Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ 234

Now you are reading Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ Chapter 234 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แม้นว่าทั้งสองจะวิพากษ์ว่า ไฮ่เฉินเฟิง แข็งแกร่งเกินกว่าพวกเขา พวกเขาก็ยังคิดว่า เขาคงจะไม่ตั้งใจและไม่กล้ากระทำหุนหัน  ความจริงแล้ว เขาพยายามหลีกเลี่ยงไม่ทำให้พวกเขาบาดเจ็บ   ทำให้เขา ระมัดระวังและไม่จู่โจมพวกเขาสุ่มสี่สุ่มห้า ชายทั้งสองมิอาจเชื่อถึงความโชคดีของพวกเขา !

 

ในเวลาเดียวกัน ไฮ่เฉินเฟิง ตระหนักได้ว่า ชายชุดดำทั้งสองมิได้สนใจถึงความเมตตาที่เขาแสดงออกมา  จึงอดไม่ได้ที่เขาจะมีโทสะทุกครั้งที่โจมตีออกไป  กระบี่ของเขา ส่องประกายเจิดจ้า และร่างของเขาพุ่งเข้าใส่คู่ต่อสู้ราวกับดาวหางขณะตะโกน

” ที่นี่ไม่เหมาะสมจะต่อสู้ !  ศิษย์ปรมาจารย์เลือดเย็น หากมีความกล้าพอจะตามข้าไปยังสถานที่อันเหมาะสมหรือไม่ ? “

 

ชายทั้งสองหัวเราะ

” ดี  จากนั้น ผู้ที่พ่ายแพ้จักต้อง ยอมจำนนไม่คิดอาจรวบรวมขบวนการใต้ดินอีก “

สามเงาร่าง ส่องประกายแสงสีคราม จากนั้นหายไปในพริบตา

 

หลงต้าเห่ย และ จิ้นเฟิงเล่ย ทั้งคู่เป็นยอดฝีมือปฐพีเชวียนผู้ที่ไม่ถือว่าอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็อดตื่นตากับการแสดงที่ ยอดฝีมือทั้งสามมีส่วนร่วมอยู่เบื้องบนมิได้  ขณะเห็นทั้งสามจากไป จิ้นเฟิงเล่ย ตบไหล่ หลงต้าเห่ย

” ไปหารือเรื่องการเตรียมการ ก๊กของพวกเราเถิด “

 

จิ้นเฟิงเล่ย โชกโชนในเรื่องใต้ดิน แม้นว่าเขาจะไม่เห็นว่ามีผู้ใดอ่นแอกว่า แต่เขารู้จัก ไฮ่เฉินเฟิง มาเป็นเวลานาน  หลังจากได้ยินคำพูดระหว่างเขาและชายทั้งสอง เขารู้สึกไร้กังวลเนื่องจากมั่นใจว่าเพื่อนของเขารับมือได้ !

 

เป็นเวลาเดียวที่ หลงต้าเห่ย ลืมตาขึ้นมาหลังจากที่หลับตาไปด้วยความกลัว  หลังจากเข้าใจสหาย เขาจึงเดินเข้าไปข้างในอย่างไม่เต็มใจนัก

 

… …

 

ด้านเหนือสุดของดินแดนพายุหิมะสีเงิน !

 

ซึ่งเต็มไปด้วยหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสุดลูกหูลูกตา !

 

ท่ามกลางหุบเขาและม่านหมอกอันไพศาลนั้น คือเมืองน้ำแข็งอันลึกลับ ดูราวกับถูกปิดบังจากโลกภายนอกด้วยม่านหมอกและหุบเขาหิมะ !

 

ยังไม่ถึงเวลารุ่งสาง และท้องฟ้ายังคงมืดมิดขณะที่เสียงระฆังดังก้องกังวาล  เสียงอันกังวาลนั้นดูเหมือนจะขัดความเงียบสงบที่ดูเหมือนชั่วนิรันด์ของสถานที่นี้ และเหล่านกสีขาวนวลที่อยู่ในพื้นที่เหล่านั้นพุ่งตัวขึ้นมาราวกับดอกไม้ไฟ เนื่องจากหวาดกลัวเสียงระฆังที่ดังขึ้นโดยไม่คาดคิด พวกมันร้องระงมเต็มฟากฟ้าขณะบินวนเป็นวงกลมเบื้องบน

 

ฐานของสิ่งก่อสร้างหลักนั้นสร้างจากน้ำแข็งบริสุทธิ์  ด้านในโถง บนพนังน้ำแข็งนั้น คือภาพเหมือนของผู้คนที่แต่งตัวด้วยชุดสีขาว  พวกเขาแต่ละคนมีท่วงท่าที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนั้นเผยถึงสีหน้าที่หยิ่งยโสและเยือกเย็นที่คล้ายคลึงกัน !

 

ดวงตาของพวกเขาเป็นดั่งพระเจ้า และเต็มไปด้วยประหายสังหาร ดูราวกับพวกเขามีอำนาจกำหนดเป็นตาย สามารถช่วงชิงทุกสิ่งที่ต้องการ ความจริงแล้ว พวกเขาดูทรงพลังยิ่งจนถือว่าผู้อื่นอยู่ใต้บาทา !

 

พวกเขาคือ บรรพชนของ เมืองพายุหิมะสีเงิน !

 

โถงนั้นโอ่อ่า แม้นขนาดผู้คนนับร้อยมาดื่มกินก็ยังมิอาจรู้สึกได้ถึงความอึดอัด

 

ชายอาวุโสชุดสีขาว พร้อมด้วยผมและหนวดขาวโพล ยืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องหอมพร้อมมือไขว้หลัง  เขาเพ่งมองไปยังรูปเหมือนของเหล่าบรรพชนอย่างเงียบเฉียบ และมีสีหน้าเงียบสงบดั่งวารี และเยือกเย็นเช่นน้ำแข็ง

 

แม้นว่าเส้นผมของเขาจะขาว หลังของเขายังคงตรงดิ่งและมีหน้าอกกระชับ  เขายืนตรงประหนึ่งคมมีด ปลดปล่อยประกายอันเยือกเย็นดั่งกระบี่ !

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายผู้นี้กำลังปิดบังอำนาจมหาศาลเอาไว้ !

 

ความจริงแล้ว ดูเหมือนว่าความแข้งแกร่งของเขานั้นสามารถสะเทือนปฐพี เหนือกว่าทุกผู้เหล่า !

 

จากนั้น เสียงกระพือของเสื้อผ้าดังขึ้นขจัดความเงียบของโถงไป ขณะผู้คนในชุดสีขาวมากมายเดินเข้ามาข้างในอย่างรวดเร็วจากทุกทิศทาง พวกเขารวมตัวกันในตำแห่งที่ถูกกำหนดไว้ตามระดับฐานะ  แม้นในหมู่ผู้คนมหึมา ก็ไม่มีผู้ใดเดินชนกัน และมีคำพูดดังขึ้นเพียงหนึ่งหรือสองเท่านั้น

 

ในไม่นาน ทุกคนหยุดลงตามตำแหน่ง และสาดสายตามองไปยังชายชราที่อยู่ตรงกลาง  แม้นพวกเขาจะประหลาดใจที่ถูกเรียกมาเช่นนี้ แต่ก็ไม่มีผู้ใดเอ่ยขึ้นสักคำ

 

น่าประหลาดใจ ที่แสงครามเปล่งออกมาจากร่างของพวกเขา !  มีผู้คนจวนร้อยในที่นี้ และรพดับต่ำสุดคือยอดฝีมือสวรรค์เชวียน !

 

ในจังหวะนั้น เสียงฝีเท้าดังขึ้นให้ได้ยินตามมาด้วยผู้อาวุโสเจ็ดเรียงแถวเข้ามา ด้วยความรีบเร่งบนพื้นน้ำแข็งลึกลับที่มีอายุนับหมื่นปี  แต่ละฝีก้าวนั้นเงียบสงบอย่างมากในขณะที่พกวเขาเดินเข้ามา และประจำตำแหน่งอยู่ด้านหลังผู้อาวุโสที่ยังคนยืนอย่างเงียบเฉียบอยู่ตรงกลาง

 

ปัจเจกชน ในชุดสีขาวหยุดตรงประตูด้วยท่าทางอันสง่างาม ดวงตาเขาส่องประกายและสอดส่องไปรอบๆ ขณะปรากฏตัวขึ้นที่ประตูและยืนอย่างภาคภูมิใจ  เป็นดั่งนครที่อยู่ภายใต้สรวงสวรรค์ รวมถึงทุกผู้ที่อยู่ในโถงนั้น มีอยู่เพียงเพื่อให้เขาปกครอง !

 

ด้านข้าง คือคู่ครอง เป็นหญิงวัยกลางคนที่สวยงาม ยืนแอบอิงดั่งไผ่ที่บอบบาง   รูปร่างของพวกเขานั้นมิอาจหาผู้ใดเปรียบ  ชายผู้นั้นดูราวกับ วีรบุรุษที่เชื่อมั่น ผู้ที่ยืนโดยไม่มีผู้ใดเหนือกว่า และหญิงสาวนั้นมีสิริโฉมไม่เหมือนผู้ใดในรุ่นราวคราวเดียวกัน !  ผู้คนต่างชื่นชมพวกเขา เฝ้ามองไปด้วยริษยาถึงความเหมาะสมอันมิหาสิ่งใดเปรียบ !

 

ทุกคนผู้ในโถงหันไปมองทั้งคู่ในขณะที่พวกเขาเข้ามาและโค้งคำนับ

 ” คาราวะ นายท่านและนายหญิงแห่งนครของเรา เป็นความชื่นชมที่ได้พบท่าน ! “

 

” ไม่เป็นเป็นต้องมากพิธี “

ทั้งสองตอบกลับพร้อมรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า  พวกเขาเดินไปกลางโถงอย่างใจเย็น นั่งลงที่เก้าอี้ที่มีเพียงแค่สองตัวภายในโถงขนาดใหญ่ ที่สามารถบรรจุคนได้นับร้อย

 

มีเพียงแค่สองผู้นี้เท่านั้น ที่มีคุณสมบัติเพียงพอจะนั่งในโถงใบนี้ !

 

พวกเขาทั้งสองคือเจ้าเหนือหัวของนคร กระบี่น้ำแข็งแห่งสรวงสวรรค์  ฮั่นจ๋านเมิง และ ภรรยาของเขา เกล็ดหิมะโผบิน ฉือฉ๋วงเชียง

 

ชายชราโบกมือและพูดขึ้น

” ท่านได้รับการเชิญเสด็จมาที่นี่เพราะมีเรื่องสำคัญต่ออนาคตของนคร ทุกผู้ที่ต่ำกว่า เทพเชวียนจงออกไปอารักษขาด้านนอก ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าใกล้ถานที่แห่งนี้ในระยะห้าสิบหลา  หากผู้ใดฝ่าฝืน สังหารโดยไม่มีข้อยกเว้น ! “​

 

” ขอรับ พวกเราจะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อาวุโสอย่างเชื่อฟัง ! “

พวกเขาตอบกลับมาพร้อมเพรียง หลังจากประนมมือ และออกไปจากโถงช้าๆ เหลือคนอยู่เพียงไม่ถึงสิบ และโถงเงียบลงในทันทีโดยเหลือคนเพียงยี่สิบเท่านั้น

 

” เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนครเทียนเชียง ? “

ฮั่นจ๋านเมิงยิ้มส่งผู้อาวุโส

” มิเช่นนั้น ผู้อาวุโส เซี่ยวเซียงหยุน คงจะไม่ระแวดระวังเช่นนี้ ! “

 

” เป็นดั่งนายท่านคาด มีขาวจาก นครเทียนเชียง … ผู้อาวุโสสาม ส่งข้อความมา และหนึ่งในอินทรีย์หิมะของพวกเราเราบินข้ามคืนเพื่อส่งข่าวอันน่าประหลาดใจนี้แก่พวกเรา ! “

ผู้อาวุโสตอบขณะเขาเปิดม้วนกระดาษออกและยื่นมันขึ้น

 

ฮั่นจ๋านเมิงพยักหน้าเบาๆและหัวเราะขณะรับกระดาษขาวนวลดั่งหิมะ ขณะเดี่ยวกับฉือฉ๋วงเชียงเข้ามาใกล้เขาเพื่ออ่านเช่นเดียวกัน ทั้งคู่ต้องการรู้ว่าข่าวนี้อัศจรรย์สักเพียงใด …

 

แต่ขณะทั้งสองนั่งอ่านข่าวนี้ สีหน้าของพวกเขาค่อยๆจริงจังมากขึ้น ไม่นายรอยยิ้มก็จางหายไป !

 

ใบหน้าอันงดงามของหญิงสาวเริ่มจางจนซีดเผือก แม้นจะมีความสุขอยู่เพียงน้อยนิด  ไม่นาน รอยยิ้มของนางจางหายไปและแทนที่ด้วยความกังวล นางอดจะคว้ามือของสามีเพื่อทำให้เขาอุ่นใจไม่ได้

 

” นี่เป็นข่าวที่ไม่คาดคิด ทุกคน มาดู พวกเจ้าคิดเห็นเช่นไร “

ฮั่นจ๋านเมิงอ่านจบและหลับตาขณะรู้สึกว่า ฉือฉ๋วงเชียงคว้าแขนเขาอยู่ เหมือนเตือนบางสิ่งขณะที่เขายื่นข่าวนั้นให้คนอื่นอ่าน

 

” เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว กำลังปกป้องสกุลจวิน และทำให้ผู้อาวุโสหกบาดเจ็บ … ปรมาจารย์ลึกลับ ทำให้ เฟิงวู บาดเจ็บ และยังแย่งชิงเอา หยกเสริมวิญญาณ  ของผู้อาวุโสหกไป . . ไม่มีผู้ใดต่อต้านเขาได้หรือ ?  . . . นี่  . . เป็นไปได้อย่างไรกัน !? “

ทุกคนอุทานออกมาอย่างสับสน งุนงง แต่ละคนพยายามรักษาสีหน้าให้ดีไว้

 

” ดังนั้น มีเหตุการมากมายอุบัติขึ้นในไม่กี่วันมานี้ ! “

ผู้อาวุโส เซี่ยวเซียงหยุนยิ้มเยือกเย็น

” อีกทั้ง เจ้าเด็กอวดดีจากสกุลจวินนั้น ผู้ที่สำคัญตัวอย่างมาก และได้รับการรักษาให้หายจากความพิการ นี่เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง …. “

 

ฮั่นจ๋านเมิง เงียบไปครู่หนึ่งก่อนมองไปยังผู้อาวุโสสูงสุดและถาม

” ที่ท่านอาวุโสเรียกทุกคนมาวันนี้   . . ดังนั้น ข้าคิดว่าเขามีแผนการ ? “

 

” ข้าผู้นี้อาจวางแผนได้มากมาย แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ครองนคร และเขาจะตัดสินใจว่าจะทำเช่นไรกับแผนดังกล่าว ! “

ผู้อาวุโสคำนับอย่างสุภาพและถอยลงครึ่งก้าว

 

” ผู้อาวุโสสูงสุดคือบุคคลสำคัญของนคร เขาแนะนำว่าเช่นไร ? “

ฮั่นจ๋านเมิง ไม่อ้อมค้อม

 

” แม้นเขาจะมีสถานะในสังคม เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างไร้เหตุผล การกระทำนี้จะต้องได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง !  หากข่าวนี้แพร่ออกไป จะเกิดอะไรขึ้นกับชื่อเสียงของนครเรา ?  พวกเรามิอาจละเลยในเรื่องนี้ ! “

ผู้อาวุโสสูงสุดเอ่ยขึ้นใจเย็น

 

ผู้อาวุโสสูงสุดทำให้ทุกคนตกใจด้วยการลงโทษหนึ่งใน แปดยอดปรมาจารย์ !  แต่กระนั้น ทุกผู้ที่อยู่ที่นี่ก็พยักหน้าเห็นพ้อง เพราะในสายตาของผู้อาวุโสแห่งเมืองพายุหิมะสีเงินนั้น แม้แต่ แปดยอดปรมาจารย์ รวมถึงเหยี่ยวแห่งทุ่งหญ้า นั้นมิได้สำคัญอันใด นี่แสดงให้เห็นถึงความทรงพลังอันน่าเกรงขามของเมืองพายุหิมะสีเงิน !

 

” เช่นนั้น เจ้ามีแผนการอื่นหรือไม่ ? “

ฮั่นจ๋านเมิงพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับสีหน้าเฉยเมย

 

” ขอรับ หยกเสริมวิญญาณ เป็นมรดกที่สำคัญยิ่งของสกุลเซี่ยวของข้า  ความสามารถของมันเกินธรรมดา และถือได้ว่าเกินกว่าของเขตของปุตุชน ดังนั้น จึงต้องมั่นใจว่ามันจักต้องไปตกไปอยู่ในมือของคนภายนอก !  เห็นได้ชัดว่าการแย่งชิงหยกชิ้นนี้กลับมาเป็นเรื่องเร่งด่วน และไม่มีการอ่อนข้อ !  การได้คืนมาคือสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ! “

ดวงตาของผู้อาวุสูงสุดเปล่งประกาย และเห็นได้ชัดว่าเขามีโทสะอย่างมากที่สุญเสีย หยกเสริมวิญญาณ ไป

 

” พวกเราจักต้องใช้เวลาเพื่อพิจารณาถึงจุดนี้ เพราะหากสิ่งที่ผู้อาวุโสสามพูดเป็นความจริง พวกเราก็ไม่อาจะรู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของปรมาจารย์ลึกลับ  และหากเป็นเช่นนั้น แม้นว่าพวกเราทั้งหมดไปเผชิญหน้ากับเขา พวกเราก็อาจจะยังมิอาจแย่งชิง หยกเสริมวิญญาณ คืนกลับมาได้  ดังนั้น พวกเราจึงควรไตร่ตรองมิเสี่ยงชีวิตมากมายเพื่อภารกิจนี้ “

 

ฮั่นจ๋านเฟิงเคาะเท้าแขนเก้าอี้เบาๆ เปลือกขาของเขาปิดลงครึ่งหนึ่งขณะพูด

 

” ความกังวลของนายท่านนั้นถือได้ว่าเป็นธรรม !  เห็นได้ชัดว่าพวกเราจักต้องระมัดระวังเป็นอย่างดีขณะปรับใช้ผู้คน และพวกเราจักต้องหลีกเลี่ยงการปะทะกับ ชายลึกลับผู้นี้ตราบเท่าเป็นไปได้  อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสสามยังมิได้ถึงขั้นเทพเชวียนหนึ่ง และข้อสันนิษฐานของเขาอาจไม่ถูกต้อง หากเปรียบกับเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ความแข็งแกร่งของพวกเขาแตกต่างราวฝ้ากับเหว  ดังนั้น การคาดการของเขาอาจเกินจริงไปมาก  อีกทั้ง เขาไม่เพียงอ้างว่าความแข็งแกร่งของปรมาจารย์ลึกลับผู้นี้สูงส่งกว่า อดีตผู้ครองนคร แต่ยังสูงส่งกว่า จุ้นเป้ยเฉินอีกด้วย !  มันจักเป็นไปได้เช่นไรกัน ?  แสดงให้เห็นว่าข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด ! “

 

ผู้อาวุโสสูงสุด ถูกคิ้วสีขาวของเขาขณะพูดอย่างช้าๆ

 

จากนั้นเขาต่อ

” หากเป็นเช่นนั้น พวกเราจักต้องส่งใครบางคนออกไปเพื่อยืนยันข่าวนี้ หากคนผู้แข็งแกร่งและมิอาจคาดการได้จริงๆ พวกเราจักต้องสอบสวนเรื่องของเขาให้มากกว่านี้  อย่างไรก็ตาม หากกลายเป็นว่าเขาไม่เป็นภัย พวกเราจักบุกเข้าไปแย่งชิงหยกเสริมวิญญาณจากเขาทันที “

 

” ผู้อาวุโสสูงสุดช่างสุขุมยิ่ง และการคาดการของเขานั้นเป็นเลิศ “

ฮั่นจ๋านเมิงพูดขณะมองไปยังผู้อาวุโสอย่างลึกซึ้ง

  ” กระนั้น ดูเหมือนว่าเจ้ายังมีแผนสาม ? “

 

” ขอรับ ! “

ผู้อาวุโสสามเลิกคิ้วขาว

 ” สกุลจวินนี้เป็นสกุลในโลกมนุษย์ และยังก่อกวนเมืองพายุหิมะสีเงินของพวกเราหลากหลายครั้ง !  เป็นสิ่งที่มิอาจทนได้อีกแล้ว !  ข้าคิดว่า หากพวกเรากำจัดพวกเขาทั้งสกุลไป เพื่อตักเตือนถึงโลกมนุษย์ถึงอำนาจแห่งเมืองพายุหิมะสีเงินของพวกเรา ! “​

 

ขณะเอ่ยเช่นนี้ ผู้อาวุโสสูงสุด ยื่นมือขวาออกมา และทำท่าทางทุบลงไปอย่างเด็ดขาด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด