Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก 71 การผสานพลังลูกของมังกรวานรยักษ์
นิยาย Picking Up Attributes From Today ไปเก็บ…
บทที่ 71 การผสานพลังลูกของมังกรวานรยักษ์
โฮก!!!
มังกรวานรยักษ์ ตัวสูงเท่าตึก 4 – 5 ชั้น ค่ารามออกมาเสียงดังลั่น แขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออันทรงพลังเหวี่ยงซัดเข้าใส่เหล่านักผจญภัยหมดแล้วหมดเล่า มันโจมตีอย่างบ้าคลั่งเท่าที่จะทําได้
กรงเล็บที่แหลมคมดั่งคมมีดโกนเฉือนภูเขาผ่าหินทุกก้อนที่ผ่านทาง เสียงคํารามทําให้เกิดคลื่นกระแทกที่เหมือนกระเทือนไปยันสวรรค์ ภาพลักษณ์ของมันน่าหวาดกลัวและน่าเกรงขามเหมือนสัตว์ป่าดุร้ายจากยุคอดีตกาล
ถ้าเทียบกันแล้ว เสือกับสิงโตกลายเป็นแมวน้อยน่ารักไปเลย
แต่ถึงอย่างนั้นสถานการณ์ตอนนี้มันกลับอันตรายมาก
นักผจญภัยหลาย 10 คน ยืนห้อมล้อมมันไว้จากทุกด้าน นักรบมากกว่า12 คนยืนตั้งเป็นกําแพงหนาป้องกันการโจมตีทางกายภาพของมังกรวานรยักษ์ ทุกๆคนนั้นดูแกร่งกล้า เคลื่อนไหวได้เร็วเหมือนนกบิน กระโดดได้สูงและเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล้ว
ดูจากความเร็วและความรุนแรงในการโจมตีแล้ว พวกเขาเป็นนักรบระดับ 6 หรือระ ดับ 7 กันทั้งนั้น
ด้านหลังของเหล่านักรบ มีจอมเวท 5-6 คน สวมชุดผ้าคลุมจอมเวทและคฑาในมือ พวกเขาร่ายเวทมนตร์กันรวยๆ พลังเวทไหลเวียนในแถบนั้นเหมือนลําธาร
ทั้งกระสุนหินระรัวฝนอุกกาบาตอัคคี หอกเถาวัลย์
เวทมนตร์นานาชนิดโถมเข้าใส่มังกรวานรยักษ์อย่างต่อเนื่องเหมือนกับใช้ได้ไม่มีวันหมดการโจมตีแต่ละครั้งสร้างบาดแผล ฉีกหนังและทําให้ตกเลือดได้ทุกครั้งที่โดน
และในขณะเดียวกันเอง กลุ่มมือสังหารสวมผ้าคลุมดก็พุ่งวาบไปวาบมารอบๆตัวของมัน พวกนั้นรวดเร็วและว่องไวประดุจเงารอคอยโอกาสที่จะสุ่มโจมตีจากด้านข้าง
มีทั้งนักรบ จอมเวท แล้วก็ มือสังหาร
คนทั้ง 3 กลุ่มนั้นผสานท่วงท่าและโจมตีป้องกันได้อย่างดีเยี่ยม พวกเขากําลังได้เปรียบมังกรวานรยักษ์ ด้วยความที่โดนโจมตีจากรอบทิศทาง แม้แต่สัตว์เวทมนตร์ระดับ 9 ก็ยังไม่อาจรับมือไหวร่างกายที่แข็งแกร่งกลับมีบาดแผล และสุดท้ายก็เป็นฝ่ายโดนกดดันซะเอง
“นักผจญภัยพวกนั้นผสานกาลังกันดีมากจริงๆ”
นี้เป็นครั้งแรกที่เหมิงเหลยได้เห็นการต่อสู้ขนาดใหญ่แบบนี้ และใจของเขาก็เต็มไปด้วยไฟที่ร้อนแรง ความตื่นเต้นที่ได้เห็นการทํางานร่วมกันเป็นทีมอย่างดีของเหล่านักผจญภัยมันตื่นเต้นซะยิ่งกว่าได้ดูหนังดังเอฟเฟคตระกาลตาของฮอลลิ้วดซะอีก
นักรบเผชิญหน้าและเข้ารับการโจมตี
มือสังหาร ลอบเล่นโผล่ไปมาเหมือนผี
จอมเวททําความเสียหายอย่างรุนแรง
ทั้ง 3 กลุ่มนั้นผสานกําลังเข้าไว้ด้วยกัน
เป็นการผสานที่สมบูรณ์แบบ
“เก่งแค่ไหนก็พลาดท่าได้ถ้าเจอจานวนที่มากกว่า แม้แต่เสือร้ายก็ยังหวาดกลัวฝูงหมาป่า”
เหมิงเหล่ยถอนหายใจออกมา “แม้แต่สัตว์เวทมนตร์ระดับ 9 ก็ยังต้องเสียท่าเมื่อเจอการโจมตีจากคนมากมายขนาดนี้อย่างว่าละเนอะ นอกจากความแข็งแกร่งแล้วพรรคพวกและจานวนมือก็ทําให้งานง่ายขึ้นจริงๆ”
“เจ้าพูดเรื่องบ้าอะไรน่ะ” พอได้ยินเหมิงเหล่ยพูดแบบนั้น อมอสก็กระแอมออกมาแล้วพูด “เจ้าหนู เบิกตาของเจ้าดูดีๆก่อนซิว่าสถานการณ์ที่แท้จริงมันเป็นยังไง”
“เออ…”
เหมิงเหล่ยพูด “แล้วข้าพูดผิดตรงไหนเหรอ”
“สิ่งที่เจ้าเห็นมันเป็นแค่เปลือกนอกเท่านั้น” อมอสส่ายหัวแล้วพูดแบบดูถูก “คนส่วนมากในกลุ่มนั้นเป็นเพียงแค่นักผจญภัยระดับ 6 หรือ 7 หรือคนที่เก่งที่สุดในนั้นอยู่ แค่ระดับ 8 เท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าจะมีคนเก่งกว่านี้อยู่ในนั้นอีก พวกเขาก็ยังสังหารมังกรวานรยักษ์ไม่ได้หรอก”
“เจ้าต้องเข้าใจก่อนว่าภายในร่างของมังกรวานรยักษ์นั้นมีสายเลือดของมังกรซ่อนอยู่ และพรสวรรค์ของมังกรในตัวของมันนั้นก็มีมากล้นในหมู่ของสัตว์เวทมนตร์ระดับ 9 ด้วยกัน มันมีทั้งพละกําลังที่มหาศาลการป้องกันที่แข็งแกร่งแถมมันยังบินได้ด้วยแล้วเจ้าคิดว่าพวกนักผจญภัยพวกนั้นยังจะสู้ได้จริงๆ”
เหมิงเหล่ยขมวดคิ้วแล้วเถียง “ก็จริงอยู่ แต่นักผจญพวกนั้นเห็นได้ชัดๆเลยนะว่าก๋าลังได้เปรียบมังกรวานรยักษ์อยู่เยอะเลยนะครับ ไม่นะ เดี๋ยวก่อนซิ เมื่อกี้ท่านบอกว่ามังกรวานรยักษ์ บินได้งั้นเหรอ แล้วทําไมมันถึงไม่บินกันละ ถ้าบินขึ้นไปบนฟ้าแล้วใช้การเคลื่อนไหวได้รอบทิศทางให้เป็นประโยชน์ไม่เพียงแต่จะหลบเลี่ยงการซุ่มโจมตี ของมือสังหารได้แล้ว แต่ยังป้องกันเวทมนตร์บางอย่างได้ด้วย พวกนักผจญภัยจะสู้ยากขึ้นเยอะ”
“บ้าเอ๊ย ทําไมฉันถึงมองไม่เห็นวะท่าไมมันถึงไม่บินกันละ….”
“เจ้าพอจะมองออกรึยังละว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
อมอสชายตามองเหมิงเหล่ยแล้วลูบเคราก่อนจะพูดอธิบายพร้อมรอยยิ้ม “มันไม่ใช่เพราะว่ามันไม่อยากบินวันนี้หรือเพราะมันโง่ไม่ยอมบินหรอก แต่เป็นเพราะว่ามันถอยไม่ได้ตั้งหาก”
“ถอยไม่ได้เหรอ” เหมิงเหลี่ยมองหน้าอมอสทันที “ทําไมกันละท่านประธาน”
“ดูที่บริเวณขาของมันดีๆซิ”
อมอสชี้ไปที่ระหว่างขาของมังกรวานรยักษ์ขาเหรอ
สีหน้าประหลาดใจโผล่ขึ้นมาบนหน้าเหมิงเหล่ย เขามมองไปที่มังกรวานรยักษ์ แล้วเขาก็พบว่าที่บริเวณขาของมันนั้นมีคราบเลือดเต็มไปหมด เลือดที่ไหลลงมาบริเวณขานั้นเกือบจะย้อมพื้นกลายเป็นสีแดงแล้ว
“ที่นี้เจ้ารู้รึยังละ” อมอสถามพร้อมูลบเครา
“ท่านประธานหรือว่ามังกรวานรยักษ์พึ่งโดนล่อตูดมาอย่างงั้นเหรอครับ”
“ล่อตูดบ้านเดี่ยเอ็งซิโว้ย” อมอสตบบุกกลับมาด้วยสีหน้าโกรธจัด “นี้เจ้าคิดบ้าอะไรของเจ้าอยู่วะ ช่วยจริงจังหน่อยได้ไหม”
“เออ หรือว่ามันพึ่งโดนคลิบหรือตัดไข่ไปงั้นเหรอ”เหมิงเหล่ยเดาอีก
“ไอ้บ้าเอ๊ย โง่เง่าจริงๆเลยโว้ย ไอ้นั้นน่ะมันเป็นตัวเมีย จะไปมีไข่ได้ไงกันวะ!”
อมอสหัวเสียจัดๆ ความอดทนของเขาขาดแล้วตะโกนใส่เหมิงเหล่ย “แหกตาของเจ้าแล้วดูด้านหลังของมังกรวานรยักษ์ดีๆซิ”
“ด้านหลังเหรอถ้ําข้างหลังงั้นเหรอ?”
เหมิงเหล่ยเกาหัว “บางที่อาจจะเป็นรังของมันก็ได้ ใช่ไหม แล้วรังมันมีอะไรละ ก็มีรังเป็นเรื่องปรกติไม่ใช่เหรอ”
“นี้สมองเจ้าเป็นตะคริวรึไง ข้าคงคุยกับเจ้าไม่รู้เรื่องแล้วละ”
อมอสโกรธสุดๆจนไม่ให้เหมิงเหล่ยเรียนรู้ด้วยตัวเองอีก เขาพูด “เจ้ามังกรวานรยักษ์ตัวนั้นมันอ่อนแอลงมาก ตอนนี้มันอ่อนแอกว่าสัตว์เวทมนตร์ระดับ 8 ทั่วไปอีก ยิ่งกว่านั้นเลือดบริเวณขาหนีบกับการที่มันไม่ออกห่างจากรังเลย มันเป็นหลักฐานชัดเจนว่ามันพึ่งให้กาเนิดลูกมา..”
“ลูกเหรอ” เหมิงเหล่ยอึ้ง แล้วเขาก็พูด “ท่านประธาน หมายความว่าที่มันอ่อนแอลงตอนนี้เพราะว่ามันพึ่งคลอดลูกออกมางั้นเหรอครับ นั้นเป็นเหตุผลที่ว่ามันถึงไม่บิน แล้วพยายามปกป้องรังของมันไม่ให้พวกนักผจญภัยเข้าไปได้”
“ก็ใช่น่ะซิ”
อมอสพยักหน้าก่อนจะถอนหายใจ “มังกรวานรยักษ์ปรกติแล้วแข็งแกร่งขนาดสู้กับมังกรตัวเต็มวัยได้แบบสสีเชียวนะ นักผจญภัยพวกนั้นปรกติไม่มีทางสู้ได้เลย แต่การที่มันพึ่งคลอดลูกออกมา ทําให้มันอยู่ในสถานะอ่อนแรง และมันก็เปิดโอกาสให้พวกนักผจญภัยเข้าโจมตี ยังไงซะมันก็เป็นถึงสัตว์เวทมนตร์ระดับ 9 แถมยังได้ลูกน้อยของมันมาอีกล้ม1ตัวได้ถึง 2 ตัวเชียวนะ”
“แบบนี่นี้เอง”
เหมิงเหล่ยเข้าใจเรื่องราวในที่สุด สัตว์เวทมนตร์ระดับ 9 นั้นมีค่ามหาศาลจนแทบจะประเมินค่าไม่ได้ แค่แกนเวทมนตร์ของมันอย่างเดียวก็ราคาพุ่งไปได้สูงเกินหลาย 10 ล้านยังไม่นับล้วนส่วนต่างๆของร่างกายอีก
อีกอย่าง มันมีโอกาสสูงด้วยที่จะได้ลูกน้อยของมันกลับไปอีก
ความคุ้มค่าระดับนี้มันล่อตาล่อใจเหล่านักผจญภัยให้เข้าโจมตี
แม้แต่เหมิงเหล่ยเองก็เกิดความละโมบไม่แพ้กัน “ได้ทั้งตัวของสัตว์เวทมนตร์ระดับ 9 แถมยังได้ลูกของมันอีก”
เหมิงเหล่ยความโลภเริ่มครอบงํา เขาหายใจอย่างหนักแล้วพึมพํา “ถ้าลงไปเก็บกวาดพวกมันทุกคนแล้วแย่งเจ้าลิงนั้นมาได้ละก็ฉันจะต้องรวยมากแน่ๆ”
“อะไรนะ”
อมอสที่อยู่ข้างๆชายตามองแล้วพูด “ข้ารู้ว่ารางวัลที่ได้จากการเสี่ยงนี้มันมหาศาลการที่เจ้าจะเข้าไปแทรกก็เป็นความคิดที่ดี แต่เจ้าเองก็ควรจะประเมินตัวเองซะก่อน” อมอสชี้ไปที่ชายกล้ามโตที่อยู่ด้านหลังของเหล่านักผจญภัยแล้วพูด “ในกลุ่มนั้น แค่ชายคนนั้นคนเดียวเจ้าก็สู้ไม่ได้แล้ว เขาน่าจะเป็นนักรบระดับ 8 ได้เลยละ
“ระดับ 8 เหรอ…”
เหมิงเหลี่ยมองไปที่ชายคนนั้น
ด้านหลังของเหล่านักผจญภัยมีชายกล้ามโตสวมชุดเกราะสีเงินมันเลื่อมถือดาบเหล็กกล้ายืนสั่งการอยู่บนยอดเนินเขา
แค่มองก็รู้ได้เลยว่าหมอนั้นต้องเป็นผู้นําของกลุ่มแน่ๆ
“เห็นแล้วใช่ไหมละ ด้วยการนําของผู้นําที่แข็งแกร่งกับลูกทีมที่ระดับสูงขนาดนั้นเจ้าเข้าไปแทรกไม่ไหวหรอก”
“ข้าเองก็คิดแบบนั้น” เหมิงเหล่ยยิ้มแล้วไม่พูดอะไรต่อ เขาเริ่มดูการต่อสู้อย่างจริงจังมากขึ้น
อย่างที่อมอสบอก มังกรวานรยักษ์นั้นดูเหมือนว่าจะพึ่งคลอดลูกออกมา ความสามารถในการต่อสู้ของมันจึงลดลงอย่างมากมันดูกังวลเรื่องลูกของมันในถ้ําทําให้มัน ได้แต่รับการโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวปล่อยให้เหล่านักผจญภัยโถมกําลังโจมตีเข้าไปมาก ขึ้นและมากขึ้น
ในตอนแรก มันก็ยังพอทนไหวด้วยพลังป้องกันที่หนาแน่น แต่ยิ่งเวลาผ่านไป อาการบาดเจ็บของมันก็หนักขึ้นและหนักขึ้น ความเหนื่อยล้าก็เริ่มแทรกตัวเข้ามา
ตอนนี้มันใกล้จะล้มลงเข้าไปทุกที่
“ได้เวลาออกโรงแล้วซินะ!”
Comments
Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก 71 การผสานพลังลูกของมังกรวานรยักษ์
นิยาย Picking Up Attributes From Today ไปเก็บ…
บทที่ 71 การผสานพลังลูกของมังกรวานรยักษ์
โฮก!!!
มังกรวานรยักษ์ ตัวสูงเท่าตึก 4 – 5 ชั้น ค่ารามออกมาเสียงดังลั่น แขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออันทรงพลังเหวี่ยงซัดเข้าใส่เหล่านักผจญภัยหมดแล้วหมดเล่า มันโจมตีอย่างบ้าคลั่งเท่าที่จะทําได้
กรงเล็บที่แหลมคมดั่งคมมีดโกนเฉือนภูเขาผ่าหินทุกก้อนที่ผ่านทาง เสียงคํารามทําให้เกิดคลื่นกระแทกที่เหมือนกระเทือนไปยันสวรรค์ ภาพลักษณ์ของมันน่าหวาดกลัวและน่าเกรงขามเหมือนสัตว์ป่าดุร้ายจากยุคอดีตกาล
ถ้าเทียบกันแล้ว เสือกับสิงโตกลายเป็นแมวน้อยน่ารักไปเลย
แต่ถึงอย่างนั้นสถานการณ์ตอนนี้มันกลับอันตรายมาก
นักผจญภัยหลาย 10 คน ยืนห้อมล้อมมันไว้จากทุกด้าน นักรบมากกว่า12 คนยืนตั้งเป็นกําแพงหนาป้องกันการโจมตีทางกายภาพของมังกรวานรยักษ์ ทุกๆคนนั้นดูแกร่งกล้า เคลื่อนไหวได้เร็วเหมือนนกบิน กระโดดได้สูงและเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล้ว
ดูจากความเร็วและความรุนแรงในการโจมตีแล้ว พวกเขาเป็นนักรบระดับ 6 หรือระ ดับ 7 กันทั้งนั้น
ด้านหลังของเหล่านักรบ มีจอมเวท 5-6 คน สวมชุดผ้าคลุมจอมเวทและคฑาในมือ พวกเขาร่ายเวทมนตร์กันรวยๆ พลังเวทไหลเวียนในแถบนั้นเหมือนลําธาร
ทั้งกระสุนหินระรัวฝนอุกกาบาตอัคคี หอกเถาวัลย์
เวทมนตร์นานาชนิดโถมเข้าใส่มังกรวานรยักษ์อย่างต่อเนื่องเหมือนกับใช้ได้ไม่มีวันหมดการโจมตีแต่ละครั้งสร้างบาดแผล ฉีกหนังและทําให้ตกเลือดได้ทุกครั้งที่โดน
และในขณะเดียวกันเอง กลุ่มมือสังหารสวมผ้าคลุมดก็พุ่งวาบไปวาบมารอบๆตัวของมัน พวกนั้นรวดเร็วและว่องไวประดุจเงารอคอยโอกาสที่จะสุ่มโจมตีจากด้านข้าง
มีทั้งนักรบ จอมเวท แล้วก็ มือสังหาร
คนทั้ง 3 กลุ่มนั้นผสานท่วงท่าและโจมตีป้องกันได้อย่างดีเยี่ยม พวกเขากําลังได้เปรียบมังกรวานรยักษ์ ด้วยความที่โดนโจมตีจากรอบทิศทาง แม้แต่สัตว์เวทมนตร์ระดับ 9 ก็ยังไม่อาจรับมือไหวร่างกายที่แข็งแกร่งกลับมีบาดแผล และสุดท้ายก็เป็นฝ่ายโดนกดดันซะเอง
“นักผจญภัยพวกนั้นผสานกาลังกันดีมากจริงๆ”
นี้เป็นครั้งแรกที่เหมิงเหลยได้เห็นการต่อสู้ขนาดใหญ่แบบนี้ และใจของเขาก็เต็มไปด้วยไฟที่ร้อนแรง ความตื่นเต้นที่ได้เห็นการทํางานร่วมกันเป็นทีมอย่างดีของเหล่านักผจญภัยมันตื่นเต้นซะยิ่งกว่าได้ดูหนังดังเอฟเฟคตระกาลตาของฮอลลิ้วดซะอีก
นักรบเผชิญหน้าและเข้ารับการโจมตี
มือสังหาร ลอบเล่นโผล่ไปมาเหมือนผี
จอมเวททําความเสียหายอย่างรุนแรง
ทั้ง 3 กลุ่มนั้นผสานกําลังเข้าไว้ด้วยกัน
เป็นการผสานที่สมบูรณ์แบบ
“เก่งแค่ไหนก็พลาดท่าได้ถ้าเจอจานวนที่มากกว่า แม้แต่เสือร้ายก็ยังหวาดกลัวฝูงหมาป่า”
เหมิงเหล่ยถอนหายใจออกมา “แม้แต่สัตว์เวทมนตร์ระดับ 9 ก็ยังต้องเสียท่าเมื่อเจอการโจมตีจากคนมากมายขนาดนี้อย่างว่าละเนอะ นอกจากความแข็งแกร่งแล้วพรรคพวกและจานวนมือก็ทําให้งานง่ายขึ้นจริงๆ”
“เจ้าพูดเรื่องบ้าอะไรน่ะ” พอได้ยินเหมิงเหล่ยพูดแบบนั้น อมอสก็กระแอมออกมาแล้วพูด “เจ้าหนู เบิกตาของเจ้าดูดีๆก่อนซิว่าสถานการณ์ที่แท้จริงมันเป็นยังไง”
“เออ…”
เหมิงเหล่ยพูด “แล้วข้าพูดผิดตรงไหนเหรอ”
“สิ่งที่เจ้าเห็นมันเป็นแค่เปลือกนอกเท่านั้น” อมอสส่ายหัวแล้วพูดแบบดูถูก “คนส่วนมากในกลุ่มนั้นเป็นเพียงแค่นักผจญภัยระดับ 6 หรือ 7 หรือคนที่เก่งที่สุดในนั้นอยู่ แค่ระดับ 8 เท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าจะมีคนเก่งกว่านี้อยู่ในนั้นอีก พวกเขาก็ยังสังหารมังกรวานรยักษ์ไม่ได้หรอก”
“เจ้าต้องเข้าใจก่อนว่าภายในร่างของมังกรวานรยักษ์นั้นมีสายเลือดของมังกรซ่อนอยู่ และพรสวรรค์ของมังกรในตัวของมันนั้นก็มีมากล้นในหมู่ของสัตว์เวทมนตร์ระดับ 9 ด้วยกัน มันมีทั้งพละกําลังที่มหาศาลการป้องกันที่แข็งแกร่งแถมมันยังบินได้ด้วยแล้วเจ้าคิดว่าพวกนักผจญภัยพวกนั้นยังจะสู้ได้จริงๆ”
เหมิงเหล่ยขมวดคิ้วแล้วเถียง “ก็จริงอยู่ แต่นักผจญพวกนั้นเห็นได้ชัดๆเลยนะว่าก๋าลังได้เปรียบมังกรวานรยักษ์อยู่เยอะเลยนะครับ ไม่นะ เดี๋ยวก่อนซิ เมื่อกี้ท่านบอกว่ามังกรวานรยักษ์ บินได้งั้นเหรอ แล้วทําไมมันถึงไม่บินกันละ ถ้าบินขึ้นไปบนฟ้าแล้วใช้การเคลื่อนไหวได้รอบทิศทางให้เป็นประโยชน์ไม่เพียงแต่จะหลบเลี่ยงการซุ่มโจมตี ของมือสังหารได้แล้ว แต่ยังป้องกันเวทมนตร์บางอย่างได้ด้วย พวกนักผจญภัยจะสู้ยากขึ้นเยอะ”
“บ้าเอ๊ย ทําไมฉันถึงมองไม่เห็นวะท่าไมมันถึงไม่บินกันละ….”
“เจ้าพอจะมองออกรึยังละว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
อมอสชายตามองเหมิงเหล่ยแล้วลูบเคราก่อนจะพูดอธิบายพร้อมรอยยิ้ม “มันไม่ใช่เพราะว่ามันไม่อยากบินวันนี้หรือเพราะมันโง่ไม่ยอมบินหรอก แต่เป็นเพราะว่ามันถอยไม่ได้ตั้งหาก”
“ถอยไม่ได้เหรอ” เหมิงเหลี่ยมองหน้าอมอสทันที “ทําไมกันละท่านประธาน”
“ดูที่บริเวณขาของมันดีๆซิ”
อมอสชี้ไปที่ระหว่างขาของมังกรวานรยักษ์ขาเหรอ
สีหน้าประหลาดใจโผล่ขึ้นมาบนหน้าเหมิงเหล่ย เขามมองไปที่มังกรวานรยักษ์ แล้วเขาก็พบว่าที่บริเวณขาของมันนั้นมีคราบเลือดเต็มไปหมด เลือดที่ไหลลงมาบริเวณขานั้นเกือบจะย้อมพื้นกลายเป็นสีแดงแล้ว
“ที่นี้เจ้ารู้รึยังละ” อมอสถามพร้อมูลบเครา
“ท่านประธานหรือว่ามังกรวานรยักษ์พึ่งโดนล่อตูดมาอย่างงั้นเหรอครับ”
“ล่อตูดบ้านเดี่ยเอ็งซิโว้ย” อมอสตบบุกกลับมาด้วยสีหน้าโกรธจัด “นี้เจ้าคิดบ้าอะไรของเจ้าอยู่วะ ช่วยจริงจังหน่อยได้ไหม”
“เออ หรือว่ามันพึ่งโดนคลิบหรือตัดไข่ไปงั้นเหรอ”เหมิงเหล่ยเดาอีก
“ไอ้บ้าเอ๊ย โง่เง่าจริงๆเลยโว้ย ไอ้นั้นน่ะมันเป็นตัวเมีย จะไปมีไข่ได้ไงกันวะ!”
อมอสหัวเสียจัดๆ ความอดทนของเขาขาดแล้วตะโกนใส่เหมิงเหล่ย “แหกตาของเจ้าแล้วดูด้านหลังของมังกรวานรยักษ์ดีๆซิ”
“ด้านหลังเหรอถ้ําข้างหลังงั้นเหรอ?”
เหมิงเหล่ยเกาหัว “บางที่อาจจะเป็นรังของมันก็ได้ ใช่ไหม แล้วรังมันมีอะไรละ ก็มีรังเป็นเรื่องปรกติไม่ใช่เหรอ”
“นี้สมองเจ้าเป็นตะคริวรึไง ข้าคงคุยกับเจ้าไม่รู้เรื่องแล้วละ”
อมอสโกรธสุดๆจนไม่ให้เหมิงเหล่ยเรียนรู้ด้วยตัวเองอีก เขาพูด “เจ้ามังกรวานรยักษ์ตัวนั้นมันอ่อนแอลงมาก ตอนนี้มันอ่อนแอกว่าสัตว์เวทมนตร์ระดับ 8 ทั่วไปอีก ยิ่งกว่านั้นเลือดบริเวณขาหนีบกับการที่มันไม่ออกห่างจากรังเลย มันเป็นหลักฐานชัดเจนว่ามันพึ่งให้กาเนิดลูกมา..”
“ลูกเหรอ” เหมิงเหล่ยอึ้ง แล้วเขาก็พูด “ท่านประธาน หมายความว่าที่มันอ่อนแอลงตอนนี้เพราะว่ามันพึ่งคลอดลูกออกมางั้นเหรอครับ นั้นเป็นเหตุผลที่ว่ามันถึงไม่บิน แล้วพยายามปกป้องรังของมันไม่ให้พวกนักผจญภัยเข้าไปได้”
“ก็ใช่น่ะซิ”
อมอสพยักหน้าก่อนจะถอนหายใจ “มังกรวานรยักษ์ปรกติแล้วแข็งแกร่งขนาดสู้กับมังกรตัวเต็มวัยได้แบบสสีเชียวนะ นักผจญภัยพวกนั้นปรกติไม่มีทางสู้ได้เลย แต่การที่มันพึ่งคลอดลูกออกมา ทําให้มันอยู่ในสถานะอ่อนแรง และมันก็เปิดโอกาสให้พวกนักผจญภัยเข้าโจมตี ยังไงซะมันก็เป็นถึงสัตว์เวทมนตร์ระดับ 9 แถมยังได้ลูกน้อยของมันมาอีกล้ม1ตัวได้ถึง 2 ตัวเชียวนะ”
“แบบนี่นี้เอง”
เหมิงเหล่ยเข้าใจเรื่องราวในที่สุด สัตว์เวทมนตร์ระดับ 9 นั้นมีค่ามหาศาลจนแทบจะประเมินค่าไม่ได้ แค่แกนเวทมนตร์ของมันอย่างเดียวก็ราคาพุ่งไปได้สูงเกินหลาย 10 ล้านยังไม่นับล้วนส่วนต่างๆของร่างกายอีก
อีกอย่าง มันมีโอกาสสูงด้วยที่จะได้ลูกน้อยของมันกลับไปอีก
ความคุ้มค่าระดับนี้มันล่อตาล่อใจเหล่านักผจญภัยให้เข้าโจมตี
แม้แต่เหมิงเหล่ยเองก็เกิดความละโมบไม่แพ้กัน “ได้ทั้งตัวของสัตว์เวทมนตร์ระดับ 9 แถมยังได้ลูกของมันอีก”
เหมิงเหล่ยความโลภเริ่มครอบงํา เขาหายใจอย่างหนักแล้วพึมพํา “ถ้าลงไปเก็บกวาดพวกมันทุกคนแล้วแย่งเจ้าลิงนั้นมาได้ละก็ฉันจะต้องรวยมากแน่ๆ”
“อะไรนะ”
อมอสที่อยู่ข้างๆชายตามองแล้วพูด “ข้ารู้ว่ารางวัลที่ได้จากการเสี่ยงนี้มันมหาศาลการที่เจ้าจะเข้าไปแทรกก็เป็นความคิดที่ดี แต่เจ้าเองก็ควรจะประเมินตัวเองซะก่อน” อมอสชี้ไปที่ชายกล้ามโตที่อยู่ด้านหลังของเหล่านักผจญภัยแล้วพูด “ในกลุ่มนั้น แค่ชายคนนั้นคนเดียวเจ้าก็สู้ไม่ได้แล้ว เขาน่าจะเป็นนักรบระดับ 8 ได้เลยละ
“ระดับ 8 เหรอ…”
เหมิงเหลี่ยมองไปที่ชายคนนั้น
ด้านหลังของเหล่านักผจญภัยมีชายกล้ามโตสวมชุดเกราะสีเงินมันเลื่อมถือดาบเหล็กกล้ายืนสั่งการอยู่บนยอดเนินเขา
แค่มองก็รู้ได้เลยว่าหมอนั้นต้องเป็นผู้นําของกลุ่มแน่ๆ
“เห็นแล้วใช่ไหมละ ด้วยการนําของผู้นําที่แข็งแกร่งกับลูกทีมที่ระดับสูงขนาดนั้นเจ้าเข้าไปแทรกไม่ไหวหรอก”
“ข้าเองก็คิดแบบนั้น” เหมิงเหล่ยยิ้มแล้วไม่พูดอะไรต่อ เขาเริ่มดูการต่อสู้อย่างจริงจังมากขึ้น
อย่างที่อมอสบอก มังกรวานรยักษ์นั้นดูเหมือนว่าจะพึ่งคลอดลูกออกมา ความสามารถในการต่อสู้ของมันจึงลดลงอย่างมากมันดูกังวลเรื่องลูกของมันในถ้ําทําให้มัน ได้แต่รับการโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวปล่อยให้เหล่านักผจญภัยโถมกําลังโจมตีเข้าไปมาก ขึ้นและมากขึ้น
ในตอนแรก มันก็ยังพอทนไหวด้วยพลังป้องกันที่หนาแน่น แต่ยิ่งเวลาผ่านไป อาการบาดเจ็บของมันก็หนักขึ้นและหนักขึ้น ความเหนื่อยล้าก็เริ่มแทรกตัวเข้ามา
ตอนนี้มันใกล้จะล้มลงเข้าไปทุกที่
“ได้เวลาออกโรงแล้วซินะ!”
Comments