การประชุมฟิสิกส์แห่งศตวรรษได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

ณ ประตูห้องประชุมหมายเลขหนึ่งถูกปิดอย่างแน่นหนา นักฟิสิกส์ในศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติรวมตัวกันในห้องโถงซึ่งจะกำหนดทิศทางของฟิสิกส์ในอนาคต

เว่ยหงยืนอยู่ข้างๆ กับพื้นที่แสดงโปสเตอร์ที่ชั้นหนึ่ง เขามองไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนกำแพง จู่ๆ เขาก็ถามศาสตราจารย์ด็อบริกว่า “คุณคิดว่าสมการไหนที่จะถูกเลือก?”

ด็อบริกครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะส่ายหัวและพูด

“ผมไม่รู้… ในความคิดของผมสมการยากๆ ทั้งห้าร้อยห้าสิบสองข้อที่ผ่านการคัดแล้วก็สำคัญหมด ยากมากที่จะหาว่าอันไหนซ้ำกัน ผมจัดอันดับได้แค่ไม่กี่อันที่ผมรู้… แต่ก็ไม่ได้ศึกษาสมการอื่นๆ เลย”

ในฐานะผู้ค้นพบสมการคลื่นความโน้มถ่วงของอนุภาคซี แม้ว่าทั้งสองจะเป็นผู้เข้าชิงที่ได้รับความนิยมสำหรับรางวัลโนเบลครั้งต่อไปก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้รับรางวัลโนเบล

ถ้าคุณสมบัติของพวกเขาแข็งแกร่งมากกว่านี้ พวกเขาจะสามารถเดินเข้าไปในห้องประชุมและมีคุณสมบัติที่จะฟังได้ แต่น่าเสียดายที่นอกเหนือจากสมการคลื่นความโน้มถ่วงของอนุภาคซีแล้ว พวกเขาก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ใดๆ เป็นพิเศษ พวกเขาทำได้เพียงยืนอยู่ข้างนอกและรออย่างเงียบๆ

“ผมได้ยินมาว่าการประชุมจะทำการถ่ายทอดสด?” ศาสตราจารย์ด็อบริกถามด้วยเสียงอันเงียบสงบขณะมองดูหน้าจอขนาดใหญ่บนกำแพง

“การประกาศควรจะเริ่มตอนบ่าย…” เว่ยหงคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดต่อ “สุดท้ายแล้วการโหวตก็ไม่ได้น่าสนใจในการถ่ายทอดสดมากนัก”

“มันไม่น่าสนใจได้อย่างไร? ผมพนันได้เลยว่าไม่มีใครในนี้ที่จะไม่นึกถึงการประชุมครั้งนี้แน่นอน”

“ก็ไม่ปฏิเสธหรอก…”เว่ยหงยักไหล่และพูดว่า “เพราะท้ายที่สุดผมก็ค่อนข้างอยากรู้เหมือนกัน”

เวลาได้ไหลผ่านไปอย่างช้าๆ

ทุกคนคาดว่าจะได้ยินข่าวคราวจากข้างในการประชุมนั้น แต่น่าเสียดายที่การรักษาความลับนั้นทำได้ดีมากจนไม่มีการเปิดเผยข้อมูลล่วงหน้าสักนิดเดียว

พวกเขารอจนถึงเที่ยง

จนในที่สุดประตูก็ได้เปิดออก นักข่าวบริเวณทางเข้ารีบปรี่เข้ามาทันทีแต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่สกัดเอาไว้ พวกเขาปกป้องนักวิชาการขณะที่ออกจากห้องประชุม

หลัวเหวินเซวียนเดินไปที่ด้านหน้าของฝูงชน เขากระแอมเบาๆ และพูดเสียงดัง

“นักวิชาการทุกคนที่มีจดหมายเชิญ โปรดย้ายไปที่ห้องประชุมที่สอง

“เราจะจัดพิธีเปิดการประชุมสุดยอด ‘ฟิสิกส์ศตวรรษ’ ที่นั่น!

“และปล่อยสมการแห่งศตวรรษด้วยเช่นกัน!”

บรรยากาศในที่อุ่นขึ้นทีละนิดๆ ทุกคนมองไปที่ประตูนั้นอย่างมีความหวัง

ฝูงชนถูกเบี่ยงให้ไปที่ประตูหอประชุมหมายเลขสอง

นักวิชาการที่มีจดหมายเชิญอยู่ในมือเริ่มเข้าไปนั่งตามที่นั่ง

ซึ่งต่างจากนักวิชาการกลุ่มก่อนๆ ที่เข้าร่วมการประชุม นักวิชาการส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมพิธีเปิดเป็นนักวิชาการรุ่นเยาว์ดีเด่นและนักฟิสิกส์รุ่นเยาว์ที่มีผลงานโดดเด่นในด้านฟิสิกส์มากมาย

ส่วนใหญ่มีอายุเกินสามสิบปี และต่ำกว่าห้าสิบ ซึ่งถือเป็นยุคทองของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แทบไม่มีใครที่อายุเกินห้าสิบปีนั่งอยู่ที่นั่น

เว่ยหงและด็อบริกก็อยู่ในลิสต์นี้เช่นกัน ในฐานะนักฟิสิกส์รุ่นเยาว์ที่เก่งกาจอย่างพวกเขา พวกเขาจึงได้นั่งใกล้ด้านหน้า

จากนั้นลู่โจวได้เดินไปที่โพเดียม เขาอยู่ในชุดสูทที่เป็นทางการ เขากระแอมในลำคอก่อนที่จะมองไปรอบๆ ผู้คนจำนวนมากและพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ

“ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนที่นี่

“ผมคิดว่าเราทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่ายุคก่อนของฟิสิกส์ได้จบลงไปแล้ว และเรากำลังยืนอยู่ที่จุดแยกของยุคเก่าและยุคใหม่ และพวกคุณทุกคนคือตัวแทนของอนาคตของฟิสิกส์”

“ไม่ว่าคุณจะนั่งอยู่ที่นี่ ยืนอยู่ในห้องนิทรรศการ ดูการประชุมผ่านหน้าจอขนาดใหญ่ หรือดูผ่านอินเทอร์เน็ต…”

“การประชุมนี้เตรียมไว้เพื่อพวกคุณ”

“อะไรคือสสารมืด พลังงานที่สร้างจักรวาลของเราคืออะไร อะไรคือชะตากรรมสูงสุดของจักรวาล… ตลอดหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมาเราได้แก้ปัญหาที่คนโบราณคิดไม่ถึงว่าจะแก้ได้ แต่ก็ยังมีถนนที่ยากลำบากอยู่ต่อหน้าเรา”

“ดังนั้นเราจึงส่งความปรารถนาอย่างจริงใจที่สุดไปยังนักวิชาการในอนาคต เราหวังว่าในอีกร้อยปีข้างหน้าเราจะสามารถตอบคำถามที่ก่อให้เกิดความยุ่งยากกับอารยธรรมของเราได้”

ลู่โจวหยุดครู่หนึ่ง เขามองไปที่ห้องประชุมที่มีผู้คนพลุกพล่านแล้วเพิ่งเสียงขึ้น

“ดังนั้นในนามของ ILHCRC เซิร์น… และสถาบันวิจัยฟิสิกส์อื่นๆ ผมขอประกาศหนึ่งร้อยสมการแห่งศตวรรษ เราหวังว่าพวกเขาจะสร้างแรงบันดาลใจให้เราและชี้นำระเบียบวินัยของเราไปสู่ทิศทางที่เจริญรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่กว่า”

“เราได้เชิญบรรณาธิการของสมการมาที่นี่ พวกเขาจะช่วยเราเปิดม่านแห่งยุคใหม่นี้”

ลู่โจววางเอกสารสุนทรพจน์ในมือลง เขาหยิบไพ่ใบเล็กๆ ขึ้นมาจากโต๊ะแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

“เพื่อเป็นการเริ่มต้น ผมจะเริ่มเอง”

“สมการแรกของสมการแห่งศตวรรษ…”

“เราทุกคนรู้ว่ามีแรงพื้นฐานในธรรมชาติสี่อย่างในจักรวาลของเรา อันตรกิริยาที่รุนแรง ปฏิสัมพันธ์ที่อ่อนแอ แรงแม่เหล็กไฟฟ้า และแรงโน้มถ่วง สามตัวแรกเชื่อมโยงกันด้วยปฏิกิริยาไฟฟ้าอ่อนและปฏิกิริยาระหว่างแรงไฟฟ้า แต่เราทราบอันสุดท้ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

“ถ้าหากใครสามารถเชื่อมโยงแรงโน้มถ่วงกับสามสิ่งแรกได้ โลกฟิสิกส์ของเราจะเข้าสู่มิติใหม่ทั้งหมด”

ดวงตาหลายคู่ในห้องประชุมดูตกใจ

หลายคนเดาได้แล้วว่าคำถามแรกที่ลู่โจวกำลังจะประกาศคืออะไร

แต่พวกเขาแทบจะไม่เชื่อเลย…

ลู่โจวประกาศด้วยเสียงที่ชัดเจน

“การบรรลุเป้าหมายนี้คือจุดสูงสุดของฟิสิกส์ หรือแม้แต่อารยธรรมมนุษย์ด้วย ทฤษฎีที่สมบูรณ์แบบและสุดยอดที่ทุกคนใฝ่ฝันตั้งแต่ไอน์สไตน์…”

“นั่นคือทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่!”

“ทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่?!”

บรรยากาศในห้องประชุมระเบิดทันที

เว่ยหงเกือบจะกระโจนออกจากที่นั่งของเขา

เมื่อเขามองไปรอบๆ ก็พบว่าเขาเป็นคนที่สงบกว่าคนอื่นๆ

การแสดงออกที่ไม่น่าเชื่อนั้นติดอยู่เต็มใบหน้าของทุกคนๆ ผู้คนลุกขึ้นยืนด้วยความไม่เชื่อ

ด็อบริกนั่งถัดจากศาสตราจารย์เว่ยหง จากนั้นเขามองไปที่โพเดียม เขาพูดอย่างงุนงง “ผม… ผมคิดว่าเขาจะพูดอะไรเกี่ยวกับอนุภาคซีเสียอีก มันเริ่มมีความหวังในการค้นหาทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่จริงๆ เหรอ?”

“ผมก็ไม่รู้…” เว่ยหงขมวดคิ้ว เขาจับที่เท้าแขนของเก้าอี้แล้วส่ายหัว “เราควรมองในแง่ดีมากกว่านี้นะ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ก็ได้ แต่สำหรับผมแล้วมันยากเกินไป”

ที่จะรวมพลังพื้นฐานทั้งสี่เข้าด้วยกัน!

เติมเต็มทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่!

นั่นเป็นความปรารถนาอันยาวนานที่ไอน์สไตน์ไม่เคยทำสำเร็จ

ถ้ามีคนทำได้สำเร็จเขาต้องฉลาดกว่าไอน์สไตน์อย่างแน่นอน

ลู่โจวหยุดชั่วขณะหนึ่งจากนั้นเขาก็พูดต่อ

มันนี้ทำให้บรรยากาศของที่นี่พุ่งสูงกว่าเดิมทันที

“สำหรับสมการแรกของศตวรรษ ผมยินดีบริจาคให้หนึ่งร้อยล้านหยวนให้กับเงินรางวัลโบนัส ILHCRC! นี่เป็นรางวัลสำหรับนักวิชาการที่มีผลงานโดดเด่นในสาขานี้! ”

“ถ้าใครสามารถพิสูจน์สมการนี้ได้สำเร็จ พวกเขาจะได้รับเงินรางวัลอย่างน้อยหนึ่งร้อยล้านหยวน!”

เมื่อมีการประกาศข่าวนี้…

ทุกคนก็แทบจะเป็นบ้าทันที!