Scholar’s Advanced Technological System 433 การตัดสินใจของศาสตราจารย์เลเซอร์สัน (รีไรท์)
ระหว่างที่ลู่โจวและศาสตราจารย์กรีนกำลังตกลงกัน ใครคนหนึ่งก็โผล่มายังห้องทำงานของลู่โจวที่สถาบันการศึกษาขั้นสูงพรินซ์ตัน
บุคคลนั้นลังเลก่อนที่จะเคาะประตู ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เดินเข้ามาในห้องทำงาน
“นี่คือห้องทำงานของศาสตราจารย์ลู่โจวใช่ไหม?”
เวร่าหยุดทำงานและตอบกลับ “ใช่ค่ะ… ทำไมคุณถึงต้องการพบอาจารย์ลู่โจวคะ?”
ชายชรามองไปรอบห้องทำงาน “ผมต้องการคุยธุระกับเขาสักหน่อย…วันนี้เป็นวันหยุดของเขาหรือ?”
“ไม่ใช่ค่ะ” เวร่าส่ายหัวไปมาพร้อมพูดว่า “เขาออกไปที่ไหนสักแห่งตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”
ชายชรากล่าวต่อ “ช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่าเขาไปที่ไหน?”
“เขาน่าจะไปทำงานวิจัยที่ศูนย์จอนโวลเนแมน ถ้าคุณอยากพบเขา ก็ไปที่นั่นได้เลยค่ะ”
ชายชราพยักหน้า “ศูนย์จอนโวลเนแมนคือศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใช่ไหม? ยังไงก็ขอบคุณมาก!” ทว่า ระหว่างที่ชายชราหันกลับไปยังประตูทางออกและกำลังจะออกจากห้องทำงานของลู่โจว
ประตูห้องทำงานก็เปิดออกทันที…
ลู่โจวกลับมาจากศูนย์จอนโวลเนแมนแล้ว เขากลับมาพร้อมกับข้อมูลใหม่ในมือ
ทันทีที่เห็นศาสตราจารย์เลเซอร์สัน เขาก็พลันตกตะลึง
ครั้งแรกที่เห็น ลู่โจวนึกว่าตนเองจำคนผิด
ลู่โจวรู้จักศาสตราจารย์เลเซอร์สันตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ครั้งที่ได้ไปดูงานเตาปฏิกรณ์ฟิวชั่นเซเว่นเอ็กซ์… พวกเขาเคยติดต่อกันทางอีเมลมาก่อน
อันที่จริง ลู่โจวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าศาสตราจารย์เลเซอร์สันจะมาที่นี่
“ศาสตราจารย์เลเซอร์สัน? คุณกลับมาจากเยอรมันแล้วเหรอครับ? กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
ศาสตราจารย์เลเซอร์สันมองไปที่นาฬิกาของตน
“ฉันเพิ่งลงจากเครื่องบินเมื่อห้าชั่วโมงที่แล้วน่ะ…”
ลู่โจวพลันหัวเราะและกล่าวคำพูด “ยินดีต้อนรับกลับมาครับ! อันที่จริง ผมกะจะส่งอีเมลไปบอกคุณแล้วว่าผมกำลังจะมีข่าวดี!”
ทันทีที่ศาสตราจารย์เลเซอร์สันเห็นว่าลู่โจวตื่นเต้นแค่ไหน เขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานนัก เขาก็เดินตามลู่โจวไปยังคอมพิวเตอร์
ลู่โจวเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นและเสียบยูเอสบี จากนั้น เขาก็รีบเปิดซอฟต์แวร์จำลองอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่ศาสตราจารย์เลเซอร์สันเห็นเส้นสีของจอที่ตัดกันบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เขาก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมาทันที
“ไม่น่าเชื่อ… นายทำได้!”
“แต่ยังมีอีกขั้นตอนหนึ่งที่ผมต้องทำ… ผมต้องใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อทดสอบแบบจำลอง มันอาจใช้เวลาสักสองสามวัน แต่ในที่สุด ผมก็ทำแบบจำลองคณิตศาสตร์สำเร็จแล้ว!” ลู่โจวกล่าวพร้อมกับเผยยิ้ม “นี่มันเหมือนกับเวทมนตร์เลย!”
“ฉันเข้าใจล่ะ!” ศาสตราจารย์เลเซอร์สันค่อนข้างลังเล เขาพลันกระแอมและกล่าวคำพูด “ยังไงก็ยินดีด้วย! แค่แบบจำลองทางคณิตศาสตร์อย่างเดียวก็สมควรได้รับรางวัลจากสมาคมฟิสิกส์แล้ว! ไม่ใช่แค่นั้น ฉันมาที่นี่เพราะมีเรื่องหนึ่งจะบอก แต่อย่าตกใจจนเกินไปล่ะ”
ลู่โจวมองไปยังศาสตราจารย์เลเซอร์สันอย่างจริงจัง “มีอะไรเหรอครับ?”
เลเซอร์สันพลันตอบกลับ “ฉันคิดว่าจะลาออก…”
โดยปกติแล้ว ศาสตราจารย์เลเซอร์สันมักจะพูดอะไรที่แย่กว่านี้… ลู่โจวไม่คิดเลยว่าจะได้ยินสิ่งนี้ออกจากปากเขา
ลู่โจวมองไปยังศาสตราจารย์ “ลาออก?”
“ใช่” ศาสตราจารย์เลเซอร์สันพยักหน้า “อะตอมโพรบฮีเลียมสามเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ตรวจเช็กพลาสมาที่ยอดเยี่ยมมากเลยล่ะ อีกอย่าง ฉันก็มีความรู้สึกว่ามันอาจกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากสำหรับสถาบันวิจัยพลาสมาทุกแห่งเลย… ถ้าหากอะตอมโพรบฮีเลียมสามทุกเครื่องถูกออกแบบและสร้างโดยกลุ่มวิศวกรของฉัน มันก็คงจะยุ่งยากไม่น้อยเลยล่ะ เพราะแบบนั้น ฉันก็เลยต้องการออกแบบอุปกรณ์มาตรฐานที่สามารถถอดประกอบแล้วก็ติดตั้งได้ เอาเป็นชนิดที่แบบใช้งานได้โดยเสียบเข้ากับเต้ารับไฟฟ้าได้เลย”
ถึงกระนั้น ลู่โจวไม่รู้ว่าจะตอบสนองกับคำพูดเหล่านี้ยังไง
ลู่โจวเงียบไปเกือบห้าวินาทีก่อนจะกล่าวคำพูดออกมา “แต่ตอนนี้คุณเป็นหัวหน้าทีมโครงงานอยู่นะ… แถมคุณก็อาจจะได้เป็นผู้อำนวยการห้องแล็บฟิสิกส์ของพลาสมาพรินซ์ตันในอนาคตอีกด้วย… คิดดีแล้วจริงเหรอครับ?”
“เรื่องนี้ไม่มีถูกผิดหรอก สำหรับฉันแล้ว การกระจายเทคโนโลยีอะตอมโพรบฮีเลียมสามสำคัญกว่าตำแหน่งเสียอีก ฉันก็แค่อยากจะมีเงินสักสองสามล้านเพื่อทำวิจัยของตัวเองมากกว่าที่จะต้องจัดการเงินตั้งหลายร้อยล้าน ก็แค่นั้นเอง…”
ลู่โจวพลันตอบกลับ “ศาสตราจารย์เลเซอร์สัน… แล้วจะมีสถาบันวิจัยพลาสมาสักกี่แห่งล่ะที่จะซื้ออุปกรณ์ของคุณ? มันจะมีสักกี่สถาบันกัน?”
“นั่นไม่ใช่ปัญหา ฉันไม่ได้กังวลเรื่องนั้นเลย” ศาสตราจารย์เลเซอร์สันเผยยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย “ฉันรู้ดีว่ามันคงจะไม่ได้เงินเยอะเท่าไหร่ ขนาดนายยังปฏิเสธรางวัลมูลค่าถึงหนึ่งล้านดอลลาร์เลย”
ลู่โจวพูด “ผมยังไม่ได้ปฏิเสธรางวัลสักหน่อย ผมแค่ขอเลื่อนเวลาออกไปเอง”
“อ่า… แค่เลื่อนออกไป แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นหลัก” ศาสตราจารย์เลเซอร์สันกล่าวว่า “ย้อนกลับเข้าเรื่องเดิม… ถึงบริษัทของฉันจะเป็นบริษัทที่เพิ่งจะสร้าง แต่ฉันก็ได้เซ็นสัญญามูลค่าแปดหลักไปตั้งสองฉบับแล้วนะ”
ไม่ว่าจะเป็นในประเทศจีนหรือประเทศอเมริกา…การกระโดดจากการเป็นศาสตราจารย์ในสถาบันการศึกษาไปสู่การทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรเลย
โดยเฉพาะสำหรับวิศวกรอัจฉริยะที่มีความสามารถอย่างศาสตราจารย์เลเซอร์สัน เขาสามารถปรับปรุงและแก้ไขชิ้นส่วนเทคโนโลยีได้เก่งกว่านักวิทยาศาสตร์ทั่วไปเสียอีก
ยิ่งไปกว่านั้น นักวิชาการที่เชี่ยวชาญและเก่งเช่นเขาก็สามารถเซ็นสัญญากับสถาบันวิจัยฟิสิกส์พลาสมารายใหญ่ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย สำหรับผู้คนที่อยู่ในแวดวงฟิสิกส์พลาสมา ทุกคนรู้กันดีว่าศาสตราจารย์เลเซอร์สันนั้นมีทั้งความฉลาดและความสามารถที่สูงส่ง ทุกคนจะต้องสนับสนุนเขาแน่!
ทว่า นี่ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับลู่โจวเลย
นั่นเป็นเพราะลู่โจวไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย
ทั้งนี้ ลู่โจวไม่เคยตั้งใจที่จะสร้างรายได้จากเทคโนโลยีอะตอมโพรบฮีเลียมสามเลย อีกทั้ง เขายังไม่ต้องการจดทะเบียนสิทธิบัตรด้วยซ้ำ วัตถุประสงค์หลักของการค้นคว้าเครื่องมือชิ้นนี้ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การทำวิจัยของตนเองเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้ว ลู่โจวก็ดูจะยินดีที่จะได้เห็นคนอื่นทำธุรกิจมากกว่า
ถึงกระนั้น เขาก็ไม่ได้คาดคิดเอาไว้เลยว่าศาสตราจารย์เลเซอร์สันจะทำเช่นนี้
ถ้าหากศาสตราจารย์เลเซอร์สันต้องการจะลาออก ลู่โจวจะต้องแย่แน่ เพราะเป็นเพราะเขาจะต้องเสียผู้ช่วยในการทำวิจัยคนเก่งไปอย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่า ลู่โจวก็พยายามโน้มน้าว “อายุคุณเองก็จะห้าสิบอยู่แล้วนะ ยังไง ผมว่าคุณลองคิดให้ดีก่อนก็แล้วกัน”
ศาสตราจารย์เลเซอร์สันพลันส่ายหัว “อายุห้าสิบก็ยังไม่ได้แก่ขนาดนั้นนะ ฉันคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้วแหละ ฉันมาที่นี่ก็เพราะต้องการบอกนายเรื่องนี้แหละ”
ลู่โจวมองไปยังศาสตราจารย์เลเซอร์สันและสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นของเขา ลู่โจวรู้ตัวทันทีว่าเขาไม่สามารถโน้มน้าวให้ชายชราคนนี้เปลี่ยนใจได้
หลังจากนั้นไม่นาน ลู่โจวพลันถอนหายใจและตอบกลับ “งั้นผมขอให้คุณโชคดีกับสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำนะครับ ถ้าหากมีอะไรที่ผมพอช่วยได้ ก็ติดต่อมาได้เลย”
ถึงเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องที่ทำให้รู้สึกดีนัก แต่ทุกคนก็ควรตัดสินใจด้วยตัวเอง และเราควรจะเคารพการตัดสินใจของคนอื่น
ศาสตราจารย์เลเซอร์สันเป็นเหมือนเพื่อนและผู้ช่วยสุดดีใจการค้นคว้าวิจัยของลู่โจวมาโดยตลอด… ทั้งนี้ ลู่โจวไม่มีสิทธิ์แทรกแซงการตัดสินใจของเขาเลยแม้แต่น้อย
แววตาของเลเซอร์สันพลันลุกวาวทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของลู่โจว
“จริงเหรอ? นายยินดีที่จะช่วยฉันจริงหรือ?”
ระหว่างที่มองไปยังศาสตราจารย์เลเซอร์สัน ลู่โจวก็พลันกล่าวคำพูดขึ้น “แน่นอนครับ… แต่ก็ขึ้นอยู่ว่ามันคือเรื่องอะไรนะครับ”
“โอ้… ได้เลย! ตอนนี้ฉันกำลังหาระดมทุนอยู่ แต่มันก็ยังไม่พอ… ฉันเลยคิดว่าจะกู้เงินจำนวนหนึ่งจากธนาคารสักหน่อย แต่การกู้ธนาคารเพื่อให้ได้เงินทุนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมล่ะ?” ศาสตราจารย์เลเซอร์สันพลันกระแอมและพยายามพูด เขาเผยสีหน้าสุดลำบากใจ “งั้นนายสนใจที่จะลงทุนไหมล่ะ?”
ลู่โจวพลันขมวดคิ้วขึ้นมาทันใด
………………………………
Comments