Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ 361 ท่านไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร

Now you are reading Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ Chapter 361 ท่านไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จวินโม่เซี่ยคาดว่า สายฝนแห่งการดุด่าของเขาจักส่งผลมากกว่า หมัดของ ประสกเหมย หากลีจื้อเทียนได้ยินมันอย่างชัเจน  ลีจื้อเทียนจักเสียสติ และทำให้การบาดเจ็บของเขาแย่ลงไปอีก เขาจักเดือดดาล และปราณเชวียนของเขาจักได้รับความเสียหาย นี่จักทำให้อวัยวะภายในของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง  ทำให้เขากระอีกเลือด และอาการของเขาเลวร้ายลง

 

จวินโม่เซี่ยมองออกไปอย่างเยือกเย็น และยินดีที่ได้เห็น ลีจื้อเทียน กระอักเลือด

นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นตาเฒ่า  ไม่นานเจ้าจักได้เห็นลูกของเจ้าตายต่อหน้าด้วยความปิติ  เพียงแค่รอเท่านั้น และข้าจักเอาศพของลูกชายเจ้าให้ดู  จากนั้น ข้าจักดูเจ้ากระอักเลือด เจ้าชั่วช้า !

 

ลี่เติ้งหยวน คุณชายน้อยผู้นี้เตือนเจ้าเรื่องการนองเลือดแล้ว  ข้าบอกว่าเจ้าไม่อาจหลีกหนีมันได้ แม้นว่าเจ้าต้องการ  เจ้าไม่เชื่อข้าใช่ไหม ?  รอก่อน  คุณชายน้อยผู้นี้จักพิสูจน์ให้เจ้าเห็น !

 

วันนี้ข้าได้มีโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิต  ข้าจะมิได้ชื่อว่า จวินโม่เซี่ยหากข้าไม่สังหารเจ้า !

 

การดูหมิ่นที่มหาศาลนี้หมายถึงการโจมตีจิตวิญญาณของ ลีจื้อเทียน บอกได้ว่า จวินโม่เซี่ยได้ใช้อุบายทางจิตที่ยอดเยี่ยม  เขาระบุจุดอ่อนในจิตใจของเขา และคว้ามันไว้  จากนั้นเขาตรึงเขาไว้ และสร้างโอกาสขึ้นไปทีละก้าว  จวินโม่เซี่ยโจมตีเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และทำให้เกิดช่องโหว่ และแล้วเขาก็ได้ไปถึงเป้าหมาย

 

จวินโม่เซี่ยได้เห็น ประสกเหมย จัดการกับลีจื้อเทียน  และ ในตอนนั้นเองที่ข้าได้ความคิดที่จักทำลายศัตรู

 

เขาวางแผนทำให้ ลีจื้อเทียน ขายหน้าตั้งแต่แรก นครพายุหิมะสีเงิน เพียงช่วยเปิดทางให้เขาทำมันได้อย่างเปิดเผยเท่านั้น  ความจริง จวินโม่เซี่ย ก็มีเหตุผลให้ดุด่า ลีจื้อเทียนได้แม้ว่า เซี่ยวฮั่นจักมิได้กระโดดเข้ามาและเอ่ยวาจาโง่เขลานั้น

 

แต่ เซี่ยวฮั่นชั่วช้าผู้นี้ เอ่ยว่า เรายังไม่พ่ายแพ้จนกว่าพวกเขาจักตาย ทำให้จวินโม่เซี่ยมีเหตุผลที่ดีในการเริ่มต้น

 

ความคิดชั่วร้ายพุ่งขึ้นมาในหัวของจวินโม่เซี่ย

ข้าจักไม่ปล่อยผู้ใดก็ตามที่พยายามล่อให้สกุลจวินติดกับ !

 

ไม่ว่าเจ้าเป็นผู้ใด … ไม่สำคัญว่าเจ้าถูกบังคับ … ไม่สำคัญว่าเจ้าจักมีปัญหาหรือไม่  เจ้าจักได้เผชิญกับโทสะของข้าหากจ้ามีส่วนเกี่ยวข้อง โทสะของ จอมโฉด !

 

” อะแฮ่ เรื่องนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้ และมันไม่ไร้เหตุผล  พี่ข้า และข้าเวทนาในประสบการณ์อันน่าเศร้าของ ยอดขุนพลจวิน  และ พวกเราดีใจที่วันนเขาโชคดี และรอดชีวิตโดยไม่บาดเจ็บ  มันเป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลอง ! ”

ปู้กวงเฟิงนั้นมีนิสัยตรงไปตรงมา  ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่พอใจอย่างยิ่งในสิ่งที่เขาเห็นตั้งแต่ต้นในการศึกครั้งนี้  แต่ ส่วนใหญ่เขารำคาญ ลีจื้อเทียน และ นครพายุหิมะสีเงิน

 

นั่นเพราะเขาได้เห็นวีรบุรุษที่น่าเวทนาเดินทางมาไกลเพื่อช่วยคนอื่น แต่คนผู้นั่นง่วนอยู่แต่กับการวางกับดักวีรบุรุษผู้นี้  แต่ วีรบุรุษผู้นี้ติดกับด้วยความเชื่อและความรับผิดชอบ  ความจริง เขาได้ก้าวไปข้างหน้าโดยตัดสินใจที่จักสู้และตายโดนไม่เสียใจ !  เขายึดมั่นในความรับผิดชอบแม้นเมื่อต้องเผชิญกับความตายที่คงอยู่ข้างหน้า  ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้มอบสุดสิ่งที่เขามี… โดยไม่คิดถึงอุบายนี้

 

คนขี้ขลาดผู้สมรู้ร่วมคิดทำตัวราวทรราช พวกเขาไม่เชื่อฟังคำสั่งและแตกแถว แต่ วีรบุรุษจักมีจิตสำนึกที่ชัดเจนไม่ว่าเขาจักอยู่หรือตาย  เขาตัดสินใจที่จักใช้ความกล้าของเขาเพื่อปกป้องทุกคน แม้นแต่ผู้ที่วางกับดักเขา …และนั่นเพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มของเขา

 

ผู้ใดก็ตาที่ได้เห็นกระบวนทัพของจวินวูอี้ด้วยสายตาอันเฉียบคมนั้นสามารถคาดการณ์ได้ว่าผลลัพธ์นั้นจักต้องเป็นการสูญเสีย  แต่ ก็บอกได้ว่ามันจักไม่น่าเวทนาเช่นนี้  แต่ ไม่มีผู้ใดกล่าวโทษจวินวูอี้สำหรับความผิดพลาด

 

เขารู้ว่ามันเป็นกับดัก แต่ ทหารคือทหาร และ แม่ทัพคือแม่ทัพ จวินวูอี้ต่อสู้เพื่อดินแดน มิใช่เพื่อการมีชีวิตอยู่  อาจดูเหมือนโง่เขลา แต่มันก็เพียงพอกับผู้ที่ทำตามคำสั่งของเขา และปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพและยอมรับอย่างสูง

 

เล่ยเปายู่ แล ปู้กวงเฟิงได้เห็นสิ่งเหล่านี้  แต่ โลกเซียนอมตะ และ ลีจื้อเทียนยังคงมีสัมพันธ์บางอย่าง ดังนั้น ความคิดเห็นของเขาเอนเอียงไปฝั่ง ลีจื้อเทียน และดินแดนนี้เล็กน้อย  แต่พวกเขาพบว่า มุมมองของเขาเบี่ยงเบนไปโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า

 

จวินวูอี้มิได้ทำผิดพลาด และ ผู้คนก็เห็นใจกับสถานการณ์ของผู้ตกอับ  ยิ่งไปกว่านั้น ทูตจาก โลกเซียนอมตะ ถือว่าตนยืนหยัดเคียงข้างความยุติธรรม เช่นนั้น พวกเขาไปอยู่ข้างจวินวูอี้โดยไม่รู้ตัว

 

นั่นเพียงพอแล้วในตอนนี้ … แม้นว่าจะเป็นเพียงชั่วคราว

 

วีรบุรุษที่น่าเวทนาจักได้รับการเห็นใจได้ง่ายเสมอ และ จวินวูอี้คือผู้นำวีรบุรุษในวันนี้  เขาได้กลายเป็นจุดสนใจของยอดฝีมือเทพเชวียนหลายคน

 

” ศึกครั้งแรกจบลงด้วยชัยชนะของเทียนฟา ! ”

ปู้กวงเฟิงประกาศ จากนั้นเขามองไปยัง ประสกเหมยก่อนถาม

” ด้าน ประสกเหมย ผู้ใดต้องการต่อสู้ในรอบที่สอง ? “

 

” รอบที่สองจักเป็นการต่อสู้โดย ราชันงู !  เจ้าส่งผู้ใดก็ได้เข้ามาต่อสู้ ไม่ว่าชนะหรือแพ้ในรอบนี้ พวกเราจักต่อสู้กับผู้อาวุโสที่อยู่ที่นี่ทุกคน ข้ามั่นใจว่าข้าสามารถจัดการกับทุกคนได้ ”

 

ประสกเหมยคำรามทางจมูก และเพ่งมองไปยังจวินโม่เซี่ยขณะที่ชุดคลุมของนางแกว่งไปมาอ่อนโยน สายตานั้นราวกับหมุดที่พุ่งไปยังจวินโม่เซี่ย และทำให้เขารู้สึกเจ็บบนใบหน้าในทันที

 

” ปู้กวงเฟิงกล้าหาญอย่างแท้จริง ! ”

ปู้กวงเฟิงยิ้มและเอ่ยต่อ

” เด็กคนนี้เก่งมากนัก เขามิได้เปิดเส้นลมปราณด้วยยาวิเศษบางอย่าง  หรือมียอดฝีมือเทพเชวียนคนใดที่ถ่ายลมปราณให้เขา และเขาได้ไปยังขั้นเชวียนหยกสูงสุดเพียงอายุเท่านี้ !  บอกได้ว่าเขานั้นมีฝีมือที่ยอดเยี่ยมและหาได้ยาก … ราวกับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในรอบพันปี !  ที่ ประสกเหมย ตีสนิทเขาเมื่อครู่นี้  เป็นไปได้ว่า ท่านต้องการรับเขาเป็นศิษย์ ? “

 

เขาใช้สามัญสำนึก สภาพปัจจุบันของจวินโม่เซี่ยในตอนนี้ก็เพียงพอที่จักบอกว่าทักษะของเขานั้นเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อ พลังปราณ ของเขาเปลี่ยนแปลงไปในระดับที่เพิ่มขึ้น ความจริง อาจอยู่ในอันดับที่ดีที่สุดในดินแดน  และ สิ่งเช่นนี้ไม่อาจหลบซ่อนไปจากสายตาของผู้ที่อยู่ในฐานะของยอดฝีมือมาร้อยปีไปได้  ความจริง เขาก็ต้องการรับ คุณชายน้อยผู้นี้เป็นศิษย์คนแรกเช่นเดียวกัน !  แต่ ประสกเหมย ลงมือเสียก่อน ดังนั้น เขาจึงทำตามสามัญสำนึก และอนุมานว่า ที่ราชันแห่งเทียนฟาจู่โจมแบบไม่รุนแรงถึงบาดเจ็บนั้นเป็นเพียงการทดสอบ

 

” หึม ?  รับเขาเป็นศิษย์ …. ? “

ดวงตาของ ประสกเหมยเปล่งประกาย  จากนั้นนางยิ้มตอบ

” อาวุโส ปู้พูดถูกต้องแล้ว … ตรงข้ามกับสิ่งที่คาด มันเป็นเช่นนั้น ! ข้าตั้งใจเช่นนั้น ! ”

 

เหตุใดข้าต้องรับเขาเป็นศิษย์ ?  ข้าจักข่มเหตุสิ่งมีชีวิตนี้จนพอใจได้หากเขาเป็นศิษย์ข้า !  เขาจักโดนทรมาณทุกวัน เขาจักโดนข่มเหงทุกคืน สนับสนุนผู้แปลได้ที่ ไทยขีดโนเวลดอทคอม ข้าจักทรมาณเขาทุกที่ทุกเวลา !

ประสกเหมยรู้สึกมีความสุขอย่างมากขณะที่นางมองไปยังจวินโม่เซี่ย

 

” ฮี่ฮี่ … ยินดีด้วยประสกเหมย !  นี่เป็นศิษย์ที่ดี !  ข้ามั่นใจว่า ผู้คนจักได้พบยอดปรมาจารย์อีกคนในไม่ช้านี้ ! ”

น้ำเสียงของปู้กวงเฟิงมีร่องรอยแห่งความเสียใจและริษยา ประสกเหมย ยอดฝีมือสูงสุด ตัดสินใจรับเขาเป็นศิษย์  แต่ เขาอดคิดไม่ได้ …

คุณชายน้อยจากสกุลจวินผู้นั้นมิได้เอ่ยและขอบคุณเพื่อรับสิทธินี้เลยหรือ ?  มันมิควรเป็นเช่นนั้น !

 

” อ่าห์ … นี่ควรค่าแก่การฉลอง ! ”

ประสกเหมย เอ่อนย่างนักแน่น

ดังนั้นน สนับสนุนผู้แปลได้ที่ thai-novel.com ตอนนี้ข้าไม่ต้องยุ่งกับมันแล้ว … หึ !

 

ประสกเหมย ส่งเสียงแหลมดังหลังจากนนางเอ่ยจบ และสั่งให้กองกำลังของนางล่าถอยไป  แต่ กองกำลังที่เผชิญหน้าอยู่ไม่เต็มใจที่จักจากกันนัก  ตวนมู่โฉวเฟิน ซิกงอันยี่ รวามถึง ตงฟางเหวินชิง โบกมือ และอสูรเชวียนฝ่ายตรงข้ามก็มบัดอุ้งเท้าอย่างสุภาพ พวกเขา สบัดหาและล่าถอยไป

 

นี่คือความสามัคคียิ่งระหว่างอสูรและคนทำให้ผู้คนมากมายบนเนินเขาที่ได้เห็นงุนงง แต่ทว่าผู้ที่กลับมาหลังจากพ้นจากหายนะกลับหลั่งน้พตา …

 

เกินจินตนาการ !  จวินโม่เซี่ยตะโกนทั้งวัน !  เขากล่าวหาเราอย่างผิดๆเพื่อให้ได้มาซึ่งความเห็นใจ อย่างเชื่อมั่น !  แต่ มันเป็นแค่การเล่นใหญ่ !  บางคนไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนในความสับสนนี้ ในขณะที่พวกเราที่เหลือ ถือกระโหลกอยู่ในมือและต่อสู้อย่างแท้จริง !

 

เซี่ยวฮั่นเกือบกระอักเลือด  เขาชี้นิ้วสั่นเทาไปยังจวินโม่เซี่ยด้วยความโกรธเคืองและจิตสังหาร  จากนั้นเขาเอ่ย

” อย่างที่เห็น …อย่างที่เห็น … เจ้าเป็นคนวางแผนการนี้ … ชั่วช้านัก ! “

 

” เจ้าคนน่ารังเกียจ !  ผู้ใดจักน่ารังเกียจไปกว่าเจ้า ?! “

จวินโม่เซี่ยตอบโต้อย่างชั่วร้าย

” เจ้าเห็นเราสมรู้ร่วมคิดที่ใด ?!  มันเรียกมารยาท !  เจ้าไม่รู้สึกอะไรหรือหลังจากที่ได้ต่อสู้กับใครบางคนมาเป็นเวลานาน ?  ผิดอันใดที่โบกมือลาก่อนจากกัน ?”

 

” อะไรนะ ?  เจ้ามีหน้าเอ่ยเช่นนั้นได้อย่างไร….? “

เซี่ยวฮั่นรู้สึกโกรธจนอยากตาย

” คนของเจ้าเพียงน้อยนิดที่ตายในการต่อสู้  แต่เจ้ายังใส่อารมณ์ใส้ผู้อื่น เจ้าไม่ไร้ยางอายอย่างนั้นหรือ ? “

 

” ไร้สาระ !  พวกเราตายไม่กี่คนอย่างนั้นหรือ …. ?  พวกเราสูญเสียความแข็งแกร่งกว่าครึ่ง !  แต่เจ้า …. ?  เจ้ามิได้สูญเสียแม้แต่คนเดียว !  และ เจ้ายังกล้าเผชิญหน้ากับข้าในเรื่องนี้ ! ”

 

จวินโม่เซี่ยขุ่นเคืองมากเช่นกัน เช่นนั้น เขาจึงเพ่งมองกลับไป

“และนั่นคือชีวิตมนุษย์ที่เราพูดถึง !  ชีวิตคนนั้นไม่อาจประเมิณค้า เจ้าไม่เข้าใจอย่างนั้นหรือ ?  เจ้ารู้ไหมว่าข้าต้องจ่ายค่าทำศพเท่าใด ?  มันเป็นตัวเลขมหาศาล ! “

 

มหาศาล ?  งานศพที่แพงมหาศาล ?  ตอนนี้คนผู้นี้คิดถึงเรื่องนี้อย่างนั้นหรือ ?

 

“เจ้า … เจ้า ….เจ้า ….”

เซี่ยวฮั่นหายใจไม่ออก  เขาตะกุกตะกักกับคำว่า เจ้า อยู่ชั่วครู่  ความจริง เขาเกือบเป็นลมด้วยโทสะ

 

” เจ้านั้นมัวแต่จักกล่าวหาอย่างเลือดเย็น  อย่างแรก เจ้าอยากเอาชีวิตผู้อื่นและหนีออกมาอย่างปลอดภัย  จากนั้น เจ้ากล่าวหาว่าเราสมรู้ร่วมคิดกับศัตรู ….!  เจ้าเคยเห็นคนกับเสือร่วมมือกันหรือไม่ ?  เหตุใดเจ้าไม่ลองสมคบคิดกับพวกเขาให้ข้าดูละ ? “

 

จวินโม่เซี่ย ไม่อาจปล่อยไปได้  เขากระทืบเท้าและกระหน่ำตำหนิ

” คนส่วนมากไม่ชอบคนเช่นนี้  เจ้าไม่มีความสำเร็จของตัวเอง  เช่นนั้น เจ้าพยายามทำลายความสำเร็จของคนอื่น !  เจ้า .. เจ้า … เหตุใดเจ้าไม่อาจยอมรับความจริง ?  เจ้าไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร …. ? “

 

เซี่ยวฮั่นคำรามลั่นด้วยโทสะ  จากนั้นเขาหงายหลังล้มลง !  ครั้งนี้เขาเป็นลมไปเพราะโทสะ

 

ทุกคนมองหน้ากันและคิด

เราไม่รู้ว่าเจ้าสมคบกับพวกเขาได้อย่างไร แต่ เมื่อดูจากฉากสุดท้ายก็เพียงพอที่ทำให้รู้ว่ามีบางสิ่งน่าสงสัยเกิดขึ้น !  พวกเราไม่เห็นเจ้าร่วมวางแผน แต่พวกเราไม่เคนเห็นอสูรเชวียนและคนตอสู้กันครึ่งวัยและจากนั้นกลายเป็นเพื่อนกันแทนที่จักสังหารกัน …

 

ยิ่งไปกว่านั้น การได้เห็นอสูรเชวียนสบัดอุ้มเท้าเพื่อบอกลานั้นเป็นการพิสูจน์ มันเป็นบางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้มาเป็นแสนปี !  เราจะต้องตัดหัวตัวเอง หากยังไม่เชื่อว่าเจ้ามิได้สมคบคิดกับพวกเขา !

 

ทุกคนเลือกที่จะไม่เอ่ยวาจานั้นออกมา … แม้นว่าพวกเขาจักคิดเช่นนั้น

 

เจ้าได้ยินสิ่งที่เขาเอ่ยไหม ?  เขาบอกว่าเราลองควรสมคบคิดกับพวกเขาดู !  ราวกับว่าเราจักสมคบคิดกับพวกเขาได้หากต้องการ…. ! พวกเราจักมิได้รับการปฏิบัติราวผู้เป็นเลิศหรือหากเราทำเช่นนั้นได้ ?

 

สมคบกับเหล่าอสูรเชวียนขั้นเก้า ?  สมคบคิดกันที่ใด ?  มันไม่เหมือนการส่งอาหารไปให้พวกเขาหรอกหรือ ? สนับสนุนผู้แปลได้ที่ thai-novelดอทคอม

พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอสูรเชวียนและใช้พลังอย่างมากในการทำเช่นนั้น และผลก็คือพุงของพวกเขาจักยุบลงไป

ข้ายังไม่อยากตาย  ข้าจักฝ่าวงล้อมและหนีออกมาก่อนจะถูกพวกเขาฉีกเป็นชิ้นๆ !  เหตุใดข้าต้องไปอีกครั้ง ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด