Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก 28 พรสวรรค์ธาตุดิน กับ การสอบกลางภาค

Now you are reading Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Chapter 28 พรสวรรค์ธาตุดิน กับ การสอบกลางภาค at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อ่านโดจิน doujinza.com

บทที่ 28 พรสวรรค์ธาตุดิน กับ การสอบกลางภาค

สายแต่แต่ละคู่มองหาเหมิงเหล่ยด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน

สงสัย อิจฉา ริษยา

สายตาแต่ละคู่นั้นให้อารมณ์ต่างกันก็จริง แต่อารมณ์ที่คล้ายคลึงกันส่วนมากคือความไม่พอใจ

“มนุษย์ธรรมดๆแต่กลับมีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ดีจนน่าหมั่นใส้ ไม่รู้ว่าต้องไปขอพรแบบไหนถึงมีดวงแบบนั้น”

ใช่แล้ว พวกเราเป็นลูกหลานของเทพมังกรเองก็ไม่เห็นมีพรสวรรค์แบบนั้นเลย แล้วทำไมมนุษย์ต้องต่ำแบบนั้นกลับมีได้ละ”

“หื้ม แล้วไงวะ มีพรสวรรค์ก็เท่านั้นละ การฝึกเวทมนตร์น่ะมีพรสวรรค์เป็นทุนเดิมก็จริง แต่พรแสวงหน่ะมันสำคัญยิ่งกว่า…”

กลิ่นความอิจฉาเปรี้ยวหึ่งไปทั่วคลาสเรียน จนค่า Ph ในอากาศแทบจะลดลงเหลือแค่ 1

“หมอนั่นนะเหรอ คืออัจฉริยะคนนั้นน่ะ”

ชายครึ่งมังกรหน้าตาธรรมดาๆหันมามอง เขาคือรูมเมทของเหมิงเหล่ย คนที่ทำตัวเย็นชาคนนั้นนั่นละ

“ถึงตาเจ้าแล้ว”

เสียงของรุ่นพี่เจนนี้ดังขึ้นข้างหลังเขา เขาเลยยืนขึ้นแล้วพูดอย่างเฉยชา “สวัสดี ข้าแอบบี้ มาจากตัวเมืองจักรวรรดิ”

“ตัวเมืองจักรวรรดินั้น หรือว่า เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิเทพมังกรหน่ะ”

“มาจากเมืองหลวงเลยเหรอ”

“โห เขาต้องเป็นผู้มีอิทธิพลเป็นผู้ดีชั้นสูงแน่ๆเลย”

คำพูดของแอบบี้นั้นเป็นจุดสนใจของทุกๆคน รวมถึงเหมิงเหล่ยด้วย

ซึ่งเหมิงเหล่ยเองก็ตกใจเหมือนกัน จนหันกลับไปมองเพื่อนร่วมหอของเขา (ตกใจที่ตัวเองพึ่งรู้จักชื่อทั้งๆที่อยู่ในหอเดียวกันด้วยละ)

“แอบบี้ ทำไมเจ้าไม่ไปเข้าเรียนที่วิทยาลัยในเมืองหลวงแต่กลับเข้ามาที่วิทยาลัยมังกรไฟของเราละ”

ใครบางคนถามคำถามที่อยู่ในใจของหลายๆคนขึ้นมา แต่น่าเสียดาย สิ่งที่เขาได้รับกลับไปนั้น มีเพียงสายตาเฉยชาของแอบบี้เท่านั้น

หมอนั่นเย็นชาชะมัดเลย

เหมิงเหล่ยเม้มปากแล้วพยายามทำความเข้าใจเพื่อนร่วมหอของเขา แอบบี้ไม่ได้แค่เย็นชากับเขาคนเดียว แต่เย็นชาใส่ทุกคนด้วย เหมือนกับมีกำแพงน้ำแข็งที่กันไม่ให้ใครเข้าใกล้ได้

“ชิ ไอ้คนหยิ่งเอ้ย”

หลังจากแนะนำตัวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว รุ่นพี่เจนนี้ก็เริ่มนำเสนอข้อมูลต่างๆที่จำเป็นต่อการเรียน

แต่ละคลาสจะมีอาจารย์ทั้งหมด 10 คน แต่ละคนจะสอน คนละธาตุเวทมนตร์  การเลือกวิชานั้นจะขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ธาตุของตัวผู้เรียนเอง ที่เหลือเป็นเวลาว่างที่พวกเขาจะทำอะไรก็ได้

“โห่ ข้าละอิจฉาเจ้าจริงๆ เรียนแค่วันละวิชา ที่เหลือก็เป็นเวลาว่างได้พักทั้งวันเลย ไม่ต้องแบกร่างไปเรียนเยอะแยะ”ทันทีที่รู้เรื่องนี้ ฮาร์ตก็เข้าหาเหมิงเหล่ยแล้วบ่นทันที “ข้านี่ซิดวงซวย เรียนตั้ง 3 วิชาต่อวัน จะบ้าตายแน่ๆ”

