พอเป็นเรื่องโปรเจกต์อีสต์ลูป ลู่โจวจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวเล็กน้อย

 เหตุผลที่เขาพยายามอย่างหนักเพื่อคิดโปรเจกต์นี้ขึ้นมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสัญญาณ 750 จิกะอิเล็กตรอนโวลต์

 เขารู้ดีว่าการคำนวณของเขาไม่มีทางโกหก และ ‘ความผิดพลาด’ ที่ปรากฏบนเครื่องตรวจจับสองเครื่องก่อนหน้านั้นไม่ได้เป็นแค่เรื่องบังเอิญ ถึงแม้การทดลอง LHCb จะไม่พบอะไร เขาก็ยังเชื่อว่าวิธีที่ทดลองมีข้อผิดพลาด

 เขาไม่สามารถพึ่งพาเซิร์นได้อีกต่อไป

 เขาต้องการเป็นเจ้าของเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนขนาดใหญ่ของตนเอง หรืออย่างน้อยก็ต้องมีเครื่องที่ตัวเขาเองสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ มีเพียงแค่วิธีนั้น เขาจึงจะสามารถทำการทดลองในแบบที่เขาต้องการได้

 แน่นอนว่าก่อนที่จะทำพิมพ์เขียวพวกนี้ออกมาได้นั้น เขาจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาก่อน

 การประชุมรถพลังงานทางเลือกจะจัดขึ้นกลางเดือนตุลาคม

 ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ผู้นำวงการวิชาการ และกลุ่มทุนนิยมอื่นๆ ที่สนใจในตัวอุตสาหกรรมนี้จะทยอยเข้ามารวมตัวกันในเมือง

 เมื่อได้รับบัตรเชิญที่เฉินยู่ซานหามาได้แล้ว ลู่โจวจึงสามารถเข้าร่วมการประชุมได้

 หลังจากที่เขาแสดงบัตรเชิญให้กับแผนกต้อนรับแล้ว เขาก็กำลังจะเดินเข้าไปในงานประชุม แต่หญิงสาวคนหนึ่งที่ทางเข้าก็ได้หยุดเขาไว้

 “คุณคะ ที่นั่งของคุณอยู่ตรงนั้นค่ะ”

 ลู่โจวมองไปทางระเบียงที่หญิงสาวชี้นิ้วไป เขาถามขึ้นว่า “หอประชุมอยู่อีกทางไม่ใช่เหรอครับ?”

 หญิงสาวเอ่ยอย่างสุภาพว่า “คุณมีบัตรเชิญเฉพาะของผู้เชี่ยวชาญพิเศษน่ะค่ะ ที่นั่งคุณอยู่ทางขวาของหอประชุมค่ะ ขอให้เดินไปทางระเบียงด้านขวาเพื่อเข้าสู่งานประชุมนะคะ”

 ลู่โจวมองบัตรเชิญตัวเอง บนนั้นมีคำที่เขียนไว้ว่า ‘บัตรเชิญผู้เชี่ยวชาญพิเศษ’

 “มีบัตรเชิญพิเศษด้วยเหรอครับ?”

 หญิงสาวคนนั้นมีท่าทีงงๆ เธอเอ่ยขึ้นว่า “คุณคะ คุณไม่ได้สังเกตตอนได้รับบัตรเชิญมาก่อนหน้านี้เลยเหรอคะ?”

 ลู่โจวยิ้มแห้งๆ แล้วตอบว่า “ผม…ซีอีโอของบริษัทผมช่วยหาบัตรเชิญใบนี้มาให้ผมน่ะครับ ผมยังไม่ได้ดูมันละเอียดเลย”

 “ถ้าอย่างนั้นฉันจะนำทางคุณไปเองค่ะ”

 ลู่โจวพยักหน้า

 “ได้เลยครับ ขอบคุณนะ”

 รถพลังงานทางเลือกเป็นความเปลี่ยนแปลงแรกที่เกิดจากเทคโนโลยีฟิวชั่นที่ควบคุมได้ หลังจากการตั้งมาตรฐานแบตเตอรี่รถแล้ว จะมีเงินจำนวนมากที่ถูกลงทุนในธุรกิจรถพลังงานทางเลือก ซึ่งนี่จะช่วยเร่งตลาดรถยนต์ของจีนและสุดท้ายก็จะขจัดรถแบบเก่าที่ใช้น้ำมันออกไปได้หมด

 ความจริงแล้ว เทรนด์นี้มีมาตั้งแต่ก่อนการพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์เสียด้วยซ้ำ

 สำหรับบริษัทไฮเทคที่มุ่งเน้นไปที่การวิจัยและการพัฒนาอย่างสตาร์สกายเทคโนโลยีแล้ว การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสอันมีค่าอย่างไม่ต้องสงสัย สุดท้ายแล้ว หลังจากมีการตั้งมาตรฐานของแบตเตอรี่ การวิจัยและการพัฒนาแบตเตอรี่จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง

 ถึงแม้ว่าลู่โจวจะไม่สนใจเรื่องหาเงิน เขาก็ยังขาดเงินอยู่เล็กน้อย

 เขาผลาญเงินหลักร้อยล้ายหยวนไปกับโปรเจกต์กระสวยอวกาศที่ตอนนี้คืบหน้าไปได้เพียงนิดเดียว ใครจะไปรู้ว่าในอนาคตเขาต้องใช้เงินอีกเท่าไร

 ไม่นานนัก การประชุมก็เริ่มขึ้น

 ลู่โจวเปิดใช้งานแอปบันทึกวิดีโอบนโทรศัพท์ แล้วบอกให้เสี่ยวไอเรียบเรียงเนื้อหาในการประชุมแล้วเขียนเป็นบันทึก ส่วนตัวเขาก็พุ่งความสนใจไปที่การนำเสนอ

 คนแรกที่เดินขึ้นมาบนเวทีคือเจ้าหน้าที่ยศสูงเป็นอันดับสองจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ เลขาธิการหยางจงหยวน

หลังจากเสียงปรบมือเกรียวกราว เขาก็เริ่มพูดสุนทรพจน์เปิดการประชุมทั่วไป

 ถ้าให้พูดตามตรง ในสุนทรพจน์นั่นไม่มีอะไรสำคัญเป็นพิเศษเลย แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจจากลู่โจวได้ ระหว่างที่กำลังพูดเปิดเรื่องรถพลังงานทางเลือกอยู่นั้น เลขาธิการหยางได้พูดถึงคีย์เวิร์ดคำว่า ‘เมืองอัจฉริยะ’ หลายครั้ง

 โดยทั่วไปแล้ว สุนทรพจน์ในลักษณะนี้มักจะสื่อถึงเจตนาที่แท้จริงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

 “การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงสังคมของพวกเราอย่างรวดเร็ว ด้วยการเจริญเติบโตอันรวดเร็วของอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง[1] บิ๊กดาต้า คลาวด์คอมพิวติง ปัญญาประดิษฐ์ และอื่นๆ อีกมากมายนั้น จะทำให้เมืองอัจฉริยะค่อยๆ ถือกำเนิดขึ้นในช่วงชีวิตของพวกเรา ฟิวชั่นที่ควบคุมได้ได้นำพลังงานที่สะอาดและราคาถูกมาให้พวกเรา พลังงานใหม่นี้ยังทำให้เรารู้ซึ้งถึงทุกสิ่งที่จะเขียนในพิมพ์เขียวเพื่ออนาคตของพวกเรา”

 เลขาธิการหยางหยุดพักเพียงไม่กี่วินาทีก็พูดต่อว่า “พวกเราได้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า สภาพเศรษฐกิจและสังคมของพวกเรากำลังมุ่งก้าวไปทาง ‘ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป’ และในบางส่วนนั้น พวกเราก็ยืนอยู่แถวหน้าของโลกนี้แล้ว

 สารสนเทศและการใช้พลังงานไฟฟ้าในเมืองจะเป็นเป้าหมายหลักของเราในอีกห้าปีถัดไปนี้ ผมหวังว่าพวกคุณทุกคนจะสามารถสานต่อความตั้งใจนี้เพื่อสร้างอนาคตอันอุดมไปด้วยความรุ่งเรืองของพวกเราได้”

 เลขาธิการหยางก้มหัวท่ามกลางเสียงปรบมือและประกาศการเริ่มของงานประชุม

 เมื่อพิธีกรของงานประชุมเดินขึ้นมาบนเวที ลู่โจวก็เหมือนจะตกอยู่ในห้วงภวังค์ของความคิด เขาจดคำบางคำลงไปในสมุดบันทึกของตัวเอง

 [แบตเตอรี่ลิเธียมแอร์]

 แบตเตอรี่ลิเธียมแอร์เป็นสิ่งที่อยู่ในอนาคตอันห่างไกลกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์ เนื่องจากมันต้องพึ่งพาออกซิเจนภายนอกในการสร้างออกไซด์ ในทางทฤษฎีแล้ว แบตเตอรี่ลิเธียมแอร์จะมีระดับความหนาแน่นของพลังงานสูงกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์ อันที่จริงแล้ว เศษซากชิ้นแรกที่เขาได้มา ก็เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมแอร์ ดังนั้น การจะทำวิศวกรรมย้อนรอยของเทคโนโลยีนี้ก็ไม่น่าจะยากอะไรนัก

 ซึ่งจริงๆ เขาไม่จำเป็นต้องทำวิศวกรรมย้อนรอยกับเทคโนโลยีนี้โดยสมบูรณ์ก็ได้ เขาก็แค่ต้องทำตามวิธีทางเทคนิคที่ปรากฏให้เห็นในเศษซากหมายเลข 1 และปล่อยให้สถาบันวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณแห่งสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงไปทำส่วนที่เหลือต่อ

 อย่างไรก็ตาม ลู่โจวไม่แน่ใจว่าเขาควรจะสร้างเทคโนโลยีนี้ขึ้นมาในตอนนี้เลย หรือควรสร้างในช่วงเวลาหลังดี

 “ก่อนอื่น ฉันจะให้ยางสวี่เริ่มวิจัยเมมเบรนแลกเปลี่ยนแก๊สโมเลกุลออกซิเจน”

 ลู่โจวขมวดคิ้วในขณะใช้ความคิด เขาขีดคำว่า ‘แบตเตอรี่ลิเธียมแอร์’ ทิ้ง แล้วเขียนคำว่า ‘เมมเบรนแลกเปลี่ยนแก๊ส’ ลงไปแทน จากนั้นก็ปิดสมุดบันทึก

 เขาได้ยินเสียงคนพูดข้างๆ ว่า

 “สุนทรพจน์ครั้งนี้น่าสนใจมากเลยไม่ใช่เหรอ?”

 เห็นได้ชัดว่าคนคนนี้กำลังพูดกับเขา

 ลู่โจวหันไปมอง แล้วก็ต้องประหลาดใจในทันที

 ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างเขามีใบหน้าคล้ายกับ ET[2] เล็กน้อย เขายิ้มอย่างใจดีและยื่นมือขวาออกมา

 “ยินดีที่ได้พบนะ ศาสตราจารย์ลู่”

 ลู่โจวจับมือกับเขาแล้วทักทายอย่างเรียบง่าย

 “สวัสดีครับ ซีอีโอหม่า”

 แจ็คหม่ายิ้มแล้วพูดว่า “ผมไม่ได้เป็นซีอีโอแล้ว คุณเรียกผมว่าแจ็คหม่าเฉยๆ ก็ได้”

 ลู่โจวกำลังคิดเรื่องปัญหาของตัวเองอยู่ เขาจึงไม่ได้สังเกตเลยว่าเขากำลังนั่งอยู่ข้างนายใหญ่ของอาลีบาบา แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ลู่โจวเพียงประหลาดใจเล็กน้อยเท่านั้น

 ถ้าพูดถึงเรื่องเงินแล้ว ลู่โจวมีเงินน้อยกว่าแจ็คแน่นอน

 แต่ถ้าพูดถึงเรื่องสถานะแล้ว…

 ก็ไม่ได้เปรียบเทียบกันง่ายๆ นะ

 “คุณหม่าครับ คุณก็สนใจเรื่องรถพลังงานทางเลือกเหมือนกันเหรอ?”

 “ผมไม่ได้สนใจเรื่องรถพลังงานทางเลือกโดยเฉพาะหรอกนะ” แจ็คหม่าส่ายหัวแล้วพูดต่อ “ฉันสนใจอุตสาหกรรมนี้น่ะ”

 “อุตสาหกรรมพลังงานทางเลือกน่ะเหรอครับ?”

 “เปล่าหรอก อุตสาหกรรมแห่งอนาคตต่างหาก” เขาหยุดพูดไปไม่กี่วินาทีก็พูดต่อขึ้นว่า “ก็เหมือนกับที่เลขาธิการหยางว่าไว้นั่นแหละ พลังงานไฟฟ้าจะกลายเป็นสิ่งที่สะอาดขึ้นและราคาถูกขึ้น ไอเดียที่ก่อนหน้าต้องใช้เงินมหาศาลในการสร้างจนเมื่อก่อนทำไม่ได้ พอมาถึงวันนี้ก็อาจจะทำให้เป็นจริงได้ ไม่ใช่แค่รถพลังงานทางเลือกนะ แต่สิ่งประดิษฐ์อันยิ่งใหญ่อีกหลายสิ่งก็มีโอกาสเกิดขึ้นมาได้เหมือนกัน”

 ทันใดนั้นแจ็คหม่าก็หันหน้ามายิ้มให้ลู่โจว

 “ยกตัวอย่างเช่น โดรนโลจีสติกส์ที่คุณเสนอมาเมื่อ 6 หรือ 7 ปีก่อนน่ะ ย้อนกลับไปสมัยนั้นก็คงทำไม่ได้แน่ๆ  แต่ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า ถนนของเราก็อาจจะเต็มไปด้วยโดรนบินไปบินมาจำนวนมาก ในอนาคต เมืองของพวกเราจะกลายเป็นเหมือนชุมชนข้อมูล เพียงแค่ชาวเมืองเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต พวกเขาก็จะสามารถทำทุกอย่างได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ผู้คนจะถูกปลดปล่อยจากการใช้แรงงานซ้ำซาก ทำให้พวกเราสามารถทำงานที่สร้างสรรค์กว่านั้นได้ ทำให้ประเทศของเราเจริญรุ่งเรืองขึ้น”

 ลู่โจวยิ้มแล้วพูดขึ้น “ผมคิดว่าคุณไม่ได้เป็นผู้จัดการแล้วเสียอีก”

 แจ็คหม่ายิ้มแล้วเอ่ยตอบ “ผมไม่ได้เป็นผู้จัดการแล้วก็จริง แต่ผมก็ยังเป็นนักลงทุนนะ ถึงผมจะไปอวกาศไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าผมไม่สนใจเรื่องอวกาศเสียหน่อย ซึ่งก็แน่นอนว่าผมสนใจในตัวคุณมากกว่า ศาสตราจารย์ลู่”

 “ผมเหรอ?”

 “ใช่แล้วล่ะ ผมน่ะมีไอเดียหลายอย่างเลย ส่วนคุณ คุณไม่ใช่แค่มีไอเดียเท่านั้น แต่คุณยังมีความสามารถในการทำไอเดียเหล่านั้นให้เป็นจริงได้ด้วย” แจ็คหม่าเอ่ยขณะมองลู่โจวด้วยสายตาเป็นประกาย

 ลู่โจวเงียบไปครู่หนึ่ง

 จากนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นมาแล้วตอบว่า “ผมอายนิดหน่อยนะที่คุณประเมินผมไว้สูงขนาดนี้”

 แจ็คหม่ายิ้มแล้วบอกว่า “คุณน่ะถ่อมตัวเกินไป”

 เขาหยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ลู่โจว

 “ถ้าคุณมีโปรเจกต์น่าสนใจอะไรที่ต้องการเงินลงทุนแล้วล่ะก็ คุณติดต่อผมได้เสมอเลยนะ ต่อให้ผมช่วยคุณไม่ได้ ผมก็สามารถแนะนำคุณให้กับคนที่ช่วยคุณได้”

 เข้าใจแล้ว…

 นี่สินะ สาเหตุที่คุณเริ่มคุยกับฉัน คุณอยากจะลงทุนในตัวฉันอย่างนั้นเหรอ?

 ลู่โจวรับนามบัตรมาแล้วก้มหัวเพื่อแสดงความขอบคุณ

 “ถ้าจำเป็น ผมจะติดต่อคุณแน่นอนครับ”

……………………………………………………

[1] มีชื่อย่อว่า IoT หรือ Internet of Things หมายถึง สิ่งต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยมีการฝังตัวของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ เซ็นเซอร์ และการเชื่อมต่อกับเครือข่าย โดยสิ่งเหล่านี้สามารถเก็บบันทึกและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ อีกทั้งยังสามารถรับรู้สภาพแวดล้อมและถูกควบคุมได้จากระยะไกล ผ่านการเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ตโฟน

[2] ชื่อของมนุษย์ต่างดาวในเรื่อง อี.ที. เพื่อนรัก (E.T. the Extra-Terrestrial) มีลักษณะหัวโต ตาโต คอยาวยืดหดได้