Scholar’s Advanced Technological System 721 รวมโต๊ะ? / 722 ซี
ตอนที่ 721 รวมโต๊ะ?
มันเป็นเวลากลางคืน
จุดปล่อยยานอวกาศยังคงสว่างไสว
คนส่วนใหญ่เริ่มวางแผนวันหยุดของตัวเองและตั้งตารอปีใหม่ อย่างไรก็ดี ที่นี่กลับไม่มีบรรยากาศของเทศกาลเลยแม้แต่นิดเดียว
เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินยุ่งอยู่กับการเดินอยู่รอบๆ รันเวย์ที่ปล่อยยาน พวกเขากำลังทำการตรวจสอบจุดปล่อยยานและฮาร์ดแวร์ของสกายโกลว์เป็นครั้งสุดท้าย
แผนการปล่อยเสร็จสมบูรณ์แล้วและมีกำหนดการปล่อยในเวลาเที่ยงคืน
จากข้อมูลการสังเกตสภาพอากาศโดยกรมอุตุนิยมวิทยา เวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับภารกิจการปล่อยยาน
นักบินอวกาศและเจ้าหน้าที่ของจุดปล่อยยานต่างกำลังทำหน้าที่ของพวกเขา
ภายในห้องพักนักบินอวกาศ
บรรยากาศเงียบสนิท
จะมีการปล่อยยานในอีกสามชั่วโมง และพวกเขาจะต้องขึ้นยานอวกาศในอีกหนึ่งชั่วโมง
เนี้ยหยุนถอนหายใจและทำลายความเงียบ
“เธอพร้อมไหม?”
เนี้ยเหยียนยิ้มเยาะแล้วชนหมัดเข้าที่อก
“ฉันพร้อมตั้งแต่เกิดแล้ว”
เนี้ยหยุนติดเชื้อความกระตือรือร้นของเธอเข้าให้แล้ว และเขาก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มนั้นก็คงอยู่ได้แค่ไม่กี่วินาที
หลังจากที่เงียบอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า
“…เธอควรจะคิดเรื่องนี้ให้จริงจังนะ นี่มันต่างจากภารกิจการปล่อยยานรอบที่แล้ว เราไม่รู้เลยว่ามีอะไรรอเราอยู่บนดวงจันทร์”
เนี้ยเหยียนยิ้มแล้วพูดติดตลกว่า “การคิดเรื่องนี้มันมีประโยชน์ยังไง? มันไม่ใช่ว่าเราจะสามารถหานักบินอวกาศมาบินแทนเราได้สักหน่อย”
เนี้ยหยุนพูดว่า “เรามีนักบินอวกาศสำรอง”
เนี้ยเหยียนพูดอย่างไม่ลังเลว่า “อย่าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้”
เนี้ยหยุนรู้ว่าน้องสาวของเขาเป็นคนนิสัยยังไง ดังนั้นเขาจึงไม่พยายามจะเกลี้ยกล่อมเธอ
จริงๆ แล้ว เพราะพวกเขาเป็นพี่น้องกัน พวกเขาจึงไม่สามารถจะขับยานอวกาศไปด้วยกันได้ ฉะนั้น เนี้ยหยุนจึงถูกเลือกให้เป็นนักบินเพียงคนเดียวสำหรับเที่ยวบินนี้
อย่างไรก็ตาม เนี้ยเหยียนก็ได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาให้เธอได้บินไปด้วยเช่นกัน ด้วยความสามารถอันโดดเด่นของเธอในกองทัพ ผู้บังคับบัญชาจึงอนุมัติคำขอของเธอ
เนี้ยหยุนไม่คิดว่านี่จะเป็นความคิดที่ดี
เพราะถ้าหากเกิดอะไรขึ้น พ่อแม่ของพวกเขาคงจะใจสลายที่ต้องสูญเสียลูกทั้งสองคนไป
นอกจากพี่น้องคู่นี้แล้ว ยังมีคนอื่นร่วมบินไปด้วย
เขาแตกต่างจากนักบินอวกาศทั้งสองคน เขาไม่ใช่อดีตนักบินของกองทัพ เขาเป็นนักวิจัยจากสถาบันธรณีเคมีที่สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนและเคยทำงานอยู่ที่สถาบันวิจัยดวงจันทร์และดวงดาวแห่งประเทศจีน โดยทำงานด้านการวิจัยและสำรวจดวงดาว เขาผ่านการสัมภาษณ์และทดสอบหลายรอบก่อนที่สุดท้ายเขาจะได้รับเลือกให้เข้าร่วมโปรเจกต์ส่งคนไปดวงจันทร์
ก่อนหน้านี้เขาได้รับการฝึกอบรมแบบมืออาชีพเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น เขาไม่ทราบเลยว่านี่เป็นเรื่องจริงจังแค่ไหนจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้ขอให้เขาเขียนพินัยกรรม…
เนี้ยเหยียนสังเกตว่ามือของเขากำลังหยุกหยิก เธอจึงถามขึ้นว่า “เฮ้ คุณชื่ออะไร?”
ชายคนนั้นสะดุ้งตกใจเพราะเสียงของเธอ แล้วเขาก็ตอบอย่างตะกุกตะกักว่า “หลิว…หลิวเจิ้งเหวิน”
“กังวลเหรอ?”
“ใช่… ประมาณนั้น”
หลิวเจิ้งเหวินฝืนยิ้มออกมา เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วมองที่กำปั้นของตัวเอง สักพักเขาก็พูดขึ้นว่า “ผมคิดว่าผมเตรียมใจมาแล้ว แต่ตอนนี้… ผมกำลังกลัวตาย”
เนี้ยหยุนพูดว่า “ทุกคนกลัวตายทั้งนั้น ไม่มีอะไรจะต้องอายหรอกครับ”
“คุณก็กลัวเหมือนกันเหรอ?”
เนี้ยหยุนพยักหน้า แล้วก็ส่ายหัว
“การรู้สึกกลัวกับเกรงกลัวเป็นสองสิ่งที่ต่างกัน”
ทันใดนั้นเสียงกริ่งก็ดังขึ้นในห้องพักนักบินอวกาศ
มันเป็นเวลาที่พวกเขาจะต้องตรงไปที่ห้องล็อกเกอร์แล้วสวมชุดอวกาศโดยมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยใส่
เนี้ยหยุนยืนขึ้นแล้วเดินอย่างเงียบๆ ไปข้างๆ หลิวเจิ้งเหวิน เขาเอื้อมมือออกไปแล้วตบบ่าหลิวเจิ้งเหวิน
“ผ่อนคลายเถอะ มีผู้คนอีกหลายล้านคนคอยภาวนาให้พวกเรา”
“พวกเราทำได้”
…
จุดปล่อยยานเต็มไปด้วยเหล่าทหารจากกองทัพ มีการตั้งแบริเออร์ตรงบริเวณใกล้กับทางหลวงเพื่อห้ามไม่ให้ยานพาหนะและบุคคลอื่นทั้งหมดเข้ามาในพื้นที่ บางคนกำลังถ่ายภาพอยู่ในบริเวณใกล้เคียงและพวกเขาก็ถูกตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารตักเตือนและนำตัวออกไป
จุดปล่อยยานดูเหมือนป้อมปราการที่แม้แต่แมลงสาบก็ไม่สามารถจะแอบเข้าไปได้
ภายในจุดปล่อยยาน
รถตู้ของ CTV จอดอยู่ในจุดปล่อยยาน CTV ได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำ
กล้องจับอยู่ที่นักบินสามคนซึ่งกำลังเดินตรงไปยังยานอวกาศ ผู้สื่อข่าวหญิงที่กำลังตื่นเต้น พูดด้วยเสียงอันดังผ่านไมโครโฟนว่า
“…บนรันเวย์ที่ด้านหลังของดิฉันคือนักบินอวกาศ 3 คนที่กำลังจะขึ้นยานสกายโกลว์ค่ะ อีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง การบินครั้งที่สองของสกายโกลว์ก็จะเริ่มขึ้น จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่จุดปล่อยยานจินหลิง ยานอวกาศจะเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ แล้วรอยเท้าของนักบินอวกาศของเราก็จะอยู่บนดวงจันทร์! พวกเขาจะอวยพรสุขสันต์วันตรุษจีนให้พวกเราจากดวงจันทร์ค่ะ!”
ผู้สื่อข่าวหญิงสูดลมหายใจเข้าลึก
ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ภาพที่บันทึกด้วยกล้องนี้จะได้ไปออกอากาศทางช่องข่าวในวันพรุ่งนี้
แต่ถ้ามีอะไรผิดปกติ…
เธอก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือภาวนา
บนรันเวย์ชานชาลาสูงสำหรับขึ้นยานค่อยๆ เชื่อมต่อกับทางเข้ายานอวกาศ
ลู่โจวยืนอยู่บนชานชาลาสำหรับขึ้นยานและมองดูนักบินอวกาศสามคนขึ้นสู่ยาน เขายิ้มแล้วโบกมือให้พวกเขา
ผู้อำนวยการหลี่ยืนอยู่ข้างหลังลู่โจวโดยมีสีหน้าที่เคร่งขรึม แม้ว่าชานชาลาสำหรับขึ้นยานจะไม่ได้เชื่อมต่อกับยานอวกาศ เขาก็ยังคงจับตามองลู่โจว
ผู้อำนวยการหลี่เป็นคนที่รักษาคำพูดของเขาอย่างแท้จริง เขาคอยติดตามลู่โจวมาตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว กระทั่งถึงตอนเข้าห้องน้ำ
อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เข้าไปในห้องน้ำกับลู่โจว…
ลู่โจวมองใบหน้าที่กังวลของเขาแล้วถอนหายใจออกมา
“… ผมคิดถึงเรื่องนั้น”
ผู้อำนวยการหลี่พูดว่า “คิดถึงเรื่องอะไร?”
ลู่โจวตอบอย่างกระอักกระอ่วนว่า “ยานลงดวงจันทร์สามารถรับคนได้เพียงแค่สองคน ดังนั้นอีกหนึ่งก็จะต้องอยู่บนยานอวกาศคนเดียว”
“…แล้วไง?”
“มันค่อนข้างจะน่าเบื่อสำหรับพวกเขาที่จะต้องที่นั่นคนเดียว เราควรจะบินไปกับพวกเขา แล้วเราจะได้เล่นไพ่กับพวกเขาได้”
ดวงตาของผู้อำนวยการหลี่แทบจะหลุดออกมาจากเบ้าตา ลู่โจวเริ่มที่จะกังวลเรื่องความดันโลหิตของผู้อำนวยการหลี่
“ผมล้อเล่น… ไปเถอะ… เรากลับไปกันที่ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินดีกว่า โชว์กำลังจะเริ่มแล้ว”
ก่อนที่ผู้อำนวยการหลี่จะตอบ ลู่โจวก็ลากเขาไปที่ศูนย์บัญชาการแล้ว
……………………………
ตอนที่ 722 ซี
ประตูของยานอวกาศปิด
เนี้ยหยุนนั่งลงบนที่นั่งของนักบิน
หลังจากเนี้ยหยุนติดระบบความปลอดภัยทางชีวภาพและคาดเข็มขัดที่ชุดอวกาศของเขาแล้ว เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วค่อยๆ ปรับจุดศูนย์ถ่วงบนพนักที่นั่ง
นาฬิกาดิจิทัลส่งเสียงติ๊กๆ เบาๆ
“ใกล้ถึงเวลาแล้ว”
“ใช่”
เนี้ยหยุนชนกำปั้นกับเนี้ยเหยียน แล้วเขาก็มองไปที่แผงคอนโซลควบคุม เขาได้ยินใครบางคนพูดว่า “ทุกหน่วยพร้อม” ในหูฟังของเขา เขาเปิดล็อกนิรภัยสำหรับเครื่องฟิวชั่นเสียงก่อนจะบิดปุ่มอิกนิชั่น
ในช่วงเวลาที่ปุ่มถูกเปิด พลังงานมหาศาลก็ออกมาจากแกนนิวเคลียร์ มันดูเหมือนว่ายานอวกาศทั้งลำเป็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ยักษ์ที่ตื่นขึ้นมา
หลิวเจิ้งเหวิน ผู้ซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งผู้โดยสาร รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนที่เท้า เขากลืนน้ำลายแล้วถามอย่างประหม่าว่า “เรากำลังจะจุดเชื้อเพลิงแล้วใช่ไหม?”
ช่องการสื่อสารไม่ได้เปิดอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีใครได้ยินสิ่งที่เขาพูด
เนี้ยหยุนจ้องอยู่ที่หน้าปัดพลังงานที่กำลังเพิ่มขึ้น แล้วเขาก็เอื้อมมือไปแตะที่หูฟังเบาๆ เขาพูดด้วยเสียงที่ชัดเจนว่า
“นี่คือสกายโกลว์ ฟิวชั่นอิกนิชั่นเสร็จสมบูรณ์ เราพร้อมที่จะบินแล้ว ขอการอนุมัติ”
ไม่นานศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินก็ตอบกลับมาว่า
“คำขอได้รับอนุมัติ เริ่มปล่อยยานในหนึ่งนาที”
“รับทราบครับ”
มือทั้งสองข้างของเนี้ยหยุนจับคันบังคับทิศทางแน่น เขาหลับตาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก นิ้วโป้งของเขากดที่ปุ่ม ซึ่งเป็นปุ่มเปิดตัวขับดันเครื่องยนต์
วินาทีที่เขาลืมตา เขาก็ได้ยินเสียงนับถอยหลังในหู…
“5
“4
“3
“2
“1
“0
“ไปได้!”
ครั้งก่อนลู่โจวให้โฮ่วกวงนับถอยหลัง แต่ครั้งนี้ลู่โจวเป็นคนนับถอยหลังเอง
เครื่องขับดันพลังไอออนขนาดมหึมา 5 เครื่องที่ติดอยู่กับยานอวกาศเริ่มติดไฟ ปล่อยสสารสีฟ้าที่เหมือนเปลวเพลิงไว้ด้านหลัง ยานอวกาศถูกผลักไปข้างหน้าอย่างช้าๆ บนรันเวย์
ในช่วงเวลาที่แสงสีฟ้าปะทุออกมาจากเครื่องขับดัน เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินที่อยู่ใกล้รันเวย์ ทหารจากกองทัพ และวิศวกรทั้งหมดถูกย้ายออกไปเรียบร้อย
ภาพวิวอันน่ามหัศจรรย์นี้จะไม่มีวันเก่าเลย
ผู้อำนวยการหลี่ยืนอยู่ข้างลู่โจวขณะที่เขาจ้องอยู่ที่จอขนาดใหญ่ในศูนย์บัญชาการ
ผ่านไปสักพัก เขาก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า
“ในที่สุดผมก็รู้ว่าทำไมคุณถึงอยากขึ้นไปบนนั้น”
ลู่โจวยิ้มแล้วถามว่า “ไปบินด้วยกันสักครั้งไหมล่ะครับ?”
ผู้อำนวยการหลี่ตอบอย่างไม่ลังเลว่า “อย่าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้!”
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ยานอวกาศบนรันเวย์ก็เคลื่อนตัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุด ยานอวกาศสีเงินก็บินขึ้นจากพื้นอย่างช้าๆ แล้วหายไปที่เส้นขอบฟ้า แสงสีฟ้าส่องสว่างเจิดจ้าในความมืด เหมือนกับแสงออโรรา
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินมองดูยานอวกาศที่หายไปในราตรี พวกเขาก็เปล่งเสียงยินดีออกมาอย่างตื่นเต้น ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินและอวกาศในหอบังคับการภาคพื้นดินถึงกับหลั่งน้ำตา
แม้ว่าการเดินทางไปดวงจันทร์เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น แต่การปล่อยยานที่ประสบความสำเร็จครั้งนี้จะเป็นที่จดจำไว้ในประวัติศาสตร์
ไม่ว่าพวกเขาจะสามารถลงจอดบนดวงจันทร์ได้สำเร็จและสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ก็ตาม…
นั่นก็คงจะขึ้นอยู่กับนักบินอวกาศ…
“สกายโกลว์ จากศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน กรุณารายงานสถานะด้วย”
หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงของนักบินผู้ช่วย
“… จากสกายโกลว์ เราอยู่ที่ความสูง 5 กิโลเมตร ความเร็ว 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 1.25 G เซนเซอร์วัดอุณหภูมิเหมาะสม ทุกอย่างปกติ”
“ดี โปรดอย่าพลาดการติดต่อ ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินจะคอยให้ข้อมูลการนำทาง”
“รับทราบครับ”
สกายโกลว์หายลับไปจากสายตา
ผู้อำนวยการหลี่มองเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินในจุดปล่อยยานที่กำลังเก็บกวาดรันเวย์และย้ายอุปกรณ์ออกไป ทันใดนั้นเขาก็พูดกับลู่โจวว่า
“ถ้ามันใช้เวลาสองชั่วโมงในการขึ้นสู่วงโคจรต่ำของโลก แล้วต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะไปถึงดวงจันทร์”
แม้ว่าเวลาถึงที่คาดการณ์ไว้จะบันทึกอยู่ในแผนการปล่อยยาน แล้วแผนการปล่อยยานก็ถูกส่งไปที่องค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยตรง และกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรก็ไม่ได้รับผิดชอบในเรื่องของรายละเอียดโปรเจกต์โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม สตาร์สกายเทคโนโลยีก็ได้ส่งสำเนาไปยังกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรแล้ว แต่ผู้อำนวยการหลี่ต้องรีบมาที่จินหลิงโดยด่วน เขาจึงยังไม่มีโอกาสได้อ่านมัน
ลู่โจวจ้องที่จุดสีเขียวบนเรดาร์ เขายิ้มแล้วตอบว่า “ประมาณ 56 ชั่วโมงครับ”
“แค่ 56 ชั่วโมงเหรอ?” ผู้อำนวยการหลี่มองลู่โจวด้วยสีหน้าตกตะลึง แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า “ถ้าผมจำไม่ผิด จรวดแซเทิร์น 5 ของอเมริกาใช้เวลามากกว่า 70 ชั่วโมงใช่ไหม?”
“ถ้าระยะทางยาวขึ้น เราก็สามารถจะเร่งความเร็วให้เร็วขึ้นได้” ลู่โจวยิ้มแล้วพูดว่า “การปล่อยยานเสร็จสิ้นแล้ว ผมจะไปงีบสักหน่อย และคุณก็ควรจะพักได้แล้ว ยานอวกาศอยู่บนท้องฟ้าแล้ว ดังนั้นไม่มีทางที่ผมจะบินตามไปได้หรอก”
ก่อนที่ผู้อำนวยการหลี่จะได้ตอบ ลู่โจวก็ถอดหูฟังของเขาออกและส่งให้โฮ่วกวง
“ตอนนี้เป็นหน้าที่ของคุณแล้ว”
โฮ่วกวงรับหูฟังมาจากลู่โจวแล้วพยักหน้าอย่างจริงจัง
“รับทราบครับ”
…
บนท้องฟ้า
สกายโกลว์ได้ขึ้นไปถึงระดับความสูง 20 กิโลเมตรแล้ว นักบินเปลี่ยนโหมดเครื่องยนต์อย่างช้าๆ และยานอวกาศก็เริ่มบินไปยังนอกโลกด้วยเส้นสัมผัสวงโคจรไปยังโลก
หลิวเจิ้งเหวินสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของจุดศูนย์ถ่วง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วแตะที่หมวกนิรภัย ซึ่งทำให้เขาสามารถเข้าถึงช่องการติดต่อของลูกเรือได้
“… นี่เราออกจากชั้นบรรยากาศรึยัง?”
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงของเนี้ยเหยียนก็ดังขึ้นผ่านช่องการสื่อสารนั้น
“ยังหรอก ถ้าคุณกังวล คุณจะนอนพักสักนิดก็ได้นะ”
“… ผมเพิ่งจะตื่นขึ้นมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงเอง ตอนนี้ผมคงหลับอีกรอบไม่ได้”
มันไม่ใช่ว่าฉันจะสามารถนอนหลับในสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้สักหน่อย!
เนี้ยเหยียนยิ้มแล้วพูดว่า “เลิกทำตัวเหมือนเด็กผู้หญิงเล็กๆ เถอะ คุณโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วนะ ศาสตราจารย์ลู่ก็เป็นนักวิจัยเหมือนกัน แต่เขาก็ไม่ได้กลัวอะไรเลยตอนที่เขาแอบขึ้นมาที่นี่”
นักวิชาการจีนหนุ่มสาวส่วนใหญ่มองว่าลู่โจวเป็นเหมือนแบบอย่างหรือแม้กระทั่งไอดอล
หลังจากจำได้ว่าลู่โจวก็เคยบินไปกับยานอวกาศลำนี้แล้วเหมือนกัน หลิวเจิ้งเหวินก็ได้สงบลง
“แล้วศาสตราจารย์ลู่เป็นยังไงตอนที่เขามาอยู่บนนี้?”
เนี้ยหยุนเปลี่ยนให้สกายโกลว์อยู่ในโหมดบินอัตโนมัติแล้ว เขายิ้มแล้วตอบว่า “เขาน่ะเหรอ? เขาเป็นคนเพี้ยน แม้แต่พวกเราที่เป็นนักบินอวกาศมืออาชีพยังกังวลเล็กน้อย แต่เขาไม่มีความกังวลเลย เขายังถ่ายรูปเซลฟี่ในอวกาศด้วย”
หลิวเจิ้งเหวิน “…”
ฉันคิดว่าจริงๆ แล้วลู่โจวเป็นเทพ
นอกจากต้องการจะโพสต์ว่า ‘ท่านเทพลู่เป็นคนเพี้ยน’ บนเว่ยป๋อของเขาแล้ว เขายังไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
เนี้ยหยุนสังเกตว่าหลิวเจิ้งเหวินยังคงเงียบ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าหลิวเจิ้งเหวินยังคงกลัวอยู่ เขาพยายามที่จะให้กำลังใจหลิวเจิ้งเหวิน
“อันที่จริง คุณควรจะผ่อนคลายสักนิดแล้วคิดแต่เรื่องในแง่ดี เมื่อเรากลับมาจากดวงจันทร์ เราจะกลายเป็นวีรบุรุษ และนั่นจะเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจสำหรับชีวิตที่เหลือของคุณเลยนะ”
หลิวเจิ้งเหวินเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “แล้วถ้าเราไม่ได้กลับไปล่ะ?”
เนี้ยหยุนยิ้ม
“เราก็จะยังคงเป็นวีรบุรุษ”
……………………………………
Comments
Scholar’s Advanced Technological System 721 รวมโต๊ะ? / 722 ซี
ตอนที่ 721 รวมโต๊ะ?
มันเป็นเวลากลางคืน
จุดปล่อยยานอวกาศยังคงสว่างไสว
คนส่วนใหญ่เริ่มวางแผนวันหยุดของตัวเองและตั้งตารอปีใหม่ อย่างไรก็ดี ที่นี่กลับไม่มีบรรยากาศของเทศกาลเลยแม้แต่นิดเดียว
เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินยุ่งอยู่กับการเดินอยู่รอบๆ รันเวย์ที่ปล่อยยาน พวกเขากำลังทำการตรวจสอบจุดปล่อยยานและฮาร์ดแวร์ของสกายโกลว์เป็นครั้งสุดท้าย
แผนการปล่อยเสร็จสมบูรณ์แล้วและมีกำหนดการปล่อยในเวลาเที่ยงคืน
จากข้อมูลการสังเกตสภาพอากาศโดยกรมอุตุนิยมวิทยา เวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับภารกิจการปล่อยยาน
นักบินอวกาศและเจ้าหน้าที่ของจุดปล่อยยานต่างกำลังทำหน้าที่ของพวกเขา
ภายในห้องพักนักบินอวกาศ
บรรยากาศเงียบสนิท
จะมีการปล่อยยานในอีกสามชั่วโมง และพวกเขาจะต้องขึ้นยานอวกาศในอีกหนึ่งชั่วโมง
เนี้ยหยุนถอนหายใจและทำลายความเงียบ
“เธอพร้อมไหม?”
เนี้ยเหยียนยิ้มเยาะแล้วชนหมัดเข้าที่อก
“ฉันพร้อมตั้งแต่เกิดแล้ว”
เนี้ยหยุนติดเชื้อความกระตือรือร้นของเธอเข้าให้แล้ว และเขาก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มนั้นก็คงอยู่ได้แค่ไม่กี่วินาที
หลังจากที่เงียบอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า
“…เธอควรจะคิดเรื่องนี้ให้จริงจังนะ นี่มันต่างจากภารกิจการปล่อยยานรอบที่แล้ว เราไม่รู้เลยว่ามีอะไรรอเราอยู่บนดวงจันทร์”
เนี้ยเหยียนยิ้มแล้วพูดติดตลกว่า “การคิดเรื่องนี้มันมีประโยชน์ยังไง? มันไม่ใช่ว่าเราจะสามารถหานักบินอวกาศมาบินแทนเราได้สักหน่อย”
เนี้ยหยุนพูดว่า “เรามีนักบินอวกาศสำรอง”
เนี้ยเหยียนพูดอย่างไม่ลังเลว่า “อย่าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้”
เนี้ยหยุนรู้ว่าน้องสาวของเขาเป็นคนนิสัยยังไง ดังนั้นเขาจึงไม่พยายามจะเกลี้ยกล่อมเธอ
จริงๆ แล้ว เพราะพวกเขาเป็นพี่น้องกัน พวกเขาจึงไม่สามารถจะขับยานอวกาศไปด้วยกันได้ ฉะนั้น เนี้ยหยุนจึงถูกเลือกให้เป็นนักบินเพียงคนเดียวสำหรับเที่ยวบินนี้
อย่างไรก็ตาม เนี้ยเหยียนก็ได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาให้เธอได้บินไปด้วยเช่นกัน ด้วยความสามารถอันโดดเด่นของเธอในกองทัพ ผู้บังคับบัญชาจึงอนุมัติคำขอของเธอ
เนี้ยหยุนไม่คิดว่านี่จะเป็นความคิดที่ดี
เพราะถ้าหากเกิดอะไรขึ้น พ่อแม่ของพวกเขาคงจะใจสลายที่ต้องสูญเสียลูกทั้งสองคนไป
นอกจากพี่น้องคู่นี้แล้ว ยังมีคนอื่นร่วมบินไปด้วย
เขาแตกต่างจากนักบินอวกาศทั้งสองคน เขาไม่ใช่อดีตนักบินของกองทัพ เขาเป็นนักวิจัยจากสถาบันธรณีเคมีที่สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนและเคยทำงานอยู่ที่สถาบันวิจัยดวงจันทร์และดวงดาวแห่งประเทศจีน โดยทำงานด้านการวิจัยและสำรวจดวงดาว เขาผ่านการสัมภาษณ์และทดสอบหลายรอบก่อนที่สุดท้ายเขาจะได้รับเลือกให้เข้าร่วมโปรเจกต์ส่งคนไปดวงจันทร์
ก่อนหน้านี้เขาได้รับการฝึกอบรมแบบมืออาชีพเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น เขาไม่ทราบเลยว่านี่เป็นเรื่องจริงจังแค่ไหนจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้ขอให้เขาเขียนพินัยกรรม…
เนี้ยเหยียนสังเกตว่ามือของเขากำลังหยุกหยิก เธอจึงถามขึ้นว่า “เฮ้ คุณชื่ออะไร?”
ชายคนนั้นสะดุ้งตกใจเพราะเสียงของเธอ แล้วเขาก็ตอบอย่างตะกุกตะกักว่า “หลิว…หลิวเจิ้งเหวิน”
“กังวลเหรอ?”
“ใช่… ประมาณนั้น”
หลิวเจิ้งเหวินฝืนยิ้มออกมา เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วมองที่กำปั้นของตัวเอง สักพักเขาก็พูดขึ้นว่า “ผมคิดว่าผมเตรียมใจมาแล้ว แต่ตอนนี้… ผมกำลังกลัวตาย”
เนี้ยหยุนพูดว่า “ทุกคนกลัวตายทั้งนั้น ไม่มีอะไรจะต้องอายหรอกครับ”
“คุณก็กลัวเหมือนกันเหรอ?”
เนี้ยหยุนพยักหน้า แล้วก็ส่ายหัว
“การรู้สึกกลัวกับเกรงกลัวเป็นสองสิ่งที่ต่างกัน”
ทันใดนั้นเสียงกริ่งก็ดังขึ้นในห้องพักนักบินอวกาศ
มันเป็นเวลาที่พวกเขาจะต้องตรงไปที่ห้องล็อกเกอร์แล้วสวมชุดอวกาศโดยมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยใส่
เนี้ยหยุนยืนขึ้นแล้วเดินอย่างเงียบๆ ไปข้างๆ หลิวเจิ้งเหวิน เขาเอื้อมมือออกไปแล้วตบบ่าหลิวเจิ้งเหวิน
“ผ่อนคลายเถอะ มีผู้คนอีกหลายล้านคนคอยภาวนาให้พวกเรา”
“พวกเราทำได้”
…
จุดปล่อยยานเต็มไปด้วยเหล่าทหารจากกองทัพ มีการตั้งแบริเออร์ตรงบริเวณใกล้กับทางหลวงเพื่อห้ามไม่ให้ยานพาหนะและบุคคลอื่นทั้งหมดเข้ามาในพื้นที่ บางคนกำลังถ่ายภาพอยู่ในบริเวณใกล้เคียงและพวกเขาก็ถูกตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารตักเตือนและนำตัวออกไป
จุดปล่อยยานดูเหมือนป้อมปราการที่แม้แต่แมลงสาบก็ไม่สามารถจะแอบเข้าไปได้
ภายในจุดปล่อยยาน
รถตู้ของ CTV จอดอยู่ในจุดปล่อยยาน CTV ได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำ
กล้องจับอยู่ที่นักบินสามคนซึ่งกำลังเดินตรงไปยังยานอวกาศ ผู้สื่อข่าวหญิงที่กำลังตื่นเต้น พูดด้วยเสียงอันดังผ่านไมโครโฟนว่า
“…บนรันเวย์ที่ด้านหลังของดิฉันคือนักบินอวกาศ 3 คนที่กำลังจะขึ้นยานสกายโกลว์ค่ะ อีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง การบินครั้งที่สองของสกายโกลว์ก็จะเริ่มขึ้น จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่จุดปล่อยยานจินหลิง ยานอวกาศจะเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ แล้วรอยเท้าของนักบินอวกาศของเราก็จะอยู่บนดวงจันทร์! พวกเขาจะอวยพรสุขสันต์วันตรุษจีนให้พวกเราจากดวงจันทร์ค่ะ!”
ผู้สื่อข่าวหญิงสูดลมหายใจเข้าลึก
ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ภาพที่บันทึกด้วยกล้องนี้จะได้ไปออกอากาศทางช่องข่าวในวันพรุ่งนี้
แต่ถ้ามีอะไรผิดปกติ…
เธอก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือภาวนา
บนรันเวย์ชานชาลาสูงสำหรับขึ้นยานค่อยๆ เชื่อมต่อกับทางเข้ายานอวกาศ
ลู่โจวยืนอยู่บนชานชาลาสำหรับขึ้นยานและมองดูนักบินอวกาศสามคนขึ้นสู่ยาน เขายิ้มแล้วโบกมือให้พวกเขา
ผู้อำนวยการหลี่ยืนอยู่ข้างหลังลู่โจวโดยมีสีหน้าที่เคร่งขรึม แม้ว่าชานชาลาสำหรับขึ้นยานจะไม่ได้เชื่อมต่อกับยานอวกาศ เขาก็ยังคงจับตามองลู่โจว
ผู้อำนวยการหลี่เป็นคนที่รักษาคำพูดของเขาอย่างแท้จริง เขาคอยติดตามลู่โจวมาตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว กระทั่งถึงตอนเข้าห้องน้ำ
อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เข้าไปในห้องน้ำกับลู่โจว…
ลู่โจวมองใบหน้าที่กังวลของเขาแล้วถอนหายใจออกมา
“… ผมคิดถึงเรื่องนั้น”
ผู้อำนวยการหลี่พูดว่า “คิดถึงเรื่องอะไร?”
ลู่โจวตอบอย่างกระอักกระอ่วนว่า “ยานลงดวงจันทร์สามารถรับคนได้เพียงแค่สองคน ดังนั้นอีกหนึ่งก็จะต้องอยู่บนยานอวกาศคนเดียว”
“…แล้วไง?”
“มันค่อนข้างจะน่าเบื่อสำหรับพวกเขาที่จะต้องที่นั่นคนเดียว เราควรจะบินไปกับพวกเขา แล้วเราจะได้เล่นไพ่กับพวกเขาได้”
ดวงตาของผู้อำนวยการหลี่แทบจะหลุดออกมาจากเบ้าตา ลู่โจวเริ่มที่จะกังวลเรื่องความดันโลหิตของผู้อำนวยการหลี่
“ผมล้อเล่น… ไปเถอะ… เรากลับไปกันที่ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินดีกว่า โชว์กำลังจะเริ่มแล้ว”
ก่อนที่ผู้อำนวยการหลี่จะตอบ ลู่โจวก็ลากเขาไปที่ศูนย์บัญชาการแล้ว
……………………………
ตอนที่ 722 ซี
ประตูของยานอวกาศปิด
เนี้ยหยุนนั่งลงบนที่นั่งของนักบิน
หลังจากเนี้ยหยุนติดระบบความปลอดภัยทางชีวภาพและคาดเข็มขัดที่ชุดอวกาศของเขาแล้ว เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วค่อยๆ ปรับจุดศูนย์ถ่วงบนพนักที่นั่ง
นาฬิกาดิจิทัลส่งเสียงติ๊กๆ เบาๆ
“ใกล้ถึงเวลาแล้ว”
“ใช่”
เนี้ยหยุนชนกำปั้นกับเนี้ยเหยียน แล้วเขาก็มองไปที่แผงคอนโซลควบคุม เขาได้ยินใครบางคนพูดว่า “ทุกหน่วยพร้อม” ในหูฟังของเขา เขาเปิดล็อกนิรภัยสำหรับเครื่องฟิวชั่นเสียงก่อนจะบิดปุ่มอิกนิชั่น
ในช่วงเวลาที่ปุ่มถูกเปิด พลังงานมหาศาลก็ออกมาจากแกนนิวเคลียร์ มันดูเหมือนว่ายานอวกาศทั้งลำเป็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ยักษ์ที่ตื่นขึ้นมา
หลิวเจิ้งเหวิน ผู้ซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งผู้โดยสาร รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนที่เท้า เขากลืนน้ำลายแล้วถามอย่างประหม่าว่า “เรากำลังจะจุดเชื้อเพลิงแล้วใช่ไหม?”
ช่องการสื่อสารไม่ได้เปิดอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีใครได้ยินสิ่งที่เขาพูด
เนี้ยหยุนจ้องอยู่ที่หน้าปัดพลังงานที่กำลังเพิ่มขึ้น แล้วเขาก็เอื้อมมือไปแตะที่หูฟังเบาๆ เขาพูดด้วยเสียงที่ชัดเจนว่า
“นี่คือสกายโกลว์ ฟิวชั่นอิกนิชั่นเสร็จสมบูรณ์ เราพร้อมที่จะบินแล้ว ขอการอนุมัติ”
ไม่นานศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินก็ตอบกลับมาว่า
“คำขอได้รับอนุมัติ เริ่มปล่อยยานในหนึ่งนาที”
“รับทราบครับ”
มือทั้งสองข้างของเนี้ยหยุนจับคันบังคับทิศทางแน่น เขาหลับตาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก นิ้วโป้งของเขากดที่ปุ่ม ซึ่งเป็นปุ่มเปิดตัวขับดันเครื่องยนต์
วินาทีที่เขาลืมตา เขาก็ได้ยินเสียงนับถอยหลังในหู…
“5
“4
“3
“2
“1
“0
“ไปได้!”
ครั้งก่อนลู่โจวให้โฮ่วกวงนับถอยหลัง แต่ครั้งนี้ลู่โจวเป็นคนนับถอยหลังเอง
เครื่องขับดันพลังไอออนขนาดมหึมา 5 เครื่องที่ติดอยู่กับยานอวกาศเริ่มติดไฟ ปล่อยสสารสีฟ้าที่เหมือนเปลวเพลิงไว้ด้านหลัง ยานอวกาศถูกผลักไปข้างหน้าอย่างช้าๆ บนรันเวย์
ในช่วงเวลาที่แสงสีฟ้าปะทุออกมาจากเครื่องขับดัน เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินที่อยู่ใกล้รันเวย์ ทหารจากกองทัพ และวิศวกรทั้งหมดถูกย้ายออกไปเรียบร้อย
ภาพวิวอันน่ามหัศจรรย์นี้จะไม่มีวันเก่าเลย
ผู้อำนวยการหลี่ยืนอยู่ข้างลู่โจวขณะที่เขาจ้องอยู่ที่จอขนาดใหญ่ในศูนย์บัญชาการ
ผ่านไปสักพัก เขาก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า
“ในที่สุดผมก็รู้ว่าทำไมคุณถึงอยากขึ้นไปบนนั้น”
ลู่โจวยิ้มแล้วถามว่า “ไปบินด้วยกันสักครั้งไหมล่ะครับ?”
ผู้อำนวยการหลี่ตอบอย่างไม่ลังเลว่า “อย่าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้!”
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ยานอวกาศบนรันเวย์ก็เคลื่อนตัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุด ยานอวกาศสีเงินก็บินขึ้นจากพื้นอย่างช้าๆ แล้วหายไปที่เส้นขอบฟ้า แสงสีฟ้าส่องสว่างเจิดจ้าในความมืด เหมือนกับแสงออโรรา
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินมองดูยานอวกาศที่หายไปในราตรี พวกเขาก็เปล่งเสียงยินดีออกมาอย่างตื่นเต้น ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินและอวกาศในหอบังคับการภาคพื้นดินถึงกับหลั่งน้ำตา
แม้ว่าการเดินทางไปดวงจันทร์เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น แต่การปล่อยยานที่ประสบความสำเร็จครั้งนี้จะเป็นที่จดจำไว้ในประวัติศาสตร์
ไม่ว่าพวกเขาจะสามารถลงจอดบนดวงจันทร์ได้สำเร็จและสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ก็ตาม…
นั่นก็คงจะขึ้นอยู่กับนักบินอวกาศ…
“สกายโกลว์ จากศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน กรุณารายงานสถานะด้วย”
หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงของนักบินผู้ช่วย
“… จากสกายโกลว์ เราอยู่ที่ความสูง 5 กิโลเมตร ความเร็ว 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 1.25 G เซนเซอร์วัดอุณหภูมิเหมาะสม ทุกอย่างปกติ”
“ดี โปรดอย่าพลาดการติดต่อ ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินจะคอยให้ข้อมูลการนำทาง”
“รับทราบครับ”
สกายโกลว์หายลับไปจากสายตา
ผู้อำนวยการหลี่มองเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินในจุดปล่อยยานที่กำลังเก็บกวาดรันเวย์และย้ายอุปกรณ์ออกไป ทันใดนั้นเขาก็พูดกับลู่โจวว่า
“ถ้ามันใช้เวลาสองชั่วโมงในการขึ้นสู่วงโคจรต่ำของโลก แล้วต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะไปถึงดวงจันทร์”
แม้ว่าเวลาถึงที่คาดการณ์ไว้จะบันทึกอยู่ในแผนการปล่อยยาน แล้วแผนการปล่อยยานก็ถูกส่งไปที่องค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยตรง และกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรก็ไม่ได้รับผิดชอบในเรื่องของรายละเอียดโปรเจกต์โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม สตาร์สกายเทคโนโลยีก็ได้ส่งสำเนาไปยังกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรแล้ว แต่ผู้อำนวยการหลี่ต้องรีบมาที่จินหลิงโดยด่วน เขาจึงยังไม่มีโอกาสได้อ่านมัน
ลู่โจวจ้องที่จุดสีเขียวบนเรดาร์ เขายิ้มแล้วตอบว่า “ประมาณ 56 ชั่วโมงครับ”
“แค่ 56 ชั่วโมงเหรอ?” ผู้อำนวยการหลี่มองลู่โจวด้วยสีหน้าตกตะลึง แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า “ถ้าผมจำไม่ผิด จรวดแซเทิร์น 5 ของอเมริกาใช้เวลามากกว่า 70 ชั่วโมงใช่ไหม?”
“ถ้าระยะทางยาวขึ้น เราก็สามารถจะเร่งความเร็วให้เร็วขึ้นได้” ลู่โจวยิ้มแล้วพูดว่า “การปล่อยยานเสร็จสิ้นแล้ว ผมจะไปงีบสักหน่อย และคุณก็ควรจะพักได้แล้ว ยานอวกาศอยู่บนท้องฟ้าแล้ว ดังนั้นไม่มีทางที่ผมจะบินตามไปได้หรอก”
ก่อนที่ผู้อำนวยการหลี่จะได้ตอบ ลู่โจวก็ถอดหูฟังของเขาออกและส่งให้โฮ่วกวง
“ตอนนี้เป็นหน้าที่ของคุณแล้ว”
โฮ่วกวงรับหูฟังมาจากลู่โจวแล้วพยักหน้าอย่างจริงจัง
“รับทราบครับ”
…
บนท้องฟ้า
สกายโกลว์ได้ขึ้นไปถึงระดับความสูง 20 กิโลเมตรแล้ว นักบินเปลี่ยนโหมดเครื่องยนต์อย่างช้าๆ และยานอวกาศก็เริ่มบินไปยังนอกโลกด้วยเส้นสัมผัสวงโคจรไปยังโลก
หลิวเจิ้งเหวินสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของจุดศูนย์ถ่วง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วแตะที่หมวกนิรภัย ซึ่งทำให้เขาสามารถเข้าถึงช่องการติดต่อของลูกเรือได้
“… นี่เราออกจากชั้นบรรยากาศรึยัง?”
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงของเนี้ยเหยียนก็ดังขึ้นผ่านช่องการสื่อสารนั้น
“ยังหรอก ถ้าคุณกังวล คุณจะนอนพักสักนิดก็ได้นะ”
“… ผมเพิ่งจะตื่นขึ้นมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงเอง ตอนนี้ผมคงหลับอีกรอบไม่ได้”
มันไม่ใช่ว่าฉันจะสามารถนอนหลับในสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้สักหน่อย!
เนี้ยเหยียนยิ้มแล้วพูดว่า “เลิกทำตัวเหมือนเด็กผู้หญิงเล็กๆ เถอะ คุณโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วนะ ศาสตราจารย์ลู่ก็เป็นนักวิจัยเหมือนกัน แต่เขาก็ไม่ได้กลัวอะไรเลยตอนที่เขาแอบขึ้นมาที่นี่”
นักวิชาการจีนหนุ่มสาวส่วนใหญ่มองว่าลู่โจวเป็นเหมือนแบบอย่างหรือแม้กระทั่งไอดอล
หลังจากจำได้ว่าลู่โจวก็เคยบินไปกับยานอวกาศลำนี้แล้วเหมือนกัน หลิวเจิ้งเหวินก็ได้สงบลง
“แล้วศาสตราจารย์ลู่เป็นยังไงตอนที่เขามาอยู่บนนี้?”
เนี้ยหยุนเปลี่ยนให้สกายโกลว์อยู่ในโหมดบินอัตโนมัติแล้ว เขายิ้มแล้วตอบว่า “เขาน่ะเหรอ? เขาเป็นคนเพี้ยน แม้แต่พวกเราที่เป็นนักบินอวกาศมืออาชีพยังกังวลเล็กน้อย แต่เขาไม่มีความกังวลเลย เขายังถ่ายรูปเซลฟี่ในอวกาศด้วย”
หลิวเจิ้งเหวิน “…”
ฉันคิดว่าจริงๆ แล้วลู่โจวเป็นเทพ
นอกจากต้องการจะโพสต์ว่า ‘ท่านเทพลู่เป็นคนเพี้ยน’ บนเว่ยป๋อของเขาแล้ว เขายังไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
เนี้ยหยุนสังเกตว่าหลิวเจิ้งเหวินยังคงเงียบ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าหลิวเจิ้งเหวินยังคงกลัวอยู่ เขาพยายามที่จะให้กำลังใจหลิวเจิ้งเหวิน
“อันที่จริง คุณควรจะผ่อนคลายสักนิดแล้วคิดแต่เรื่องในแง่ดี เมื่อเรากลับมาจากดวงจันทร์ เราจะกลายเป็นวีรบุรุษ และนั่นจะเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจสำหรับชีวิตที่เหลือของคุณเลยนะ”
หลิวเจิ้งเหวินเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “แล้วถ้าเราไม่ได้กลับไปล่ะ?”
เนี้ยหยุนยิ้ม
“เราก็จะยังคงเป็นวีรบุรุษ”
……………………………………
Comments