“ก็เพราะว่าเจ้ามีพรสวรรค์มากๆไงละ”เหมิงเหล่ยหัวเราะ “เมื่อกี้พี่เจนนี้เขาแนะนำมาว่าให้เจ้าเลือก 1 ธาตุ เป็นธาตุหลัก แล้ว อีก 2 ธาตุเป็นธาตุเสริม เจ้าน่ะมีทางเลือกให้เลือกเยอะจะตาย”

แดนเนียลพยักหน้าเบาๆก่อนจะพูด “ใช่แล้ว ได้เรียนตั้ง 3 ธาตุมันไม่ได้กินพลังงานของเจ้าขนาดนั้นหรอก อย่างน้อยก็ยังโฟกัสได้นะ”

“ข้าเองก็คิดแบบนั้นละ แต่พ่อของข้านี่ซิ บอกว่าถ้าข้าไม่ทุ่มเทกับธาตุไหนแม้แต่ธาตุเดียวละก็ เขาต้องหักขาของข้าทิ้งแน่ๆ เพราะงั้น ข้าขัดไม่ได้หรอก”

ฮาร์ตทำสีหน้าไม่ค่อยโอเคเท่าไร

“เพราะงั้นก็คงช่วยไม่ได้ละนะ”เหมิงเหล่ยยิ้มแล้วถาม “แล้วพวกเจ้าจะไปทำอะไรที่ไหนต่อไหม”

แดเนียลมองนาฬิกาพกของตัวเองแล้วยิ้ม “ยังไม่เที่ยงเลย ร้านข้าวยังไม่เปิด เราไปเดินเล่นรอบๆวิทยาลัยกันหน่อยไหม เจ้าพึ่งมาถึง คงยังดูไม่ทั่ววิทยาลัยละซิ”

“ไม่เลย”

“ไม่เหมือนกัน”

“เอาละงั้นไปกันเลย”

แน่นอนเหมิงเหล่ยไม่พลาดโอกาสนี้แน่ๆ เพราะนี้เป็นโอกาสที่เขาจะได้ตามเก็บของทั่ววิทยาลัยยังไงละ

…  อ่านโดจิน doujinza.com

ทั้ง 3 คนเดินไปรอบๆวิทยาลัย ชื่นชมกับทัศนียภาพโดยรอบวิทยาลัย ไปพร้อมๆกับพูดคุยกันเรื่องวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นกัน ส่วนเหมิงเหล่ยเองก็แอบเก็บผลึกตลอดทางเพื่อเพิ่มค่าความสามารถ

ผลประกอบการเก็บของช่วงเที่ยงวันนี้เรียกได้ว่างอกงามพอสมควร ทั้งค่าวิญญาณ ค่าพลังเวท คาถาเวทมนตร์ ของเขาเพิ่มมากขึ้น เพิ่มมากกว่าการที่เขาตั้งจิตสมาธิตอนกลางคืนซะอีก

เหมิงเหล่ยเองก็พอใจมากๆกับการออกมาเก็บของครั้งนี้ แล้วเขาก็วางแผนชีวิตนักเรียนของเขาไว้แล้วด้วย

เรียนตอนเช้า เดินเที่ยวเก็บของตอนเที่ยง นั่งสมาธิตอนกลางคืน

เหมิงเหล่ยเชื่อว่าถ้าทำ 3 อย่างนี้ได้ทุกวันละก็ เขาต้องพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดแน่ๆ

“เห้อ ในที่สุดก็กลับถึงหอซักที เหนื่อยใจจะขาดแล้ว”

พวกเขากลับมาที่หอพักหมายเลข 431 ฮาร์ตโยนตัวเองลงบนโซฟาทันทีที่ถึงหอ

“เดินแค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วเหรอ ฮาร์ต เจ้าควรจะลดน้ำหนักบ้างนะ” เหมิงเหล่ยพูดหยอก แต่ตอนนั้นเองที่เขาเห็นลูกผลึกสีฟ้าดรอปออกมาจากฮาร์ต

“ติ้ง ค้นพบไอเทมดรอป จะเก็บมารึไม่”

ดรอปจากตัวของฮาร์ตงั้นเหรอ เหมิงเหล่ยตกใจนิดหน่อยแต่ก็เก็บขึ้นมาอยู่ดี

“ติ้งเก็บสำเร็จ ยินดีด้วย เจ้าของได้รับพรสวรรค์ธาตุดิน”

หะ?

เหมิงเหล่ยตกใจ

พรสวรรค์ธาตุดินเหรอ?

นี้ฉันเก็บพรสวรรค์ธาตุดินของฮาร์ตได้งั้นเหรอ

อะไรวะเนี่ย!?

เหมิงเหล่ยเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีเหมือนกัน เพราะผลึกพรสวรรค์เวทมนตร์นั้น เป็นผลึกที่หาได้ยากที่สุด ตั้งแต่ที่มีระบบมาจนถึงเมื่อกี้นี้ เขาเก็บผลึกพรสวรรค์เวทมนตร์มาได้แค่อันเดียวเท่านั้น แล้วของฮาร์ตคืออันที่ 2 หมายความว่าพรสวรรค์เวทมนตร์นั้นมันหายากมากๆ

เก็บได้ของดีขนาดนี้มา ใครกันละจะไม่อยากได้พรสวรรค์เพิ่มขึ้นอีก

ยิ่งกว่านั้นมันยังเป็นพรสวรรค์ของฮาร์ตด้วย มันคือพลังธาตุดินระดับสูง เป็นรองแค่เพียงระดับดีเลิศ เรียกได้ว่าดีสุดๆไปเลย

“ฮาร์ต ถ้าเจ้าไม่ว่าอะไรพรุ่งนี้ข้าขอไปนั่งเรียนวิชาธาตุดินด้วยจะได้ไหม”

“หะ?”

….

เหมิงเหล่ยมาถึงห้องเรียนแต่เช้าตรู่

มีนักเรียนไม่กี่คนในคลาสที่มีธาตุสายฟ้า ถ้ารวมเหมิงเหล่ยแล้วมีเพียงแค่ 7 คนเท่านั้น ห้องเรียนขนาดใหญ่เลยดูว่างเปล่าเหมือนห้องร้างยังไงอย่างงั้น

เหมิงเหล่ยหยิบเอาหนังสือออกมาก่อนจะอ่านมันอย่างตั้งใจ หลังจากนั้นอาจารย์วิชาธาตุสายฟ้าก็เดินเข้ามาในห้อง “อรุณสวัสดิ์ทุกคน ข้ามีนามว่าโฮลาทีโอ่ ข้าจะเป็นคนสอนวิชาเวทสายฟ้าให้กับพวกเจ้าตลอดทั้งปีนี้

อาจารย์โฮลาทีโอ้พูดอย่างตรงไปตรงมา “เวทมนตร์ธาตุสายฟ้าของเรานั้นเป็นสายพลังเวทที่รุนแรงและทรงพลังมากที่สุดในบรรดา 10 ธาตุ ไม่มีธาตุ….”

เหมิงเหล่ยเองก็ตั้งใจฟัง ถึงแม้ว่าเขาจะร่ายเวทออกมาได้โดยใช้ระบบช่วย แต่เขาเองก็ไม่มีความรู้ด้านเวทมนตร์เลยแม้แต่นิดเดียว

หรือก็คือ เขาสามารถร่ายเวทมนตร์ได้ ตั้งแต่เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำยังไงบ้าง ดังนั้น ความรู้พื้นฐาน กฎข้อห้าม ธรรมชาติของเวทมนตร์ ทุกอย่างที่อาจารย์สอนมานั้นเป็นสิ่งที่เหมิงเหล่ยควรจะต้องรู้ทั้งหมด

เหมิงเหล่ยเลยตั้งใจฟังอาจารย์สอนมากๆเหมือนคนหิวกระหายอยากได้ความรู้เรื่อยๆระหว่างที่เรียนนั้น เหมิงเหล่ยเองก็ได้ความรู้ เกี่ยวกับประโยชน์ของการที่มีพลังวิญญาณกล้าแข็ง เขาเป็นคนเรียนรู้ไวและจำคำสอนของอาจารย์แม่นตั้งแต่โลกเก่าแล้ว

“เวทมนตร์นั้นเหมือนกับการจัดตั้งขบวนรบ ธาตุเวทมนตร์ที่กระจัดกระจายอยู่บนโลกนั้น เหมือนกับทหารแตกทัพ และพลังวิญญาณของเราเองก็เหมือนกับแม่ทัพ การที่จะปลดปล่อยพลังเวทที่รุนแรงออกไปได้ จะต้องออกคำสั่งและแปรขบวนรบให้ได้ก่อน…”

เวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะวันที่ยุ่งๆจะผ่านไปเร็วกว่าปรกติเสมอ

รู้ตัวอีกที เหมิงเหล่ยก็อยู่ที่นี้มาได้ 3 เดือนแล้ว

“พี่ชาย พรุ่งนี้สอบกลางภาคแล้ว เจ้ากังวลรึเปล่า”

หลังจากเรียนจบระหว่างที่ไกด์คลาสกำลังประกาศเรื่องการสอบกลางภาคที่กำลังจะมาถึง ฮาร์ตก็โน้มตัวมาคุยกับเหมิงเหล่ยด้วยความกังวล

“มีเรื่องให้ต้องกังวลด้วยเหรอ”

เหมิงเหล่ยพูดก่อนจะเปิดหนังสือตำราเวทมนตร์โบราณอ่านต่อ หนังสือนั้นมีชื่อว่า สารานุกรมเวทมนตร์อัสนี มันเป็นหนังสือที่เขายืมมาจากห้องสมุดเมื่อ 3 เดือนก่อน และมันก็จดบันทึกเวทมนตร์ทุกรูปแบบเอาไว้ตั้งแต่ระดับ 1 – ระดับ 9

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด