Scholar’s Advanced Technological System 460 วันที่ 10 ธันวาคม (รีไรท์)
บรรยากาศยามค่ำคืนที่แสนเหน็บหนาวไม่ได้ส่งผลต่อความกระตือรือร้นของผู้คนให้หายจางไป
ณ ประตูทางเข้าของโรงแรมสตอกโฮล์มแกรนด์เต็มไปด้วยผู้สื่อข่าวจากทั่วทุกมุมโลก พวกเขาต่างถือกล้องและไมโครโฟนเพื่อรอสัมภาษณ์คนสำคัญ
“ข้างนอกคนเยอะจัง”
เสี่ยวถงยืนมองผู้คนที่กำลังพลุกพล่านอยู่บริเวณริมหน้าต่างโรงแรม
ปกติแล้ว เธอค่อนข้างมีชีวิตชีวา แต่ในขณะนี้ เธอรู้สึกกังวล
“กลัวเหรอ?” ลู่โจวถาม
เสี่ยวถงพยักหน้า
ลู่โจวเผยยิ้มและพูดต่อ “‘งั้นเธอก็เดินไปกับศาสตราจารย์ถังสิ แต่ถ้าไม่ชอบ ก็ไม่ต้องฝืนตัวเองหรอกนะ”
ตอนนี้มีเพียงสองกลุ่มที่มุ่งหน้าไปยังห้องคอนเสิร์ตของสตอกโฮล์ม กลุ่มแรกคือผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลและญาติที่มาแสดงความยินดีด้วย กลุ่มที่สองคือแขกที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลและเข้าร่วมทานอาหารค่ำ
แม้ว่าผู้คนทั้งสองกลุ่มจะได้เข้าร่วมพิธีเดียวกัน แต่ความรู้สึกนั้นค่อนข้างแตกต่างกันมาก
เสี่ยวถงส่ายหัว
แม้ว่าเธอจะเป็นคนขี้อาย แต่เห็นได้ชัดว่าเธอยังไม่อยากพลาดงานนี้
ลู่โจวเผยยิ้มและส่ายหัวทันทีที่เห็นท่าทางของเสี่ยวถง
“งั้น… เดินตามหลังพี่มาก็ได้ ไม่ต้องคิดมาก”
บางทีอาจเป็นเพราะน้ำเสียงของลู่โจวที่ชวนน่าฟัง… จึงทำให้เธอเผยใบหน้าที่ดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
เธอกล่าวขึ้นทันที เมื่อมองไปยังกลุ่มผู้คนมากมายด้านล่าง
“พี่คะ”
“มีอะไรล่ะ?”
เธอจับผ้าม่านพร้อมกระซิบ “หลายปีที่ผ่านมา พี่เจออะไรมาบ้าง?”
เมื่อลู่โจวได้ยินเช่นนั้น เขาก็เผยยิ้มกว้างอย่างรวดเร็ว
“เรื่องมันยาวน่ะ… ถ้าเธออยากรู้อะไร เดี๋ยวไว้ค่อยถามนะ พี่กลัวว่าจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเลย”
เสี่ยวถงแลบลิ้น “ขี้โม้อีกแล้ว”
“พี่ไม่ได้โม้สักหน่อย ทำไมคิดงั้นล่ะ? ว่าแต่ เธอคิดว่าพี่เปลี่ยนไปบ้างไหม?” ลู่โจวพลันคิดถึงอดีต
เสี่ยวถงพลันส่ายหัว
แม้ว่าอันที่จริงแล้ว พี่ชายของเธอจะเปลี่ยนไปมาก…
แต่สำหรับเธอแล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป
ลู่โจวยังคงเป็นพี่ชายคนเดิมที่เธอเชื่อใจ…
เฒ่าลู่พลันมองออกไปนอกหน้าต่าง ทุกอย่างดูเงียบสงบกว่าที่เคย
เมื่อเทียบกับเสี่ยวถงที่กำลังประหม่า เฒ่าลู่นั้นสงบกว่ามาก
ถ้าเขาสูบบุหรี่เขาจะดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น …
แต่น่าเสียดาย ถ้าเขาสูบบุหรี่ที่นี่ เขาต้องเป็นข่าวดังในวันพรุ่งนี้แน่
ทันทีที่มองดูท่าทางของสามี ฟางเหม่ยก็กล่าวคำพูด “คุณดูสงบนะ… ข้างนอกนักข่าวมารอสัมภาษณ์เยอะเลย ไม่ประหม่าบ้างเหรอคะ?”
สามีของเธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ “ลูกชายของเราสู้มาจนมีวันนี้ เธออยากทำให้ลูกต้องอับอายหรือไง? เขาออกไปเผชิญหน้ากับคนทั้งโลกและเป็นตัวแทนของประเทศอย่างกล้าหาญ เพราะอย่างนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องประหม่าเลย”
“ดูคุณสิ ไอ้ตาแก่เอ๊ย คุณมักจะไปที่แผนกโลจิสติกส์เพื่ออ่านหนังสือพิมพ์ ถึงคุณจะยังไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แต่คุณก็มีทัศนคติของความเป็นผู้นำแล้ว”
“ใครแก่กัน?” เหลาลู่หันกลับไปมองภรรยา “ผมแค่ห้าสิบเองนะ”
ฟางเหม่ยสะกิดแขนสามีพร้อมเผยยิ้ม “ผมขาวขึ้นแล้วนะ ไม่แก่เลยเนอะ”
บัดนี้ ก็ถึงเวลาอันสมควรแล้ว
พ่อแม่ของเขาและเสี่ยวถงตามนักวิชาการสเตฟานลงไปชั้นล่าง
ลู่โจวเดินเข้ามาที่ประตูหน้าโรงแรมและรู้สึกว่าหัวใจกำลังเต้นรัว จากนั้น เขาก็ค่อย ๆ ปรับเนกไทและหายใจเข้าลึก ๆ
ในที่สุด…
ช่วงเวลานี้ก็มาถึง!
…
ด้านนอกโรงแรมอากาศหนาวมาก แต่บรรยากาศภายในกลับร้อนอบอ้าว
เมื่อเริ่มก้าวเดินไปข้างหน้าผู้สื่อข่าวหลายคนก็ถือไมโครโฟนพร้อมกับพยายามเบียดเข้ามาเพื่อทำการถ่ายทอดสดออกอากาศครั้งยิ่งใหญ่นี้ให้แก่ผู้ชมทั่วโลก
“ที่นี่คือโรงแรมแกรนด์สตอกโฮล์ม และเรากำลังรอผู้ชนะรางวัลโนเบล ณ ห้องคอนเสิร์ต”
“ที่นี่คนเยอะเกินไป และทุกคนก็กำลังตื่นเต้นไม่น้อย นอกจากนักข่าวแล้ว ยังมีพลเมืองท้องถิ่นในสตอกโฮล์มและเพื่อนร่วมชาติชาวจีนที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาอีกด้วย!”
มันสายเกินไปที่จะอธิบาย
มีคนกลุ่มหนึ่งออกมาจากประตูโรงแรม ทันใดนั้น ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นหน้าประตู
กล้องหลายตัวเริ่มเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วพร้อมจับจ้องไปที่ลู่โจว
ลู่โจวที่เดินมาพร้อมกับพ่อแม่และคนอื่น ได้ตกเป็นเป้าของกล้องหลายตัวราวกับเดินมาจากทางเดินวีไอพี
อีกทั้งยังมีผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลคนอื่นอยู่ข้างเขาด้วย หนึ่งในนั้นมีทั้งเดินคนเดียวและเดินข้างกันเป็นคู่
เพราะเช่นนั้นคงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเขาถึงแตกต่างและไม่เหมือนใคร
ไม่ว่าจะเป็นเพราะความเยาว์วัย
หรือความมั่นใจ…
ลู่โจวพลันมองไปยังผู้สื่อข่าวพร้อมพยักหน้าให้กล้องและผู้ชม
ช่างภาพหลายคนพยายามจับภาพของลู่โจวเอาไว้ อีกทั้งนักข่าวก็เผยท่าทีสุดตื่นเต้นพร้อมกับน้ำเสียงของพวกเขาสั่นเล็กน้อย
“คนที่อยู่ตรงหน้าเราคือผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีประจำปีนี้! เขากำลังอยู่กับครอบครัวและพร้อมที่จะแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ค่ะ”
“เขาเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลที่อายุน้อยที่สุดในโลก! เขาอายุเพียงยี่สิบสี่ปีเท่านั้น!”
“นี่เป็นอีกหนึ่งรางวัลโนเบลของชาวจีน!”
“อีกทั้งยังเป็นรางวัลโนเบลสาขาเคมีของนักวิชาการชาวจีนคนแรกอีกด้วย!”
ลู่โจวถูกพูดถึงอยู่ตลอดเวลาท่ามกลางผู้คน น้ำเสียงของเหล่านักข่าวฟังดูอ่อนเพลียเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้น
ถึงอย่างไร ก็ไม่มีใครตำหนิพวกเขาเรื่องนี้
ในเวลานี้ หลายคนก็ตื่นเต้นเหมือนกับพวกเขา
นักข่าวทุกคนรู้สึกกระตือรือร้นและนำไมโครโฟนไปจ่อสัมภาษณ์ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลรุ่นเยาว์
ถึงกระนั้น พวกเขาก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น หลังจากสิ้นสุดพิธีมอบรางวัล เหล่านักข่าวก็ยังคงต้องการสัมภาษณ์นักวิชาการที่มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่อีก
จากนั้น ลู่โจวก็เผยยิ้มและพยักหน้าให้ไมโครโฟนที่มาจากทั้งสองฝั่งของทางเดิน ไม่นาน เข้าก็เดินขึ้นรถพิเศษที่จอดรออยู่ที่ทางเข้าโรงแรม ลู่โจวและผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลคนอื่นพร้อมเข้าร่วมพิธีแล้ว
เหมือนกับปีก่อน ๆ
ณ เวลาสี่โมงครึ่ง พิธีมอบรางวัลโนเบลเริ่มต้นอย่างเป็นทางการพร้อมบทเพลงพระราชนิพนธ์ของราชบัณฑิตสภาด้านวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดน มีผู้เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลกว่าหนึ่งพันสามร้อยคน ไม่ว่าจะเป็นราชวงศ์ชนชั้นสูง ผู้นำทางการเมืองและผู้คนจากทุกสาขาอาชีพในแวดวงวัฒนธรรมและวิชาการ
เพื่อให้พิธีดูเป็นทางการ ทุกวิธีการของพิธีจะได้รับการจัดการอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นหูกระต่ายสีขาวและทักซิโด้สีดำของผู้ชนะ รวมไปถึงมงกุฎของพิธีประดับ
ประเด็นที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งคือรางวัลโนเบลนั้นมีค่ามากกว่าโบนัสประจำปีเสียอีก
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว…
ในช่วงสองสามสัปดาห์แรกของงานเลี้ยง ทุกคนต่างยุ่งพอกัน และทั้งหมดก็เพื่อทำให้พิธีมอบรางวัลนี้เป็นไปอย่างมีระบบะระเบียบและไม่มีข้อผิดพลาด
ในเวทีระดับนานาชาติเช่นนี้
คนแรกที่ออกมากล่าวสุนทรพจน์คือ ท่านลอร์ดเฮนริค เฮอร์ดิน
ในการกล่าวเปิดงาน เขายกย่องผู้ชนะให้เป็นแบบอย่างที่ดีและนับถือให้ผู้นั้นเป็นผู้รอบรู้
เขาหวังว่าลู่โจวจะทำการค้นพบทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมในอนาคตและเขียนผลงานวิจัยที่ดีขึ้นต่อไป…
ลู่โจวยืนอยู่หลังเวทีพลันหายใจเข้าออก เขาพยายามสงบสติอารมณ์
แต่ทว่า ล่โจวก็ได้ยินในสิ่งที่ลอร์ดเฮนริคพูดไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
จนกระทั่งประธานคณะกรรมการรางวัลโนเบลสาขาเคมีเดินขึ้นไปที่เวที
เขาใช้น้ำเสียงที่เคร่งขรึมและดังขึ้นพร้อมหันหน้าไปทางผู้คน
“นานมากแล้วที่อุตสาหกรรมเคมีต้องเผชิญกับปัญหา วิธีสร้างความสัมพันธ์เชิงปริมาณระหว่างโครงสร้างและประสิทธิภาพเป็นปัญหาสำคัญที่สุดประการหนึ่งที่อุตสาหกรรมเคมีต้องพิจารณาในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด”
“อย่างที่เราทราบกันดี โครงสร้างพื้นผิวสัมผัสไฟฟ้าเคมีถือเป็นเสาหลักที่สำคัญของเคมีไฟฟ้าสมัยใหม่ การไม่สามารถอธิบายลักษณะของกระบวนการทางเคมีไฟฟ้าต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนหมายความว่าเราไม่ทราบว่าปรากฏการณ์ทางเคมีเกิดขึ้นต่อหน้าเรา”
ทั้งห้องเงียบไปชั่วครู่
“เขาได้ใช้วิธีการทางคณิตศาสตร์เพื่อเปิดวิธีคิดใหม่ ๆ สำหรับการวิจัยของเรา อีกทั้งผลการวิจัยนับไม่ถ้วนพิสูจน์แล้วว่าเขาคิดถูก”
เพื่อตอบโต้กับสายตาของผู้คน ประธานคณะกรรมการจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นเพื่อประกาศผลการตัดสินรางวัลโนเบลสาขาเคมี
“ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีนี้ก็คือ…ศาสตราจารย์ลู่โจวจากประเทศจีน!”
“ปรบมือให้เขาหน่อยครับทุกท่าน”
สิ้นเสียงของประธานคณะกรรมการ เสียงปรบมือเริ่มดังขึ้น
และในตอนนี้ ทั่วทั้งห้องโถงสตอกโฮล์มสุดอลังการก็เต็มไปด้วยเสียงปรบมือที่ดังกึกก้อง…
………………………………..
Comments