Scholar’s Advanced Technological System 458 กลับมาที่สตอกโฮล์ม (รีไรท์)
ทันทีที่วางสายจากศาสตราจารย์จิริกแล้ว ลู่โจวก็เดินไปนอนที่เตียง เขาหลับตาและตั้งสมาธิกับระบบ จากนั้น เขาก็จมลงไปยังพื้นที่สีขาวบริสุทธิ์อย่างรวดเร็ว
เมื่อไปที่หน้าจอโฮโลแกรม เขาชูนิ้วชี้และเลือกแถบสั่งการ
[ภารกิจห่วงโซ่]
[สาขาทางเลือก: การวิจัยและพัฒนาวัสดุตัวนำยิ่งยวดแบบใช้คาร์บอนที่มีอุณหภูมิในการเปลี่ยนผ่านมากกว่าหนึ่งร้อยเคลวิน (เสร็จสมบูรณ์)]
[รางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์การเรียนรู้วัสดุ 100,000 ค่าประสบการณ์ทางชีวเคมี 100,000]
เมื่อเห็นรางวัลของภารกิจนี้ ลู่โจวก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
มันถือเป็นสาขางานใหม่ของภารกิจห่วงโซ่ ค่าประสบการณ์รวมมากกว่าสองแสนถ้าพิชิตภารกิจห่วงโซ่ได้ทั้งหมด
เราจะรวยค่าประสบการณ์ขนาดไหนกันนะ?
หลังจากได้รับรางวัลภารกิจ แผงคุณสมบัติก็ได้รับการรีเฟรช และระดับชีวเคมีเพิ่มขึ้นจากระดับสามเป็นระดับสี่ซึ่งมันเท่ากับระดับของวัสดุศาสตร์แล้ว
ในทางกลับกัน ทันทีที่ภารกิจเสร็จสมบูรณ์ สถานะของแถบคำสั่งจะถูกรีเฟรชด้วย
ภารกิจของวัสดุตัวนำยิ่งยวดยังไม่ถูกยกเลิก แต่กลับถูกแทนที่ด้วยภารกิจใหม่
นั่นก็คือการพัฒนาวัสดุตัวนำยิ่งยวดที่ทำจากคาร์บอนซึ่งมีอุณหภูมิการเปลี่ยนผ่านมากกว่าสองร้อยเคลวิน!
และในส่วนของรางวัล มันก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
“เราจะสร้างนำยิ่งยวดที่มีอุณหภูมิสูงถึงสองร้อยเคลวินได้ไหมนะ?”
ทันทีที่มองไปยังคำอธิบายภารกิจ สีหน้าของลู่โจวก็เปลี่ยนไป
สำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การรู้ว่ามีสิ่งหนึ่งสามารถทำได้ในเชิงเทคนิค หรือรู้ว่าความคิดหนึ่งสามารถถูกนำไปใช้ได้นั้นถือเป็นข้อมูลที่สำคัญมาก
เช่นเดียวกับหลังโครงการแมนฮัตตัน หลายประเทศได้ทดสอบนิวเคลียร์จนเสร็จสิ้นแล้ว
ก่อนหน้านี้ แม้แต่ไอน์สไตน์ ผู้สนับสนุนการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ก็ยังบอกว่าอาวุธดังกล่าวสามารถผลิตได้ตามที่คาดหวังเอาไว้
ถึงอย่างไรแล้ว ภารกิจเสริมนั้นถือเป็นทางเลือก ไม่มีการบังคับ สิ่งที่เรียกว่านิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุมเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น และมันไม่มีมาตรฐานตายตัว
ตามข้อกำหนดของระบบและความคาดหวังของลู่โจว การสร้างเครื่องปฏิกรณ์จำลองแบบ DEMO ให้เสร็จสมบูรณ์ไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่ไม่รู้ที่มาที่ไปของวัสดุตัวนำยิ่งยวดที่มีอุณหภูมิสองร้อยเคลวินเลย
เช่นเดียวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัม มันสามารถถูกแก้ไข แต่ถ้าไม่ได้ มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะแทนที่ด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังกว่านี้
ท้ายที่สุดแล้ว ลู่โจวก็กดยืนยันที่แถบคำสั่ง และจากนั้น ลู่โจวก็ถอนตัวออกจากพื้นที่ระบบ
…
วันเวลาผ่านไป พิธีมอบรางวัลก็ใกล้เข้ามามากขึ้น
แม้ว่าพิธีมอบรางวัลโนเบลจะเริ่มในวันที่สิบธันวาคม แต่งานแถลงข่าวในวันที่เจ็ดนี้รอเขาอยู่ ผู้ชนะรางวัลจะต้องถูกนักข่าวตามติดเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
ในวันพฤหัสบดีแรกของเดือนธันวาคม
ลู่โจวกับนักเรียนอีกห้าคนขับรถไปที่สนามบินนานาชาติที่นิวยอร์กเพื่อเตรียมตัวขึ้นเครื่องบินไปยังสวีเดน
หลังจากใช้เวลาบินนานกว่าหลายสิบชั่วโมง เครื่องบินก็ได้ลงจอดอย่างราบรื่นบนรันเวย์ของสนามบินสตอกโฮล์ม
ณ แผนกต้อนรับของเจ้าหน้าที่สนามบิน พวกเขาได้เดินเข้าไปยังทางเข้าวีไอพี ลู่โจวได้พบกับปลัดกระทรวงของราชบัณฑิตสภาด้านวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดนและรองประธานมูลนิธิโนเบล สเตฟาน นอร์มาร์ค
นี่เป็นการมาเยือนเมืองครั้งที่สองของลู่โจว
และยังเป็นครั้งที่สองที่เขาได้พับกับสเตฟาน นอร์มาร์ค
พวกเขาจับมือทักทายกัน จากนั้นสเตฟานก็พร้อมอ้าแขนรับและเผยยิ้ม “ยินดีต้อนรับ ศาสตราจารย์ลู่โจว! ไม่คิดเลยว่าเราจะได้พบกันอีก”
“อันที่จริง ก็สองปีเจ็ดเดือนเอง” สเตฟานก็กล่าวต่อ
ลู่โจวเผยยิ้มและตอบกลับ “ไม่เจอกันนานเลยนะ”
ครั้งสุดท้ายที่เจอกับลู่โจวนั้นเป็นเพราะรางวัลคลาฟอร์ด ในตอนนั้น เขายังเป็นเจ้าหน้าที่ที่ต้องมารับลู่โจวอยู่เลย
พวกเขาไม่คิดว่าจะได้พบกันอีกในเร็ววันขนาดนี้
“หลังจากเป็นผู้ได้รับรางวัลคลาฟอร์ดที่อายุน้อยที่สุด ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะได้รางวัลโนเบลที่อายุน้อยที่สุดด้วย” สเตฟานกล่าวกับลู่โจวพร้อมหัวเราะ “แถมสาขาเคมีด้วย! หลังจากที่คณะกรรมการรางวัลส่งชื่อของคุณไปแล้ว ราชบัณฑิตสภาด้านวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดนก็คงเอาไปพูดถึงเป็นเดือน ๆ”
“นั่นเป็นเพราะอายุหรือตัวตนของผมในฐานะนักคณิตศาสตร์กันล่ะ?” ลู่โจวพูดติดตลก
สเตฟานเผยหัวเราะและกล่าวคำพูด “ทั้งคู่เลยมั้ง”
ทันใดนั้นสเตฟานก็มองไปยังคนที่อยู่ข้างหลังลู่โจว
“แล้วนั่นใครกัน?”
“นักเรียนของผมเอง เอามางานเลี้ยงด้วยน่ะ” ลู่โจวกล่าว
สเตฟานกล่าวพร้อมเผยยิ้ม “งั้นก็อย่ารอช้า แขกมากันเยอะมาก รีบไปขึ้นรถแล้วไปที่โรงแรมกันเถอะ”
ลู่โจวยิ้มและพยักหน้า “ได้เลย”
ด้านนอกทางเดินของสนามบินมีรถสองคันจอดอยู่
สเตฟานบอกคนขับรถที่อยู่ในตำแหน่งราชองครักษ์ของรอยัลสวีเดนทันที
สิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือมีราชองครักษ์มาด้วย ราชองครักษ์ของรอยัลสวีเดนมักจะขับรถพากษัตริย์ไปทำงานอยู่เสมอ
ทันทีที่ได้ขึ้นรถ พวกเขาก็ตรงไปยังโรงแรมแกรนด์สตอกโฮล์ม
ตามแนวทางปฏิบัติของการได้รับรางวัลโนเบลก่อนหน้านี้ ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลรวมถึงญาติและเพื่อน ๆ มักจะมาอยู่ที่นี่กัน
ตอนที่ลู่โจวมายังสตอกโฮล์มเพื่อเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลคลาฟอร์ดครั้งที่แล้ว เขาก็อาศัยอยู่ที่โรงแรมนี้เช่นกัน ทุกอย่างนั้นเหมือนเดิม แม้กระทั่งหมายเลขห้อง
ทันทีที่เข้าไปในโรงแรม เสี่ยวถงก็ตะโกนขึ้นเมื่อเห็นพี่ชายปรากฏตัวที่หน้าประตู “พี่ชาย!” จากนั้นเธอก็วิ่งไปอยู่ข้างลู่โจวพร้อมคว้าแขน
การกระทำเช่นนั้นทำให้เวร่าค่อนข้างหงุดหงิด
ในเวลานี้ ฮาร์ดดีสะกิดแขนของฉินเยว่พร้อมกล่าวคำถาม “นี่ นายรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงคนนั้นกับศาสตราจารย์ไหม?”
ฉินเยว่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่และถอนหายใจ “เธอคือน้องสาวของศาสตราจารย์ไง”
ทันทีที่ได้ยินคำว่าน้องสาว ฮาร์ดดีก็เผยสีหน้าสุดเบื่อหน่าย
ทั้งนี้ ชีวิตรักของศาสตราจารย์ลู่โจวก็เหมือนกับวิธีการค้นคว้าของเขานั้นแหละ
เมื่อเทียบกับรางวัลโนเบลแล้ว ฮาร์ดี้ดูจะสนใจชีวิตรักของลู่โจวมากกว่า
ในตอนนั้นเอง เหว่ยเหวินก็พูดแทรกขึ้นมา “เคยเห็นเธอมาก่อนหรือเปล่า?”
ฉินเยว่ส่ายหัว “ไม่เลย”
“งั้นนายรู้ได้ยังไงกัน?” เหว่ยเหวินกล่าว
ฉินเยว่ขมวดคิ้ว “ยังไม่ชัดเจนอีกหรือไง? ยืนอยู่ข้างพ่อแม่ จะเป็นอะไรไปได้อีกล่ะ? แฟนของเขาเหรอ?”
เว่ยเหวินชี้ไปที่หญิงสาวร่างสูง “แล้วเธอคนนั้นล่ะ?”
ฉินเยว่เงียบไปชั่วขณะพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจ
“พี่สาว?”
เหว่ยเหวินส่ายหัว
“ไม่น่าจะใช่นะ”
……………………………………………
Comments