Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 46 ความทะเยอทะยานของยูกิ ปัญหาด้านพลังเวท

Now you are reading Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru Chapter 46 ความทะเยอทะยานของยูกิ ปัญหาด้านพลังเวท at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เอาละ ลู? มีอะไรจะพูดไหมคะ?”

 

ลูกับผมกลับมาที่ห้องบัลลังก์ ก็พบกับเลล่าที่ดักอยู่หน้าทางเข้า เธอยิ้มออกมา แต่ดูเป็นรอยยิ้มที่ไม่ให้ความรู้สึกที่ดีเท่าไหร่เลย

 

“อ-เอ่อ… ม-มันไม่ใช่ความผิดของชั้นนะ…”

“ฉันบอกให้เธอกลับมาทันทีที่ตากผ้าเสร็จเพราะฉันมีงานอื่นให้เธอช่วยอยู่นะคะ”

“ช-ชั้นรู้น่า แต่ชั้นสาบานได้เลยนะว่าชั้นต้องโดนเวทมนต์อะไรซักอย่างแน่! ชั้นวางแผนที่จะรีบกลับมาทันทีที่ตากผ้าเสร็จ แต่แล้วก็โดนดึงดูดความสนใจไปนะ! ช-ชั้นสาบานได้นะว่าไม่ได้ตั้งใจแอบอู้นะ! ชั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นแบบนี้ได้ไงอะ!”

“ลู หยุดแก้ตัวได้แล้วคะ ยังไงเธอก็ต้องรับผิดชอบต่องานที่ละเลยไปคะ”

“ถ-ถ้าเธอได้เห็นเธอต้องเข้าใจแน่เลล่า! ไอเรื่องที่ชั้นไปเห็นมามันสุดยอดมากเลยนะ! เอาน่า ฟังหน่อยเถอะน้าา!”

“ฉันว่าฉันฟังมามากพอแล้วคะ”

“หา!? ด-เดี๋ยวสิ จะพาชั้นไปไหนนะ? เลล่า? เลล่าคะ!? ปล่อยชั้นนะ! เลล่าาาาา!?”

 

ลูพยายามดิ้นรน แต่มันก็เปล่าประโยชน์ เธอโดนลากไปอย่างง่ายดาย ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสายน้อยที่น่าสงสารคนนั้นจะต้องพบเจออะไรจากเลล่าบ้าง แต่ผมบอกได้เลยว่าถ้าไปยุ่งผมตายด้วยแน่ ผมจึงได้แต่ยิ้มส่งสองคนนั้นที่เดินจากไป

 

เมื่อทั้งสองหายไปจากสายตาแล้ว ผมจึงหันไปทางเลฟี่ที่ตอนนี้เอาหน้าซุกหมอนไว้อยู่

 

“เอ่… เอ่อ… ว่าไง เออ… เลฟี่” ถึงจะตะกุกตะกักแต่ผมก็พูดจนจบประโยคได้ “ธ-เธอจะว่าอะไรไหมถ้าชั้นจะถามอะไรหน่อยนะ?”

“ห-หือ!? เอ่อ… อ-อืม… ได้สิ” เลฟี่กลอกตาไปมาอย่างเป็นกังวล แต่ก็สามารถสงบจิตสงบใจลงได้จนพูดได้เป็นปกติมากที่สุดเท่าที่เธอทำได้  

“ร-เราจะตอบให้ตราบใดที่มันเป็นสิ่งที่เรารู้ละนะ”

 

“ข-ขอบใจ เธอรู้วิธีที่จะเพิ่มค่าสูงสุดของพลังเวทบ้างไหม?”

 

เหตุผลเดียวที่ผมกลับมาก็เพราะจะถามเธอเรื่องนี้แหละ ผมก็อยากจะสร้างปราสาทจิ๋วของตัวเองต่ออยู่หรอก แต่พลังเวทผมหมดก่อนนี้สิ ฝึกแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็หายเกลี้ยงแล้ว อย่างนี้ทำปราสาทใหญ่ทั้งหลังไม่ได้แน่

 

แต่ผมก็ไม่ได้สร้างปราสาทอยู่ตลอดเวลาหรอกนะ ผมได้พักก่อนที่ลูจะโผล่มาอยู่ช่วงหนึ่ง และก็อีกรอบหนึ่งตอนที่อิลูน่าและชิอิที่เล่นกันอยู่มาร่วมด้วย ทั้งสองก็ล่นกันมาตลอดจนมาสนใจปราสาทที่ผมสร้างเอาไว้จึงหยุดเล่นกัน พอเห็นอิลูน่าผมก็รู้สึกอยากจะสร้างอะไรที่ทำให้เธอสนุก มีความสุข แล้วก็คิดได้ว่าไหนๆก็ไหนๆแล้วทำให้ลูด้วยเลยละกัน ผมก็เลยสร้างตุ๊กตาสัตว์ใส่ชุดน่ารักๆอาศัยอยู่ในบ้านเหมือนกับบ้านตุ๊กตาบาร์บี้ จนพลังเวทผมหมด ผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่พลังเวทมันหมดทำให้ผมฝึกต่อไม่ได้ แต่ได้เห็นรอยยิ้มของสองสาวก็รู้สึกคุ้มค่าที่ได้ทำอยู่เหมือนกัน

 

“เจ้าอยากจะเพิ่มพลังเวทงั้นหรอ? แต่ที่เจ้ามีก็เยอะกว่าคนปกติไปหลายเท่าแล้วนะ?” เลฟี่มองผมอย่างสงสัย

“เจ้าจะร่ายเวทมนต์ต้องห้ามหรือยังไงกัน?”

“เปล่า แค่ไอที่มีอยู่มันไม่พอจะทำในสิ่งที่ชั้นอยากทำนะ ถึงมันจะเพิ่มผ่านการเลเวลอัพได้ก็เถอะ แต่ชั้นก็อยากจะแบบ ออกกำลังหรือฝึกฝน อะไรพวกนี้บ้างนะ”

 

การออกกำลังกายมันช่วยเพิ่มค่าพละกำลังของผม ดังนั้นทางพลังเวทก็น่าจะมีเหมือนกัน

 

“หืมมมมม…” เลฟี่หยุดคิดไปแปปหนึ่ง “เราจะให้เจ้ายืมพลังเวทของเราก็ได้ มันจะช่วยเพิ่มได้เป็นช่วงเวลาหนึ่งนะ”

“เธอทำได้หรอ?”

“ของหมูๆ นึกถึงวิธีที่เราสอนเจ้าใช้เวทมนต์ดูสิ เจ้าทำวิธีที่เราส่งพลังเวทไปไหลเวียนในร่างเจ้าได้ไหม?”

“อืม?”

 

เท่าที่จำได้มันเป็นอะไรที่ทำหัวแทบระเบิดไปเลยละ

 

“การให้ยืมพลังเวท มันก็มีวิธีที่คล้ายกันนั้นแหละ สิ่งที่แตกต่างก็คือเราจะส่งพลังเวทเข้าตัวเจ้าแทนที่จะเป็นการไหลผ่านแทน”

“ฟังดูเจ๋งดีแหะ เธอคิดว่าชั้นจะทำอย่างนั้นได้บ้างเปล่า?”

“เจ้า ณ ตอนนี้ยังไม่ได้หรอก สิ่งแรกที่เจ้าต้องไปฝึกเลยคือการควบคุม” เลฟี่แสยะยิ้ม 

“ไม่ต้องถึงระดับเราหรอก แต่เจ้าก็ยังต้องฝึกอีกเยอะ การให้ยืมพลังเวทนั้นต้องปรับคลื่นพลังของตนให้เท่ากับพลังของคนที่จะให้ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่าย”

 

เธอดึงใบหน้าแบบภาคภูมิใจกลับมาได้อีกครั้ง ดูเหมือนจะกลับเป็นปกติได้แล้วสินะ

 

“เข้าใจละ งั้น ถ้าชั้นอยากให้ช่วยเมื่อไหร่แล้วจะมาหานะ”

“จำไว้ด้วยละว่าบริการของเรามันมีราคานะ”

“ก็ได้ จะเอาอะไรละ?”

“เรารับเป็นโดนัทก็ได้”

“ได้สิ”

 

ความอยากของหวานของเลฟี่ก็ยังคงสูงเหมือนเดิม ผมไม่เข้าใจเลยแหะว่าเธอสามารถกินของหวานได้ทุกโอกาศที่มีได้ยังไงกัน ถ้าเป็นผม ผมคงเบื่อพวกมันไปนานแล้ว  

ของโปรดตลอดกาลของเธอก็ยังคงเป็นช็อกโกแล็ต ซึ่งเวลาเธอกิน เธอก็จะตอดไปที่ละนิดที่ละหน่อย เพื่อให้ได้กินได้นานที่สุด

 

“การยืมพลังเวทเราไม่ใช่เพียงวิธีเดียวหรอกนะ เจ้าสามารถฝึกยิงเวทมนต์ที่กินพลังเวทสูงจนพลังหมดเป็นประจำทุกวันก็ได้ ซึ่งเราว่าเจ้าก็ทำเรื่องพวกนี้ไปอยู่แล้วนะ”

“หมายถึงเจ้ามังกรน้ำนั้นนะหรอ?”

“ใช่ เจ้านั้นแหละ” เลฟี่พยักหน้า “ฝึกอย่างนั้นต่อไปเรื่อยแล้ว และจะไม่ใช่พลังเวทอย่างเดียวที่พัฒนาขึ้น การควบคุมของเจ้าก็เช่นกัน”

“เข้าใจละ”

 

เอาจากใจเลยนะ ผมก็ยังไม่ค่อยพอใจกับเวทมังกรน้ำของตัวเองเท่าไหร่ ทั้งที่มันควรจะเป็นน้ำร้อนแท้ๆ แต่ผมขาดความสามารถในการควบคุมทั้งรูปร่างและอุณหภูมิ โดยเฉพาะกับการที่ต้องเอาเวทดินมาผสมเข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มพลังมันขึ้นมา ผมก็ฝึกมันไประดับหนึ่ง แต่ก็ไม่เคยถึงระดับพลังเวทหมดเลย วันนี้เป็นครั้งแรกเลยด้วยซ้ำที่พลังหมด  

ซึ่งผมก็คงจะยังไม่ฝึกกับพวกนี้ไปอีกซักเท่าไหร่หรอก เพราะเวทสร้างมันก็กินพลังเวทไม่ต่างกัน แถมยังรู้สึกใช้เวลาคุ้มกว่าด้วย แถมการสร้างปราสาทแต่ละหลังก็ช่วยเรื่องการนึกภาพ จินตนาการรายละเอียดอีกต่างหาก  

 

“ขอบคุณนะเลฟี่ เป็นคำแนะนำที่ดีมากเลย”

“ม-มันก็ไม่ได้เป็นอะไรนิ ร-เราก็ยินดีนะที่เจ้าเห็นมันเป็นประโยชน์นะ”

 

เลฟี่ตื่นตัวพร้อมหน้าแดงเล็กน่อย ท่าทางของเธอนั้นน่ารักและมีเสน่ห์จนผมอดจะชื่นชมมันไม่ได้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 46 ความทะเยอทะยานของยูกิ ปัญหาด้านพลังเวท

Now you are reading Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru Chapter 46 ความทะเยอทะยานของยูกิ ปัญหาด้านพลังเวท at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เอาละ ลู? มีอะไรจะพูดไหมคะ?”

 

ลูกับผมกลับมาที่ห้องบัลลังก์ ก็พบกับเลล่าที่ดักอยู่หน้าทางเข้า เธอยิ้มออกมา แต่ดูเป็นรอยยิ้มที่ไม่ให้ความรู้สึกที่ดีเท่าไหร่เลย

 

“อ-เอ่อ… ม-มันไม่ใช่ความผิดของชั้นนะ…”

“ฉันบอกให้เธอกลับมาทันทีที่ตากผ้าเสร็จเพราะฉันมีงานอื่นให้เธอช่วยอยู่นะคะ”

“ช-ชั้นรู้น่า แต่ชั้นสาบานได้เลยนะว่าชั้นต้องโดนเวทมนต์อะไรซักอย่างแน่! ชั้นวางแผนที่จะรีบกลับมาทันทีที่ตากผ้าเสร็จ แต่แล้วก็โดนดึงดูดความสนใจไปนะ! ช-ชั้นสาบานได้นะว่าไม่ได้ตั้งใจแอบอู้นะ! ชั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นแบบนี้ได้ไงอะ!”

“ลู หยุดแก้ตัวได้แล้วคะ ยังไงเธอก็ต้องรับผิดชอบต่องานที่ละเลยไปคะ”

“ถ-ถ้าเธอได้เห็นเธอต้องเข้าใจแน่เลล่า! ไอเรื่องที่ชั้นไปเห็นมามันสุดยอดมากเลยนะ! เอาน่า ฟังหน่อยเถอะน้าา!”

“ฉันว่าฉันฟังมามากพอแล้วคะ”

“หา!? ด-เดี๋ยวสิ จะพาชั้นไปไหนนะ? เลล่า? เลล่าคะ!? ปล่อยชั้นนะ! เลล่าาาาา!?”

 

ลูพยายามดิ้นรน แต่มันก็เปล่าประโยชน์ เธอโดนลากไปอย่างง่ายดาย ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสายน้อยที่น่าสงสารคนนั้นจะต้องพบเจออะไรจากเลล่าบ้าง แต่ผมบอกได้เลยว่าถ้าไปยุ่งผมตายด้วยแน่ ผมจึงได้แต่ยิ้มส่งสองคนนั้นที่เดินจากไป

 

เมื่อทั้งสองหายไปจากสายตาแล้ว ผมจึงหันไปทางเลฟี่ที่ตอนนี้เอาหน้าซุกหมอนไว้อยู่

 

“เอ่… เอ่อ… ว่าไง เออ… เลฟี่” ถึงจะตะกุกตะกักแต่ผมก็พูดจนจบประโยคได้ “ธ-เธอจะว่าอะไรไหมถ้าชั้นจะถามอะไรหน่อยนะ?”

“ห-หือ!? เอ่อ… อ-อืม… ได้สิ” เลฟี่กลอกตาไปมาอย่างเป็นกังวล แต่ก็สามารถสงบจิตสงบใจลงได้จนพูดได้เป็นปกติมากที่สุดเท่าที่เธอทำได้  

“ร-เราจะตอบให้ตราบใดที่มันเป็นสิ่งที่เรารู้ละนะ”

 

“ข-ขอบใจ เธอรู้วิธีที่จะเพิ่มค่าสูงสุดของพลังเวทบ้างไหม?”

 

เหตุผลเดียวที่ผมกลับมาก็เพราะจะถามเธอเรื่องนี้แหละ ผมก็อยากจะสร้างปราสาทจิ๋วของตัวเองต่ออยู่หรอก แต่พลังเวทผมหมดก่อนนี้สิ ฝึกแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็หายเกลี้ยงแล้ว อย่างนี้ทำปราสาทใหญ่ทั้งหลังไม่ได้แน่

 

แต่ผมก็ไม่ได้สร้างปราสาทอยู่ตลอดเวลาหรอกนะ ผมได้พักก่อนที่ลูจะโผล่มาอยู่ช่วงหนึ่ง และก็อีกรอบหนึ่งตอนที่อิลูน่าและชิอิที่เล่นกันอยู่มาร่วมด้วย ทั้งสองก็ล่นกันมาตลอดจนมาสนใจปราสาทที่ผมสร้างเอาไว้จึงหยุดเล่นกัน พอเห็นอิลูน่าผมก็รู้สึกอยากจะสร้างอะไรที่ทำให้เธอสนุก มีความสุข แล้วก็คิดได้ว่าไหนๆก็ไหนๆแล้วทำให้ลูด้วยเลยละกัน ผมก็เลยสร้างตุ๊กตาสัตว์ใส่ชุดน่ารักๆอาศัยอยู่ในบ้านเหมือนกับบ้านตุ๊กตาบาร์บี้ จนพลังเวทผมหมด ผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่พลังเวทมันหมดทำให้ผมฝึกต่อไม่ได้ แต่ได้เห็นรอยยิ้มของสองสาวก็รู้สึกคุ้มค่าที่ได้ทำอยู่เหมือนกัน

 

“เจ้าอยากจะเพิ่มพลังเวทงั้นหรอ? แต่ที่เจ้ามีก็เยอะกว่าคนปกติไปหลายเท่าแล้วนะ?” เลฟี่มองผมอย่างสงสัย

“เจ้าจะร่ายเวทมนต์ต้องห้ามหรือยังไงกัน?”

“เปล่า แค่ไอที่มีอยู่มันไม่พอจะทำในสิ่งที่ชั้นอยากทำนะ ถึงมันจะเพิ่มผ่านการเลเวลอัพได้ก็เถอะ แต่ชั้นก็อยากจะแบบ ออกกำลังหรือฝึกฝน อะไรพวกนี้บ้างนะ”

 

การออกกำลังกายมันช่วยเพิ่มค่าพละกำลังของผม ดังนั้นทางพลังเวทก็น่าจะมีเหมือนกัน

 

“หืมมมมม…” เลฟี่หยุดคิดไปแปปหนึ่ง “เราจะให้เจ้ายืมพลังเวทของเราก็ได้ มันจะช่วยเพิ่มได้เป็นช่วงเวลาหนึ่งนะ”

“เธอทำได้หรอ?”

“ของหมูๆ นึกถึงวิธีที่เราสอนเจ้าใช้เวทมนต์ดูสิ เจ้าทำวิธีที่เราส่งพลังเวทไปไหลเวียนในร่างเจ้าได้ไหม?”

“อืม?”

 

เท่าที่จำได้มันเป็นอะไรที่ทำหัวแทบระเบิดไปเลยละ

 

“การให้ยืมพลังเวท มันก็มีวิธีที่คล้ายกันนั้นแหละ สิ่งที่แตกต่างก็คือเราจะส่งพลังเวทเข้าตัวเจ้าแทนที่จะเป็นการไหลผ่านแทน”

“ฟังดูเจ๋งดีแหะ เธอคิดว่าชั้นจะทำอย่างนั้นได้บ้างเปล่า?”

“เจ้า ณ ตอนนี้ยังไม่ได้หรอก สิ่งแรกที่เจ้าต้องไปฝึกเลยคือการควบคุม” เลฟี่แสยะยิ้ม 

“ไม่ต้องถึงระดับเราหรอก แต่เจ้าก็ยังต้องฝึกอีกเยอะ การให้ยืมพลังเวทนั้นต้องปรับคลื่นพลังของตนให้เท่ากับพลังของคนที่จะให้ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่าย”

 

เธอดึงใบหน้าแบบภาคภูมิใจกลับมาได้อีกครั้ง ดูเหมือนจะกลับเป็นปกติได้แล้วสินะ

 

“เข้าใจละ งั้น ถ้าชั้นอยากให้ช่วยเมื่อไหร่แล้วจะมาหานะ”

“จำไว้ด้วยละว่าบริการของเรามันมีราคานะ”

“ก็ได้ จะเอาอะไรละ?”

“เรารับเป็นโดนัทก็ได้”

“ได้สิ”

 

ความอยากของหวานของเลฟี่ก็ยังคงสูงเหมือนเดิม ผมไม่เข้าใจเลยแหะว่าเธอสามารถกินของหวานได้ทุกโอกาศที่มีได้ยังไงกัน ถ้าเป็นผม ผมคงเบื่อพวกมันไปนานแล้ว  

ของโปรดตลอดกาลของเธอก็ยังคงเป็นช็อกโกแล็ต ซึ่งเวลาเธอกิน เธอก็จะตอดไปที่ละนิดที่ละหน่อย เพื่อให้ได้กินได้นานที่สุด

 

“การยืมพลังเวทเราไม่ใช่เพียงวิธีเดียวหรอกนะ เจ้าสามารถฝึกยิงเวทมนต์ที่กินพลังเวทสูงจนพลังหมดเป็นประจำทุกวันก็ได้ ซึ่งเราว่าเจ้าก็ทำเรื่องพวกนี้ไปอยู่แล้วนะ”

“หมายถึงเจ้ามังกรน้ำนั้นนะหรอ?”

“ใช่ เจ้านั้นแหละ” เลฟี่พยักหน้า “ฝึกอย่างนั้นต่อไปเรื่อยแล้ว และจะไม่ใช่พลังเวทอย่างเดียวที่พัฒนาขึ้น การควบคุมของเจ้าก็เช่นกัน”

“เข้าใจละ”

 

เอาจากใจเลยนะ ผมก็ยังไม่ค่อยพอใจกับเวทมังกรน้ำของตัวเองเท่าไหร่ ทั้งที่มันควรจะเป็นน้ำร้อนแท้ๆ แต่ผมขาดความสามารถในการควบคุมทั้งรูปร่างและอุณหภูมิ โดยเฉพาะกับการที่ต้องเอาเวทดินมาผสมเข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มพลังมันขึ้นมา ผมก็ฝึกมันไประดับหนึ่ง แต่ก็ไม่เคยถึงระดับพลังเวทหมดเลย วันนี้เป็นครั้งแรกเลยด้วยซ้ำที่พลังหมด  

ซึ่งผมก็คงจะยังไม่ฝึกกับพวกนี้ไปอีกซักเท่าไหร่หรอก เพราะเวทสร้างมันก็กินพลังเวทไม่ต่างกัน แถมยังรู้สึกใช้เวลาคุ้มกว่าด้วย แถมการสร้างปราสาทแต่ละหลังก็ช่วยเรื่องการนึกภาพ จินตนาการรายละเอียดอีกต่างหาก  

 

“ขอบคุณนะเลฟี่ เป็นคำแนะนำที่ดีมากเลย”

“ม-มันก็ไม่ได้เป็นอะไรนิ ร-เราก็ยินดีนะที่เจ้าเห็นมันเป็นประโยชน์นะ”

 

เลฟี่ตื่นตัวพร้อมหน้าแดงเล็กน่อย ท่าทางของเธอนั้นน่ารักและมีเสน่ห์จนผมอดจะชื่นชมมันไม่ได้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+