Scholar’s Advanced Technological System 773 สไตล์ของตัวเอง

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 773 สไตล์ของตัวเอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มีเวลาไม่ถึงสองเดือนจนกว่าจะถึงเดือนมิถุนายน

ผู้สมัครการคัดเลือกนักวิชาการทุกคนได้ส่งบทความยาว 3,000 คำ เรียบร้อยแล้ว พวกนั้นรอให้การประเมินรอบแรกให้เริ่มอย่างเงียบๆ

แน่นอนว่ามันเป็นช่วงฟ้านิ่งก่อนพายุเข้า

ถึงการประเมินผลรอบแรกไม่ใช่การนองเลือดทั้งหมด กลยุทธ์การวิ่งเต้นทั้งหลายได้เริ่มแล้ว

หลายคนสนุกกับการแข่งขัน หลายคนไม่ได้สนใจ บางคนถึงกับไปการประชุมวิชาการที่ต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงความบ้าคลั่ง

โรงพยาบาลทั่วไป PLA สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ ห้องแล็บเภสัชภัณฑ์การแช่แข็ง

นักวิจัยอ่อนหัดสองคนยืนอยู่หน้าเครื่องอบความร้อน แล้วทำการทดลอง ‘อย่างมีความสุข’

เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่น โรงพยาบาลทั่วไป PLA อาจฟังดูทรงเกียรติ และมันมีอันดับค่อนข้างสูงในแวดวงอุตสาหกรรม แต่ว่ามันยังมีอันดับที่ต่ำกว่ามหาวิทยาลัยระดับต้น

เหตุผลนั้นก็ชัดเจน มันเหมือนกับที่มหาวิทยาลัยที่มีนักวิชาการมากกว่าไม่สามารถเอาชนะหน่วยงาน อย่าง มหาวิทยาลัยเหยียน และออโรร่า

ยิ่งมีบุคลากรเชี่ยวชาญที่หลากหลายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีการแข่งขันมากขึ้นเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญทุกคนมาจากที่ที่แตกต่างกัน

เมื่อเทียบกับการจ้างคนจากสถาบันอื่น พวกนั้นมักจะฝึกคนของตัวเองมากกว่า

สิ่งนี้เป็นเรื่องจริงทั้งในแวดวงวิชาการและสถาบันภาครัฐที่มีความวิชาการอยู่บ้าง

ในทางตรงกันข้าม นักวิจัยอ่อนหัดที่ห้องแล็บเภสัชภัณฑ์การแช่แข็งค่อนข้างมีความสุข

ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี อาจารย์ของพวกเขา ผู้อำนวยการหลิวสามารถเป็นนักวิชาการได้ในปีนี้

การคัดเลือกนักวิชาการมีมากกว่าการพึ่งดวงและโชคชะตา ผู้อำนวยการหลิวทราบเรื่องนี้ดี นั่นเป็นสาเหตุที่เขายังไม่ได้ส่งบทความส่วนตัว 3,000 คำ

ท้ายที่สุดแล้ว การโน้มน้าวให้คนอื่นโหวตให้เขาหมายความว่าเขาต้องติดหนี้ในอนาคต

นอกจากนี้ เขาก็แพ้ไปแล้วสองครั้ง

หลังจากการคัดเลือกที่ไม่สำเร็จสามครั้งติดกัน คุณสมบัติของการคัดเลือกผู้สมัครก็จะถูกระงับ บทความของผู้สมัครที่เคยส่งไปทุกชิ้นไม่สามารถถูกใช้ซ้ำได้ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเป็นนักวิชาการหลังจากที่คัดเลือกไม่สำเร็จสามครั้ง

แม้แต่คนเบอร์ใหญ่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

เพราะเหตุนี้ นักวิชาการอ่อนหัดพวกนี้ไม่ได้ช่วยให้ผู้อำนวยการหลิวได้ติดต่อกับคณะกรรมการนักวิชาการ

ซงสี่หยวนพูดขึ้น “การคัดเลือกนักวิชาการปีนี้น่าสนใจ”

จัวรุ่ยไฉถาม “ทำไมล่ะ”

ซงสี่หยวนพูดตอบ “คุณได้อ่านการคัดเลือกรอบแรกที่ประกาศโดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนไหม?”

จัวรุ่ยไฉพูดตอบ “เห็นแล้ว มีอะไรแปลกไปเหรอ?”

“ช่วงปีก่อนหน้า การคัดเลือกนักวิชาการเป็นการแข่งขันของคนสูงวัย อายุเฉลี่ยของผู้สมัครนักวิชาการมากกว่า 70 ปี”

ถึงแม้ว่ามหาวิทยาลัยจินหลิงมีนักวิชาการมากเป็นอันดับที่สามในประเทศ มันมีปัญหาเรื่องชราภาพที่ร้ายแรง มันนานมาแล้วที่มหาวิทยาลัยจินหลิงได้มีนักวิชาการใหม่

แต่เทรนด์ปีนี้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ นักวิชาการอายุน้อยหลายคนจากมหาวิทยาลัยจินหลิงปรากฏขึ้นที่รายชื่อผู้ผ่านรอบแรก

จัวรุ่ยไฉพูดต่อ “สิ่งที่น่าเซอร์ไพรส์คือ มหาวิทยาลัยจินหลิงมีศาสตราจารย์ลู่ แน่นอนว่าปีนี้จะต่างออกไป! ลืมมหาวิทยาลัยจินหลิงไปเลย มหาวิทยาลัยไหนที่มีศาสตราจารย์ลู่ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก”

ซงสี่หยวนพูดตอบ “นั่นไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด”

จัวรุ่ยไฉถามต่อ “มีเหตุผลอื่นอะไรอีก?”

ซงสี่หยวนพยักหน้าและพูดว่า “ถึงศาสตราจารย์ลู่โจวมาจากมหาวิทยาลัยจินหลิง คิดว่าทางมหาวิทยาลัยจะเก็บเขาไว้ได้เหรอ? เหตุผลที่มหาวิทยาลัยจินหลิงแข็งแกร่งแบบนี้ก็เพราะความปรารถนาดีของลู่โจว”

จัวรุ่ยไฉรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาเลยถามว่า “งั้นคุณคิดว่าเขามาจากภาคไหนล่ะ?”

จัวรุ่ยไฉเป็นมือใหม่ในด้านวิชาการ เขาเลยไม่ทราบเรื่องซุบซิบวงในของชุมชนวิชาการ

ซงสี่หยวนมองดูเขาและพูดว่า “ดูที่การคัดเลือกนักวิชาการสิ”

จัวรุ่ยไฉลังเลอยู่สักพักและส่ายหน้า

“ผมไม่รู้ เขาเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงใช่ไหม?”

สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงได้รับความนิยมภายใต้การนำโดยลู่โจว และทางสถาบันได้มีความสำเร็จที่โดดเด่นและเผยแพร่บทความคุณภาพสูงหลายชิ้น

ไม่เพียงแค่นั้น แต่จากบรรยากาศวิชาการที่ผ่อนคลาย นักวิชาการจีนหลายคนจึงมีเป้าหมายที่จะกลับไปจีนและทำงานที่สถาบันนี้

ถึงอย่างนั้นก็ตามสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงก็เทียบกับมหาวิทยาลัยระดับท็อปไม่ได้

ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เพิ่งก่อตั้งมาไม่นาน

ซงสี่หยวนมองดูเพื่อนร่วมงานที่สับสนและพูดอย่างช้าๆ

“เขาอยู่ในลีกของตัวเอง”

นักวิชาการอ่อนหัดอีกคนที่นั่งอยู่ข้างพวกเขามีสีหน้าตกใจ

เขาอยู่ในลีกของตัวเอง…

เขาน่าจะเป็นคนเดียวที่อยู่ในลีกของตัวเอง

จัวรุ่ยไฉดูเซอร์ไพรส์เช่นกัน

“ถ้าหัวหน้าเราหลุดโลกได้ขนาดนี้นะ”

“คุณกำลังพูดถึงผู้อำนวยการหลิว?” ซงสี่หยวนยิ้มเยือกเย็นและพูดว่า “ช่างมันเถอะ เราอยู่ในสาขาที่ไม่มีชื่อ มันเป็นปาฏิหาริย์ที่หัวหน้าเราอยู่ในโครงการนักวิชาการฉางเจียง!”

