Reincarnation Of The Strongest Sword God 2731 ไม่สามารถจะเชื่อได้

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2731 ไม่สามารถจะเชื่อได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2731 ไม่สามารถจะเชื่อได้

แม้ว่าน้ำเสียงของ Prosciutto จะฟังดูเรียบๆ แต่คำที่เขาพูดมันก็ดังก้องสนั่นในใจของทุกคน

“ถูกทำลายล้างลงไปอย่างราบคาบ ?” ลีน่าตรวจสอบภาพในวีดีโออีกครั้ง ครู่ต่อมาหัวใจของเธอก็เริ่มเต้นแรง และการหายใจของเธอก็หยุดชะงักไป

นอกจากทรายที่อยู่บนพื้นแล้ว มันไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดเลยในรัศมีหนึ่งพันหลาที่แสดงในวีดีโอ อย่างไรก็ตามหลังจากตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน เธอก็สังเกตเห็นกองต้นไม้ที่ล้มซ้อบทันกับอยู่นอกรัศมีหนึ่งพันหลา

โดยต้นไม้เหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกถอนรากถอนโคน และก็แตกกระจายออกเป็นเศษซากหลายสิบชิ้น

จากนั้นวีดีโอมันก็ซูมออก และทำให้เธอพบว่าจริงๆแล้วพื้นที่ที่เต็มไปด้วยทรายนั้นเดิมเคยเป็นป่าใหญ่มาก่อน และมันดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่ได้ทำลายล้างพื้นที่บริเวณนี้ไป

“เป็นไปได้ยังไงกัน ?!” นักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสามที่อยู่ในขอบเขตอนันต์อุทาน “บริเวณที่เป็นทรายนั้นมันไม่มีมานาเลย !!!”

เมื่อได้ยินคำพูดของนักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสาม ลีน่าและคนอื่นๆก็เริ่มตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทันที และพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง

พวกเขาลืมไปแล้วจริงๆว่าสิ่งที่เรียกว่าวีดีโอการต่อสู้นั้นจริงๆแล้วมันคือเวทย์มนต์บันทึกประเภทหนึ่งใน God domain ซึ่งสามารถจะบันทึกสถานการณ์ของสนามรบได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมไปถึงมานาโดยรอบด้วย สิ่งนี้มันทำให้ผู้เล่นสามารถจะวิเคราะห์สถานการณ์การต่อสู้ได้อย่างแม่นยำ

ในขณะเดียวกันเมื่อพวกเขาดูวีดีโอการต่อสู้นี้ พวกเขาก็รู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังดูวีดีโอในโลกแห่งความจริง พวกเขามองไม่เห็นมานาในสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างสิ้นเชิง

“นี่ฝีมือสภาสิบแปดปีกงั้นหรอ ?” ลีน่าถาม ขณะที่เธอมองไปยังภาพของพื้นที่อันรกร้างกลางป่า

พื้นที่รกร้างนี้มีรัศมีหนึ่งพันหลา ยิ่งไปกว่านั้นโดยรอบพื้นที่มันยังดูว่าจะถูกกำจัดมานาออกไปทั้งหมด ซึ่งมันเป็นสิ่งที่แม้แต่สกิลเวทย์ทำลายล้างแบบ AOE ขั้นสี่ ก็ยังจะทำให้สำเร็จได้ยากมากๆ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าผู้ขั้นสี่เพียงคนเดียวของสภาสิบแปดปีกที่พวกเขารู้ว่ามีอยู่จริงๆคือแบล๊คเฟรม

“ใช่แล้ว บางคนจากสภาสิบแปดปีกเป็นผู้กระทำมัน และตามรายงานที่เราได้รับมา คนๆนั้นน่าจะเป็นอควาโรส หนึ่งในรองหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีก เพียงแต่ว่าความแข็งแกร่งของเธอยังคงจัดว่าเป็นปริศนา” โอดินกล่าวพลางพยักหน้า “อย่างไรก็ตามหากวัดจากมาตราส่วนของเวทย์มนต์ เราก็คิดว่าเธอน่าจะเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ที่สามารถจะใช้เวทย์ทำลายล้างขนาดใหญ่แบบ AOE ขั้นสี่ได้ และเธอก็น่าจะมีพลังทำลายล้างมากกว่าแบล๊คเฟรมประมาณสิบเท่า”

“เป็นไปได้ยังไงกัน ?!”

“สภาสิบแปดปีกไม่ใช่แค่กึ่งมหาอำนาจที่กำลังมาแรงงั้นหรอ ?”

หลังจากได้ยินการวิเคราะห์แบบง่ายๆของโอดิน สมาชิกของไมโทโลจี้ก็เงียบไปเป็นเวลานาน และพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยความจริงในรายงาน

สภาสิบแปดปีกไม่เพียงจะมีจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ แต่จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ยังใช้เวทย์ทำลายล้างขนาดใหญ่แบบ AOE ขั้นสี่ ได้ด้วย ….

หากเป็นเช่นนั้น เรื่องนี้มันจะร้ายแรงกว่าที่พวกเขาคิดมาก

เพราะท้ายที่สุดแล้วจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ที่มีเวทย์ทำลายล้างขนาดใหญ่แบบ AOE ขั้นสี่ จะสามารถทำลายเมืองใหญ่ๆของ NPC ลงได้อย่างง่ายดาย และในระยะนี้ของเกม การดำรงอยู่ของตัวตนเช่นนี้จะจัดเป็นอมตะเลยไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้แบบรุกหรือรับก็ตาม

ในขณะเดียวกัน ในการแข่งขันครั้งนี้ มันจะไม่ได้สำคัญสำหรับจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่เลยว่าจะมีผู้เล่นเฝ้าปกป้องพื้นที่ทรัพยากรกี่คน เพราะทั้งหมดที่จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ต้องทำก็แค่ใช้เวทย์ทำลายล้างขนาดใหญ่แบบ AOE ขั้นสี่ปิดงานทั้งหมด และถ้ามันยังไม่เพียงพอ จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็น่าจะใช้เวทย์อื่นๆครั้งที่สองและสามตามมาอีกได้

“แต่ … เราจะ … ยอมแพ้อย่างนี้จริงๆหรอ ?” ลีน่าถาม

ไมโทโลจี้นั้นเป็นหนึ่งในห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นนี่มันจึงถือเป็นความอัปยศอดสูมากๆ เมื่อพวกเขาถูกยั่วยุและเอาชนะได้ในการแข่งขันแบบนี้ ซึ่งหากไมโทโลจี้ไม่เริ่มทำอะไรสักอย่าง กิลทั่ว God domain อาจเริ่มดูถูกไมโทโลจี้ก็ได้

“ไม่แน่นอน” โอดินกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อว่า “เราต้องจัดการกับเรื่องนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา เราควรจะเรียนรู้จากตัวอย่างที่มิราเคิลกระทำ”

“เรียนรู้จากตัวอย่างที่มิราเคิลกระทำ ?” ลีน่าสับสนมากขึ้น เมื่อได้ยินคำพูดของโอดิน

มิราเคิลนั้นเป็นมหาอำนาจที่ทรงพลังสูงกว่าค่าเฉลี่ยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แล้วกิล
อย่างไมโทโลจี้จะไปเรียนรู้อะไรจากมิราเคิลกัน ?

“ท่านโอดินพูดถูก เราต้องเรียนรู้จากตัวอย่างที่มิราเคิลกระทำ ….” Prosciutto กล่าวด้วยดวงตาที่สดใส “เราต้องเผยแพร่เรื่องนี้ออกไปให้สาธารณชน และทุกกิลที่เข้าร่วมการแข่งขันรับรู้ สภาสิบแปดปีกอาจจะช่วยให้ฟรอสต์ฮีฟเว่นได้ตำแหน่งสำรองตำแหน่งที่สุดที่เหลือสุดท้ายไปในครั้งนี้ แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือวันที่เป็นจุดจบของพวกเขามันจะเริ่มมาถึงแล้ว เมื่อพวกเขาได้รับตำแหน่งสำรองนี้ไป !!!”

ตำแหน่งสำรองของสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน God domain นั้นมีไว้สำหรับผู้มีความสามารถ หากกิลอาศัยความแข็งแกร่งของคนเพียงแค่ไม่กี่คนเพื่อยึดตำแหน่งนี้ไป มันก็จะมีเพียงแต่การทำลายล้างเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่

ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากการแข่งขันครั้งนี้ สภาสิบแปดปีกจะถือว่าถูกเปิดตัวขึ้นมาในระดับนานาชาติเรียบร้อย

ซึ่งการที่สภาสิบแปดปีกได้ใช้ไมโทโลจี้เป็นหินสำหรับก้าวข้ามนั้น มันก็จะไม่ใช่แค่ปัญหาของไมโทโลจี้เท่านั้น อีกสี่ซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็จะไม่สามารถเพิกเฉยต่อสภาสิบแปดปีกได้เช่นกัน เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาทั้งหมดจะไม่ยอมให้มีใครขึ้นมาแทนที่หรือใช้พวกเขาได้แน่นอน !!!
“ดี งั้นฉันจะฝากเรื่องนี้ไว้ให้คุณจัดการ …” โอดินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เมื่อเห็นว่า Prosciutto ตระหนักถึงสิ่งที่ต้องทำ จากนั้นเขาก็หายไปจากกลุ่มของ Prosciutto ราวกับเขาไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน

หลังจากนั้นไม่นานสาธารณชนและทุกกิลที่เข้าร่วมการแข่งขันก็ได้รับข่าวสารที่น่าอัศจรรย์

สภาสิบแปดปีกเอาชนะไมโทโลจี้ และชิงพื้นที่ทรัพยากรของไมโทโลจี้ไปได้ห้าแห่ง !!!

วีดีโอการต่อสู้ที่พื้นที่ทรัพยากรทั้งห้าแห่งของไมโทโลจี้นั้นได้ถูกเผยแพร่ไปยังมหาอำนาจต่างๆอย่างรวดเร็ว ภาพที่แบล๊คเฟรมสามารถฆ่าแซนด์สตอร์มได้อย่างรวดเร็ว ภาพที่เสวี่ยเหวินโหรวฆ่าผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดมากกว่าสามสิบคนได้ในการเคลื่อนไหวเดียว ภาพที่อควาโรสได้ทำลายล้างพื้นที่ทรัพยากรจนราบคาบ และภาพที่โคล่ากับไวโอเล็ตคลาวด์ประสานงานกันต่อสู้จนทำให้เดมอนเร็คถอยไปได้ รวมทั้งภาพที่โฮวาร์ดวอร์ซถูกสมาชิกสภาสิบแปดปีกฆ่าล้วนถูกเผยแพร่ไปทั้งหมด

หลังจากความสำเร็จทั้งหมดนี้ ฟรอสต์ฮีฟเว่นก็ได้กลายเป็นม้ามืดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ !!

ข่าวนี้ทำให้บรรดากิลที่เข้าร่วมการแข่งขันล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากเช่นกัน

“นี่มันเป็นข่าวปลอม มันจะต้องเป็นข่าวปลอมแน่นอน !!!”

“สภาสิบแปดปีกและฟรอสต์ฮีฟเว่นเพิ่งจะเปิดการโจมตีเข้าใส่ไมโทโลจี้เมื่อไม่นานมานี้ไม่ใช่หรอ ? แล้วการต่อสู้มันจะจบลงอย่างรวดเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน ?”

“จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ ?! เป็นไปได้ยังไงกัน ?!”

กิลต่างๆที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อมากๆ กับข้อมูลที่พวกเขาได้รับมา อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ เพราะท้ายที่สุดแล้ววีดีโอการต่อสู้มันไม่ใช่ของที่จะสามารถปลอมได้ แถมพลังที่ไมโทโลจี้แสดงออกมานั้น มันก็ยังมีมากมายมหาศาล แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังคงแพ้ให้กับสภาสิบแปดปีกอยู่ดี …. ไมโทโลจี้แพ้ให้กับสภาสิบแปดปีก กิลที่ไม่ใช่แม้แต่มหาอำนาจที่แท้จริง จริงๆ !!!
“พวกเขาบอกว่าสภาสิบแปดปีกไม่มีภูมิหลังใดๆไม่ใช่หรอ ?”

“นี่สภาสิบแปดปีกเป็นกิลแบบไหนกัน ?’

ในช่วงเวลาหนึ่งมหาอำนาจต่างๆนั้นเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและสับสนมากๆเกี่ยวกับกิลที่มีชื่อว่าสภาสิบแปดปีก แม้จะเป็นกิลเล็กๆที่ไม่มีใครหนุนหลัง แต่สภาสิบแปดปีกกับสามารถสร้างจักรพรรดิดาบขั้นสี่ และจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ขึ้นมาได้ จะให้พวกเขาพาตัวเองไปเชื่อเรื่องนี้ได้ยังไงกัน ?

สำหรับผู้เล่นทีมอยู่ในที่นั่งปกติของผู้ชม พวกเขาต่างก็ตกตะลึงกับสถานการณ์นี้เช่นกัน

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าในช่วงเวลาที่ซือเฟิงกำลังต่อสู้กับหนึ่งในทีมของไมโทโลจี้ มันจะมีการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์เกิดขึ้นที่อื่นเช่นกัน และพวกเขาก็รู้สึกเสียใจมากที่พลาดการต่อสู้เหล่านี้

หลังจากได้เห็นความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีก พวกระดับสูงของพันธมิตรดวงดาวและอันยีลดิ้งโซลก็อดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญถึงสถานการณ์นี้ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า หลังจากไม่ได้พบกับสภาสิบแปดปีกมาระยะหนึ่ง กิลจะเติบโตขึ้นไปจนถึงระดับนี้แล้ว

ขั้นสี่ !!! นี่มันคือพลังที่แท้จริงสินะ !!! เปลวไฟที่เร่าร้อนที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ลุกขึ้นในจิตใจของเพอเพิ้ลอาย ขณะที่เธอได้เฝ้าดูการต่อสู้กันระหว่างซือเฟิง และแซนด์สตอร์ม ตราบใดที่ฉันสามารถไปถึงขั้นสี่ได้ กิลของฉันก็จะสามารถก้าวขึ้นไปสู่เวทีระดับนานาชาติได้เช่นกัน !!!

ในเวลานี้เพอเพิ้ลอายไม่ใช่คนเดียวที่มีความคิดเช่นนนี้ ผู้เชี่ยวชาญของมหาอำนาจต่างๆที่เฝ้าดูอยู่ในห้อง VIP ก็ล้วนมีความคิดเดียวกัน ตอนนี้ทุกคนเริ่มตั้งเป้าแล้วว่าจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้ตัวเองไปถึงขั้นสี่ หลังจากการแข่งขันครั้งนี้

ขณะเดียวกันไม่เหมือนกับปฎิกิริยาที่ตื่นเต้นของผู้ชม มิราเคิล และ Sacred Temple นั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึงและความเกลียดชังต่อการแสดงของสภาสิบแปดปีก

ในตอนแรกทั้งสองกิลเชื่อว่าตำแหน่งสำรองตำแหน่งที่หกซึ่งเป็นตำแหน่งสุดท้ายนั้นจะอยู่ในเงื้อมมือของพวกเขากิลใดกิลหนึ่ง แต่ตอนนี้เมื่อมีคู่แข่งที่ทรงพลังอีกกิลปรากฎตัวขึ้นมา มันก็ทำให้ทั้งสองกิลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเริ่มโจมตีและเข้าแย่งชิงพื้นที่ทรัพยากรเพิ่มเติม ไม่งั้นพวกเขาจะไม่สามารถรักษาความได้เปรียบในปัจจุบันที่พวกเขามีอยู่ได้จนสิ้นสุดการแข่งขัน

ในขณะเดียวกันเมื่อเซเว่นวอร์นเดอร์ได้รับข่าวเกี่ยวกับการแสดงพลังของสภาสิบแปดปีก เขาก็รู้สึกมีความสุขและตื่นเต้นมากๆในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่ได้คิดเลยว่าผู้ช่วยเหลือที่หงซินหยวนคัดเลือกมาจะมีพลังมากพอที่จะดึงฟรอสต์ฮีฟเว่นออกจากสถานการณ์ที่สิ้นหวัง และให้โอกาสในการชิงตำแหน่งสำรองตำแหน่งที่สุดท้ายได้

เพื่อให้แน่ใจว่าฟรอสต์ฮีฟเว่นจะได้ตำแหน่งสำรองตำแหน่งสุดท้ายมา หลังจากที่ฟรอสต์ฮีฟเว่นได้กลายเป็นอันดับหนึ่งของเกาะหมายเลขสิบเจ็ดแล้ว เซเว่นวอร์นเดอร์ก็ได้นำทีมไปยังเกาะอื่นๆต่อเพื่อโจมตีและแย่งชิงพื้นที่ทรัพยากร

ในช่วงเวลาหนึ่ง มิราเคิล Sacred Temple และฟรอสต์ฮีฟเว่นนั้นได้ต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งไปทั่วสนามรบของทุกเกาะที่พวกเขามีสมาชิกอยู่ และแม้จะต้องทนทุกข์ทรมาณกับการบาดเจ็บล้มตายครั้งใหญ่ แต่ทั้งสามกิลก็ยังคงสู้ต่อไปจนกระทั่งเสียงระฆังยุติการแข่งขันดังขึ้น ในขณะเดียวกันหลังจากการแข่งขันสิ้นสุดลงแล้ว หน้าจอโฮโลแกรมขนาดใหญ่ก็ปรากฎขึ้นบนเกาะทุกเกาะ ซึ่งหน้าจอนี้มันแสดงผลคะแนนรวมที่
ทุกกิลได้รับมาตลอดการแข่งขัน

ไมโทโลจี้ – 12,610 แต้ม

แพนธีออน – 3,920 แต้ม

ตระกูลมังกรฟ้า – 4,550 แต้ม

จักรวรรดิโลกใต้พิภพ – 13,350 แต้ม

มิราเคิล – 5,230 แต้ม

Sacred Temple – 5,180 แต้ม

เมื่อชื่อของกิลที่เข้าร่วมการแข่งขันเริ่มปรากฎขึ้นมาทีละกิล สมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นก็เต็มไปด้วยความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะแต้มระหว่างมิราเคิล ฟรอสต์ฮีฟเว่น และ Sacred Temple นั้นน่าจะแตกต่างกันไม่มากนัก แม้ว่าฟรอสต์ฮีฟเว่นจะมีจำนวนคนน้อยกว่าก็ตาม ในความเป็นจริงระหว่างการแข่งขัน ซือเฟิงก็ยังต้องออกโจมตีพื้นที่ทรัพยากรแห่งอื่นๆเป็นการส่วนตัว และปล่อยให้สมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นได้มาสวมใส่ตราทรัพยากรเพื่อให้กิลสามารถสะสมคะแนนได้เรื่อยๆ และแม้ว่ามันจะมีบางกรณีที่กิลอื่นเข้ามาขโมยพื้นที่ทรัพยากรของฟรอสต์ฮีฟเว่นได้สำเร็จ แต่พื้นที่ทรัพยากรเหล่านี้ก็จะถูกยึดคืนอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เสวี่ยเหวินโหรว และอควาโรส ก็ยังต้องเดินทางไปๆมาๆระหว่างพื้นที่ทรัพยากรต่างๆเพื่อป้องกันการซุ่มโจมตีจากกิลอื่นด้วย

“เราต้องทำสำเร็จสิ !!!”

มู่ฉินรู้สึกประหม่าอย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่เธอมองไปยังหน้าจอ

ฟรอสต์ฮีฟเว่นได้รับความสูญเสียอย่างมากในระหว่างการแข่งขันครั้งนี้ และเมื่อการแข่งขันจบลง ฟรอสต์ฮีฟเว่นก็มีสมาชิกเหลือน้อยกว่าสองพันคน ซึ่งผู้อาวุโสหกคน และผู้อาวุโสสูงสุดของพวกเขาสองคนพร้อมกับบริลเลี่ยนบลูก็ได้ตายลงในระหว่างการต่อสู้ ซึ่งนี่มันนับเป็นความสูญเสียอย่างมากมายมหาศาลของกิลเลย

ในเวลานี้แม้แต่ซือเฟิงก็ไม่สามารถจะสงบสติอารมณ์ได้ เขาไม่เคยคิดมมาก่อนเลยว่ามิราเคิล และ Sacred Temple จะจับมือเป็นพันธมิตรกับกิลอื่นอย่างลับๆเพื่อโจมตีพื้นที่ทรัพยากรของฟรอสต์ฮีฟเว่นเรื่อยๆ และบังคับให้เขาต้องเดินทางไปๆมาๆเรื่อยๆระหว่างเกาะต่างๆ ดีที่ว่าเขายังได้ให้อควาโรสจัดการทำลายล้างพื้นที่ทรัพยากรสิบเอ็ดแห่งลงไปอย่างราบคาบ เขาจึงสามารถจะยับยั้งกิลอื่นๆจากการโจมตีและแย่งชิงพื้นที่ทรัพยากรของฟรอสต์ฮีฟเว่นไปได้ระดับหนึ่ง

ตอนนี้สภาสิบแปดปีกได้ใช้ไพ่ที่ตัวเองมีแทบทั้งหมดออกมาแล้ว และพวกเขาก็ได้เปิดเผยหลายสิ่งออกมาต่อหน้ามหาอำนาจต่างๆ หากฟรอสต์ฮีฟเว่นยังคงล้มเหลวในการจะได้รับตำแหน่งสำรองตำแหน่งสุดท้ายที่เหลือในการแข่งขันครั้งนี้ สภาสิบแปดปีกก็จะมีแต่เส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนามรออยู่ข้างหน้าแน่นอน

ช่วงเวลาต่อมาหลังจากที่มีรายชื่อกิลมากกว่ายี่สิบกิลปรากฎขึ้น ในที่สุดมันก็ถึงคิวที่ชื่อของฟรอสต์ฮีฟเว่นจะปรากฎขึ้นมา

ฟรอสต์ฮีฟเว่น – 5,260 แต้ม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด