Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก 57 จัดการกองโจร แหวนมิติ

Now you are reading Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Chapter 57 จัดการกองโจร แหวนมิติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 57 จัดการกองโจร แหวนมิติ

ด้านข้างของพวกเขา คือผาสูงเสียดชั้นมีเพียงแค่ช่องตรงกลางที่พวกเขาจะผ่านเท่านั้นที่ยังพอมีพื้นที่กลุ่มโจรตั้งแถวเรียงรายอยู่ตรงกลางของหุบเขานั้นปิดกั้นทางหนี

พวกเขาสวมเสื้อผ้าฉีกขาดดูเหมือนเป็นพวกคนจนหรือพวกขอทานพวกเขายืนอยู่ข้างๆกับปืนใหญ่เวทมนตร์แล์วมองดูพรมวิเศษที่ลอยอยู่บนอากาศอย่างตื่นเต้น

“หุหุหุ พรมวิเศษซะด้วย”

“รอบนี้เหยื่อของเรารวยน่าดูเลยแหแค่พรมวิเศษอย่างเดียวก็ราคาล่อไปเกือบ 30000 ทองแล้วราคามันพอๆกับของทั้งหมดในคาราวานเล็กๆเลยนะ”

“หิหิหิ ได้เหยื่อชิ้นโตมาเลยนะดูเหมือนการปล้นวันนี้แค่วันเดียวจะได้กําไรเท่าๆกับที่เราทํากันทั้งเดือนเลยนะเนี่ย”

“ข้าเป็นคนวางแผน ข้าเป็นคนปทางวางต้นไม้พวกนี้ ถ้าอยากผ่านไปก็ทิ้งของทั้งหมดไว้ที่นี้ซะเด็กๆเตรียมยิงหน้าไม้สายฟ้าชุดต่อไปเราจะสอยมันให้ร่วงกัน”

โจรตาเดียวขี่ม้าตะโกนสั่งเสียงดังลั่นเขาถือดาบขนาดยักษ์โบกไปมาเพื่อสั่ง

การ เขาเป็นหัวหน้าของกลุ่มโจรหมาป่าเดียวดาย นาม โลนวูฟ

“ครับหัวหน้า”

กลุ่มโจรตะโกนกู่ร้องเสียงดังก่อนจะยิงปืนใหญ่เวทมนตร์ชุดต่อไปออกมาพร้อมกับธนูสายฟ้าที่พุ่งตรงเข้าหาพรมวิเศษ

“พรมวิเศษงั้นเหรอ หึหึหึ”

หัวหน้ากองโจร โลนวูฟเลียริมฝีปากตัวเองพร้อมด้วยแววแห่งความละโมภในดวงตาข้างเดียว“หวังว่าเหยื่อของเราในวันนี้จะไม่ทําให้ข้าผิดหวังนะ”

“ยิงมาอีกแล้ว!!”

“พี่เหมิงเหล่ยเอายังไงดีละ?”

เลือดของทั้ง 3 คนสูบฉีดตอนที่พวกเขากลัวกันสุดขีด พวกเขามองธนูสายฟ้าที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขาด้วยความเร็วสูงพวกเขาต่างคิดว่าถ้าธนูนั้นโดนพวกเขาถึงจะโชคดีรอดจากการโดนธนูเสียบตายแต่ถ้าพรมวิเศษพังตอนนี้ตกร่วงลงไปก็ตายอยู่ดี

พวกเขามีแต่ตายกับตายอนาถเท่านั้น

“พวกโจรงั้นเหรอ!”

เหมิงเหล่ยยืนบนพรมวิเศษก่อนจะร่ายเวทในมือตั้งโล่สายฟ้าขึ้นมาป้องกันล้อมรอบพรมวิเศษเอาไว้

ตุ้ม!

ธนูสายฟ้าชนเข้ากับโล่สายฟ้าอย่างแรงเสียงระเบิดดังลั่นขึ้นมา โล่สายฟ้าสันไหวจากแรงกระแทกอย่างแรงดูเหมือนจะเกิดรอยแตกร้าวด้วย

แต่ถึงอย่างนั้นโล่ก็ยังไม่แต่ธนูสายฟ้านั้นหมดพลังไปก่อนและหยุดลงก ลางอากาศก่อนจะร่วงตกลงไปที่พื้นลาง

“อะไรกันวะ”

“พวกมันป้องกันได้เหรอ”

โลนวูฟคิด “หน้าไม้สายฟ้าคลั่งมันมีพลังมหาศาลขนาดถ้าระดับ 5 โดนเต็มๆยังไงก็ตายเลยนะแต่มันกลับเจาะโล่สายฟ้าไม่ทะลุอย่างงั้นเหรองั้นหมายความว่าโล่สายฟ้านั้นสูงกว่าระ ดับ 5 อีกอย่างงั้นเหรอ?? ร่ายเวทระดับ 5 ได้เร็วขนาดนั้นเลยงั้นเหรอบ้าเอ้ย!!!”

“มีโอกาสสูงมากที่เจ้าพวกนั้นจะเป็นจอมเวทระดับ 9”

โลนวูฟสีหน้าเปลี่ยนทันทีเขาตะโกน“ถอยกลับเดี๋ยวนี้ถอยกลับ!!”

ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็สั่งให้ม้ามีเขาที่เขาขอยู่ให้วิ่งตรงไปที่หน้าไม้สายฟ้าคลั่งก่อนที่เขาจะเก็บหน้าไม้กลับมาแล้วชิ่งหนีออกมาอย่างไวเหมือนกับว่าถ้าช้าแม้แต่ก้าวเดียวต้องตายแน่ๆ”

“หัวหน้า?”

“เกิดอะไรขึ้นเหรอหัวหน้า”

พอเห็นหัวหน้าของพวกเขาวิ่งหนีสุดชีวิต ทั้งกองโจรก็งงแตกว่าหัวหน้าของเขาจะหนีทําไมในเมื่อทุกอย่างกําลังเป็น ไปได้สวย”

“ไอ้พวกโง่เอ้ย ถอยกลับ เดี๋ยวนี้!!”โลนวูฟหัวเสียแล้วสั่ง

“ค…ครับ”

ทั้งกองโจรพึ่งรู้ตัวว่าต้องหนีแต่มันก็สายไปแล้ว
จี๊ด จี๊ด!!

ขอธาตุสายฟ้าทั้งหมดในระยะหลายร้อย เมตรมารวมตัวกันก่อนที่จะกลายเป็นร่างของพยานาค 10 หัว ตัวยาวกว่า 30 เมตรเลื้อยพันอยู่บนฟ้าเกล็ดสายฟ้า ของมันส่องประกายบนร่างกายใหญ่โตดู มีชีวิตเหมือนจริงมันลอยอยู่บนอากาศส่งความกลัวเข้าไปในจิตใจของคนพวก
นั้น

“ชิบหายแล้ว!!” ดวงตาของโลนมูนกระตุกอย่างแรงตอนที่เขาเห็นสิ่งที่อยู่บนฟากฟ้าตอนนี้ความกลัว ความสิ้น หวัง เริ่มเติมเต็มในใจของเขา

“นั้นมันเวทระดับ 6 มันต้องเป็นเวทระดับ 6 แน่ๆ”

“พระเจ้าช่วย นี้เรากําลังเจอกับตัวบ้าอะไรวะเนี่ย”

“ร่ายเวทระดับ 6 ได้ในพริบตาเนี่ยนะ”

“นาคาอัสนีบาตคลั่ง…ทําลาย!!” พญานาค 10 หัวคํารามก่อนจะทิ้งหัวดิ่งลงมาจากอากาศลงมายังพื้นก่อนจะระ เบิดเสียงดังจนหูดับ คลื่นธาตุสายฟ้าคลั่งกระจายไปทั่วพื้นที่รอบอาณาเขต 100 เมตร

“อ๊าก!!”

เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นมากลุ่มกองโจรมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านเหลือเพียงฝุ่นผงเท่านั้น

ตายอย่างอนาถ ยากที่จะฝืนทนดูได้

“เชี่ยเอ้ย”

ตอนที่โลนวูฟอันกลับไปมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นเขาก็สั่นกลัวในทันที เขาใช้มีดเล็กๆแทงเข้าไปที่ม้าเพื่อสร้างความเจ็บปวดเร่งความเร็วของม้าจนถึงขีดสุด

“พลังระดับนั้น แต่ยังขี่พรมวิเศษเนี่ยนะมันขี่พรมวิเศษมาเพื่อล่อซื้องั้นเหรอ”

โลนวูฟทั้งโกรธทั้งกลัว พรมวิเศษนั้นเป็นเพียงแค่เครื่องมือเวทมนตร์ที่ใช้บินระดับต่ํามีแต่จอมเวทระดับต่ําเท่านั้น ส่วนจอมเวทระดับสูงถ้าไม่วาปไปไหนมาไหนก็จะใช้การบินที่สูงกว่านี้นั้นเป็ นสาเหตุที่ว่าทําไมพวกเขาถึงกล้าปล้นพรมวิเศษแต่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะเจออะไรแบบนี้

“ดันเสือกวิ่งมาเจอตอใหญ่โคตรเลยเว้ย” โลนวูฟแค้นใจตัวเองจนต้องทุบอกแต่สิ่งที่เขาทําตอนนี้มีแค่วิ่งหนีสุดชีวิต

“หนึ่งั้นเหรอ เจ้าคิดว่าจะหนีพ้นเหรอ”

เหมิงเหล่ยยิ้ม ก่อนจะดีดนิ้วสร้างเป็นหอกสายฟ้าในมือในทันที

“ไปเลย!!” เพียงคําสั่งเบาๆของเหมิงเหล่ยหอกสายฟ้าก็พุ่งตรงเข้าไปหาโลนวูฟอย่างรุนแรงมันเสียบทะลุคาหลังทะลุหน้าอกของเขา
“อ๊าก!!!”

โลนวูฟกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่นตอนที่เขาล้มลงกับพื้น เขาร่วงตกลงมาที่ พุ่มไม้ข้างถนนไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
“พี่ใหญ่เหมิงเหล่ยสุดยอดไปเลย”

โจนาห์โจเซฟและแอนดริวตะลึงกับภาพที่เกิดขึ้น เขามองเหมิงเหล่ยด้วยสายตาชื่นชมเปล่งประกายเหมือนดวง ดาวดวงน้อยๆ

“พวกเจ้าเองก็ทําได้เหมือนกันนะถ้าฝึกดีๆน่ะ”

เหมิงเหล่ยยิ้มให้พวกเขาก่อนจะขับพรมวิเศษไปจอด

ในตอนนั้นพวกเขาลงจอดตรงหน้าของโลนวูฟพอดี สภาพของหัวหน้ากองโจรตอนนี้ซึ่งเป็นกึ่งตายยังไงก็ไม่รอดแน่นอน
แต่ถึงอย่างนั้น พอเขาเห็นกลุ่มของเหมิงเหล่ยที่ยืนอยู่บนพรมวิเศษเขาก็เบิกตากว้างทันทีเขาไม่เชื่อในสายตาตัวเองด้วยซ้ํา “พวกเจ้าม..ไม่จริงน่ะ”ก่อนที่เขาจะพูดจบโลนวูฟก็หมดแรงจะพูดต่อเขาสิ้นลมไปกะทันหันดวงตาของเขายังเบิกกว้างเหมือนกับว่าตายไม่สงบ

ตอนแรกเขาคิดว่าเขาะดันไปเจอเข้ากับจอมเวทระดับสูงแต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าคนที่ทําลายทั้งกองโจรได้นั้นเป็นเพียงแค่เด็กเปรต 4 คนเท่านั้น

จะให้เขาตายอย่างสงบได้ยังไงกัน

“พี่เหมิงเหล่ย ข. เขาตายแล้วเหรอ”

โจนาห์กับคนอื่นๆหลบด้านหลังเหมิงเหล่ยโผล่หัวออกมาแล้วถาม

“ใช่เขาตายแล้วละ

เหมิงเหล่ยพยักหน้าก่อนจะกระโดดลงจากพรมสายตาของเขาหันไปมองที่มือข้างซ้ายของโลนวูฟทันทีเขาสังเกตเห็นแหวนสีทองแดงที่นิ้วก้อยข้างซ้าย

เหมิงเหล่ยถอนแหวนออกมาจากนิ้วก่อนจะใช้พลังวิญญาณเข้าตรวจสอบแวนแล้วเขาก็หัวเราะออกมา

