Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 32 ปรับเปลี่ยนดันเจี้ยน 2

Now you are reading Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru Chapter 32 ปรับเปลี่ยนดันเจี้ยน 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พอผมจัดการเลฟี่ในเกมไพ่ได้ ผมก็กล่อมเด็กน้อยที่โกรธแก้มป่องเข้านอนไป และก็ออกมานอกถ้ำเพื่อทำเป้าหมายที่แท้จริง การดัดแปลงดันเจี้ยน

 

ที่ผมต้องการจะทำตอนนี้คือเพิ่มชั้นใหม่

 

“ตอนนี้ก็ เอายังไงดีน้า…”

 

ผมเลื่อนนิ้วผ่านจอควบคุม

 

พื้นที่ผมจะใส่ลงบนชั้นนี้จะเป็นพื้นหญ้า

 

ด้วยพลังปริศนาของดันเจี้ยน ทำให้ผมทำเรื่องพวกนี้ได้

 

ไอเดียตอนนี้ก็ กะจะเอาพื้นที่หลักๆเป็นหญ้าแล้วก็มีหลายๆอย่างตกแต่งอยู่ด้วยละนะ

 

ผมซื้อพื้นหญ้าที่ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆซักเท่าไหร่มาลงขั้นระหว่างพื้นที่ถ้ำกับห้องดันเจี้ยนเป็นการทดสอบ

 

“โอ้…. เป็นพื้นหญ้าจริงๆด้วย”

 

เมื่อเดินผ่านประตูออกมา ก็จะพบกับพื้นหญ้าสีเขียว สะท้อนแสงอาทิตย์สวยงาม ถึงทางเทคนิกผมจะยังอยู่ในถ้ำก็เถอะนะ 

 

มองไกลออกไปก็จะพบกับท้องฟ้าสีคราม พร้อมสายลมพัดผ่านแก้มอ่อนๆ

 

ตัวดันเจี้ยนมันมีพลังอันลึกลับแบบนี้ได้ยังไงกันนะ? แต่ผมคิดยังไงก็หาคำตอบไม่ได้

 

พอเห็นวิวแบบนี้แล้ว ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าประตูข้างหลังมันยังเชื่อมต่อไปที่ห้องดันเจี้ยนอยู่หรือเปล่า?

 

ผมเดินไปที่ประตูแล้วเปิดตรวจดูข้างใน ก็พบว่ามันยังเชื่อมต่อไปยังห้องดันเจี้ยนตามปกติอยู่

 

อิลูน่าและคนอื่นๆมองมาที่ผมอย่างงงๆ ผมจึงกลับไปทางพื้นหญ้าอีกครั้ง คราวนี้ผมเดินที่ข้างหลังของประตู แต่ตรงนั้นก็ไม่มีอะไรนอกจากตัวประตูเอง

 

…รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นลิงที่เพิ่งเคยได้เห็นกระจกเป็นครั้งแรกเลยแหะ

 

สงสัยจังว่ามันจะไปได้ลึกแค่ไหนนะ ราวกับโลกทั้งใบถูกสร้างไว้ที่นี้เลย (TL:สำหรับใครที่งงจุดนี้ ให้นึกภาพประตูเข้าห้องพระเอกเป็นประตูไปที่ไหนก็ได้ของโดราเอม่อนจิ  อ่านตัวข้างล่างถึงได้เข้าใจ เจ้าแปลอิงเจ้านี้ตัดไปเยอะเหมือนกัน เลยจะงงๆหน่อยๆ )

 

ผมได้ลองสำรวจดูแล้วก็พบว่ามันมีขอบเขตพื้นที่ของมันอยู่ มันมีกำแพงล่องหนมาขวางเอาไว้เพื่อไม่ให้ไปต่ออยู่ (TL:เหมือนว่า ประตูมันจะตั้งอยู่กลางถ้ำ มองภายนอกเหมือนจะไม่ได้เชื่อมต่อกับอะไร แต่เปิดไปจะเจอห้องพระเอกจิ)

 

ขนาดก็ประมาณ 5 กิโล โดยมีตัวประตูเป็นจุดศูนย์กลาง ความสูงก็ 1 กิโลพอดี หัวผมไปชนเข้าในขณะบินอยู่พอดี มันก็ไม่ได้เจ็บแต่ทำเอาตกใจใช้ได้อยู่

