickles my male heart.

[TL:ข้างบนพระเอกมันจูนิเบียวมัน แต่ผมขี้เกียจแปลนะ :D]

ผมก็มาที่นี้หลายวันแล้ว มันถึงเวลาที่ผมต้องเดินหน้าหาเป้าหมายของตัวเองแล้วล่ะ

และเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ ผมจึงใช้ 2 สกิลนี้ ลอบเร้น [TL:อิงใช้ spy ผมใช้ลอบเร้นล่ะกัน ความหมายไม่ต่างกัน] กับ ค้นหาศัตรู พร้อมกับแผนที่เพื่อย่องหนีผ่านป่าไป

ผมเพิ่งค้นพบว่ามันมี 2 วิธีที่จะได้สกิล

1 คือทำตามข้อกำหนดที่มันตั้งเอาไว้ เหมือนที่ผมได้ทักษะการต่อสู้จากการเตะ

 และอย่างที่สองคือ ม้วนสกิล

แค่วาดสกิลลงไป จิตนาการตาม และส่งพลังเวทลงไป ก็ได้สกิลมาแล้ว

ง่ายสุดๆ ถึงจะใช้ครั้งที่สองไม่ได้ แต่ก็เป็นวิธีที่จะได้สกิลใหม่ๆที่ง่ายและพิเศษมาก

เจ้าสองอันนี้มันอยู่ในแค็ตตาล็อก DP ผมก็คิดว่าพวกนี้น่าจะมีประโยชน์ในอนาคต เลยแลก DP เอามา

ปล่อยเรื่องลอบเร้นไปก่อน ที่จริงผมยังไม่รู้เลยว่าผมไปได้ ค้นหาศัตรู มายังไง

 ส่วนสเตตัสผม ตอนนี้เป็นยังงี้

 

 Name: Yuki

Race: Arch Demon

Class: Demon Lord

Level: 16

HP: 2350/2350

MP: 6960/6960

Strength: 681

Resistance: 710

Agility: 585

Mana: 960

Dexterity: 1290

Luck: 70

Skill points: 0

Unique Skills: Mana Eye, Language Translation

Skills: Item Box, Analyze Lv5, Martial Arts Lv3, แหล่งเวทมนต์ Lv2, ลอบเร้น Lv3, ค้นหาศัตรู Lv3

Title: Demon Lord of a Parallel World

DP: 10220

 

ที่เลเวลของผมเพิ่มขึ้นไม่ใช่เพราะผมไปฆ่ามอนเตอร์อะไรหรอก แต่เป็นเพราะผมทำงานนะ

สกิลพ็อยที่ผมมี ผมเอาไปลงกับวิเคราะห์หมดเลย ที่นี้ข้อมูลที่ผมจะวิเคราะห์ได้ก็เพิ่มขึ้น

ผมเพิ่งจะได้ลอบเร้น กับค้นหามาเมื่อไม่นาน แต่เป็นเพราะผมเปิดมันแทบจะตลอดเวลา เลเวลมันเลยเพิ่ม

ลอบเร้นไม่มีผลกับเรฟี่ แต่พอผมใช้กับชิอิ เขาก็แสดงท่าทีที่น่ารักมากเลยล่ะ

ตอนที่เขาเจอผม เขาก็กระโดดด้วยความดีใจ

สกิลพวกนี้มันใช้ MP ทำให้ผมเปิดมันตลอดไม่ได้ แต่ผมมี MP อยู่เยอะใช้ได้ ผมจึงพอจะเปิดพวกสกิลเลเวลต่ำได้ถึง 2-3 ชั่วโมง

เรฟี่เคยบอกว่าปีศาจปกตินะ ไม่มีพลังเวทขนาดนี้หรอก

คงเป็นเพราะผมมีร่างจอมมารล่ะมั้ง

“—อ๊ะ ตัวนั้นดูอันตรายแหะ..”

ผมไปเจอมอนเตอร์ขนาดใหญ่ที่ครึ่งหนึ่งเป็นเสือ อีกครึ่งหนึ่งเป็นแรด ที่เพิ่งล่าเหยื่อเสร็จ และกำลังกินสิ่งที่มันล่าได้อยู่

ผมรู้สึกได้เลยว่ามันจะรู้ถึงตัวตนผมถ้าผมเข้าไปใกล้กว่านี้ ไม่อยากจะสู้โดยไม่มีเหตุผลเลยแหะ

ผมตัดสินใจที่จะออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว

—-ตอนนี้ผมก็มาได้ไกลละ น่าจะข้ามอาณาเขตของเรฟี่มาแล้ว เพราะมันมีสิ่งมีชีวิตเยอะเลย

ถ้าผมเพิ่มที่นี้เป็นอาณาเขตดันเจี้ยนละก็ คงจะได้ DP มาเยอะเลย

“เอาล่ะ ขยายอาณาเขตเสร็จสิ้น—แล้ว ก็ไม่มี DP เหลือแล้วแหะ”

ตอนนี้เพิ่มข้อมูลในแผนที่ไปก่อนละกัน

 

****************************************************************************************************

 

หลังจากใช้เวลาทั้งวันไปกับข้างนอก พอพระอาทิตย์ตกดิน ผมก็กลับมาที่ห้องครัว (2000DP) ที่ผมเพิ่มมาเมื่อวาน เพื่อหาอะไรกิน และ—
 
 

—ข้างในตู้เย็นนั้น ว่างเปล่า

 

อาหารที่ผมแลกด้วย DP สำหรับ 1 สัปดาห์ด้วยราคาที่ถูกที่สุด หายไปหมดเลย

….ความเป็นไปได้ที่ผมคิดออกนั้นมีอยู่อย่างเดียว

 

“………………..เรฟี่ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ!!”

 

——-นั้นแหละ เหตุการณ์ทั้งหมด

ให้ตายสิ… กินเยอะชะมัด

ตอนช่วงมื้ออาหารก็ว่ากินเยอะแล้วนะ นั้นยังไม่อิ่มอีกหรอ?

ปกตินี้ฝืนให้ตัวเองกินน้อยหรอ?

…..ไม่ อย่าเพิ่งโดนหลอกสิเรา ครั้งนี้เธอแค่ตะกละ ผมจะเห็นใจไม่ได้ มันก็จริงที่ผมได้ DP จากเธอมาเยอะ แต่มันก็ถือว่าเจ๊ากันเพราะผมเป็นคนเตรียมที่พักและก็อาหารให้กับเธอ

 “……เฮ้ออ คืนนี้เราไม่มีอะไรเป็นอาหารเย็นแล้วล่ะ….”

 DP ผมหมดไปกับการขยายพื้นที่ไปแล้ว ถ้ารู้ว่าจะมีอะไรแบบนี้เกินขึ้นล่ะก็ ผมคงเก็บอาหารสำรองเอาไว้ในไอเท็มบ็อกมากกว่าจะเก็บในครัวไปแล้ว

พรุ่งนี้คงได้ DP มาบ้างแหละ แต่… ดูเหมือนว่าวันนี้เราจะไม่มีข้าวเย็นกินกันแล้ว

ถึงผมจะอยากออกไปเก็บพวกผักผลไม้ข้างนอกก็เถอะ แต่มันก็มืดเกินไปแล้ว

ตอนที่ผมมึมมัมอย่างนั้น เรฟี่ที่น่าจะรู้สึกผิดก็พูดออกมาอย่างลนลาน

 “ด-เดี่ยวก่อน! เราเข้าใจแล้ว ขอแค่เจ้ามีไอเจ้าพ็อยอะไรนั้นก็พอใช่ไหมล่ะ?!”

 “….ก็ ใช่..”

 “ร-รอแปปหนึ่งนะ! เราจะกลับมาในอีก 30 นาที!”

 “อ๊ะ… นี้!”

พูดเสร็จ เรฟี่ก็ออกไปข้างนอกก่อนที่ผมจะได้พูดอะไร

 

**************************************************************************************************

 

 
30 นาทีต่อมา

 

ณ ปากถ้ำ มีศพของมอนเตอร์และสัตว์เป็นฝูงกองทับไปอยู่

“นี้มันเยอะไปแล้ว ยัยบ้า!!”

 “ฟุกิ้วววว—-”

 ตอนที่ผมเขกหัวเธอ เธอก็ส่งเสียงแปลกๆออกมา

 “คุ… ในหลายทศวรรษนี้นะ.. เจ้าเป็นคนแรกเลยนะที่มาเขกหัวเราแบบนี้นะ…”

เธอพูดด้วยสีหน้าน้ำตาคลอเบ้า

 “ยังงั้นหรอ? ไม่ค่อยรู้สึกเป็นเกียรติเท่าไหร่เลยแหะ”

 “ล-แล้วทำไมเราต้องโดนเขกหัวด้วยเล่า?! มันไม่ดีหรอที่จะมีไอเจ้าพ็อยนั้นเยอะๆนะ?!เราอุตส่าห์ขนเจ้าพวกนี้มาตั้งไกลเลยนะ?!”

 “ก็จริง แต่มันก็ควรจะมีลิมิตกันบ้าง รู้มั้ย? ดูสิ ดูเลือดที่เป็นแอ่งพวกนี้สิ พื้นนี้กลายเป็นสีแดงไปหมดเลย แล้วก็ศพพวกนี้อีก – ชั้นจะทำยังไงกับเจ้าพวกนี้ดีล่ะเนี่ย? กว่าจะกำจัดหมดคง

เหนื่อยแย่… อ่ะ–เพิ่งนึกได้ ชั้นเปลี่ยนศฑให้กลายเป็น DP ได้ด้วยนี้นา”

 แหม่ ขี้ลืมจังเรา

 “ถ้าเป็นอย่างงั้นมาเขกหัวเราทำไมล่ะ?!”

 “เผลอนะ”

 “หน๊อยแน๊นนนนนนน!!” 

 “โทษทีๆ มา เดี่ยวลูบหัวไล่ความเป็บปวดให้ โอมเพี้ยง ความเจ็บปวดจงหายไป~!”

 “Wah, ehehe….. บ-บ้าสิ!!”

เธอปัดมือผมออก

 จากนั้น ผมก็เปลี่ยนศพตรงหน้าให้กลายเป็น DP

ศพและแอ่งเลือดค่อยๆละลายหายไปอย่างรวดเร็ว

“…….หมดแล้วสินะ”

“ใช่ไหมล่ะ? —เอาละ ทีนี้ชั้นก็มีข้าวเย็นกินแล้ว เรงคงเจ๊ากันแล้วละ ขอพูดอะไรอย่างนะพอเห็นขนาดร่างและจำนวนที่เธอกินแล้ว ไม่ใช่ว่าชั้นจะผลิตอาหารออกมาโดยไม่มีวันหมด

หรอกนะ เข้าใจนะ? ดังนั้นเรียนรู้ที่จะมีขอบเขตบ้างนะ”

“งืออออ… เข้าใจแล้ว เราแค่ต้องหาพ็อยด้วยตัวเองถ้าอยากจะได้อาหารใช่ไหมล่ะ?”

“อ่ะ– แต่ไม่ต้องเอาถึงขนาดนี้นะ ไม่ต้องนะ”

ถ้าเธอทำแบบนี้อีกไม่กี่ครั้ง สิ่งมีชีวิตรอบๆนี้ได้หายไปหมดแน่

“ด-ได้ เราจะพยายามอดทนให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้”

“ได้อย่างงั้นก็ดี —งั้น กลับเข้าไปข้างในกันเธอ ช่วงอาหารเย็น ชั้นอาจจะให้ของหวานกับเธอก็ได้นะ”

“คุกกี้! เราอยากกินคุกกี้!”

หลังจากที่คุยกันเสร็จ เราก็กลับเข้าไปในดันเจี้ยน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 10 มังกรไร้ประโยชน์

Now you are reading Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru Chapter 10 มังกรไร้ประโยชน์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“—–แล้ว? ไม่มีอะไรจะพูดหน่อยหรอ?”

 
ผมนั่งอยู่บนบัลลังก์ มือยันแก้ม ชิอิก็อยู่บนเข่า
 
“จ-เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ม-เป็นสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต่างหาก ล-และเราก็ไม่ใช่คนผิดด้วย!”
 
