Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ 303

Now you are reading Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ Chapter 303 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยาหยางลึกลับ และ ยาหยินขาดหาย เป็นตัวอย่างที่ใช้บำรุงร่ายกาย โดยใช้จากชายและหญิง  พวกมันได้รับการปรุงจากสมุนไพรธรรดา และสามารถใช้ได้กับปุตุชน โดยมิได้รับผลกระทบน่ากลัวอันใด  อย่างไรก็ตาม ยารวมวิญญาณนั้นเป็นตัวยาขั้นสูง และมีเพียงหมอผู้มีฝีมือเท่านั้นที่สามารถจัดการกับมันได้

ยารวมวิญญาณรู้จักกันดีในนาม ยาหัวใจอสูร ยาตัวนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้กับผู้ที่ได้รับการฝึกฝนการต่อสู้  มันจักเพิ่มความเข้มข้นของพลังปราณถายในร่างของผู้ใช้อย่างมีนัยยะ  ยิ่งไปกว่านั้น โอกาสในการเกิดผลสะท้อน หรือ รอยเขี้ยวอสูร จักถูกจำกัดไว้มากหรือน้อย แม้นว่าผู้นั้นจักฝึกฝนอย่าดื่มด่ำสักเพียงใด   การทำงานของ ยาหัวใจอสูร ดูเหมือนเรียบง่าย แต่มิได้เล็กน้อย  ยาตัวนี้มิใช้สมบัติหายาก แต่มิได้รับให้ขายอย่างสาธารณะในท้องตลาด มันมิได้มีราคา

 

ฝู้ฝึกฝนศาสตร์มิได้หวาดกลัวต่อสิ่งแปลกปลอม พวกเขาหวาดกลัวความเจ็บปวด  อย่างไรก็ตาม รอยเขี้ยวอสูร มิใช่อุปสรรคใหญ่เพียงหนึ่งในเส้นทางของพวกเขา  และ ผู้คนส่วนใหญ่หวาดกลัวต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนี้  ยากที่จะบอกว่ามีผู้ฝึกฝนการต่อสู้เท่าไหร่ที่ตายไปเนื่องจาก รอยเขี้ยวอสูรระหว่างการฝึกฝน  ความจริง ผลของรอยเขี้ยวอสูรดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นในระดับการฝึกฝนที่สูงขึ้น  แต่ ยาหัวใจอสูร สามารถยับยังผลนี้ได้เป็นอย่างดี  ดังนั้น ยาตัวนี้จึงถือเป็นยาช่วยชีวิต

 

การเผยแพร่ ยาหัวใจอสูร จักเป็นการสร้างความโกลาหลอย่างมากให้กับดินแดนเชวียนเชวียน  ยาเม็ดเล็กๆนี้สามารถเป็นต้นเหตุแห่งการนองเลือดได้ เป็นสิ่งที่น่าสลดใจยิ่งนัก  ความจริง การแย่งชิงตัวยานี้รุนแรงไม่ต่างกับการแย่งชิง แกนเชวียนระดับเก้า

 

ยาฟื้นฟูหลากหลายคือชื่อที่มันได้รับ  เป็นยามหัศจรรย์ ที่สามารถรักษาโรคได้หลากหลาย  ยาที่สามารถรวมเข้ากับเชื้อและพิษหลายชนิดภายในร่างกายของคน และสามารถขับเชื้อโรคและพิษเหล่านั้นออกมาได้ โดยมิทำร้ายร่างกาย  มันคือเส้นทางยาวไกลสู่เถียรฟา  ยิ่งไปกว่านั้น เส้นทางและเป้าหมายเต็มไปด้วยสภาพอากาศที่หลายหลายซึ่งสามารถทำให้เกิดโรคระบาดแก่กองทหารได้  และ ยาตัวนี้สามารถป้องกันสุขภาพของกองกำลังจากสภาพอากาศเหล่านั้น  ดังนั้น จวินโม่เซี่ย จึงให้ความสำคัญกับยาตัวนี้มากกว่าตัวอื่นๆ

 

สุดท้าย คือยา เส้นลมปราณ จวินโม่เซี่ย เรียกอีกชื่อหนึ่งคือ ยาทศวรรษ จากประสบการณ์ของเขา ปราณเชวียน และความแข็งแกร่งภายในของคนนั้นเหมือนจักเพิ่มขึ้นหลังจากใช้ยาตัวนี้  ยาตัวนี้มิได้เพียงแค่เปิดเส้นลมปราณของคน หากแต่มันสามารถเพิ่มระดับการเพาะปลูกได้นับสิบปี

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น การเพิ่มความสามารถนี้เป็นไปอย่างถาวร !

 

หรือกล่าวอีกนัยว่า ยาตัวนี้สามารถเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของคนได้ตลอดชีวิต  ยิ่งไปกว่านั้น ยาอัศจรรย์นี้สามารถออกฤิทธิได้ในระยะเวลาอันสั้น  จวินโม่เวี่ยสามารถเพิ่มขั้นการเพาะปลูกของ องครักษ์สามร้อยที่เขาฝึกฝนอยู่ไปสู่ระดับใหม่ได้ หากยาตัวนี้สามารถรวมเข้ากับ ยาหัวใจอสูรได้

 

เดิมทีจวินโม่เซี่ยสามารถกลั่นยาได้จำนวนหนึ่งจากการใช้เคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์ขั้นสอง แต่ยาเหล่านั้น เป็นยาบำรุงเช่น ยาชำระวิญญาณ ยาเหล่านี้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพเช่นนั้น แต่จวินโม่เซี่ยมิได้คาดหวังกับพวกมันมากนัก และเขามิต้องการมันอย่างเร่งด่วน  เช่นนั้น เขาจึงมิได้สนใจพวกมันนักเมื่อเขา สร้างรายชื่อตัวยาที่เขาต้องการ

 

เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับเขาที่จักเพิ่มความแข็งแกร่งให้เร็วที่สุดตราบเท่าที่เป็นไปได้  ไม่เพียงแค่ตัวเขา แต่กองกำลังทั้งหมดของสกุลจวิน

 

จวินโม่เซี่ย นั่งขัดสมาธิอยู่ภายใน เจดีย์หงษ์จวิน เขาเผชิญหน้ากับ เตาหลอมแห่งโชคลาภ และ พยายามสงบจิตใจลง  เคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์ที่เคยหลั่งไหลดั่งกระแสน้ำเชี่ยว แต่มันเริ่มหลังไหลราบเรียบเมื่อจิตใจเขาสงบลง  ทันใดนนั้น เขารู้สึกถึงการระเบิดอย่างชัดเจนในใจ

 

ดีละ !

 

จวินโม่เซี่ย ยกมือขึ้นหลังจากตะโกนลั่น และกวาดเป็นวงกลมท่ามกลางอากาศอันว่าเปล่า  จากนั้น เขาใช้นิ้ววาด อักขระหลายตัวอย่างรวดเร็ว  เขามิได้ใช้หมึกใดๆ แต่อีกขระแปลกประหลาดปรากฏขึ้นภายในวลกลมที่เขาวาดไว้ก่อนหน้า  และ อักขระเหล่านั้น ล่องลอยเข้าไปใน เตาหลอมแห่งโชคลาภเมื่อมันสำเร็จเป็นรูปร่าง

 

ตู้ม !

 

เปลวเพลิงแห่งปฐมภูมิ สว่างไสวภายใต เตาหลอมแห่งโชคลาภเมื่อเขาเริ่ม มันสว่างไสวและรุนแรงขึ้นทันที  เปลวไฟสีดำพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องนภา และปกคลุมทั่วทั้ง เตาหลอมแห่งโชคลาภ

 

จวินโม่เซี่ยชี้นิ้วตรงไปยัง เตาหลอมแห่งโชคลาภขณะที่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น  เสียงหึ่งๆดังขึ้นจากเตา และเริ่มลอยวนขึ้นกลางอากาศ  ไม่นาน เตาหลอมเริ่มเปล่งประกายเป็นแสงสีรุ้ง และมีสีสรรค์อันเปลกประหลาดเกิดขึ้นบนผิวหน้าของมัน  จากนั้น รูปแบบเหล่านั้นหายไปอย่างรวดเร็ว  แต่ ลำแสงสีรุ้งยังคงถูกปลดปล่อยออกมาจากเตาหลอมอย่างต่อเนื่อง  เตาหลอมยังคงหมุนวนส่งเสียงอยู่กลางอากาศขณะที่ฝาเปิดออกและลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

จวินโม่เซี่ย โยนส่วนผสมเข้าไปภายในเตาหลอมด้วยมือขวา และอากาศรอบๆอบอวลไปด้วยกลิ่นยาอันเข้มข้นในทันใด  กลิ่นอันรุนแรงแผ่ออกมาในตอนที่ ส่วนผสมสัมผัสเข้าไปเตาหลอม  จากนั้น ฝาเตาหลอมปิดลง และ เปลวเพลิงแห่งปฐมภูมิ ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง  จากนั้น จวินโม่เซี่ย ชี้นิ้วตรงไปยังเตา และมันปกคลุมด้วยเปลวไฟสีดำทะมึนอีกครั้ง

 

ทันใดนนั้น จวินโม่เซี่ยรู้สึกราวกับ พลังภายในของเขาพุ่งพลานออกมาราวกับสายน้ำเชี่ยวราดที่ถูกปลอยออกมาจากเขื่อน

 

นี่เป็นเพียงการเริ่มต้น  คุณชายน้อยจวินจักโลดแล่นอย่างรวดเร็วเสมอ แม้นจักเป็นการสวนกระแส  อย่างไรก็ตาม เขาพบว่าตัวเขาเองคร่ำครวญอย่างมิเคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

พระเจ้า !  ยาตัวนี้เป็นการแปรธาตุหรือดูดเลือด ?  ความรู้สึกจากช่วงเวลาก่อนหน้านี้น่ากลัวนัก !  กลั่นยาจำนวนน้อยนิดเช่นนี้ จำต้องใช้ความแข็งแกร่งมหาศาล และลมปราณมากมายเพียงนี้ ?!  และ นั้นเป็นเพียงแค่ตัวยาธรรมดาและพื้นฐานที่สุด !  หากนี่เป็นเพียงการเริ่มต้น… ข้าจักไม่ตายหรือหากต้องกลั่นยาที่สูงส่งกว่านี้ ?  มันมากเกินไป …. !

 

แม่เจ้าเอ๋ย !  ข้าเคยดูหนัง !  นักแปรธาตุเต๋าปรุงยาได้อย่างง่าดายยิ่ง  พวกเขาเพียงแค่ลูบหนวดเครา และทุกอย่างสำเร็จลุล่วง  หมอกควันสั่นไหว และตัวยาปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา  และ สามารถนำผู้คนกลับจากความตาด้วยยาที่พวกเขาปรุงขึ้น  ความจริง ผู้คนเหล่านั้นอาจจะเบาดั่งขนนก และล่องลอยขึ้นสรวงสวรรค์เพื่อความอมตะ …

 

เอ ..เหตุใดกับข้าจึงยากยิ่ง ?  ข้าเพียงต้องการรักษาการบาดเจ็บ ติดเชื้อและเพิ่มพูนขั้นการเพาะปลูกของคนขึ้นเพียงไม่กี่ปี …​เท่านั้น !  แต่ เหตุใบสิ่งที่ง่ายดายกลับต้องการพลังงานจากวิญญาณของข้ามากมายเช่นนี้ ?

 

จวินโม่เซี่ยพร่ำบ่นในใจ แต่มิกล้าเอ่ยออกมา  เขาพยายามรักษาสมาธิไว้ และปล่อยให้พลังปราณของเขาหลั่งไหลราวกับแม่น้ำ …

 

เนิ่นนานหลังจากนั้น …

 

“ตุบ!”

 

เตาหลอมแห่งโชคลาภ ส่งเสียงดังสนั่น และกลับไปตั้งอยู่ตรงจุดเดิมบนพื้น  เปลวเพลิงแห่งปฐมภูมิ ริบหรี่ลง กลับไปเป็นสีเดิม

 

สำหรับคุณชายน้อยจวิน เขาเหนื่อยอ่อนอย่างยิ่ง  ไม่มีเรี่ยวแรงแม้นขยับนิ้ว  เขาหายใจหอบขณะ กระตุ้น เจดีย์หงษ์จวินให้ปลดปล่อยลมปราณไปยังเส้นลมปราณของเขาอย่างบ้าคลั่ง  เขารู้สึกเหมือนวิ่งมา ห้ากิโลเมตร พร้อมแบกถุงทรายห้าร้อยกิโลกรัมไว้บนร่างกาย  เขาเกือบเอาลิ้มออกมาจากปากเพื่อให้สูดอากาศได้มากขึ้น  ความจริง คุณชายน้อยจวินอาจจักหลับไหลไปแล้ว หากมิได้พลังมหาศาลที่ เจดีย์หงษ์จวิน ส่งมาให้ร่างของเขา

 

ความเหนื่อยล้าทางกายนั้นเป็นเพียงรอง  สิ่งสำคัญคือจิตวิญญาณของเขาเหนื่อยอ่อน  ซึ้งเป็นสถานการณณ์ที่ค่อนข้างน่าหวาดกลัว  ผลที่ตามมาจักร้ายแรงยิ่ง หากจิตวิญญาณของเขามิได้รับการฟื้นฟูให้ทันเวลา

 

เวลาเนิ่นนานหลังจากนั้น … ท้ายที่สุดจวินโม่เซี่ยรู้สึกได้ว่า เส้นลมปราณที่แห้งขอดของเขาได้รับการเติมเต็ม  เขาลุกขึ้นจากพื้นด้วยการช่วยเหลืองของ พลังอันน้อยนิดที่หลงเหลืออยู่ในร่างของเขา และยกฝาหม้อขึ้น  จากนั้น เขาชะโงกหน้าเข้าไปมองด้านใน  และร้องออกมาอย่างรุนแรงหลังจากเหลือยมอง ในขณะที่แขนของเขาเริ่มสั่น

 

ไม่มีสิ่งใดอยู่ใน เตาหลอมแห่งโชคลาภ …นอกเสียจากเถ้าธุลี …

 

” แม่เจ้า ! ”

มือสังหารตกตะลึง  เขาสถปด้วยโทสะ

” ข้าไม่เชื่อ !  ข้าใช้ความพยายามทั้งหมดที่ข้ามี และยาตัวนี้ยังมิอาจกลั่นออกมาได้ ?!  ข้าไม่เชื่อว่าต้องใช้ความพยายามครั้งที่สองกับตัวยาธรรมดาเช่นนี้ ! ”

 

เขานั่งขัดสมาธิ กระตุ้นเจดีย์หงษ์จวิน และเริ่มดูดกลืนพลังปราณ  …

ข้าจัดไม่พลาดเป็นครั้งที่สอง …

 

จากนั้น …

 

” เจ้าเตาหลอมขี้เกียจ ! ”