 

ผมก็มีความสุขดีที่มันใหญ่กว่าที่คิดอยู่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะขยายไปได้อีก ไว้ผมมาเพิ่มเอาที่หลังเมื่อผมคิดว่ามันเริ่มจะเล็กไปล่ะกัน

 

สิ่งต่อไปที่ผมทำคือเข้าไปที่หน้าจอตั้งค่าในเมนู มันเป็นระบบที่ทำให้ผมตกแต่งพื้นที่ที่ผมเพิ่มขึ้นมาใหม่ได้ 

 

พื้นหญ้าเปล่าๆนี้มันดูธรรมดายังไงไม่รู้… เดี๋ยวเพิ่มแม่น้ำกับภูเขาไปด้วย… โอ้ เอาสะพานข้ามแม่น้ำด้วยดีกว่า อยากได้ต้นซากุระด้วยเหมือนกันแหะ ผมชอบดอกซากุระสุดๆเลย

 

…พอนึกถึงวิวแนวนั้นแล้วก็ซักจะอยากได้บ้านสไตล์ญี่ปุ่นแล้วสิ…

 

หรือเอาเป็นเรียวกังดี? เอาด้วยล่ะกัน เดี๋ยวนะ เอาบ่อน้ำพุร้อนด้วยดีกว่า ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอาบ่อน้ำด้วยเลยล่ะกัน ก็ยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นมอนเตอร์หรือเปล่า แต่มันมีปลาคาร์ฟอยู่ในกลุ่มมอนเตอร์ด้วย งั้นผมจะลองเติมดูที่หลังแล้วกัน

 

***

 

โรงแรมเดี่ยวอยู่ข้างแม่น้ำ

 

การตกแต่งภายในนั้นดูเก่าแก่และเรียบง่ายซึ่งสร้างบรรยากาศแห่งความคิดถึง และจากระเบียงคุณสามารถมองเห็นทะเลสาบและต้นซากุระที่สวยงามที่เติมเต็มหัวใจของคุณด้วยความสงบ

 

พื้นหญ้าไกลสุดลูกหูลูกตา ปลายทางนั้นมีภูเขาตั้งสง่าอยู่

 

“…อืม ก็ไม่เลวเลยแหะ”

 

ผมถอนหายใจพลางชมวิวทิวทัศน์ไป

 

ทุกอย่างดูให้บรรยากาศสบายๆมากกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก… แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร ผมตั้งใจจะสร้างปราสาทจอมมารแยกเอาไว้ต่างหากทีหลังอยู่แล้ว อันนี้ก็ถือเป็นการฝึกมือไป

 

ใช่แล้ว ผมเป็นจอมมารแห่งการสร้างนะ ที่ผมสร้างที่นี้ขึ้นมาก็เพื่อจะให้ทุกคนได้พักผ่อนอย่างสบายๆก็เท่านั้น มันไม่เกี่ยวกับการที่ได้ใจมากไปจนเพิ่มโน้นนี้นั้นจนเปลือง DP เป็นว่าเล่น นั้นนะไม่ใช่เรื่องจริงเลย ทุกอย่างผมวางแผนเอาไว้แล้วต่างหาก

 

ใช่แล้ว เจ้าโรงแรมนี้มันเป็นก้าวแรกสู่การเป็นจอมมารของผมยังไงล่ะ มันเป็นหลักที่สำคัญต่อความทะเยอทะยานของผม ฮาๆๆๆๆๆ!!
 

ผมพูดเรื่องอะไรของผมอยู่เนี่ย

 

“มาสเตอร์ มื้อเที่ยงพร้อมแล้ว! อุ โอ้อออ!? ม-มันหายไปไหนอ่ะ!? มันควรจะเป็นถ้ำสิ… แล้วมันมีบ้านมาสร้างไว้ตอนไหนเนี่ย!?”

