Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก 38 โอเด็น ราชานักสู้ ปะทะ เทพายักษ์
บทที่ 38 โอเด็น ราชานักสู้ ปะทะ เทพายักษ์
การที่มันเป็นวิชาต้องห้ามที่ใช้กันแค่ในราชวงศ์มังกรไฟ ดังนั้นออร่ามังกรไฟมันต้องเป็นวิชาที่สุดยอดมากแน่ๆ การที่ใช้วิชานี้จะทําให้ความสามารถของคนๆนั้นพุ่งไปถึงจุดยอดสุดของระดับ 9 ในทันที มันเป็นสมบัติที่แม้มีเงินก็หาซื้อไม่ได้ แต่น่าเสียดายและน่าหงุดหงิดตรงที่เหมิงเหล่ยเองก็ฝึกวิชาสุดยอดนี้ ไม่ได้เหมือนกัน เพราะเขาเองก็ไม่มีสายเลือดราชวงศ์มังกรไฟอยู่ในตัวเลยแม้แต่น้อย
วิชาออร่ามังกรไฟนั้นจะทําการสกัดสายเลือดมังกรไฟในตัวของคนที่ใช้ จนกระทั่งสายเลือดนั้นมันบริสุทธิ์ เมื่อไรก็ตามที่สําเร็จวิชานี้ถึงขั้นสูงสุด คนที่ใช้ก็จะสามารถแปลงร่างกลายเป็นมังกรไฟยักษ์ได้
การที่เป็นมังกรไฟยักษ์นั้นไม่เพียงแต่จะได้ครอบครองพลังมหาศาลและร่างกายสุดแกร่งแล้ว ยังมีความสามารถในการควบคุมเปลวเพลิง และพรสวรรค์ในการต่อสู้ระ ดับที่มนุษย์เทียบไม่ติด ยังไงซะมังกรก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนสวรรค์อยู่แล้ว แค่ชื่อของมันก็เพียงพอที่จะเขย่าขวัญของคนได้
ถ้าทําได้เหมิงเหล่ยเองก็อยากจะฝึกมันอยู่หรอก แต่…
ช่างแม่งละกัน ไว้ค่อยคิดอีกทีในอนาคต
ถ้าหาทางอื่นไม่ได้จริงๆ ฉันก็แค่เอามันไปขาย แล้วเปลี่ยนมันเป็นเหรียญทอง แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน
ในขณะที่เขากําลังหงุดหงิดอยู่นั้นเอง เขาก็ต้องยอมรับอย่างนึงว่าผลจากการเก็บของตลอดช่วงเที่ยงที่ผ่านมานั้นเรียกได้ว่าสุดยอดมากๆ ค่าร่างกายของเขานั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 200 แต้ม เงินของเขาเองก็เพิ่มขึ้นมามากกว่า 1000 เหรียญทอง ส่วนค่าวิญญาณก็เพิ่มขึ้นอีก 100แต้มเช่นกัน
เขายังได้ทักษะการต่อสู้อีก 6 อย่าง รวดไปถึงวิชาออร่ามังกรด้วย
หลังจากรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว ความหงุดหงิดในใจของเหมิงเหล่ยก็หายวับไปในทันที เขาดีใจที่ตัวเองคิดถูกแล้วตัดสินใจมาที่นี่ในวันนี้ ความสามารถในการต่อสู้ ของเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ก้อง ก้อง ก้อง
ในตอนนั้นเอง เสียงระฆังดังลั่นขึ้น 3 ครั้งพร้อมด้วยแสงไฟที่เจิดจ้าสาดลงมาจากเพดานฉายลงมายังลานประลองเบื้องล่างที่ทํามาจากทองล้วนๆดูสว่างไสวสะท้อนแสงแยงตา
“อะไรกันวะนั่นน่ะ ลานประลองก็ทํามาจากทองเหรอ”
เหมิงเหล่ยหลี่ตาลงเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ ลานประลองนั้นมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่กว่า 20เมตรทั้งด้านกว้างและยาว สูงมากกว่า 3-4 เมตร ทุกๆอย่างในลานประลองนั้นทําด้วยทองทั้งหมด
ถ้าเกิดแงะมาขายไม่รู้ว่าจะได้มากขนาดไหนกันเลย
ดวงตาของเหมิงเหล่ยเริ่มมองหาโอกาส แล้วเริ่มคิดเข้าข้างตัวเองว่าจะยึดสนามประลองทองคํานี้ไว้กับตัวเองให้ได้ เขาเริ่มคิดว่าทองทั้งหมดนี้ ถ้าขายแล้วจะเอาไปแลกค่าความสามารถได้มากขนาดไหน
“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน สหายทุกคน สวัสดียามเย็น ข้า เฮลตี้ เกรนน่า จะเป็นผู้ดําเนินรายการสําหรับการต่อสู้ที่ทุกคนรอคอย ศึกชิงราชันต์นักสู้! ในนามของสนามเพลิงแห่งนี้ ข้าขอต้อนรับทุกคน!” เสียงอันเพราะพริ้งดังกังวานไปทั่ว มาพร้อมร่างของหญิงสาวที่สวยหยดย้อยลอนตัวลงมาจากเพดานพร้อมด้วยปีกสีขาวเหมือนหิมะ เธอดูเหมือนนางฟ้าที่แสนบริสุทธิ์ลงมาจากสวรรค์ชั้นฟ้า และเธอจะมาเป็นพิธีกรในค่ําคืน นี้
“ครึ่งหงศ์เหรอ”
ดวงตาของเหมิงเหล่ยเบิกกว้างขึ้น ครึ่งหงศ์นั้นคล้ายๆกับครึ่งแมวที่เหมิงเหล่ยเคยเจอ ทั้งคู่นั้นเป็นสายพันธุ์มนุษย์ครึ่งสัตว์ แต่นี้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นมนุษย์ครึ่งหงศ์ เขาจึงตะลึงในความสวยนั้นอย่างห้ามไม่ได้
“สวยงามมาก ไม่แปลกใจเลยที่มีคนเคยบอกไว้ว่า มนุษย์ครึ่งหงศ์เนี่ยละเป็นเผ่าพันธ์ที่สวยงามที่สุดในแดนสวรรค์ แค่เห็นแบบนั้นเลือดมันก็พุ่งพล่านแล้ว”
“สําหรับการประลองราชันต์นักสู้ในค่ําคืนนี้ โปรดให้ข้าผู้นี้เป็นผู้แนะนําตํานานผู้จะมาประลองด้วยเถอะ เขาคนนี้ คือ ราชานักสู้หน้าใหม่ที่พึ่งมาแรงแซงโค้งในปีนี้ โอเด็น ฟริทซ์”
เฮ!!!!!
ลําแสงสีทองจากเพดานสาดแสงเข้าหามุมด้านนึงของลานประลองทันที แท่นยกสูงขึ้นมาให้ทุกคนเห็น ร่างอันมหึมาแข็งแรง บึกบึน ทรงพลัง ร่างกายของเขาสูง 2.4 เมตร พร้อมด้วยกล้ามที่แค่ผู้หญิงเห็นก็น้ําเดินได้
เขาเดียวสีแดงเด่นสง่ายพร้อมด้วยปีกสีแดงเพลิงด้านหลัง เกราะเกล็ดสีแดงฉุดฉาดทั่วทั้งตัว และ หางสีแดงยาว
ร่างกายของเขาเปป็นสีแดงทั่วทั้งตัว ราชันต์นักสู้ โอเด็นฟรีทซ์ ครึ่งมังกรไฟที่มีพลังในการต่อสู้แบบที่หาตัวจับได้ยาก
“โอเด็น!”
“โอเด็น!!!!”
“โอเด็น!!”
“กรี้ด โอเด็น!!!”
“ราชันต์!”
“ราชันต์!!!!!”
“ราชันต์!!”
พอเห็นร่างของโอเด็นแล้วทั้งสนามก็ส่งเสียงเชียร์โห่ร้อง เสียงอีกกระทึกกระแทกจนหูแทบดัง ตั้งแต่เสียงของชายอ้วนถือเหล้าตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ยันเสียงกรีดร้องขาวสา วเซ็กซี่ที่อดใจให้กับกล้ามเนื้อนั้นไม่ไหว เสียงเชียร์ดังระดับที่ว่าเพดานของสนามสั่นสะเทือนได้ บรรยากาศความตื่นเต้นในสนามนั้นแทบจะระเบิดออกมาก็ว่าได้
หมอนั้นมันดังขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ
เหมิงเหล่ยพยายามอุดหูที่ดับสนิทจากเสียงตะโกน เขาไม่คิดเลยว่าครึ่งมังกรไฟนามโอเด็น ฟริทซ์คนนั้นจะโด่งดังได้ขนาด
เหล่าผู้คนที่มาดูอยู่ในสนามตอนนี้ไม่ต่างอะไร จากแฟนบอลเดนตายที่ตามทีมของตัวเองบนโลกเก่าเลย แต่ต่างกันที่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ล้วนแต่มีอํานาจ มีเงิน มีชื่อเสียง มีหน้ามีตาในสังคม หรือไม่ก็มีอิทธิพลกันทั้งนั้น
คนพวกนี้ ไม่ต่างอะไรจากดาราหรือพวกไฮโซ แต่ในขณะเดียวกัน ตอนนี้พวกเขาก็กําลังกดส่งเสียงเชียร์ดังลั่นเหมือนคนบ้า
ไม่ซิ เดี๋ยวก่อนนะ โอเด็น “ฟริทซ์” งั้นเหรอ…ฟริทซ์ เหรอ??
นั้นมันนามสกุลของตระกูลราชวงศ์ไม่ใช่เหรอ หรือว่าหมอนั้นจะเป็นเชื้อพระวงศ์ด้วยเหรอ
ครึ่งมังกรไฟ นามสกุลฟริทซ์ ไม่ผิดแน่ เขาต้องเป็นเชื้อพระวงศ์แน่ๆ
เหมิงเหล่ยตะลึง
แล้วมาเป็นนักสู้เนี่ยนะ!!
ถึงจะดูเป็นแค่เรื่องส่วนตัวแต่แค่การเป็นเชื้อพระวงศ์ก็ส่งผลต่อคนดูมากๆแล้ว ในสายตาของขุดนางชั้นสูง ผู้ที่มีหน้ามีตาในสังคม อาชีพนักสู้นั้นเป็นอาชีพที่ต่ําและไร้เกียรติและศักดิ์ศรี ไม่เคยมีขุนนางคนไหนยอมลงมาเป็นนักสู้ กลายมาเป็นของเล่นเพื่อความสนุกของคนดูหรอก
แล้วยิ่งเชื้อพระวงศ์แล้วยิ่งแล้วใหญ่
ในฐานะที่เป็นสายเลือดเชื้อกษัตริย์ที่ควบคุมอาณาจักรมังกรไฟอยู่ พลังของมังกรไฟเลยไหลเวียนอยู่ในสายเลือดของเชื้อพระวงศ์ทุกคน สายเลือดที่ว่านั้นยิ่งใหญ่ และมี เกียรติเหนือสิ่งอื่นใด เงินทองและชื่อเสียงมีมากมายแต่เดิมอยู่แล้ว ใครมันจะไปอยากลดตัวเองลงมาเป็นนักสู้ละ
แต่ถึงอย่างนั้น ภาพที่ปรากฏตรงหน้ามันชัดเจนแล้ว ว่านั้นคือสิ่งที่โอเด็นเป็น
และเขาคนนั้นก็ยืนตัวเป็นๆอยู่ในสนามแล้วตอนนี้ด้วย
แต่สิ่งที่เหมิงเหล่ยไม่รู้นั้น คือชื่อเสียงที่หนาหูของโอเด็นนั้น แท้จริงแล้วเป็นผลที่ได้มาจากการเป็นราชันต์นักสู้ ก่อนที่เขาจะมาเป็นราชันต์นักสู้นั้น สิ่งที่โอเด็นได้รับไม่ใช่เสียงเชียร์และเสียงปรบมือ แต่เป็นคําด่าและเสี่ยงโห่ไล่
ไม่เหมือนกับนักสู้ทั่วไป ตําแหน่งราชันต์นักสู้นั้น เป็นเหมือนตัวแทนของราชาของเหล่านักสู้และเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งเหนือสิ่งอื่นใด
พวกขุนนางนั้นถึงจะดูถูกเหยียดหยามนักสู้เพียงใด แต่พวกเขากลับยอมรับและชื่นชมราชันต์นักสู้ซะอย่างนั้น
ก่อนที่โอเด็นจะกลายมาเป็นราชันต์นักสู้ ผู้คนต่างหัวเรา เยาะเขา ราชวงศ์แทบจะตัดเขาออกจากวงญาติ แต่ถึงอย่างนั้น พอเขากลายมาเป็นราชานักสู้แล้ว ทุกๆอย่างก็เปลี่ยนไป
มันเป็นเหมือนเสน่ห์ของตําแหน่งราชานักสู้ยังไงอย่างงั้น
เพราะมันเป็นตําแหน่งที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง ที่เป็นเหมือนตราวัดที่มีค่ามากที่สุดแดนสวรรค์ ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้อยู่จุดสูงสุด
“อย่างที่ทุกๆท่านทราบดีนะคะ ว่าราชันต์นักสู้ของเราคนนี้ มีเชื้อสายของราชวงศ์อยู่ในตัวสายเลือดแห่งมังกรไฟอันบริสุทธิ์ไหลเวียนอยู่ในร่างของเขา อาจจะเป็นสาเหตุที่ว่าราชันต์นักสู้ โอเด็นของเราคนนี้ถึงได้มีพลังที่แข็งแกร่ง” เฮลตี้พูดเสียงดังฟังชัด “หลายปีที่ผ่านมานี้ ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในสนามเพลิงแห่งนี้ โอเด็นนั้นย่ํายีทุกๆการประลองที่เขาไป และในที่สุด เขาก็ได้โค่นราชันต์นักสู้คนเก่าแล้วได้สถาปนายึดครองบัลลังค์นักสู้ด้วยตัวเองสําเร็จ”
“มันคือชัยชนะของโอเด็น เป็นชัยชนะของราชวงศ์”
“และวันนี้ เราจะร่วมอวยพ และเอาใจช่วยราชาของพวกเรา ดูซิว่าวันนี้ เขาจะยังคงรักษาสถิติการเป็นราชานักสู้ และสร้างปาฏิหารย์ สร้างตํานานบทใหม่ขึ้นมาได้ไม่ ติดตามชมกันนะคะ!!”
“โอเด็น!!!!!”
“โอเด็น!!!”
“โอเด็น!!!!!”
“….”
“ส่วนผู้ท้าชิงของเราในค่ําคืนนี้ เชื่อว่าหลายๆคนเองก็ คุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดีแล้ว เขาเคยเป็นราชันต์นักสู้สุดแกร่งที่ป้องกันตําแหน่งไว้ได้ถึง 3 ปีซ้อน แถมยังทําผลงานดีเด่นในการปประลองราชาเหนือราชั้นต์นักสู้ประจําจักรวรรดิได้อีก เขาคนนั้นก็คือ เทพายักษ์ใหญ่ของเรา นิโคลัส ออสติน!!!!”
Comments
Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก 38 โอเด็น ราชานักสู้ ปะทะ เทพายักษ์
บทที่ 38 โอเด็น ราชานักสู้ ปะทะ เทพายักษ์
การที่มันเป็นวิชาต้องห้ามที่ใช้กันแค่ในราชวงศ์มังกรไฟ ดังนั้นออร่ามังกรไฟมันต้องเป็นวิชาที่สุดยอดมากแน่ๆ การที่ใช้วิชานี้จะทําให้ความสามารถของคนๆนั้นพุ่งไปถึงจุดยอดสุดของระดับ 9 ในทันที มันเป็นสมบัติที่แม้มีเงินก็หาซื้อไม่ได้ แต่น่าเสียดายและน่าหงุดหงิดตรงที่เหมิงเหล่ยเองก็ฝึกวิชาสุดยอดนี้ ไม่ได้เหมือนกัน เพราะเขาเองก็ไม่มีสายเลือดราชวงศ์มังกรไฟอยู่ในตัวเลยแม้แต่น้อย
วิชาออร่ามังกรไฟนั้นจะทําการสกัดสายเลือดมังกรไฟในตัวของคนที่ใช้ จนกระทั่งสายเลือดนั้นมันบริสุทธิ์ เมื่อไรก็ตามที่สําเร็จวิชานี้ถึงขั้นสูงสุด คนที่ใช้ก็จะสามารถแปลงร่างกลายเป็นมังกรไฟยักษ์ได้
การที่เป็นมังกรไฟยักษ์นั้นไม่เพียงแต่จะได้ครอบครองพลังมหาศาลและร่างกายสุดแกร่งแล้ว ยังมีความสามารถในการควบคุมเปลวเพลิง และพรสวรรค์ในการต่อสู้ระ ดับที่มนุษย์เทียบไม่ติด ยังไงซะมังกรก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนสวรรค์อยู่แล้ว แค่ชื่อของมันก็เพียงพอที่จะเขย่าขวัญของคนได้
ถ้าทําได้เหมิงเหล่ยเองก็อยากจะฝึกมันอยู่หรอก แต่…
ช่างแม่งละกัน ไว้ค่อยคิดอีกทีในอนาคต
ถ้าหาทางอื่นไม่ได้จริงๆ ฉันก็แค่เอามันไปขาย แล้วเปลี่ยนมันเป็นเหรียญทอง แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน
ในขณะที่เขากําลังหงุดหงิดอยู่นั้นเอง เขาก็ต้องยอมรับอย่างนึงว่าผลจากการเก็บของตลอดช่วงเที่ยงที่ผ่านมานั้นเรียกได้ว่าสุดยอดมากๆ ค่าร่างกายของเขานั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 200 แต้ม เงินของเขาเองก็เพิ่มขึ้นมามากกว่า 1000 เหรียญทอง ส่วนค่าวิญญาณก็เพิ่มขึ้นอีก 100แต้มเช่นกัน
เขายังได้ทักษะการต่อสู้อีก 6 อย่าง รวดไปถึงวิชาออร่ามังกรด้วย
หลังจากรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว ความหงุดหงิดในใจของเหมิงเหล่ยก็หายวับไปในทันที เขาดีใจที่ตัวเองคิดถูกแล้วตัดสินใจมาที่นี่ในวันนี้ ความสามารถในการต่อสู้ ของเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ก้อง ก้อง ก้อง
ในตอนนั้นเอง เสียงระฆังดังลั่นขึ้น 3 ครั้งพร้อมด้วยแสงไฟที่เจิดจ้าสาดลงมาจากเพดานฉายลงมายังลานประลองเบื้องล่างที่ทํามาจากทองล้วนๆดูสว่างไสวสะท้อนแสงแยงตา
“อะไรกันวะนั่นน่ะ ลานประลองก็ทํามาจากทองเหรอ”
เหมิงเหล่ยหลี่ตาลงเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ ลานประลองนั้นมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่กว่า 20เมตรทั้งด้านกว้างและยาว สูงมากกว่า 3-4 เมตร ทุกๆอย่างในลานประลองนั้นทําด้วยทองทั้งหมด
ถ้าเกิดแงะมาขายไม่รู้ว่าจะได้มากขนาดไหนกันเลย
ดวงตาของเหมิงเหล่ยเริ่มมองหาโอกาส แล้วเริ่มคิดเข้าข้างตัวเองว่าจะยึดสนามประลองทองคํานี้ไว้กับตัวเองให้ได้ เขาเริ่มคิดว่าทองทั้งหมดนี้ ถ้าขายแล้วจะเอาไปแลกค่าความสามารถได้มากขนาดไหน
“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน สหายทุกคน สวัสดียามเย็น ข้า เฮลตี้ เกรนน่า จะเป็นผู้ดําเนินรายการสําหรับการต่อสู้ที่ทุกคนรอคอย ศึกชิงราชันต์นักสู้! ในนามของสนามเพลิงแห่งนี้ ข้าขอต้อนรับทุกคน!” เสียงอันเพราะพริ้งดังกังวานไปทั่ว มาพร้อมร่างของหญิงสาวที่สวยหยดย้อยลอนตัวลงมาจากเพดานพร้อมด้วยปีกสีขาวเหมือนหิมะ เธอดูเหมือนนางฟ้าที่แสนบริสุทธิ์ลงมาจากสวรรค์ชั้นฟ้า และเธอจะมาเป็นพิธีกรในค่ําคืน นี้
“ครึ่งหงศ์เหรอ”
ดวงตาของเหมิงเหล่ยเบิกกว้างขึ้น ครึ่งหงศ์นั้นคล้ายๆกับครึ่งแมวที่เหมิงเหล่ยเคยเจอ ทั้งคู่นั้นเป็นสายพันธุ์มนุษย์ครึ่งสัตว์ แต่นี้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นมนุษย์ครึ่งหงศ์ เขาจึงตะลึงในความสวยนั้นอย่างห้ามไม่ได้
“สวยงามมาก ไม่แปลกใจเลยที่มีคนเคยบอกไว้ว่า มนุษย์ครึ่งหงศ์เนี่ยละเป็นเผ่าพันธ์ที่สวยงามที่สุดในแดนสวรรค์ แค่เห็นแบบนั้นเลือดมันก็พุ่งพล่านแล้ว”
“สําหรับการประลองราชันต์นักสู้ในค่ําคืนนี้ โปรดให้ข้าผู้นี้เป็นผู้แนะนําตํานานผู้จะมาประลองด้วยเถอะ เขาคนนี้ คือ ราชานักสู้หน้าใหม่ที่พึ่งมาแรงแซงโค้งในปีนี้ โอเด็น ฟริทซ์”
เฮ!!!!!
ลําแสงสีทองจากเพดานสาดแสงเข้าหามุมด้านนึงของลานประลองทันที แท่นยกสูงขึ้นมาให้ทุกคนเห็น ร่างอันมหึมาแข็งแรง บึกบึน ทรงพลัง ร่างกายของเขาสูง 2.4 เมตร พร้อมด้วยกล้ามที่แค่ผู้หญิงเห็นก็น้ําเดินได้
เขาเดียวสีแดงเด่นสง่ายพร้อมด้วยปีกสีแดงเพลิงด้านหลัง เกราะเกล็ดสีแดงฉุดฉาดทั่วทั้งตัว และ หางสีแดงยาว
ร่างกายของเขาเปป็นสีแดงทั่วทั้งตัว ราชันต์นักสู้ โอเด็นฟรีทซ์ ครึ่งมังกรไฟที่มีพลังในการต่อสู้แบบที่หาตัวจับได้ยาก
“โอเด็น!”
“โอเด็น!!!!”
“โอเด็น!!”
“กรี้ด โอเด็น!!!”
“ราชันต์!”
“ราชันต์!!!!!”
“ราชันต์!!”
พอเห็นร่างของโอเด็นแล้วทั้งสนามก็ส่งเสียงเชียร์โห่ร้อง เสียงอีกกระทึกกระแทกจนหูแทบดัง ตั้งแต่เสียงของชายอ้วนถือเหล้าตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ยันเสียงกรีดร้องขาวสา วเซ็กซี่ที่อดใจให้กับกล้ามเนื้อนั้นไม่ไหว เสียงเชียร์ดังระดับที่ว่าเพดานของสนามสั่นสะเทือนได้ บรรยากาศความตื่นเต้นในสนามนั้นแทบจะระเบิดออกมาก็ว่าได้
หมอนั้นมันดังขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ
เหมิงเหล่ยพยายามอุดหูที่ดับสนิทจากเสียงตะโกน เขาไม่คิดเลยว่าครึ่งมังกรไฟนามโอเด็น ฟริทซ์คนนั้นจะโด่งดังได้ขนาด
เหล่าผู้คนที่มาดูอยู่ในสนามตอนนี้ไม่ต่างอะไร จากแฟนบอลเดนตายที่ตามทีมของตัวเองบนโลกเก่าเลย แต่ต่างกันที่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ล้วนแต่มีอํานาจ มีเงิน มีชื่อเสียง มีหน้ามีตาในสังคม หรือไม่ก็มีอิทธิพลกันทั้งนั้น
คนพวกนี้ ไม่ต่างอะไรจากดาราหรือพวกไฮโซ แต่ในขณะเดียวกัน ตอนนี้พวกเขาก็กําลังกดส่งเสียงเชียร์ดังลั่นเหมือนคนบ้า
ไม่ซิ เดี๋ยวก่อนนะ โอเด็น “ฟริทซ์” งั้นเหรอ…ฟริทซ์ เหรอ??
นั้นมันนามสกุลของตระกูลราชวงศ์ไม่ใช่เหรอ หรือว่าหมอนั้นจะเป็นเชื้อพระวงศ์ด้วยเหรอ
ครึ่งมังกรไฟ นามสกุลฟริทซ์ ไม่ผิดแน่ เขาต้องเป็นเชื้อพระวงศ์แน่ๆ
เหมิงเหล่ยตะลึง
แล้วมาเป็นนักสู้เนี่ยนะ!!
ถึงจะดูเป็นแค่เรื่องส่วนตัวแต่แค่การเป็นเชื้อพระวงศ์ก็ส่งผลต่อคนดูมากๆแล้ว ในสายตาของขุดนางชั้นสูง ผู้ที่มีหน้ามีตาในสังคม อาชีพนักสู้นั้นเป็นอาชีพที่ต่ําและไร้เกียรติและศักดิ์ศรี ไม่เคยมีขุนนางคนไหนยอมลงมาเป็นนักสู้ กลายมาเป็นของเล่นเพื่อความสนุกของคนดูหรอก
แล้วยิ่งเชื้อพระวงศ์แล้วยิ่งแล้วใหญ่
ในฐานะที่เป็นสายเลือดเชื้อกษัตริย์ที่ควบคุมอาณาจักรมังกรไฟอยู่ พลังของมังกรไฟเลยไหลเวียนอยู่ในสายเลือดของเชื้อพระวงศ์ทุกคน สายเลือดที่ว่านั้นยิ่งใหญ่ และมี เกียรติเหนือสิ่งอื่นใด เงินทองและชื่อเสียงมีมากมายแต่เดิมอยู่แล้ว ใครมันจะไปอยากลดตัวเองลงมาเป็นนักสู้ละ
แต่ถึงอย่างนั้น ภาพที่ปรากฏตรงหน้ามันชัดเจนแล้ว ว่านั้นคือสิ่งที่โอเด็นเป็น
และเขาคนนั้นก็ยืนตัวเป็นๆอยู่ในสนามแล้วตอนนี้ด้วย
แต่สิ่งที่เหมิงเหล่ยไม่รู้นั้น คือชื่อเสียงที่หนาหูของโอเด็นนั้น แท้จริงแล้วเป็นผลที่ได้มาจากการเป็นราชันต์นักสู้ ก่อนที่เขาจะมาเป็นราชันต์นักสู้นั้น สิ่งที่โอเด็นได้รับไม่ใช่เสียงเชียร์และเสียงปรบมือ แต่เป็นคําด่าและเสี่ยงโห่ไล่
ไม่เหมือนกับนักสู้ทั่วไป ตําแหน่งราชันต์นักสู้นั้น เป็นเหมือนตัวแทนของราชาของเหล่านักสู้และเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งเหนือสิ่งอื่นใด
พวกขุนนางนั้นถึงจะดูถูกเหยียดหยามนักสู้เพียงใด แต่พวกเขากลับยอมรับและชื่นชมราชันต์นักสู้ซะอย่างนั้น
ก่อนที่โอเด็นจะกลายมาเป็นราชันต์นักสู้ ผู้คนต่างหัวเรา เยาะเขา ราชวงศ์แทบจะตัดเขาออกจากวงญาติ แต่ถึงอย่างนั้น พอเขากลายมาเป็นราชานักสู้แล้ว ทุกๆอย่างก็เปลี่ยนไป
มันเป็นเหมือนเสน่ห์ของตําแหน่งราชานักสู้ยังไงอย่างงั้น
เพราะมันเป็นตําแหน่งที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง ที่เป็นเหมือนตราวัดที่มีค่ามากที่สุดแดนสวรรค์ ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้อยู่จุดสูงสุด
“อย่างที่ทุกๆท่านทราบดีนะคะ ว่าราชันต์นักสู้ของเราคนนี้ มีเชื้อสายของราชวงศ์อยู่ในตัวสายเลือดแห่งมังกรไฟอันบริสุทธิ์ไหลเวียนอยู่ในร่างของเขา อาจจะเป็นสาเหตุที่ว่าราชันต์นักสู้ โอเด็นของเราคนนี้ถึงได้มีพลังที่แข็งแกร่ง” เฮลตี้พูดเสียงดังฟังชัด “หลายปีที่ผ่านมานี้ ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในสนามเพลิงแห่งนี้ โอเด็นนั้นย่ํายีทุกๆการประลองที่เขาไป และในที่สุด เขาก็ได้โค่นราชันต์นักสู้คนเก่าแล้วได้สถาปนายึดครองบัลลังค์นักสู้ด้วยตัวเองสําเร็จ”
“มันคือชัยชนะของโอเด็น เป็นชัยชนะของราชวงศ์”
“และวันนี้ เราจะร่วมอวยพ และเอาใจช่วยราชาของพวกเรา ดูซิว่าวันนี้ เขาจะยังคงรักษาสถิติการเป็นราชานักสู้ และสร้างปาฏิหารย์ สร้างตํานานบทใหม่ขึ้นมาได้ไม่ ติดตามชมกันนะคะ!!”
“โอเด็น!!!!!”
“โอเด็น!!!”
“โอเด็น!!!!!”
“….”
“ส่วนผู้ท้าชิงของเราในค่ําคืนนี้ เชื่อว่าหลายๆคนเองก็ คุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดีแล้ว เขาเคยเป็นราชันต์นักสู้สุดแกร่งที่ป้องกันตําแหน่งไว้ได้ถึง 3 ปีซ้อน แถมยังทําผลงานดีเด่นในการปประลองราชาเหนือราชั้นต์นักสู้ประจําจักรวรรดิได้อีก เขาคนนั้นก็คือ เทพายักษ์ใหญ่ของเรา นิโคลัส ออสติน!!!!”
Comments