ถึงซงสี่หยวนไม่อยากจะยอมรับ หัวหน้าของเราหลิวจัวปิงนั้นเป็นนักวิชาการที่โดดเด่น แต่หลิวจัวปิงก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่สูงขนาดนั้น

โครงการนักวิชาการฉางเจียงอาจจะเป็นเพดานของเขา

ไม่มีอะไรให้เศร้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ โครงการนักวิชาการฉางเจียงเป็นความสำเร็จที่มหัศจรรย์ มีหลายคนพยายามทั้งชีวิตเพื่อเข้าโครงการนี้

ประตูถูกเปิดออกกะทันหันอีกครั้ง

นักวิชาการอ่อนหัดสองคนหยุดพูดคุยทันที

หลิวจัวปิงเดินเข้าห้องแล็บและตรงไปที่ตู้แช่เย็นเครื่องอบ เขามองดูเซลล์เนมาโทดและมองดูลูกศิษย์ของตัวเอง

“สภาพของแซมเปิ้ลเป็นอย่างไรบ้าง?”

ซงสี่หยวนตอบกับตะกุกตะกัก “มัน…มันยังมีชีวิต”

เขาเพิ่งพบว่าประโยคของเขาไร้ประโยชน์แค่ไหน

แต่หัวหน้าของเขาดูจะไม่สนใจแซมเปิ้ลเครื่องอบเลย

“ส่งรายงานสังเกตแซมเปิ้ลให้ผมพรุ่งนี้ จากนั้นก็เก็บกระเป๋าของคุณเลย เราจะไปจินหลิงพรุ่งนี้!”

ไปจินหลิง?!

เกิดอะไรขึ้น?

จัวรุ่ยไฉและซงสี่หยวนรู้สึกมึนงง รวมทั้งนักวิจัยอ่อนหัดคนอื่นในห้องแล็บ

ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงสูดหายใจเข้าลึกและพูดอย่างจริงจัง โดยปกปิดความตื่นเต้นของตัวเอง

“เช้านี้ผมได้รับคำเชิญจากศาสตราจารย์ลู่ให้เข้าร่วมโปรเจกต์การแช่แข็งร่วมที่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูง!”

“โปรเจกต์การแช่แข็งมนุษย์?” ซงสี่หยวนถามอย่างประหม่า “แต่ความเห็นคนส่วนใหญ่กับเรื่องนี้…ไม่ดีใช่ไหม?”

จริยธรรมของวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องร้ายแรง

การทำผิดจริยธรรมอาจจะทำให้เสียตำแหน่งวิชาการ!

แต่ว่าศาสตราจารย์หลิวจัวปิงไม่ลังเลเลย

เขาพูดว่า “การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ต้องอาศัยการเสียสละ ผมยินดีที่จะเสียสละเพื่อประเทศ!”

ซงสี่หยวน “…”

จัวรุ่ยไฉ “…”

นักวิชาการอ่อนหัดคนอื่น “…”

เวรเอ๊ย!

ทำไมนี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคุณคลั่งชาติขนาดนี้ได้อย่างไร?

ศาสตราจารย์หลิวพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ผมได้ตอบรับเข้าร่วมโปรเจกต์แช่แข็งมนุษย์ที่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงแล้ว สถาบันสนับสนุนการตัดสินใจของผม และพวกเขาอยากให้ผมไปจินหลิงให้เร็วที่สุด! ผมอยากอุทิศตัวเองให้การแข่งขันอวกาศ!”

ซงสี่หยวนพยักหน้าและพูดตอบ “โอเค”

เอาตามตรง เขารู้สึกงงเล็กน้อย

ไม่ใช่เพราะการแช่แข็งจำศีลมนุษย์ ท้ายที่สุดแล้ว หัวหน้าเขานั้นสนใจเรื่องการแช่แข็งมาตลอด…

เขาไม่คิดว่าหัวหน้าของฉันจะเข้าร่วมโปรเจกต์นี้ในช่วงเวลาที่อ่อนไหวแบบนี้

สำหรับการอุทิศให้การแข่งขันอวกาศ…

มันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ!

ถึงแม้ว่าการแช่แข็งจะมีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการบินและอวกาศ สำหรับนักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์อย่างพวกเขา การแข่งขันอวกาศค่อนข้างไร้ความหมาย

แต่…

ดูเหมือนว่าชายชราตื่นเต้นกว่าตอนที่เขาชนะการคัดเลือกวิชาการเสียอีก?

เกิดอะไรขึ้น…

นักวิชาการอ่อนหัดสองคน พวกเขามองหน้ากันอย่างตกตะลึง

ซงสี่หยวนพูดขึ้น

“โถ่เว้ย เขายังจะสมัครเป็นนักวิชาการอยู่ใช่ไหม?”

จัวรุ่ยไฉกลืนน้ำลาย

ผ่านไปสักพัก เขาตอบกลับว่า “ศาสตราจารย์ลู่เสียสติไปแล้วจริงๆ…”

…………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Scholar’s Advanced Technological System 773 สไตล์ของตัวเอง

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 773 สไตล์ของตัวเอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มีเวลาไม่ถึงสองเดือนจนกว่าจะถึงเดือนมิถุนายน

ผู้สมัครการคัดเลือกนักวิชาการทุกคนได้ส่งบทความยาว 3,000 คำ เรียบร้อยแล้ว พวกนั้นรอให้การประเมินรอบแรกให้เริ่มอย่างเงียบๆ

แน่นอนว่ามันเป็นช่วงฟ้านิ่งก่อนพายุเข้า

ถึงการประเมินผลรอบแรกไม่ใช่การนองเลือดทั้งหมด กลยุทธ์การวิ่งเต้นทั้งหลายได้เริ่มแล้ว

หลายคนสนุกกับการแข่งขัน หลายคนไม่ได้สนใจ บางคนถึงกับไปการประชุมวิชาการที่ต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงความบ้าคลั่ง

โรงพยาบาลทั่วไป PLA สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ ห้องแล็บเภสัชภัณฑ์การแช่แข็ง

นักวิจัยอ่อนหัดสองคนยืนอยู่หน้าเครื่องอบความร้อน แล้วทำการทดลอง ‘อย่างมีความสุข’

เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่น โรงพยาบาลทั่วไป PLA อาจฟังดูทรงเกียรติ และมันมีอันดับค่อนข้างสูงในแวดวงอุตสาหกรรม แต่ว่ามันยังมีอันดับที่ต่ำกว่ามหาวิทยาลัยระดับต้น

เหตุผลนั้นก็ชัดเจน มันเหมือนกับที่มหาวิทยาลัยที่มีนักวิชาการมากกว่าไม่สามารถเอาชนะหน่วยงาน อย่าง มหาวิทยาลัยเหยียน และออโรร่า

ยิ่งมีบุคลากรเชี่ยวชาญที่หลากหลายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีการแข่งขันมากขึ้นเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญทุกคนมาจากที่ที่แตกต่างกัน

เมื่อเทียบกับการจ้างคนจากสถาบันอื่น พวกนั้นมักจะฝึกคนของตัวเองมากกว่า

สิ่งนี้เป็นเรื่องจริงทั้งในแวดวงวิชาการและสถาบันภาครัฐที่มีความวิชาการอยู่บ้าง

ในทางตรงกันข้าม นักวิจัยอ่อนหัดที่ห้องแล็บเภสัชภัณฑ์การแช่แข็งค่อนข้างมีความสุข

ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี อาจารย์ของพวกเขา ผู้อำนวยการหลิวสามารถเป็นนักวิชาการได้ในปีนี้

การคัดเลือกนักวิชาการมีมากกว่าการพึ่งดวงและโชคชะตา ผู้อำนวยการหลิวทราบเรื่องนี้ดี นั่นเป็นสาเหตุที่เขายังไม่ได้ส่งบทความส่วนตัว 3,000 คำ

ท้ายที่สุดแล้ว การโน้มน้าวให้คนอื่นโหวตให้เขาหมายความว่าเขาต้องติดหนี้ในอนาคต

นอกจากนี้ เขาก็แพ้ไปแล้วสองครั้ง

หลังจากการคัดเลือกที่ไม่สำเร็จสามครั้งติดกัน คุณสมบัติของการคัดเลือกผู้สมัครก็จะถูกระงับ บทความของผู้สมัครที่เคยส่งไปทุกชิ้นไม่สามารถถูกใช้ซ้ำได้ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเป็นนักวิชาการหลังจากที่คัดเลือกไม่สำเร็จสามครั้ง

แม้แต่คนเบอร์ใหญ่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

เพราะเหตุนี้ นักวิชาการอ่อนหัดพวกนี้ไม่ได้ช่วยให้ผู้อำนวยการหลิวได้ติดต่อกับคณะกรรมการนักวิชาการ

ซงสี่หยวนพูดขึ้น “การคัดเลือกนักวิชาการปีนี้น่าสนใจ”

จัวรุ่ยไฉถาม “ทำไมล่ะ”

ซงสี่หยวนพูดตอบ “คุณได้อ่านการคัดเลือกรอบแรกที่ประกาศโดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนไหม?”

จัวรุ่ยไฉพูดตอบ “เห็นแล้ว มีอะไรแปลกไปเหรอ?”

“ช่วงปีก่อนหน้า การคัดเลือกนักวิชาการเป็นการแข่งขันของคนสูงวัย อายุเฉลี่ยของผู้สมัครนักวิชาการมากกว่า 70 ปี”

ถึงแม้ว่ามหาวิทยาลัยจินหลิงมีนักวิชาการมากเป็นอันดับที่สามในประเทศ มันมีปัญหาเรื่องชราภาพที่ร้ายแรง มันนานมาแล้วที่มหาวิทยาลัยจินหลิงได้มีนักวิชาการใหม่

แต่เทรนด์ปีนี้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ นักวิชาการอายุน้อยหลายคนจากมหาวิทยาลัยจินหลิงปรากฏขึ้นที่รายชื่อผู้ผ่านรอบแรก

จัวรุ่ยไฉพูดต่อ “สิ่งที่น่าเซอร์ไพรส์คือ มหาวิทยาลัยจินหลิงมีศาสตราจารย์ลู่ แน่นอนว่าปีนี้จะต่างออกไป! ลืมมหาวิทยาลัยจินหลิงไปเลย มหาวิทยาลัยไหนที่มีศาสตราจารย์ลู่ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก”

ซงสี่หยวนพูดตอบ “นั่นไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด”

จัวรุ่ยไฉถามต่อ “มีเหตุผลอื่นอะไรอีก?”

ซงสี่หยวนพยักหน้าและพูดว่า “ถึงศาสตราจารย์ลู่โจวมาจากมหาวิทยาลัยจินหลิง คิดว่าทางมหาวิทยาลัยจะเก็บเขาไว้ได้เหรอ? เหตุผลที่มหาวิทยาลัยจินหลิงแข็งแกร่งแบบนี้ก็เพราะความปรารถนาดีของลู่โจว”

จัวรุ่ยไฉรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาเลยถามว่า “งั้นคุณคิดว่าเขามาจากภาคไหนล่ะ?”

จัวรุ่ยไฉเป็นมือใหม่ในด้านวิชาการ เขาเลยไม่ทราบเรื่องซุบซิบวงในของชุมชนวิชาการ

ซงสี่หยวนมองดูเขาและพูดว่า “ดูที่การคัดเลือกนักวิชาการสิ”

จัวรุ่ยไฉลังเลอยู่สักพักและส่ายหน้า

“ผมไม่รู้ เขาเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงใช่ไหม?”

สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงได้รับความนิยมภายใต้การนำโดยลู่โจว และทางสถาบันได้มีความสำเร็จที่โดดเด่นและเผยแพร่บทความคุณภาพสูงหลายชิ้น

ไม่เพียงแค่นั้น แต่จากบรรยากาศวิชาการที่ผ่อนคลาย นักวิชาการจีนหลายคนจึงมีเป้าหมายที่จะกลับไปจีนและทำงานที่สถาบันนี้

ถึงอย่างนั้นก็ตามสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงก็เทียบกับมหาวิทยาลัยระดับท็อปไม่ได้

ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เพิ่งก่อตั้งมาไม่นาน

ซงสี่หยวนมองดูเพื่อนร่วมงานที่สับสนและพูดอย่างช้าๆ

“เขาอยู่ในลีกของตัวเอง”

นักวิชาการอ่อนหัดอีกคนที่นั่งอยู่ข้างพวกเขามีสีหน้าตกใจ

เขาอยู่ในลีกของตัวเอง…

เขาน่าจะเป็นคนเดียวที่อยู่ในลีกของตัวเอง

จัวรุ่ยไฉดูเซอร์ไพรส์เช่นกัน

“ถ้าหัวหน้าเราหลุดโลกได้ขนาดนี้นะ”

“คุณกำลังพูดถึงผู้อำนวยการหลิว?” ซงสี่หยวนยิ้มเยือกเย็นและพูดว่า “ช่างมันเถอะ เราอยู่ในสาขาที่ไม่มีชื่อ มันเป็นปาฏิหาริย์ที่หัวหน้าเราอยู่ในโครงการนักวิชาการฉางเจียง!”

ถึงซงสี่หยวนไม่อยากจะยอมรับ หัวหน้าของเราหลิวจัวปิงนั้นเป็นนักวิชาการที่โดดเด่น แต่หลิวจัวปิงก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่สูงขนาดนั้น

โครงการนักวิชาการฉางเจียงอาจจะเป็นเพดานของเขา

ไม่มีอะไรให้เศร้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ โครงการนักวิชาการฉางเจียงเป็นความสำเร็จที่มหัศจรรย์ มีหลายคนพยายามทั้งชีวิตเพื่อเข้าโครงการนี้

ประตูถูกเปิดออกกะทันหันอีกครั้ง

นักวิชาการอ่อนหัดสองคนหยุดพูดคุยทันที

หลิวจัวปิงเดินเข้าห้องแล็บและตรงไปที่ตู้แช่เย็นเครื่องอบ เขามองดูเซลล์เนมาโทดและมองดูลูกศิษย์ของตัวเอง

“สภาพของแซมเปิ้ลเป็นอย่างไรบ้าง?”

ซงสี่หยวนตอบกับตะกุกตะกัก “มัน…มันยังมีชีวิต”

เขาเพิ่งพบว่าประโยคของเขาไร้ประโยชน์แค่ไหน

แต่หัวหน้าของเขาดูจะไม่สนใจแซมเปิ้ลเครื่องอบเลย

“ส่งรายงานสังเกตแซมเปิ้ลให้ผมพรุ่งนี้ จากนั้นก็เก็บกระเป๋าของคุณเลย เราจะไปจินหลิงพรุ่งนี้!”

ไปจินหลิง?!

เกิดอะไรขึ้น?

จัวรุ่ยไฉและซงสี่หยวนรู้สึกมึนงง รวมทั้งนักวิจัยอ่อนหัดคนอื่นในห้องแล็บ

ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงสูดหายใจเข้าลึกและพูดอย่างจริงจัง โดยปกปิดความตื่นเต้นของตัวเอง

“เช้านี้ผมได้รับคำเชิญจากศาสตราจารย์ลู่ให้เข้าร่วมโปรเจกต์การแช่แข็งร่วมที่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูง!”

“โปรเจกต์การแช่แข็งมนุษย์?” ซงสี่หยวนถามอย่างประหม่า “แต่ความเห็นคนส่วนใหญ่กับเรื่องนี้…ไม่ดีใช่ไหม?”

จริยธรรมของวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องร้ายแรง

การทำผิดจริยธรรมอาจจะทำให้เสียตำแหน่งวิชาการ!

แต่ว่าศาสตราจารย์หลิวจัวปิงไม่ลังเลเลย

เขาพูดว่า “การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ต้องอาศัยการเสียสละ ผมยินดีที่จะเสียสละเพื่อประเทศ!”

ซงสี่หยวน “…”

จัวรุ่ยไฉ “…”

นักวิชาการอ่อนหัดคนอื่น “…”

เวรเอ๊ย!

ทำไมนี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคุณคลั่งชาติขนาดนี้ได้อย่างไร?

ศาสตราจารย์หลิวพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ผมได้ตอบรับเข้าร่วมโปรเจกต์แช่แข็งมนุษย์ที่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงแล้ว สถาบันสนับสนุนการตัดสินใจของผม และพวกเขาอยากให้ผมไปจินหลิงให้เร็วที่สุด! ผมอยากอุทิศตัวเองให้การแข่งขันอวกาศ!”

ซงสี่หยวนพยักหน้าและพูดตอบ “โอเค”

เอาตามตรง เขารู้สึกงงเล็กน้อย

ไม่ใช่เพราะการแช่แข็งจำศีลมนุษย์ ท้ายที่สุดแล้ว หัวหน้าเขานั้นสนใจเรื่องการแช่แข็งมาตลอด…

เขาไม่คิดว่าหัวหน้าของฉันจะเข้าร่วมโปรเจกต์นี้ในช่วงเวลาที่อ่อนไหวแบบนี้

สำหรับการอุทิศให้การแข่งขันอวกาศ…

มันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ!

ถึงแม้ว่าการแช่แข็งจะมีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการบินและอวกาศ สำหรับนักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์อย่างพวกเขา การแข่งขันอวกาศค่อนข้างไร้ความหมาย

แต่…

ดูเหมือนว่าชายชราตื่นเต้นกว่าตอนที่เขาชนะการคัดเลือกวิชาการเสียอีก?

เกิดอะไรขึ้น…

นักวิชาการอ่อนหัดสองคน พวกเขามองหน้ากันอย่างตกตะลึง

ซงสี่หยวนพูดขึ้น

“โถ่เว้ย เขายังจะสมัครเป็นนักวิชาการอยู่ใช่ไหม?”

จัวรุ่ยไฉกลืนน้ำลาย

ผ่านไปสักพัก เขาตอบกลับว่า “ศาสตราจารย์ลู่เสียสติไปแล้วจริงๆ…”

…………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+