 

ลูอินมาเรียกผมหลังจากที่เตรียมมื้อเที่ยงเสร็จ เธอจึงโผล่หน้าออกมาจากประตู

 

แล้วก็ ประตูมันตั้งอยู่ข้างๆเรียวกังเลย เหตุผล เพราะผมอยากนะ

 

อาจจะคิดกันว่าพอทำสภาพห้องเป็นอย่างนี้แล้ว มันจะทำให้รู้สึกออกจากถ้าได้ยากขึ้น แต่เปล่าเลย

 

ผมได้ลองอะไรหลายๆอย่าง ตัวอย่างก็ ลูกบิดประตูที่จะเปลี่ยนทิวทัศน์ข้างนอกทุกครั้งที่บิด ตอนนี้ประตูห้องสามารถทำได้แล้ว ที่ต้องทำก็แค่จับลูกบิดประตูแล้วบิไปยังจุดที่ตั้งไว้ ก็จะออกไปข้างนอกโดยตรงได้ทันที

 

แต่ว่า มีคนที่เชื่อมต่อกับดันเจี้ยนเท่านั้นถึงจะใช้ระบบนี้ได้ ถ้าเลฟี่ที่ยังถูกนับว่าเป็นผู้บุกรุก หรือผู้มาใหม่ทั้งสองต้องการจะออก พวกนั้นต้องใช้ผมหรืออิลูน่าในการบิดลูกบิดประตูเพื่อออกไปสู่ด้านนอก ถึงมันจะน่ารำคาญไปหน่อยแต่ก็ช่วยไม่ได้

 

“ว่าไง ลู มื้อเที่ยงพร้อมแล้วหรอ? จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

 

ก่อนหน้านี้ หน้าที่การทำอาหารนั้น ตกเป็นของผม

 

แต่ตอนนี้เลล่าเป็นคนจัดการเรื่องพวกนี้แทนแล้ว แล้วก็เก่งใช้ได้เลยด้วย เธอเรียนรู้วิธีทำอาหารจากโลกเก่าของผมได้อย่างรวดเร็วเลย

 

ส่วนลูก็… อืมมมม เธอก็พยายามทำงานของเธออยู่ล่ะนะ

 

“อืมมม…. มาสเตอร์จะไม่อธิบายหน่อยหรอคะ!?”

 

“เอ๋? เอออ มันก็… เป็นพลังลึกลับของจอมมารนะ”

 

“ขอโทษนะคะ มาสเตอร์ ชั้นไม่เข้าใจเลยค่ะ”

 

เธอไม่เข้าใจอยู่แล้วล่ะ

 

“ก็ ถ้าพูดตรงๆ ชั้นก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน ที่จะบอกได้ก็คือ ชั้นทำได้ เพราะมันเป็นไปได้ที่จะทำ ชั้นพูดไปแค่นี้แหละ ว่าแต่ เธอเริ่มจะชินกับการใช้ชีวิตที่นี้หรือยัง ลู?”

 

ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน จึงเปลี่ยนเรื่องไป

 

“อ๊ะ ค่ะ ก็… ยังรู้สึกแปลกๆอยู่หน่อยๆล่ะค่ะ ชั้นคิดว่าชีวิตชั้นมันจบสิ้นเมื่อตอนได้เป็นทาสไปแล้วนะคะ แต่ตอนนี้ ชั้นได้รับอนุญาติให้ทำงานที่นี้ค่ะ”

 

“ฮาๆ ก็นะ ชีวิตมันเต็มไปด้วยเรื่องแปลกๆเสมอนั้นแหละ”

 

อย่างหนึ่งเลยก็คือผมได้มาต่างโลกนี้แหละ

 

“แต่ชั้นดีใจที่ได้มาที่นี้นะคะ อาหารก็อร่อย เตียงก็สะอาด แถมมีสิ่งน่าสนใจให้ทำอยู่เรื่อยๆเลยด้วย และที่มากกว่านั้น ก็คือมีท่านโมฟิร์อยู่ด้วย!! โอ้ ว่าแต่ เมื่อไหร่ท่านโมฟิร์จะกลับมาหรอคะ มาสเตอร์!?”

 

“เอ๋ เอออออ… ชั้นก็ม่ายยยยรู้สิ เจ้านั้นก็เข้าใจยากซะด้วยสิน้าาาาาาาาา”

 

“มาสเตอร์? ทำไมถึงทำเสียงไร้โทนอย่างงั้นล่ะคะ?”

 

ฟิร์ดูเหมือนจะตัดสินใจว่าเข้ากับลูไม่ค่อยได้ ผมว่าเขาคงจะไม่ไปเข้าใกล้เธอนอกซะจากผมจะเรียก

 

“นี้! รีบมากันได้แล้ว! เดี๋ยวอาหารก็เย็นหมดหรอก… มันมีหญ้ามาตอนไหนเนี่ย!? … นี้ ยูกิ เจ้าทำอะไรแปลกๆอีกแล้วรึ?”

 

“แปลก? หยาบคาย นี้เป็นส่วนสำคัญในการสร้างดันเจี้ยนที่สมบูรณ์แบบของชั้นเลยนะ”

 

“จ้า ช่างมันเถอะ ยังไงซะ พวกเจ้าก็รีบเข้ามาล่ะ ไม่งั้นเราจะกินทุกอย่างโดยไม่รอพวกเจ้าเลย”

 

“‘คร้าบบบ/ค่าาา’”

 

เราตอบกลับแล้วก็ตามเลฟี่เข้าไปข้างใน

 

TL: ดีจิ ขอโทษที่หายไปนานนะจิ พอดีผมหมดไฟแปลนะจิ คือ ผมรอให้อิงแปลถึงฉากๆหนึ่งที่ผมรออยู่จิ แต่ว่าอิงเจ้าใหม่ที่เขารับต่อ เขาไปแปลตอนเก่าที่เขามิได้แปลเพราะเจ้าก่อนเขาแปลมิค่อยละเอียดจิ เลยทำให้ผมหมดไฟแปลเพราะจุดที่อยากอ่านมันมิถูกแปลออกมาซักทีจิ 

แต่เอาจริงๆเหตุผลพวกนั้นเป็นเป็นเหตุผลก่อนหน้านี้จิ ตอนนี้ติดเกม+ขี้เกียจจิ อิอิ >_O

แต่เหตุผลหลักๆของผมก็คืออันบนนั้นแหละจิ แต่ตอนนี้ตอนที่ผมอยากอ่านถูกแปลออกมาล่ะจิ ฟินน้อยกว่าที่คิด แต่ก็พอที่จะจุดไฟแปลของผมต่อไปได้จิ

ก็แค่นี้แหละจิ บัยจิ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 32 ปรับเปลี่ยนดันเจี้ยน 2

Now you are reading Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru Chapter 32 ปรับเปลี่ยนดันเจี้ยน 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พอผมจัดการเลฟี่ในเกมไพ่ได้ ผมก็กล่อมเด็กน้อยที่โกรธแก้มป่องเข้านอนไป และก็ออกมานอกถ้ำเพื่อทำเป้าหมายที่แท้จริง การดัดแปลงดันเจี้ยน

 

ที่ผมต้องการจะทำตอนนี้คือเพิ่มชั้นใหม่

 

“ตอนนี้ก็ เอายังไงดีน้า…”

 

ผมเลื่อนนิ้วผ่านจอควบคุม

 

พื้นที่ผมจะใส่ลงบนชั้นนี้จะเป็นพื้นหญ้า

 

ด้วยพลังปริศนาของดันเจี้ยน ทำให้ผมทำเรื่องพวกนี้ได้

 

ไอเดียตอนนี้ก็ กะจะเอาพื้นที่หลักๆเป็นหญ้าแล้วก็มีหลายๆอย่างตกแต่งอยู่ด้วยละนะ

 

ผมซื้อพื้นหญ้าที่ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆซักเท่าไหร่มาลงขั้นระหว่างพื้นที่ถ้ำกับห้องดันเจี้ยนเป็นการทดสอบ

 

“โอ้…. เป็นพื้นหญ้าจริงๆด้วย”

 

เมื่อเดินผ่านประตูออกมา ก็จะพบกับพื้นหญ้าสีเขียว สะท้อนแสงอาทิตย์สวยงาม ถึงทางเทคนิกผมจะยังอยู่ในถ้ำก็เถอะนะ 

 

มองไกลออกไปก็จะพบกับท้องฟ้าสีคราม พร้อมสายลมพัดผ่านแก้มอ่อนๆ

 

ตัวดันเจี้ยนมันมีพลังอันลึกลับแบบนี้ได้ยังไงกันนะ? แต่ผมคิดยังไงก็หาคำตอบไม่ได้

 

พอเห็นวิวแบบนี้แล้ว ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าประตูข้างหลังมันยังเชื่อมต่อไปที่ห้องดันเจี้ยนอยู่หรือเปล่า?

 

ผมเดินไปที่ประตูแล้วเปิดตรวจดูข้างใน ก็พบว่ามันยังเชื่อมต่อไปยังห้องดันเจี้ยนตามปกติอยู่

 

อิลูน่าและคนอื่นๆมองมาที่ผมอย่างงงๆ ผมจึงกลับไปทางพื้นหญ้าอีกครั้ง คราวนี้ผมเดินที่ข้างหลังของประตู แต่ตรงนั้นก็ไม่มีอะไรนอกจากตัวประตูเอง

 

…รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นลิงที่เพิ่งเคยได้เห็นกระจกเป็นครั้งแรกเลยแหะ

 

สงสัยจังว่ามันจะไปได้ลึกแค่ไหนนะ ราวกับโลกทั้งใบถูกสร้างไว้ที่นี้เลย (TL:สำหรับใครที่งงจุดนี้ ให้นึกภาพประตูเข้าห้องพระเอกเป็นประตูไปที่ไหนก็ได้ของโดราเอม่อนจิ  อ่านตัวข้างล่างถึงได้เข้าใจ เจ้าแปลอิงเจ้านี้ตัดไปเยอะเหมือนกัน เลยจะงงๆหน่อยๆ )

 

ผมได้ลองสำรวจดูแล้วก็พบว่ามันมีขอบเขตพื้นที่ของมันอยู่ มันมีกำแพงล่องหนมาขวางเอาไว้เพื่อไม่ให้ไปต่ออยู่ (TL:เหมือนว่า ประตูมันจะตั้งอยู่กลางถ้ำ มองภายนอกเหมือนจะไม่ได้เชื่อมต่อกับอะไร แต่เปิดไปจะเจอห้องพระเอกจิ)

 

ขนาดก็ประมาณ 5 กิโล โดยมีตัวประตูเป็นจุดศูนย์กลาง ความสูงก็ 1 กิโลพอดี หัวผมไปชนเข้าในขณะบินอยู่พอดี มันก็ไม่ได้เจ็บแต่ทำเอาตกใจใช้ได้อยู่

 

ผมก็มีความสุขดีที่มันใหญ่กว่าที่คิดอยู่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะขยายไปได้อีก ไว้ผมมาเพิ่มเอาที่หลังเมื่อผมคิดว่ามันเริ่มจะเล็กไปล่ะกัน

 

สิ่งต่อไปที่ผมทำคือเข้าไปที่หน้าจอตั้งค่าในเมนู มันเป็นระบบที่ทำให้ผมตกแต่งพื้นที่ที่ผมเพิ่มขึ้นมาใหม่ได้ 

 

พื้นหญ้าเปล่าๆนี้มันดูธรรมดายังไงไม่รู้… เดี๋ยวเพิ่มแม่น้ำกับภูเขาไปด้วย… โอ้ เอาสะพานข้ามแม่น้ำด้วยดีกว่า อยากได้ต้นซากุระด้วยเหมือนกันแหะ ผมชอบดอกซากุระสุดๆเลย

 

…พอนึกถึงวิวแนวนั้นแล้วก็ซักจะอยากได้บ้านสไตล์ญี่ปุ่นแล้วสิ…

 

หรือเอาเป็นเรียวกังดี? เอาด้วยล่ะกัน เดี๋ยวนะ เอาบ่อน้ำพุร้อนด้วยดีกว่า ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอาบ่อน้ำด้วยเลยล่ะกัน ก็ยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นมอนเตอร์หรือเปล่า แต่มันมีปลาคาร์ฟอยู่ในกลุ่มมอนเตอร์ด้วย งั้นผมจะลองเติมดูที่หลังแล้วกัน

 

***

 

โรงแรมเดี่ยวอยู่ข้างแม่น้ำ

 

การตกแต่งภายในนั้นดูเก่าแก่และเรียบง่ายซึ่งสร้างบรรยากาศแห่งความคิดถึง และจากระเบียงคุณสามารถมองเห็นทะเลสาบและต้นซากุระที่สวยงามที่เติมเต็มหัวใจของคุณด้วยความสงบ

 

พื้นหญ้าไกลสุดลูกหูลูกตา ปลายทางนั้นมีภูเขาตั้งสง่าอยู่

 

“…อืม ก็ไม่เลวเลยแหะ”

 

ผมถอนหายใจพลางชมวิวทิวทัศน์ไป

 

ทุกอย่างดูให้บรรยากาศสบายๆมากกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก… แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร ผมตั้งใจจะสร้างปราสาทจอมมารแยกเอาไว้ต่างหากทีหลังอยู่แล้ว อันนี้ก็ถือเป็นการฝึกมือไป

 

ใช่แล้ว ผมเป็นจอมมารแห่งการสร้างนะ ที่ผมสร้างที่นี้ขึ้นมาก็เพื่อจะให้ทุกคนได้พักผ่อนอย่างสบายๆก็เท่านั้น มันไม่เกี่ยวกับการที่ได้ใจมากไปจนเพิ่มโน้นนี้นั้นจนเปลือง DP เป็นว่าเล่น นั้นนะไม่ใช่เรื่องจริงเลย ทุกอย่างผมวางแผนเอาไว้แล้วต่างหาก

 

ใช่แล้ว เจ้าโรงแรมนี้มันเป็นก้าวแรกสู่การเป็นจอมมารของผมยังไงล่ะ มันเป็นหลักที่สำคัญต่อความทะเยอทะยานของผม ฮาๆๆๆๆๆ!!
 

ผมพูดเรื่องอะไรของผมอยู่เนี่ย

 

“มาสเตอร์ มื้อเที่ยงพร้อมแล้ว! อุ โอ้อออ!? ม-มันหายไปไหนอ่ะ!? มันควรจะเป็นถ้ำสิ… แล้วมันมีบ้านมาสร้างไว้ตอนไหนเนี่ย!?”

 

ลูอินมาเรียกผมหลังจากที่เตรียมมื้อเที่ยงเสร็จ เธอจึงโผล่หน้าออกมาจากประตู

 

แล้วก็ ประตูมันตั้งอยู่ข้างๆเรียวกังเลย เหตุผล เพราะผมอยากนะ

 

อาจจะคิดกันว่าพอทำสภาพห้องเป็นอย่างนี้แล้ว มันจะทำให้รู้สึกออกจากถ้าได้ยากขึ้น แต่เปล่าเลย

 

ผมได้ลองอะไรหลายๆอย่าง ตัวอย่างก็ ลูกบิดประตูที่จะเปลี่ยนทิวทัศน์ข้างนอกทุกครั้งที่บิด ตอนนี้ประตูห้องสามารถทำได้แล้ว ที่ต้องทำก็แค่จับลูกบิดประตูแล้วบิไปยังจุดที่ตั้งไว้ ก็จะออกไปข้างนอกโดยตรงได้ทันที

 

แต่ว่า มีคนที่เชื่อมต่อกับดันเจี้ยนเท่านั้นถึงจะใช้ระบบนี้ได้ ถ้าเลฟี่ที่ยังถูกนับว่าเป็นผู้บุกรุก หรือผู้มาใหม่ทั้งสองต้องการจะออก พวกนั้นต้องใช้ผมหรืออิลูน่าในการบิดลูกบิดประตูเพื่อออกไปสู่ด้านนอก ถึงมันจะน่ารำคาญไปหน่อยแต่ก็ช่วยไม่ได้

 

“ว่าไง ลู มื้อเที่ยงพร้อมแล้วหรอ? จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

 

ก่อนหน้านี้ หน้าที่การทำอาหารนั้น ตกเป็นของผม

 

แต่ตอนนี้เลล่าเป็นคนจัดการเรื่องพวกนี้แทนแล้ว แล้วก็เก่งใช้ได้เลยด้วย เธอเรียนรู้วิธีทำอาหารจากโลกเก่าของผมได้อย่างรวดเร็วเลย

 

ส่วนลูก็… อืมมมม เธอก็พยายามทำงานของเธออยู่ล่ะนะ

 

“อืมมม…. มาสเตอร์จะไม่อธิบายหน่อยหรอคะ!?”

 

“เอ๋? เอออ มันก็… เป็นพลังลึกลับของจอมมารนะ”

 

“ขอโทษนะคะ มาสเตอร์ ชั้นไม่เข้าใจเลยค่ะ”

 

เธอไม่เข้าใจอยู่แล้วล่ะ

 

“ก็ ถ้าพูดตรงๆ ชั้นก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน ที่จะบอกได้ก็คือ ชั้นทำได้ เพราะมันเป็นไปได้ที่จะทำ ชั้นพูดไปแค่นี้แหละ ว่าแต่ เธอเริ่มจะชินกับการใช้ชีวิตที่นี้หรือยัง ลู?”

 

ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน จึงเปลี่ยนเรื่องไป

 

“อ๊ะ ค่ะ ก็… ยังรู้สึกแปลกๆอยู่หน่อยๆล่ะค่ะ ชั้นคิดว่าชีวิตชั้นมันจบสิ้นเมื่อตอนได้เป็นทาสไปแล้วนะคะ แต่ตอนนี้ ชั้นได้รับอนุญาติให้ทำงานที่นี้ค่ะ”

 

“ฮาๆ ก็นะ ชีวิตมันเต็มไปด้วยเรื่องแปลกๆเสมอนั้นแหละ”

 

อย่างหนึ่งเลยก็คือผมได้มาต่างโลกนี้แหละ

 

“แต่ชั้นดีใจที่ได้มาที่นี้นะคะ อาหารก็อร่อย เตียงก็สะอาด แถมมีสิ่งน่าสนใจให้ทำอยู่เรื่อยๆเลยด้วย และที่มากกว่านั้น ก็คือมีท่านโมฟิร์อยู่ด้วย!! โอ้ ว่าแต่ เมื่อไหร่ท่านโมฟิร์จะกลับมาหรอคะ มาสเตอร์!?”

 

“เอ๋ เอออออ… ชั้นก็ม่ายยยยรู้สิ เจ้านั้นก็เข้าใจยากซะด้วยสิน้าาาาาาาาา”

 

“มาสเตอร์? ทำไมถึงทำเสียงไร้โทนอย่างงั้นล่ะคะ?”

 

ฟิร์ดูเหมือนจะตัดสินใจว่าเข้ากับลูไม่ค่อยได้ ผมว่าเขาคงจะไม่ไปเข้าใกล้เธอนอกซะจากผมจะเรียก

 

“นี้! รีบมากันได้แล้ว! เดี๋ยวอาหารก็เย็นหมดหรอก… มันมีหญ้ามาตอนไหนเนี่ย!? … นี้ ยูกิ เจ้าทำอะไรแปลกๆอีกแล้วรึ?”

 

“แปลก? หยาบคาย นี้เป็นส่วนสำคัญในการสร้างดันเจี้ยนที่สมบูรณ์แบบของชั้นเลยนะ”

 

“จ้า ช่างมันเถอะ ยังไงซะ พวกเจ้าก็รีบเข้ามาล่ะ ไม่งั้นเราจะกินทุกอย่างโดยไม่รอพวกเจ้าเลย”

 

“‘คร้าบบบ/ค่าาา’”

 

เราตอบกลับแล้วก็ตามเลฟี่เข้าไปข้างใน

 

TL: ดีจิ ขอโทษที่หายไปนานนะจิ พอดีผมหมดไฟแปลนะจิ คือ ผมรอให้อิงแปลถึงฉากๆหนึ่งที่ผมรออยู่จิ แต่ว่าอิงเจ้าใหม่ที่เขารับต่อ เขาไปแปลตอนเก่าที่เขามิได้แปลเพราะเจ้าก่อนเขาแปลมิค่อยละเอียดจิ เลยทำให้ผมหมดไฟแปลเพราะจุดที่อยากอ่านมันมิถูกแปลออกมาซักทีจิ 

แต่เอาจริงๆเหตุผลพวกนั้นเป็นเป็นเหตุผลก่อนหน้านี้จิ ตอนนี้ติดเกม+ขี้เกียจจิ อิอิ >_O

แต่เหตุผลหลักๆของผมก็คืออันบนนั้นแหละจิ แต่ตอนนี้ตอนที่ผมอยากอ่านถูกแปลออกมาล่ะจิ ฟินน้อยกว่าที่คิด แต่ก็พอที่จะจุดไฟแปลของผมต่อไปได้จิ

ก็แค่นี้แหละจิ บัยจิ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+