มือสังหารมิอาจเชื่อผลในการพยายามครั้งที่สองของเขา

” อีกแล้วหรือ …​อ่า … เอาละ ข้าเริ่มจริงจังแล้ว !  มาดูกันว่าใครคือพ่อที่แท้จริง ! ”

 

จากนั้น เขาเริ่มทดลองอีกครั้ง …

 

ปั้ง !  จากนั้น …

 

” แม่เจ้า ! ข้ามิเชื่อปิศาจนี่ !  ข้ามิรู้ว่าความพยายามกี่ครั้งแล้วที่ไร้ประโยชน์ … สิบครั้ง … ข้าต้องพยายามเป็นร้อยครั้งอย่างนั้นหรือ ?  พันครั้งหรือ ? “

เขายังคงสาปแช่งต่อไปด้วยโทสะ  เขาระบายโทสะออกมากระทั้งเหนื่อยอ่อน และจากนั้นนั่งขัดสมาธิลงอีกครั้ง  เขากระตุ้นเจดียหงษ์จวิน เพื่อเติมเต็มพลัง และเริ่มกระบวนการอีกครั้ง ..

 

เขามิอาจเชื่อถึงผลลัพธ์อีกครั้ง …  สาปแช่งจนเหนื่อยอ่อน … และเริ่มกระทำให้อีกรั้ง …

 

ยากจักบอกว่ามันต้องใช้ความพยายามมากเท่าไหร่ แต่ท้ายที่สุด …

 

” วู้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า … ข้าเป็นเพื่อเจ้า !  ชิ้นขยะอย่างเจ้าจักเปลี่ยนสิ่งของของข้าเป็นเถ้าได้อย่างไร ?  เอ ?  เจ้าชั่ว !  เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้จักเจ้าหรือ ?  สารเลว !  ฮ่า !  เจ้ามันปิศาจชั่วตัวน้อย !  เจ้คิดว่าเล่นงานข้าได้หรือ ?  ฮืม …. ”

 

ผมที่ยุ่งเหยิงและใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสกปรก ดูมิต่างอันใดกับขอทาน  ความจริง แม้แต่ขอทานก็ยังดูดีกว่า คุณชายน้อยจวินในตอนนี้  ใบหน้าของเขา เขียวดั่งผีดิบ  ทั่วทั้งร่างของเขาสั่นเทาราวกับเป็นโรคลมบ้าหมู  เขายื่นมืออกไป และคว้าเอายาเม็ดเล็กจิ๋มที่มันวาวออกจากเตา  จากนั้นยกมันขึ้นในอากาศ และเริ่มกระโดดโลดเต้นประหนึ่งคนเสียสติ …

 

เขาขบฟัน ขณะถือยาไว้ในมือ  จวินโม่เซี่ย มีแรงกระตุ้นอันรุนแรงที่จักโยนเม็ดยาลงพื้นและเหยียบย่ำมัน

แม่เจ้าเอ๋ย !  ข้าเดือดร้อนยิ่งเพื่อขยะชิ้นเล็กแค่นี้หรือ ?!  ข้าเป็นตะคริ้วจากการทดสอบอันเจ็บปวดนั้น !  จักเกิดอันใดหากข้าโยนเจ้าลงพื้น และเยียบย่ำเจ้า … คงจักสนุก… มันคงจักรู้สึกดียิ่ง จักรู้สึกดีเพียงใด ?

 

อย่างไรก็ตาม  จวินโม่เซี่ยผู้ไร้หัวใจและความปราณีก็มิได้ประสงค์จักทำลายมัน

แม่เจ้า !  กระทืบสิ่งนี้ ?  สมองข้ารวนไปหรือ ?  ยังไม่พอ !  ข้าจักกลืนกินเจ้า !  เจ้าจักถูกบดในกระเพาะของข้า จนเจ้าย่อยเสร็จ  และจากนั้น เจ้าจักกลายเป็นอุจจาระของข้า  นั่นคือบทลงโทษที่ดีที่สุดสำหรับเจ้า !

 

เขายังคงสาปแช่งต่อไปขณะค่อยๆวางมันลงในขวดหยก จากนั้น หยิบยาเม็ดหนึ่งขึ้นจากขวดหยดและ ยกมันขึ้นเหนือปากของเขา  มือของเขาจับมันราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า ขณะที่ปากยังคงสาปแช่ง

” เจ้าเศษขยะ ”

จากนั้น ยาหลุดจามือเขาและลงไปในปาก  แกร็บ แกร็บ แกร็บ … เขาเคี้ยวสองสามหน และกลืนมันลงไป …

 

” ดูดีนี่ ”

ใบหน้าของจวินโม่เซี่ยเผยถึงรสชาติของ ยาหยางลึกลับ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปากเมื่อมันสัมผัสกับปากของเขา  จากนั้น ใบหน้าของ จวินโม่เซี่ยเผยถึงความขื่นขมเมื่อตระหนักได้ว่ายากเพียงกว่าที่จะกลั่นมันออดมาไป

ทำมันขึ้นมาต้องใช้เวลาเพียงใด ?

 

ลืมเรื่องสิ่งที่ต้องใช้สำหรับ ยาหยางลึกลับไป … ข้าเอาสมุนไพรเข้ามา ร้อยห่อ … และตอนนี้ข้าเหลือเพียง เจ็ดสิบแปด  ข้าต้องพยายาม ยี่สิบสองครั้งเพื่อให้สำเร็จเพียงหนึ่ง  และ มันอาจเป็นเรื่องบังเอิญ !  ในหนึ่งครั้ง ข้าสามารถปรุงยาได้เพียง สามสิเม็ด  ดังนั้นข้าต้องทำให้ได้ สิบครั้งเพื่อให้มีเพียงพอต่อผู้ฝึกฝนของข้า  ต้องพยายามเพียงใดถึงจักสำเร็จได้สิบครั้ง … ?

 

” เตาโง่เง่านี่ ! ”

จวินโม่เซี่ยนั่งลงอีกครั้ง และเริ่มเติมเต็มพลังปราณ …

 

อาจเอ่ยได้ว่า จวินโม่เซี่ยมีพลังใจที่แข็งแกร่ง  ชัดเจน่าเกินกว่าสามัญนัก  สามัญชนนั้นจักไม่กลับหลังหากพวกเขาพบกำแพงบนเส้นทางของพวกเขา  อย่างไรก็ตาม จวินโม่เซี่ยไม่เพียงปฏิเสธที่จะยอมแพ้..เขายังคงเตาะกำแพงจนกระทั่งมันพังทลายลง

 

จวินโม่เซี่ย กระตุ้นเจดียหงษ์จวิน เพื่อเติมเต็มพลังปราณของเขาถึง ยี่สิบสองครั้ง  เขาต้องการติด เตาหลอมแห่งโชคลาภและ เปลวเพลิงแห่งปฐมภูมิขึ้นใหม่เพื่อให้เขาสามารถปรุงยาได้ตามจำนวนที่เขาต้องการ  อย่างไรก็ตาม พลังปราณในร่างของเขาหมดสิ้นแล้ว  ความจริง มันไม่มีเหลือเลยแม้นเพียงน้อยนิด

 

นักต้อสู้จักต้องรู้สึกเช่นไรเมื่อปราณเชวียน และพลังปราณของเขาหมดสิ้นไป ?  ความเคร่งเครียดเช่นนี้จักทำให้แขนขาพวกเขาเย็นเยือก และความคิดของพวกเขาสับสน  และหากผู้ใดมีประสบการณ์ในการรู้สึกเช่นนี้เกินกว่า ยี่สิบสองครั้ง … ผู้นั้นจักรู้สึกว่าทะเลแห่งจิตวิญญาณที่ลึกซึ้งของพวกเขาเริ่มสั่นเทา … ราวกับพวกมันจะแห้งเหือดไป เป็นความน่าหวาดกลัวที่ทำให้ขนของพวกเขาลุกชูชันในที่สุด !  คล้ายดั่งการเตร็ดเตร่ไปตามกำแพงแห่งนรก

 

ผู้คนทั่วไปจักอดทนได้ในครั้งแรกเนื่องด้วย วินัยของพวกเขา  แต่ พวกเขาจักมิสามารถในครั้งที่สอง  ยิ่งไปกว่านั้น ความรู้สึกเช่นนี้จักเป็นดั่งการทำลายกำลังใจของพวกเขา และทำให้พวกเขาบอบช้ำ  ความจริง แม้นแต่ผู้สละตนที่มีกำลังใจหนักแน่น ก็มิอาจพยายามได้เกินกว่าสามครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม คุณชายน้อยจวิน พยายามถึง ยี่สิบสองครั้ง !  เขาผิดพลาดไป ยี่สิบเอ็ดครั้ง … แต่ด้วยความมุมานะของเขา เขาจักยังคงทำต่อไปแม้นว่าจักไม่สำเร็จในครั้งที่ ยี่สิบสอง

 

ผู้ใดจักดื้อดึงได้เกินกว่า มือสังหารจวิน ?  ผู้ใดจักอ้างว่าโหดเหี้ยมกว่ากัน ?

 

มิต้องเอ่ยถึง พลังปราณ … แม้นแต่วินัยทางใจที่ต้องใช้เพื่อให้ประสบความสำเร็จก็ไม่สำคัญแต่น้อย !  เกินกว่าจินตนาการ !

 

สำหรับตอนนี้ คุณชายน้อยจวินสำเร็จเพียงครั้งเดียว และปรุงยาได้ไม่มากนัก  อย่างไรก็ตาม เขายังคงไม่หยุด  ความจริง เขาปรามาณยิ่งว่าจักปรุงส่วนผสมทั้งหมดที่เขาเอามา …

 

แม้นว่าอาจารย์แห่งการแปรธาตุผู้ยิ่งใหญ่ได้มาเห็นความดื้อรั้นเช่นนี้ … พวกเขาคงกรอกตาไปมาและเป็นลม !

 

จักเรียกเขาว่าประหลาด หรืออาจจะเรียกจิตวิญญาณปิศาจ !

 

อย่างไรก็ตาม จวินโม่เซี่ยมิอาจรู้  ความจริง เขาจักไม่ทุกข์ร้อยแม้นเป็นเช่นนั้น  ดังนั้น เขาจึงรวมรวมพลังทั้งหมด และหมกมุ่นเพื่อปรุงยา  จากนั้น เขาแสดงหน้าตาตระหนี่ขึ้นขณะค่อยๆหยิบยาใส่ขวดหยวกใบเล็ก …

 

หนึ่งขวดสามารุบรรจุยาได้เพียงร้อยเม็ด  เมื่อเห็นว่าหนึ่งขวดเต็มแล้ว … เขาก็นำอีกขวดขึ้นมา … และเติมมันจนเต็ม … และขวดต่อไป … บางทีอาจเอ่ยว่าก่อนหน้าเขาเคยล้มเหลว แต่ตอนนี้จวินโม่เซี่ยเชี่ยวชาณยิ่งขึ้น  ความจริง ดูราวกับเขาเป็นนักแปรธาตุที่ยิ่งใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่ …

 

เขาอาจล้มเหลวมากมายในตอนเริ่มต้น  แต่ จำนวนของความล้มเหลวจักลดลงหลังจากที่เขามีประสบการณ์มากขึ้น  ตอนนี้ เขาทำได้สำเร็จหนึ่งในสามครั้ง …

 

อย่างไรก็ตาม นี่มิใช่สิ่งสำคัญที่สุด  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความเร็วในการฟื้นฟูพลังปราณของจวินโม่เซี่ยเพิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง สีหน้าของจวินโม่เซี่ยคล้ายดั่ง สุนักที่ตายแล้ว หลังเขาพยายามครั้งแรก  แต่ ตอนนี้เขากลับหอบเหนื่อย จากนั้น เขาสูดอากาศเข้าไปหนึ่งอึก นั่งลงทำสมาธิ ฟื้นฟูตัวเองชั่วครู่ และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง … ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นสองหรือสามเท่า …

 

อัตตราความสำเร็จของเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน !

 

ยากจักพรรณาว่ายาเหล่านี้จักนำพาประโยชน์มากมายเพียงใด  แต่ พลังปราณของจวินโม่เซี่ยได้ปรับประโยชน์อย่างมากในการปรุงยาเหล่านี้  และ ประโยชน์เหล่านี้จักมีอย่างลึกซึ้ง และยาวนาน

 

ความเข้มข้นของพลังปราณและความแข็งแกร่งของปราณรรับรู้ของจวินโม่เซี่ยแสดงให้เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากความผิดพลาดยี่สิบเอ็ดครั้ง  และ มันระเบิดออกมาอย่างมิอาจคาดหลังจากที่เขาปรุงยาเม็ดแรกสำเร็จ  สิ่งเหล่านี้เผยให้เห็นถึงความก้าวหน้าของจวินโม่เซี่ยจากการปรุงยาเหล่านี้

 

อย่างไรก็ตาม จวินโม่เซี่ยมิอาจรู้เรื่องนี้  ความจริง เขามิได้มองถึงสิ่งนี้เลย

 

จวินโม่เซี่ย มิได้คาดคิด หรือ มิได้ตั้งใจที่จักบรรลุขั้นการปลดปล่อยร่างกาย

 

เขาสามารถแยกออกจากตัวตนของเขาได้อย่างสมบูรณ์  มีเพียงสิ่งเดียวในความคิดของเขา

ปรุงยา  ปรุงยา ! ปรุงยา !  ปรุงยา ! ปรุงยา !  ข้าต้องการปรุงยาตลอด !  …. ไม่มีเวลาแล้ว !  ข้าไม่มีเวลาเพียงพอ !  ข้าต้องใส่ใจอย่างยิ่งกับเวลาที่ข้าใช้ปรุงยาเหล่านี้ ….

 

สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนนจากความตื่นเต้น … เป็นความสงบนิ่ง … เพียงแค่เรื่องของเวลา …  แสดงสีหน้าแข็งทื่อออกมา … และในที่สุดก็กลายเป็นชายผู้ที่นั่งกินกะหล่ำปลีทุกวัน …

 

และเป็นกะหล่ำที่ถูกที่สุด !  แบบที่จักขายได้สิบช่าง … แบบที่คนทั่วไปรู้สึกเบื่อหน่าย …

 

แต่จากนั้น จวินโม่เซี่ยได้ค้นพบสิ่งที่น่าประหลาดใจในตอนที่เขาเริ่มปรุง ยาเชื่อลมปราณ และ ในที่สุดเขาก็ตื่นขึ้นในตอนที่เริ่มนั้น….

 

อันใดกันนี่ !

 

พลังปราณในร่างข้าได้รับการฟื้นฟูถึงสามครั้งติดต่อกัน และข้ายังมิรู้สึกเหนื่อยอ่อน ?​ นี่มัน … เกิดอันใดขึ้น ?  ยาเหล่านี้มีระดับที่ต่ำกว่าก่อนหน้าหรือ ?  เอ่… พวกมันก็ระดับเดียวกัน แต่ ยาเชื่อลมปราณนี่เป็นตัวยาที่อยู่ในระดับสูงสุด… มีความยากในการปรุง และและต้องการลมปราณในปริมาณที่สูงที่สุด … ข้าจำได้ว่าข้าแทบสิ้นแรงเมื่อข้าปรุงยาชุดแรกสำเร็จ … เหตุใดตอนนี้ข้าไม่รู้สึกอ่อนแรงแล้ว ?  เกิดอันใดขึ้น ….

 

ความคิดของจวินโม่เซี่ยเคลื่อนไหว  และจากนั้นเขาจึงแอบเข้าไปในร่างของเขา  ไม่ช้า เขาตกตะลึงอย่างมาก !

 

ร่องรอยแห่งพลังปราณที่ไร้รูปร่างยังคงติดอยู่ในเส้นลมปราณของเขา  มันผ่านชั้นแรก และจากนั้นผ่านชั้นที่สองขณะที่มันหมุนวนไปมาในเส้นลมปราณของเขา  พลังลมปราณของเขายังคงอยู่ในรูปของหมอกควัน แต่มันหนาแน่นกว่าเดิม !  ความจริง มันทำให้รู้สึกเหมือนจะเป็นของแข็ง !

 

อย่าบอกข้า ?!  พลังลมปราณของข้าดูเหมือนจักเติบโตขึ้นอย่างมหาศาลจากการปรุงยาเหล่านี้ ?

 

จวินโม่เซี่ยมิอาจเข้าใจสิ่งนี้  ท้ายที่สุด เขามิได้เพียงปรุงยา ?

 

เขาใช้พลังปราณในร่างของเขาทั้งหมดทุกครั้งที่ปรุงยา  แต่เขา กระตุ้น เจดีย์หงส์จวิน เนื่องจากเขาไม่มีเวลาเพื่อฟื้นฟูพลังปราณของเขา  และ เจดีย์หงส์จวินได้เติมเต็มเส้นลมปราณของเขาด้วยปราณบริสุทธิ์ และฟื้นฟูลมปราณของเขา  อย่างไรก็ตาม มันเติมเต็มเส้นลมปราณของเขาด้วยลมปราณที่มากกว่าเดิมเล็กน้อย

 

ยากจักบอกถึงจำนวนครั้งที่เขากระทำเช่นนี้ … แต่เขาใช้ความพยายามทั้งหมดในแต่ละครั้ง และเขากดดันตัวเองมากเกินไป …

 

อาจบอกได้ว่า จวินโม่เซี่ยจักตายไปโดยไร้ผุยผงหากมิใช่เพราะเจดีย์หงส์จวิน  อย่างไรก้๖าม เจดีย์หงส์จวินยังคงอยู่  และร่างของเขาก็อยู่ข้างในนั้น  นี่เป็นผลอย่างใหญ่หลวงสำหรับเขา แต่เป็นการยากที่จักอธิบายออกมาเป็นคำพูด …

 

ความแข็งแกร่งของเขามากขึ้นเป็นสองเท่าจากตอนที่เขาเริ่มปรุงยาในเจดีย์ !

 

สำหรับปราณเชวียน เขาบรรลุไปถึงขั้นเชวยนหยกกลางเป็นอย่างน้อย  และเขาสามารถบรรลุไปยังขั้นต่อไปได้ทุกเมื่อ สำหรับ เคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์ เขาได้ไปถึงขั้นกลางของชั้นที่สอง !  เขาสามารถไปถึงขั้นสูงสุดในชั้นแรกหลังจากก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด  จากนั้น เขาสามารถก้าวหน้าต่อไปโดยการเผชิญหน้ากับคอขวดของขั้นที่สาม !

 

ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นเวลาไม่ถึงสิบห้าวันหลังจากที่เขาบรรลุถึงชั้นที่สอง !

 

หรือกล่าวอีกนัย เขาก้าวข้ามถึงสองขั้นเต็มจากการปรุงยาเหล่านี้  สองก้าวใหญ่ๆ !  คนสามัญมิอาจคิดถึงความก้าวหน้าเช่นนี้ได้ !

 

การฝึกฝนปราณเชวียนเป็นเรื่องง่ายก่อนที่ผู้คนจักบรรลุไปถึงขั้นเชวียนเงิน  เช่นนั้น การเติบโตจึงรวดเร็ว  แต่ ทุกขั้นจักยากขึ้นเมื่อพวกเขาบรรลุไปยังเชวียนเงิน  ความจริง เป็นความจริงเดียวกันกับทุกการฝึกฝนการตอสู้ทุกแขนง  เป็นการยากที่จักสร้างความก้าวหน้าในทุกระดับการฝึกฝน

 

ให้ ราชัญปิศาจแห่งเถียรฟาเป็นตัวอย่าง  พวกเขาห่างไกลเกินกว่าสามัญ  ความจริง ผู้คนเอ่ยกันว่าพวกเขาได้รับพรจากสวรรค์  อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้ติดกับคอขวดเดียวกันมานับทศวรรษ และยังคงไม่เห็นวี่แววของการบรรลุ  พวกเขาก้าวหน้าในทุกวันมานับสิบปี  แต่พวกเขายังคงไม่สามารถที่จักบรรลุไปได้  ดังนั้น จักสามารถมารถจินจนาการได้ว่าพวกเขาจักบ้าคลั่งเพียงใด เมื่อจวินโม่เซี่ยเสนอที่จักช่วยเหลือพวกเขา  นี่เป็นการอธิบายที่ง่ายที่สุดหรับความความยากของการก้าวหน้า

 

สำหรับคนสามัญมิอาจเข้าใจสิ่งนี้ได้ !

 

จวินโม่เซี่ยหายใจเข้าออกม ยืดยาว  สมองของเขาปกคลุมไปด้วยความปิติ และทันใดนนั้นเขาก็ผ่อนคลาย จากนั้น เขารู้สึกปวดอย่างรุนแรงขึ้นมาในหัว ราวกับกะโหลกของเขาถูกเจาะด้วยเข็มมากมาย  จวินโม่เซี่ยลืมวันเวลาที่ผ่านไปเนื่องจากเขาเข้ามาใน เจดีย์หงษ์จวิน ความจริง เขามิรู้ว่าเขาใช้เวลาในนี้นานเท่าไหร่ !

 

อย่างไรก็ตามเขามิอาจทนอาการปวดหัวนั้นได้ในตอนนี้  เขารู้สึกทั้งร่างไร้พลัง  พลังปราณของเขาได้รับการฟื้นฟู แต่ร่างกายของเขาเหนื่อยอ่อนมายาวนาน  จากนั้น ความหิวโหยอย่างรุนแรงแสดงขึ้นที่ท้องของเขา  ยิ่งกว่าจวินโม่เซี่ยถูกทรมาณให้ตาย

 

ข้าอยู่ที่นี่โดยไร้อาหารมานานเท่าใหร่กัน ?  เอ ไม่ต้องบอกเลยว่า … ไม่มีแม้แต่น้ำ …​

 

จวินโม่เซี่ยสำรวดพื้นข้างไเท้าของเขา และตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งที่เขาได้ทำไป …

 

แต่ละเแถวของขวดหยกที่วางเรียงรายอยู่บนพื้น

 

เขานับจำนวนขวดเหล่านั้น ….

พระเจ้า !

 

จวินโม่เซี่ยสูดอากาศเยือกเย็นเข้าไป

ข้าปรุงยามากมายเช่นนี้จริงหรือ ?  ไร้สาระ !  ข้านี่ประหลาดนัก !  ความจริง ข้าคงมิใช้แม้แต่ปุถุชน …

 

มียาหยางลึกลับห้าขวด สามขวดยาหยินขาดหาย หกขวดยาหัวใจปิศาจ แปดขวดยาเชื่อต่อลมปราณ และ ห้าขวดยาหลายผสาน …

 

พระเจ้า !

 

ข้าเป็นเลิศนัก !  เป็นเลิศยิงนัก !  ข้าช่างหล่อเหลาเสียจริง !  ประหลาดใจยิ่งนัก !  …..  ไม่มีวาจาใดที่จะอธิบายถึงฝีมืองของข้าได้ ​!

 

ยาเหล่านี้ … พวกมันมี … พลังอำนาจ เอ !  เหล่าองครักษ์ทั้งสามร้อยของข้าจักก้าวหน้าไปได้เพียงใดเมื่อข้ามอบยาเหล่านี้ให้พวกเขา ?  มันต้องน่าหวาดกลัวอย่างแน่นอน !

 

จวินโม่เซี่ยใช้เวลายกย่องตัวเอง  จากนั้น เขารีบเร่งหลบออกจาก เจดีย์หงส์จวิน … ข้าคงจักทรมาณจนตายหากยังไม่ออกจากสถานที่นี้ …

 

อย่างไรก็ตาม จวินโม่เซี่ยมิรู้เลยว่าเขาใช้เวลาสามวันสามคืนภายใน เจดีย์หงษ์จวิน แทนที่จะเป็นเพียงคืนเดียวตามที่เขาตั้งใจไว้  ยิ่งไปกว่านั้น เขามิรู้ถึงความวุ่นวายเนื่องด้วยเขามิได้อยู่เลย …

 

คุณชายน้อยแห่งสกุลจวินหายตัวไปจากจวนของเขา … ไม่มีผู้ใดพบร่องรอยการเดินทาง และเขามิได้บอกกล่าวแก่ผู้ใดเลย  ยิ่งปกว่านั้น เขามิเคยหายตัวไปยาวนานเช่นนี้มาก่อน …

 

นอกเหนือจากนั้นจวินโม่เซี่ยหายตัวไปหลังจากเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวไปจากจวินสกุลจวิน  สิ่งนี้บ่งบอกถึงสิ่งใด ? มีผู้ใดจักจินตนาการได้ ?

 

ทั่วทั้งสกุลจวินวุ่นวายสับสน และทุกผู้กำลังร้อนใจ  บางสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้น !

 

เป็นสิ่งอุกอาจ !

 

คุณชายน้อยสามแห่งสกุลจวิน !  สายเลือดเพียงหนึ่งที่หลงเหลือ ! หยางสำหรับบุรุษ หยินสำหรับอิสตรี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด