Midterm Fantasy 233

Now you are reading Midterm Fantasy Chapter 233 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
สิ่งที่แอสคาลอนต้องการ

“เจ้าชายพูดเรื่องอะไรกันคะ แพทงงไปหมดแล้ว” เด็กสาวปฏิเสธ

“คุณแพท เมื่อครู่ที่เรามาที่นี่และผมร้องบอกความผิดปกติ คุณสามารถบอกตำแหน่งและจำนวนของศัตรูได้ บ่งบอกว่าคุณมีสกิล ‘แผนที่รบ’ คุณสามารถโจมตีได้แม่นยำทั้งที่อยู่ในที่มืด เพราะคุณมองเห็นพลังชีวิตของศัตรู” เจ้าชายยิ้มบอก “คุณเองก็เป็นบอกเมื่อครู่เองนี่ว่าคุณใช้แผนที่รบได้”

“ขณะต่อสู้ คุณยังสามารถใช้เวทได้หลายสายพร้อมๆกัน ไม่ว่าลม ไฟ ดิน รักษา น้ำแข็ง อัญเชิญ ซึ่งยากจะทำได้ในจอมเวททั่วไป แต่ไม่ใช่เรื่องยากหากเป็นนักรบมังกร”

“ในการต่อสู้ คุณใช้ดาบเล่มโตฟันร่างศัตรูขาดได้พร้อมกันสามคน แสดงว่าคุณมีพละกำลังที่ได้จากการเก็บเลเวลและใช้Bonus stat อ๊ะ คุณแพท เป็นอะไรไป”

เด็กสาวหน้าซีดยืนเซมือชา เมื่อได้ยินคำกล่าวของเจ้าชาย ทอดสายตาไป ซากศพที่เธอเพิ่งสังหารยังอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มตรงเข้าไปประคองไว้ในอ้อมแขนเมื่อเห็นว่าแพททำท่าจะล้ม

“ข้าแต่เทพไฮจิเน่ ได้โปรดรักษา [Heal]”

แสงสว่างเรืองขึ้นที่ศีรษะของเด็กสาว เธอหายใจเข้าออกช้าๆและค่อยๆสงบจิตใจ

“ขอบคุณค่ะ”

“เวทรักษาไม่ใช่เวทที่ข้าถนัด ต้องขอโทษด้วย”

เจ้าชายดันร่างของแพทออกจากวงแขนทันทีเมื่อเห็นว่าเด็กสาวอาการดีขึ้น

“อันที่จริงเรื่องสถานะนักรบมังกรของคุณทั้งสองคน ท่านพ่อและบรรดามาร์จิสเตอร์ทั้งหลายสงสัยกันอยู่แล้ว หากแต่ยังไม่มีข้อยืนยันชัดเจน ท่านพ่อจึงส่งให้ข้ามาลองสังเกตดู ร่วมกับให้มีการตั้งค่ายทหารประจำ เพื่อสะดวกต่อการเฝ้าสังเกต จนพบว่า สินค้าของร้าน ARMAMENT ขนส่งมาได้โดยไม่มีที่มาที่ไป , พวกคุณทั้งสองคนไม่เคยนอนตอนกลางคืน , และช่วงเวลาก่อนเที่ยงวันและก่องเที่ยงคืน พวกคุณมักจะขอตัวหลบสายตาผู้คนเป็นช่วงสั้นๆก่อนจะกลับมาอีกครั้ง ทั้งหมดนี่ทำให้เราสงสัยกัน

“ประกอบกับเมื่อตอนที่คุณรอนกำจัดดราซัคได้ ทางศาสนจักรได้ส่งคนไปตรวจพื้นที่เพื่อเก็บลูกแก้วศิลานักปราชญ์ แต่ปรากฎว่าลูกแก้วศิลานักปราชญ์ของดราซัคกลับหายไปพร้อมกับคุณรอน หลังจากนั้นหลายเดือน คุณรอนก็กลับมาพร้อมคุณแพท” เจ้าชายกล่าว “ดังนั้นถ้าข้าเดาไม่ผิด ศิลานักปราญ์แห่งความมืดชิ้นนั้นตอนนี้ก็อยู่กับคุณแพทนี่แหละ”

เด็กสาวจ้องหน้าเจ้าชายไม่รู้จะพูดอะไรต่อ การต่อสู้โดยรอบจบลงแล้ว และทหารเกราะดำเหล่านั้นก็ค่อยๆเดินเข้ามาล้อมรอบเจ้าชายเพื่อคุ้มกัน เพิ่มความอึดอัดให้กับแพทขึ้นไปอีก

เพราะในกายของเธอมีศิลานักปราชญ์แห่งความมืด อันเป็นศัตรูกับอาณาจักรนี้

“ก่อนที่คุณแพทจะเตลิดไปไกล ใจเย็นๆฟังข้าก่อน” เจ้าชายยิ้มและชี้ให้เด็กสาวนั่งลงที่พื้น “นั่งลงๆแล้วค่อยๆคุยกัน”

แพทนั่งลงอย่างว่าง่าย

“ประการแรก การแบ่งศิลานักปราชญ์เป็นความสว่างและความมืดมันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ในภาวะสงบสุขนักรบมังกรทั้งสองฝ่ายเป็นมิตรที่ร่วมมือกัน การต่อสู้ระหว่างเผ่าอันเดทและเผ่ามนุษย์เพิ่งเกิดขึ้นไม่ถึง100ปีที่ผ่านมา ดังนั้นขอแค่คุณแพทอยู่ข้างเรา จะเป็นศิลานักปราชญ์ฝั่งใดก็ไม่มีปัญหา”

“ประการที่สอง ปกติแล้วผู้ที่จะใช้ศิลานักปราชญ์ฝั่งความมืดได้ จะต้องเป็นเผ่าอีวิล อันเดท หรือเผ่าพันธุ์สายเลือดของผู้ที่ราชาอันเดทยินยอม กรณีคุณแพท…” เจ้าชายชะงักลง เขาจะพูดต่อไป แต่เมื่อเห็นใบหน้าของเด็กสาวที่มองมาอย่างใสซื่อแล้ว เจ้าชายตัดสินใจข้ามข้อนี้ไป

“ช่างเถอะ เอาเป็นว่า ที่ท่านพ่อให้ข้าเดินทางมาที่นี่และนำลูกแก้วไพล่อนมา ก็เพราะท่านพ่อคาดไว้ว่าคุณแพทเป็นนักรบมังกร” เจ้าชายบอก “เราจึงอยากจะฝากลูกแก้วไพล่อน อันเป็นความหวังในยามฉุกเฉินของอาณาจักรไว้ที่หมู่บ้านนี้ หากมีเหตุคับขันที่นักรบมังกรของเราไม่อาจมาถึงที่นี่ได้ คุณแพทจะเป็นไพ่ลับของอาณาจักรเรา”

เด็กสาวถอนหายใจออกอย่างโล่งอก

“ว่าแต่คุณแพท”

“คะ”

“เรื่องที่เราคุยกันเมื่อครู่นี้ คุณแพทมั่นใจว่าจะเลือกเช่นนั้นจริงๆหรือ กับความรักที่มีคู่แข่งอีก2คน” เจ้าชายถาม “ทั้งที่รู้ตัวว่ามีคนที่รักอยู่แล้วแต่กลับปล่อยให้เรื่องมันเลยเถิดมาเช่นนี้ แล้วก็ไม่เลือกให้เด็ดขาด ทำให้ฝ่ายหญิงต้องเป็นฝ่ายรอเช่นนี้”

“อันที่จริง ที่รอนเค้าลังเลก็มีเหตุผลของเขา ผู้หญิงสองคนนั้นเป็นคนที่รอนผ่านอะไรมาด้วยกันหลายอย่าง ผ่านช่วงเวลาความเป็นความตายมาด้วยกัน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันเป็นความรู้สึกจริงๆของทั้งสามคนนั้น” แพทกล่าว

“แล้วคุณแพทยินดีให้เป็นแบบนี้หรือ” ชายหนุ่มถามย้ำ “กับความสัมพันธ์ที่มันไม่ชัดเจนเช่นนี้”

“แพทเลือกแบบนี้ค่ะ” เด็กสาวยืนยันการตัดสินใจของตน

เจ้าชายถอนหายใจ

“ข้าเคารพในการตัดสินใจของคุณแพท ถ้าคุณแพทตัดสินใจโดยไตร่ตรองข้อมูลรอบด้านก็นับว่าถูกต้องแล้ว… ต่อจากนี้หากไม่มีสัญญาณความเปลี่ยนแปลงใด ข้าจะไม่เซ้าซี้ถามเรื่องนี้กับคุณแพทอีก”  เจ้าชายบอก “และข้าก็ขอยืนยันอีกครั้งว่าความรู้สึกที่ข้ามีต่อท่านนั้นเป็นความรู้สึกที่จริงแท้แน่นอน”

แพทหัวเราะเบาๆ

“คุณแพทหัวเราะอะไรหรือ”

“เจ้าชายดีโอน่ะ จะว่าไปก็เหมือนกับตารอน”

“เอ๊ะ”

“เถรตรงเรื่องความสัมพันธ์กับผู้หญิง ทั้งซื่อทั้งเถรตรงจนเรียกว่าเซ่อเลยก็ได้”

“พรืดดดดดดด” องค์รักษ์เพรเตอร์เรี่ยนทั้งหลายที่คุ้มกันอยู่หลุดหัวเราะออกมา

ก็ถูกของแพทนั่นแหละ มีอย่างที่ไหน ได้โอกาสขนาดนี้แล้วแท้ๆ แทนที่จะเร่งทำคะแนนให้ตนเอง กลับไปกางข้อดีข้อเสียของอีกฝ่ายจากนั้นแนะนำให้ผู้หญิงคิดแล้วตัดสินใจเลือกแบบแฟร์ๆ

“ก็ข้าชอบเจ้าที่เป็นแบบนี้เป็นตัวของตัวเอง ข้าก็อยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเจ้า และอยากให้เจ้าเป็นคนเลือกเองนี่” เจ้าชายดีโอตัดพ้อ

“แต่ก็แบบนี้แหละค่ะ นิสัยแบบนี้แหละน่ารักดี”​ แพทโปรยยิ้มออกมา “ตรงไปตรงมา มีอะไรรู้สึกอะไรก็พูดกันตรงๆ”

“และเพราะแบบนี้แพทก็เลยรักรอนเค้า”​

“กลับกันเถอะค่ะ มีเสียงการต่อสู้แบบนี้ถ้าเราหายไปนานทุกคนจะเป็นห่วงได้”

เด็กสาวลุกขึ้นแล้วเอื้อมมือไปดึงเจ้าชายดีโอให้ลุกตาม ทั้งสองรวมทั้งองครักษ์เพรเตอร์เรี่ยนบางส่วนเดินตามไปส่งจนถึงทางเข้าหมู่บ้าน ทางเข้าซึ่งตอนนี้มืดมิด นอกจากแสงไฟทางเข้าแล้วภายในหมู่บ้านล้วนมืดสนิท

“คุณแพท เมื่อครู่มีอะไรหรือเปล่าครับ เราได้ยินเสียงดังมาจากด้านโน้น” คนที่เฝ้ายามถาม

“ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดี” เด็กสาวตอบ

“ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณแพทที่ถนนหลักของหมู่บ้านเลยครับ ใกล้ได้เวลาแล้ว ทุกคนรออยู่”

ชาวบ้านอีกคนเดินนำแพทไปอย่างตื่นเต้นจนลืมสนใจเจ้าชายดีโอ

“มีอะไรหรือคุณแพท แล้วทำไมถึงมืดเช่นนี้”

“ที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ยังไงคะ วันนี้เราจะทดสอบระบบไฟส่องสว่างของเมือง”

“ระบบไฟส่องสว่าง แบบโคมเวทมนตร์น่ะรึ” ชายหนุ่มถาม “แล้วเหตุใดต้องดับไฟมืดเช่นนี้ด้วย”

“ตามมาดูเองดีกว่าค่ะ” แพทดึงมือเจ้าชายให้ตามเข้าไป

ที่ถนนสายหลัก ทั้งชาวบ้านและนักเดินทางต่างถิ่นต่างยืนรอดูชมพิธีเปิดท่ามกลางความมืดมิด เมื่อแพทเดินมาถึง มาเรียก็อ่านประกาศจบพอดี เด็กสาวส่งสัญญาณให้แพทที่ยืนอยู่ตรงเสาสะพานไฟ  แพทสับสะพานไฟลง

พรึ่บ

หลอดไฟแอลอีดีนับร้อยที่ติดตั้งทั่วถนน ส่องสว่างขึ้นพร้อมกัน จากความมืดมิดจนมองอะไรแทบไม่เห็นเปลี่ยนเป็นความสว่างดุจดั่งเวลากลางวัน เสียงโห่ร้องยินดีและตื่นเต้นของชาวบ้านดังทั่ว

ไม่ใช่เพียงเพราะแสงสว่างที่เจิดจ้าในเมือง

แต่เป็นเพราะมันคือแสงสว่างที่เกิดจากการสร้างด้วยมือของพวกเขา(จริงๆคือด้วยเท้าจากการปั่นไฟ)

เป็นแสงสว่างยามค่ำคืนที่แม้แต่ในเมืองหลวงวาเลยเทียก็มิอาจเลียนแบบได้

“นี่ไงคะ ไฟส่องสว่าง” เด็กสาวยิ้มให้กับเจ้าชาย เจ้าชายดีโอนิ่งไปอึดใจหนึ่งแล้วก็นึกได้ เขาล้วงหยิบม้วนหนังออกมาจากเสื้อ

“นักรบมังกรแพท นี่คือวิธีใช้ลูกแก้วไพล่อนเปิดประตูมิติ ข้า ขอฝากหน้าที่สำคัญนี้ไว้กับท่านด้วย”

แพทรับเอาม้วนหนังนั้นไป ขณะที่เจ้าชายดีโอหันกลับมามองรอบๆตัว มองดูแสงสว่างที่สาดส่องไปทั่วทั้งเมืองยามโพล้เพล้

หมู่บ้านนี้มีอะไรให้เขาประหลาดใจได้มากมายจริงๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด