Scholar’s Advanced Technological System 380 มีเงิน ทำอะไรก็ได้
ห้องแล็บเงียบไปสักพัก
ศาสตราจารย์เลเซอร์สันลูบจมูก “ขอโทษนะ เมื่อกี้คุณพูดว่าไงนะ? ฉันได้ยินไม่ชัด”
ลู่โจว “ฉันบอกว่าฉันแก้ปัญหาเรื่องเงินทุนได้”
ศาสตราจารย์เลเซอร์สันมองลู่โจวเหมือนเป็นมนุษย์ต่างดาวก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“คุณมั่นใจเหรอ?”
ศาสตราจารย์เลเซอร์สันไม่ได้เป็นคนเดียวที่ไม่อยากเชื่อ เหล่าวิศวกรที่กำลังยืนอยู่เคียงข้างเขาก็ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเช่นกัน
ลู่โจว “ฉันมั่นใจ”
ศาสตราจารย์เลเซอร์สันยิ้มและส่ายหน้า “เงินรางวัลที่คุณได้มาไม่พอหรอก ต่อให้คุณชนะทั้งเหรียญฟิลด์สทั้งรางวัลโนเบล รวมถึงขายเหรียญไปด้วย เงินของคุณก็ยังไม่พอ”
แม้ว่าในอดีตจะมีคนเคยขายเหรียญรางวัลโนเบลจริง แต่ลู่โจวย่อมไม่มีทางทำแบบนั้น…
อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ไม่ได้ขาดเงิน
ลู่โจวถอนหายใจ เขาไม่ได้พยายามอธิบาย กลับกันเขาเอ่ยถามแทน “ต้องใช้เงินเท่าไหร่?”
ศาสตราจารย์เลเซอร์สันย่อมไม่คิดว่าลู่โจวจะหาเงินทุนได้ เขาจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงติดตลก “ถ้าคุณหามาได้สิบล้าน ฉันรับประกันเลยว่าโปรเจกต์ของเราจะไม่ขาดเงินทุน”
ลู่โจวไม่ได้ตอบอะไร กลับกันเขาเดินไปนอกห้องแล็บแล้วโทรหาผู้จัดการ ไวท์ เชอร์รีแดน
เชอร์รีแดนรับสาย เขาอาจอยู่ที่ออฟฟิศ
“ครับ?”
ลู่โจวกล่าว “ฉันเอง”
จากเบอร์โทร เชอร์รีแดนย่อมรู้อยู่แล้วว่าใครโทรมา
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคารพ “มีอะไรอยากให้ช่วยไหมครับ?”
ลู่โจวกล่าว “ตรวจสอบให้หน่อย บัญชีธุรกิจของสตาร์สกายเทคโนโลยีมีเงินเท่าไหร่”
เชอร์รีแดนกล่าว “…ถ้าจะเอาจำนวนที่แน่นอน ผมต้องไปปรึกษากับผู้จัดการฝ่ายการเงิน จากนั้นผมจะส่งรายงานการเงินไปที่เมลล์คุณ”
บริษัทแม่ของสตาร์สกายเทคโนโลยีถูกจดทะเบียนอยู่ที่หมู่เกาะเคย์แมน ส่วนบริษัทสาขาในฟิลาเดลเฟียเป็นอิสระจากบริษัทแม่
เชอร์รีแดนหลักๆรับผิดชอบด้านจัดการสิทธิบัตร ดังนั้นเขาจึงต้องติดต่อกับพนักงานการเงินของบริษัทแม่เพื่อเอาเอกสารการเงิน
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่ได้อยากรู้จำนวนที่แน่นอน เขาแค่ต้องการจำนวนคร่าวๆ
“มีสักสิบล้านไหม?”
เมื่อเชอร์รีแดนได้ยินจำนวนนี้ เขาก็ลังเลสักครู่
“สิบล้านมีแน่นอน…”
เจ้านาย…
ประเมินความสามารถของเราต่ำเหลือเกิน
แค่รายได้ใบอนุญาตสิทธิบัตรวัสดุ HCS-2 อย่างเดียวก็เกินสิบล้านแล้ว
รายได้จากใบอนุญาตสิทธิบัตรพีดีเอ็มเอสดัดแปลงก็ไม่มีใครแตะต้องเลย และยูมิคอร์ก็ได้จ่ายเงินรายไตรมาสเข้าบัญชีแล้ว
เงินเพียงก้อนเดียวที่ถูกใช้ไปก็ตอนที่ลู่โจวใช้เงินร้อยล้านเหรียญกับห้องแล็บที่ประเทศจีน
สิบล้านเหรียญสำหรับสตาร์สกายเทคโนโลยี มันไม่เท่าไหร่เลย
เมื่อลู่โจวได้ยินเชอร์รีแดนตอบ เขาก็พยักหน้า
“เดี๋ยวฉันจะส่งเลขบัญชีให้ โอนเข้าบัญชีนั้นให้หน่อยสิบล้าน”
โครงสร้างองค์กรของสตาร์สกายเทคโนโลยีเรียบง่ายมาก เพราะลู่โจวเป็นผู้ถือหุ้นคนเดียว เขามีอำนาจเบ็ดเสร็จ และไม่มีคณะกรรมการมาตั้งคำถาม
เชอร์รีแดนไม่ได้ถามว่าลู่โจวจะทำอะไร กลับกันเขาตอบด้วยน้ำเสียงเชิงเคารพ “ครับบอส”
…
ลู่โจวไม่ค่อยได้พูดเรื่องทรัพย์สินกับคนนอก เพราะพูดตามตรงการหาเงินมันง่ายเกินไป มันแทบรู้สึกไม่สมจริง
นอกจากไม่กี่คนที่ติดตามเขาอย่างใกล้ชิด แทบไม่มีใครรู้เรื่องบริษัทสตาร์สกายเทคโนโลยีที่หมู่เกาะเคย์แมน พวกเขาไม่รู้เลยว่าใบอนุญาตสิทธิบัตร PDMS ดัดแปลงและใบอนุญาตใช้วัสดุ HCS-2 ทำเงินได้เป็นร้อยล้านเหรียญแล้ว
ต่อให้เอาเงินก้อนนี้เก็บไว้ในธนาคารเฉยๆ แค่ดอกเบี้ยอย่างเดียวก็มหาศาลแล้ว
ลู่โจวไม่สนใจเรือยอร์ชหรือเครื่องบินส่วนตัว รายจ่ายเพียงอย่างเดียวก็คือการทดลอง
เมื่อเงินสิบล้านเข้าบัญชีโปรเจกต์ He3 ผู้ตรวจสอบบัญชีโปรเจกต์ก็รีบเข้ามาห้องแล็บแล้วมอบข้อมูลโอนเงินให้ศาสตราจารย์เลเซอร์สัน…
ทั้งห้องแล็บตกสู่ความเงียบ
ลู่โจวมองศาสตราจารย์เลเซอร์สัน เขากระแอมเบาๆก่อนจะถาม “สิบล้านพอจริงๆ ใช่ไหม?”
ลู่โจวคิดว่าเงินก้อนนี้เทียบไม่ได้เลยกับงบของเครื่องเร่งอนุภาค
อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้เลยว่าทุนวิจัยรายปีของ PPPL มีเพียงสี่สิบล้านเหรียญเท่านั้น
จำนวนที่อัดฉีดเข้าโปรเจกต์ He3 มีเพียงหนึ่งในสี่ของงบประมาณของ PPPL…
ศาสตราจารย์เลเซอร์สันกลืนน้ำลายพลางพยักหน้าไปพลาง
“พอแล้ว…”
ลู่โจวสังเกตเห็นว่านักวิจัยในห้องแล็บกำลังมองมา เขาจึงกระแอมเบาๆ
“เริ่มทำงานกันเถอะ เราเหลือเวลาไม่มากแล้ว”
นักวิจัยและวิศวกรในห้องแล็บเหลือบมองกันไปมาก่อนจะกลับไปทำงาน
ศาสตราจารย์เลเซอร์สันดูแผ่นกระดาษตรงหน้าแล้วหันไปมองลู่โจว “ปัญหาเงินทุนถูกแก้แล้ว?”
ลู่โจว “แก้แล้ว”
“ไม่น่าเชื่อ! คุณเอามาจากไหน…?” ศาสตราจารย์เลเซอร์สันไม่รู้จะแสดงความประหลาดใจของตัวเองยังไง
ลู่โจวรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะถามอะไร เขาจึงกล่าวอย่างคลุมเครือ “อันที่จริง ฉันพึ่งวิจัยเคมีมาไม่นานมานี้แล้วได้เงินจากสิทธิบัตรมาบ้าง”
ลู่โจวชี้ไปที่แมคบุ๊คบนโต๊ะทำงานแล้วกล่าว “ยกตัวอย่าง วัสดุแบตเตอรี่อิเล็กโทรดข้างในนี้ฉันอาจเป็นคนคิดค้นขึ้นมาก็ได้”
แววตาของศาสตราจารย์เลเซอร์สันเบิกกว้าง “แต่มันเป็นเงินสิบล้านเลยนะ…คุณบ้าไปแล้ว?”
ลู่โจวยิ้ม “ไม่เป็นไร ฉันมีเงินมากพอ”
ศาสตราจารย์เลเซอร์สัน “…”
วิศวกร “…”
นักวิจัย “…”
ทุนนิยมที่ชั่วร้าย!
สีหน้าที่น่ารังเกียจ!
แต่ทำไมฉันถึง…
อิจฉา!
…
ปัญหาเดียวของทีมโปรเจกต์ He3 คือพลังงานไม่เพียงพอต่ออนุภาคฮีเลียม3 เรื่องนี้แก้ไขได้ด้วยการเพิ่มความเข้มของสนามแม่เหล็กจากปืนอะตอม
ความเข้มของสนามแม่เหล็กสามารถเพิ่มขึ้นด้วยเงิน
ใช่แล้ว การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ก็แบบนี้แหละ ทุกอย่างแก้ได้ด้วยเงิน ถ้าลู่โจวลงทุนเงินพันล้าน เขาสามารถบอกให้สเปซเอกซ์ส่งจรวดไปรวบรวมฮีเลียม3 จากดวงจันทร์
แน่นอนลู่โจวมีเงินไม่ถึงพันล้าน…
พูดง่ายๆก็คือ ด้วยเงินสิบล้านเหรียญ ทีมโปรเจกต์ He3 สามารถซื้อส่วนประกอบเพิ่มความเร็วจากห้องแล็บแห่งชาติบรูกเฮเวนหรือจาก CERN ได้โดยตรง จากนั้นวิศวกรมากประสบการณ์ของพีพีพีเอลก็สามารถปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนได้
สิ่งนี้ทำให้เสียเงินจำนวนมาก
แต่ลู่โจวคิดว่ามันคุ้มค่า…
………………………………….
Comments