ดูเหมือนว่าจะดวงดีจริงๆด้วย นี่มันแหวนมิติจริงๆนี่หว่า
แหวนมิติของที่เหมิงเหลี่ยอยากจะได้มาโดยตลอด

แต่เขาทําใจซื้อมันไม่ได้เพราะราคา มันแพงเกินไป มันทําให้เขาได้แต่ถอนหายใจแล้วจ้องมองหน้ากระจกเหมือนขอทานมองร้านอาหาร

แต่ถึงอย่างนั้น ทันทีที่เขาเห็นหน้าไม้สายฟ้าที่เป็นปืนใหญ่เวทมนตร์ขนาด ใหญ่เบิ้ม หายไปต่อหน้าต่อตาเขาเลยเดาว่ากลุ่มโจรกลุ่มนี้น่าจะมีของมิติเป็นของตัวเองซึ่งการเดาของเขานั้น

คิดว่าจะช่วยเกือบตายซะแล้ว แต่ก็คุ้มค่ากับที่เสียเวลามาจริงๆ

เอ๊ะ มีของอยู่ข้างในเยอะแยะเลยนี่หน่า

สิ่งของหลายอย่างลอยอยู่ภายในแหวนนั้นภาพในหัวของเหมิงเหล่ยปรากฏเป็นเหรียญทองถุงใหญ่ แกนเวทมนตร์จํานวนมากรวมไปถึงเพรชนิญจินดามากมาย

ของแวววับมากมาย มีของอยู่หลากหลาย มีเยอะจนเหมิงเหล่ยตาลาย

ดวงดีอีกแล้วซิเรา

เหมิงเหล่ยดวงตาเปร่งประกาย

เหรียญทองอย่างเดียวนั้นก็มีมูลค่ามากกว่าหลายแสนเหรียญทองแล้วยังไม่รวมของอย่างอื่นเช่นแกนเวทมนตร์ อัญมณีอาวุธต่างๆ

เหมือนคําที่เคยกล่าวไว้ว่าถ้าจะโตไม่ได้ถ้าไม่ให้อาหารตอนกลางคืนคนจะรวมไม่ได้ถ้าไม่บุญหล่นทับซักที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก 57 จัดการกองโจร แหวนมิติ

Now you are reading Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Chapter 57 จัดการกองโจร แหวนมิติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 57 จัดการกองโจร แหวนมิติ

ด้านข้างของพวกเขา คือผาสูงเสียดชั้นมีเพียงแค่ช่องตรงกลางที่พวกเขาจะผ่านเท่านั้นที่ยังพอมีพื้นที่กลุ่มโจรตั้งแถวเรียงรายอยู่ตรงกลางของหุบเขานั้นปิดกั้นทางหนี

พวกเขาสวมเสื้อผ้าฉีกขาดดูเหมือนเป็นพวกคนจนหรือพวกขอทานพวกเขายืนอยู่ข้างๆกับปืนใหญ่เวทมนตร์แล์วมองดูพรมวิเศษที่ลอยอยู่บนอากาศอย่างตื่นเต้น

“หุหุหุ พรมวิเศษซะด้วย”

“รอบนี้เหยื่อของเรารวยน่าดูเลยแหแค่พรมวิเศษอย่างเดียวก็ราคาล่อไปเกือบ 30000 ทองแล้วราคามันพอๆกับของทั้งหมดในคาราวานเล็กๆเลยนะ”

“หิหิหิ ได้เหยื่อชิ้นโตมาเลยนะดูเหมือนการปล้นวันนี้แค่วันเดียวจะได้กําไรเท่าๆกับที่เราทํากันทั้งเดือนเลยนะเนี่ย”

“ข้าเป็นคนวางแผน ข้าเป็นคนปทางวางต้นไม้พวกนี้ ถ้าอยากผ่านไปก็ทิ้งของทั้งหมดไว้ที่นี้ซะเด็กๆเตรียมยิงหน้าไม้สายฟ้าชุดต่อไปเราจะสอยมันให้ร่วงกัน”

โจรตาเดียวขี่ม้าตะโกนสั่งเสียงดังลั่นเขาถือดาบขนาดยักษ์โบกไปมาเพื่อสั่ง

การ เขาเป็นหัวหน้าของกลุ่มโจรหมาป่าเดียวดาย นาม โลนวูฟ

“ครับหัวหน้า”

กลุ่มโจรตะโกนกู่ร้องเสียงดังก่อนจะยิงปืนใหญ่เวทมนตร์ชุดต่อไปออกมาพร้อมกับธนูสายฟ้าที่พุ่งตรงเข้าหาพรมวิเศษ

“พรมวิเศษงั้นเหรอ หึหึหึ”

หัวหน้ากองโจร โลนวูฟเลียริมฝีปากตัวเองพร้อมด้วยแววแห่งความละโมภในดวงตาข้างเดียว“หวังว่าเหยื่อของเราในวันนี้จะไม่ทําให้ข้าผิดหวังนะ”

“ยิงมาอีกแล้ว!!”

“พี่เหมิงเหล่ยเอายังไงดีละ?”

เลือดของทั้ง 3 คนสูบฉีดตอนที่พวกเขากลัวกันสุดขีด พวกเขามองธนูสายฟ้าที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขาด้วยความเร็วสูงพวกเขาต่างคิดว่าถ้าธนูนั้นโดนพวกเขาถึงจะโชคดีรอดจากการโดนธนูเสียบตายแต่ถ้าพรมวิเศษพังตอนนี้ตกร่วงลงไปก็ตายอยู่ดี

พวกเขามีแต่ตายกับตายอนาถเท่านั้น

“พวกโจรงั้นเหรอ!”

เหมิงเหล่ยยืนบนพรมวิเศษก่อนจะร่ายเวทในมือตั้งโล่สายฟ้าขึ้นมาป้องกันล้อมรอบพรมวิเศษเอาไว้

ตุ้ม!

ธนูสายฟ้าชนเข้ากับโล่สายฟ้าอย่างแรงเสียงระเบิดดังลั่นขึ้นมา โล่สายฟ้าสันไหวจากแรงกระแทกอย่างแรงดูเหมือนจะเกิดรอยแตกร้าวด้วย

แต่ถึงอย่างนั้นโล่ก็ยังไม่แต่ธนูสายฟ้านั้นหมดพลังไปก่อนและหยุดลงก ลางอากาศก่อนจะร่วงตกลงไปที่พื้นลาง

“อะไรกันวะ”

“พวกมันป้องกันได้เหรอ”

โลนวูฟคิด “หน้าไม้สายฟ้าคลั่งมันมีพลังมหาศาลขนาดถ้าระดับ 5 โดนเต็มๆยังไงก็ตายเลยนะแต่มันกลับเจาะโล่สายฟ้าไม่ทะลุอย่างงั้นเหรองั้นหมายความว่าโล่สายฟ้านั้นสูงกว่าระ ดับ 5 อีกอย่างงั้นเหรอ?? ร่ายเวทระดับ 5 ได้เร็วขนาดนั้นเลยงั้นเหรอบ้าเอ้ย!!!”

“มีโอกาสสูงมากที่เจ้าพวกนั้นจะเป็นจอมเวทระดับ 9”

โลนวูฟสีหน้าเปลี่ยนทันทีเขาตะโกน“ถอยกลับเดี๋ยวนี้ถอยกลับ!!”

ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็สั่งให้ม้ามีเขาที่เขาขอยู่ให้วิ่งตรงไปที่หน้าไม้สายฟ้าคลั่งก่อนที่เขาจะเก็บหน้าไม้กลับมาแล้วชิ่งหนีออกมาอย่างไวเหมือนกับว่าถ้าช้าแม้แต่ก้าวเดียวต้องตายแน่ๆ”

“หัวหน้า?”

“เกิดอะไรขึ้นเหรอหัวหน้า”

พอเห็นหัวหน้าของพวกเขาวิ่งหนีสุดชีวิต ทั้งกองโจรก็งงแตกว่าหัวหน้าของเขาจะหนีทําไมในเมื่อทุกอย่างกําลังเป็น ไปได้สวย”

“ไอ้พวกโง่เอ้ย ถอยกลับ เดี๋ยวนี้!!”โลนวูฟหัวเสียแล้วสั่ง

“ค…ครับ”

ทั้งกองโจรพึ่งรู้ตัวว่าต้องหนีแต่มันก็สายไปแล้ว
จี๊ด จี๊ด!!

ขอธาตุสายฟ้าทั้งหมดในระยะหลายร้อย เมตรมารวมตัวกันก่อนที่จะกลายเป็นร่างของพยานาค 10 หัว ตัวยาวกว่า 30 เมตรเลื้อยพันอยู่บนฟ้าเกล็ดสายฟ้า ของมันส่องประกายบนร่างกายใหญ่โตดู มีชีวิตเหมือนจริงมันลอยอยู่บนอากาศส่งความกลัวเข้าไปในจิตใจของคนพวก
นั้น

“ชิบหายแล้ว!!” ดวงตาของโลนมูนกระตุกอย่างแรงตอนที่เขาเห็นสิ่งที่อยู่บนฟากฟ้าตอนนี้ความกลัว ความสิ้น หวัง เริ่มเติมเต็มในใจของเขา

“นั้นมันเวทระดับ 6 มันต้องเป็นเวทระดับ 6 แน่ๆ”

“พระเจ้าช่วย นี้เรากําลังเจอกับตัวบ้าอะไรวะเนี่ย”

“ร่ายเวทระดับ 6 ได้ในพริบตาเนี่ยนะ”

“นาคาอัสนีบาตคลั่ง…ทําลาย!!” พญานาค 10 หัวคํารามก่อนจะทิ้งหัวดิ่งลงมาจากอากาศลงมายังพื้นก่อนจะระ เบิดเสียงดังจนหูดับ คลื่นธาตุสายฟ้าคลั่งกระจายไปทั่วพื้นที่รอบอาณาเขต 100 เมตร

“อ๊าก!!”

เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นมากลุ่มกองโจรมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านเหลือเพียงฝุ่นผงเท่านั้น

ตายอย่างอนาถ ยากที่จะฝืนทนดูได้

“เชี่ยเอ้ย”

ตอนที่โลนวูฟอันกลับไปมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นเขาก็สั่นกลัวในทันที เขาใช้มีดเล็กๆแทงเข้าไปที่ม้าเพื่อสร้างความเจ็บปวดเร่งความเร็วของม้าจนถึงขีดสุด

“พลังระดับนั้น แต่ยังขี่พรมวิเศษเนี่ยนะมันขี่พรมวิเศษมาเพื่อล่อซื้องั้นเหรอ”

โลนวูฟทั้งโกรธทั้งกลัว พรมวิเศษนั้นเป็นเพียงแค่เครื่องมือเวทมนตร์ที่ใช้บินระดับต่ํามีแต่จอมเวทระดับต่ําเท่านั้น ส่วนจอมเวทระดับสูงถ้าไม่วาปไปไหนมาไหนก็จะใช้การบินที่สูงกว่านี้นั้นเป็ นสาเหตุที่ว่าทําไมพวกเขาถึงกล้าปล้นพรมวิเศษแต่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะเจออะไรแบบนี้

“ดันเสือกวิ่งมาเจอตอใหญ่โคตรเลยเว้ย” โลนวูฟแค้นใจตัวเองจนต้องทุบอกแต่สิ่งที่เขาทําตอนนี้มีแค่วิ่งหนีสุดชีวิต

“หนึ่งั้นเหรอ เจ้าคิดว่าจะหนีพ้นเหรอ”

เหมิงเหล่ยยิ้ม ก่อนจะดีดนิ้วสร้างเป็นหอกสายฟ้าในมือในทันที

“ไปเลย!!” เพียงคําสั่งเบาๆของเหมิงเหล่ยหอกสายฟ้าก็พุ่งตรงเข้าไปหาโลนวูฟอย่างรุนแรงมันเสียบทะลุคาหลังทะลุหน้าอกของเขา
“อ๊าก!!!”

โลนวูฟกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่นตอนที่เขาล้มลงกับพื้น เขาร่วงตกลงมาที่ พุ่มไม้ข้างถนนไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
“พี่ใหญ่เหมิงเหล่ยสุดยอดไปเลย”

โจนาห์โจเซฟและแอนดริวตะลึงกับภาพที่เกิดขึ้น เขามองเหมิงเหล่ยด้วยสายตาชื่นชมเปล่งประกายเหมือนดวง ดาวดวงน้อยๆ

“พวกเจ้าเองก็ทําได้เหมือนกันนะถ้าฝึกดีๆน่ะ”

เหมิงเหล่ยยิ้มให้พวกเขาก่อนจะขับพรมวิเศษไปจอด

ในตอนนั้นพวกเขาลงจอดตรงหน้าของโลนวูฟพอดี สภาพของหัวหน้ากองโจรตอนนี้ซึ่งเป็นกึ่งตายยังไงก็ไม่รอดแน่นอน
แต่ถึงอย่างนั้น พอเขาเห็นกลุ่มของเหมิงเหล่ยที่ยืนอยู่บนพรมวิเศษเขาก็เบิกตากว้างทันทีเขาไม่เชื่อในสายตาตัวเองด้วยซ้ํา “พวกเจ้าม..ไม่จริงน่ะ”ก่อนที่เขาจะพูดจบโลนวูฟก็หมดแรงจะพูดต่อเขาสิ้นลมไปกะทันหันดวงตาของเขายังเบิกกว้างเหมือนกับว่าตายไม่สงบ

ตอนแรกเขาคิดว่าเขาะดันไปเจอเข้ากับจอมเวทระดับสูงแต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าคนที่ทําลายทั้งกองโจรได้นั้นเป็นเพียงแค่เด็กเปรต 4 คนเท่านั้น

จะให้เขาตายอย่างสงบได้ยังไงกัน

“พี่เหมิงเหล่ย ข. เขาตายแล้วเหรอ”

โจนาห์กับคนอื่นๆหลบด้านหลังเหมิงเหล่ยโผล่หัวออกมาแล้วถาม

“ใช่เขาตายแล้วละ

เหมิงเหล่ยพยักหน้าก่อนจะกระโดดลงจากพรมสายตาของเขาหันไปมองที่มือข้างซ้ายของโลนวูฟทันทีเขาสังเกตเห็นแหวนสีทองแดงที่นิ้วก้อยข้างซ้าย

เหมิงเหล่ยถอนแหวนออกมาจากนิ้วก่อนจะใช้พลังวิญญาณเข้าตรวจสอบแวนแล้วเขาก็หัวเราะออกมา

ดูเหมือนว่าจะดวงดีจริงๆด้วย นี่มันแหวนมิติจริงๆนี่หว่า
แหวนมิติของที่เหมิงเหลี่ยอยากจะได้มาโดยตลอด

แต่เขาทําใจซื้อมันไม่ได้เพราะราคา มันแพงเกินไป มันทําให้เขาได้แต่ถอนหายใจแล้วจ้องมองหน้ากระจกเหมือนขอทานมองร้านอาหาร

แต่ถึงอย่างนั้น ทันทีที่เขาเห็นหน้าไม้สายฟ้าที่เป็นปืนใหญ่เวทมนตร์ขนาด ใหญ่เบิ้ม หายไปต่อหน้าต่อตาเขาเลยเดาว่ากลุ่มโจรกลุ่มนี้น่าจะมีของมิติเป็นของตัวเองซึ่งการเดาของเขานั้น

คิดว่าจะช่วยเกือบตายซะแล้ว แต่ก็คุ้มค่ากับที่เสียเวลามาจริงๆ

เอ๊ะ มีของอยู่ข้างในเยอะแยะเลยนี่หน่า

สิ่งของหลายอย่างลอยอยู่ภายในแหวนนั้นภาพในหัวของเหมิงเหล่ยปรากฏเป็นเหรียญทองถุงใหญ่ แกนเวทมนตร์จํานวนมากรวมไปถึงเพรชนิญจินดามากมาย

ของแวววับมากมาย มีของอยู่หลากหลาย มีเยอะจนเหมิงเหล่ยตาลาย

ดวงดีอีกแล้วซิเรา

เหมิงเหล่ยดวงตาเปร่งประกาย

เหรียญทองอย่างเดียวนั้นก็มีมูลค่ามากกว่าหลายแสนเหรียญทองแล้วยังไม่รวมของอย่างอื่นเช่นแกนเวทมนตร์ อัญมณีอาวุธต่างๆ

เหมือนคําที่เคยกล่าวไว้ว่าถ้าจะโตไม่ได้ถ้าไม่ให้อาหารตอนกลางคืนคนจะรวมไม่ได้ถ้าไม่บุญหล่นทับซักที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+