ข้างหน้าของเรา กำลังนั่งคุกเข่า และพูดแก้ตัวอย่างเต็มที่– มังกรชั้นสูง เรฟีเซียส
 
“งั้้น? มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไงล่ะ? ไหนบอกมาสิ”
 
“…………”
 
เงียบ

ยัยมังกรนี้นอกจากจะไม่มองหน้าตรงๆแล้วยังหันหน้าหนีอีก
 
“……เฮ้ออ-…….”
 
พอผมถอนหายใจเฮื้อกใหญ่ เรฟี่ก็สะดุ้ง ไอความน่าเกรงขามที่เจอในตอนแรกมันหายไปไหนหมดฟ๊ะ
 
“นี้ อย่าเอาแต่เงียบสิ พูดอะไรบ้าง ชั้นอาจจะปล่อยเธอไปก็ได้นะ”
 
ไม่คิดจะปล่อยหรอก
 
‘อือออ…. มัน อย่างงั้นนะ”

“ว่า?”

“….ม-มันอร่อยมาก ร-เราก็เลย ผ-เผลอกินจนหมดนะ…..”
 
นั้นไงล่ะ อย่างที่คิดไว้เลย
 
“เธอนี่นะ…ตัวเองก็มีชีวิตมาตั้งนานแท้ๆ อย่างน้อยก็หัดอดทนสักหน่อยสิ…. แค่สักวันหนึ่งนะ ไม่ได้หรอ…?”
 
“ต-แต่ว่า… ม-มันอร่อยนี้นา….”
 
“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยเฟ้ย ยัยมังกรไร้ประโยชน์นี่!”
 
“Wha….?! จ-เจ้าเรียกเราว่ามังกรไร้ประโยชน์งั้นหรอ?!”
 
“ทั้งๆที่เธอก็อยู่มาตั้งนานขนาดนี้ แค่อดทนก็ยังทำไม่ได้เลย ทำตัวเป็นเด็กไปได้ ชั้นละทึ่งจริงๆที่เธอยังเรียกตัวเองว่าเป็นมังกรสูงส่งเนี่ย!!”
 
“งือออ… พูดตามที่เจ้าอยากไปเถอะ…! ก็ใช่ไง เราเป็นมังกรผู้สูงส่ง เราจะใช้ชีวิตยังไงตามที่เราต้องการก็ได้! ผิดอะไรละที่จะใช้ชีวิตตามที่อยากนะ?!”
 
อุวะ ยัยนี้ กล้าเถียงด้วยวุ้ย!

“หึ เจ้าควรยอมแพ้ซะนะ ตัวตนของเรานะถือเป็นภัยพิบัติของมนุษย์เลยนะ! และนั้นก็จะเกิดกับผู้ที่อยากจะลองของด้วย!”

“ชั้นจะไม่ให้ของหวานกับเธออีกแล้ว”

“เราผิดไปแล้ว ให้อภัยเราด้วยเถอะเจ้าค่ะ”
 
แล้วเธอก็ก้มหัวขอโทษ เปลี่ยนท่าทีจากหน้ามือเป็นหลังมือในพริบตา

 

 
*************************************************************************************************

  

ถ้าพวกคุณกำลังสงสัยว่าเหตุการณ์มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง คงต้องเล่าย้อนไปเมื่อตอนเช้านี้

 
“เอาล่ะ งั้น เลฟี่ ฝากดูแลดันเจี้ยนจนกว่าชั้นจะกลับมาด้วยล่ะ ชิอิ อยู่กับเรฟี่นะ”

“……………เข้าใจละ”

“ถ้าหิวละก็ ไปกินอาหารที่ชั้นทิ้งเอาไว้ก็ได้นะ แต่อย่ากินเยอะเกินไปล่ะ?”

“……..โอเค”

เลฟี่กำลังเล่น ‘ทามาก็อต' เกมที่เคยเป็นที่นิยมมาก่อน เธอจึงตอบกลับแบบเหม่อลอย

ข้างๆเธอก็มีชิอิที่โดดขึ้นลงบอกว่าเข้าใจแล้ว

เกมที่เลฟี่เล่นเป็นเกมที่ผมแลกมาจากแค็ตตาล็อก DP และราคาถูกกว่าเกมอื่นเพราะมันเล็ก (ถึงจะบอกว่าถูกก็เถอะ แต่เมื่อเทียบกับของใช้ธรรมดาทั่วไป มันก็แพงใช้ได้เลย) ผมได้ลองเล่นดูแล้ว แต่แทนที่จะเป็นผม กลับเป็นเลฟี่ที่ติดแทน

คงเป็นเพราะเธอไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนมั้ง

เท่าที่ได้ฟังจากเรฟี่ เทคโนโลยีในโลกนี้มันไม่ได้ไปไกลอะไรเลย

เธอพูดด้วยว่า ‘เราไม่รู้เลยว่าจอมมารจะทำของอย่างนี้ได้ด้วย….’ เรฟี่ซังครับ คงมีแค่ผมเท่านั้นแหละที่ทำของแบบนี้ได้

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรฟี่และชิอิ ทั้งคู่ก็สนิทกันดี

ผู้หญิงไม่ว่าเผ่าพันธุ์ไหนก็คงชอบของน่ารักๆสินะ– เรฟี่ก็เหมือนกัน เล่นกับชิอิจนพูดว่า ‘ฟุฟุ… ชิอิ เจ้าจะต้องกลายเป็นสไลม์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้แน่!’

ก็ ชิอิน่ารักนี่เนอะ คงเป็นเรื่องปกติแหละ

ตอนแรกชิอิก็กลัวเรฟี่อยู่ แต่พอเห็นผมคุยกับเรฟี่เป็นปกติก็คงรู้ได้ว่าไม่ใช่คนที่ต้องระวังอะไร จนตอนนี้ก็เล่นกันสนุกสนานไปแล้ว

ตอนนี้ผมก็ไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามอะไรจากเธออีกแล้ว

ภาพที่เห็นตอนนี้เป็นเด็กสาวที่เล่นเกมอย่างจริงจัง นอนเกลือกกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้น ไม่มีเค้าความเป็นมังกรที่อาศัยมา 1000 ปี เหลืออยู่เลย

ไม่ว่าผมจะมองยังไงก็เห็นเธอเป็นแค่เด็ก
 
เห็นพวกนั้นเล่นกัน ผมก็ยิ้มนิดๆ พลางพูด ‘งั้น ชั้นไปก่อนนะ’ แล้วก็ออกจากห้องไป

 
เหตุผลที่ผมออกมาข้างนอกก็เพื่อหาวิธีเพิ่ม DP

รายได้ครึ่งหนึ่งของ DP ขึ้นอยู่กับผู้บุกรุก แต่มันไม่มีผู้บุกรุกมาในดันเจี้ยนเราเลย มีมาก็แค่หมาที่ผมฆ่าไปเมื่อคราวก่อน

ในอาณาเขตของเรฟี่ สิ่งมีชีวิตอื่นๆพากันหลีกเลี่ยงที่จะเข้ามา ทำให้มอนเตอร์เก่งๆก็ลดลงเช่นกัน แล้วในทางฝั่งอื่น พื้นที่นี้ถือเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการบุกเบิก ผมจึงไม่เห็นแม้แต่มนุษย์หรือมนุษย์สัตว์เลย

ผมจึงตั้งใจจะขยายพื้นที่ดันเจี้ยนที่ไม่ใช่ที่นี้

ถ้าผมเปลี่ยนพื้นที่รอบๆนี้ให้กลาบเป็นอาณาเขตของดันเจี้ยนละก็ ผมจะได้ DP มาจากพวกที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทั้งหมดเลยล่ะ

ผมมีทุนอยู่ระดับหนึ่งเพราะเรฟี่ ที่ตอนนี้นอนขี้เกียจไปวันๆอยู่

ปกติแล้ว  DP จะใช้ในการเพิ่มพลังดันเจี้ยน เพิ่มชั้น อัญเชิญมอนเตอร์หรือกับดักมาเพื่อจัดการผู้บุกรุกอะไรทำนองนั้น แต่เผอิญเรามีตัวต่อต้านผู้บุกรุกเป็นมังกรชั้นสูงอยู่แล้ว ผมรู้สึก

สงสารใครก็ตามที่จะมาบุกที่นี้จริงๆ

ดูเหมือนว่าในฟังก์ชั่นของดันเจี้ยน จะสร้างท้องฟ้า ไม่ก็ท้องฟ้ากลางคืนไว้ในห้องก็ได้ จะขยายใหญ่ขึ้นด้วย DP ก็ได้ ผมเลยคิดจะสร้างปราสาทถ้าเก็บ DP ได้มากพอ

ประมาณประสาทลาสบอสพวกเนี่ย คงเท่น่าดู

 
—-Outside the cave there would lie an ever expanding, endless world of perpetual night.

 
With a moon which was not supposed to be seen, illuminating an enormous black castle in the centre.

From the windows of that castle, light leaks out, lighting the darkness, giving the beholder an eerie, grand impression.

Oh man, that might actually be good. It tickles my male heart.

[TL:ข้างบนพระเอกมันจูนิเบียวมัน แต่ผมขี้เกียจแปลนะ :D]

ผมก็มาที่นี้หลายวันแล้ว มันถึงเวลาที่ผมต้องเดินหน้าหาเป้าหมายของตัวเองแล้วล่ะ

และเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ ผมจึงใช้ 2 สกิลนี้ ลอบเร้น [TL:อิงใช้ spy ผมใช้ลอบเร้นล่ะกัน ความหมายไม่ต่างกัน] กับ ค้นหาศัตรู พร้อมกับแผนที่เพื่อย่องหนีผ่านป่าไป

ผมเพิ่งค้นพบว่ามันมี 2 วิธีที่จะได้สกิล

1 คือทำตามข้อกำหนดที่มันตั้งเอาไว้ เหมือนที่ผมได้ทักษะการต่อสู้จากการเตะ

 และอย่างที่สองคือ ม้วนสกิล

แค่วาดสกิลลงไป จิตนาการตาม และส่งพลังเวทลงไป ก็ได้สกิลมาแล้ว

ง่ายสุดๆ ถึงจะใช้ครั้งที่สองไม่ได้ แต่ก็เป็นวิธีที่จะได้สกิลใหม่ๆที่ง่ายและพิเศษมาก

เจ้าสองอันนี้มันอยู่ในแค็ตตาล็อก DP ผมก็คิดว่าพวกนี้น่าจะมีประโยชน์ในอนาคต เลยแลก DP เอามา

ปล่อยเรื่องลอบเร้นไปก่อน ที่จริงผมยังไม่รู้เลยว่าผมไปได้ ค้นหาศัตรู มายังไง

 ส่วนสเตตัสผม ตอนนี้เป็นยังงี้

 

 Name: Yuki

Race: Arch Demon

Class: Demon Lord

Level: 16

HP: 2350/2350

MP: 6960/6960

Strength: 681

Resistance: 710

Agility: 585

Mana: 960

Dexterity: 1290

Luck: 70

Skill points: 0

Unique Skills: Mana Eye, Language Translation

Skills: Item Box, Analyze Lv5, Martial Arts Lv3, แหล่งเวทมนต์ Lv2, ลอบเร้น Lv3, ค้นหาศัตรู Lv3

Title: Demon Lord of a Parallel World

DP: 10220

 

ที่เลเวลของผมเพิ่มขึ้นไม่ใช่เพราะผมไปฆ่ามอนเตอร์อะไรหรอก แต่เป็นเพราะผมทำงานนะ

สกิลพ็อยที่ผมมี ผมเอาไปลงกับวิเคราะห์หมดเลย ที่นี้ข้อมูลที่ผมจะวิเคราะห์ได้ก็เพิ่มขึ้น

ผมเพิ่งจะได้ลอบเร้น กับค้นหามาเมื่อไม่นาน แต่เป็นเพราะผมเปิดมันแทบจะตลอดเวลา เลเวลมันเลยเพิ่ม

ลอบเร้นไม่มีผลกับเรฟี่ แต่พอผมใช้กับชิอิ เขาก็แสดงท่าทีที่น่ารักมากเลยล่ะ

ตอนที่เขาเจอผม เขาก็กระโดดด้วยความดีใจ

สกิลพวกนี้มันใช้ MP ทำให้ผมเปิดมันตลอดไม่ได้ แต่ผมมี MP อยู่เยอะใช้ได้ ผมจึงพอจะเปิดพวกสกิลเลเวลต่ำได้ถึง 2-3 ชั่วโมง

เรฟี่เคยบอกว่าปีศาจปกตินะ ไม่มีพลังเวทขนาดนี้หรอก

คงเป็นเพราะผมมีร่างจอมมารล่ะมั้ง

“—อ๊ะ ตัวนั้นดูอันตรายแหะ..”

ผมไปเจอมอนเตอร์ขนาดใหญ่ที่ครึ่งหนึ่งเป็นเสือ อีกครึ่งหนึ่งเป็นแรด ที่เพิ่งล่าเหยื่อเสร็จ และกำลังกินสิ่งที่มันล่าได้อยู่

ผมรู้สึกได้เลยว่ามันจะรู้ถึงตัวตนผมถ้าผมเข้าไปใกล้กว่านี้ ไม่อยากจะสู้โดยไม่มีเหตุผลเลยแหะ

ผมตัดสินใจที่จะออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว

—-ตอนนี้ผมก็มาได้ไกลละ น่าจะข้ามอาณาเขตของเรฟี่มาแล้ว เพราะมันมีสิ่งมีชีวิตเยอะเลย

ถ้าผมเพิ่มที่นี้เป็นอาณาเขตดันเจี้ยนละก็ คงจะได้ DP มาเยอะเลย

“เอาล่ะ ขยายอาณาเขตเสร็จสิ้น—แล้ว ก็ไม่มี DP เหลือแล้วแหะ”

ตอนนี้เพิ่มข้อมูลในแผนที่ไปก่อนละกัน

 

****************************************************************************************************

 

หลังจากใช้เวลาทั้งวันไปกับข้างนอก พอพระอาทิตย์ตกดิน ผมก็กลับมาที่ห้องครัว (2000DP) ที่ผมเพิ่มมาเมื่อวาน เพื่อหาอะไรกิน และ—
 
 

—ข้างในตู้เย็นนั้น ว่างเปล่า

 

อาหารที่ผมแลกด้วย DP สำหรับ 1 สัปดาห์ด้วยราคาที่ถูกที่สุด หายไปหมดเลย

….ความเป็นไปได้ที่ผมคิดออกนั้นมีอยู่อย่างเดียว

 

“………………..เรฟี่ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ!!”

 

——-นั้นแหละ เหตุการณ์ทั้งหมด

ให้ตายสิ… กินเยอะชะมัด

ตอนช่วงมื้ออาหารก็ว่ากินเยอะแล้วนะ นั้นยังไม่อิ่มอีกหรอ?

ปกตินี้ฝืนให้ตัวเองกินน้อยหรอ?

…..ไม่ อย่าเพิ่งโดนหลอกสิเรา ครั้งนี้เธอแค่ตะกละ ผมจะเห็นใจไม่ได้ มันก็จริงที่ผมได้ DP จากเธอมาเยอะ แต่มันก็ถือว่าเจ๊ากันเพราะผมเป็นคนเตรียมที่พักและก็อาหารให้กับเธอ

 “……เฮ้ออ คืนนี้เราไม่มีอะไรเป็นอาหารเย็นแล้วล่ะ….”

 DP ผมหมดไปกับการขยายพื้นที่ไปแล้ว ถ้ารู้ว่าจะมีอะไรแบบนี้เกินขึ้นล่ะก็ ผมคงเก็บอาหารสำรองเอาไว้ในไอเท็มบ็อกมากกว่าจะเก็บในครัวไปแล้ว

พรุ่งนี้คงได้ DP มาบ้างแหละ แต่… ดูเหมือนว่าวันนี้เราจะไม่มีข้าวเย็นกินกันแล้ว

ถึงผมจะอยากออกไปเก็บพวกผักผลไม้ข้างนอกก็เถอะ แต่มันก็มืดเกินไปแล้ว

ตอนที่ผมมึมมัมอย่างนั้น เรฟี่ที่น่าจะรู้สึกผิดก็พูดออกมาอย่างลนลาน

 “ด-เดี่ยวก่อน! เราเข้าใจแล้ว ขอแค่เจ้ามีไอเจ้าพ็อยอะไรนั้นก็พอใช่ไหมล่ะ?!”

 “….ก็ ใช่..”

 “ร-รอแปปหนึ่งนะ! เราจะกลับมาในอีก 30 นาที!”

 “อ๊ะ… นี้!”

พูดเสร็จ เรฟี่ก็ออกไปข้างนอกก่อนที่ผมจะได้พูดอะไร

 

**************************************************************************************************

 

 
30 นาทีต่อมา

 

ณ ปากถ้ำ มีศพของมอนเตอร์และสัตว์เป็นฝูงกองทับไปอยู่

“นี้มันเยอะไปแล้ว ยัยบ้า!!”

 “ฟุกิ้วววว—-”

 ตอนที่ผมเขกหัวเธอ เธอก็ส่งเสียงแปลกๆออกมา

 “คุ… ในหลายทศวรรษนี้นะ.. เจ้าเป็นคนแรกเลยนะที่มาเขกหัวเราแบบนี้นะ…”

เธอพูดด้วยสีหน้าน้ำตาคลอเบ้า

 “ยังงั้นหรอ? ไม่ค่อยรู้สึกเป็นเกียรติเท่าไหร่เลยแหะ”

 “ล-แล้วทำไมเราต้องโดนเขกหัวด้วยเล่า?! มันไม่ดีหรอที่จะมีไอเจ้าพ็อยนั้นเยอะๆนะ?!เราอุตส่าห์ขนเจ้าพวกนี้มาตั้งไกลเลยนะ?!”

 “ก็จริง แต่มันก็ควรจะมีลิมิตกันบ้าง รู้มั้ย? ดูสิ ดูเลือดที่เป็นแอ่งพวกนี้สิ พื้นนี้กลายเป็นสีแดงไปหมดเลย แล้วก็ศพพวกนี้อีก – ชั้นจะทำยังไงกับเจ้าพวกนี้ดีล่ะเนี่ย? กว่าจะกำจัดหมดคง

เหนื่อยแย่… อ่ะ–เพิ่งนึกได้ ชั้นเปลี่ยนศฑให้กลายเป็น DP ได้ด้วยนี้นา”

 แหม่ ขี้ลืมจังเรา

 “ถ้าเป็นอย่างงั้นมาเขกหัวเราทำไมล่ะ?!”

 “เผลอนะ”

 “หน๊อยแน๊นนนนนนน!!” 

 “โทษทีๆ มา เดี่ยวลูบหัวไล่ความเป็บปวดให้ โอมเพี้ยง ความเจ็บปวดจงหายไป~!”

 “Wah, ehehe….. บ-บ้าสิ!!”

เธอปัดมือผมออก

 จากนั้น ผมก็เปลี่ยนศพตรงหน้าให้กลายเป็น DP

ศพและแอ่งเลือดค่อยๆละลายหายไปอย่างรวดเร็ว

“…….หมดแล้วสินะ”

“ใช่ไหมล่ะ? —เอาละ ทีนี้ชั้นก็มีข้าวเย็นกินแล้ว เรงคงเจ๊ากันแล้วละ ขอพูดอะไรอย่างนะพอเห็นขนาดร่างและจำนวนที่เธอกินแล้ว ไม่ใช่ว่าชั้นจะผลิตอาหารออกมาโดยไม่มีวันหมด

หรอกนะ เข้าใจนะ? ดังนั้นเรียนรู้ที่จะมีขอบเขตบ้างนะ”

“งืออออ… เข้าใจแล้ว เราแค่ต้องหาพ็อยด้วยตัวเองถ้าอยากจะได้อาหารใช่ไหมล่ะ?”

“อ่ะ– แต่ไม่ต้องเอาถึงขนาดนี้นะ ไม่ต้องนะ”

ถ้าเธอทำแบบนี้อีกไม่กี่ครั้ง สิ่งมีชีวิตรอบๆนี้ได้หายไปหมดแน่

“ด-ได้ เราจะพยายามอดทนให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้”

“ได้อย่างงั้นก็ดี —งั้น กลับเข้าไปข้างในกันเธอ ช่วงอาหารเย็น ชั้นอาจจะให้ของหวานกับเธอก็ได้นะ”

“คุกกี้! เราอยากกินคุกกี้!”

หลังจากที่คุยกันเสร็จ เราก็กลับเข้าไปในดันเจี้ยน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+